คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : [YuSoo]My Dollblood...ตุ๊กตาสีเลือด
[YuSoo]My Dollblood...ตุ๊กตาสีเลือด
[
SM
]Yusoo (รึเปล่า?)
“ข...ขอโทษครับ!”ยูชอนบอกเสียงสั่นในขณะที่ก้มหน้าไม่สบตาบุรุษอีกคน
“นึกว่าขอโทษแล้วจะหายรึไง!!!”เสียงอีกเสียงตวาดกลับก่อนจะซัดเปรี้ยงให้ที่ใบหน้าคมจนร่างสูงหันไปตามแรง
..
.
.
ร่างของบุรุษที่น่าสมเพชนอนจมกองเลือดโดยมีอีกคนยืนค้ำหัว ริมฝีปากอิ่มกระตุกวูบ เท้าเขี่ยศรีษะของผู้เคราะห์ร้ายไปมาแล้วพึมพำเสียงระรื่น
“แย่จัง...เผลอลงมืออีกจนได้”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก....
หลายศพแล้วจากชายคนนี้ ปาร์ค ยูชอน
บุรุษปีศาจไม่จำเป็นต้องมีอาวุธก็ฆ่าคนได้แต่เพื่อความสุข สนุกน่าหฤหรรษ์บางครั้งมันก็ต้องมีอุปกรณ์ช่วย
นัยน์ตาคู่คมมองเลือดสีแดงเหม็นคาวที่ชุ่มมือด้วยรอยยิ้มเฉกเช่นทุกที การฆ่าคนมันยิ่งกว่าความสุขใดๆที่ได้รับ
การทรมาณ....
เสียงอ้อนวอนขอชีวิต เสียงร่ำร้องและสายตาสาปแช่งดูกี่ครั้งมันก็สวยงามยิ่งกว่าจิตรกรเอกของโลกมาบรรจงวาดไว้
งดงาม...หาค่ามิได้
ยูชอนเดินออกมาจากตรอกมืดก่อนจะก้าวขึ้นรถของตัวเอง ชายหนุ่มขับพวงมาลัยเลี้ยงไปตามทางเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ราวเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่เคยมี
ร่างสูงก้าวลงจากรถเปิดประตูบ้านตัวเองพร้อมตะโกนเสียงนุ่มทักทายน้องชายเพียงคนเดียวอย่างทุกวัน
“หิวรึเปล่ายูฮวาน....”
คนถูกทักหันหน้ามามองด้วยสีหน้าตื่นกลัว ใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือด ยูชอนไม่สนใจแต่กลับพูดต่อโดยไม่สนใจสายตาที่กร้าวขึ้นของน้องชาย
“ลืมไป...แกมันโดนตัดหลอดเสียงพูดไม่ได้”ยูชอนว่าเสียงเรียบพลางหันคุยกับยูฮวานที่ถูกโซ่ล่ามไว้ที่โซฟาที่ทำเพียงได้แค่นั่งกับนอนแค่นั้น “ตุ๊กตาในห้องใกล้พังแล้ว...เดี๋ยวฉันจะเลือกส่วนที่อร่อยที่สุดมาให้แกกินแล้วกันนะน้องชาย....”
ถ้ายูฮวานพูดได้...
ถ้ายูฮวานขัดขืนได้...
ทุกสิ่งทุกอย่างจากพี่ชาย...เขาไม่เคยต้องการ
ยูชอนเดินเข้าไปในห้องเก็บของสะสม ตุ๊กตาที่ถูกเล่นทิ้งไว้สองวันกำลังนอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าโดยมีโซ่พันธนาการอย่างน่าสงสาร
“ฉันมาเล่นด้วยเป็นครั้งสุดท้ายนะซองมิน....”
“ด...ได้โปรด ปล่อยผมเถอะนะครับ...”เสียงหวานดังแหบแห้ง น้ำตาที่ไหลไม่เคยหยุดตลอดสองวันที่ผ่านมาเริ่มไหลหนักกว่าเดิม
“เดี๋ยวก็ปล่อยแล้ว...”ยูชอนบอกเสียงต่ำ ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ริมฝีปากอิ่มแสยะยิ้มก่อนบอกเสียงยะเยือก “แต่ตอนนี้น้องฉันหิว...”
คมมีดแวววับปรากฎแก่สายตา กระต่ายตัวน้อยเริ่มดิ้นขลุกขลักหนีมัจจุราชที่เข้ามาใกล้ รอยยิ้มเหี้ยมระบายบนดวงหน้าคมก่อนมือคู่นั้นจะค่อยๆกรีดใบหน้าขาวจนเป็นรอยก่อนจะลากยาวไปถึงคางมน เลือดสีแดงสดซึมตามทางที่ใบมีดลากผ่าน ยูชอนยกมีดขึ้นแล้วกรีดซ้ำรอยเดิม
มีดสีเงินถูกย้อมจนแดงฉาน มันถูกกรีดผ่านผิวหนังบางๆแหวกเป็นทางยาวให้น้ำสีแดงข้างในได้ไหลออกมา
“ปล่อย ฮือๆๆ ผมเจ็บ....”ซองมินคร่ำครวญแต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยได้รับความปราณี
“นี่กรรไกรผ่าตัดล่ะ”ยูชอนยิ้มแสยะ
“ไม่นะ...”ซองมินพึมพำอ่อนล้าเหมือนจะรู้ว่าอะไรจะตามมา
ยูชอนเสียบกรรไกรผ่าตัดเข้าไปตรงท้องซองมินทันทีก่อนจะลากกรรไกรนั้นขึ้น ผิวหนังสีขาวนวลปริแยกขาดออกจากกัน
แควก!!
เสียงเหมือนเวลาตัดผ้าให้ฉีกขาด ยูชอนแสยะยิ้มสยองขวัญเมื่อเห็นร่างเล็กที่น้ำตาปริ่มเบิกตากว้าง เลือดจำนวนมากไหลพรั่งพรูออกมาจากแผลที่เปิดอย่างน่ากลัว
“ตุ๊กตาใกล้พังอยู่ไปก็เท่านั้น”สิ้นคำร่างสูงก็ปาดมีดผ่านหลอดลมทันที ร่างบางกระตุกเฮือกนัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างเหลือกค้างอย่างน่ากลัว เลือดเหม็นคาวพุ่งทะลักเหมือนท่อประปาแตก ยูชอนเลียคราบเลือดที่มุมปากแล้วยิ้มอย่างพออกพอใจ
สวยงามอีกแล้ว...
งดงามยิ่งกว่าตอนมีชีวิตอีก...
ซองมินนายควรขอบคุณฉันนะที่ทำให้นายสวยงาม....
ร่างสูงค่อยๆก้มลงแร่เนื้อขาวๆของกระต่ายน้อยออกมาเป็นชิ้นๆเพื่อให้น้องชายที่รักที่กำลังรออาหารชั้นเลิศไม่ต้องรอนาน
คมมีดที่คมอย่างไร้ที่ติผ่าเอาเนื้อสีชมพูมีไขมันแซมออกมา เขาผ่ามันจนเห็นกระดูสีขาวโพลน เนื้อก้อนโตที่ถูกเฉือนออกมาถูกเอาวางลงบนจานสีขาวก่อนร่างสูงจะควักเอานัยน์ตาที่เบิกค้างนั่นมาวางตกแต่งไว้ด้านบน
มื้อนี้...สำหรับนายเลยนะยูฮวาน...
________________________________
“โอ๊ย แจจุงยืนหน้าบึ้งเป็นตูดลิงอยู่ได้น่า!”จุนซูบอกขันๆในขณะที่แจจุงส่งค้อนวงโตมาให้ ฮยอกแจหัวเราะออกมาก่อนจะไขความข้องใจให้เพื่อนรัก
“มันดันไปทะเลาะกะแฟนน่ะสิ...”
“พี่ยุนโฮอ่ะเหรอ?”
“หุบปาก!!!”เสียงหวานตวาดลั่นอย่างหงุดหงิด จุนซูหัวเราะแห้งๆกะท่าทีของเพื่อนคนสวยก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง
“ไปก่อนนะ...”
“อื้อ พรุ่งนี้เจอกันจุนซู...”^O^
“อย่ากลับบ้านไปฉุดใครเค้าล่ะไอ้เตี้ยโลมา”=O=”
จุนซูโบกมือลาไม่วายย้อนสายตาดุๆไปให้แจจุงที่เอ่ยคำลาได้แสบสันต์แต่ไม่มีใครรู้ว่าจุนซูคนนี้กำลังจะเปลี่ยนไป...
เปลี่ยนไปตลอดกาล....
“อ้ะ!”ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อดันเดินชนเข้ากับคนแปลกหน้า คนตัวเล็กรีบก้มหน้าขอโทษขอโพยในทันที “ขอโทษฮะ”
“ตุ๊กตา...”บุรุษแปลกหน้าแย้มรอยยิ้มวิปริตจุนซูขมวดคิ้วก่อนสติทั้งหมดจะดับวูบ
ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ ความอ่อนล้าแล่นวาบทั่วร่างกายที่หนักอึ้งไม่มีแรงแม้แต่จะขยับ เปลือกตาหนักอึ้งสมองมึนงงจำความได้ลางๆว่าเดินชนกับใครไม่รู้พอรู้ตัวอีกทีก็มานอนที่ไหนก็ไม่รู้และที่ติดตาก็คือ...
ใบหน้าของผู้ชายคนนั้น...
น่ากลัว...
อันตราย...
จุนซูตบหน้าตัวเองดังแป๊ะให้ตื่นและเขาก็ได้ตื่นเต็มตาเมื่อหันไปเจอเข้ากับเพื่อนร่วมห้องที่หายหน้าไปสองวันเต็ม
“ซองมิน!!!”คนตัวเล็กกรีดเสียงร้องเรียกชื่ออีกคนอย่างไร้สติ ใบหน้าหวานซีดขาวเหมือนกระดาษกับใบหน้าที่มักเปื้อนรอยยิ้มของเพื่อนที่ตอนนี้ถูกเฉือนออกไปครึ่งหน้า คราบเลือดเขรอะกรังเต็มบริเวณพอๆกับหนอนที่ไชไปทัวหน้าศพ
ก่อนที่คนตัวเล็กจะเริ่มเป็นบ้าประตูก็ถูกเปิดออก ยูชอนเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มวิปริตอย่างที่จุนซูหนาวสะท้าน
แจจุง...
ฮยอกแจ...
ช่วยฉันด้วย...
“ฉันเพิ่งเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ส่วนนั่นตุ๊กตาตัวเก่าอย่าไปสนใจมันเลย...”ยูชอนบอก จุนซูร่นตัวถอยหนีร่างสูงที่ก้าวเข้ามา “รู้มั๊ย...นายเป็นตุ๊กตาที่สวยที่สุดของฉันเลย”
ฉันไม่ใช่ตุ๊กตา...คนตัวเล็กร้องค้านอยู่ในใจ
“น...นายฆ่าซองมิน...น”เสียงหวานสั่นระริก ยูชอนเลิกคิ้วแปลกใจ
“รู้จักกันด้วยเหรอ...ช่างเถอะ ฉันไม่สนใจ”ยูชอนบอกปัด จุนซูเริ่มอยากร้องให้ใครก็ได้มาช่วยเขาที ผู้ชายตรงหน้ามันไม่ใช่คน!!
และด้วยความรู้สึกที่เหมือนสุนัขจนตรอก สันชาตญาณดิบในการเอาตัวรอดก็ถูกปลุกขึ้น จุนซูยันตัวลุกออจากเตียงคว้านาฬิกาหัวเตียงเขวี้ยงใส่หน้าร่างสูงแล้ววิ่งหนี ยูชอนสบถด่าก่อนจะกระชากปอยผมคนตัวเล็กเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ยยย!! ผมเจ็บ!”จุนซูร้องโอดครวญ ยูชอนกระชากศรีษะจุนซูให้มามองหน้าตน มือกร้านอีกข้างเชยหน้าจุนซูขึ้นสูงก่อนจะขย้ำคอขาวด้วยแรงอารมณ์จนซูเริ่มดิ้นพล่านขาดอากาศหายใจ
ยูชอนปล่อยมือทิ้งให้ร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงและก่อนจะได้ทำอะไรต่อมีดพับอันเล็กก็ปักฉึกเข้าให้ที่ไหล่ซ้ายของจุนซู
“โอ๊ยยยยยยยย!!!!”โลหิตสีสดซึมออกตามเนื้อผ้าสีขาวย้อมจนแดงฉาน “คุณมันโรคจิตชัดๆ!!!”จุนซูตะโกนด่าร่างสูง ยูชอนเอียงคอเล็กน้อยพร้อมยิ้มรับราวได้คำชม
“ไม่อ้อนวอนเลยหรือ?....”
ได้เหรอ...ทำอย่างนั้นได้ด้วยเหรอ?
อ้อนวอนแล้วจะปล่อยผมไปมั๊ย?
ได้มั๊ย?....
“ไม่มีทาง”ยูชอนที่อ่านสายตาของจุนซูตอบทันควัน ใบหน้าหวานซีดลงกว่าเดิม
กลัว...
น้ำตาทั้งความกดดัน ความเจ็บปวดจากร่างกายและจิตใจค่อยๆกลั่นออกมาจากดวงตาคู่สวยจนน่าสงสารแต่ยูชอนก็ทำเพียงแค่ยืนชื่นชม
ตุ๊กตาสีเลือดที่กำลังร้องไห้...
ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้...
ริมฝีอิ่มกระตุกยิ้ม หัวใจดวงน้อยของจุนซูกระตุกวูบก่อนร่างทั้งร่างจะถูกกระชากอาภรณ์ที่คลุมกายออกตามด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ได้รับ
มีดเล่มเดิมลากกรีดจารึกบนหน้าอกขาวเป็นชื่อของตัวเอง เลือดซึมผ่านรอยเนื้อที่ถูกทำให้แยกออกจากกัน เจ้าของใบหน้าหวานกรีดร้องอย่างน่าสังเวชก่อนจะสลบไปในที่สุดปล่อยให้ร่างสูงกรีดย้ำความเป็นเจ้าของบนหน้าอกขาว
ตุ๊กตาตัวนี้เป็นของฉัน ไม่ยกให้ใคร...
แค่เขียนชื่อแสดงความเป็นเจ้าของ...จะเป็นไรไป...
จุนซูค่อยๆปรือตาขึ้นมาได้อย่างยากลำบากเต็มที ร่างกายแทบจะขยับไม่ได้ความเจ็บปวดที่ได้รับ อยากให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแค่ฝันร้าย ไม่อยากให้ความเป็นจริงได้ตื่นขึ้นมาเจอกับปาร์ค ยูชอน คนที่เขาทั้งกลัวทั้งเกลียด
และแล้วฝันร้ายก็กลายเป็นจริงเมื่อคนในห้วงฝันร้ายเปิดประตูเข้ามาพร้อมร้อยยิ้มเฉกเช่นทุกที จุนซูไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะลุกหนี ยูชอนทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงบอกเสียงนุ่ม
“ไปโรงเรียนไหวมั๊ย?”
คำบอกที่เล่นดวงหน้าหวานงุนงง จับมาแล้วจะปล่อยไปทำไม?
“ผ...ผมไปได้ด้วยเหรอ?”
“เฉพาะนายคนเดียว สำหรับคนอื่นสองวันฉันฆ่าทิ้งแต่นาย...ฉันถูกใจก็ว่าจะเลี้ยงไว้ดูเล่นนานๆหน่อย”คำเฉลยที่น่าขนลุกเล่นเอาจุนซูถึงกับประสาทเสีย
หมายความว่ายังไงเขาก็ต้องตายใช่ไหม?
ยังไงก็ตามแต่ ดิ้นรนยังไง...สุดท้ายจุดจบก็คือชีวิตอยู่ดีสินะ
งั้น...ทำไมถึงไม่รีบฆ่า
อยู่ให้ทรมานมันเลวร้ายยิ่งกว่าการตายเสียอีก
“ผ...ผมไปไหว”จุนซูค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งในขณะเดียวกันก็ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่นเพราะความเจ็บที่แล่นวาบทั่วร่างกายและไอ้ที่หน้าอกมันก็เจ็บยิ่งกว่าจุดอื่น
ยังไงก็จะไป...อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ที่นี่
จะได้ไปเจอแจจุง....ฮยอกแจ
ยูชอนเลิกคิ้วอย่างรู้ทันความคิด ร่างสูงเอาชุดนักเรียนสีขาวสะอาดต่างจากตัวเมื่อวานที่ถูกย้อมไปด้วยสีเลือด
“ค...คุณไปเอามาจากไหน”
“บ้านนาย...”คำตอบเรียบเล่นเอาลมหายใจร่างเล็กแทบสะดุด แม้แต่บ้านเขายูชอนก็ยังรู้จัก
หนทางรอด....หนทางหนีจะมีเหลือไหม...
“อย่าคิดหนีเพราะมันเปล่าประโยชน์ ยังไงฉันก็หานายเจอ...”
ริบหรี่...หนทางรอดน้อยเต็มที
จุนซูคว้าชุดนักเรียนเข้ามาก่อนจะลุกขึ้นเข้าห้องน้ำที่อยู่ตรงมุมห้อง ยูชอนยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
“ยูฮวาน...จุนซูเป็นตุ๊กตาที่น่ารักใช่มั๊ย?”
คนเป็นน้องหันมามองพี่ชายด้วยสายตาขลาดกลัวก่อนจะรีบผงกหัวรับคำ ร่างที่ถูกโซ่ล่ามซีดขาวจนเหมือนผีดิบแต่ยังไงก็ตามแต่ยูชอนก็ไม่เคยสนใจ
“ฉันไม่น่าตัดหลอดเสียงนายเลย...แฮะ”ยูชอนบ่นกับท่าทางที่น้องตัวเองพูดไม่ได้ ภาพในวันที่ยูฮวานถูกทำร้ายด้วยน้ำมือพี่ชายแวบเข้าหัวก่อนเจ้าตัวจะดิ้นพล่านอย่างขาดสติ ใบหน้าขาวส่ายไปมาอย่างคนขลาดกลัว
จุนซูเดินออกมาจากห้องพร้อมสะพายเป้พาดบ่าด้วยความเจ็บปวด ร่างบางส่งรอยยิ้มอาทรไปให้น้องชายของยูชอนปลอบใจระคนสงสารไปในเวลาเดียวกันทั้งๆที่ตัวเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักนิด
ไม่เคยได้รับความเห็นใจและรอยยิ้มที่สวยงามก็ไม่เคยจะได้รับ...
ยูฮวานมองภาพตุ๊กตาของพี่ชายอย่างนิ่งงันก่อนริมฝีปากได้รูปจะค่อยๆคลี่ยิ้มตอบ ยูชอนเหลียวหันไปมองจุนซูอย่างไม่พอใจ
ไม่พอใจที่ยิ้มให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขา....แม้คนที่ว่าจะเป็นน้องชายของเขาเองก็ตาม
“ไปได้แล้ว!!!”น้ำเสียงห้วนกรรโชก จุนซูแค่นยิ้มเย็นชาวูบหนึ่งก่อนจะเดินออกไปในสภาพอ่อนระโหยโรยแรงเต็มที
“จุนซู นายเป็นอะไรเนี่ย!!”แจจุงดูท่าจะตกใจไม่น้อยกับอาการของเพื่อนรัก ผิวขาวที่มักเรื่อสีชมพูบัดนี้ซีดขาวไร้สีเลือด ใบหน้าของคนที่ปกติร่าเริงสม่ำเสมอวันนี้นิ่งสนิทมีเพียงรอยยิ้มอ่อนล้าที่ส่งออกมาเป็นพักๆเท่านั้น
“ไม่ได้เป็นไรหรอก...”
“ไม่จริง นายดูเหมือนคนไม่สบาย”ฮยอกแจเสริม จุนซูส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“บอกว่าไม่มีอะไรไงล่ะ...”
“อ้ะ! คยูฮยอน”แจจุงร้องทักเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกคน บุรุษหมาป่ารูปหล่อที่บัดนี้แทบจะไม่เหลือเค้าเดิม
เขาที่มักจะมาทักทุกคนด้วยคำพูดเดิมๆทุกๆวัน
“เห็นซองมินบ้างมั๊ย?”
ซองมิน...
ซองมิน...
จุนซูใบหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม ภาพของเพื่อนคนนั้นยังคงติดตาในความทรงจำ ศรีษะกลมเริ่มส่ายไปมาอย่างช้าๆ
“น...นายเห็นซองมินใช่ไหม!!!”คยูฮยอนเขย่าตัวจุนซูไปมาด้วยแรงอารมณ์ ส่วนจุนซูก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเหงื่อแตกซิกพึมพำถี่ระยิบ
“ม...ไม่เห็น ไม่เห็น”
“คยูพอได้แล้ว!!!”ฮยอกแจเข้าไปแกะคยูฮยอนออกจากจุนซู เพื่อนเขาคนนี้นับวันยิ่งดูเหมือนคนวิกลจริตขึ้นมาทุกที บางทีคงจะเป็นตั้งแต่วันที่ซองมินหายไป
น่าสงสาร...
แต่ในขณะเดียวกันในความสงสารก็มีความสมเพช...
“ม...ไม่เห็น ฮือ....ไม่เห็น!!!!”เสียงหวานร้องเสียงสูง มือบางกุมศรีษะพลางส่ายไปมาราวคนเสียสติก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นพึมพำคำเดิมอยู่อย่างนั้น แจจุงพยุงจุนซูขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“นายเป็นอะไรจุนซู...”
ไม่เห็นไง...
อย่ามองฉันแบบนั้นสิแจจุง...
ก็บอกว่าไม่เห็น...
ไม่เห็นจริงๆนะ...
อย่ามองฉันแบบนั้น...ฉันไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ
“โอ๊ยยยยยยยยยยยย!!!!”มือบางกุมศรีษะแน่น ความรู้สึกปวดหัวราวกับมันจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆจุนซูส่ายหน้าไปมาราวคนเสียสติแข่งกับอีกคนที่พึมพำถามเหมือนคนบ้า
“นายเห็นซองมิน....เห็นซองมิน”
“โอ๊ยยย ปวดหัว!!!!”
“เร็วๆเข้า พาจุนซูไปห้องพยาบาลเร็วเข้า!!”ฮยอกแจร้องเสียงหลงพลางกระพือปีกไก่อย่างลนลาน แจจจุงหิ้วครีบโลมาขึ้นมาอย่างทุลักทุเลก่อนจะด่าให้ฮยอกมาช่วยหิ้วครีบอีกข้าง
และเมื่อถึงห้องพยาบาลแจจุงกับฮยอกแจก็ให้จุนซูนอนบนเตียง ร่างเล็กที่ตอนนี้สลบไปแล้วหน้าซีดจนน่ากลัว
“เสื้อจุนซู....แดงๆรึเปล่า?”แจจุงพึมพำและยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบรับแจจุงก็ปลดกรดุมชุดออกเผยให้เห็นแผลข้างในที่เลือดซึม
ปาร์ค ยู ชอน
รอยแผลที่เป็นอักษรชื่อใครสักคนทำให้แจจุงเริ่มประมวลความคิดในขณะที่ฮยอกแจได้แต่ร้องโหวกเหวกโวยวาย
“ปาร์ค ยู ชอน ฉันจะฆ่ามัน”เสียงสวยพึมพำถี่ยะเยือก ฮยอกแจทำตาโต
“นายรู้เหรอว่ามันเป็นใคร?”
“ไม่รู้....แต่ฉันรู้ว่าเย็นนี้มันต้องมาหาจุนซู”แจจุงตอบเสียงเย็นในขณะที่มองบาดแผลบนหน้าอกอย่างแค้นเคือง คนที่มันทำกับเพื่อนเขาถึงขนาดนี้มันต้องตาย
แล้วฉันนี่แหล่ะ....ที่จะฆ่ามันเอง
“แจจุง ฮยอกฉันกลับบ้านก่อนนะ”
“ไปส่งมั๊ย...”ฮยอกแจถามด้วยความเป็นห่วง “นายไม่สบายอยู่ด้วยนี่นา...”
“ไม่ต้องหรอกครับ...วันนี้จุนซูมีคนมารับน่ะ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังพร้อมมือหนาที่ถือวิสาสะวางบนไหล่บาง จุนซูหน้าซีดลงทันที
ปาร์ค ยู ชอน
“คุณเป็นใคร?...”แจจุงถามเสียงเรียบ ใบหน้าสวยถมึงทึงจ้องไปยังอีกฝ่าย
“ปาร์ค ยู ชอน ครับ...เป็น...”
“พวกโรคจิต”เสียงหวานต่อให้ ยูชอนถลึงตาพรวดมองคนสวยตรงหน้าที่ดูจะเหมือนจะรู้อะไรมากกว่าที่เขาคิด จุนซูจากเดิมที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งได้ยินคำตอบของแจจุงร่างเล็กก็เป็นลมล้มพับไปทันทีไม่ใช่ว่าถูกยูชอนจับไว้ จุนซูคงล้มลงไปแล้ว
ควับ!
มือบางกระชากมือร่างสูงออกทันทีก่อนแจจุงจะคว้าเอาตัวจุนซูเข้ามาหาตัวเอง ริมฝีปากบางยิ้มเหยียด
“อย่าเอามือสกปรกๆของคุณมาจับเพื่อนผม!!”แจจุงตวาดลั่นในขณะที่ฮยอกแจยืนอ้าปากค้าง
คนที่ทำกับจุนซูได้ขนาดนั้น...
แจจุงไปต่อปากต่อคำแบบนั้น
คนที่เดือดร้อนมันจุนซูนะ...และแจจุงเองก็ด้วยที่อาจจะโดนคนวิปริตพวกนี้มันเล่นงาน
“จุนซูเป็นตุ๊กตาของผม”
“จุนซูไม่ใช่ตุ๊กตา!!!”แจจุงตวาดลั่นออกมาอีกหน “จุนซูเป็นมนุษย์ มีชีวิต มีหัวใจ!!!”แจจุงตวาดออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
“เอาจุนซูคืนผมมา...อย่าให้ผมต้องใช้กำลัง”ยูชอนกดเสียงต่ำ ริมฝีปากแสยะยิ้มในขณะที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ “จะว่าไปนายก็สวยดีนี่นา...”
“แกจะทำอะไรแจจุง!!!”
“ยุนโฮ...”
“คนรักนายงั้นเหรอ...ความรักน่าสะอิดสะเอียนพรรค์นั้น”ยูชอนส่งเสียงขึ้นจมูกและก่อนที่แจจุงจะทำอะไรได้ทัน ร่างเพื่อนรักในอ้อมแขนก็ถูกช่วงชิงไปอีกแล้ว
แล้วหายไปเหลือเพียงธาตุอากาศ...
“จุนซู!!!!!!!!!!!”แจจุงร้องลั่นในขณะที่ฮยอกแจเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรง
“เมื่อกี้มันอะไรบอกฉันได้รึเปล่า?”ยุนโฮถามขึ้น ฮยอกแจจึงเล่าทุกอย่างให้ฟังยุนโฮพยักหน้าหงึกหงัก “เข้าใจแล้วแต่เราสองคนน่ะอย่าเพิ่งทำอะไรวู่วามล่ะโดยเฉพาะนายแจจุงเข้าใจที่ฉันพูดไหม”
“ฉันจะฆ่ามัน...”
“พูดอะไรน่ะแจจุง...ความแค้นไม่ได้ช่วยตัดสินปัญหาหรอกนะ!!”
“ไม่งั้นมันจะฆ่าเพื่อนฉัน!!”
“นายก็เลยจะชิงฆ่ามันก่อน...”ยุนโฮถามเรียบก่อนจะถอนหายใจเฮือก “ตามใจแต่ทำอะไรให้บอกฉันก่อนแล้วกัน...”
“ฮือๆ ปล่อยผมออกไป ฮือ!!!!!!”จุนซูร่ำไห้ปานจะขาดใจ
“จากนี้ไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วเข้าใจมั๊ย?”คำสั่งที่ร่างเล็กต้องส่ายหน้าว่าไม่เข้าใจก่อนจุนซูจะจับแขนเสื้อยูชอนเขย่าไปมา
“ปล่อยผมเถอะนะครับ...ขอร้อง”จุนซูบอกเสียงสั่น ยูชอนไม่ตอบรอยยิ้มแสยะปรากฏขึ้นอีกครั้งอย่างที่จุนซูได้แต่กลัวจับจิต
“ของของฉัน ฉันไม่ปล่อยให้ใครหรอก”ยูชอนบอกเรียบก่อนจะต่อด้วยคำพูดที่ทำให้จุนซูหนาวสะท้าน “แจจุงเพื่อนนายน่ะ...ร้ายจริงๆ ร้ายจนฉันอยากจะฆ่าให้ตาย”
คนอย่างยูชอนพูดจริงแล้วก็ทำจริงแน่!
“อย่าทำอะไรแจจุงนะ!!”
“ก็ได้...ถ้านายจะทำให้ฉันหายโกรธ”
“ให้ผมทำอะไรผมก็ยอม...แต่อย่าทำอะไรแจจุงเลยนะ”
“งั้น....กรีดข้อมือตัวเองซ่ะ”คำสั่งที่มาพร้อมคัตเตอร์ในมือยูชอน จุนซูเม้มริมฝีปากแน่น “จะทำรึไม่ทำ”
จุนซูเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะคว้าคัตเตอร์เข้ามาบรรจงกรีด ใบมีดแทงผ่านเนื้อให้แยกออกจากกันตามด้วยโลหิตสีแดงที่ไหลออกมาเป็นสาย จุนซูเม้มริมฝีปากแน่นอย่างคนขลาดกลัวน้ำตาเริ่มไหลออกมามากผสมเข้ากลับหยาดเลือดให้เป็นสีส้ม
“ไม่ได้ดั่งใจเลย เอามานี่!!”ยูชอนตวาดเสียงเขียวก่อนจะกระชากคัตเตอร์ออกมาจากมือเล็กแล้วพลักจุนซูนอนลงกับเตียง อาภรณ์ถูกกระชากออกตามมาด้วยคัตเตอร์เล่มเดิมที่เข้ามากรีดซ้ำรอยเดิมตรงหน้าอก
“โอ๊ยยยยย ฮือๆๆ!!!”จุนซูร้องลั่นพร้อมกับน้ำตาความเจ็บปวดที่ไหลริน ยูชอนใช้ใบมีดกรีดบริเวณท้องน้อยจนเลือดซึมก่อนเจ้าตัวจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปสัมผัสหยาดเลือดสีแดงด้วยความชื่นชม มือแกร่งไล้ไปเรื่อยจนถึงขอบกางเกง
แล้วกางเกงของจุนซูก็ถูกเลื่อนลงมาอย่างไม่รู้ตัว
“นั่นคุณจะทำอะไรผม!!!”ร่างเล็กร้องลั่นเมื่ออยู่ดีๆร่างสูงก็ถอดอาภรณ์เบื้องล่างของตัวเองออกพร้อมกับขาเขาให้แยกออกจากกันและยังไม่ทันได้ส่งคำถามอะไรต่อไปคำตอบก็เข้ามาให้รับรู้ทันที
แท่งเนื้อร้อนที่อยู่ๆก็กระแทกเข้ามาทางช่องทางด้านหลังอย่างไม่มีการเตรียมตัวมาก่อน จุนซูเบิกตากว้างก่อนจะกรีดร้องด้วยความสาหัส
ใบมีดสีเงินที่หยอกล้อกับแสงไฟบรรจงกรีดแผ่นหลังเปลือยด้วยความลุ่มหลง จุนซูร่ำไห้อย่างทรมาณ ไม่มีอีกแล้วทุกอย่างจบหมดแล้ว
ทุกอย่าง....ถูกทำลายด้วยยูชอนหมดแล้ว
ทำลาย...ย่ำยี อย่างไม่น่าให้อภัย...
เสียงกรีดร้องจากห้องยูชอนทำให้ยูฮวานต้องกระชับเข่าขึ้นมากอด
พี่จุนซูคนนั้น...
เสียงโหยหวนที่เขาต้องทนฟังทุกคืนเหมือนฝันร้ายแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ยูฮวานจะเจ็บปวดได้เท่าครั้งนี้
สงสาร...
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยเหมือนทุกครั้ง....
“อือ...”จุนซูค่อยปรือเปลือกตาที่เหมือนจะหนักขึ้นทุกวันขึ้นมา
ไม่อยากตื่น...ทำไมต้องตื่นขึ้นมารับรู้อะไรที่มันโหดร้ายทุกวันด้วย
แต่ก็ไม่อยากตาย
คิม จุน ซู คนนี้กลัวความตายที่สุดในชีวิต
แต่ที่กลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ ปาร์ค ยู ชอน
“ตื่นแล้วเหรอ...งั้นไปเปลี่ยนเสื้อไปข้างนอก”คนที่แสนกลัวปรากฏกายขึ้น จุนซูขยับกายลุกหนี ร่างกายมันร้าวรานไปทั้งตัว
แต่ถ้าขัดใจคนตรงหน้าจะโดนอะไรอีกก็ไม่รู้...
ไม่เอาอีกแล้ว...
“คิดอะไรอยู่ รีบๆไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ ฉันแขวนมันอยู่ในห้องน้ำน่ะ!!”
“อื้อ!”จุนซูตอบรับเสียงสั่นก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป ทันทีที่ประตูห้องน้ำถูกปิดลงร่างบางก็ทรุดกายลงกับพื้นกระเบื้องเย็นเยียบอย่างอ่อนล้า
เจ็บ...
เจ็บไปทั่วร่างกาย...
แล้วก็...ความสกปรกโสมมที่ถูกทำร้ายเมื่อคืนนี้อีก
ฉันมัน...ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว
“ฮือๆๆๆ”เสียงหวานร่ำไห้ดังระงมในห้องน้ำแล้วมีหรือยูชอนจะไม่ได้ยิน
เขาไม่เคยปล่อยตุ๊กตาให้อยู่รอดเกินสองวัน
ตุ๊กตาทุกชิ้นเมื่อเล่นเสร็จก็ต้องทำลายทิ้งแต่สำหรับจุนซูมันต่างออกไป...
อยากครอบครอง อยากให้อยู่กับเขาไปนานๆ...และไม่ยกให้ใครทั้งสิ้น และความรู้สึกแปลกประหลาดทุกครั้งที่ได้เห็นน้ำตาและหยาดเลือดสีสดที่มักสวยงามทุกครั้งที่เห็นมันหายไป
ทุกครั้งที่กรีดมีดลงไปความรู้สึกสนุก สมใจมันหายไปถูกแทนที่ด้วยความเจ็บที่เหมือนกรีดตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ปาร์ค ยู ชอน นายเป็นอะไรไป?
สักพักจุนซูเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมเสื้อยืดสีแดงที่ช่วยขับผิวสีขาวให้ดูเด่นขึ้นแต่ถึงกระนั้นริมฝีปากสวยก็ไร้ซึ่งรอยยิ้มอย่างที่ควรจะเป็น
“มาแล้วเหรอ งั้นก็ไปกันเถอะ...”ยูชอนบอกพลางจูงมือร่างเล็กออกไปโดยไม่ลืมหันมาถามน้องชายที่นั่งอยู่บนโซฟา “เอาอะไรมั๊ย พี่จะไปข้างนอก...”
คนเป็นน้องทำเพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆโดยไม่ลืมคิดว่าพี่เขา อ่อนโยนขึ้นรึเปล่า?
“เดินเร็วๆหน่อยสิ”ยูชอนบอกคนตัวเล็กที่เดินช้าๆตามหลังมาเมื่อไม่ได้ดั่งใจร่างสูงเลยต้องคว้าข้อมือเล็กเข้ามาจับ
อื้อ...มือ
มือของคนที่ทำร้ายเขา
มือที่ทำร้ายเขา...
ม...ไม่เอา...ม...ไม่เอา
“ไม่เอายุนโฮ!!”ร่างบางหวีดเสียงแหลมในขณะที่ดึงเอาที่คาดผมหูกระต่ายออกจากหัว “นี่มันของผู้หญิง!”
“แต่นายใส่แล้วน่ารักกว่าผู้หญิงคนไหนๆเลยนะ...”คำชมที่ฮยอกแจแทบจะหน้าแดงแทนเพื่อนของเขา แต่แม่คนสวยนั้นกลับทำเพียงหน้าบึ้งบูดมองยุนโฮอย่างหมันไส้เท่านั้น
“เมื่อไหร่พี่ฮันจะมาฮะ...”ฮยอกแจหันไปถามยุนโฮเพราะเริ่มทนดูบทสวีทที่มีเขาเป็นคนดูต่อไปไม่ได้อีกแล้ว มันเหมือนการมาเที่ยวครั้งนี้มีเขาเป็นส่วนเกินได้โอกาสทีไรฮยอกเป็นอันถูกกันออกไปวงนอกให้คนวงในสวีทเหมือนโลกนี้มีเพียงเราสองคน
แล้วทิ้งผมไว้ไหนนน TTOTT
“ฮันเหรอ...อีกชั่วโมงน่าจะได้ถ้ารถไม่ติดน่ะนะ มันติดเรียนอยู่น่ะ...”ยุนโฮตอบ
“นี่ๆ...เดี๋ยวมานะ”แจจุงบอก ยุนโฮกับฮยอกแจพยักหน้าหงึกๆ
......................................
.......................
...............
“แจจุงไปนานเกินไปรึเปล่าเนี่ย พี่ยุนโฮฮะเดี๋ยวผมมานะ...”
“ฟู่~ โล่งขึ้นตั้งเยอะหลังฉิ้งฉ่อง~”แจจุงลูบท้องตัวเองไปมาหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จแต่แล้วคนที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอที่นี่ก็ปรากฏตัวขึ้น
บุคคลที่ถ้าวันนี้อยู่แจจุงก็จะชวนมาด้วย
คิม จุน ซู
กับผู้ชายคนนั้น ไอ้คนโรคจิตที่ทำร้ายเพื่อนของเขา ปาร์คยูชอน
เพลิงความแค้นที่สงบลงไปแล้วจากคำเกลี้ยกล่อมของยุนโฮเมื่อวานลุกโชนปะทุขึ้นอีกครั้ง แจจุงวิ่งตามร่างสองร่างนั่นไปแล้วไม่นานยูชอนก็หันหลังมาเหมือนรู้ตัวว่ามีคนตามมา
“ออกมาเถอะ...ฉันรู้ว่านายตามมา”
“จมูกดียิ่งกว่าหมา...”แจจุงสบถในขณะที่เดินออกมาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ “นายรู้ว่าฉันตามมา นายเลยเดินมาทางนี้ที่ๆร้างคนแบบนี้ใช่ไหม...”
“ไม่โง่นี่...”ยูชอนยกยิ้มในขณะที่จุนซูเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“แจจุง...ง”
“ฉันมาช่วยนายแล้วจุนซู นายไม่ต้องกลัวนะ...”
ฮยอกแจวิ่งวุ่นหาแจจุงไปทั่วก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจเดินเข้าไปในตึกร้างและแล้วเขาก็เห็น
จุนซู แจจุง ยูชอน
ย...แย่แล้ว!!!
และเจ้าไก่น้อยก็ตีปีกลนลานวิ่งออกไปเร็วปานสายลมเท่าที่ไก่ตัวหนึ่งจะทำได้
“พี่ยุนโฮ แจ....คือว่าแจ แจจุงเค้า แฮ่กๆ”ฮยอกแจวิ่งหน้าตื่นเข้ามา ยุนโฮขมวดคิ้วจับต้นชนปลายไม่ถูก
“ค่อยๆพูด ใจเย็นๆนะฮยอกแจ พี่ฟังไม่รู้เรื่อง” -*-
“คือว่าแจจุงแย่แล้วฮะ!!!...”ฮยอกแจเริ่มตีปีก “ตอนนี้แจจุงกำลังอยู่กับจุนซูแล้วก็ไอ้โรคจิตที่ตึกร้างฮะ!!!”ยุนโฮพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ใบหน้าคมเคร่งขึ้นมาในฉับพลัน
“อยู่ที่นะ รอไอ้ฮันมัน พอหมอนั่นมาพามันไปที่ตึกร้างด้วย”
“ฮะ....”
“วันนี้มา...จะเล่นอะไรกับฉันเหรอคนสวย?”ยูชอนว่าพลางแย้มรอยยิ้มวิปริต แจจุงชักมีดพกขึ้นมาจากกระเป๋า ไม่เคยนึกมาก่อนว่ามีดที่ไว้ป้องกันตัวยามฉุกเฉินจะมีประโยชน์ในวันนี้
“เล่นเกมส์ฆ่าไก่สักตัว...”คำของคนสวยเล่นเอารอยยิ้มวิปริตแย้มกว้างเข้าไปอีก
“ไม่น่าเชื่อว่าเราจะรสนิยมเดียวกัน...แต่วันนี้ฉันมาดูโชว์ล่ะแจจุง”ยูชอนว่าดันจุนซูไปข้างหน้าก่อนต่อด้วยคำพูดที่ทำให้คนฟังแทบลืมวิธีการหายใจ “โชว์เพื่อนฆ่าเพื่อนน่ะ...”
แจจุงกัดฟันกรอดมองภาพเพื่อนรักที่ถูกคนตัวโตยัดมีดสั้นเข้ามาในมือ
“ไปฆ่าเพื่อนนายสิจุนซู...”
“จุนซูไม่ฆ่าฉันหรอก!!!”แจจุงตวาดกลับอย่างกราดเกรี้ยว
“ไม่ฆ่าเหรอจุนซู...นายจะโดนเหมือนเมื่อคืนนะ”
เมื่อคืนเหรอ?
ไม่เอาแล้ว....
งั้นก็ฆ่าแจจุงสิ...เสียงปีศาจดังย้อนในโสตประสาท
นั่นก็ไม่เอาเหมือนกัน...
งั้นจะโดนเหมือนเมื่อคืนนะ
ไม่เอา...นั่นก็ไม่เอา
“ว่าไงล่ะจุนซู คราวนี้ฉันอาจจะเล่นจนพังเลยนะ”น้ำเสียงปีศาจกระซิบข้างหู จุนซูกระชับมีดในเมื่อแน่น
สิ่งที่จุนซูกลัวที่สุดก็คือความตาย
แต่จุนซูก็กลัวปาร์ค ยู ชอนมากกว่า
และจุนซูก็รักแจจุงมากเหมือนกัน
ความคิดมากมายในหัวตีกันจนจุนซูแทบคลั่งเสียสติ และในที่สุดจุนซูก็ไร้หัวใจ
นายเป็นตุ๊กตาของฉัน...
งั้นตุ๊กตาก็ไม่สมควรมีหัวใจ
นัยน์ตาคู่สวยเหม่อลอยเหมือนคนวิกลจริตก่อนริมฝีปากจะกระตุกยิ้มบาง แจจุงได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ จุนซูเดินเข้ามาใกล้พร้อมมีดในมือและไม่ลืมที่จะระบายยิ้ม
“ฮ่ะๆ...นายเป็นใครเนี่ย นางฟ้าเหรอ...แต่ปีศาจเขาสั่งให้มาฆ่านางฟ้าล่ะ”จุนซูกล่าวในขณะที่แจจุงตวัดนัยน์ตาฉับไปหายูชอนด้วยความแค้น
“แกทำจุนซูเสียสติ!”คำตวาดที่เล่นแม้กระทั่งยูชอนที่ควรไร้หัวใจกระตุกวูบ
“แจจุงงง!!!”ยุนโฮที่วิ่งเข้ามาตะโกนเรียกชื่อคนรักดังก้องในขณะเดียวกันนัยน์ตาคู่นั้นก็เบิกกว้างด้วยความตกใจกับภาพที่ได้เห็น
คิม จุน ซู กำลังทำอะไร?
“ฮ่ะๆๆ พี่หมีขาวก็จะมาเล่นด้วยล่ะ”
ไม่จริง จุนซูเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?
“มาพอดีเลย ฉันกำลังอยากออกกำลังกาย”ยูชอนว่าพลางหยิบมีดพับในมือขึ้นมาแกว่งเล่นอย่างน่าหวาดเสียว
ในขณะที่อีกฝั่งมีอาวุธยุนโฮกลับไม่มีอะไรเลย
เฟี้ยววว~
มีดเล่มแรกเฉียดแก้มยุนโฮไปอย่างฉิวเฉียดแต่ในขณะเดียวมันก็สร้างบาดแผลบนใบหน้าคมสลักได้ เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาจากบาดแผล ยุนโฮลูบหน้าตัวเองก่อนจะยิ้ม
“คุณมีอาวุธ...แต่ผมไม่มีแบบนี้มันยุติธรรมเหรอครับ”เล่นลิ้นต่อรองไปแบบนั้นหวังจะให้ยูชอนยอมวางอาวุธแล้วมาสู้กับตัวต่อตัวและแบบนั้นก็จะไม่มีใครต้องตาย
อย่างน้อยก็แค่สลบ...
“โทษทีนะครับ...บังเอิญคำว่ายุติธรรมมันไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย”
โรคจิต หมอนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!!
ยูชอนพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วสูง ยุนโฮเอี้ยวตัวหลงพลางเตะส่งอย่างว่องไวแต่ถึงกระนั้นยูชอนก็ไวกว่าร่างสูงจับขายุนโฮไว้แล้วปักมีดลงไปเต็มแรงเลือดสีแดงข้นพุ่งกระฉูดออกมาเหมือนถังน้ำรั่ว
ยุนโฮไม่ร้องแต่ดึงมีดขึ้นราวกับมันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้เขาแม้แต่น้อย
“นายให้อาวุธฉัน 1 อย่าง...”ยุนโฮเริ่มโยนมีดเล่น ยูชอนยักไหล่อย่างไม่สนใจก่อนจะสะบัดมีดในมือแหวกอากาศออกไป
“ให้ไปแค่ 1 ชิ้นแต่ฉันยังมีอีกเยอะ!!”สิ้นเสียงมีดก็แหวกเข้ามาราวพายุ ยุนโฮกัดฟันกรอดหลบใบมีด ใบหน้าคมถูกเฉือนเป็นรอย หยาดเลือดสาดกระเซ็นและทันทีที่ยูชอนหยุดขว้างมีดยุนโฮพุ่งตัวเข้าไปทันที
หมัดหนักๆแหวกอากาศหวืดเข้าไปชกใบหน้ายูชอนเข้าอย่างจังจนหน้าหันซ้ำด้วยลูกถีบที่ร่างสูงถึงกับจุก
“แก๊!!!”อารมณ์โกรธของยูชอนถูกจุดขึ้น ยุนโฮที่ไม่เคยได้รับรู้ความซาดิสม์และร้ายกาจของยูชอนก็ทำเพียงแค่ยักคิ้วยิ้มยั่ว
เฟี้ยว~!
คมมีดแหวกอากาศออกไป ยุนโฮเอี้ยงตัวหลบและเขาก็ต้องเบิกตากว้างเพราะทั้งหมดมันอยู่ในแผนยูชอน
ฉึก!
มีดสองเล่นที่ถูกปาออกมาอย่างแม่นยำของผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องมีดอย่างยูชอน ยุนโฮนิ่งงัน สมองมึนงงไม่รับรู้อะไรความเจ็บปวดแล่นวาบแต่ก็ไม่เท่าที่โลกทั้งโลกที่อยู่ๆก็ดับสนิทลง
มืด...
มืดไปหมดเลย
มองอะไรไม่เห็น....
“โอ๊ยยย!!!”อยู่ๆก็รู้สึกปวดตาอย่างสาหัส ยุนโฮยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วเขาก็แทบสิ้นสติ
มีดสองเล่มที่ปักคาอยู่ที่นัยน์ตาของเขา!!!
“โอ๊ยตายละยุนโฮ เจ็บปวดล่ะสินะ”เสียงยูชอนที่ดังแว่วทำให้เขาประสาทเสีย ก่อนความรู้สึกเจ็บที่สุดในชีวิตจะเข้าเล่นงานเมื่ออยู่ๆยูชอนก็ดึงมีดสองเล่มนั่นออกไป
เลือดสีกุหลาบพุ่งออกจากนัยน์ตาคู่นั้นจนแดงก่ำน่ากลัวเหมือนอสูรกาย ยุนโฮทรุดกายลงกับพื้นดิ้นพล่านเหมือนโดนน้ำร้อน
“ย...ยุนโฮ!!!!”แจจุงกรีดร้องลั่นเมื่อเห็นสภาพของคนรัก “แก....ปาร์ค ยู ชอน!!!”
“แจจุงหนีไป ได้โปรด หนีไป!!!”ยุนโฮตะโกนลั่น
“จุนซูทำไมไม่ฆ่ามันสักทีล่ะ”จุนซูหันไปมองยูชอนนิ่ง ร่างเล็กมองยุนโฮที่ตะโกนให้แจจุงหนีไปสลับกับแจจุงไปมา
“จุนซู นายบ้าไปแล้ว อย่าทำอะไรแจจุงนะ!!!”ยุนโฮตะโกนลั่น “เขาเป็นเพื่อนนายนะ!!!”
“หนวกหูชะมัดเลยไอ้หมีนี่!!”ยูชอนสบถพลางเตะเข้าให้ที่ท้องน้อยของร่างสูงเข้าอย่างจัง แจจุงกำหมัดแน่นเห็นทีจะไม่ฆ่าไม่ได้...
“หนีไปสิแจจุง ฮึกๆ!!”จุนซูบอกเสียงตัดพ้อ ยูชอนตวัดนัยน์ตามองคนตัวเล็กที่เริ่มร้องไห้ แจจุงไม่ตอบแต่ก้าวสวบๆไปหาปาร์ค ยู ชอน อย่างรวดเร็ว
“ตายซ่ะปาร์ค ยู ชอน!!!”
“แจจุง!!!!”ยุนโฮร้องลั่น
ทำไม...ไม่หนีไป แจจุง
ไม่มีเสียงร้อง
ไม่มีเสียงอะไรเลย...
เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ทุกอย่างมืดสนิทและเขาก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแจจุง...
ปึก!
เสียงคนล้มลงกับพื้นอย่างแรงที่เขาอยากรู้นักว่าเป็นใคร
ยูชอน หรือแจจุง
“ฮึกๆ....ฮืออออ”เสียงจุนซูร้องไห้ ทำไม....
แล้วทุกสรรพสิ่งก็เงียบงัน
ได้ยินเสียงลม...
“แจจุง...”ยุนโฮส่งเสียงเรียกออกไป “ตอบฉันหน่อยสิแจจุง”
ไร้เสียงตอบรับ...
น้ำตาค่อยไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่คมผสมกับหยาดเลือดจนกลายเป็นสีส้ม
ทุกอย่างมันจบแล้ว
“แจจุง...ตอบฉันสิ!!!”ยุนโฮตวาดออกไปอีกครั้งแต่ก็ยังคงไร้เสียงหวานของคนคนนั้น
คิม แจ จุง คนที่ตวาดเขาได้ทุกวินาที
“บ่นฉันหน่อยสิ ด่าฉันก็ได้ ได้โปรด....นายอย่าเงียบแบบนี้”ยุนโฮบอกเสียงสั่น ทำไมเขาจะต้องมองไม่เห็นอะไรเลยแบบนี้
มองไม่เห็นคนที่รักแม้วินาทีสุดท้ายที่จากไป
มองไม่เห็น....
ไม่เห็นอะไรเลย...
อีกสักพัก...เขาก็คงตาย
ไปไหนไม่ได้...นอนรอความตายอยู่ตรงนี้
แย่จัง...ไม่นึกเลยว่าคนอย่างเขาต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้
“แจจุง!!!/ยุนโฮ!!!”เสียงสองเสียงที่ดังขึ้นพร้อมกัน ยุนโฮขมวดหัวคิ้ว
ฮยอกแจ ฮันกยอง
“พี่ฮันฮะ...แจจุง ฮือๆ...แจจุงไม่หายใจแล้ว!!!”เสียงฮยอกแจทำให้ผมค่อยหยัดกายขึ้นนั่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี
“ย...ยุนโฮ”ฮันกยองพึมพำ
“พ...พาฉันไปหาแจจุง”
“นายมองไม่เห็น?”
“ฉ...ฉันมองไม่เห็น ตาบอด...”น้ำเสียงสุดท้ายแผ่วลงเหมือนไม่อยากยอมรับความจริง ฮันกยองเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ฮยอกแจปิดปากตกใจก่อนฮันกยองจะพยุงยุนโฮไปหาแจจุง
ร่างสูงคลำร่างบางที่นอนอยู่บนพื้นแล้วเริ่มร้องไห้
“แจจุง...ฉันมองไม่เห็นนายเลย”ยุนโฮบอกเสียงสั่นในขณะที่อุ้มร่างบางที่ไม่มีลมหายใจขึ้นมา รอยยิ้มเอื่อยที่มักทอดมองร่างบางเสมอระบายบนดวงหน้าแต่มันก็ดูเศร้าเต็มทน “แจจุง....ฉันรักนายนะ”
ไม่สนว่าร่างที่อยู่ในอ้อมกอดจะไม่ได้ยินอีกแล้ว...
ไม่สนว่าจะไม่ได้ยินเสียงตอบรับ...
แต่นี่คือคำบอกรักที่ยุนโฮเคยสัญญาว่าจะบอกกับแจจุงทุกวัน...
วันนี้ยังไม่ได้บอกเลย....ดังนั้นก็ต้องบอกให้นายได้รับรู้
“ยุนโฮนายควรจะไปโรงพยาบาลนะ...”ฮันกยองเข้ามาทักยุนโฮขยับยิ้ม
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันก็จะตายแล้ว”
“อย่ามาพูดบ้าๆนะ!!!”ฮันกยองตวาดลั่นก่อนจะกระชากเพื่อนตัวดีขึ้นมาพยุงแล้วลากสังขารมันออกไป
“เจ็บๆๆ ฮัน เจ็บ!!”
“ทนหน่อยนะฮะ”ฮยอกแจบอกเสียงสั่น “ผมขอโทษที่ปล่อยให้แจจุงไปในตอนนั้น...”
“เราไม่ผิดหรอกนะฮยอกแจ...พี่ต่างหากที่ดูแลแจจุงไม่ดี”
“โว๊ยยย!!! ไม่มีใครผิดทั้งนั้นล่ะ!”ฮันกยองเปิดประตูรถออกแล้วพยุงยุนโฮเข้าไปนั่งข้างใน สักพักรถคันงามก็บึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“แล้วแจจุงล่ะ!!”ยุนโฮร้อง
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ!!”ฮันกยองตอกกลับ ยุนโฮขมวดคิ้วแล้วทำท่าจะลงจากรถเสียให้ได้
“พี่ยุนโฮผมขอร้อง ไปโรงพยาบาลก่อนนะฮะ...เรื่องของแจจุงผมโทรไปบอกให้ทางโรงพยาบาลมารับศพแล้วฮะ”ฮยอกแจบอกเสียงสั่นพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้ในลำคออย่างยากเย็น
“เดินไปเร็วๆเข้าสิจุนซู!!!”ยูชอนกระชากแขนเล็กด้วยความแรง จุนซูปลิวตัวเข้ามาแต่ก็ไม่เอะอะร้องสักแอะ ยูชอนขมวดคิ้วหันไปมอง
ภาพที่เห็นคือนัยน์ตาที่เหม่อลอยไปในที่แสนไกล...
“จุนซู! มองฉัน!!!”คำตวาดเอาแต่ใจดังขึ้น จุนซูเบือนหน้ามาสบด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะยิ้มเล็กๆเหมือนนางฟ้าตัวน้อย
“ฮ่ะๆ แจจุง...”เสียงหวานบอกเสียงแผ่ว ยูชอนหน้าเสีย
ไม่มีเลย...ไม่มีเขาในสายตาคู่นั้น
“ฉันยูชอนไม่ใช่แจจุง...”
“ฮิๆ...แจจุง”ร่างเล็กฉีกยิ้ม ยูชอนไม่ตอบบางทีคนตรงหน้าคงเสียสติไปแล้วจริงๆ
“อ๋า~ จุนซู!!!”เสียงทักดังขึ้นแต่คนที่หันตามไม่ใช่จุนซูแต่เป็นยูชอน
“นายเป็นใคร?”เป็นยูชอนอีกตามเคยที่ทัก คนแปลกหน้าไม่ตอบแต่วิ่งมาตีแก้มจุนซุดังแป๊ะ
“ฮ่ะๆ...แจจุง”จุนซูหัวเราะอย่างไร้เลื่อนลอย
“หนอย...แจจุงอีกแล้วนะ นายอ่ะวันๆก็แจจุง ฉันชื่อลีทึก...นายเรียกหน่อยไม่ได้รึไง”ว่าพลางบู้ปากพองลม จุนซูฉีกยิ้มกว้าง
“ฮยอกแจ...”
“เออๆ...แจจุง ฮยอกแจ...”ลีทึกบอกงอนๆแต่ยังไม่ทันพูดอะไรต่อคนที่ยืนอยู่ข้างๆลีทึกก็เดินเข้ามาจับจุนซูเขย่าไปมา
“นายเห็นซองมินไหม?”น้ำเสียงอ่อนล้าตัดพ้อและชื่อที่คุ้นหูทำให้ยูชอนเบิกตากว้างด้วยความตกใจทั้งๆที่เขาไม่เคยเป็นคนตกใจง่ายเท่านี้มาก่อน
“เอาอีกแล้วนะคยูฮยอน ตั้งแต่ซองมินหายไปนายเป็นแบบนี้ตลอดเลยนะ”ลีทึกหันมาสนใจคนข้างๆแทน “ฉันกำลังพาคยูไปหาหมอจิตแพทย์....เดี๋ยวนี้มันเหม่อลอยประจำเหมือนเอ่อ....นายในตอนนี้เลยล่ะจุนซู”ว่าจบลีทึกก็พาคยูฮยอนออกไปจากตรงนั้นโดยไม่ลืมที่จะโบกมือลา คยูฮยอนตะโกนลั่น
“บอกฉันมาสิว่านายเห็นซองมินไหมม!!”คนตัวเล็กมองคยูฮยอนแล้วส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเริ่มสะอื้น
“ฮือๆ แจจุงทิ้งฉันไปแล้ว.....”
ยูชอนคว้ามือจุนซูเข้ามาทันทีก่อนจะรีบจูงมือคนตัวเล็กออกไปด้วยความรู้สึกสับสนที่ตีไปมาในหัว
“ฮือๆๆ....”คนตัวเล็กยังคงร้องไห้ไม่หยุดหลังจากที่ยุนโฮถูกส่งเข้าไปรักษาแผลที่ดวงตา มือน้อยปาดคราบน้ำตาไปมาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่มันก็ยังไม่ยอมหยุดไหล “แจจุงตายเพราะผม พี่ยุนโฮก็บาดเจ็บ...ฮืออ”
คนข้างตัวถอนหายใจเฮือกก่อนจะรวบตัวฮยอกแจเข้ามาในอ้อมอกแกร่งราวกับจะปลอบประโลมคนตัวเล็กที่เอาแต่โทษตัวเอง
“เราน่ะไม่ผิดหรอกนะฮยอกแจ...ไม่มีใครผิดทั้งนั้น”เสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนที่เป็นเหมือนหยดน้ำชโลมหัวใจที่แห้งแล้งเหมือนทะเลทราย
“ผ...ผมควรจะไปช่วยเขาแต่ว่า...”
“นายทำดีที่สุดแล้วฮยอกแจ...”ฮันกยองลูบหัวกลมๆนั่นเบาๆ “คนทุกคนน่ะปลายทางของชีวิตก็คือความตายไม่ใช่ความใฝ่ฝันอะไรนั่นหรอก...เวลาในการอยู่ของคนเราก็ไม่เท่ากันและเวลาของแจจุงก็น้อยถึงได้จากไปเร็วกว่าคนอื่น”
“ท...ทำไม?”คนตัวเล็กยังคงสะอื้น ฮันกยองจึงต่อ
“ก็เพราะพระเจ้าเลือกแจจุงให้ไปอยู่ด้วย พระองค์พอใจแจจุง...”
“แล้วทำไมต้องเลือกแจจุงให้จากพวกเราไป...”
“ก็แจจุงสวยนี่นา พระองค์เลยถูกใจ”คำตอบทีเล่นทีจริงเล่นเอาคนตัวเล็กเริ่มหยุดสะอื้นแล้วยิ้ม
“นั่นสิแจจุงสวย”
“ดังนั้นมันไม่ใช่ความผิดของนายเลยนะ อย่าโทษตัวเองเลยนะฮยอกแจ...”ฮยอกแจยิ้มรับคำพูดนั้นอย่างน่ารักจนคนมองใจเต้นไม่เป็นกระส่ำ
อย่าโทษตัวเองเลยนะฮยอกแจ
เพราะนั่นมันทำให้ฉันเจ็บที่ทำอะไรไม่ได้เลย...
ปัง!!!
เสียงประตูที่ปิดกระแทกลงอย่างแรงทำให้ยูฮวานขดตัวติดโซฟาด้วยอาการตื่นกลัว ยูชอนจูงมือจุนซูเข้ามานั่งที่โซฟาตัวเดียวกับยูฮวานก่อนจะสั่งเรียบ
“ฝากดูจุนซูหน่อยยูฮวาน เดี๋ยวฉันมา”ว่าจบร่างสูงก็ออกไปข้างนอกทันที
ยูฮวานขมวดคิ้วมองตามพี่ชายที่ออกไปก่อนจะหันมามองคนข้างๆ พี่จุนซูกำลังฉีกยิ้มหวานให้เขาแต่เขากำลังรู้สึกเหมือนอยากร้องไห้
เกิดอะไรขึ้น?
“ฮ่ะๆๆ นายเป็นใครเนี่ยตลกชะมัดเล้ย~!...นายเหมือนผีดิบจังเลยแฮะ”จุนซูว่าพลางหัวเราะคิก ยูฮวานมองพี่ชายตรงหน้าด้วยความสงสารก่อนจะรวบตัวของจุนซูเข้ามากอด
ยูฮวานกอดจุนซูแน่น ร่างนั้นสั่นระริกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นที่ลูบศรีษะอย่างแผ่วเบา อบอุ่นและอ่อนโยน
สัมผัสนี้ที่เมื่อก่อนเคยได้รับจากพี่ชาย...
“เราไม่ผิดหรอกยูฮวาน อย่าร้องไห้สิ...”
ยูฮวานเงยหน้ามองจุนซู สายตาประมาณว่า....พี่หายแล้วเหรอ?
“ฉันเป็นอะไร...”ร่างบางขมวดคิ้วงุนงงก่อนความเจ็บจี๊ดที่หัวจะเล่นวูบ “โอ๊ยยย!! ปวดหัว!!”
“อ้า!!ยูฮวานร้องโวยวายเสียงอ้อแอ้ในลำคอที่พยาเปล่งออกไปมาที่สุดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากกอดปลอบเพราะโซ่ที่ล่ามไว้ จุนซูกรีดร้องหนักกว่าเดิมสักพักประตูก็ถูกเปิดออก
“เกิดอะไรขึ้น!!?”
ยูฮวานเอาแต่ร้องไห้อย่างไร้เสียงนอกจากน้ำตาบนอ้อมอกมีจุนซูที่กำลังนอนสลบอยู่ ยูชอนเอาถุงบางอย่างวางไว้ที่โต๊ะแล้วก้าวพรวดๆไปหาจุนซูทันที
“จุนซู!! ตื่นสินายเป็นอะไร?”
“อ่าหือ...”เปลือกตาบางขยับเบาๆทำให้ยูชอนยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวแม้แต่ยูฮวานยังลอบเก็บงำความคิด “นายเป็นใคร”
คำถามที่ราวเข็มนับพันแทงทะลุอก รอยยิ้มจืดชืดถูกส่งออกไปให้จุนซูทันที ยูชอนลุกไปที่โต๊ะก่อนจะจัดเอาข้าวต้มใส่ชามแล้วเดินเอามาให้ยูฮวานกับจุนซู
“นี่ๆ ยังอุ่นๆอยู่เลย...กินซ่ะนะ”
“อ่าๆ หิวๆๆ”จุนซูฉีกยิ้มเหมือนเด็กตัวน้อยๆ ยูชอนตักข้าวต้มป้อนให้จุนซูก่อนจะกลืนมันลงไปแล้วแย้มรอยยิ้มหวานที่เหมือนไม่เคยเจอเรื่องทุกข์มาตลอดชีวิต “นายเป็นคนดีจัง...ขอบใจนะ”
ยูชอนไม่ตอบ...คำพูดนั้นมันทำร้ายจิตใจเขาเหลือเกิน
คนดีเหรอ?
เพราะนายจำฉันไม่ได้ ฉันถึงได้เป็นคนดีในสายตานายสินะ...
แล้วฉัน...เป็นอะไรไป
ฆ่าจุนซูทิ้งไปไม่ดีเหรอ...
“แจจุงๆ...แจจุงอยู่ไหน นายเห็นแจจุงรึเปล่า?”จุนซูทำตาโตถาม ยูชอนไม่ตอบ “แล้วนายรู้จักคนชื่อยูชอนรึเปล่าเขาน่ากลัวมากเลยนะ...นายอย่าไปเจอเขานะ”
ยูชอนป้อนข้าวจุนซูต่อไป
“ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ?”
“ฉัน...ฉันชื่อมิกกี้”
“ชื่อมิกกี้เหรอ...เหมือนหนูเลยแต่หน้านายเหมือนไก่นา ฮ่าๆๆ”ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ตบแก้มเขาดังแป๊ะ ยูชอนหน้าเหวอ แต่ยูฮวานสิเอ๋อยิ่งกว่า
ตายละ...ตบแก้มพี่เขา
“จุนซูกินข้าว...”คำสั่งเรียบบ่งบอกอารมณ์ที่เริ่มมาคุของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี จุนซูมองยูชอนพลางฉีกยิ้มก่อนนัยน์ตาคู่สวยจะเหม่อลอยไปในที่แสนไกล
อีกแล้ว...สายตาที่น่าเกียจคู่นั้น
มองไปยังท้องฟ้าที่สวยงามจนน่ารังเกียจ
“จุนซู....”ส่งเสียงร้องเรียก จุนซูไม่ตอบก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินเหมือนกึ่งลอยเข้าห้องไปก่อนจะทิ้งตัวลงข้างหน้าต่าง
ยูชอนเดินตามเข้ามาด้วยความรู้สึกที่สงสารและเจ็บปวดอย่างไม่เคยเป็น
ไร้หัวใจสิ...
นายมันไร้หัวใจ...แล้วจะต้องมีความรู้สึกนั้นเพื่ออะไร
“ฮึกๆ...”เสียงสะอื้นที่เรียกให้ยูชอนต้องตื่นจากห้วงภวังค์ร่างสูงตรงรี่ไปหาคนข้างหน้าต่างทันที มือแกร่งจับไหล่บางให้หันมามอง
“ร้องไห้ทำไม?”
“แจจุง....ฮือๆ”เสียงเล็กยังคงสะอื้นไม่หยุด ยูชอนเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความขัดใจก่อนจะกระชากมีดเล่มเดิมกับที่ทำร้ายแจจุงขึ้นมา
“เงียบซ่ะ!!...ไม่อย่างนั้นนายได้ไปหาแจจุงแน่”จุนซูเงยหน้าขึ้นมาสบก่อนจะถอยตัวร่นหนีอย่างผวาดผวา
“ม..มีด”
อย่างนี้สิ...ปาร์ค ยูชอน
นายควรจะเป็นแบบนี้ถึงจะถูก...
ถ้ามันร้องก็ตัดหลอดเสียงมัน ถ้ามันน่ารำคาญนักก็ปลิดลมหายใจ ไม่เห็นจะยาก...
“ฮือๆๆ มีด...ด”คนตัวเล็กพึมพำอย่างผวาดผวา
“หยุดร้องสิจุนซู...แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรนาย”
แล้วก็ต้องใจอ่อนอีกจนได้...
คนตรงหน้ามีอิทธิพลกับเขามากเพียงนี้เลยหรือ...
“ฮืออออ”เสียงหวานเริ่มร้องหนักขึ้นไปอีก อ้อมอกกว้างจึงกระชับร่างบางเข้ามากอดหวังปลอบประโลม ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว
กระซิบ...ให้กับสายลม
เพราะตอนนี้คนฟังไม่อาจรับรู้
“รักฉันได้ไหมจุนซู...อย่างน้อย อภัยให้ฉันได้รึเปล่า?...”
คำขอ...ลมๆแล้งที่ไม่หวังคำตอบ
ยูชอนเงยหน้าขึ้นมาสบกับดวงตาคู่งามที่ทอประกายดุจแสงดาวยามค่ำคืน จุนซูนิ่งและเงียบก่อนจะพึมพำอย่างที่เขาไม่เชื่อหู
“นายกอดฉันทำไมยูชอน”
ชื่อผม...จุนซูเรียกชื่อของผม
“ได้รึเปล่า?...นายจะอภัยให้ฉันได้ไหม?”คำขอร้องครั้งแรกจากชายที่ชื่อยูชอน จุนซูแค่นยิ้มเย็นชา
“ผมเคยขัดคุณได้ด้วยเหรอ...แล้วนี่จะทำอะไรอีก จะฆ่าผมใช่ไหม...ก็เอาเลยสิ ฆ่าผมให้เหมือนกับที่ทำกับคนอื่นนั่นแหล่ะ ชีวิตผมจะได้หลุดพ้นจากคุณสักที”
“ฉ...ฉันขอโทษ”คำขอโทษครั้งแรกของชายที่ชื่อยูชอน
และ...
น้ำตาครั้งแรกของเขาเช่นเดียวกัน
“ให้อภัยฉันได้ไหม....”คำกระซิบพร่าที่เหมือนจะกลืนเสียงสะอื้นลงคอ จุนซูกรอกตาขึ้นมองเพดาน
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ยูชอนฆ่าแจจุง ทำร้ายพี่ยุนโฮ ฆ่าซองมิน ทำร้ายเขา
คนแบบนี้ยังสมควรได้รับการอภัยอีกเหรอ?
“ผมไม่มีวันให้อภัยคุณ...”
คำคำเดียวที่เล่นงานจนคนฟังชาในความรู้สึก ยูชอนฝืนยิ้มส่ง
เจ็บ...
แต่มันก็เจ็บด้วยกันทั้งคู่...
เพราะเหตุใด คิม จุน ซูถึงได้เจ็บยิ่งกว่าถูกทำร้ายร่างกายและยูชอนถึงได้เจ็บร้าวรานจนไม่อาจสรรหาคำใดๆมาบอกกล่าวได้
นี่หรือ...คือความรัก
ไยพระเจ้าถึงต้องประทานความรักมาพร้อมกับความเจ็บปวดเช่นนี้ด้วย ลูกเคยทำอะไรผิดต่อพระองค์กระนั้นหรือ?
“นั่นน่ะสินะ คนอย่างผมมันไม่สมควรได้รับการอภัย”ยูชอนพึมพำเสียงแผ่ว “มันเป็นแบบนี้มาตั้งไหนแต่ไรแล้วนี่นา...คนอย่างฉันไม่เคยได้รับการอภัยเลยสักครั้งเดียว”
“คุณฆ่าผมทีได้ไหม นี่คำขอสุดท้ายแล้ว”จุนซูบอกเสียงอ้อนวอน แม้จะเคยกลัวความตายมากแค่ไหนก็ตามแต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องการที่สุดกลับเป็นความตาย
จะได้หลุดพ้นจากโลกนี้เสียที
ไม่มีความสุข...เจ็บปวด ทรมาน...และแจจุงก็ทิ้งเขาไปอยู่อีกโลกแล้ว
“ไม่ได้!!”น้ำเสียงห้วนกรรโชกอีกครั้งแต่มันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกอาทรอย่างที่จุนซูกลัว
กลัวว่าจะหลงรักความรู้สึกนั่นแม้คนตรงหน้าจะทำร้ายเขาเกินอภัย
“ทำไม...ผมเป็นเพียงตุ๊กตาของคุณไม่ใช่เหรอ”น้ำเสียงเรียบกับนัยน์ตารั้นถูกส่งให้ร่างสูงอย่างคาดคั้น ยูชอนขยับยิ้มเอื่อย
“ก็แล้วแต่นายจะคิด...แต่สำหรับฉันนายต่างออกไป”น้ำเสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนที่จุนซูไม่เคยได้สัมผัสทำให้หัวใจดวงน้อยถึงกับเต้นรัว “นอนดีกว่านะ...พักผ่อนให้มากๆแล้วสักวันฉันจะปล่อยนายไป”
ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวสวบๆออกไปจากห้องเพื่อปล่อยให้จุนซูได้นอนพัก ร่างบางขยับยิ้มเศร้าอยู่บนเตียงก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปใต้หมอนที่ซ่อนมีดพับไว้
ไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อนายไม่ฆ่าฉัน...ฉันก็จะเป็นฝ่ายไปเอง
มีดเล่มงามคมกริบค่อยๆบรรจงกรีดลากตามข้อมือขาวก่อนร่างบางจะย้ำกดลึกลงไปตัดเส้นเลือดใหญ่ให้เลือดพุ่งกระฉูด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรงซีดขาว
แกร๊ง...ง
มีดสีเงินถูกทิ้งกระทบกับพื้นไม้ จุนซูนอนแผ่อยู่บนเตียงโดยปล่อยให้เลือดไหลไปเรื่อยๆอย่างที่ตัวเองไม่สนใจ ใบหน้าขาวเริ่มซีดจนน่ากลัวร่างบางยิ้มเศร้าให้กับตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย
ลาก่อน...ทุกสิ่งทุกอย่าง
ลาก่อน...ปาร์ค ยู ชอน
แสงตะวันสาดเข้ามาในห้องบ่งบอกว่าเป็นวันใหม่ ยูชอนยันตัวลุกจากโซฟาแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปในห้องที่เมื่อวานปล่อยจุนซูทิ้งไว้คนเดียวเพราะคิดว่าโลมาน้อยคงอยากอยู่คนเดียว
แต่ทว่า...นั่นกลับเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์
ลมหายใจหยุดชะงัก หัวใจหล่นวูบกับภาพที่เห็น
ภาพที่เคยคิดว่าสวยงามมาตลอดบัดนี้มันกลับเลวร้ายน่ากลัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“จ...จุนซู!!!!”เสียงร้องโหยหวนจากยูชอนทำให้ยูฮวานรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น คนบนโซฟาดีดตัวขึ้นจ้องไปทางห้องนั้นด้วยความรู้สึกเกินบรรยาย
พี่จุนซู...
เสียงโหวกเหวกโครมครามดังถี่กระชั้น สักพักยูชอนก็เดินออกมาจากห้องที่บุคคลอันเป็นที่รักนอนหลับใหลด้วยสภาพไร้วิญญาณ ร่างสูงเดินโงนเงนก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
พี่เขาไม่เคยอ่อนแอได้ขนาดนี้...
นัยน์ตาว่างเปล่าคู่นั้นทอความเจ็บปวดลึก น้ำตาจากใบหน้าเฉยชาค่อยๆไหลริน ยูชอนพิงตัวกับกำแพงบ้านก่อนจะหยิบมีดเล่มเดียวกันกับที่จุนซูใช้ฆ่าตัวตายขึ้นมา
ฉันจะตามนายไปนะจุนซู...
บอกแล้วว่านายหนีฉันไม่พ้นหรอก...
มีดเปื้อนเลือดกรีดลงบนข้อมือใหญ่อย่างแรง หยาดเลือดสีแดงฉานเอ่อทะลักเหมือนท่อประปาแตก ยูฮวานมองการฆ่าตัวตายของพี่ชายอย่างตกใจและหวาดกลัว
ยูชอนยกยิ้มมุมปากอย่างที่ชอบทำอย่างทุกทีก่อนจะค่อยลากมีดไปตามลำคอระหงอย่างบรรจง มือขาวที่กำปลายใบมีดแน่นถูกกดลึกลงไปในเนื้อจนมิดในขณะที่ด้านขอบของใบมีดกดย้ำลากเฉือนลำคอไปมาจนเหมือนตารางสีแดงฉาน
ยูฮวานขดตัวตัวความหวาดกลัว เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดพรายเต็มใบหน้าในขณะที่มือคู่นั้นก็ทุบโซฟาให้พี่ชายได้สติ
คนที่ทำร้ายคือพี่ชายแต่คนที่ถูกทำร้ายมันก็เขา...
ยูฮวานไม่ใช่พวกซาดิสม์ที่จะทนมองพี่ชายฆ่าตัวตายไปต่อหน้าต่อตา
ยูชอนเหลือบหันมามองน้องชายด้วยใบหน้าเย็นเยียบ นัยน์ตาคู่นั้นอ่อนลงเมื่อเห็นคนเป็นน้องที่ทุบโซฟาเรียกสติในขณะที่ใบหน้าขาวซีดนั้นขลาดกลัว
“ตลอดมาพี่ทำให้นายต้องกลัวมาตลอดเลยใช่ไหม...พี่ขอโทษจริงๆริกกี้”เสียงแผ่วเบาแต่ก็ยังคนชัดแจ้งในโสตประสาท
ริกกี้...?
ชื่อที่พี่ชายเคยตั้งให้เขาเมื่อนานมาแล้ว
ยังจำได้?
อยากร้องเรียก อยากเข้าไปห้ามแต่ก็ทำไม่ได้
ยูชอนยังคงทำร้ายตัวเองไม่หยุดจนร่างสูงนั่นแทบจะจมกองเลือด ร่างที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดนอนหายใจรวยระรินอยู่บนพื้นขยับยิ้มอ่อนโยนสุดท้ายมาให้ยูฮวานราวกับจะบอกลา
ลาก่อน ริกกี้ น้องชายของพี่...
มืด....ทุกอย่างมันมืดสนิท
ยามนี้ก็มีแต่สายลมที่เคียงข้าง คนคนนั้นของผมทิ้งผมไปแล้ว
แจจุง...
ยุนโฮนิ่งนิ่งอยู่บนเตียงของคนไข้ ใบหน้าคมเฉยชาไร้ความรู้สึก นัยน์ตาคู่นั้นดูเวิ้งว้างว่างเปล่าน่ากลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้...
เพียงแค่ย้อนเวลากลับไปได้
“ยุนโฮ...”เสียงหวานคุ้นหูลอยมาตามสายลมราวเสียงกระซิบ ยุนโฮหันซ้ายหันขวาไปรอบห้องแม้จะมองอะไรไม่เห็นก็ตามที
“แจจุง...นั่นนายใช่ไหม?!!”ยุนโฮถามเสียงดัง มือแกร่งปัดป่ายไปมาในธาตุอากาศอย่างมีความหวังที่จะได้สัมผัสเพียงแค่กลิ่นอายของคนที่รัก
“ยุนโฮนายอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม...ขอร้อง”คำพูดหวานกับสัมผัสอุ่นๆที่ข้างแก้มของมือบางทำให้ยุนโฮหยุดชะงัก
“ฉ...ฉันไม่เห็นหน้านายเลย”
“ได้โปรดยุนโฮ จากนี้นายต้องมีความสุขนะ...อย่างน้อยก็มีความสุขเผื่อฉันด้วย”แจจุงบอกเสียงแผ่ว “ฉันจะคอยเฝ้ามองนายจากข้างบนนะ”
“แจจุง...นายอย่าไปนะ ได้โปรด...”ยุนโฮกุมมือแจจุงไว้แน่น “ฉ...ฉันผิดเองที่ปกป้องนายไม่ได้”
“ไม่ใช่ความผิดของนายเลยนะยุนโฮ...”แจจุงบอกเสียงนุ่มราวจะปลอบโยนก่อนร่างบางจะรวบตัวร่างสูงบนเตียงเข้ามากอด
น่าแปลก...
สัมผัสที่ควรจะเย็นชืดของแจจุงทำไมถึงได้อบอุ่นถึงเพียงนี้...
“ฉันต้องไปแล้วนะยุนโฮ...นายต้องมีความสุขนะ”สิ้นคำสุดท้ายร่างบางก็ค่อยอันตธานหายไป ยุนโฮคว้ามือสะเปะสะปะกรีดร้องลั่นอย่างแจ็บปวด
“แจจุงงงง!!!”
ไปอีกแล้ว...
หัวใจของเขาโบยบินหนีไปอีกแล้ว...
ยุนโฮหันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง รอยยิ้มจืดชืดถูกส่งมาระบายบนดวงหน้า
ท้องฟ้าไม่เคยมืดขนาดนี้มาก่อนเลย...แต่ยังไงก็ตาม
ฉันจะมีความสุขเพื่อนายนะแจจุง...
--------------------------
[...M@Y Talk...]
ยาวไปไหน =-=
อันนี้เป็นตอนพิเศษที่กะแต่งให้ SM แต่ไปๆมาๆแต่งไม่ออกเพราะดันเกิดใจอ่อนทำร้ายจุนซูไม่ลง
ความคิดมันผุดตลอดว่า...มิกไม่ทำร้ายจุนซูหรอก
ดังนั้น...หลังๆมันจึงเหมือนจะเน้นความรู้สึกของตัวละครยังไงไม่รู้
รอ...SM ของมีนต่อไป...
มีนทิ้งไว้ว่าขอ 250 เม้นใช่ไหม เราขอเพิ่มนะเป็น 260 เม้นทำได้รึเปล่า เราแต่งตอนพิเศษให้ซ่ะยาวเลยเนี่ย
ดังนั้นการลงตอนต่อไปขอเพิ่มละกันนะ
ขอกำลังใจ....นะ
ความคิดเห็น