คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [Part 5]
[Part 5]
“นายไม่ใช่คนอีกแล้วเข้าใจใช่ไหมคิม จุนซู...”ร่างสูงบอกเสียงหน่ายๆกับอีกคนที่นั่งอยู่ที่มุมห้อง “นายไม่เคยได้ยินรึไงว่าผีกลัวแสงแดด”
“ฉันไม่เคยเชื่อเรื่องพรรค์นั้น”คำย้อนเสียงเรียบที่ทำให้ยูชอนต้องหัวเราะเบาๆราวกับมันเป็นเรื่องน่าขันเสียเต็มประดา
“นายไม่เชื่อในสิ่งที่นายเป็น?”คราวนี้จุนซูหันกลับมาจ้องอย่างเอาเรื่องในขณะที่ร่างสูงก็พูดต่อไปอย่างไม่สนใจ “ร่างกายนายจะถูกเผาให้เป็นจุลถ้านายโดนแสงแดด”
“ก็ดี...จะได้ไม่ต้องอยู่กับพวกครึ่งคนครึ่งผีอย่างนาย”
“วาจาจาบจ้วง...แต่ถ้านั่นเป็นวิธีฆ่าตัวตายนั่นก็เป็นวิธีที่โง่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา”ยูชอนขยับยิ้มก่อนต่อ “จะตายทั้งทีทำไมไม่เลือกวิธีที่สบายหน่อยล่ะ นายแค่โดนแสงเมื่อกี้นิดเดียวก็ปวดแสบปวดร้อนเหมือนโดนย่างแล้วนี่”
“ไม่สน!”
“หึ!...งั้นฉันจะบอกอะไรดีๆเสริมความรู้ประดับสมองอันน้อยนิดของนายแล้วกัน”ยูชอนบอกเสียงเรียบในขณะที่อีกคนกำลังทำหน้าเหมือนอยากฆ่าใครสักคนและใครที่ว่านั่นคงหนีไม่พ้นยูชอนอีกนั่นแหละ “ร่างกายนายจะสลายไปได้เมื่อนายโดนพวกนักล่ากำจัด คนพวกนั้นมีหนทางที่ทำให้นายจากไปอย่างสบายที่สุดแต่ก็นะ...ฉันไม่ปล่อยให้คนพวกนั้นมายุ่มย่ามกับนายหรอกงั้นข้อนี้นายก็ตัดไปได้เลย”
จุนซูเมินหน้าหนีคนตัวโตไปอย่างไม่สนใจแต่หูก็ยังคงรับฟัง
“ร่างกายของนายสร้างขึ้นมาโดยพลังของฉันและพลังมันก็มีจำกัด ไม่มีสิ่งใดที่เป็นนิรันดร์นายก็รู้ดังนั้นร่างกายของนายจึงมีอายุขัยนั่นก็คือ 1 ปีแต่ไม่แน่ถ้าฉันถูกใจนายฉันก็อาจจะต่อชีวิตให้นายก็ได้ แล้วก็หนทางสุดท้าย...”รอยยิ้มกรุ้มกริ่มแย้มลงใบหน้าคมอีกครั้งอย่างคนมากเล่ห์ “ในเมื่อฉันสร้างนายขึ้นมาคนที่จะกำจัดนายได้ทุกเวลาก็คือฉันเท่านั้น”
“เป็นเกียรติมาก...”จุนซูประชดเสียงสูง ยูชอนหัวเราะเบาๆราวกับได้รับคำชมก่อนร่างสูงจะบอกเสียงนุ่ม
“ตอนกลางคืนนายออกไปข้างนอกได้แต่ถ้านายอยากออกนายบอกฉัน เดี๋ยวฉันจะพาไปเพราะข้างนอกอันตรายมันเยอะแล้วยิ่งรอบอาณาเขตปราสาทนี้ด้วยแล้วล่ะก็...ร้ายๆทั้งนั้น”ปลายประโยคเจ้าตัวกดเสียงต่ำจนน่ากลัวปล่อยให้คนมีจินตนาการคิดจนหน้าซีดกว่าเดิมที่เป็นอยู่
“พี่ยูชอนฮะ!”ชางมินวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาพลางหอบแฮ่ก “พ...พี่ฮีชอลมาฮะ”
“ดีจ้า~! เซอร์ไพส์ส์!!”หนุ่มหน้าสวยที่ชื่อฮีชอลกระโดดขึ้นมาจากทางด้านหลังชางมินทำเอายูชอนแทบหงายหลัง
“เล่นอะไรเนี่ย...”ยูชอนทำหน้าเบ้ ฮีชอลหัวเราะคิกก่อนจะชี้ไปที่มุมห้อง
“นั่นเหรอ...ของเล่นชิ้นใหม่?...เป็นไงล่ะ สนุกป่ะ?”
“น่าเบื่อ”
“น่าเบื่อเหรอ...งั้นทำไมนายยิ้มล่ะ?”ฮีชอลว่าพลางหยิกแก้มทั้งสองข้างของยูชอนไปมาอย่างหมันไส้ “อ้ะๆ...นายจะไปไหนน่ะ แนะนำตัวก่อนสิ”ฮีชอลเข้าไปคว้าตัวจุนซูที่กำลังเดินหลบออกจากห้อง จุนซูหน้าเหวอหันมามองฮีชอลที่กำลังดึงแขนตัวเองอยู่แถมยังทำตาดุใส่
พลันความคิดมันก็ไพล่ไปนึกถึงพี่ชาย
“ฉ...ฉันชื่อคิม จุนซู”บอกเสียงตะกุกตะกัก ฮีชอลขยับยิ้มพอใจ
เหมือน...
ท่าทางแบบนี้เหมือนพี่แจจุงแล้วก็สวยเหมือนกันด้วย
“ฉันชื่อฮีชอลยินดีที่ได้รู้จัก”คนสวยยื่นมือไปให้จุนซูจับเป็นเชิงทักทาย จุนซูขยับยิ้มแม้จะดูเศร้าแต่ก็เป็นรอยยิ้มแรกที่เจ้าตัวแย้มออกมา
แล้วตอนนี้พี่แจจุงจะเป็นยังไงบ้างนะ?
“ฮะ...”จุนซูทักทายฮีชอลด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ยูชอนกับชางมินต้องแปลกใจ
“ยิ้มได้ด้วยเหรอ?”และยังคงเป็นยูชอนที่ทำลายรอยยิ้มของจุนซูเหมือนเดิม ร่างเล็กหันมาทำตาขวางให้แต่ยูชอนไม่สนใจ “มาที่นี่ทำไมล่ะฮีชอล”
“ก็หมอนั่นน่ะสิ! เฮงซวยชะมัด!!”
“หงุดหงิดซีวอนเลยมาบ้านฉัน?”ยูชอนถามฮีชอลยักไหล่ “ก็ดี...ฉันกำลังเบื่อๆ”
“เอ่อ...จุนซู มาทางนี้กับผมดีกว่าฮะ”ชางมินที่รู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นเช่นไรก็เป็นฝ่ายดันจุนซูออกไป จุนซูถูกชางมินลากไปอย่างงงๆแต่เจ้าตัวเล็กก็ยังอยากรู้
นัยน์ตาคู่กลมเบือนไปมองคนสองคนแล้วก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ยูชอนคนร้ายกาจนั่นกำลังเล่นบทรักกับฮีชอลอย่างไม่อายใคร
จุนซูใบหน้าขึ้นสีก่ำทันทีพร้อมทั้งก้าวเร็วๆตามแรงลากของชางมินส่วนเด็กโย่งนั่นก็ถอนหายใจหน่ายๆ
“เรื่องปกติฮะ...พี่ยูชอนน่ะเพลย์บอยชั้นเทพเลยล่ะ ไม่เคยรักใครจริงๆหรอกทุกคนก็แค่คู่นอน นี่ไม่ได้มีแค่พี่ฮีชอลคนเดียวนะฮะ”ชางมินเริ่มขายยูชอนหน้าตาเฉย “แต่ว่าไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า ตั้งแต่จุนซูมาดูเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องคู่นอนสักเท่าไหร่เลย ทุกทีวันนึงต้องเรียกมาสามเวลา เช้า บ่าย กลางดึก”
“แล้วนายล่ะ?”คำถามเรียบที่เล่นเอาคนขายพี่ทำหน้าเหวอ
“นี่คิดว่าผมเป็นคนยังไงเนี่ย”ชางมินหันมาถาม จุนซูส่ายหน้า
“เปล่า...ฉันหมายถึงนายเสร็จหมอนั่นไปรึยัง?”คราวนี้ชางมินอยากร้องตะโกนลั่น อยากจับยูชอนมาต่อยสักล้านครั้งโทษฐานเลวได้จนน้องโดนดี
“ผมไม่มีวันเสียความบริสุทธิ์ให้คนปากห้อยอย่างพี่ยูชอนหรอก”ชางมินบอกพลางทำหน้าสยองขวัญ จุนซูพยักหน้ารับ
“งั้นนายก็ฉลาด”คำชมที่ทำให้ชางมินต้องทำหน้าปุเลี่ยนรับ ร่างสูงเกาหัวแกรกๆสมองระดับอัจฉริยะประมวลผลอย่างงงๆกับคำกล่าวเมื่อกี้
ชมหรือด่า?
“เอ่อ...เอาเป็นว่ามาทางนี้ดีกว่าฮะ”ชางมินตัดบท “จุนซูมาที่นี่ก็อยู่แต่ปีกฝั่งตะวันตกที่เป็นของพี่ยูชอนกับตรงกลางของปราสาทแต่ไม่เคยไปทางปราสาทปีกตะวันออกเลยนี่ฮะ”
“ใหญ่ขนาดนั้น?”
“ก็งั้นมั้ง...เดี๋ยวผมจะพาไปปีกตะวันออกที่ของผมน่ะ”ว่าแล้วเจ้าตัวดีก็ฉีกยิ้ม จุนซูพยักหน้าเนิบๆ
ชางมินยังน่าคบกว่าไอ้บ้ากามนั่นตั้งเยอะ
“ที่นั่นการตกแต่งดีกว่าที่นี่ฮะ...เพราะฝั่งตะวันตกเป็นของพี่ยูชอนการตกแต่งเลยดูไร้รสนิยมไปหน่อยน่ะฮะ”
ชางมินยังคงบรรยายอะไรไม่รู้ไปเรื่อยๆซึ่งจุนซูก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างและส่วนมากจะไม่ฟัง คนตัวเล็กเดินตามคนตัวสูงเหมือนเดินมาเพราะมีหน้าที่
มีหน้าที่เลยจำต้องเดินมา ไม่มีความรู้สึกเขาถามก็ตอบก็แค่นั้น...
“ถึงแล้วฮะ”ชางมินว่าพลางผายมือไปทานด้านหน้าอย่างภูมิใจ จุนซูเดินตามคนตัวสูงไปก่อนความรู้สึกประหลาดจะแล่นริ้ว นัยน์ตาคู่กลมโตวาวระริกเหมือนเด็กๆ
“สวยจัง”พึมพำเสียงหวานพลางเดินเข้าไป “เหมือนเทพนิยาย”
“ดูดีมีคลาสใช่ไหมฮะ”ชางมินยิ้มภูมิใจจุนซูพยักหน้าส่งก่อนเจ้าตัวจะเริ่มวิ่งเล่น วิ่งเข้าห้องนู้นออกห้องนี้เล่นไปทั่วซ่ะชางมินแอบเหวอ
นี่ใช่จุนซูจริงเหรอ?
ไม่ใช่ว่าผมเอาลิงมาปล่อยนะ
“ฉันมาที่นี่ทุกวันเลยได้ไหมชางมิน?!”จุนซูโผล่หน้าเข้ามาถาม ใจจริงอยากตอบว่าไม่ได้เดี๋ยวพี่ยูชอนได้จับผมไปฆ่าแต่เพราะท่าทางของจุนซูทำให้ผมพยักหน้าให้อย่างไม่รู้ตัว “ขอบใจนะ นายนี่ดีกว่ายูชอนตั้งเยอะ”
“ยิ้มเป็นไหม?”คำถามที่ดูแย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยถามชาวบ้านมา จุนซูขมวดคิ้วกับคำถามชางมินจึงต่อ “เจอของถูกใจแบบนี้แล้วผมยังไม่เห็นจุนซูยิ้ม”
คราวนี้คนตัวเล็กอมยิ้มน้อยๆส่งให้ก่อนเจ้าตัวจะวิ่งหายไปทางห้องด้านซ้ายมือ
“เฮ้อ...ทั้งๆที่ยิ้มแล้วน่ารักขนาดนั้นแท้ๆนะ”ชางมินพึมพำก่อนจะขยับยิ้มบาง “พี่ยูชอนรังแกจุนซูไปได้ยังไง”
__________________________
“ตื่นได้แล้ว...นอนเป็นหมีอืดไปได้นี่มันสายแล้วนะ!”แจจุงว่าพลางเอาเท้าเขี่ยตัวหมี “ดูทำเข้าสิ...ขี้เซาจริงนะนาย!”
“อื้อ...”ยุนโฮครางเบาๆก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง
“เอาสิ...งั้นเช้านี้นายไม่ต้องกินข้าวแล้วกัน”คราวนี้ร่างสูงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มกระพริบตาปริบๆมองแจจุงแล้วเบ้หน้า “โห...ดูตานายเป็นหมีแพนด้าเลยนะเมื่อคืนไม่ได้นอนรึไง”
ก็ไม่ได้นอนน่ะสิ!
ยุนโฮได้แต่ร้องค้านอยู่ในใจอย่างหงุดหงิดก็เมื่อคืนใครก็ไม่รู้ร้องไห้จนเขานอนไม่หลับ พอเจ้าตัวนอนหลับแล้วเขาก็ดันนอนไม่หลับ มาหลับสบายก็เอาตอนเช้าเนี่ย
“อย่าใจร้ายนักสิ”ยุนโฮบ่นอุบขณะที่บิดขี้เกียจลุกขึ้น ปากหมีแบะออกอย่างน่าหมันไส้ ยุนโฮหาวหวอดก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำไป “นายไปกินข้าวก่อนก็ได้เดี๋ยวฉันตามลงไป...”
“ไม่ล่ะ...รออยู่ตรงนี้แล้วกัน”คนสวยว่าพลางทิ้งตัวแผ่หลาบนเตียงนุ่ม ยุนโฮพยักหน้ารับก่อนจะหายไปในห้องน้ำ
แจจุงกวาดตามองไปรอบห้องแล้วขยับยิ้มบาง
หมอนั่น...ก็รู้จักจัดห้องเป็นเหมือนกันนี่
[ฮุย เล ฮุย ฮุยๆๆ...]
เสียงโทรศัพท์แปลกๆดังขึ้น แจจุงมองเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมที่สั่นเป็นเจ้าเข้าแล้วขมวดคิ้ว ความอยากรู้แล่นเข้ามาทำให้เจ้าของใบหน้าสวยหยิบมือถือของยุนโฮขึ้นมาดู
...เพื่อนเฮงซวย...
ชื่อหน้าจอทำให้แจจุงต้องขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก ก่อนร่างบางจะตัดความรำคาญในเสียงเรียกเข้าไม่น่าฟังนั่นด้วยการกดรับโทรศัพท์
อยากรู้เหมือนกันว่าเพื่อนเฮงซวยของยุนโฮจะเป็นยังไง
“ฮัลโหล...”
“เอ่อ...ใครครับ?”ปลายสายติดจะงงๆเมื่อคนรับกลับไม่ใช่เพื่อนตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น แจจุงไม่รู้จะตอบกลับไปยังไงเพราะรับอย่างไม่ทันคิด
บอกไปว่าอะไรล่ะ?
คนที่ยุนโฮช่วยชีวิตมางั้นเหรอ?
แขกของยุนโฮเหรอ?
เพื่อนยุนโฮ?...หรืออะไร
“คุณแจจุงสินะครับ”ปลายสายที่ย้อนถามทำให้คนสวยขมวดคิ้วงงๆ “เอ่อ...ยุนโฮทำอะไรให้คุณลำบากบ้างรึเปล่าครับ?”
นี่เหรอเฮงซวยในความคิดของไอ้หมีในห้องน้ำนั่น...
“ก็...มีบ้างแหล่ะ”คนสวยตอบ ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนต่อ
“แล้วตอนนี้ยุนโฮอยู่ไหนเหรอครับ?”
“ห้องน้ำ...ไว้ฉันบอกเขาให้แล้วกันว่านายโทรมา”
“ไม่ต้องหรอกครับ...บอกเขาแค่ว่าวันนี้ผมจะไปหาก็พอ”พูดจบสายก็ถูกตัดทิ้งทันที แจจุงมองโทรศัพท์อย่างงงๆ
เพื่อนเฮงซวยของหมอนั่นจะมางั้นเหรอ?
แอ๊ดดด
ประตูห้องน้ำเปิดออกอย่างช้าๆพร้อมกับร่างของยุนโฮที่ก้าวออกมาในสภาพที่มีผ้าขนหนูปิดแค่ช่วงล่างตามความเคยชินของคนที่อยู่บ้านคนเดียว
“อ...ไอ้บ้าออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!”แจจุงร้องลั่นพลางคว้าหมอนใบโตเขวี้ยงใส่ร่างสูงที่ยืนเหวอ
“เฮ้ยย!”ยุนโฮร้องเสียงหลงเมื่อโดนหมอนทำร้าย “อะไรของคุณ!...คุณกับผมก็ผู้ชายร้องเป็นผู้หญิงไปได้!”
“น...นั่นมันก็....ยังไงนายก็ควรใส่เสื้อผ้าก่อนออกจากห้องน้ำ!”แจจุงเถียง ยุนโฮจิ๊ปากก่อนออกจากห้องไปเพื่อเดินไปห้องของตัวเอง
สั่งเหมือนแม่....
อะไรของเขากันนะ...ทำอย่างกับไม่เคยเห็น
ยุนโฮในสภาพที่ไม่เรียบร้อยเดินออกมาจากห้องนอนที่ไว้รับแขกอย่างหงุดหงิดก่อนจะยิ่งหงุดหงิดเข้าไปอีกเมื่อรับรู้ได้ว่ามีแขก
“แกมาทำไมวะไอ้คิบอม...”
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาคุยกันดีกว่านะ...”คิบอมตอกกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย ใบหน้าเดิมที่ยุนโฮอดหมันไส้มันทุกครั้งที่เห็นไม่ได้
ดงแฮชอบมันลงไปได้ยังไงกัน?
คำถามที่เฝ้าหาคำตอบว่าเพื่อนคนนี้ของเขานั้นมีอะไรดีแต่ก็หาคำตอบนั่นไม่ได้เพราะความคิดเข้าข้างตัวเองมันย้ำชัดว่าคิบอมไม่มีอะไรดี
ก๊อก...ก๊อก
“คนอย่างนายมีมารยาทเคาะประตูก่อนเข้าด้วยรึไง...”แจจุงบ่นออกไปอย่างรำคาญจังหวะเดียวกันกับที่คนเคาะประตูจะเดินเข้ามา
บุคคลที่แจจุงไม่รู้จักเข้ามาด้วยใบหน้าเฉยสนิทก่อนจะขยับยิ้มน้อยๆให้อย่างสุภาพ แจจุงยิ้มเก้อตอบบอกไม่ถูกกับวาจาเมื่อครู่ที่พูดออกไป
ใครวะ?
หรือจะเป็นเพื่อนเฮงซวยของยุนโฮ...
“สวัสดีครับคุณแจจุง...”คิบอมกล่าวพลางยื่นมือเข้ามาทักทายแจจุงจับตอบกลับพยักหน้ารับเบาๆ “ผมชื่อคิม คิ บอมครับ”
คิบอม?
เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแฮะ...
เอาเถอะ...มันคงไม่สำคัญอะไรหรอก
“เอ่อ....ผมขอถามคุณสักคำนะครับ”คำพูดที่แผ่วลงเหมือนเสียงกระซิบทำให้แจจุงต้องยื่นหน้าเข้าไปฟังใกล้ๆ
“ว่ามา...”
“เมื่อคืนดงแฮมาที่นี่รึเปล่าครับ?”
“ฮะ...ว่าไรนะ”แจจุงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ขึ้น คิบอมถอนหายใจเฮือกก่อนจะถามใหม่อีกหน ดงแฮนั่นคงมาสร้างเรื่องให้ทั้งแจจุงแล้วก็ยุนโฮอีกล่ะสิและถ้าเป็นแบบนั้นจริงเขาก็คงต้องขอโทษแทนดงแฮด้วย
“นี่แจ....ไอ้คิบอม!!!”คำที่เรียกชื่อแจจุงนั้นเปลี่ยนไปเรียกชื่ออีกคนเสียงดังทันทีก่อนร่างสูงจะเข้าไปดึงตัวคิบอมที่หน้าติดกับแจจุงเสียจนน่ากลัว “แกทำอะไรเนี่ย!”
------------------------------
[...M@Y Talk...]
อ่า....เม้นๆๆๆ
มิก...ดูโรคจิต = =
รักทุกคนเน้อ
ยุนแจน่ารัก
อัพวันศุกร์หรือเสาร์ค่ะ = = สอบก่อนๆๆๆ
ความคิดเห็น