คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : [Part 12] Sweet Cemetery...เรื่องหวานๆในป่าช้า
Prince With Soul...วิญญาณสยอง เจ้าชายแสยง
[Part 12]
โว๊ยยย!!!
พวกบ้านั่นบังอาจทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวในดงคน(ผี)วายอย่างนั้นรึ?!!
พวกมันกล้ามากนะ~
คอยดูนะขอให้พ่อแม่ไม่รัก เพื่อนไม่คบและกลับไปฉันจะเลิกคบไอ้พวกบ้านั่นทุกๆตัว >O<!
วิ้วววว~วว
สายลมพัดเสียงดังหวีดหวิว แจจุงกวาดตามองรอบตัวที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีคนโผล่มายืนเป็นเพื่อนเล่น บรรยากาศหนาวยะเยือกนั่นทำให้นางมารอย่างแจจุงเริ่มกลัวจนก้าวเท้าไม่ออก
ถึงผมจะเป็นคนที่โหดร้ายแต่ผมก็กลัวสิ่งที่เป็นกาลครั้งหนึ่งมนุษย์นะ! TTOTT
วิ้ววววว~ววว
อร๊ากกกกกกกกกกกก!!!!
___________________________________
“นี่จะปั้นหน้าบูดไปอีกเมื่อไหร่กันจุนซู....”เสียงอู้อี้ดังลอดออกมาจากในไหที่มีคนตัวเล็กนั่งทำหน้าอึนๆอยู่ข้างใน
วิ้วววววว~ว
“ไม่กลัวรึไงเดินคนเดียวน่ะ...ให้ข้าออกไปเดินเป็นเพื่อนสิ”คราวนี้จุนซูตวัดสายตามามองไหในมือแล้วยิ้มเหี้ยม
“นึกว่าฉันเป็นใคร...ผีเผอเป็นร้อยเคยเจอมาแล้ว กะอีแค่นี้จะไปกลัวอะไร”
“แต่นี่ผีวายนะ”คำย้อนจากคนในไหทำให้จุนซูชะงักและยิ่งคำเสริมต่อมาที่ทำให้หมอผีคนเก่งแทบจะกรีดร้อง “ผีวาย...จะไหวเหรอ เจ้าก็น่ารักอยู่ซ่ะด้วยสิ”
“ม...มันแน่อยู่แล้ว!!!”
“เสียงเจ้าสั่นนะ...ไหวแน่เหรอ~?”ยูชอนยังไม่เลิก จุนซูจึงหยิบคนตัวเล็กขึ้นมาจากไหวางพาดไว้บนบ่าแล้วบอกเสียงห้วน
“ได้ออกมาพอใจแล้วนะ!!!”พูดจบจุนซูก็ต่อด้วยน้ำเสียงชวนให้ยูชอนต้องกลืนน้ำลายเอื้อก “แต่ถ้าฉันทำนายหล่นไป นายก็ต้องกลายเป็นคนแคระติดแหง็กในสุสานคนวายนี่ไปชั่วร้อยปีแสง อิยะฮะฮ่า!!!”
“งั้นข้าขอลงไหเถอะ....” = =”
ถ้าได้ออกมาแบบนี้ก็ขอลงไปนั่งแช่อ่างจากุ๊ดซี่ในไหดีกว่าเยอะ...ไอ้ที่ต้องการน่ะ อยากออกมาเป็นตัวเป็นตนเป็นคนที่สูงกว่าคนน่ารักแล้วลวนลามได้สะดวกต่างหากเล่า!!!
_____________________________________
นัยน์ตาคมกวาดมองรอบตัวอย่างไร้อารมณ์ใดๆ ยมทูตหน้าหมีเดินก้าวสวบๆอย่างเร่งรีบเหมือนจะไปตามควาย (แจจุง : ฉันไม่ใช่ควาย =O=) (เมย์ : หนูแค่เปรียบเทียบ = =)
แค่มนุษย์....
คิม แจ จุง ก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาๆ
แต่ทำไม...เขาต้องไปตามหาด้วย?
แล้วไอ้สิ่งที่ทำงานอยู่ด้านซ้ายนี่อีก...ทำไมมันถึงได้ทำงานแรงขนาดนี้นะทั้งๆที่ปกติสัมผัสถึงมันไม่ได้ด้วยซ้ำ
ร่างสูงเดินลึกเข้าไปเหมือนรู้ว่าคนที่กำลังตามหานั่นอยู่ที่ไหนแล้วไม่นานเสียงอะไรบางอย่างก็ดังลอดเข้ามา
“จ...เจ้าพวกบ้า~”
ยุนโฮขมวดคิ้วแล้วเดินเร่งไปตามเสียง แสงสะท้อนจากอะไรบางอย่างทำให้ร่างสูงทำได้แค่เดาว่าอาจจะเป็นหิ่งห้อยถ้าคิดในแง่ดีและเป็นผีถ้าคิดในแง่ร้าย
_______________________________
“นี่...เป็นห่วงพี่แจจังเลย...”
“อ....อื้อ”
“พี่ฮันเป็นห่วงพี่แจรึเปล่า?” (‘ ‘?)
“ห...ห่วงสิ”ฮันกยองตอบกลับเสียงสั่น “ห่วงมากๆเลย”
ใช่สิ...เขาห่วงมาก
แต่ไม่ได้ห่วงไอ้เพื่อนตัวร้ายของเขาหรอกนะ ห่วงว่าเขาจะทำอะไรร่างเล็กที่ดีแต่แบ๊วนี่ต่างหาก!
“ดูสิฮะ...ใบไม้เต้นรำ”
“อ่ะ...หืออ”ผมหันไปมองตามที่คนแบ๊วชี้ให้ดูแล้วก็ต้องช็อคซินิม่า ใบไม้กำลังปลิวว่อนรอบตัวไม้ทั้งๆที่ตอนนี้มันก็ไม่ได้มีลม...
ใบไม้ไม่ได้เต้นรำหรอก...แต่ไอ้สิ่งนั้นมันกำลังเล่นกับใบไม้ต่างหาก!
แล้วซวยเข้าไปอีกสองคนที่ยืนโด่อยู่ตรงนี้ไม่มีใครมีเซนต์เรื่องวิญญาณกันสักคน ที่เห็นมันก็แค่อากาศว่างเปล่าไม่มีลมแต่ใบไม้ปลิว แต่ถ้าจุนซูอยู่ด้วยหมอนั่นอาจจะเห็นผีเล่นมิวสิควิดีโอโปรยใบไม้ประกอบฉากก็เป็นได้
เอาเถอะ!....ไม่เห็นก็ดีกว่าเห็นล่ะน่า TTOTT
ที่สำคัญคนข้างตัวมันคงไม่รู้ว่าเจออะไรเข้า = =”
_________________________________________________
“เจ้าพวกบ้า...บังอาจทิ้งฉัน อึก!”เสียงหวานสบถอย่างหงุดหงิดก่อนจะสั่นลงในตอนสุดท้าย ใบหน้าสวยที่มักจะประดับด้วยรอยยิ้มสยองกับท่าทางที่ท้าทายไปหมดซ่ะทุกเรื่องตอนนี้ไม่เหลือให้ดูสักนิด
ร่างสูงของใครบางคนค่อยๆก้าวเข้าไปหาแล้วก็ต้องมุ่นหัวคิ้ว
ร้องไห้...?
คิม แจ จุง คนนั้นร้องไห้?
ไม่น่าจะใช่นี่นา...แถวนี้ก็ไม่มีละครอะไรให้แจจุงดูสักเรื่อง จะร้องได้ยังไง?
“เจ้าพวกบ้า ฮือๆ”เสียงหวานต่อว่าให้ร้ายไม่หยุดในขณะที่เริ่มสะอื้นขึ้นเรื่อยๆ
“แจจุงคนเก่งคนนั้นหายไปไหนซ่ะแล้วล่ะ?”คำทักจากด้านหลังทำให้แจจุงต้องหันขวับไปมอง “ทำไมถึงชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงนักนะ”
“นายนั่นแหล่ะวันนี้ทำไมถึงได้พูดมาก!”ไม่เคยให้ปากว่างได้เกิน 2 วิ นี่ล่ะหนาแจจุง -*-
ร่างสูงเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วยื่นมาให้คนตรงหน้าจับเพื่อพยุงลุกขึ้นยืน แจจุงคว้ามือนั้นเข้ามาจับและนั่นก็ทำให้ยุนโฮต้องแปลกใจเล็กน้อย
เย็นชืดยิ่งกว่าน้ำแข็ง...
“กลัวมาก?”ถามแจจุงเสียงเรียบและไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบเท่าไหร่ ยังไงซ่ะแจจุงก็คงจะเชิดหน้ารั้นๆขึ้นมากแล้วบอกว่าตัวเองไม่กลัวใครอยู่แล้วล่ะมั้ง
“ก...กลัวสิ กลัวผีแล้วก็กลัวการถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว”แต่คำตอบที่ได้รับนั้นก็ทำให้ยุนโฮอดแปลกใจไม่ได้ “นายก็ทิ้งฉัน...”
คำตัดพ้ออย่างที่ยุนโฮต้องนึกในใจว่าคนสวยคนนี้นอกจากสยองเก่งกล้าสามารถแล้วก็ยังมีมุมอ่อนแออยู่บ้าง
เพราะยังไงแจจุงก็เคะ - -“
“กลัว...งั้นก็รีบๆทำให้หายกลัวซ่ะ จะได้ออกไปข้างนอกแล้วกลับบ้านกันสักที”
คราวนี้แจจุงเงยหน้าขึ้นมามองยุนโฮที่วันนี้ดูจะพูดมากผิดปกติ ใบหน้าสวยเริ่มซุกตัวลงกับแผ่นอกกว้างแล้วกอดรัดร่างสูงไว้แน่นเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่กำลังกลัวกับอะไรสักอย่าง
ยุนโฮชะงักก่อนจะกอดตอบปลอบประโลมร่างบางที่ตอนนี้สลัดคราบนางพญาทิ้งไปเหลือเพียงคนสวยที่กำลังกอดเขาแน่นหาที่พึ่งยามหวาดกลัว
การกระทำบางทีน่ะนะ...มันก็ไม่ได้ใช้สมองสั่งเช่นเดียวกับเขาในตอนนี้ที่ทำไปยังไม่รู้เลยว่าทำไปเพราะอะไร?
และพักนี้ก็ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจตัวเองในหลายๆอย่าง
ก็แค่...ไม่อยากเห็นน้ำตา
แล้วก็ต้องการให้กลับเป็นแจจุงคนเดิม...
“หัวใจนายเต้นเหมือนอยู่ในผับเลยอ่ะ”แจจุงเงยหน้าออกมาด้วยใบหน้าขึ้นสีจัดแต่มันคงเห็นไม่ชัดเพราะความมืดที่ปกคลุม
หัวใจรึ...น่าขัน
คนอย่างเขา...ไม่จำเป็นต้องมีของพรรค์นั้นหรอก
“ไปได้แล้ว...”บอกเสียงเรียบแล้วดึงร่างบางให้เดินตามทำให้คนสวยนั้นต้องโวยลั่นด้วยความเจ็บก่อนจะสบถด่าให้ร้ายเป็นวรรคเป็นเวรที่บ่งบอกได้อย่างดีว่าคนสวยคนเดิมนั้นกลับมาแล้ว
_____________________________________
“กลับเหอะ....ป่านนี้คงมีใครสักคนเจอพี่แจจุงแล้วล่ะ”คิบอมบอกเสียงเหนื่อยๆหลังจากที่โดนผีวิ่งไล่มาตลอดระยะ 1 กิโลเมตรที่ผ่านมา
ผีบ้าบอที่ดันมาติดใจความหล่อคุณชายคนเล็กของตระกูลคิมเข้า
ก็แหม...คนมันดันเกิดมาหล่อช่วยไม่ได้ 555+
แต่ที่แย่ก็คือดงแฮที่ดูท่าทางจะเริ่มงอนตุ๊บป่องไปแล้วทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาสักหน่อย ไอ้ผีเคะพวกนั้นต่างหากที่ผิดน่ะ >O<!
“ว่าไงดงแฮ...กลับรึยัง?”
“ถ้ายังไม่เจอพี่แจจุงล่ะ?”ดงแฮบอกเสียงออกติดจะงอนๆเล็กน้อย
งอนผมทำไมเนี่ย...-*-
“ทำเสียงเหมือนผีหึง”คิบอมว่าพลางฉีกยิ้มและนั่นผีหึงก็ก้มหน้างุดลงอย่างน่ารัก “กลับได้แล้วน่า”
“ง...งั้น ถามพระเจ้าก่อนว่ามีใครเจอพี่แจจุงแล้วรึยัง” -3-
“ห...หา” =O=”
“ถ...ถามสิ เอากระจกนั่นติดตัวมาไม่ใช่เหรอ?”
“อื้อ!”รับคำเสียงหน่ายเล็กน้อยก่อนจะหยิบกระจกออกมาจากกระเป๋ากางเกง เจ้าชายแก้มป่องมองมันอย่างหน่ายๆก่อนจะเรียก “ชางมินนน~”
“ว่าไง?”
เร็วได้ใจ ชางมินก็โผล่หน้ามาให้เห็นจากทางกระจกแล้วฉีกยิ้มกว้าง
“ชางมินเพิ่งกินมาล่ะสิ...ผักชีติดฟันนายน่ะ” = =”
คนถูกหาว่ามีผักชีติดฟันชะงักกึกก่อนจะผลุบหายไปแล้วกลับมาใหม่ด้วยฟันขาวยิ่งกว่าใช้เดนทิสเต้ บวกคอลเกตผสมซัลไลท์แล้วคลุกเคล้าด้วยโซดาไฟ
“มีไรคิบอมว่ามา...”
“มีคนเจอพี่แจจุงรึยัง?” = =
“ยัง”
“น่ะ!...เห็นมั๊ยยังไม่เอจพี่แจจุงสักหน่อย”ดงแฮร้องแต่ก็ต้องชะงักกับคำพูดต่อไปของคนในกระจก
“คนน่ะยังไม่เจอแจจุงแต่....ยมฑูตตัวหนึ่งน่ะเจอแล้ว”
อ้อ...ตกลงความผิดผมที่ถามไม่ดี ทีหลังคงต้องถามว่ามีคน ผี ยมฑูต เจอพี่แจจุงรึยังสินะ? -*-
ไอ้พระเจ้าเฮงซวย >O<!!
___________________________________
เงียบ........
คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วเริ่มขมวดเข้าไปอีก แจจุงอยากจะกรีดร้องออกมาให้ผีมันลุกออกมาจากหลุมซ่ะให้หมด
ไอ้คนข้างตัวที่ตะกี้มันยังพูดได้อยู่ตอนนี้มันดันใบ้กิน!
เดินกะมันก็ไม่ต่างกับที่เดินคนเดียว...ไอ้ป่าช้าเดินได้!!!
“เออ...นายหาฉันเจอได้ยังไง?”แจจุงตัดสินใจทำลายความเงียบ ยุนโฮหันมามองร่างบางแวบนึงแล้วพยักเพยิดไปทางกางเกงสีเหลืองสะท้อนแสงของเจ้าตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่าร่างสูงเจอแจจุงได้ยังไง
“อ้าวแจจุง!”เสียงเพื่อนซี้ขัดความเงียบมาจากด้านข้าง ฮันกยองกับฮยอกแจที่บังเอิญเดินมาเจอเข้า
“แจจุง...”
ไอ้หมอผีเพี้ยนกับไหม่วงนั่นก็มาพอดิบพอดีที่เหลือตอนนี้ก็น้องชายเขากับผีบ้าๆที่ยังไม่กลับมา
ช้าจังฟ่ะ!
ว่าแต่ว่า...ตอนนี้น้องเขากับ ผีเพี้ยนนั่นไปทำอะไรกันที่ไหนน่ะ? -*-
ตอนนี้อยู่ในโหมดการบ้านเยอะมากกก
สายวิทย์เป็นอะไรที่ทำร้ายคนเรียนได้ดีมาก TTOTT
เม้นด้วยยยย!!!!!!
ความคิดเห็น