ตอนที่ 2 : บทนำ 100%
The moon light วิกฤตหัวใจ ไขปริศนารัก
By :: May112&Mimoza
I don't want to live this life any more
If I can't live for you.
(ชีวิตนะหรือ..ไม่อยากมีอีกต่อไปแล้ว
ถ้าฉันไม่ได้อยู่เพื่อเคียงข้างเธอ)
บทนำ
...The mean, the median and the mode are all measure used to summaries a set of score. They are all ways of giving an average or typical score for the set
เสียงอธิบายบทเรียนคณิตศาสตร์ของอาจารย์ผู้สอนดังหึ่งๆ เหมือนเสียงผึ้งบิน ฉันไม่ได้สนใจจะฟังเลยสักนิดถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นนักเรียนดีเด่นก็เถอะ อันที่จริงฉันอ่านบทเรียนล่วงหน้ามาแล้วไม่จำเป็นต้องฟังก็ได้ สิ่งที่ฉันทำตอนนี้คือพยายามซ่อนหัวตัวเองไว้หลังหนังสือโดยไม่ให้อาจารย์จับได้ว่าฉันกำลังงีบอยู่
และขณะที่ฉันใกล้จะไปถึงแท่นเข้าเฝ้าพระอินทร์นั้น ฉันกำลังจะถวายบังคมแล้วเชียว
มึนมึน!!
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที หนังสือที่ตั้งไว้บังหน้าโดนเจ้าของเสียงเรียกนั้นดึงออกไป
คาร์เตอร์! เลิกแกล้งฉันสักที ได้โปรดเถอะ ฉันง่วงนอนมากจริงๆ นะ T/\T
ฉันหันไปไหว้ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เพราะไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว สิบห้านาทีก่อนฉันดุเขาเมื่อโดนปลุก สิบนาทีก่อนฉันบอกเขาว่าอย่ารบกวน ห้านาทีก่อนฉันพูดกับเขาด้วยเสียงหวานเจี๊ยบว่าอย่าปลุกฉัน และคราวนี้...เฮ้อ อย่างที่บอก ฉันไหว้เขา =_=
เธอไม่กลับบ้านเหรอไง -_-
เขาถามพร้อมกับยัดหนังสือเข้าไปในกระเป๋าของฉัน
อ้อ~ หมดคาบแล้วเหรอเนี่ย?
ฉันขยี้ตาและมองไปรอบๆ ห้อง มนุษย์ทั้งหลายกำลังทยอยเก็บสัมภาระเพื่อกลับบ้าน คาร์เตอร์ดึงฉันให้ลุกขึ้นและลากฉันออกไปจากห้อง สายตาของสาวๆ เพื่อนร่วมชั้นยังทอระยิบพริบพราวเสมอเมื่อมองที่คาร์เตอร์ สามีของฉัน อะโฮ่ๆๆ
ฉันชื่อมินมิน เป็นนักเรียนเกรดสิบเอ็ดของโรงเรียนนานาชาติเซ้นต์ลีโอนาร์ด ฉันมีเชื้อสายจีนห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ชายที่เรียกฉันว่ามึนมึน (หยาบคายมาก) ชื่อคาร์เตอร์ เขาเป็นแฟนของฉันเองแหละ คาร์เตอร์เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ เขาเป็นนักดนตรีของโรงเรียนในตำแหน่งมือเบส...อันที่จริงเขาเล่นดนตรีสากลเป็นหมดทุกอย่างเลย ต่างกับฉันที่เล่นอะไรไม่เป็นและไม่รู้เรื่องดนตรีเอาซะเลย -_- บางครั้งฉันไปนั่งเฝ้าคาร์เตอร์ซ้อมดนตรีทั้งๆ ที่ฟังไม่ออกว่าเขากำลังเล่นเพลงอะไรกันแน่ =_=
ทุกวันหลังเลิกเรียนคาร์เตอร์ต้องไปซ้อมดนตรีและฉันก็จะตามไปด้วย อืม...อันที่จริงก็ไม่ทุกวันหรอกนะ แต่ว่าจะมีมินิคอนเสิร์ตที่งานเลี้ยงส่งรุ่นพี่เกรดสิบสองในคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เขาเลยต้องมาซ้อมทุกวัน ขะมักเขม้นอย่างแรง
หวัดดีมินมิน ^^
นี่คือวินเซนต์...เพื่อนร่วมวงของคาร์เตอร์ เขาทักทายฉันเมื่อเราเดินเข้าไปในห้องซ้อมของโรงเรียน ฉันนั่งรอคาร์เตอร์ที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของฉัน มุมนี้ล่ะแอร์ตกกระทบหัวดีจัง ก็ห้องอัดนะ เวลาที่พวกนี้กระโดดโลดเต้นแหกปากไปมา แค่แป๊ปเดียว ข้างในก็จะร้อนระอุสุดๆ เลยล่ะ เหอๆ -O-;;
คาร์เตอร์โยนกระเป๋านักเรียนของเขามาให้ฉันถือ จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อนอกออกแล้วก็โยนๆ สุมๆ มาไว้บนหัวฉันแล้วก็หยิบเบสขึ้นมาสะพายบนบ่า โอ้ว เพราะอย่างนี้ล่ะฉันถึงชอบตามมาดูเขาซ้อมบ่อยๆ มนุษย์วัยเจริญพันธุ์ -..-
เสียงดนตรีทำนองเพลง Zombie ของ The Cranberries ดังขึ้น นี่เป็นเพลงที่พวกเขาใช้เปิดตัวเสมอ พวกเขาเล่นต่อไปสามสี่เพลง ทำนองเพลงเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนฉันไม่แน่ใจว่านี่มันเป็นเพลงจริงๆ รึเปล่า วินเซนต์ร้องเพลงเสียงแหบและต่ำมากจนฟังไม่เหมือนภาษาคนแล้วล่ะ รุ่นพี่จะพากันคิดว่านี่เป็นเสียงสาปแช่งหรือเปล่านะ =_= หรือพวกเขาอยากจะกินฉัน -O-;;
แต่ดูทุกคนจะเมามันส์กันมาก และเมื่อผ่านไปอีกสองเพลง พวกเขาก็เปลี่ยนมาเล่นเป็นเพลงบรรเลงแทน ทำนองฟังดูคุ้นๆ คล้ายกับเพลง Canon in D Major ที่ประกอบภาพยนตร์เรื่อง My Sassy Girl เมื่อหลายปีก่อน จากเพลงบรรเลงเปียโนนุ่มๆ ซึ้งๆ พวกเขาจัดการเล่นให้มันกลายเป็นเพลงร็อกมันส์เร้าใจอย่างคาดไม่ถึง
ฮ้า~
คาร์เตอร์มานั่งพักข้างๆ ฉันเมื่อเขาเล่นเพลงจบ คนอื่นๆ ก็แยกกันไปพักเหมือนกัน ทั้งใบหน้าและตัวของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ฉันยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา แต่เขากลับเอาใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของเขามาซุกที่แขนเสื้อของฉันแทน =_= แบ่งปันความสะอาดสะอ้านดีจังเลยนะที่รัก
คาร์เตอร์ ผ้าเช็ดหน้าอยู่นี่ >_<
ฉันขยับออกและใช้ผ้าเช็ดหน้าตะปบเข้าที่หน้าของเขาแทน พร้อมกับพูดต่อว่า
นายอย่าทำอย่างนี้สิ เดี๋ยวเสื้อของฉันก็เหม็นพอดี -O-
เหม็นอย่างนั้นเหรอ?
คาร์เตอร์ทวนคำและทำหน้าเหมือนไม่พอใจ
ดีล่ะ งั้นฉันจะทำให้เธอเหม็นเต็มที่เลย
เขาโยนผ้าเช็ดหน้าออก และดึงฉันเข้าไปกอด
กรี๊ด ปล่อยนะ >O<
ฉันดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของเขา บ้าจริง! ตัวของเขาเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เมื่อโดนกอดอย่างนี้เสื้อของฉันก็ซับเอาเหงื่อเขาเข้าไปเต็มที่เลย T_T แล้วนายไม่แคร์สายตาเพื่อนร่วมวงที่ยังอยู่ในห้องอัดหรือไง T^T
แย่ชะมัดเลย ตัวของฉันมีแต่กลิ่นเหม็นของยัยมึนมึนแล้ว
คาร์เตอร์บ่นหลังจากที่ปล่อยฉันออกจากอ้อมกอดแล้ว เมื่อไรเขาจะเข้าใจสักทีว่าที่นี่คือประเทศไทยไม่ใช่อังกฤษ จะมาลากฉันไปกอดง่ายๆ แบบนี้ได้ไงเล่า ที่สำคัญปะป๊าตั้งชื่อฉันว่า มินมิน ไม่ใช่ มึนมึน ด้วย
ฉันต่างหากที่ต้องบ่น ดูสิมีแต่กลิ่นของนายน่ะ T_T
จริงเหรอ ไหนขอดมดูสิ ^-^
ว้ายยย~
เขาดึงฉันเข้าไปกอดอีกรอบ ใบหน้าของเขาซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอของฉัน หยึย ~_~
แง...คาร์เตอร์ปล่อยฉันนะ เพื่อนนายมองกันเต็มแล้ว TOT
หืม? หึๆ อายทำไมล่ะ ฉันยังไม่ได้กลิ่นของฉันที่ติดตัวเธอเลย
เขาพูดอู้อี้และไม่ยอมผละออกมาจากซอกคอฉัน
คาร์เตอร์!! ฉันเรียกชื่อเขาเมื่อเห็นวินเซนต์กำลังมองมาทางเราด้วยรอยยิ้มล้อเลียน
ยัยมึนมึนของเราตัวหอมจังแฮะ
พูดจบ คาร์เตอร์ก็เลื่อนจากซอกคอของฉันไปที่ริมฝีปากแล้วประทับจูบอุ่นๆ ทาบทับอยู่ตรงนั้น ฉันพยายามจะผลักคาร์เตอร์ออกไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีทางผลักเขาออกไปได้ก็เถอะ
เธอน่าจะชินได้แล้ว เราคบกันมาสองปีแล้วนะยัยบ๊อง
ฉันไม่มีวันชินที่นายจะมาแสดงอาการรักฉันต่อหน้าประชาชีหรอก
คนลามก >O<!
ฉันเอากระเป๋าที่เขาฝากไว้ขว้างใส่หน้าเขา คาร์เตอร์หัวเราะและเอื้อมมือมายีหัวของฉันจนฟู
ว้าว มึนมึนน่ารักจัง ^-^
เขาว่าและจัดการยีผมจนมันฟูเหมือนรังนกอีแร้งไปแล้ว T-T
ฉันไปซ้อมต่อล่ะ เธออยากฟังเพลงอะไรเป็นพิเศษมั้ย?
ฉันส่ายหน้าอย่างงอนๆ แต่กลับมีประโยคจากบทเพลงท่อนหนึ่งดังก้องอยู่ในหัว
ไปๆ ไปลงนรกซะเธอที่รัก ฉันจะลงโทษเธอ เวลาของเธอหมดแล้ว
=_= อา...ฉันแค่คิดนะ ในขณะที่ฉันพยายามจัดทรงผมของตัวเองให้เข้าที่ตามเดิม คาร์เตอร์ก็ช่วยยีผมที่เพิ่งจะจัดทรงของฉันให้กลับมาเละเทะเหมือนเก่า ก่อนจะเดินไปสมทบกับคนอื่นเพื่อเริ่มซ้อมอีกรอบด้วยเสียงหัวเราะลั่น ชิ! เดี๋ยวฉันร้องเพลง ไปๆ ไปลงนรกซะเธอที่รัก ใส่นายซะเลยนี่
อ้อ..ลืมบอกไปว่า การแกล้งฉันคือสิ่งที่คาร์เตอร์ชอบรองมาจากการเล่นดนตรี -_- ฉันโดนแกล้งตั้งแต่แรกพบยันคบกัน สองปีมานี้การแกล้งของเขาไม่เคยซ้ำกันเลย มันคงเป็นความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเขา
Hey Baby
เสียงของคาร์เตอร์ดังผ่านไมค์ เขาเปลี่ยนมาอยู่ตำแหน่งนักร้องแล้ว ส่วนวินเซนต์อพยพไปเล่นเบสแทนเขา
เพลงนี้ฉันให้เธอนะมึนมึน...ไม่รู้ว่าโง่ๆ อย่างเธอจะรู้เรื่องรึเปล่า...แต่ก็ฟังไปเถอะ
ฉันอาจจะรู้เรื่องถ้านายไม่ได้ร้องเพลงเหมือนร่ายคำสาปอย่างวินเซนต์ เสียงทำนองเพลงคุ้นๆ เริ่มขึ้น ฉันรู้สึกโล่งใจที่คาร์เตอร์ไม่ได้ร้องเพลงไล่ฉันไปลงนรกอย่างที่คิดไว้ =_=
I don't want another pretty face
I don't want just anyone to hold
I don't want my love to go to waste
I want you and your beautiful soul
(Song: Beautiful soul-Jesse McCartney)
(ฉันไม่ต้องการ...ใบหน้าที่งดงามของใครอื่น
ฉันไม่ต้องการ...ครอบครองใครอีก
ฉันไม่ต้องการ...ให้ความรักของฉันล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย
....ฉันต้องการเพียงเธอ และหัวใจที่สวยงามของเธอ...)
อะ...อ๋า คาร์เตอร์บ้า >_< นายร้องชัดถ้อยชัดคำอย่างนี้ ทำไมฉันจะฟังไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ แต่ถึงจะร้องเพลงเหมือนร่ายคำสาปแช่งเหมือนวินเซนต์ฉันก็จะแกะเนื้อเพลงออกให้ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อความแน่ใจว่าเขาจะไม่ได้ร้องเพลงไล่ฉันไปลงนรกหรือสาปแช่งฉันอีก (คาร์เตอร์เคยร้องเพลงแช่งฉันด้วยแหละ T_T)
.Am I crazy for wanting you?
Maybe do you think you could want me too?
I don't wanna waste your time
Do you see things the way I do?
I just wanna know that you feel it too
There is nothing left to hide
(ฉันบ้าไปหรือเปล่าที่ต้องการเธอมากขนาดนี้
เป็นไปได้มั้ยว่าเธอเองก็ต้องการฉันแบบนั้นเช่นกัน
ฉันไม่อยากให้เวลาของเธอสูญเปล่า
เธอเห็นสิ่งที่ฉันทำบ้างมั้ย
ฉันแค่อยากรู้ว่า คนดีก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน
ไม่มีสิ่งใดซ้อนเร้นอีกต่อไปแล้ว)
ตลอดเวลาที่ร้องเพลงเขาไม่ได้ละสายตาไปจากฉันเลย สายตาของคาร์เตอร์บวกความหมายของเพลงทำเอาฉันเขินแทบบ้า มันก็เป็นอย่างนี้ตลอดแหละน้า -_-// แล้วนายจะมาต้องการฉันทำม้ายย ฉันก็เป็นของนายอยู่แล้ว ฉันหมายความว่าเป็นแฟนนะ แหะๆ //
เมื่อเพลงตามแบบต้นฉบับจบแล้วเขาก็ร้องเวอร์ชั่นร็อกแถมมาให้อีก เสียงนุ่มๆ ของเขาเปลี่ยนไปเป็นเสียงแหบๆ ต่ำๆ เหมือนเสียงหมาไอ -O- แต่ก็ยังดีกว่าเสียงของวินเซนต์ล่ะวุ้ย เพลงที่คาร์เตอร์ร้องเริ่มมีอาการฟังไม่รู้เรื่อง ฟังไปฟังมาเหมือนกับเขาจะร้องว่า ฉันไม่ต้องการหัวของเธอ ฉันไม่ต้องการแขนของเธอ ฉันไม่ต้องการส่วนอื่นๆ ของเธอ ฉันต้องการแค่หัวใจเธอ และเครื่องในของเธอ นายจะเอาฉันไปให้แม่นายยำเหรอไง =_=
พวกเขาซ้อมต่ออีกสี่ห้าเพลงจากนั้นก็แยกย้ายสลายโต๋
เป็นไง เธอฟังเพลงที่ฉันร้องรู้เรื่องมั้ย?
คาร์เตอร์ถามขณะที่เรากำลังเดินไปที่รถของเขา ไม่ค่อยอยากจะแสดงความโง่เลยนะ -_-;; แต่ฉันไม่ชอบพูดปด
รู้นะ
แต่เฉพาะเพลงแรก -_- ส่วนที่เหลือฉันฟังไม่ออก มันเหมือนนายกำลังร่ายมนต์
มึนมึนของเรานี่ไม่ได้เรื่องเลย
ก็นายช่วยร้องให้เหมือนมนุษย์หน่อยสิ >O<
ทั้งต่ำ ทั้งแหบ ทั้งบ้า (ไม่เกี่ยว) สวดๆ สาปๆ อะไรกันก็ไม่รู้ ใครๆ ก็ฟังไม่ออกทั้งนั้นละ คาร์เตอร์หัวเราะออกมาก่อนจะขยี้ผมฉันเล่นเหมือนเดิม T_T ฉันไม่มีวันมีหัวเรียบแปล้แบบชาวบ้านทั้งชาติแน่
ถึงเธอจะฟังไม่รู้เรื่องก็ช่างเถอะ เรื่องโง่มันห้ามกันไม่ได้
=_=
รู้แค่ว่าฉันรักเธอก็พอนะมึนมึน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เเต่ออกเเนวผีๆอ่ะ (ชอบอยู่ดีอ่าเเหละ อิอิ)
นิยายทุกเรื่องของพี่ ทำให้คนอ่านอยากอ่านต่อ
มันอ่านได้เรื่อยๆ อ่านแล้วขำ อ่านแล้วรู้สึกว่ามันพอดีมาก..อารมณ์มันไม่น้อยไม่มากไป
พี่อ่ะ ทำให้เด็กที่ชอบอ่านนิยาย อยากเป็นนักเขียนนิยายบ้าง
มันไม่ง่าย ไม่ง่ายจริงๆอ่ะพี่ T^T การเป็นนักเขียนมันจำเป็นต้องมีพรสวรรค์ด้วยนะ
รักพี่นะ ถึงพี่จะจำเมไม่ได้ก็เหอะ
อยากได้อ่านนิยายของพี่อีกสักครั้ง(ในเด็กดีนะ-w-)...จริงๆนะ
เขิลลลล >///<
สนุกจังเลยนะคะ
เรานี่บ้าขำอยู่หน้าคอม
อิอิ