คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [Part 10] Journey to...???...ออกเดินทางไปสู่....???
Prince With Soul...วิญญาณสยอง เจ้าชายแสยง
[Part 10] Journey to...???...ออกเดินทางไปสู่....???
ร่างสูงที่กำลังลอยผ่านข้ามห้องแจจุงไปชะงักฝีเท้าเล็กน้อยแล้วเอียงคอมองเข้าไปในห้อง
ร่างบางที่ขดตัวสั่นระริกบนโซฟาสีม่วงทำให้คนพูดน้อยขมวดคิ้วก่อนจะก้าวเข้าไปดู
ยุนโฮยืนค้ำหัวร่างบางที่กำลังขดตัวสั่นระริก ใบหน้าสวยชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตานั้นทำให้หัวใจของร่างสูงเริ่มทำงานอย่างผิดปกติ
ทั้งๆที่...เขามันเป็นคนไร้หัวใจ
นัยน์ตากลมโตคู่สวยคลอไปด้วยหยาดน้ำตาทำให้ร่างสูงเผลอเอามือไปปาดมันทิ้งอย่างไม่รู้ตัว
“นายเป็นอะไรแจจุง?”น้ำเสียงทุ้มที่ถามออกมาเต็มไปด้วยกระแสความห่วงใยทำให้ร่างบางที่ขดตัวอยู่ยกมือขึ้นชี้ที่สั่นระริกออกไปทางด้านหน้าที่มีกล่องสี่เหลี่ยมฉายภาพเคลื่อนไหว (โทรทัศน์แบบที่ยุนเรียก - -)
“นารินนน~!”
“ค...คุณคาวี!!”
เสียงจากจอสี่เหลี่ยมที่ฉายเรื่องสวรรค์เอียงหรือสวรรค์เบี่ยงเบนอะไรสักอย่างทำให้ยุนโฮต้องเหลียวตากลับมามองร่างบางอีกครั้ง
“ต...ตอนจบแล้ว ซึ้งอ่ะยุน~” TTOTT
= =”
คราวนี้คนถูกหาว่าเป็นใบ้ก็เกือบจะเป็นใบ้จริงๆเมื่อได้รับคำกระจ่างจากพี่คนโตของตระกูลคิม แจจุงช้อนใบหน้าสวยแล้วฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์
“เมื่อกี้นายเป็นห่วงฉันเหรอยุนโฮ” ^ ^
ใบหน้าคมขึ้นสีจัดเพียงแวบเดียวก่อนเสียงห้วนจะกระชากออกจากร่างสูงทันที
“ข้าไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงใคร!!”
____________________________________________________________________________________________________
คิบอมจ้องกระจกในมือเป็นรอบที่ 105 ของวัน คิดไม่ตกกับสิ่งของที่ได้มาจากเจ๊คนนั้น
มันต้องเป็นของอันตราย!!
คิบอมเริ่มลูบคลำๆเล่นเหมือนจะขัดหาเลขเด็ดและไม่นานเจ้าตัวก็ทำหน้าเหมือนได้เขอเลขเด็ดซ่ะจริงๆ
“งวดนี้ออกอะไรเหรอคิบอม” =O=
คิบอมหันไปมองดงแฮที่นั่งแกว่งขาเล่นบนเตียงก่อนจะหันมาถลึงตาใส่กระจกอีกรอบแล้วหันหน้าเหวอๆไปหาดงแฮ
“นี่...ดงแฮฉันหน้าตาเหมือนเจอร์รี่ F4 ตั้งแต่เมื่อไหรอ่ะ?” =[]=”
คราวนี้คนเป็นผีก็เลยลอยเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วเหมือนก่อนตายตัวเองเป็นแฟนคลับนัมเบอร์วันของเจอร์รี่อะไรประมาณนั้น
“ไม่ใช่นะคิบอม...นี่มันเจอร์รี่ตัวจริง เค้าอยากคุยกับนายอ่ะก็เลยติดต่อมา” ^ ^
จะให้ผมพูดกับกระจกเหรอดงแฮ....-*-
“ส...สวัสดี” = =
“อื้อ...ฉันไม่ใช่เจอร์รี่ซ่ะหน่อยนะ ฉันชิม ชาง มิน ต่างหาก~”คนในกระจกตอบกลับแต่เล่นเอาคนหน้ากระจกแทบลมจับ
จะเป็นลม....
คนในกระจกพูดได้...= =
ส่วนดงแฮนี่ก็ลอยว่อนรอบห้องแล้วหันมาบอกผมด้วยสีหน้าตื่นๆ
“คิบอมนี่พระเจ้าล่ะ!!!” >O<!
พระเจ้าเหาน่ะสิ.... -*-
“นายเป็นใครชางมิน?”ผมตัดสินใจถามอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อคำพูดของดงแฮ
“ฉันเป็นคนที่ยืนอยู่บนหัวนายตลอดยังไงล่ะคิบอม อุวะฮะฮ่าๆๆ!!!”เสียงตอบรับจากคนในกระจกทำให้คิบอมต้องกรอกตามองขึ้นมองเพดาน
ไม่เห็นมี - -“
“เอ่อ...ชางมิน นายไปทำบ้าอะไรอยู่บนหลังคาเหรอ?”คนแก้มป่องตัดสินใจถามอีกรอบก่อนจะเริ่มชักชวนด้วยความหวังดี “ข้างนอกมันร้อนเข้ามาในบ้านก็ได้ ฉันไม่ว่า...”
คราวนี้เป็นชางมินที่หน้าบูดและดงแฮก็ตบแก้มป่องๆนั่นดังแป๊ะ
“พระเจ้าก็ต้องอยู่บนสวรรค์ อยู่บนฟ้าไม่ไปยืนโง่อยู่บนหลังคาหรอก!”เสียงแหลมของวิญญาณน่ารักตวาดใส่และคิบอมก็ถึงกับมึน
แม่ครับ....พ่อฮะ...
วันนี้ผมฝันด้วยล่ะ...
ผมได้คุยกับพระเจ้าด้วย....ไม่ทราบว่าพ่อกับแม่ได้คุยกับเขารึยัง ^^”
“อ๊า! ชินดง...ภูเขาอาหารนั่นสุดยอดเลย!!!”ฉับพลันไอ้เด็กในกระจกก็ตีโพยตีพาย “ไปก่อนนะวันหลังจะติดต่อมาใหม่~!” >3<!
และแล้วภาพหน้าจอก็หายวับเหมือนโทรทัศน์ที่ถูกถอดปลั๊กไฟ คิบอมมองกระจกนั่นอย่างงงๆหัวเราะแหะๆแล้วโยนมันลงบนเตียง
ฮีชอลนะฮีชอล...
ให้กระจกผีสิงมาซ่ะได้....
แถมยังเป็นผีที่เห็นแก่กินซ่ะด้วย!!
คิบอมจิ๊ปากเบาๆแล้วรวบข้อมือขาวของคนตัวเล็กกว่าเข้ามา
“ลงไปกินข้าวเย็นเหอะ...”
ที่โต๊ะอาหารวันนี้แปลกไป....
พี่จุนซูวันนี้เกิดใจดีแบบที่ผมไม่ต้องการขึ้นมาล่ะมั้งเลยร่ายมนต์ให้ข้าวทุกจานกลายเป็นสีม่วง พี่ยุนโฮก็นั่งมองจานข้าวตัวเองก่อนจะพูดเรียบ
“ข้าอิ่มทิพย์ได้”ว่าจบหมีก็ลุกออกจากโต๊ะทันทีแต่ก็โดนพี่แจจุงคนสวยฉุดลงมานั่งตามเดิม
“นายทำแบบนี้ได้ยังไง!! โตเป็นหมีแล้วนายยังไม่รู้เหรอว่ากว่าจะได้ข้าวมาทีละเม็ดนี่มันต้องลำบากแค่ไหน ชาวนาจะร้องไห้ถ้านายกินแบบนี้!!”เสียงหวานกรรโชกจั๊กกระจี๊รูหูที่คนหน้าหมีก็ได้แต่ทำหน้านิ่งมองหน้าแจจุงเป็นทองไม่รู้ร้อน
“ไม่เกี่ยวกับข้า....”
“แก!!!!!!!!”
โป๊กก~!
กำปั้นหนักๆของเพื่อนซี้หน้าไก่ที่จุนซูปล่อยให้ออกมาเดินเล่นร่วมรับประทานอาหารเย็นโขกเข้าให้กลางกบาลของยุนโฮทันทีที่สิ้นเสียงกรีดร้องของแจจุง
“อย่าขัดใจคนสวยสิเพื่อนยุน...” ^ ^
“กินข้าวได้แล้ว!!”เสียงห้วนกระชากจากโลมาตัวน้อยทำให้ยูชอนหันไปยิ้มหยียวน
“เป็นอะไรไปอีกล่ะครับคนน่ารัก....” ^ ^
ฮยอกแจนั่งมองตาแป๋วพยักหน้าๆหงึกตักข้าวใส่ปากตามคำบัญชาของจุนซูโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องบ้าๆรอบตัวเลยสักนิด
คิบอมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเริ่มทานอาหาร โซยุขวดเบ่อเร้อกลางโต๊ะถูกฮยอกแจคนที่มีสิทธิเป็นโรคไตได้คนแรกของตระกูลเอาไปนั่งกอดเรียบร้อย
อาหารเย็นวันนี้...
คิม คิ บอม อยากร้องไห้ TTOTT
บ้าอะไรอย่างนี้!!!
“เออ...วันนี้ฉันรับงานไว้อ่ะ แต่ทำคนเดียวไม่ได้พวกนายต้องมาช่วยด้วยนะ”พี่จุนซูพูดเสียงใสแต่คนฟังนั้นพูดไม่ออกยกเว้นพี่แจจุงที่ปฏิเสธทันทีที่พูดจบ
“ไม่ไป...งานจับผีของนายอ่ะนะ”
“โธ่...แจจุง ผีตัวนี้มันเป็นผู้ดีเก่ามาก่อน ชอบเข้าสังคม คนไม่เยอะมันไม่ออกมาให้จับอ่า~” TTOTT
“กุมารทองนายมีเยอะแยะ...”แจจุงสวน
“โละทิ้งหมดแล้วเหลือแต่ยูชอนตัวเดียว....” TTOTT
คราวนี้คนเป็นกุมารทองเพียงแต่ผู้เดียวถึงกับหน้าแดงเล็กน้อยถึงปานกลาง
“ไปน้าแจจุง...ขอร้องงง~”
“ต้องมีอะไรมาแลก สิ่งที่เท่าเทียม...”แจจุงบอกเสียงเย็น คราวนี้โลมาน้อยถึงกับขึ้นเสียงย้อน
“ฉันรับใช้นายมาตั้งแต่บรรพบุรุษแค่นี้ยังไม่พออีกเรอะ!!~....ฉันเสียเปรียบนายด้วยซ้ำ!!” >O<!
คนถูกย้อนถึงกับอึ้งนึกไม่ถึงว่าหมอผีดีแต่เพี้ยนจะค้นก้นหีบตั้งแต่ต้นตระกูลออกมาย้อน คิบอมถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบาๆส่วนยุนโฮก็หันไปมองร่างบางที่เริ่มเรียนรู้คำว่าเถียงแพ้เป็นครั้งแรกด้วยสีสีหน้านิ่งสนิท....
“เออๆๆ”แจจุงตัดบทเสียงห้วน - -
จุนซูสะพายย่ามพาดบ่าที่ข้อมือมีสายสิญจน์โยงไปหาบุรุษชุดทักสิโด้ตัวเดียวกับที่เจอกันวันแรกซึ่งเจ้าตัวย้ำนักย้ำหนาว่าต้องใส่ตัวนี้ออกงาน
ยุนโฮ...เหมือนปกติกับเสื้อผ้าธรรมดาๆ ส่วนแจจุงใส่เสื้อสีแดงแป๊ดกับกางเกงเหลืองสะท้อนแสงเหมือนตัวประหลาดที่ส่องแสงได้ตอนกลางคืน บ่งบอกได้อย่างดิบดีว่าสองคนนี้แตกต่างกันแค่ไหน -*-
คิบอมก็ยังเป็นคนปกติเพียงแต่จะมีวิญญาณตัวขาวๆน่ารักๆที่ชื่อดงแฮเกาะอยู่บนบ่าทำตาวิบวับอยู่ก็เท่านั้นและคนสุดท้าย...
ฮยอกแจ...ที่แจจุงมีความคิดว่าอาจจะปล่อยมันทิ้งไว้กับผีพวกนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเห็นแก่เพื่อนรัก(มั้ง)ฮันกยองที่ดันหลงรักไอ้เอ๋อนี่
...........................................................
[...M@y Talk...]
น...ในที่สุด เค้าก็ได้เล่นเน็ต
มีน...ใจมากที่อัพให้เราด้วย เชิ้บๆ
เออ...แล้วคู่ที่เค้าสั่งรีเควสไปนานมากแล้ว อย่าลืมนะเฟ้ยมีน!!!
ปล.เม้นเถอะ ได้โปรด พลีสสส
ความคิดเห็น