ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic:TVxQ)Begin to Breathe [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : [Part 2]

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 52


    [Part 2]

     

     

    น้องคุณอยู่ที่นี่...บอกเสียงเรียบ แจจุงพยักหน้ารับในขณะที่สมองว่างเปล่าทรุดตัวลงนั่งหน้าหลุมศพของน้องชาย

     

    จุนซู...พี่มาแล้วแจจุงพึมพำเสียงแผ่ว รอยยิ้มเอื่อยประดับบนใบหน้าขาวเนียน

     

    [ชี นา กา บอ รีน ออ รี ชีน]

     

    เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าเป็นเพลงคิกขุเสียจนแจจุงต้องหันมามองยุนโฮใหม่

     

    หน้าตาแบบนี้ไม่เข้ากับเพลงสักนิด - -

     

    ว่าไง?

     

    วันก่อนที่นายช่วยเหยื่อคนนั้นออกมาใช่คิม แจ จุงรึเปล่า?

     

    ใช่ตอบไปคิ้วก็เริ่มขมวดเพราะความสงสัย ทำไม?

     

    นายรู้ใช่ไหมว่าเขาไม่เหมือนคนอื่น...ปลายเสียงถามลองเชิง ยุนโฮจึงตอบเสียงไม่สบอารมณ์

     

    ใช่...ไม่มีไรดี ปากดี รั้น เอาแต่ใจคำตอบที่ทำให้ปลายสายเงียบไปทันควัน แล้วทำไม

     

    ไม่ใช่อย่างนั้นยุนโฮ...ปลายสายยังรักษาเสียงได้นิ่งเหมือนเดิมจนยุนโฮชักจะหมันไส้ นายรู้ว่าเขามีกลิ่นเลือดที่พวกอสูรร้ายโปรดปรานนักล่ะ

     

    อ้อ...เรื่องนั้นยุนโฮทำเสียงสูงเสียจนน่าถีบ แล้วทำไมคิบอม?

     

    หัวหน้าใหญ่สั่งมาให้นาย...ดูแลแจจุงด้วยชีวิต

     

    หา! หมายความว่ายังไงนะ!!!”ร่างสูงร้องเสียงหลงจนแจจุงที่นั่งอยู่ต้องปิดหูทำหน้าเบ้

     

    เดี๋ยวหนังสือคำสั่งก็คงมาถึงนาย แค่นี้นะว่าเสร็จก็ตัดสายทิ้งไปทันที

     

    แก...เดี๋ยวไอ้บอมมาคุยกันให้รู้เรื่อง! โว้ยยย!!!”ร่างสูงสบถอย่างอารมณ์เสียจนแทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งแต่ความเสียดายมันบอกว่าอย่าเพราะซื้อมานี่ก็เป็นจำนวนมากอยู่

     

    มีอะไรเหรอยุนโฮ?แจจุงถามขึ้นหลังจากทนนั่งดูยุนโฮบ้ากับโทรศัพท์อยู่นานสองนาน

     

    ไม่มีไรหรอกบอกเสียงห้วนที่ทำแจจุงต้องสบถหมันไส้เบาๆ

     

    [-ปี๊บ-]

     

    เสียงจากเครื่องรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดเท่าฝ่ามือแลดูแปลกตาสำหรับแจจุง ยุนโฮยกมันขึ้นมาเหนื่อยๆแล้วเปิดมันออก ทันใดนั้นภาพสามมิติก็ฉายออกมาเป็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขียนอะไรบางอย่างไว้

     

    คิม แจ จุง เป็นมนุษย์ที่มีเลือดสีทอง ซึ่งเป็นเลือดที่อสูรโปรดปรานและเมื่อพวกมันได้กินเลือดสีทองเข้าไปแล้วก็จะเป็นผลให้มันมีพละกำลังเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ

     

    เลือดสีทองปกติแล้วจะเป็นเลือดที่หมุนเวียนอยู่ในร่างกายของคนในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ตายไปหมดสิ้นแล้ว ซึ่งเท่ากับว่าแจจุงเป็นคนเดียวที่มีเลือดสีทองในร่างกาย

     

    ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น จอง ยุน โฮ

     

    จงดูแลปกป้องคิม แจ จุง ด้วยชีวิต...

     

    ยุนโฮพับอุปกรณ์ที่มีเฉพาะนักล่าลงแล้วยัดมันไว้ในกระเป๋าด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ นัยน์ตาคู่คมเหลือบมามองแจจุงที่นั่งอยู่หน้าหลุมศพแล้วก็ต้องถอนหายใจ

     

    อยู่กับแจจุง...ร้ายยิ่งกว่าตกนรก

     

    นัยน์ตาเรียวกรอกขึ้นฟ้าครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกคนสวยที่นั่งจ้องหลุมศพด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก

     

    แจจุง...พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่แล้วกันนะ

     

    หือ?...ทำไมล่ะ ฉันยังอยากอยู่ต่อแจจุงบอกพร้อมทำหน้างอง้ำเชิดกลับไปมองหลุมศพต่อปล่อยให้ยุนโฮถลึงตามองอย่างเอาเรื่อง

     

    ทำไมน่ะเหรอ?ปลายประโยคขึ้นเสียงสูงจนน่ากลัวก่อนต่อ คุณอยากอยู่ต่อให้ตัวประหลาดนั่นมันขย้ำคุณรึไง?

     

    ไม่เห็นมีสักตัวบอกห้วนแถมยังไม่หันมามองหน้ายุนโฮเล่นเอาร่างสูงแทบอยากจะร้องตะโกนให้ลั่นโลก

     

    มันเย็นแล้วยุนโฮต้องข่มสตินับสิบเพื่อเพียรจะข่มเสียงไม่ให้ว้ากร่างบางเข้าให้ ตัวประหลาดของคุณมันจะออกมาเพ่นพ่านคราวนี้คนฟังหันมาทำตาวาววับ

     

    มันไม่ใช่ของฉัน

     

    เอาเถอะๆ...กลับได้แล้วแจจุงยุนโฮตัดบทก่อนจะเดินนำออกไป

     

    แจจุงลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามยุนโฮออกไปโดยไม่ลืมที่จะกล่าวคำอำลากับน้องชายที่แจจุงไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินรึเปล่า

     

    พี่ไปก่อนนะจุนซู...แล้วพรุ่งนี้จะมาใหม่

     

    ร่างบางเดินตามยุนโฮไปเรื่อยๆพลันบรรยากาศก็หนาวจับขั้วหัวใจ แจจุงหันมองรอบตัวแต่ก็ไม่พบอะไร ริมฝีปากสีเชอร์รี่แห้งผากพอๆกับความกลัวที่แล่นเข้ามา

     

    ย...ยุนโฮเสียงหวานพึมพำเสียงแผ่วเพราะไม่มีแรงตะโกนแต่คนที่เดินนำหน้าก็ยังเดินนำต่อไปเรื่อยๆโดยไม่หันมามอง

     

    วิ่งสิ...ก้าวขาสิแจจุง

     

    แจจุงเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นก่อนจะวิ่งออกไปโดยไม่มองทางด้วยซ้ำ

     

    โครม!

     

    ร่างบางล้มโครมกับพื้นถึงแม้จะเจ็บแต่ก็ร้องไม่ออกเมื่อเห็นคนตรงหน้า ความรู้สึกหวาดกลัวจนอยากจะร้องไห้ถ่าโถมเข้ามาเหมือนพายุร้าย

     

    วิ่งดูทางหน่อยสิครับ...คำพูดเย็นเยียบกับรอยยิ้มที่ทำให้แจจุงต้องถอยหนี กลัวเหรอ?

     

    ย...ยุนโฮ!!!!”แจจุงกรีดร้องลั่น ฮือ...ยุนโฮ!!!”

     

    ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกนะ...อย่ากลัวผมเลยร่างสูงยิ้มให้แต่แจจุงกลับเห็นว่ารอยยิ้มนั่นมันช่างดูน่ากลัวเกินกว่าที่จะเชื่อใจได้ ถูกคนสวยกลัวแบบนี้...ผมก็แย่น่ะสิครับ

     

    ยุนโฮ!!!”แจจุงหลับตาแน่นตะโกนเรียกอีกคนที่แจจุงเหลืออยู่ คนเดียวที่เขาเชื่อและไว้ใจที่สุดในตอนนี้

     

    เรียกอะไรคุณ...โหวกเหวกอยู่ได้น้ำเสียงที่ติดจะดูรำคาญดังขึ้น แจจุงกระพริบตาถี่มองภาพของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทำไมถึงมานั่งเล่นตรงนี้ล่ะ

     

    เห็น....ผู้ชายที่เดินไปเมื่อกี้ไหม?แจจุงถามเสียงสั่น ยุนโฮเลิกคิ้วแล้วส่ายหน้า เขา...น่ากลัว

     

    อ้อ...ที่คุณร้องเพราะคุณกลัวยุนโฮบอกเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ คุณกลัวใครก็ไม่รู้ที่บางทีอาจจะเดินผ่านมาเพื่อไปเยี่ยมศพใครสักคนงั้นเหรอ ให้ตายเถอะ!”

     

    มันไม่ใช่นะยุนโฮแจจุงขึ้นเสียงกลับ เขาน่ากลัวจริงๆ...

     

    คุณน่ะ...เจอเรื่องนั้นก็เลยปล่อยให้จิตมาหลอนประสาทสินะร่างสูงพูดเอื่อย สติ...รู้จักมีสติอย่าให้จิตมันหลอนประสาทพูดเป็นเชิงแนะนำแต่ก็ทำให้แจจุงเคืองเมื่อร่างสูงไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูด

     

    บางที...คงต้องรอให้เขาโดนจับกินก่อนล่ะมั้งยุนโฮถึงจะเชื่อ

     

    แล้วเราจะไปกันได้รึยัง...ถามเสียงเรียบเหมือนต่อว่าเป็นนัยทำให้แจจุงถลึงตากลับอย่างเอาเรื่อง ยุนโฮถอนหายใจเฮือกก่อนจะเดินนำออกไป

     

    เดี๋ยวสิ!...คำเรียกที่ทำให้ยุนโฮต้องหันมามองแล้วเลิกคิ้วประมาณว่าอะไรอีก นายอย่าเดินหลังให้ฉันสิ...

     

    งั้นคุณนำผม โอเคไหม...ยุนโฮถามกลับแต่คำตอบที่ได้รับคือการส่ายหน้า งั้นคุณมาเดินข้างๆผม?

     

    ฉ...ฉันกลัวร่างบางบอกเสียงสั่นทำให้ยุนโฮต้องถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ นี่ถ้าถอนหายใจหนึ่งครั้งอายุสั้นลง 1 ปีนะผมว่าชีวิตผมคงหดสั้นลงเพราะแจจุงนี่ล่ะ

     

    ร่างสูงเดินเข้าไปหาร่างบางก่อนจะคว้ามือนุ่มขึ้นมาจับ

     

    เอางี้...ผมยอมให้คุณจับมือ

     

    ใครอยากจับมือนายกันล่ะ!”แจจุงบ่นอุบแต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือยุนโฮออก

     

    โอเค...คุณยอมให้ผมจับมือยุนโฮแก้ให้อย่างขอไปที ถ้ากลัวก็จับแน่นๆ...คนอย่างผมไม่กลายเป็นตัวประหลาดมาหลอกคุณหรอกนะปิดท้ายประโยคด้วยรอยยิ้มขบขันที่ทำให้แจจุงอยากเอาป้ายมาห้อยคอยุนโฮว่า

     

    ...หมีไม่น่าคบแห่งปี...

     

    _____________________

     

    บรรยากาศที่เคยร้อนอบอ้าวกลับหนาวขึ้นมาในทันควัน สายลมเริ่มกระหน่ำพัดแรงแข่งกรีดร้องกันโหยหวนราวกับเกิดอาเพศจากมนต์ดำ

     

    บุรุษในชุดคลุมสีดำสนิทลากยาวถึงพื้นกรีดยิ้มเย็นขณะที่ดวงตาคู่คมจดจ้องไปที่หลุมฝังศพด้วยความหมาย

     

    แต่เป็นความหมายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

     

    เสียงสวดอะไรบางอย่างเริ่มดังก้องทั่วบริเวณ ท้องฟ้าเริ่มมืดครื้มก่อนจะกลายเป็นแดงฉานราวกับเลือดและไม่ทันไรฝนก็เริ่มกระหน่ำเทลงมาอย่างบ้าคลั่ง

     

    หากแต่มันไม่ใช่น้ำฝนอย่างที่ควรจะเป็น มันมีสีแดงข้นและเหม็นคาวเหมือนเลือด

     

    หยาดฝนโลหิตที่ตกลงมาทำให้เจ้าของบทสวดยกยิ้มด้วยความพึงพอใจก่อนเสียงทรงอำนาจจะกล่าวขึ้น

     

    ลุกขึ้นมาสิ...คิม จุน ซู...

     

    มันเป็นเสียงที่ก้องกังวานจนขนลุกซู่ ดินที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยเลือดสั่นสะเทือนน้อยๆก่อนร่างที่นอนหลับใต้พื้นดินจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ

     

    ลุกขึ้นมา....ลุกขึ้นมา

     

    ร่างใต้ผืนดินค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นยืนช้าๆอย่างไร้ซึ่งอารมณ์และความรู้สึกใดๆ

     

    มองฉันสิ...ฉันที่มอบชีวิตให้นายอีกครั้งไงล่ะร่างเล็กค่อยๆหันมามองบุรุษในชุดคลุมอย่างเชื่องช้าด้วยนัยน์ตาที่ว่างเปล่าไร้ความรู้สึกก่อนร่างนั้นจะทรุดกายหมดสติลงกับพื้นทันที

     

    สมใจพี่แล้วสินะบุคคลที่สามเอ่ยถามพร้อมหัวเราะเย็นๆ

     

    หึ...ชางมินนายมาก็ดีแล้ว

     

    เหอะ...พี่จะให้ใช้เวทเคลื่อนย้ายส่งพี่กับจุนซูกลับบ้านเลยงั้นสิชางมินบอกอย่างรู้ทัน

     

    เอาน่า...ฉันเหนื่อยนี่นา

     

    พี่ยูชอนล่ะอย่างนี้ทั้งปี...ชางมินบ่นเบาๆก่อนจะเริ่มร่ายเวท ร่างทั้งสามร่างเรืองแสงขึ้นก่อนจะหายวับไปเหมือนไม่มีตัวตน

     

     

     

     

    เตรียมใจได้เลยนะฮะ...จุนซูตื่นขึ้นมาแล้วก็ต้องด่าพี่ชางมินบอกคนเป็นพี่ ยูชอนทำหน้าเบ้

     

    ไมวะ...ฉันอุตส่าห์มอบชีวิตให้เขาทั้งที

     

    ใครหน้าไหนอยากเป็นซอมบี้เดินได้มั่งล่ะฮะชางมินย้อน เตรียมหูไว้โดนด่าได้เลย

     

    อือ...เสียงขัดจังหวะการพูดคุยของพี่น้องอายุห่างกันร่วมร้อยปีทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง จุนซูที่มีสีผิวขาวซีดจนน่ากลัวค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ

     

    เป็นไง...รู้สึกยังไงบ้างกับชีวิตใหม่?ยูชอนว่ายิ้มๆในขณะที่คนตัวเล็กกลับมีนัยน์ตากร้าวขึ้น

     

    นาย!!...ทำไมนายต้องทำแบบนี้!!!”เสียงแหลมปี๊ดชวนปวดหัวดังขึ้นอย่างตั้งตัวไม่ทัน ฉ...ฉันอยากได้ชีวิตที่เหมือนผีดิบนี่ที่ไหนกันล่ะ!”

     

    ผมบอกพี่แล้วชางมินกระซิบก่อนจะขอตัวเดินไปอีกห้องหนึ่งเพราะไม่อยากทนฟังเสียงแหลมนั่นต่อไป

     

    ฉันเกลียดนาย!!!”ตวาดเสียงแหลมแล้วเริ่มกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนเสียสติ มือบางกวาดสะเปะสะปะไร้ทิศทาง

     

    นายทำอะไรของนายน่ะ!!”ยูชอนเข้าไปจับตัวร่างเล็กให้อยู่นิ่ง จุนซูเริ่มสะอื้นแล้วทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

     

    ป...ปล่อยฉัน...ฮือ

     

    คำพูดที่ทำให้ยูชอนต้องจิ๊ปากอย่างรำคาญแล้วเดินออกไปปล่อยให้ร่างเล็กนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวอย่างรวดร้าว

     

    น่ารำคาญชะมัด...คำพูดสุดท้ายที่ร่างสูงสบถก่อนจะเดินออกไป

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ฮือๆ.....

    -----------------------------------------
    [...M@Y Talk...]

    อืม...ลงแล้วๆๆ

    เม้นกันด้วยน้า

    ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่ะ ^^

    ถึง...เด็กบ้า

    อย่าปล่อยกลัว "อะไร" ถ้ามันยังไม่เกิด อยากทำอะไรก็ทำ เป็นพอ ถึงเค้าจะไม่รู้ซึ้งเรื่องพวกนี้แต่ก็...ขอให้แกทำตามใจตัวเอง

    ไอ้บ้าเอ๊ย = =" ฉันขอให้แกโชคดี 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×