ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ+SJ]Prince With Soul...วิญญาณสยอง เจ้าชายแสยง[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #25 : [SF YunJae] Why did I end up fall in love with you?

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 51


     

    [SF YunJae] Why did I end up fall in love with you?

     

    เพราะเหตุใดสุดท้ายผมก็ต้องตกหลุมรักคุณ?


    "แจจุง...."

    "อะไรเหรอยุนโฮ?"

    "เราเลิกกันเถอะ"

    .....................................

    "อืม...."

    ใบหน้าสวยยิ้มเศร้าสร้อยและส่งเสียงตอบรับออกมาสั้นๆเท่านั้น คิมแจจุง...คนรัก...ไม่สิ อดีตคนรักของชองยุนโฮยืนขึ้นช้าๆ นัยน์ตาสวยจับที่ใบหน้าอดีตคนรักของตัวเองแน่วแน่...บนใบหน้าหวานนั้นไม่มีแม้แต่ความรู้สึกปรากฏให้เห็น ดั่งรูปสลักเทพธิดา งดงาม....แต่อ้างว้างเหลือเกิน

    "ฉันขอไปเก็บของแล้วกัน...."

    ยุนโฮถอนหายใจเบาๆ จบซะที...พันธะทั้งหมด

    ไม่รู้สินะ...เขาคงเลิกรักแจจุงมานานแล้ว...

     

     

     

    ความสัมพันธ์สามปีของเขากับแจจุงเกิดขึ้นแบบเรียบง่าย และจบลงอย่างเรียบง่ายเช่นเดียวกัน,, คิมแจจุงเป็นคนที่พูดอะไรไม่มากอยู่แล้ว เท่าที่คบกันมา...แจจุงบอกรักเขาแค่สามครั้ง

    ดังนั้น....คนอย่างเขาก็ต้องหาอะไรแก้ขัดสินะ?....

    ทุกๆคืน...ในขณะที่ปล่อยแจจุงให้รออยู่เงียบๆที่คอนโดของเขา เตรียมอ่านหนังสือเรียน...เขาก็ออกไปเริงร่าตามผับอยู่เสมอ แต่แจจุงไม่เคยจะว่าอะไร...

    ถึงจะเมากลับมายังไง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย หรือมีร่องรอยอะไร แจจุงเพียงแต่มองด้วยสายตาว่างเปล่าเท่านั้น

    แบบนี้..จะให้เชื่ออีกเหรอว่าแจจุงยังรักเขาอยู่...

    เท่าที่ผ่านมา....ไม่ว่าจะในโอกาสสำคัญอะไร แจจุงไม่เคยให้อะไรเลย ยกเว้นในวันแรกที่แจจุงย้ายเข้ามา...เครื่องเล่นเอ็มพีสามสีดำอันเก่าเท่านั้นที่ร่างบางยื่นมันให้เขาโดยไม่พูดอะไรเลย เขาก็ได้แต่โยนมันไปข้างโต๊ะเพราะไม่ได้ใช้...คนอย่างเขาหาได้มากกว่านี้จริงมั้ย?

    ตอนนี้....ตอนที่แจจุงกำลังจะออกไปจากชีวิตเขา

    ความรู้สึกทั้งหมดเฉยชา ไม่มีแม้แต่ความเจ็บปวด

    อีกแค่ไม่กี่นาทีสินะที่เขาจะได้อยู่คนเดียวอีกครั้ง

     

     

    สัมผัสแต่ละสัมผัสที่ได้รับดูห่างเหิน แตกแยก และไม่เป็นสิ่งที่รับรู้ได้ ร่างบางหยิบข้าวของในกระเป๋าใบย่อมช้าๆ....เสื้อผ้าทั้งหมดถูกพับไว้เรียบร้อยตามนิสัย ดังนั้นไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็พร้อมจะออกจากที่นี่...

    มือบางกระชับหูหิ้วกระเป๋าและยกมันขึ้น แรงของที่หนักพอสมควรทำเอาร่างเล็กเซนิดๆ....มือนึงผลักประตูออกไปสู้ห้องนั่งเล่นที่มีแสงไฟสว่างไสว ร่างสูงที่ประทับอยู่ในความทรงจำของเขายังคงอยู่ให้เห็น...

    ใกล้กันแค่นี้...แต่ทำไม...ถึงรู้สึกเหมือนอยู่คนละโลก

    เจ็บมั้ย?....

    สมควรแล้วล่ะ...ก็นายมันโง่นี่แจจุง

    แสยะยิ้มสมเพชตัวเอง...เพียงนิดเดียวและกลับไปทำสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเดิม ร่างบางเดินไปหยุดหน้าคนที่กำลังยืนนิ่งรอส่งเขา

    ส่ง...ให้ออกไปจากชีวิต

    "ยุนโฮ...."

    เสียงติดจะแหบพร่าเล็กน้อยเพราะไม่ค่อยได้เปิดปากพูดนัก ชองยุนโฮเลิกคิ้ว

    "ฉันขอกอดนายนะ...."

    คำขอสั้นๆง่ายๆที่ยุนโฮรู้สึกสับสนกับมัน แขนเล็กๆบอบบางสัมผัสกับร่างกายอุ่นของยุนโฮ แจจุงหลับตาลง...ซึมซับไออุ่นที่จะได้สัมผัสเป็นครั้งสุดท้ายให้ได้มากที่สุด ยุนโฮยืนนิ่ง...ไม่แม้แต่จะกอดตอบอย่างที่เคยทำ ความปวดร้าวแล่นขึ้นมาในจิตใจเพียงชั่ววินาที...

    ย้ำว่าเพียงแค่ชั่ววินาที....

    เวลาผ่านไปประมาณห้านาที แจจุงละแขนออกและก้าวถอยหลัง...และส่งยิ้มบางๆให้ยุนโฮ มืออีกข้างนึงหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นมาถือไว้ นัยน์ตาสีดำดูเรียบเย็นแบบทุกครั้ง...แต่รอยยิ้มบนริมฝีปากนั่นทำให้เขารู้สึกเจ็บร้าว

    นายรู้สึกอะไรบ้างสิแจจุง....

    ทำไมนายไม่ร้องไห้...

    ถ้านายร้องไห้...ฉันอาจจะรั้งนายไว้ก็ได้นะ....

    ได้โปรดแจจุง...

    นายร้องไห้ให้ฉันซักครั้งได้มั้ย???

    "ฉันไปแล้วนะ"

     

     

    ขอร้อง...นายร้องไห้ได้มั้ย?

    ให้ฉันรู้ว่าเวลาที่ผ่านมานายยังรักฉันอยู่บ้าง....

    บอกรักฉันอีกซักครั้ง.....ได้มั้ย?

    "แจจุง...."

    "?...."

    "ลาก่อนนะ"

    คำบอกลาสุดท้ายมีเพียงเท่านั้น คำบอกรักสุดท้ายหายลงไป.....การเคลื่อนไหวของร่างบางที่ผ่านเข้ามาในการรับรู้เหมือนภาพรางๆ เลนส์ตาสะท้อนภาพที่แปลกออกไป...ภาพที่ดูเป็นสีเทา เสียงประตูปิดลงเบาๆทำให้เขารู้ว่าร่างบางได้ออกไปแล้ว

    ออกไปจากชีวิตของเขา...

    หมดกันเสียที...ตำแหน่งคนรัก....

    จบแล้วสินะ...นิทานงี่เง่าหนึ่งเรื่อง....

    ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ เม้มริมฝีปากเพื่อสกัดกั้นความรู้สึกที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ในอกเจ็บร้าว....สรรพสีรอบๆตัวดูเลือนลาง

    อะไรกันนะ....

    ความรู้สึกที่แม้แต่เขายังไม่เข้าใจ?

    ___________________________________

    "พี่นี่น้า....ทำอีท่าไหนให้เค้าทิ้งล่ะ"เสียงแซวจากคนข้างๆตัวดังขึ้น แจจุงโคลงหัวเบาๆ นัยน์ตาเรียบนิ่ง

    "ตลอดล่ะ ไม่ตอบท่าเดียว ทิ้งให้ผมพูดแจ้วๆเป็นไก่เจาะปากอยู่คนเดียว"เสียงบ่นหงุงหงิงของคิมจุนซู น้องชายของเขาไม่ได้ทำให้เขายิ้มได้แบบทุกครั้ง...

    น่าสมเพชมั้ยล่ะ?...

    บากหน้ามาอยู่กับน้อง...หลังจากโดนเขี่ยทิ้ง....

    หลังจากออกจากห้องของยุนโฮ เขาก็ตรงมาที่บ้านของจุนซู...ที่มีเขาส่งค่าเช่าให้ทุกเดือน ดูเหมือนน้องชายสุดที่รักจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น...

    'พี่เลิกกันแล้ว?'

    ด้วยความที่เคยอยู่ด้วยกันมานานนับสิบกว่าปีทำให้จุนซูรู้ใจพี่ชายตัวเองดี คนอย่างพี่เขานั้นดูยาก...ด้วยใบหน้าที่แทบไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมาให้เห็น อย่างมากก็แค่ยิ้ม...หรือเม้มปากเท่านั้น...

    แต่คราวนี้...เขารู้ว่าพี่ของเขาเจ็บปวดมาก...

    น้ำตา...เป็นสิ่งที่ระบายความเศร้า...

    แต่การที่เศร้าโดยไร้น้ำตาซักหยดนี่...จะเจ็บปวดซักแค่ไหนนะ?

    "ผมออกไปข้างนอกนะพี่แจจุง...พี่อยู่คนเดียวได้นะ?"

    เสียงของจุนซูดังขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ แจจุงพยักหน้า ร่างบางนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมมานานแล้ว....ความรู้สึกที่กัดกร่อนอยู่ภายในทำให้หัวใจอ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรง

    ทุกๆวัน...ที่อยู่กับยุนโฮ มันมีแต่ความเจ็บปวด...

    รู้ว่ารั้งเขาไม่ได้ยังจะทน....

    เมื่อเขาคิดจะโทรตามยุนโฮเป็นครั้งแรก...ตอนนั้นยุนโฮบอกว่าออกไปทำงานพิเศษและอาจจะกลับดึก การใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรมันก็ทำให้รู้อะไรมากขึ้นเยอะ...เสียงผู้หญิงดังลอดเข้ามาให้ได้ยินและตามด้วยเสียงดุดันของคนรักที่มักจะอ่อนโยนกับเขาเสมอ

    หูโทรศัพท์ที่ตกลงไปข้างๆตัวและคำผรุสวาทของยุนโฮที่ลอดออกมาแผ่วๆเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้ในคืนนั้น ก่อนจะทำความสะอาดห้องทั้งหมดและนอนตามปกติ...

    ความเจ็บปวดมันก็มากเหมือนวันนี้ แต่อาจจะน้อยกว่านิดหน่อย...

    ขอบคุณนะยุนโฮที่ทำให้ฉันรู้ซะทีว่าฉันมันแย่เกินไป...

    น้ำตาหนึ่งหยดไหลลงมาตามร่องแก้มขาว ความเจ็บปวดที่เหมือนพุ่งพรวดขึ้นจากน้ำลึก หรือตื่นจากความฝัน ทุกอย่างดูอ้างว้าง...และไม่มีทางจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป...

    ไม่มีอีกแล้ว...คนที่จะเดินมาปลุกตอนเช้า...

    ไม่มีอีกแล้ว...คนที่จะคอยมอบอ้อมกอดอุ่นๆให้ทุกคืน....

    ไม่มีอีกต่อไปแล้ว...

    ไหล่เล็กลู่ลง ใบหน้าสวยซบลงกับเข่าและสะอื้นเงียบๆโดยปราศจากเสียงร่ำไห้ ร่างบางสั่นระริก....ความรู้สึกอึดอัดที่มาจากเบื้องลึกของใจทับถมเข้าเต็มตัว

    นายไม่เคยรู้อะไรเลยสินะยุนโฮ...

    ว่าฉันรักนายมากเท่าไหร่...

    แต่ความสุขของนายเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับฉัน....

    การที่ปล่อยมือจากนายมันน่าจะทำให้นายมีความสุข......

    ฉันรักนายนะยุนโฮ...

     

     

    นายมันโง่..แจจุง...

    นายมันโง่ที่สุด

    ดีแล้วสินะที่ยุนโฮปล่อยมือจากคนอย่างนาย....

     

    "อย่าเงียบสิแจจุง เราคบกันมาเกือบปีแล้วนายพูดกับฉันแค่วันละไม่กี่ประโยคเองนะ~"

    ร่างบางหลุดยิ้มขึ้นมาหน่อยนึงและทำท่าไม่สนใจ มือบางคนกับข้าวในหม้อต่อ ทิ้งให้คนหน้าหมีทำหน้ามู่ทู่อยู่ข้างๆคนสวย

    "งอนนะ!"

    "ไม่ได้ห้าม..."

    ตอบเรียบๆและยกแกงลงมาใส่จาน จัดแจงวางไว้บนโต๊ะกินข้าว พอหันมาจากหยิบช้อน อ้อมกอดอุ่นๆของคนหมีๆก็ทำให้ร่างบางตกใจ...สัมผัสอุ่นๆทีริมฝีปากเรียกสีเลือดให้ซับหน้าหวานๆของแจจุง นิ้วเรียวของคนตัวสูงจิ้มที่หน้าผากคนเงียบเบาๆ

    "เด็กดื้อ แก่แล้วยังพูดน้อย ระวังจะใบ้กินนะ เอ้า! เห็นใจคนใบ้ วันนี้ฉันป้อนมั้ย?"

    พยักหน้าเบาๆให้ร่างสูง...ความอบอุ่นแล่นเข้ามาในหัวใจ

    ความรักของเขา..ไม่ต้องพูดกันก็ได้นี่นา...

    "อร่อยจัง ถ้าฉันแต่งกับนายนะ ฉันจะต้องกลายเป็นหมีอืดอย่างแน่นอน~"

    "อือ..."

    "อีกแล้ว เขินมั่งสิ นี่แจจุง ฉันเบื่อนายแล้วนะ"

    "เลิกสิ"

    นี่ล่ะวิธีแสดงความรักของเขา...

    ซึ่งยุนโฮก็คงเข้าใจมันดี....

    "ไม่นะๆๆ!! นายออกจะน่ารักแบบนี้...ไม่รู้ฉันทนอยู่มาได้ไงโดยไม่จับนายกดซะก่อน"

    ยุนโฮบ่นหงุงหงิง ในใจแอบยินดีเมื่อเห็นแก้มนิ่มๆขาวๆของคนรักมีสีเข้มขึ้น

    "เขินอ่ะดิ่"

    "เปล่า...กินสิ"

     

    ความทรงจำเก่าๆวิ่งผ่านมาในสมอง เรียกน้ำตาให้หลั่งลงมามากขึ้น...ความสุขที่ถึงแม้จะปนไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยอมรับว่ามีความสุข

    ไม่ทันแล้วล่ะ....

    มันสายไปแล้ว......

    _______________________________

    เปลือกตาขยับขึ้นแสดงการตอบรับต่อแสงแดดที่ส่องเข้ามากระทบให้รำคาญใจเล่น ยุนโฮเบ้หน้าอย่าหงุดหงิดและเหวี่ยงแขนไปทางซ้าย...ตั้งใจจะกอดคนรักให้แน่นๆ อีกซักแป๊บแจจุงคงดันแขนเขาขึ้นและจิ้มหน้าผากเขาเบาๆนั่นล่ะ...

    ตุบ

    เสียงแขนกระทบผ้าปูที่นอนเปล่าๆดังให้เขาใจหายเล่น.....ความทรงจำของเมื่อวานวิ่งเข้าสู่ใจ อากาศธาตุทั้งหมดที่เขาไม่อยากรู้สึก ความปวดมวนในท้องวาบเข้ามา.....เขาไม่อยากยอมรับว่าแจจุงได้ทิ้งเขาไปแล้ว....

    ยังเหลือกลิ่นหอมๆของนาย.....

    ยังเหลือภาพรอยยิ้มหวานที่นายมักจะมีให้ฉันประจำ

    ยังเหลือเงาของนายที่ตรงนั้น...หรือข้างๆฉัน

     

     

    ในความจริงที่นายเลือกทางที่ตั้งฉากกับเส้นของฉัน....

    ทอดยาวออกไปไม่สิ้นสุด และไม่มีวันจะมาบรรจบกันอีก

    น้ำตาอีกหยดไหลซึมออกมา...ยุนโฮเม้มปากและใช้กำลังที่มีทั้งหมดผลักดันความรู้สึกนี้ลงไปให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ทำไมฉันยังคิดนะว่านายยังอยู่ข้างๆฉัน

    ...หรือทั้งหมดนี่จะบอกว่าฉันยังเหลือเยื่อใยต่อนาย.....


    เพราะเหตุใดสุดท้ายผมก็ต้องตกหลุมรักคุณ?
    ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด
    ผมก็ยังเอาแต่คิดว่าคุณยังอยู่ตรงนี้
    แต่ในความเป็นจริงคุณได้เลือกทางเดินที่แตกต่างไปแล้ว



    "หายไปแล้วสินะ...."

    ทวนคำช้าๆอย่างเหม่อลอยในขณะที่กลัดดุมเสื้อแบบเก้ๆกังๆเพราะปกติจะมีแจจุงมาคอยติดให้ ใบหน้าหวานๆที่คอยผลุบๆโผล่ๆดูความเรียบร้อยของเขาให้ทุกวันนั้นไม่มีให้เห็น ทิ้งไว้แต่ภาพเลือนรางไว้เท่านั้น....สีขาวดำเหมือนหนังเก่าๆที่หลับตาครั้งใดก็เจอทุกครั้ง

    "แจจุง...."

    ทวนชื่อคนที่คิดถึงที่สุดอีกครั้งและยิ้มเนือยๆ

    เลิกสิชองยุนโฮ...

    เลิกคิดถึงคนๆนั้นซะ ยังไงตอนนี้คิมแจจุงก็ได้ตายไปแล้ว....

    ไม่มีทางอีกแล้ว.....

    หลับตาลง และรับรู้ถึงความเศร้าที่ผุดขึ้นมาให้รู้สึกเจ็บร้าว ในหัวมีแต่ภาพรอยยิ้มเรียบๆแต่อบอุ่นของคนๆนั้น คนที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจของเขา...

    ยังไงมันก็ไม่มีทางสินะ....

    "แจจุง......"

    เส้นด้ายบางๆที่เคยเชื่อมต่อเราไว้ขาดลง...ไม่มีทางที่จะประสานคืน

    เหมือนแก้วที่แตกจนเป็นผง....

    อยากพูดอะไรมากมายแต่ทำไม่ได้ ถ้อยคำอีกมากมายที่เขาเพิ่งสำนึกว่าไม่มีโอกาสพูดมัน

    สายไปแล้ว....สายไปแล้ว....


    ทำไมผมถึงตะโกนร้องเรียกหาคุณไม่ได้อีก
    ในทุกวันทุกคืนความรู้สึกก็มีแต่เพิ่มมากขึ้น
    ถ้อยคำที่มากมายที่เอ่อล้น
    แต่ผมก็สำนึกแล้ว
    ว่าผมจะไม่มีเอื้อมคว้าคุณกลับมาได้อีก


    เสื้อเชิ้ตที่ชอบใส่ประจำถูกโยนทิ้งสะเปะสะปะไปที่มุมห้องอย่างหงุดหงิด ชองยุนโฮใส่เสื้อยืดสีขาวกางเกงบ็อกเซอร์เริ่มค้นห้องเพื่อจัดของ...จุดประสงค์ที่เขาย้ำคือกำจัดของๆแจจุงทิ้งไปให้หมด แต่ลึกๆแล้วคือเขาจะหาชิ้นส่วนๆขาดๆวิ่นๆมาเก็บไว้ต่างหาก

    ลังเก่าที่จำได้ว่าเคยเก็บไว้ตอนมหกรรมจัดห้องครั้งใหญ่โดยมีแจจุงเป็นแม่งานถูกดึงออกมา ร่างสูงนั่งลงและเปิดฝาลังฝุ่นจับออก ใบหน้าคมเบ้ลงกับฝุ่นฟุ้งที่กระจายออกมา...ก่อนที่จะเปิดฝาลัง นัยน์ตาคมฉายรอยสงสัยกับข้าวของที่ดูเหมือนจะเลือนลางเหลือเกินเมื่อมองจากมุมนี้ เสื้อเชิ้ตสีขาวที่มีรอบสีน้ำตาลแห้งๆกระจายเป็นวงกว้างถูกหยิบขึ้นมาพินิจเป็นตัวแรก

    'ตัวนี้ใส่ตอนเจอยุนโฮเป็นตั้งแรก'

    ลายมือเล็กๆน่ารักของแจจุงเขียนติดอยู่บนกระดาษโน้ตสีขาว ลังนี้เป็นลังที่เขามักจะเห็นแจจุงวุ่นวายกับมันทุกๆวัน แต่ไม่เคยให้เขาดูซักที ถามก็เงียบ คาดคั้นก็ทำหน้าเย็น แค่บอกว่าอยากจะให้ถ้าคบกันครบห้าปี......

    มันก็อีกแค่สามวันเท่านั้น

    แต่ก็ไม่มีโอกาสให้แล้วนี่นา....

    เสื้อสีขาวถูกกางขึ้น ยุนโฮมองมันนิ่ง...ตัวนนี้คือตัวที่แจจุงใส่ตอนที่เจอกันที่มหาลัยครั้งแรก

     

    ร่างบางที่ดูสวยยิ่งกว่าคนที่อยู่รอบๆ....ดึงดูดสายตาของคนรอบๆได้เสมอ แต่สำหรับคนที่ค่อนข้างจะขวางโลกแบบยุนโฮก็เห็นว่านี่เป็นเพียงแค่ดอกไม้อีกดอกที่จะต้องถูกเด็ดไปตามกาลเวลา ยิ่งเพื่อนของเขาละเมอชื่นชมเขายิ่งหมั่นไส้คนสวยคนนั้นมากขึ้นทุกที

    "ขอโทษครับ!"

    อุทานแบบเสแสร้งและซ่อนยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าสวยติดเบ้ๆ ยุนโฮกำแก้วกาแฟเย็นที่ว่างไปครึ่งหนึ่งในมือไว้และก้มหัวขอโทษขอโพย

    "...ไม่เป็นไรครับ"

    ส่ายหน้าเบาๆและยิ้มสวยๆให้เขาอีกที นัยน์ตานั่นจับที่ใบหน้าเขาอยู่เสี้ยววิและเสหลบอย่างรวดเร็ว ยุนโฮตาค้างเมื่อคนตรงหน้าไม่หลงเสน่ห์เขาอย่างที่คิด ร่างสูงก้มหัวอีกครั้งและพูดเสียงอ้อมแอ้ม

    เสียชื่อชองยุนโฮหมด....

    "ยังไงก็ขอโทษนะครับ เอ่อ..นี่คุณอยู่คณะอะไรเหรอครับ?"

    "มนุษย์ศาสตร์"

    ตอบแบบเรียบเย็น...ร่างบางเอียงคอมองคนตรงหน้าที่ดูจะตื่นๆกับการคุยกับเขา เหมือนลูกหมีเลยแฮะ.....

    "เอ่อ...ผม ชองยุนโฮ คณะวิศวคอมครับ! หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะครับคุณคิมแจจุง~"

    "อื้อ...."

     

    จุดเริ่มต้นที่ยุนโฮรู้สึกสนุกกับคนนิสัยเงียบๆแบบนี้

    จุดเริ่มต้นที่แจจุงตกหลุมรักยุนโฮตั้งแต่แรกเห็น

     

     

    'ตอนนั้นก็ชอบเขาตั้งแต่แรก ยุนโฮ ถ้านายอ่านล่ะก็อย่าเพิ่งเรียกฉันนะ เขิน~! ไม่คิดอ่ะสิว่าฉันจะมีมุมโรแมนติกแบบนี้อยู่ในตัว'

     

    กระดาษที่แนบไว้ถูกวางลง ความรู้สึกหลากหลายวิ่งเข้าปะทะ ขำ..ที่คนรักของเขาทำอะไรกุ๊กกิ๊กแบบนี้ แต่ยังไงก็ขำไม่ออก

    บางที...เขาอาจจะโง่เอง


    ตั้งแต่วันแรกที่ผมได้พบกับคุณ
    ผมรู้สึกราวกับว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน
    เราค่อยๆรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างนุ่มนวล

     

    'อันนี้ยุนโฮเอามาให้ตอนที่มาหาครั้งที่สอง'

    ต๊กตาหมีเก่าๆที่เขาเคยเอาไปให้แจจุง จริงๆเป็นของที่เขาเจอในห้องน้องสาว...เห็นว่ามันน่ารักดีก็เลยแอบหย่อนใส่กระเป๋าแจจุงตอนที่ไปทำธุระที่คณะมนุษย์ศาสตร์...เขาเองก็ไม่อยากยอมรับว่าตอนนั้นเริ่มจะชอบแจจุงขึ้นมาจริงๆ

    รอยยิ้มที่สวยงาม....

    ใบหน้าที่เหมือนหน้ากาก.....

    หัวใจที่ยังไงก็ดูออกว่ามีกำแพงขวางกั้น

    ขัดแย้ง หากแต่ลงตัว

    ถ้าเขาอยากเป็นแสงอาทิตย์ให้แจจุง.....ก็ไม่ผิดไม่ใช่หรอ?

     

    ของในลังดูกับไม่มีวันหมดสิ้น ของจุกจิกที่เขาจำได้ว่าเอามาให้แจจุงถูกเก็บและลงวันที่ไว้เรียบร้อย ยุนโฮนั่งอ่านทีละแผ่น....ทีละแผ่น...ของตลอดห้าปีมีมากกว่าร้อยชิ้น จนเป็นที่น่าสงสัยว่าแจจุงเอาเวลาที่ไหนมานั่งทำไอ้พวกนี้

    ก็เวลาที่นายไปอยู่กับคนอื่นไง......

    ความจริงพุ่งขึ้นมาทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเลวสิ้นดี

    น่าจะรู้เร็วกว่านี้....

    ว่าแจจุงรักเขามากแค่ไหน


    ผมยังคงอยู่ในที่ที่เคยมีคุณ
    เราทั้งคู่ต่างเติบโตมาด้วยกัน
    แต่คุณได้เลือกทางเดินที่แตกต่างไปแล้ว

     

    'ในวันที่แสงอาทิตย์ของฤดูใบไม้ผลิเริ่มส่องลงมาทางทิศตะวันออก

    นั่นสิ เริ่มซะลิเก นายคงคิดสินะว่าทำไมฉันถึงมาระบายเอาตอนนี้ มีปากทำไม่พูด นั่นสิ ฉันก็สงสัย ฉันอาจจะเป็นใบ้จริงๆก็ได้นะยุนโฮ แต่ฉันเห็นนายชอบแต่งนิยาย(ไม่สมกับตัวเลยแฮะ)เลยลองเขียนไดอารี่ที่นายซื้อให้ตอนของขวัญครบรอบสี่ปี อะไรนะ หน้าปกของนายน่ะ...เขียนไว้ตัวเบ้อเริ่ม น้ำเน่าสุดๆเลย...'เจ้าหญิงของผม เจ้าชายของแจจุง' เอาเข้าไป...ไม่ยักรู้ว่านายจะน้ำเน่าได้แบบนี้   แต่ให้ตายเหอะ เขียนนานๆชักเขิน ขอให้วันครบรอบห้าปีของเราเป็นวันที่นายอ่านแล้วขำทั้งวันแล้วกันนะ

                เจ้าหญิงของนาย....

                    ส่วนนายก็เจ้าชายของฉัน

                        รักหมีมากๆ

                        คิมแจจุง'

     


    'วันจันทร์ที่ไม่มีเรียนคาบเช้า แต่ชองยุนโฮมี หมีออกจากบ้านไปด้วยขอบตาดำๆเพราะเมื่อคืนดูบอล

    ฉันรั่วใช่มั้ยล่ะ? นายคงคิดแบบนี้พออ่าน วันนี้เราคบกันมาแล้ว1462วันแล้วล่ะ...นานเนอะ ไม่รู้นายทนความใบ้ของฉันได้ยังไง เออนี่ อยากจะบอกว่าฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลยล่ะ....เหมือนนายเป๊ะ ไม่มีเรียน ไม่อาบ คุณนายคิมแจจุง(ที่นายชอบค่อนขอดฉันบ่อยๆ)สลัดความสะอาดออกไปแล้ว~ เอาเวลามาทุ่มทุนเขียนไดอารี่เซอร์ไพรส์นายล่วงหน้าเลยนะ

            เจ้าหญิงของนาย

                นายก็ยังหมีเหมือนเดิม'

                   

     

    อีกหลายหน้าที่ดูเหมือนน้ำหมึกจะไหลออกมาเรื่อยๆ.....บันทึกทั้งหมด362วันของคิมแจจุงถูกเขาอ่านช้าๆ.....ความเจ็บปวดจุกอยู่ที่คอ ตาเริ่มพร่ามัวไปด้วยน้ำตาที่เขาชอบโกหกว่าไม่ควรจะมี....เสียงนุ่มๆที่เขาได้ยินไม่บ่อยนักดูเหมือนจะมาอ่านให้ฟังข้างๆหู ความรู้สึกที่สัมผัสได้ทำให้เขาแทบจะคลั่ง

    ทำไม....

    ทำไมไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้?

     

    ....ฉันจะได้รักนายให้มากกว่าที่ฉันเคยทำ

    นายจะได้ไม่เจ็บปวดแบบวันนั้น....และวันนี้

    'วันนี้เกริ่นสั้นๆ อีกปีนึงนายจะรู้ว่าฉันโกรธนายแค่ไหน ฉันชอบดื่มเหล้า ใช่ แต่นายดื่มเยอะ แถมกลับดึก พรุ่งนี้มีเทสต์ย่อย....ไปกับผู้หญิงอีกตามเคยนะไอ้หมีอืด ฉันไม่โกรธเรื่องนี้! แต่ฉันโกรธเรื่องที่นายจะเป็นตับแข็งตายตะหาก.....

            โกรธหมี

                    คุณแม่แจจุง'

    ข้างล่างเป็นซองยาที่ตอนนั้นเขากินหมด แก้อาการเมาค้าง...

    'ออกไปซื้อที่ข้างล่าง หมีกำลังอ้วกอยู่ในห้องน้ำ อยากถ่ายรูปเก็บไว้จริงๆ'

     

    ไม่มีใครที่เย็นชาได้ตลอด..............

    ความสดใสของพระอาทิตย์ที่อยู่ในหัวใจของแจจุงมีมานานแล้ว.....

    แต่สายเกินไปที่แสงแดดจะสะท้อนออกมาให้เขาเห็น


     

     

    หวังว่าตอนนี้ยังไม่สาย....

    ที่เขาจะบอกให้แจจุงรู้ว่าเขารักแจจุงมากแค่ไหน.....

     

    เพราะเหตุใดสุดท้ายผมก็ต้องตกหลุมรักคุณ?
    ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด
    ผมยังคงเอาแต่คิดว่าคุณยังอยู่ตรงนี้
    แต่เราไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนก่อนได้อีกแล้ว

     

    "พี่แจจุง....อ้าว พี่แจจุงไม่ได้อยู่กับพี่ยุนโฮเหรอฮะ?"

    เสียงใสๆของจุนซู น้องชายของแจจุงที่เขารู้จักผ่านๆดังขึ้น ยุนโฮยืนอยู่หน้าบ้านเล็กๆที่แจจุงเคยอยู่...ความหวังในใจดับไปจนแทบไม่มีเหลือ

    "รู้มั้ยว่าแจจุงไปไหน"

    เสียงติดจะแหบๆทำให้จุนซูเกือบพลั้งปากออกไปด้วยความสงสาร

    "เอ่อ...ไม่รู้ครับ"

    "ขอบใจนะจุนซู ถ้าเจอแจจุง....ฝากบอกเขาด้วยว่าพี่ขอโทษ"


     

    ยุนโฮจากไปแล้ว จากไปและทิ้งความเจ็บปวดให้แจจุงที่ได้ยินทสนทนานั้นทุกคำ ใบหน้าที่ไม่ได้รับการดูแลจนแทบจะทรุดโทรมของยุนโฮ แม้เวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์เท่านั้น ยุนโฮที่มารอเขาที่บ้านทุกวัน...และจากไปพร้อมความผิดหวังทุกวัน

    ขอโทษนะยุนโฮ....

    เรากลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้แล้ว.....

    ไม่มีทางอีกแล้ว....

    ลืมฉันซะ แค่นั้นก็พอ

    หวังว่านายจะพบของทั้งหมดนั่นแล้ว....

    ฉันรักนาย

     

     

    ฉันรักนาย

     

     

     

     

    ฉันรักนาย.....ยุนโฮ

     

    น้ำตาไหลออกมา.....อีกครั้ง และอีกครั้ง ใบหน้าหวานซูบลงตามกำลังใจที่หดหาย จุนซูมองหน้าพี่ชายตัวเอง...ความเจ็บปวดนั่นเขาก็รู้....แต่เขาทำอะไรไม่ได้

    "พี่แจจุง......ผมขอโทษ"

    "ขอโทษอะไรจุนซู...เราทำดีที่สุดแล้วนะ"

    "พี่แจจุง......"

     

    ความเสียใจที่เป็นอีกหนึ่งในบรรดาความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดในโลก คิมแจจุงก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ทุกข์ใจ...บ่วงของความรักคือสิ่งที่พันธนาการเขาให้ทรมาณ

    อีกไม่นาน...


    ความหมายที่พิเศษกอบกุมเอาไว้ด้วยวันนี้
    วันนี้คุณยืนอยู่ด้วยการแสดงออกอย่างมีความสุข
    คุณดูสวยงามเหลือเกินเมื่อสวดภาวนาอ้อนวอนต่อพระเจ้า

     

    'กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....หมีหนึ่งตัวทำกาแฟหกใส่เจ้าหญิง แล้วก็....เอ่อ....ยุนโฮ ฉันต่อไม่ออก ทำไงดี อ้อ! เจ้าหญิงตกหลุมรักหมีตั้งแต่แรกเห็น แล้วก็ผ่านไปสามเพลา หมีขอเจ้าหญิงแต่งงานและหมีก็กลายเป็นเจ้าชายรูปง๊ามงามที่ชอบทำอะไรกุ๊กกิ๊กๆ ชอบกินน้ำส้มผสมเหล้า ชอบแกงกิมจิด้วยล่ะ เออนี่ยุนโฮ ฟังแล้วอย่าลืมเขินนะ ถ้านายไม่เขินฉันคงเซ็งน่าดู'

    เสียงหวานๆที่ดังขึ้นในเครื่องเล่นเอ็มพีสามอันเก่านั่น อันที่ยุนโฮนึกครึ้มอะไรไม่รู้ฟังมัน และเขาก็รู้ว่าคำบอกรักของแจจุงหายไปอยู่ใน...เมมโมรี่อัดเสียงจวนจะเต็มเพราะเสียงที่อัดไว้แทบทุกวันแทบจะทะลักออกมาแล้ว

    "ชองยุนโฮ้ววววว ฉันรักนาย!"

    "หมีๆ หมีสามตัวนั่งอยู่บนโต๊ะ หึหึ..."

    ส่วนใหญ่จะแนวๆนี้ แนวที่เขาฟังแล้วขำกับความรั่วเงียบ....หากแต่ว่าเจ้าของเสียงน่ารักๆแบบนี้หายตัวไป...เกือบสองสัปดาห์แล้วที่แจจุงหายไปตั้งแต่คราวที่บอกเลิก ที่บ้าน มหาลัย หรือที่ไหน...เขาไม่เห็นแม้แต่เงา

    วางมันลงและเดินออกไปข้างนอก สัมผัสแสงอาทิตย์อ่อนๆของยามเช้าที่เขาไม่เคยสนใจมัน...สายลมเย็นพัดมาต้องมาทำให้รู้สึกสบายขึ้น แต่สายตาที่มองท้องฟ้าก็ไปหยุดอยู่ที่ตึกสูงที่อยู่ตรงข้าม

     

    คิมแจจุง.......

    ร่างบางกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงตรงกับเขาพอดี เขาเห็นหน้าของแจจุงชัด.....รายละเอียดเก่าๆกลับมาอีกครั้ง...ยุนโฮกำมือแน่น

    นั่นคิมแจจุงใช่มั้ย?...

    นายกลับมาแล้วใช่มั้ย?

    ร่างบางขยับปากพูด เสียงไม่ดังนักแต่เขาก็รู้ว่าพูดอะไร

    "ถึงหมียุนโฮ.....ฉันรักนาย"

    คำสั้นๆไม่กี่พยางค์ทำให้หัวใจที่แห้งผากของยุนโฮกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้งในรอบหลายวันที่ผ่านมา แจจุงยิ้มบางและโบกมือให้ยุนโฮ...น้ำตาใสๆไหลออกมาระผิวแก้ม ความเจ็บปวดวิ่งวูบทันทีที่ร่างสูงได้เห็นน้ำตาของแจจุง

    ร่างบางยกแขนขึ้นและทำท่าซารางแฮโยที่เขาเคยสอนแต่ไม่ยอมทำซะที ท่านั้นดูเก้ๆกังๆจนเขาขำออกมา....สายตาทั้งคู่สบกัน ความรักที่มีให้อีกฝ่ายดูมากมายจนไม่อาจบอกออกมาได้

    "แจจุง!!...."

    เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างตกใจเมื่อร่างบางหันหลังและวิ่งหายไปราวกับควัน ท้องฟ้าสดใสดูจะหม่นมัวเมื่อถึงตรงนี้ ยุนโฮวิ่งสุดกำลังไปที่ตึกตรงข้ามและตรงเข้าไปสอบถามที่ประชาสัมพันธ์

    "พี่ครับ...เห็นผู้ชายที่ใส่เสื้อมีฮู้ดสีขาวหน้าตาสวยๆมั้ยครับ?"

    แต่คำตอบคือไม่เห็น มีใครเห็นร่องรอยของแจจุง....

    เหมือนเงาที่จางหายอย่างง่ายดาย


    แต่ผมไม่ใช่คนที่นั่งอยู่ข้างๆคุณอีกแล้ว
    และภาพของคุณที่ได้รับพรนั้น
    คือสิ่งที่บอกผมว่าทำอย่างไรถึงจะจากไป?



    "ลืมฉันซะนะยุนโฮ...."

    กระซิบเบาๆอย่างปวดร้าว....ร่างของยุนโฮเดินออกมาจากตึกนั้นอย่างเศร้าสร้อย แจจุงเก็บผ้าเช็ดหน้าที่มีรอยจุดๆสีแดง ร่างบางยกมืขึ้นกุมขมับตัวเองด้วยความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมา...

    ทำไมนะ......

    ทำไม

     

     

    "ยุนโฮ..."

    เสียงเรียกเบาๆดังขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าหูคนตัวสูงที่ยืนแบบมึนๆงงๆอยู่ที่ประตู ร่างสูงเต็มไปด้วยความมึนเมา...ร่างเล็กตรงเข้าประคองด้วยความห่วงใยแต่ว่าถูกผลักออกมาอย่างแรง

    ปัง!!!!!

    "โอ๊ย...."

    ร้องเบาๆและน้ำตาคลอ ยุนโฮสะเปะสะปะเข้าไปในห้อง เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยของแอลกอฮอล์และผู้หญิง ศรีษะแจจุงกระทบเข้ากับขอบประตู ไม่มีรอยเลือด ไม่มีรอยแผลแต่อาการปวดหัวที่สืบเนื่องมาจากคืนนั้นทำให้แจจุงทรมาณมาตลอด....

     

    เนื่องจากเนื้องอกในสมองที่ตอนแรกไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อได้รับผลกระทบ ทำให้อาการเริ่มเรื้อรัง เนื้องอกนั้นได้ทับประสาทส่วนใหญ่ไว้....และอาการอยู่ในระยะสุดท้ายเนื่องจากแจจุงไม่ไปหาหมอ

    'วันที่ปวดหัวจี๊ดๆทั้งวัน

            ยุนโฮ เมื่อวานนายผลักฉัน เนี่ย หัวบวมไปซีกนึงเชียว น่าเกลียดจริง เมาอะไรก็ไม่รู้กระแทกหัวฉันซะแทบแตก ดูสิ นี่ฉํนแทบเขียนไหวเลยนะ จี๊ดไปทั้งหัวเลย หรือว่าฉันต้องไปหาหมอ? ไม่หรอก เปลืองจะตายชัก

                แจจุงที่ปวดหัวสุดๆ

                    ป.ล.วันนี้นายกำลังออกไปข้างนอกอีกแล้วล่ะ ให้ตาย'

     

    หากทุกคนยอมที่จะบอกความลับ....

    บางทีความเจ็บปวดอาจจะน้อยลงกว่านี้.......


    เพราะเหตุใดสุดท้ายผมก็ต้องตกหลุมรักคุณ?
    เมื่อก่อนเราเป็นอย่างไร
    ตอนนี้เราก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเช่นนั้นได้อีกแล้ว (ผมได้แต่คิด ได้แต่คิด)

     

    เงียบสงัด มีเพียงเสียงแอร์ปรับอากาศที่ดังอยู่ในความมืด....ร่างสูงของยุนโฮนอนก่ายอยู่ที่โซฟา ห้องรกไปทั่วเนื่องจากไม่ได้ทำความสะอาดมานาน....เสียงหายใจเบาๆดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

    ไฟเปิด

    ร่างที่บุกรุกเข้ามาจัดเก็บข้าวของทั้งหมดและจัดการห่มผ้าห่มให้ยุนโฮ แต่สัมผัสเบาๆนั้นทำให้ยุนโฮตื่นขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้

    "หือ.....แจจุง!"

    กระซิบเสียงแผ่วเมื่อเห็นคนที่ตนรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้า แจจุงยิ้มบางให้และนั่งลงข้างๆ

    "ฉันมาบอกลา"

    "นายจะไปไหน...ไม่นะแจจุง นายต้องอยู่กับฉัน"

    ความคิดในสมองดูปะปนเพราะความดีใจที่คนรักกลับมาอีกครั้ง แจจุงส่ายหน้าและเอามือลูบแก้มยุนโฮที่มีหนวดสากๆขึ้นด้วยความรัก ดวงตาสวยมีน้ำตาเอ่อคลอ....ร่างบางมองคนรักด้วยความรู้สึกโหยหา มองเท่าไหร่ก็ไม่เต็มอิ่ม

    "ฉันรักนาย...."

    "แจจุง..ฉันขอโทษ นายกลับมาเถอะ ฉันรักนาย"

    ยุนโฮอ้อนวอนต่อแต่แจจุงก็ยังส่ายหน้า...นิ้วเรียวแตะไปที่ปากของยุนโฮเบาๆและเริ่มเอ่ยปากพูด

    "ยุนโฮ.....วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันได้อยู่กับนาย

        มองเข้ามาในตาฉันสิ เห็นเงาของนายใช่มั้ย นั่นล่ะ ฉันอยากให้นายจำว่านายอยู่กับฉันตลอดไป ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ตาม.....ฉันอยู่กับนายเสมอ

        ยุนโฮ...ฟังดูจะเห็นแก่ตัวนะว่าฉันอยากอยู่กับนาย แต่ว่ามันไม่มีทางแล้วล่ะ...นายจะได้ฟังเสียงฉันอีกรึเปล่า? ฉันจะได้ฟังเสียงนายอีกรึเปล่า? ฉันรู้นะว่านายรักฉัน...นั่นล่ะ ฉันคงไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรือเข้าใจผิด แต่ฉันแย่จริงๆที่ไม่บอกนายหรือว่าไปทำอะไรที่ถูกต้องตั้งแต่แรก..."

    แจจุง....

    ทำไมถึงพูดแบบนี้...

    อย่าพูดแบบนี้สิ......

    "สัญญานะว่าฉันตายจากไปนายห้ามร้องไห้ ไม่สิ ร้องไปเถอะ แต่ว่าห้ามคิดตามฉันไป ใช้ชีวิตทั้งหมดแทนฉัน.....กลิ่นไอของฉันอยู่อยู่ที่นาย หัวใจของฉันอยู่ที่นาย ทั้งหมดของฉันอยู่ที่นาย....ฉันรักนาย ให้ตายเถอะ คำนี้พูดเท่าไหร่ก็ไม่พอ ฉันรักนายมากๆ....อยากบอกให้ฟังทุกวัน แต่ทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่บอกนะ?

        นายต้องยิ้มนะ ฉันชอบหน้านายเวลายิ้มที่สุดเลยล่ะ มันน่ารักน่าหยิกมากๆเลย พูดถึงฉันให้บอกว่า'แฟนผมคือแจจุง! คนที่น่ารักและหล่อที่สุดในจักรวาล' อย่าบอกว่าฉันสวยหรืออะไรเด็ดขาดเลยนะ ไม่งั้นฉันอาจจะตามมาหักคอนายก็ได้นะ...สัญญานะ เออนี่นายต้องเรียนให้จบ ทำงานดีๆที่นายชอบฉัน ฉันจะคอยมองนายจากบนนั้น....ถ้านายทำไม่ดีฉันน่าจะลงมากินนายเลยก็ได้"

    น้ำเสียงสดใสที่ขัดแย้งกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แจจุงพูดต่อไปเรื่อยๆ....มือหนึ่งก็กุมมือยุนโฮไว้ ดวงตาจับจ้องที่ใบหน้าคมอย่างไม่รู้จักพอ....

    ในเมื่อนี่คือเวลาสุดท้ายที่จะได้เห็น.....

    "ยุนโฮ...ระยะเวลาทั้งหมดที่เรารู้จักกันมา ฉันมีความสุขมากๆเลยนะที่ได้อยู่ด้วยกัน ของทั้งหมดที่ฉันทิ้งไว้ให้ นายหยิบขึ้นมาดู ห้ามเศร้า ห้ามร้องไห้แต่ให้หัวเราะแทน เวลานายเหงา นายมองขึ้นไปบนฟ้านะ เห็นมะ คนเค้าชอบพูดกันแบบนี้...เพราะมันโรแมนติกดี ใช่ๆๆ ฉันจะเป็นดาวให้นาย ดาวเจ้าหญิงที่นายเคยชี้สุ่มๆให้ฉันดูไงล่ะ ฉันจะอยู่ตรงนั้นตลอดไป ฉันจะมองนายจากตรงนั้นตลอดไป......

        จับมือฉันเป็นครั้งสุดท้าย.....ยุนโฮ....เวลาไม่เคยพอใช่มั้ย? แต่ทั้งหมดนี่ทำให้ฉันมีความสุขเสมอ ฉํนดีใจทีได้เกิดมาอยู่กับนาย ได้รักนาย และไม่ต้องทนมองนายจากไปก่อนฉัน...."

    แจจุงเอานิ้วออกและโผเข้ากอดเขาทั้งน้ำตา...ความอบอุ่นของร่างเล็กส่งผ่านมาที่เขา ยุนโฮกระชับกอดและเริ่มร้องไห้ใส่ไหล่แจจุง ครั้งสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้กอดคนๆนี้ ครั้งสุดท้ายที่จะได้ยินน้ำเสียงหวานๆ ครั้งสดท้ายที่จะได้บอกรัก....

    ทุกอย่างสายเกินไป...

    "ฉันรักนาย แจจุง...ฉันรักนาย...."

    พร่ำบอกอยู่แบบนั้น อยากให้แจจุงรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร

    "ขอโทษสำหรับที่ผ่านมา...ฉันมันโง่เอง ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ......"

    ร่างที่กอดกันสั่นระริกเพราะแรงสะอื้น แจจุงยิ้มบางๆกับคำบอกรักและขอโทษที่ได้รับ ร่างบางดึงตัวเองออกและจ้องไปในดวงตาของยุนโฮ ริมฝีปากบางประทับเข้ากับปากของยุนโฮ...เบา...นุ่มนวลและอ่อนหวาน.....

    สุดท้าย......

    "ฉันรักนาย...รักที่สุด"

    แจจุงยิ้มบาง เนื้อตัวค่อยๆใสขึ้นจนดูลางเลือน ยุนโฮคว้ามือแจจุงเอาไว้แต่ก็สัมผัสอะไรไม่ได้นอกจากอากาศ........

     

    จากไปแล้ว...

    "แจจุง....."

    จากไปตลอดกาล.......


    ทำไมผมถึงไม่กอบกุมมือของคุณเอาไว้?
    ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่
    คุณไม่อาจอยู่เคียงข้างผมอีกแล้ว (ไม่อาจเปลี่ยนแปลง)
     


    "พี่ยุนโฮ...ในนี้ฮะ"

    เสียงใสบอก ดวงตาของจุนซูแดงก่ำเพราะการร้องไห้ พี่ชายของเขาจากไปเมื่อคืนโดยที่ยุนโฮไม่รู้ ร่างบางของแจจุงที่นอนอยู่ในห้องดูเย็นเฉียบ ยนโฮเดินเข้าไปด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเล็กๆ...

    "แจจุง..."

    เสียงประตูปิดตามหลัง ยุนโฮเดินเข้าไปนั่งข้างๆ...ดวงตาจับอยู่ที่ใบหน้าของคนที่เขารักที่สุด มือใหญ่เลื่อนเข้าไปกุมมือบางที่สงบอยู่ข้างตัว

    "แจจุง....นายทิ้งฉันไปจริงๆด้วย"

    น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อได้เห็นทั้งหมด...ทำให้หัวใจเขาแทบจะสลายตามลงไป ความจริงทั้งหมดที่เขาไม่อยากรับรู้

    "ทำไมล่ะ.....ทำไมนายมาบอกลาแล้วจากกันไปง่ายๆ ไม่นึกถึงฉันเลยเหรอ...."

     

     

    "ทำไมล่ะแจจุง....นายจะแกล้งฉันแล้วหนีไปแบบนี้น่ะเหรอ...ตื่นมาดูชองยุนโฮ หมีตัวเดิมที่คอยแกล้งนายก่อนสิ..."

     

     

     

    "แจจุง.....ฉันขอโทษ"

     

     

     

    ร่างที่กลังนอนอยู่นั้นไม่อาจรับรู้อีกแล้ว....ไม่มีทางอีกแล้ว.....


    แต่กระนั้น แม้ว่าจะไม่มีที่ให้ผมได้อยู่ใกล้ๆคุณได้อีก
    แต่ผมก็ยังภาวนาว่าคุณ
    จะมีความสุขตลอดไป
    ไม่ว่ามันจะทำให้ผมต้องโดดเดี่ยวมากเพียงใดก็ตาม (ไม่ว่าจะโดดเดี่ยวอย่างไรก็ตาม)

     

    ดอกไม้สีขาวถูกวางลงข้างๆสุสานหินอ่อน ร่างสูงของยุนโฮนั่งลงข้างๆมัน ผ่านไปหนึ่งปีแล้วหลังจากที่แจจุงได้จากเขาไป...หนึ่งปีแล้วเช่นกันที่เขาเก็บตัวและไม่เที่ยวที่ไหน แต่ทำคะแนนจนได้รางวัลเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของคณะ

     

    "แจจุง....ฉันมาหาแล้วนะ"

    กระซิบเบาๆกับสุสานและลูบไปตามรอยสลัอย่างคิดถึง.....นัยน์ตาคมทอดมองขึ้นไปบนฟ้าและยิ้มบางๆ

    "ฉันอาดอกไม้ที่นายเคยบอกว่าชอบมาด้วยล่ะ....ตอนนี้ดอกไม้ที่ฉันเอามาให้นี่คงแย่งที่ทำกับข้าวของนายใช่มั้ย? นี่...ฉันยังไม่มีใครใหม่เลยนะ ฉันหวังว่าบนนั้นคงไม่มีให้นายเหมือนกัน....รู้รึเปล่าว่าฉันขยันเรียนเพื่อนายเลยนะ.....

     

    จุนซูกำลังเรียนคณะแพทย์ล่ะ เนี่ย เขาเก่งมากๆเลยนะ แจจุง....รู้มั้ยว่าน้องนายเข้มแข็งกว่าฉันอีก เขาเก่งมากๆเลยล่ะ......พอๆกับนายเลยนะ....ตอนนี้ฉันก็มองดาวทุกวันเพราะฉันคิดถึงนายทุกวัน ให้ตายเถอะแจจุง....ฉันยังคิดทุกทีเลยว่านายยังอยู่ข้างๆฉัน ไม่มีแกงกิมจิที่ไหนอร่อยเท่าของนายอีกแล้วนะ....

     

    แค่นี้พอแล้วล่ะแจจุง...ฉันเขินหลุมศพแถวนี้ อีกไม่นานคงทะลุดินออกมาอ้วกใส่ฉันกันหมด...."

     

    ยุนโฮลุกขึ้นและเดินหายไป....มีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้า พร้อมกับชื่อคนที่อยู่ในหัวใจของเขาดังกังวานอยู่ในหัว....

     

     

    "ฉันรักนาย...เจ้าหญิงของฉัน..."

    _________________________________

    [MeaN Talks:]

    ย๊าก!!!

    ทุ่มเทมากกกก!!

    พรุ่งนี้มีนไปเข้าค่าย....= =

    ตายๆๆๆๆ!!!

    ฉีกแนวนะ ตอนก่อนเพิ่งแต่งเอ็นซี- -ll

    ได้ไอเดียมาจากเพลงชื่อยาวๆของดงบังพอดี แต่จริงๆเนื้อเรื่องเอี่ยวกับเพลงแค่ครึ่งเดียวเองมั้ง?

    แต่มันไม่เศร้าเท่าไหร่แฮะ น้ำตาซึมๆแค่นิดเดียวเอง เศร้าไม่เศร้าบอกด้วยนะคะ=O=

     

    ป.ล.เตย...เค้าจะเอากล่องไอติมที่ฟาร์มกลับมาให้นะ>O<!!! ขอให้เอ็นจอยกับวันที่แกไม่ต้องเข้าค่าย บู่!!!!!!


    first edit:: 26 June 2008
    second edit::(แก้คำผิด) 15 June 2008

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×