คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [Part 9]
[Part 9]
“โว้ย...เมื่อคืนอิ่มมาก ขอบใจนะเว้ย!”ยุนโฮตะโกนบอกเจ้าของร้านชาวจีน ฮันกยองยิ้มส่งเดินเข้ามากอดคอหมีแล้วตบบ่าปั๊กๆ
“ไม่เป็นไรว่ะเพื่อน”
“ฉันเจ็บนะเว้ยไอ้ผีจีน!”
“เอ้า!...ยืนบ่นอยู่ได้ไปได้แล้ว อ้อ! คุณแจจุงครับช่วงเช้านี้ไม่มีปีศาจมาเพ่นพ่านหรอกครับถ้าไม่เชื่อผมยอมให้คุณแจจุงคนสวยเพ่นกบาลไอ้หมีมันได้เลยครับ”
ยุนโฮส่งเสียงครางงึมงำในลำคออย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะดึงกึ่งลากแจจุงออกจากร้านอาหารจีนโดยมีฮันกยองยืนส่งอยู่หน้าร้าน
“แล้วเจอกันใหม่นะคร้าบบ~”
“นี่ๆ...”แจจุงร้องเรียกคนตัวสูงที่เดินนำอยู่เบื้องหน้าเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงนิ่งเจ้าตัวเลยถือโอกาสถามต่อซ่ะเลย “ทำไม...ปีศาจพวกนั้นไม่ออกมาตอนเช้าล่ะ?”
“พันธะสัญญาน่ะ”คำตอบที่ไม่กระจ่างทำให้เจ้าของใบหน้าสวยขมวดคิ้วยุ่งกว่าเดิม
“ขยายความน่ะเป็นไหมยุนโฮ”
“แล้วทำไมคุณถึงอยากรู้?”คำย้อนถามที่ทำให้แจจุงชักอยากจะบีบคอหมีให้สิ้นชีพเสียให้รู้แล้วรู้รอด ยุนโฮที่ยังคงเดินนำอยู่หัวเราะน้อยๆก่อนจะเฉลยเสียงทุ้ม “นานมาแล้ว...ผู้มีเลือดสีทองได้รวมตัวกันและสละชีวิตเพื่อทำพันธะสัญญากับปีศาจไว้เพื่อแลกกับการไม่ทำร้ายมนุษย์ในขณะที่พระอาทิตย์ขึ้นและเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นสู่จุดสูงสุดนั่นก็คือเวลาเช้า เที่ยงและบ่าย”
แจจุงเงียบเหมือนเด็กที่กำลังตั้งใจฟังครูสอนหนังสือ ยุนโฮจึงเริ่มเล่าต่อ
“ด้วยความที่เป็นชนเผ่าที่มีเลือดสีทองเมื่อปีศาจได้ดื่มจะทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นและมีอายุที่มากขึ้นแต่ด้วยการเสียสละในครั้งนั้นทำให้ชนเผ่าเลือดสีทองสูญพันธุ์ ไม่สิ...ยังเหลือรอดอยู่นี่นา”
“ใคร?”
คราวนี้ยุนโฮหันมามองคนถามด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก รอยยิ้มบางระบายบนดวงหน้าคม
“นั่นสินะ...ใครกัน?”
“อย่ามาปั่นหัวฉันนะ!”แจจุงเริ่มขึ้นเสียง
“ฉันไม่ได้ปั่นหัวคุณ...คุณต่างหากที่คิดไปเอง”หมียังกวนเสมอในสายตาของแจจุง ยุนโฮขยับยิ้มเอื่อยแม้จะหล่อเหลากระชากใจใครมานักต่อนักแล้วแต่สำหรับแจจุงรอยยิ้มนี่มันไม่ต่างอะไรกับรอยยิ้มที่กวนโทโสสักเท่าไหร่
“เฮอะ!...ฉันไม่พูดกับนายแล้ว!!”แจจุงตัดบทอย่างหงุดหงิด
เพราะรู้ว่ายุนโฮคงแค่อยากจะกวนโมโหเขาก็เท่านั้นและถามให้ตายยังไงยุนโฮก็คงไม่ยอมบอกอยู่ดี อีกอย่างไอ้เรื่องคนมีเลือดสีทองนั่นมันเป็นใครเขาเองก็ไม่ได้อยากจะรู้นักหรอก
เว้นแต่ว่า...ไอ้คนเลือดสีทองนั่นจะเป็นคนที่เขารู้จักมันก็เป็นอีกเรื่อง
______________________
จุนซูกระพริบตาถี่หลังจากตื่นนอน ร่างเล็กหยัดกายขึ้นนั่งบนเตียงนุ่มที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะนอน ภาพเมื่อคืนที่เกิดขึ้นอย่างไม่น่าให้อภัยย้อนกลับมาในโสตประสาทอีกครั้ง
ฝันเหรอ?
คนตัวเล็กยกมือขึ้นมาจับริมฝีปากตัวเองอย่างคิดไม่ตก ความรู้สึกอบอุ่นที่ตรงนี้ยังคงตราตรึงราวกับมันเกิดขึ้นจริง
หรือว่ามันจะเป็นความจริง?
ความจริงที่ว่ายูชอนจูบเขาและนั่งดูดวงจันทร์ด้วยกัน ยูชอนยิ้มให้เขา ยูชอนที่เปลี่ยนไปเหมือนอีกคน
และความจริงที่ว่า...ยูชอนเรียกก้อนเนื้อด้านซ้ายให้มีตัวตนอีกครั้ง เรียกให้มันเต้นไม่เป็นกระส่ำอยู่ภายใน
จุนซูกวาดตามองรอบห้องที่ยังคงสภาพความอ้างว้างให้เห็นเหมือนทุกวัน ห้องสีเทาหม่นที่ไม่มีหน้าต่าง มีฟอร์นิเจอร์มากมายแต่กลับดูมืดมน
บางที...การล้างหน้าในตอนเช้ามันอาจจะทำให้เขาตื่น
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จในตอนเช้าจุนซูก็เปิดประตูห้องออกไป แล้วก็ต้องตกใจเมื่อดันเปิดไปชนโครมเข้าให้กับเจ้าของร่างสูงที่หอบหนังสือกองพะเนินอยู่หน้าห้อง
โครม!
หนังสือเล่มหนาเท่าฝาบ้านหล่นโครมทับชางมินและกระจัดกระจายไปทั่วทันที ร่างสูงกระวีวาดเก็บมันมาตั้งไว้เป็นกองโดยมีจุนซูช่วยเก็บและพร่ำคำขอโทษอยู่ตลอดเวลา
“ไม่เป็นไรฮะ...แต่ว่าวันนี้จุนซูตื่นสายนะ”ชางมินว่าขณะที่เก็บหนังสือ “คงฝันดีจนไม่อยากจะตื่นล่ะสิท่า”
คำหยอกล้อชองชางมินทำให้คนตัวเล็กอดหน้าแดงไม่ได้ จุนซูเสหน้าไปทางอื่นแล้วก็เจอกับคนในห้วงฝันพอดี
ห้วงฝันที่ย้ำชัดว่าไม่ใช่ความจริง...
“ยูชอน~”ร่างเพรียวของคนแปลกหน้าที่จุนซูไม่รู้จักยกมือเกี่ยวกระหวัดคล้องคอยูชอนให้โน้มหน้าลงมามองตน “วันนี้ที่เรียกฉันมามีเรื่องอะไรอีกหืมม์...”ปลายประโยคครางเสียงแผ่วดูเย้ายวน ยูชอนค่อยเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าร่างเพรียวออกอย่างแผ่วเบา
“หน้าที่นายก็รู้ดีนี่ลีทึก”
ทุกอย่างย้ำชัดและลงล็อคอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องมีคำบอกกล่าวใดๆ จุนซูยืนโหวงความรู้สึกทั้งหมดเหมือนกำลังทิ้งดิ่งจมลงเหวที่มืดมิดไม่มีที่สิ้นสุด
ฝัน....
มันคงเป็นความฝันจริงๆ...
“นายมันหื่นเป็นอย่างเดียวเลยนะยูชอน”ลีทึกว่าเสียงกระเซ้าก่อนต่อ “แต่ว่านะครั้งหน้าถ้านายเรียกฉันอาจจะมาไม่ได้เพราะฉันกำลังถูกใจหมีตัวนึงอยู่”
“หมี...?”ยูชอนขยับยิ้มเมื่อนึกถึงหมีที่คนสวยพูดถึงก่อนจะเริ่มอ้อน “เขาดีกว่าผมเหรอ?”
“ฉันอาจจะพูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่ารักแต่ก็รู้สึกดีเมื่ออยู่กับคังอิน”ลีทึกบอกพร้อมรอยยิ้มและนิยามของคนกำลังมีความรักและกำลังจะจากเขาไป
ดงแฮก็เคยพูดกับเขาแบบนี้แต่ไม่เหมือนตรงที่ว่าดงแฮพ่วงด้วยคำด่าเหมือนพายุเข้าตบท้าย
“ว้า~แบบนี้ฉันก็คิดถึงนายแย่เลย”
“คิดถึงหรือเสียดายกันแน่หึ?”ลีทึกย้อนอย่างรู้ทันก่อนจะพึมพำ “นายรู้ไหม...ที่นายทำแบบนี้อาจจะทำให้ใครบางคนคิดจริงจังและหลงรักนาย”
ภาพตรงหน้าที่ทำให้จุนซูรู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ...
เป็นอะไรไป?
นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆจุนซู...อย่าบอกนะว่านายติดใจรสจูบของหมอนั่นไปเสียแล้ว!
“แล้วนั่นใครล่ะ?”ลีทึกพยักเพยิดมาทางจุนซู “รึว่าวันนี้นายอยากเล่น 3P “คนสวยว่าทีเล่นทีจริง ยูชอนหัวเราะกับตลกร้ายของลีทึก
“หมอนั่นก็เป็นของเล่น...แต่เป็นของเล่นที่น่าหมันไส้มันไม่เชื่องแม้แต่กับเจ้านายของมัน”น้ำเสียงเย้ยหยันที่ทำให้จุนซูรู้สึกเกลียดยูชอนไปอีกร้อยเท่า
เรื่องเมื่อคืนเป็นความฝันจริงๆ คนเมื่อคืนไม่ใช่ยูชอนแต่ไอ้หมาบ้าตรงหน้านี่ต่างหากที่คือยูชอน!
แล้วที่เขารู้สึกแปลกๆนั่นอาจเป็นเพราะความหวั่นไหวชั่ววูบที่มีให้คนที่หน้าเหมือนยูชอนในมโนความคิดที่ไม่มีอยู่จริงแต่สำหรับคนตรงหน้ามันคือคำว่าเกลียดและแค้นเท่านั้น!
“ฉันไม่ใช่ของเล่น”น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวที่กำลังเดือด ชางมินมองภาพละครตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจ
“พี่ยูชอนครับ...เลิกพูดจาเสียดสีกับพี่จุนซูสักทีเหอะแค่นี้เขาก็เกลียดพี่จะแย่อยู่แล้ว”
“นายไม่มีสิทธิมาสั่งสอนฉันชางมิน!”ยูชอนหันมาตวาดใส่ร่างสูง ชางมินส่ายหน้า
“พี่ครับ...เมื่อคืนพี่ยังดีกับจุนซูได้ขนาดนั้นแท้ๆเลยนะ”คำกล่าวที่ทำให้จุนซูหันไปมองชางมินอย่างไม่เชื่อหู ส่วนยูชอนก็จ้องชางมินราวกับเจ้าตัวนั้นได้พูดคำผรุสวาทร้ายกาจออกไป
“ชางมิน!”ยูชอนตวาดได้เพียงแค่ชื่อของคนตรงหน้า ความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมดจนแยกแยะไม่ออกว่ามันคือความรู้สึกอะไร
จุนซูจ้องยูชอนด้วยแววตาที่หลากความหมายที่เจ้าตัวส่งออกมาเป็นคำถามว่า ‘ทำไม’
“ปาร์ค ยูชอนคนนั้นไม่มีตัวตนอยู่จริงๆ ตรงหน้าฉันต่างหากที่เป็นยูชอนตัวจริง”เสียงจุนซูเรียบแต่มันก็ทำให้คนฟังรู้สึกราวกับโดนมีดกรีด ยูชอนกำมือแน่นนัยน์ตาเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว
“เด็ก...”คำแรกที่เอ่ยออกมาโดยที่เจ้าตัวพยายามข่มให้เรียบ “เด็กน้อยที่ร้องห่มร้องไห้คิดถึงพี่ชายฉันก็แค่รำคาญเสียงนั่นก็เลยเข้าไปหาหวังเพียงแค่จะอุดปากนายเท่านั้นอย่าคิดว่าฉันพิศวาสนายเข้าล่ะจุนซู....”น้ำเสียงที่เรียบจนน่ากลัวก่อนเจ้าตัวจะคว้าตัวลีทึกที่ยืนอยู่ให้เดินตามออกไปโดยมีจุนซูมองตาม
มองด้วยนัยน์ตาที่ไร้ความรู้สึกใดๆ
ไม่บ่งบอกความรู้สึกว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกเช่นไรดูเหมือนตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ไร้หัวใจที่กำลังเฝ้ามองเจ้าของที่เล่นตุ๊กตาแล้วทิ้งเดินจนไกลออกไป
“จุนซูจะไปปีกตะวันออกกับผมหรือเปล่าฮะ?”และก็เป็นชางมินเสมอที่เข้ามาทักยามที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังเหนื่อย
และไม่ใช่เหนื่อยธรรมดาแต่เป็นเหนื่อยมากเสียด้วยสิ
“อื้อ~”ร่างบางตอบรับพร้อมการพยักหน้าน้อยๆก่อนจะเอ่ยปากถามต่อ “ยูชอนเขาร้ายกับฉันคนเดียวรึเปล่า?”ชางมินเลิกคิ้วกับคำถามก่อนจะตอบพร้อมกับที่เจ้าตัวสูงเดินหอบหนังสือนำหน้าไป
“ก็ไม่เชิงหรอกฮะ แต่มีจุนซูคนเดียวที่ยูชอนร้ายใส่แล้วยังปล่อยให้อยู่ในบ้านนี้”เด็กอัจฉริยะมุ่นหัวคิ้วก่อนต่อ “ซึ่งผมคิดว่ามันแปลกๆ”คนคิดไม่ตกยังเดินงงต่อไปก่อนเจ้าของร่างสูงจะหยุดกึกเล่นเอาคนเดินตามหยุดไม่ทัน
ร่างเล็กชนโครมเข้าให้เป็นหนที่สองของวัน หนังสือกองพะเนินร่วงโครมทับเจ้าของจนจมหายไปในกองหนังสือ ก่อนชางมินจะโผล่ศีรษะขึ้นมาฉีกยิ้มกวนโทโส
“อย่างนี้มันเหมือนละครหลังข่าวเลยนะผมว่า...ประมาณต้นร้ายปลายดีแต่แบบพี่ยูชอนกับจุนซูน่าจะเข้าข่ายสวรรค์เบี่ยงทะเลาะกันจนแทบตายไปข้างสุดท้ายนางเอกก็ป่อง”ชางมินว่าพลางเก็บหนังสือขึ้นมาถือไว้ตามเดิน และจากประโยคนี้เองที่ทำให้จุนซูได้รู้ว่าพี่กับน้องมันก็เลวไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรอก
“นายว่ายูชอนแย่มากไหม?”คนตัวเล็กที่เดินตามเอ่ยถามลอยๆ
“สุดยอดแห่งความชั่วเลยล่ะ”และคนถนัดขายพี่ก็ตอบทันควัน
“ไม่...ฉันหมายถึงปาก”จุนซูตีตรงประเด็นและถูกจุดแต่มีหรือคนอย่างชางมินจะสะอึก เจ้าตัวดีรู้ตัวตัวทันทีว่าคนน่ารักกำลังจะพูดอะไรต่อเจ้าตัวจึงชิงพูดตัดหน้าอย่างน่าหมันไส้
“โอ๊ย! ถ้าเรื่องนั้นพี่ยูชอนเลวได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของผมหรอก”
“ใช่สิ..ปากนายมันเฮงซวย”
“ใช่...ผมมันปากไม่ดี”เจ้าตัวดียังไหลต่อไปอย่างน่าไม่อาย “แต่ว่านะ...ถ้าเรื่องทำคนน่ารักร้องไห้ยังไงผมก็ไม่เก่งเท่าพี่ยูชอนหรอก”
“นายนี่มัน...”จุนซูเว้นคำพูดไว้แค่นั้นอย่างหงุดหงิด ร่างสูงของชางมินวางกองหนังสือไว้ที่โต๊ะก่อนจะหันมาบอกจุนซูเสียงใส
“วันนี้ผมมีเรื่องให้ช่วย เมื่อเช้าคนเพิ่งมาส่งหนังสือผมก็เลยต้องขนมันไปไว้ที่ชั้น...จุนซูช่วยหน่อยนะ”ชางมินว่าพลางชี้ไปทางกองหนังสือกับชั้นวางหนังสือแล้วก็แอบเหงื่อตกอย่างช่วยไม่ได้
อะไรมันจะเยอะได้ปานนั้น
ชางมินเริ่มออกปฏิบัติการขนหนังสือโดยมีจุนซูคอยช่วย คนสองคนในห้องหนังสือของชางมินสาละวนในการขนของอยู่นานจนลืมเวลา
และลืมคนบางคน...
“จุนซู...ตัวเล็กแต่อึดจังเนาะ”ชางมินว่าขึ้น “ผมยังเหนื่อยเลย ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”
“เหนื่อยกว่านี้ฉันยังเคยเจอมาแล้วเลย”จุนซูพูดประโยคแฝงความนัย ชางมินหัวเราะแห้งๆรับก่อนจะยื่นหนังสือกองโตให้จุนซูไป
ร่างเล็กเดินไปเดินมาอยู่หลายครั้งและหลายชั่วโมงและนั่นมันก็เป็นสาเหตุให้ร่างกายเกิดความล้าได้เหมือนกัน เหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดพรายขึ้นแต่จุนซูก็ยังไม่เลิก
จุนซูเดินเข้าไปแบกหนังสือมากองสูงกว่าระดับศีรษะและเดินไปยังชั้นหนังสือเพิ่มส่งต่อให้ชางมินที่กำลังใช้ความสูงให้เป็นประโยชน์ในการจัดหนังสือเข้าชั้นบน ร่างเล็กเดินเงอะงะโคลงเคลงไปมาเพราะความฝืนที่เกินตัวก่อนหนังสือจะร่วงโครมลงมาชนเข้ากับชั้นหนังสือ
ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้หนังสือที่ยังไม่เรียบร้อยบนชั้นหนังสือร่วงตกลงมา จุนซูยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกเมื่อรู้ตัวว่ากองหนังสือเท่าภูเขากำลังจะหล่นทับและนั่นก็เป็นเหตุให้คนสติดีกว่าถลาเข้ามาช่วย
ชางมินกอดตัวจุนซูเข้ามาในอ้อมอกแล้วใช้ร่างกายของตัวเองเป็นที่กำบังให้กับร่างเล็ก จุนซูได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ไม่คาดคิดว่าชางมินจะทำอะไรแบบนี้
ยิ่ง...กับลมหายใจอุ่นๆ
และอ้อมกอดที่เข้ามาปกป้อง...
คนน่ารักอดหน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่ได้ ชางมินก้มลงมามองคนตัวเล็กในอ้อมแขนก่อนจะถามเสียงเครียดที่ฉายแววเจือความห่วงใยมาในน้ำเสียง
“เป็นอะไรไหมฮะ?”
“ม...ไม่”ร่างเล็กปฎิเสธตะกุกตะกัก ใบหน้าหวานที่แดงฉ่าก้มงุดๆทำให้ชางมินนึกออกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในสภาพไหน ร่างสูงเริ่มออกอาการเงอะงะทำอะไรไม่ถูกแทนเสียดื้อๆ “เอ่อ...ขอโทษที่ต้องทำให้เจ็บตัว”
“อื้อ...”ชางมินครางตอบ คลำศีรษะตัวเองป้อยๆลบความกระดากอายและความรู้สึกผิดที่ดันไปกอดคนของคนอื่นเขา
ผิด...ที่เล่นกับของของคนอันตราย
“ทีหลังก็ระวังตัวหน่อยนะ...ผมเป็นฮีโร่ช่วยตลอดไม่ได้หรอก”
หึ...
ควรรู้สึกยังไงกับภาพตรงหน้าดีล่ะ?
โกรธ?
แค้น?
ผิดหวัง?
เสียใจ?
เลือกมาสักอย่างว่าตัวเองนั้นรู้สึกแบบไหน จุนซูกับชางมิน คนของเขากับน้องชายต่างสายเลือด สุนัขไม่เชื่องเลี้ยงไปมันก็เปลืองข้าวสุกจริงๆนั่นแหล่ะ
อี๋อ๋อกันในห้องสมุด...น่าไม่อายกันจริงๆ
เอาเถอะ...ปล่อยไปสักครั้ง
คงต้องยอมปิดหูปิดตาโยนของเล่นให้สุนัขมันเล่นบ้าง...
ก็แหม...
ดันมีความสุขกันทั้งของเล่นแล้วก็สุนัขเลยนี่!!!
[....M@Y Talk...]
อ้าววว~ ปาร์คเลวอีกแล้วแฮะ ก็บอกแล้วไงว่าเอาแน่เอานอนไม่ได้น่ะ เอิ๊กๆ ^^
ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะเออ...
เอาละ...เค้าจะไปภูเก็ตพรุ่งนี้อ่ะ...ถึงวันที่ 15 คงไม่ได้อัพ T^T
และถ้าพรุ่งนี้ไปฟังผลสอบแล้วไม่ซ่อมอะไรแล้วกลับมาปั่นทันก็อาจจะลงให้สัก 50 เปอร์นะ T^T
รักทุกคน รักทุกคอมเมทน์ค่ะ ^^
>> เม้นขอให้ดงบังกด<<
>> ถามอีกรอบ...ถามอีกที คิดไงกะปาร์คหลังจากอ่านตอนนี้ ฮ่าๆๆๆๆ
---------------------------------------------------
ความคิดเห็น