ตอนที่ 4 : The Full moon 100%
2
The Full Moon
คืนวันเลี้ยงส่งรุ่นพี่
คืนนี้ตรงกับคืนพระจันทร์เต็มดวงพอดี...อีกไม่นานคาร์เตอร์ก็ต้องออกไปแสดงกันแล้ว ฉันนั่งอยู่ในห้องหลังเวที ดูพวกเขากำลังเตรียมตัวกัน ทุกคนแต่งตัวเป็นพังค์ร็อกเกอร์น่ากลัวๆ เหมือนที่ฉันเห็นในโปสเตอร์ที่ติดอยู่ในห้องดนตรี วินเซนต์มีผ้าพันแผลพันตามตัวเหมือนเพิ่งประสบอุบัติเหตุมา แต่นั่นเป็นแค่แผลปลอม ฉันไม่รู้ว่าเขาจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรกันหรืออยากจะเป็นซอมบี้ตามเพลงที่ใช้เปิดตัว -_- ส่วนคนอื่นๆ แต่งหน้าให้ดูซีดลงและกรีดอายไลน์เนอร์เข้มๆ เหมือนผีกองกอย มีเพียงคาร์เตอร์เท่านั้นที่ไม่ทำอะไรกับเขาสักอย่างนอกจากถอดเสื้อโชว์ผิวขาวๆ กับกางยีนต์สีซีดๆ ที่กรีดเป็นรอยขาดให้ความรู้สึกเซ็กซี่
เตรียมแสตนบายได้แล้ว
ผู้เตรียมงานคนหนึ่งชะโงกหน้าเปิดประตูเข้ามาบอก ทุกคนเลยลุกขึ้นเช็คสภาพตัวเองเพื่อความพร้อมอีกรอบ
คาร์เตอร์เดินเข้ามาหาฉัน
ฉันดูเป็นไง ^-^
เฟอร์เฟคสุดยอด >_<
คาร์เตอร์ยิ้มแล้วขยี้ผมฉันเบาๆ อีกครั้ง ก่อนจะก้มลงมากระซิบว่า
จูบให้กำลังใจฉันทีดิ
อ๊ายย >_< พูดอะไรของนายเนี่ย มาจงมาจูบอะไรตอนนี้ล่ะ เพื่อนร่วมวงของนายก็อยู่กันเต็มเลย
เร็วดิ เดี๋ยวฉันต้องขึ้นเวทีแล้ว
เพื่อนนายอยู่กันเต็มเลยนะ T^T
ฉันไม่แคร์ เธอก็ไม่ต้องสนใจพวกมันดิ เร็วๆ เลยมึนมึน
คาร์เตอร์บอกพลางเลื่อนหน้าเขามาจนเกือบจะชิดติดหน้าฉัน ฉันเหลือบเห็นวินเซนต์กับเฟร็ดเดอริกเพื่อนร่วมวงของเขากำลังมองมาทางเราและยิ้มแบบล้อๆ มาอีกเช่นเคย คาร์เตอร์ไม่เคยรู้สึกเลยหรือไง
มึนมึน เธอจะจูบฉันหรือให้ฉันจูบเธอ
มันไม่ต่างกันเลยนี่นาคาร์เตอร์ T^T ในที่สุดฉันก็เลื่อนหน้าเข้าไปจูบเขาเร็วๆ อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่คาร์เตอร์จับใบหน้าฉันประคองไว้และตรึงจูบอย่างดูดดื่ม
เฮ้ยๆ สวีทกันพอแล้วเว้ย ได้เวลาแสดงแล้ว
วินเซนต์เอ่ยออกมา คาร์เตอร์จึงยอมถอนจูบออกด้วยอาการอ้อยอิ่งเหมือนเสียดาย
มึนมึนของเรานี่หวานจังแฮะ
ไปเลย ไปแสดงได้แล้ว >O<
ฉันผลักเขาออกไปจากตัว เขาหัวเราะชอบใจ ยีหัวฉันเล่นแล้วค่อยเดินไปสมทบกับเพื่อนร่วมวงที่รออยู่
ที่หน้าเวทีเต็มไปด้วยสาวๆ ที่มารอกรี๊ดพวกคาร์เตอร์เมื่อฉันเดินออกไปพวกนั้นก็พร้อมใจกันส่งสายตาจิกแทงมาให้ -_- ฉันจึงเดินไปด้านหลังแทน แต่ด้านหลังก็มีแต่พวกผู้ชาย พวกนั้นมองฉันอย่างหื่นๆ T_T เพื่อความปลอดภัยฉันเลยเลี่ยงไปอยู่ใกล้ๆ พวกอาจารย์แทน
หวัดดี...
อ๋า...นายตี๋หล่อที่เห็นอยู่ในซุปเปอร์มาร์เกตนั่นเอง O_o! ฉันมองเขาอย่างตกใจและรีบขยับออกห่าง ถ้าคาร์เตอร์เห็นมีหวังฉันได้ตายกลายเป็นผีกองกอยเหมือนเพื่อนในวงของเขาแน่ๆ
นี่...ฉันน่ากลัวนักเหรอไง -O- นายตี๋นั่นถามเมื่อเห็นฉันขยับออกห่าง
ไม่ล่ะ...นายไม่น่ากลัวหรอก นายน่ารักจะตายไป แต่ฉันกลัวแฟนของฉันเข้าใจผิดอีกนี่นา T_T ฉันทำเป็นไม่สนใจเขาและมองขึ้นไปบนเวทีแทน ขณะนั้นเองไฟทุกดวงในบริเวณก็ถูกดับลงจนทั้งโรงเรียนมืดไปหมด ฉันตกใจมากจึงขยับเข้าไปหานายตี๋หล่อนั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
เสียงดนตรีเริ่มบรรเลงท่ามกลางความมืด จากนั้นบนเวทีก็ค่อยๆ สว่างขึ้นมา เสียงของสาวจริงสาวปลอมกรี๊ดกันดังสนั่นหวั่นไหวราวกับโดนจับโยนลงไปในกระทะทองแดง นี่คงจะกรี๊ดเพราะได้ยลเรือนร่างอันเซ็กซี่ของแฟนฉันน่ะสิ ชิ!
Another head hanging slowly
เสียงหลอนๆ ของวินเซนต์เริ่มทำการในสิ่งที่เขาเรียกมันว่าร้องเพลงแล้ว แต่ก็โดนเสียงสัตว์น้ำและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกกรี๊ดจนเกือบจะกลบเสียงของเขาหมด แม่พวกนี้...คนอื่นเค้าจะมาฟังเพลงกันนะเฟ้ย ไม่ได้มาฟังเสียงกรี๊ดของพวกหล่อน หูจะแตกอยู่แล้ว =O=!
สักพักเสียงของพวกหล่อนก็เงียบลงไปอย่างน่ายินดี บางคนที่ร้องเพลงนี้ได้ก็ช่วยกันส่งเสียงร้อง ทำนองเพลงเริ่มดุดันและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คาร์เตอร์ของฉันเล่นเบสรัวเร็วจนฉันกลัวว่าแขนของเขาจะหลุดติดไปกับเบส ยิ่งเฟร็ดเดอริก...มือกลองแล้ว -_- เขากระหน่ำใส่กลองชุดราวกับมันเพิ่งทำพ่อเขาตายไปหยกๆ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือวินเซนต์เขาอาจจะขาดใจตายไปในวินาทีใดวินาทีหนึ่งก็ได้
Zombie, zombie, zombie? Hey, hey, hey, hey, oh, dou, dou, dou, dou, dou...
ทุกคนร้องเพลงตามอย่างเมามันส์ บางคนก็กระโดดโลดเต้นราวกับไม่เคยสัมผัสกับความมันส์เท่านี้มาก่อนในชีวิต เมื่อเพลงเปิดตัวจบไปแล้วเสียงกรี๊ดที่คาดว่าจะมีพลังมากกว่าแปดล้านเดซิเบลก็ดังกระหึ่มขึ้น ทำเอากระดูกค้อน ทั่ง โกลนในแก้วหูของฉันสั่นคลอนราวกับเกิดแผ่นดินไหวอยู่ในนั้น =_=;;
Thank you
Thank you!!!
วินเซนต์ตะโกนใส่ไมค์เพื่อให้เสียงของเขาดังกว่าเสียงกรี๊ดนั่น เนื่องจากโรงเรียนของฉันเป็นโรงเรียนนานาชาติ เขาจึงต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษเพราะนักเรียนบางคนแทบจะฟังภาษาไทยไม่ได้เลย วินเซนต์เองก็เป็นลูกครึ่งอเมริกันอยู่แล้ว เขาจึงไม่มีปัญหาทางด้านภาษาอังกฤษแม้แต่นิด
ก็ไม่เลว... นายตี๋หล่อที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันพูดขึ้นสายตาจับจ้องไปบนเวที ฉันเกือบจะลืมไปแล้วว่าฉันยืนอยู่ใกล้ๆ กับเขา เมื่อรู้ตัวแล้วฉันก็ขยับออกห่างอีกเหมือนเดิม
เธอนี่ประหลาดชะมัด
เขาว่าและเปลี่ยนมาจ้องฉันแทน
ไอ้บ้านั่นดูดุร้ายป่าเถื่อนกว่าฉันมากเลย ทำไมไม่เห็นกลัวมัน -_-
ก็เขาเป็นแฟนของฉันนี่นาฉันจะกลัวไปทำไม แต่เอ๊ะ
เมื่อกี้นายนั่นว่าคาร์เตอร์ของฉันดุร้ายป่าเถื่อนเหรอ -O- เขาไม่ใช่สัตว์ป่านะยะ ถึงนายจะรูปหล่อจนเทียบกับคาร์เตอร์ได้แต่ยังไงฉันก็ว่าแฟนฉันหล่อกว่าอยู่ดีล่ะ -O-;
ฉันแกล้งทำเป็นไม่สนใจเขาอีกเช่นเคย ตอนนี้วินเซนต์กำลังกล่าวคำขอบคุณรุ่นพี่และอวยพรให้พวกเขาไปดี สู่ที่ชอบๆ เถิด (นั่นไงเขาสาปพวกรุ่นพี่จริงๆ ด้วย =O=) จากนั้นก็เริ่มเล่นเพลงต่อไป
เธอชื่ออะไร?
นายตี๋หล่อยังไม่เลิกล้มความพยายามที่จะคุยกับฉัน
นี่...
เขาเปลี่ยนมาเป็นสะกิดฉันแทน ฉันจึงหันไปหาเขาแต่ก็ไม่พูดอะไร แต่แล้วฉันก็ต้องย่นคิ้วเข้าหากันเมื่อนายตี๋หล่อนั่นกำลังโบกไม้โบกมือเป็นท่าทางต่างๆ นะ...นี่มันภาษามือของคนเป็นใบ้นี่นา T^T
ฉันไม่ได้เป็นใบ้นะ -O-! ฉันรีบบอก
ก็เธอไม่ยอมพูดนี่นา
ทำไมฉันต้องพูดกับนายด้วยล่ะ เราไม่รู้จักกันสักหน่อย
มารยาทน่ะรู้จักมั้ย...มีคนทักก็ต้องทักตอบสิ -O-
=O=
นอกจากคาร์เตอร์แล้วไม่เคยมีใครว่าฉันอย่างนี้ อีตาตี๋หล่อนั่นหาว่าฉันไร้มารยาท กรี๊ด! ฉันน่าจะปล่อยให้คาร์เตอร์ขยี้กระดูกของเขาให้แหลกตั้งแต่อยู่ในซุปเปอร์มาร์เกตแล้ว
นี่...คนทักไม่ตอบแสดงว่าคนๆ นั้นเค้าไม่อยากพูดด้วย รู้รึเปล่า?
นี่แน่ะ +O+ ไหนๆ ก็โดนหาว่าไร้มารยาทแล้วก็ขอไร้มารยาทต่ออีกหน่อยเถอะ เป็นยังไงล่ะ โดนอย่างนี้เข้าไปถึงกับยิ้มออกเลยเหรอ เฮ้ย >_< ฉันยังไม่ได้ออกปากชมว่านายหล่อนะ ไม่ต้องยิ้มกว้างขนาดนั้นก็ได้
เธอตลกดี ^^
ส่วนนายเป็นคนพิลึก =O= ไม่เอา...ฉันไม่พูดกับนายตี๋บ้านี่ดีกว่า เขากวนประสาทและฉันไม่อยากให้คาร์เตอร์โกรธอีกด้วย ฉะนั้นฉันจึงหันไปสนใจพ่อรูปหล่อของฉันบนเวทีและพยายามไม่สนใจอีตาตี๋บ้าที่ยืนอยู่ข้างๆ
ผ่านไปแล้วสี่ห้าเพลง คาร์เตอร์ของฉันชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งตัวเพราะกระโดดไปกระโดดมาและต้องร้องประสานเสียงช่วยวินเซนต์ด้วย แต่เขาก็ดูเท่มาก *O* ให้ตายสิ -..- ฉันอยากจะตะโกนบอกคนทั้งโลกว่านั่นคือแฟนของช้านนนน แต่ว่าเสียงของฉันคนเดียวคงสู้คลื่นเสียงของพวกผู้หญิงที่กำลังกรี๊ดกร๊าดอยู่ตอนนี้ไม่ได้หรอก
ขณะนั้นเองก็มีลมวูบใหญ่พัดเข้ามาอย่างแรง แล้วอยู่ๆ ทำนองเพลง Canon in D major เวอร์ชั่นร็อกที่พวกเขาซ้อมมาหลายอาทิตย์ก็เริ่มเพี้ยนไป ฉันมองขึ้นไปบนเวทีอย่างตกใจเพราะว่าต้นเหตุทำนองเพี้ยนนี้มาจากคาร์เตอร์นั่นเอง ที่ฉันสามารถบอกได้เพราะว่าฉันตามไปดูเขาซ้อมทุกวัน เพื่อนในวงเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่กแต่ก็ไม่หยุดเล่น พวกคนดูข้างล่างยังเต้นไปกับจังหวะมันส์ๆ อยู่
เธอเชื่อเรื่องผีมั้ย?
เสียงของนายตี๋หล่อนั่นกระซิบถามฉันเบาๆ ฉันเงยขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างงงๆ เราสบตากันสักครู่นายตี๋นั่นก็มองไปที่คาร์เตอร์ซึ่งกำลังเล่นเบสเป็นทำนองเพลงบ้าอะไรไม่รู้ วินเซนต์พยายามส่งสายตาเตือนให้เขาหยุดทำอะไรบ้าๆ แต่คาร์เตอร์ไม่ได้สบตาและไม่ได้สนใจใครเลย เขากำลังเล่นเบสอย่างตั้งใจถึงอย่างนั้นมันก็ออกมาห่วยมาก จนฉันไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเสียงเบสที่คาร์เตอร์เล่นจริงๆ ตอนนี้เพลงมั่วมาก เสียงกลอง เสียงกีตาร์และเสียงเบสไม่เข้ากันสักนิด
ว่าไงล่ะ เธอเชื่อเรื่องผีมั้ย?
ฉันไม่รู้ว่านายตี๋หล่อนี่จะถามเรื่องนี้กับฉันทำไม แต่ถ้าฉันไม่ตอบเขาคงถามอีกเรื่อยๆ สินะ
ไม่...ฉันไม่เชื่อหรอก ฉันบอกด้วยเสียงที่ค่อนข้างจะรำคาญ
หมอนั่นโดนผีสิง
หา!!
ฉันหันไปมองเขาราวกับเห็นคนเสียสติ เขาคงไม่ชอบคาร์เตอร์เอามากๆ เลยสินะถึงได้พูดอย่างนี้ออกมา บ้าสิ! ผีมีที่ไหนกันล่ะ จะมีก็แต่ผีบ้าอย่างนายนั่นแหละ >_<
ในที่สุดเพลงเพี้ยนๆ นั่นก็จบ คาร์เตอร์เข้าไปแย่งไมค์ของวินเซนต์แล้วตะโกนว่า
IM BACK!!!!!!!!!!!! (ฉันกลับมาแล้วโว้ย!!)
คนในวงมีสีหน้างงงันสุดขีด ส่วนคนดูก็ส่งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าดตามประสาคนไม่รู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
พูดอะไรของเขาน่ะ!? ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ
ฉันบอกแล้วว่ามันโดนผีสิง
ฉันไม่ได้สนใจที่นายตี๋หล่อพูดเพราะตอนนี้คาร์เตอร์เริ่มพ่นคำพูดหยาบคายออกมาแล้ว เขาไม่เคยพูดคำหยาบคายขนาดนั้นในที่สาธารณะถึงจะเป็นภาษาอังกฤษก็เถอะ และเสียงของเขา...เสียงพูดปกติของคาร์เตอร์จะไม่เป็นแบบนี้ พวกอาจารย์ที่อยู่ไม่ไกลเริ่มกระซิบกระซาบอย่างไม่พอใจแล้ว
This song calls Something Else
(เพลงนี้มีชื่อว่า สิ่งอื่น)
คาร์เตอร์เตะลำโพงที่อยู่หน้าเวทีลงไปข้างล่าง พวกสาวๆ ที่อยู่หน้าเวทีกรีดร้องอย่างตกใจและพยายามหลบ คาร์เตอร์ยิ้มกวนๆ ออกมาอย่างพอใจก่อนจะเริ่มเล่นเบสอีกครั้ง
...Look at that
Here she comes
Here comes that girl again...
ดูเหมือนคนดูจะไม่ติดใจที่คาร์เตอร์เตะลำโพงใส่ พวกเขายังคงกรี๊ดกร๊าดและเต้นไปกับเพลงเพี้ยนๆ ของคาร์เตอร์อยู่ และเพื่อนร่วมวงของเขาคงไม่รู้จะทำยังไงเมื่อคนดูข้างล่างดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ พวกเขาจึงยอมเล่นดนตรีร่วมกับคาร์เตอร์ไปอย่างมั่วๆ วินเซนต์ที่โดนแย่งไมค์ไปแล้วเลยรีบเอากีตาร์อีกอันออกมาเล่นแทน หน้าของเขาดูเหลอหลามาก แต่เพราะว่ามีผ้าพันแผลปิดหน้าไว้บางส่วนเลยไม่มีใครสังเกตเห็น
เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ฉันร้องขึ้นอย่างว้าวุ่นขณะที่มองคาร์เตอร์ร้องเพลงและทำท่าทางหยาบคาย
ฉันบอกเธอแล้วว่า...
หุบปากนะ!
ฉันตะโกนใส่นายตี๋หล่อเสียงดังก่อนจะวิ่งเบียดเสียดกับคนอื่นๆ เพื่อไปที่หน้าเวที
คาร์เตอร์!
ฉันเรียกชื่อเขาขณะที่พยายามแทรกแซงคนอื่นๆ เข้าไป
โอ๊ย อีบ้านี่มาเบียดอยู่ได้!
ผู้หญิงคนหนึ่งร้องอย่างโมโหและผลักฉันไปอีกทางอย่างแรงจนไปชนผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
Ah...Get off x!!
ยัยฝรั่งหุ่นบึกบึนที่ฉันไปชนเธอเข้า ก็จัดการโยนฉันไปข้างหน้าต่อด้วยแรงมหาศาล ฉันชนคนนั้นคนนี้ไปตลอดทางจนในที่สุดก็สามารถมายืนอยู่หน้าเวทีได้แล้ว
คาร์เตอร์!!
ฉันตะโกนเรียกชื่อเขาอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่สนใจเลยสักนิด มีเสียงโห่ร้องมาจากพวกผู้ชายที่อยู่ด้านหลังนั่นอาจจะเป็นเพราะพวกเขาทนฟังเพลงและเสียงเบสห่วยแตกไม่ไหวแล้ว พวกผู้หญิงก็เลิกร้องกรี๊ดกร๊าดแล้ว แต่คาร์เตอร์ก็ยังเล่นเพลงต่อไปอย่างเมามันส์...เมามันส์อยู่คนเดียว
วินเซนต์ เกิดอะไรขึ้น!!!
ฉันตะโกนถามวินเซนต์ซึ่งไม่ห่างจากคาร์เตอร์เท่าไหร่แทน เขาส่ายหน้าไปมาอย่างจนปัญญาเช่นกัน
ฟิ้ววว~
มีคนขว้างขวดน้ำพลาสติกขึ้นไปบนเวที มันลอยไปโดนหัวของคาร์เตอร์อย่างจัง แต่เขาไม่สนใจเลย พวกผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเริ่มทยอยถอยออกไปอีกละคนสองคน บางคนก็ขว้างแก้วพลาสติกใส่เขา พวกผู้หญิงบางคนก็เดินออกไปด้วยสีหน้าวิตกปนงงงันด้วยเช่นกัน
คาร์เตอร์!
ฉันตะโกนเรียกชื่อเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาก้มลงมาสบตาฉันและแสยะยิ้มไม่น่าดูออกมา ก่อนจะเตะลำโพงอีกอันเข้ามาที่ฉัน
ตุ้บ!
ลำโพงนั่นลอยเฉียดหัวฉันไปสองเซนเท่านั้น ฉันคงจะโดนมันอัดหน้าเข้าไปเต็มๆ ถ้าไม่มีใครดึงฉันออกไปให้พ้นทางได้ทันเวลาพอดี
เชื่อฉันเถอะไอ้หมอนั่นโดนผีเข้าจริงๆ
นายตี๋หล่อนั่นเองที่เป็นคนช่วยฉันไว้...ฉันแกะมือที่จับอยู่ที่ต้นแขนของฉันออกเพราะกลัวว่าคาร์เตอร์เห็นแล้วจะโกรธ แต่คาร์เตอร์ไม่ได้มองมาทางนี้ เขากำลังพ่นคำพูดหยาบคายออกมาอีกระลอก พวกอาจารย์ทนไม่ไหวแล้วจึงเข้าไปห้าม แต่เขากลับถ่มน้ำลายใส่อาจารย์และตะโกนด่าอาจารย์เสียๆ หายๆ
ฉันอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ...อาจารย์สั่งให้เพื่อนร่วมวงคนอื่นๆ จับเขาไว้ จากนั้นไฟทุกดวงก็ดับอีกครั้งฉันได้ยินเสียงต่อสู้อยู่ข้างบนเวทีและเสียงด่าทอผู้คนจากคาร์เตอร์ ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนเวทีนั้นบ้าง
แล้วก็มีเสียงคาร์เตอร์ตะโกนโหยหวนออกมาดั่งลั่น
WHERE ARE YOU NANCY MY BABY GIRL!!!? (แนนซี่ที่รักของฉัน เธออยู่ไหน!!?)
แล้วเสียงต่อสู้และเสียงด่าของคาร์เตอร์ก็เงียบไป ฉันได้ยินวินเซนต์พูดว่า
เขาสลบไปแล้วฮะ อาจารย์
พาเขาไปหลังเวทีก่อน
ฉันยืนอึ้งอย่างตกใจ เขาตะโกนเรียกชื่อผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ชื่อของฉัน!
โอ้... เสียงของนายตี๋หล่อดังขึ้นท่ามกลางความมืด
แนนซี่ไม่ใช่ชื่อของเธอใช่มั้ย?
ไม่ใช่...นั่นไม่ใช่ชื่อของฉัน เขาไม่ได้พูดชื่อมึนมึน...
ดวงไฟสว่างขึ้นอีกครั้ง ฉันมองขึ้นไปบนเวทีที่ว่างเปล่า
งั้นก็ดูเหมือนหมอนั่นจะมีคนใหม่...
ตอนนี้ทั่วทั้งหอประชุมต่างก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของพวกนักเรียน พวกนั้นตั้งคำถามต่างๆ นานา ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคาร์เตอร์ ทำไมการแสดงของเขาเปลี่ยนไป ทำไมเขาถึงพูดจาหยาบคายและถ่มน้ำลายใส่อาจารย์แบบนั้น และอีกหลายอย่าง
แต่ที่ฉันอยากรู้ที่สุดตอนนี้คือ
ผู้หญิงที่ชื่อแนนซี่เป็นใครกัน?
คุยกันเล่นๆ >O<
เย้ >_< ในที่สุดก็เปิดท้ายคุยเล่นสักที เป็นครั้งแรกในนิยายเรื่องนี้ โฮ่ๆๆ =O= รู้สึกว่าไม่ได้พิมพ์แบบนี้มานานมาก T[]T เดี๋ยววันหลังจะให้โมมาทักทายบ้าน วันนี้มันไปเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารของลุงมัน -..- (โมอยู่ออสเตเรียนะพี่น้อง ) ตอนนี้เมก็อยู่ที่พิดโลกเช่นเดิมนะค้าบ ไปเป็นลูกขององค์ดำ (พระนเรศวร) กลับมากรุงเทพแม่ก็เลยพูดว่า เมิงดำจริงๆลูก -_- ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของแม่ =_=^
กรุณาอย่ากลัวนิยายเรื่องนี้เลย มันไม่มีไรน่ากลัวเลยจริงๆ ฮ่าๆ สงสัยทำธีสีสดใสไปหน่อย ทุกคนเลยพากันหวาดกลัวไปหมด เดี๋ยวรอโมมาทำโค้ดให้ใหม่ละกัน -_-;; (ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง)
ที่เราสองคนตกลงเอานิยายลงเน็ต เพราะต้องการดูกระแสและความคิดเห็นจากนักอ่านว่าเป็นอย่างไงบ้าง (ทำกันสองคน อ่านกันสองคน เลยรีบบอกว่าสนุก T_T ทำไมกุน่าสมเพช) เพราะฉะนั้นแล้ว อ่านกันแล้วช่วยคอมเม้นตอบแทนความเหนื่อยยาก ตรากตรำ โอ้วววว ซาร่า!! เรากำลังเหมือนฟายที่ถูกใช้แรงงานในทุ่งนาหรือเนี่ย TT^TT
เพราะฉะนั้น อ่านแล้วเม้นสักนิดเน้อ เพื่อประโยชน์สุขร่วมกัน แลกใจกะใจ
เม้นของท่านทำให้เรารู้สึกว่าการเอานิยายลงเน็ตคือความสุข >3<
May112&Mimoza
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบนิยายเรื่องนี้อ่ะ ชอบคาร์เตอร์มาก ๆ
อยากอ่านอีกจัง
เราอ่านซะดึก
แอบกลัวนะเนี่ยTT