คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [Part 8]
[Part 8] (เม้นซ่ะ!!)
“ไวน์ชั้นดี...”ยุนโฮจิบไวน์ที่คิบอมส่งมาให้ก่อนจะหรี่ตามองคนข้างตัวที่ยืนเกาะเขาเหมือนปลิง ซึ่งร่างสูงเข้าใจว่าแจจุงยังคงไม่ชินกับการเข้าสังคมและคนเยอะๆสักเท่าไหร่
“คุณแจจุงกินหน่อยไหมครับ?”คิบอมถามร่างบางและยังไม่ทันที่คนสวยจะตอบคนหล่อก็เป็นฝ่ายตอบแทน
“อย่าดีกว่าคิบอม...ฉันว่าอย่างแจจุงคงจะคออ่อน”
“ฉ..ฉันจะกิน”แจจุงผู้ไม่รู้จักคำว่าแพ้ทนไม่ได้กับคำสบประมาทร้องบอก คิบอมจึงยื่นแก้วส่งในขณะที่ยุนโฮถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายกับความดื้อด้านของร่างบาง
เอากะคุณเธอสิ น็อคขึ้นมาแล้วอย่าร้องให้ช่วยแล้วกัน...
“อื้ม...เจ๋ง!”แจจุงเมื่อดื่มด่ำกับรสของไวน์ร้องขึ้นมา คนสวยฉีกยิ้มกว้าง “ไม่เคยกินไวน์รสดีเท่านี้มาก่อน โซจู 3 ขวดดื่มพร้อมกันยังอร่อยไม่เท่าไวน์แก้วนี้แก้วเดียวเลย”คำพูดที่ทำให้ยุนโฮต้องหันมามองคนสวยใหม่
“คุณเคยดื่มโซจู 3 ขวดพร้อมกัน?”
“อื้อ!...ฉันน่ะซัดได้เป็นถังเลยล่ะยุนโฮ ถ้านายไม่เชื่อ...นายก็ไปถาม...จ...จุนซูได้...”ปลายประโยคดังแผ่วลงอย่างน่าใจหาย รอยยิ้มที่เคยประดับหายไปทันตา “แต่...เขาคงไม่อยู่ให้ถามแล้วล่ะ”แจจุงยิ้มจืดชืดส่งให้ยุนโฮ ร่างสูงจึงตัดบท
“ตรงนั้นมีอาหาร คุณน่าจะไปลองชิม”
“ฉ...ฉันไม่ค่อยหิว”แจจุงบอกเสียงแผ่วและยุนโฮก็รู้ว่าเพราะอะไรทำไมแจจุงถึงไม่หิว
แย่จริง...ดันไปขุดเรื่องของจุนซูขึ้นมาซ่ะได้
“ป่องๆ...ฉันมาแล้ว”เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่กระโดดขี่คอคิบอมจนหน้านิ่งถึงกับเหวอ
“หัวหน้าบอกให้ฉันพาเด็กมาส่ง”ฮันกยองบอกเสียงหงุดหงิด “นึกไม่ถึงว่าเด็กที่ว่าจะหมายถึงดงแฮ”
“เข้ามาได้ยังไงเนี่ย”คิบอมถามเจ้าคนตัวเล็กที่ยังคงขี่หลังเขาอยู่
“ก็...ฮันกยองพาเข้ามา”ดงแฮจิ้มแก้มคิบอมจนเป็นหลุม “ฉันเป็นแวมไพร์พิเศษ...เพราะงั้นถึงเข้ามางานเลี้ยงของนักล่าได้ไง”เจ้าตัวฉีกยิ้มจนตาหยีตอบ
“ดงแฮมันไปโวยวายกับหัวหน้า หัวหน้าเลยเรียกฉันไปพบแล้วให้เอามันเข้าไปด้วยเพราะฉันเป็นจ้าวอาคมจึงสามารถร่ายอาคมให้ดงแฮไม่โดนอาคมที่ใช้ทำลายปีศาจเล่นงานได้น่ะ”ฮันกยองเสริมหน่ายๆ ยุนโฮพยักหน้าหงึกหงัก
“ฟังดูงงๆนะ”
“เพราะแกมันโง่ไงไอ้หมี ถามจริงเหอะนายมีสมองเหมือนคนอื่นๆเขาไหมเนี่ย?”ฮันกยองหันมาแขวะและก่อนที่จะได้เป็นสงครามมังกรกับหมี คนน่ารักก็บอกเสียงใส
“แจจุง...ขนมปังตรงนั้นอ่ะอร่อยมากเลยนะ ไปกินสิ~”
“เอ่อ...ฉันไม่ค่อยหิวน่ะ พาคนอื่นไปกินสิดงแฮ”คนสวยตอบกลับ ดงแฮทำหน้าเบ้แล้วเดินมาหาแจจุง มือบางยื้อแก้มแจจุงไปมาแล้วบอกเสียงอ่อน
“ก็แจจุงไม่ยิ้มนี่...ทำไมแจจุงไม่ยิ้มล่ะ”
“คุณ...ลองไปกินอาหารหน่อยนะ”ยุนโฮบอกร่างบาง แจจุงยังคงนิ่ง หมีเจ้าเล่ห์จึงก้มลงกระซิบ “ไม่ไปเดี๋ยวผมก็อุ้มไปจริงๆด้วย”
“นายไม่กล้าหรอก”แจจุงบอกเสียงหงุดหงิด ยุนโฮจึงขยับยิ้ม
“เอาจริงนะ”
“ทำได้ก็ลองดู...”
และแจจุงคงลืมคิดไปว่าหมีตัวนี้มันด้านแล้ว ยุนโฮช้อนตัวร่างบางขึ้นมาในอ้อมกอดโดยที่คนสวยได้แต่เอ๋อและเมื่อเจ้าตัวตั้งสติได้ก็เริ่มร้องโวยวาย
“ไอ้หมีแกทำอะไรน่ะ!!! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!!”
“คุณท้าผมนะแจจุง”ยุนโฮบอกเสียงหยียวนขณะที่อุ้มแจจุงไปตรงโซนอาหารโดยที่คนอื่นได้แต่ยืนมองกันตาปริบๆ
แจจุงกับยุนโฮอาจจะไม่ได้สังเกตเลยว่าทั้งงานตอนนี้เงียบแค่ไหนเมื่อทุกคนหันมามองแจจุงกับยุนโฮกันเป็นตาเดียว
“น่ารักกันดีนะคิบอม”ดงแฮว่ายิ้มๆส่วนคิบอมน่ะสิพูดไม่ออก
ก็ไม่เคยเห็นยุนโฮมันเป็นแบบนี้นี่หว่า...
__________________________________
“เดินเล่นเหรอฮะ?...”ชางมินถามร่างสูงที่บังเอิญเดินสวนผ่านมาในขณะที่ตัวเองกำลังกางหนังสือว่าด้วยคัมภีร์เวทและถังขนมอยู่บนโต๊ะ “ผมว่าคืนนี้พระจันทร์สวย...”
“แล้วทำไม?”
“ห้องพี่จุนซูไม่มีหน้าต่าง”คนอ่อนวัยตอบเรียบ “ดีกว่าไหมฮะถ้าพี่จะพาจุนซูไปชมจันทร์”
“นายอยากพาไปก็พาไปเองสิ”ยูชอนบอกเรียบ ชางมินยกยิ้มมุมปาก
“จริงเหรอฮะ?”
“ให้มันน้อยๆหน่อยชางมิน”ร่างสูงบอกเสียงไม่สบอารมณ์ “แกอย่ายุ่งกับจุนซูให้มากนักเพราะหมอนั่นมันของฉัน”
“เขาน่ารัก”ชางมินบอกเสียงใส “อยู่ด้วยแล้วรู้สึกดี...ดีกว่าอยู่กับพี่เยอะเลยล่ะฮะ”
“ปากเสีย”ยูชอนโต้กลับก่อนริมฝีปากจะยกยิ้มขึ้นมาโดยที่ชางมินได้แต่แอบหัวเราะเบาๆ “ก็ดี...หมอนั่นไม่ได้ออกมาข้างนอกมานานแล้ว”
ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องของจุนซูแต่แล้วเจ้าตัวก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจเมื่อภาพที่เห็นไม่ใช่คิมจุนซูที่มองมาที่เขาด้วยแววตาเอาเรื่องหรือคิมจุนซูที่กำลังร้องไห้จนตาแดงก่ำแต่เป็นคิมจุนซูที่กำลังหลับอยู่ตรงมุมห้อง
ยูชอนเดินเข้าไปยืนค้ำหัวร่างเล็กแล้วถอนหายใจ...นี่คงร้องไห้จนหลับเลยสินะ
ทั้งๆที่ก็มีเตียงให้แท้ๆเลยนะ
ยูชอนนั่งลงข้างๆจุนซู ใบหน้าน่ารักแดงระเรื่อชวนมองแม้นัยน์ตาคู่นั้นจะบวมแดงเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาก็ตาม ร่างสูงขยับยิ้มบางระบายบนดวงหน้าอย่างไม่รู้ตัวพร้อมๆกับความรู้สึกที่ไม่เข้าใจที่แล่นวาบเข้ามาให้หัวใจที่ด้านชาเต้นไม่เป็นจังหวะ
มันคืออะไร?
จุนซูยังคงน่ารักและดูเหมือนจะน่ารักขึ้นทุกครั้งที่มองแม้ว่าจะทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็ตามแต่อะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่อาจคลาดสายตาจากร่างเล็กไปได้
สวยไหม...ไม่เลยหลายคนที่เคยควงมายังสวยกว่า
น่ารักไหม...ก็อาจใช่แต่นิสัยเจ้าตัวก็ใช่จะน่ารักสักเท่าไหร่
แล้วทำไม?
คำถามที่หาคำตอบไม่ได้ทำให้ร่างสูงต้องขมวดคิ้วอย่างคิดไม่ตกก่อนมือหนาจะเกลี่ยผมที่ปรกหน้าร่างเล็กออกอย่างแผ่วเบา
จุนซูขยับตัวนิดๆครางเสียงแผ่วในลำคอ ยูชอนชักมือกลับก่อนความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เข้าใจจะแล่นวาบเข้ามาอีกครั้ง
เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่มีใครล่วงรู้แต่ร่างสูงก็ยังคงมองร่างเล็กอยู่อย่างนั้นมือหนาลูบศรีษะกลมๆของจุนซูอย่างเบามือ
จุนซูค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะกระพริบถี่เหมือนไม่เชื่อสายตาว่าคนตรงหน้าคือปาร์ค ยูชอนและที่สำคัญกับสายตาที่ทอดมองมานั้นอ่อนโยนอย่างที่เจ้าตัวไม่เคยได้รับ
แต่สายตาคู่อ่อนโยนมันก็เป็นเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลับเป็นสายตาที่ถือดีเช่นเดิม
“เข้ามาทำไม?”คนตัวเล็กถามเสียงห้วน ยูชอนยักไหล่ก่อนตอบ
“พระจันทร์สวย...ไปดูไหม?”คำตอบที่เรียกคิ้วให้ชนกัน ยูชอนระบายยิ้มก่อนจะดึงตัวจุนซูขึ้นมา “ฉันจะพาไปที่ระเบียง...นายไม่ได้สูดอากาศข้างนอกนานแล้ว”
“ฉันไม่ต้องการ”จุนซูปฎิเสธคำเชิญชวนเสียงห้วนไร้เยื่อไย คนตัวเล็กสะบัดมือหนาที่เกาะกุมแขนตัวเองทิ้งอย่างรุนแรง
“อย่าดื้อสิ”ยูชอนบอกเสียงอ่อน “ไปด้วยกันหน่อยน่า”
ท่าทีที่เปลี่ยนไปเหมือนคนละคนทำให้จุนซูตั้งตัวไม่ถูกและก่อนที่จะพูดอะไรต่อร่างสูงก็ดึงตัวจุนซูไปเสียแล้ว
ทำไมอยู่ดีๆยูชอนถึงได้ทำดีกับเขา?
หรือบางที...มันอาจจะเป็นแค่ความฝัน
“สวยใช่ไหม”ร่างสูงถามเสียงอ่อนโยนอย่างที่จุนซูไม่เคยได้สัมผัส “ฉันว่ามันสวย...นายคิดแบบนั้นไหม?”
“ทำไม?”
คำถามที่ไม่เข้าใจในหลายๆอย่าง คำว่าทำไมที่หมายถึงหลายเรื่องที่ตนเองนั้นไม่เข้าใจทั้งการกระทำของยูชอนและคำพูดที่ดูอ่อนโยนนั่นด้วย
ทำไม...
คำถามที่ไม่ใช่เฉพาะจุนซูที่ไม่เข้าใจแม้แต่คนถูกถามยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำไปว่าทำไม
“ตอบยาก”ยูชอนบอกพร้อมรอยยิ้ม ร่างสูงหันไปมองดวงจันทร์ที่ดูเหมือนว่าคืนนี้จะสวยกว่าทุกๆคืนที่ผ่านมา “ฉันชอบพระจันทร์”
“พี่ยูชอนไม่ใช่คนเลว...”
ประโยคที่ชางมินเคยบอกย้อนกลับมาให้ได้คิด จุนซูหันไปมองพระจันทร์ที่ทอแสงนวลแล้วตัดสินใจทำลายความเงียบ
“ทำไมนายถึงชอบพระจันทร์”
“เพราะเคยมีคนบอกฉันไว้ว่าพระจันทร์จะคอยทอแสงนวลปลอบประโลมเสมอไม่ว่าจะเวลาใดก็ตาม”ยูชอนตอบโดยไม่หันมามองจุนซู ร่างสูงยิ้มเศร้าขณะที่พูดเหมือนกำลังนึกถึงใครบางคนอยู่ “และเขาคนนั้นก็บอกฉันว่าเมื่อเขาจากไปเขาจะไปอยู่บนดวงจันทร์”
“บอกได้ไหมว่าใคร”คราวนี้คนถูกถามหันมามองจุนซูแล้วตอบเสียงนุ่ม
“แม่ของฉันเอง...”
น้ำเสียงที่นุ่มเป็นทำนองชวนฝันกับใบหน้าคมคายที่กำลังยิ้มให้อย่างอ่อนโยนทำให้จุนซูต้องยกมือขึ้นมาจับจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเอง
เป็นอะไรไป...
ความฝันใช่ไหม...คืนนี้เขาก็คงแค่ฝันเรื่อยเปื่อย
“นายตอบฉันได้ไหมว่าทำไมอยู่ๆถึงได้ดีกับฉัน?”จุนซูยิงคำถามที่ไม่เข้าใจออกไปคราวนี้คนถูกถามมีสีหน้านิ่งสนิทไม่บ่งบอกว่ารู้สึกอย่างไร
นั่นสิ...เขาเป็นอะไร?
พระจันทร์ที่ทอแสงนวลยิ่งทำให้ร่างเล็กดูงดงามราวภาพวาดถึงจะไม่งดงามปานเทพธิดาแต่ก็น่ารักชวนมองดึงดูดไม่อาจละสายตาได้
อีกทั้ง...ความรู้สึกที่ไม่เคยได้สัมผัสกำลังก่อตัวขึ้น
ปฎิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกดี...
แม้จะไม่ได้มีอะไรกันแต่เพียงแค่มองก็มีความสุข...
มือหนาประคองใบหน้าหวานขึ้นมาก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆโน้มหน้าประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากนุ่มของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน
จุนซูเบิกตากว้างอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้รับ สมองเริ่มปั่นป่วนแต่ก็ไม่เท่ากับสิ่งที่หายไปแล้วกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ภายใน
ความฝัน...
นี่คงเป็นความฝันแน่ๆ...
ดวงจันทร์ที่สวยงามกำลังทอแสงอบอุ่นลงมาเป็นพยานสัญญาบทเพลงรักยามค่ำคืนที่กำลังบรรเลงไปตามที่ใจต้องการ
ความฝันหรือความจริง...
ไม่มีใครรู้...
แล้วเป็นไปได้ไหมที่....
มันจะเป็นความจริงที่ตั้งอยู่บนความฝัน
-------------------------
[...M@Y Talk...]
มิกก็เป็นอีกคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ^^" แต่รู้สึกชอบปาร์คจัง (ตอนนี้ไรเตอร์คลั่งยุนแจมากกก)
เดี๋ยวไรเตอร์ไปภูเก็ตวันที่ 6 - 15 ช่วงนั้นคงไม่ได้อัพนะ - -
รักทุกคน ^^
เม้นด้วย =[]="
>>>[ถามๆ] บอกหน่อยว่า...คิดไงกะปาร์คในฟิคนี้?
ความคิดเห็น