คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : {SF} AFTER COUNTDOWN CHANKAI
◈ B L & W H ◈
เสียงฝีเท้าหลายคู่เดินกันขวักไขว่ด้านหลังเวทีเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับศิลปินบอยแบนด์สุดฮอตของประเทศ ทีมงานยืนซับเหงื่อ ช่วยแต่งตัวให้สำหรับการขึ้นแสดงเวทีต่อไปในงานแสดงท้ายปีสุดยิ่งใหญ่ พอทุกคนเรียบร้อยหนุ่มๆทั้งหลายก็ถูกดันให้รีบไปขึ้นแสดงทันที
บอยแบรนด์กลุ่มแรกแต่งชุดโทนสีขาวเดินออกมาด้วยเสียงเพลงจังหวะ R&B เซ็กซี่ ร่างกายแต่ละคนเริ่มขยับตามจังหวะที่ได้ฟัง ปล่อยลีลาพลิ้วไหวยั่วยวนชวนให้สาวๆ น้ำลายหก ก่อนเพลงจะถูกสับเปลี่ยนเป็นบีทหนักสไตล์ฮิปฮอป บอยแบรนด์อีกกลุ่มใส่ชุดสีดำทั้งตัวเดินมาออกก่อนจะตีลังกาเพื่อเริ่มแสดง ร่างกายขยับอย่างแข็งแรง มีพลังจนทำให้สาวๆ ใจละลาย
พอถึงเพลงที่สามบอยแบรนด์ทั้งหมดออกมาเต้นด้วยกัน เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอล์แสดง สายตาคู่หนึ่งจับจ้องคนที่สวมเสื้อกล้ามสีดำ เสื้อแจ๊คเกตถูกเหวี่ยงออกไปจากการเต้นเมื่อครู่ บนศีรษะมีหมวกสีดำสวมอยู่ กำลังขยับร่างกายอยู่ข้างตัว ก่อนดวงตาสุกใสที่กรีดอายไลเนอร์สีดำเข้มจะเงยขึ้นมาสบแล้วยกยิ้มให้ท้าทาย พอเพลงจบคนตัวสูงกว่าเดินเข้าไปกอดคอคนที่ยกยิ้มยั่วตัวเองไว้ยีศีรษะอย่างเอ็นดูเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นอีกยิ่งกว่าเคย
โดยเฉพาะแม่ยกคู่จิ้นข้ามวง…ชานไค
………………………………………………………
“โอย…เหนื่อยๆ ” เสียงบ่นของเมนโวคอลวง Moonlight ดังขึ้นหลังการแสดงจบเพราะไม่ถนัดใช้พลังในการเต้น
“แกก็เหนื่อยทุกทีที่ได้เต้นหละ ไปเปลี่ยนชุดร่วมงานให้จบจะได้กลับหอเสียที” เสียงหัวหน้าวงตัวขาวพูดขึ้นก่อนจะให้สมาชิกในวงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปร่วมงานท้ายปีให้เสร็จ นาฬิกาบนผนังเข็มสั้นชี้เลข 11 เข็มยาวชี้เลข 3 บ่งบอกว่าไม่ถึงชั่วโมงจะเข้าสู่วันใหม่ ของปีใหม่
“เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวตามไป” เสียงเมนเต้นประจำวงพูดกับคนหน้าวงตัวขาว ซึ่งคนเป็นพี่ก็อนุญาตให้คนผิวสีแทนไป แต่กำชับให้ตามขึ้นไปเร็วๆ เพียงเท่านั้น
ขายาวก้าวไปคนละทางกับห้องน้ำเมื่อสมาชิกทุกคนในวงออกไปหมดแล้ว เลี้ยวไปทางห้องพักของกลุ่มศิลปินอีกทางด้านหนึ่ง ก่อนสายตาจะเห็นคนตัวสูงที่กำลังพูดคุยกับหัวหน้าวงตัวเองอยู่ คนผิวสีแทนเดินเข้าไปหาก่อนจะทักทายบอยแบรนด์อีกกลุ่มอย่างสนิทสนม
“พี่ลู่ไมสวยแบบนี้เนี่ย พี่เฉินแต่งตัวได้เฟี้ยวสุดๆ เทาแกจะหล่อจะสวยเลือกเอาสักอย่างเถอะ” เสียงหัวเราะดังขึ้นจากพี่ๆ ที่ยืนอยู่ ส่วนคนโดนแซวหน้ามุ่ยงอนคนผิวสีแทนจนต้องรีบเข้าไปง้อก่อนจะเป็นเรื่องใหญ่
“แล้วไม่พูดถึงพี่บ้างหรอ วันนี้พี่หล่อไหม” อีกคนที่ไม่ได้อยู่ในบทสนทนาพูดขึ้นเก๊กหล่อให้อีกคนชม สายตาคมมองสำรวจตั้งแต่ใบหน้าเรียว ดวงตากลมโต จมูกโด่ง ริมฝีปากสวย พร้อมกับสูทสีเข้ม บวกกับรูปร่างสูงโปร่งอย่างกับนายแบบ ปฏิเสธไม่ลงเลยว่า คนตรงหน้า
หล่อมาก
“เจอกันที่เดิมนะ…ผมไปก่อนเดี๋ยวพี่จุนมยอนดุเอา” คนผิวสีแทนเลี่ยงจะบอกความจริงก่อนจะเอ่ยประโยคที่คนตัวสูงที่มองอยู่รู้ดี พี่ๆ ในวงพยักหน้าให้ก่อนขาเรียวจะเดินกลับไปทางเดิมเพื่อขึ้นไปนั่งกับสมาชิกวงตัวเอง
“ไปหาฝั่งนู้นมา เทาเป็นไงบ้าง” พี่ชายในวงที่นั่งข้างๆ พูดเสียงเบาราวกับกระซิบสีหน้านิ่งเฉย ก่อนคนผิสีแทนจะมองตรงไปแต่ขยับริมฝีปากตอบ
“ก็ไม่มีอะไร…จบงานก็ไปหาเองแล้วกันพี่คริส” คนตัวสูงถอนหายใจออกมาก่อนจะทำหน้าหงอยๆ ทำให้รุ่นน้องอดอมยิ้มกับปฏิกิริยาที่ไม่ได้เข้ากับหน้าตาไม่ได้ ใครจะรู้ว่าภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรเจ้าตัวจะมีนิสัยเด็กๆ อย่างเช่น โดนแฟนงอนแล้วจะหน้าจ๋อยถึงเพียงนี้ ที่จริงแรกเริ่มมันเป็นรุ่นพี่ตัวสูงของผมที่ไปงอนเขาก่อนแต่โดนฝ่ายนู้นงอนกลับแถมยังใจกว่าพี่ชายผมด้วย ถึงป่านนี้ยังไม่เลิกงอนเลย
“พี่ไม่รู้จะง้อเทายังไงแล้วนะจงอินนนน” เสียงง้องแง้งของพี่ชายไม่ได้ทำให้ดูน่ารักแต่กลับชวนให้หัวเราะเสียมากกกว่า
“เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ ไปปรึกษาพี่แบคดีกว่านะครับ รายนั้นเห็นง้อพี่คยองซูบ่อย” พอคนผิวสีแทนพูดขึ้น ร่างสูงของคนเป็นพี่ก็สะกิดขอเปลี่ยนที่กับหัวหน้าวงผิวขาวเพื่อไปหาคู่รักฮอบบิทที่กำลังนั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่
สายตาคมกวาดไปทั่วก่อนจะเห็นร่างสูงของคนที่เพิ่งไปหานั่งอยู่อีกฟากกำลังสนุกกับการแสดงบนเวที นัยน์ตาคมจับจ้องไปทางนั้นมองคนที่กำลังสนุกก็ยกยิ้มขึ้นมา
“มองแบบนี้ลุกไปนั่งด้วยเลยไหม…จงอิน” พี่จุนมยอนเอ่ยแซวขึ้นเมื่อเห็นเมนเต้นในวงตัวเองจับจ้องไปยังแรปเปอร์ของวงบอยแบรนด์ที่นั่งตรงข้าม ถึงจะรู้ว่าทั้งสองคนคบกัน แต่ก็อดแซวไม่ได้เมื่อเห็นสายตาหวานของรุ่นน้องที่นั่งมองอยู่
“พี่จุนอนุญาตเปล่าล่ะ” ไม่มีความเขินอายจากคนผิวสีแทน แถมยังพูดเย้าหัวหน้าวงตัวขาวกลับไป
“พอเลย..เมื่อกี้ก็ไปหามาไม่ใช่หรือไง” หัวหน้าวงตัวขาวเอ่ยถามอย่างรู้ทัน เรียกใบหน้ายิ้มๆ จากคนผิวสีแทน สายตายังจับจ้องไปยังที่เดิม ก่อนสายตาอีกคู่จะมองกลับมาด้วยสายตาหวานไม่แพ้กัน คนที่จ้องก่อนรู้สึกแก้มร้อนขึ้นมาทันทีเบนสายตากลับมาทางเดิมแสร้งทำเป็นดูโชว์ อีกฝั่งยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะท้าวคางมองอย่างไม่ปิดบังซึ่งคนที่ถูกจ้องก็รู้ตัวแต่ไม่หันกลับไปมอง เรียกรอยยิ้มจากหัวหน้าวงที่มองทั้งสองคนอยู่
โดนแซวไม่เขิน พอโดนมองกลับเขินเชียวน้องเรา
หลังจบงานทุกคนกลับหอพักโดยรถตู้ของทางช่องที่เตรียมไว้ ขึ้นมาไม่กี่นาทีทุกคนก็สลบเพราะความเหนื่อยรวมทั้งคนผิวสีแทนด้วย รู้ตัวอีกทีเมื่อโดนพี่จุนมยอนสะกิด
“ถึงแล้วจงอิน”
ร่างเพรียวเดินลงไปด้วยความสะลึมสะลือเป็นนิสัย เดินไปเกาะแขนพี่คยองซูก่อนจะเข้าหอพักผ่านแฟนคลับที่มารอหน้าหอเช่นทุกเคย ซึ่งเชื่อว่า ภาพที่ร่างเพรียวเกาะแขนพี่ชายตัวเล็กคนนี้คงทำให้ แม่ยก ไคโด้ ฟินกันไปเป็นแถบๆ
พอถึงห้องร่างเพรียวก็เดินไปทิ้งตัวลงที่ที่นอนทั้งชุดโดยไม่อาบน้ำเนื่องจากง่วงและเพลียมาตั้งแต่เช้า แรงสั่นในกระเป๋าดังขึ้นถี่จนคนผิวสีแทนต้องดึงออกมาดู พอเห็นข้อความก็จำได้ทันทีว่าลืมอะไรบางอย่างไป
Real_pcy: จะออกมากี่โมง
Kai : ง่วงนอนแล้ว *สติ๊กเกอร์กระต่ายง่วง
Real_pcy: นัดพี่แล้วทำไมเบี้ยวนัดอย่างนี้อ่ะจงอินนนนนนน
Kai : เพลียมากกกก ง่วงมากกกก
Real_pcy: อ่า…งั้นนอนไปเถอะ พี่ไม่กวนแล้วก็ได้ *สติ๊กเกอร์รูปกระต่ายร้องไห้
Kai : เจอกันที่เดิมตอนตีห้าครึ่งนะครับพี่ชานยอล…ฝันดี
Real_pcy : ฝันดีครับ ที่รัก *สติ๊กเกอร์รูปกระต่ายกอดหมี
ร่างเพรียวกดตั้งนาฬิกาปลุกก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง เขยิบตัวขึ้นไปนอนให้สบายเพื่อเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างแท้จริง
5.00 น.
ร่างเพรียวตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ที่ตั้งไว้ เดินหยิบผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำหลังจากหลับทันทีที่ทำงานเสร็จ ดมกลิ่นตัวเองก็รู้สึกว่าสกปรก ไม่รู้นอนไปไง
พออาบน้ำแต่งชุดใหม่เสร็จก็เปิดประตูห้องออกไปอย่างเงียบเชียบเพราะกลัวรบกวนสมาชิกในวงที่หลับกันอยู่ ร่างเพรียวเดินออกมาหน้าตึกที่ตอนนี้ไม่มีเหล่าบรรดาแฟนคลับนั่งเฝ้าก็ยิ้มอย่างพอใจ เดินไปตามทางเรื่อยๆ จนถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กที่ไฟในร้านยังส่องให้บริการ ร่างเพรียวเดินเข้าไปเลือกซื้อของกินมาเต็มสองมือโดยไม่ได้สังเกตรอบข้าง จนถึงเวลาจ่ายเงิน
“ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ” ร่างเพรียวถามขึ้นแต่คนข้างๆ ที่เข้ามายืนเป็นคนกวักกระเป๋าตัวเองจ่ายเงินให้พนักงานแทน คนผิวสีแทนหันไปมองคนที่จ่ายเงินให้ตัวเองก่อนจะเผยยิ้มออกมา
“เอาไปวางที่โต๊ะด้านหน้าให้หน่อยพี่ชาน” พอจ่ายเงินเสร็จร่างเพรียวก็บอกคนตัวสูงที่ยืนอยู่ ซึ่งร่างสูงก็หยิบของทุกอย่างไปให้อย่างเต็มใจ ก่อนร่างเพรียวจะหมุนกลับไปชงกาแฟมาสองแก้วแล้วเดินตามคนที่นั่งรออยู่ด้านหน้าร้าน
“นอนเต็มอิ่มแล้วหรอ” เสียงทุ้มถามขึ้น รับกาแฟที่ส่งร่างเพรียวส่งมาให้ก่อนจะยกขึ้นจรดริมฝีปาก
“ยังหรอก…แต่นัดใครบางคนไว้แล้วไม่อยากผิดนัด” คนผิวสีแทนตอบยกกาแฟอีกแก้วขึ้นจรดริมฝีปาก สายตามองไปยังคนข้างๆ ที่นั่งยิ้มกว่างเมื่อได้ฟังร่างเพรียวพูดจบ
“ใครคนนั้นคงสำคัญมากล่ะสิ” ร่างสูงเอ่ยเย้ากลับมา
“ก็สำคัญพอตัว”
รอยยิ้มของคนฟังกว้างขึ้นไปอีกจนร่างเพรียวรู้สึกใบหน้าเห่อร้อนพอกับกาแฟในถ้วย สายตากลมโตที่มองมาพาลทำเอาทำตัวไม่ถูก แก้เขินโดนการหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมากินแทน
“ซื้อมาเยอะแบบนี้ เมื่อวานไม่ได้กินอะไรหรอ” ร่างสูงมองถุงพลาสติกที่บรรจุทั้งขนมปัง และขนมกรุบกรอบอย่างอื่น บนโต๊ะมีไส้กรอกวางอยู่ข้างๆ ตัวอีก
“เมื่อวานกินข้าวไปมื้อเดียวเองตอนเที่ยง หลังจากนั้นก็ได้กินแต่น้ำกับเค้กชิ้นหนึ่ง ไม่รู้หลับลงไปได้ยังไงทั้งที่ท้องร้องขนาดนั้น” ร่างเพรียวพูดเหมือนบ่นกับตัวเองก่อนจะกินคีบเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมากินต่อ ส่วนคนมองก็นั่งจิบกาแฟมองคนที่กำลังตั้งใจกินด้วยสายตาเอ็นดู
“ทีหลังบอกพี่ เดี๋ยวจะใช้ไอ้พี่มาร์คไปซื้อให้”
“ไม่เอาดีกว่า จงอินไม่อยากรบกวนพี่มาร์คเขาต้องดูแลคนอื่นอีกเกรงใจ” คนทั้งสองคนพูดถึงเป็นผู้จัดการส่วนตัวของวงจงอิน แต่ที่ชานยอลเรียกสนิทสนมเพราะรู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียน
“ทีหลังไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวพี่บอกมันให้ ทำไมดูแลจงอินของพี่ไม่ดีเลย” ชานยอลบ่นออกมาหยิบโทรศัพท์เพื่อส่งข้อความไปบ่นเพื่อนตัวเองที่ไม่ดูแลคนของตัวเอง
ร่างเพรียวหยิบไส้กรอกมาทานต่อ ก่อนจะจิ้มชิ้นหนึ่งยื่นมาตรงหน้าร่างสูง คนที่มองแย้มรอยยิ้มออกมาอ้าปากรับไส้กรอกเข้าไปเคี้ยวด้วยสีหน้ามีความสุข ส่วนคนที่ป้อนก็นั่งกินไปเงียบๆ ด้วยแก้มแดงๆ ไส้กรอกถูกป้อนให้ร่างสูงสลับกับเข้าปากร่างเพรียวจนหมด รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าปิดไม่มิดทำเอาร่างเพรียวยิ้มตามออกมา
“จะยิ้มอะไรหนักหนาพี่ชานยอล”
“ก็คนมีความสุข ไม่ให้ยิ้มจะให้ทำอะไร..หืม” ร่างสูงตอบกลับอย่างกวนประสาทยื่นหน้าไปใกล้คนที่กำลังยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม สายตาคมมองซ้ายขวากลัวใครจะเห็นภาพหวาดเสียว
“ถอยออกไปเลยพี่ชาน”
“รู้แล้วๆ ” ร่างสูงถอยออกไปโดยดี เพราะรู้ดีว่าตอนนี้ สถานะคือ กำลังแอบคบกัน ซึ่งถ้าทางต้นสังกัดรู้ทั้งสองคนคบกันจริงๆ เกินคำว่า “คู่จิ้น” ที่แฟนคลับตั้งให้ คงไม่ได้เจอกันอีกแน่
เข็มนาฬิกาชี้เลขหกบ่งบอกว่าตอนนี้ได้ก้าวสู่วันใหม่แล้ว ดวงอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นจากเมฆก้อนใหญ่ที่บดบังแสงยามเช้า ทั้งสองคนมองดวงอาทิตย์ขึ้นด้วยความเงียบ ก่อนสายตาร่างสูงจะเบนมามองเสี้ยวหน้าคนผิวสีแทนที่กำลังดื่มด่ำกับแสงแรกของวันปีใหม่
“สุขสันต์วันปีใหม่นะไคอ่า”
ใบหน้าคมหันมามองร่างสูงที่นั่งด้านข้าง เผยรอยยิ้มสวยตอบกลับมา
“สุขสันต์วันปีใหม่ครับพี่ชานยอล”
…………………………………………….
มือทั้งสองคนเกาะกุมกันเดินไปตามทางในยามเช้า ผู้คนส่วนมากกำลังหลับใหลจากการเคาท์ดาวน์สุดเหวี่ยงจากเมื่อคืนทำให้เช้านี้แทบไม่มีคนตื่นเช้าออกมาเดิน ยกเว้น ชายหนุ่มสองคนนี้
“จะเดินวนอีกกี่รอบพี่ชาน เดี๋ยวจะสายแล้วนะ” ร่างเพรียวดึงมือคนที่กำลังเดินยิ้มอย่างอารมณ์ดีให้หยุด
“อีกแป๊บหนึ่งสิ…ยังไม่อยากจากจงอินเลย จงอินอยากจากพี่แล้วหรอ” พูดจบก็กระชับมือนุ่มให้แน่นขึ้น เอื้อมือยีศีรษะก่อนจะลากมือมาแปะค้างไว้ที่แก้มลูบเบาๆ ก่อนจะผละมือออก มองด้วยสายตาน่าสงสาร
“ใครบอกว่าอยากจากกัน” รอยยิ้มหวานถูกส่งมากระชับมือร่างสูงแน่นขึ้นอีก พากันเดินวนรอบแถวนี้อีกหนึ่งรอบก่อนจะเดินกลับไปทางหอตัวเอง
พอใกล้ถึงหน้าหอมือทั้งสองคนก็ผละออกจากอัตโนมัติ เวลาแห่งความสุขหมดลงแต่ไม่ทำให้คนผิวสีแทนเศร้าใจเท่าไหร่เพราะยังไงก็ได้เจอกันอีก ผิดกลับร่างสูงที่ยังงอแงไม่ยอมกลับง่ายๆ อยู่หน้าทางขึ้นหอ แฟนคลับที่ตามหน้าหอเริ่มมีให้เห็นแล้ว ร่างเพรียวจึงบอกให้ร่างสูงรีบไป
“ไม่อยากกลับเลย…ยังไม่หายคิดถึง”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกัน…ยังไงต้องไปอัดรายการโชว์อยู่ดี” ร่างเพรียวยกเหตุผลขึ้นมาว่าเดี๋ยวจะเจอกันอีก แต่ร่างสูงก็ยังไม่พอใจอยากจะอยู่กับร่างเพรียวต่อ
“ตั้งพรุ่งนี้…ไม่อยากไปทำงานเลย อยากอยู่กับจงอินทั้งวัน”
“อย่ามางอแงนะพี่ชานยอล…วันนี้ไม่มีงานก็กลับไปหาแม่กับพี่สาวไป ท่านคิดถึงจะตายแล้วมั้ง”
“รู้แล้ว..แต่พี่ชานก็คิดถึงจงอินอยู่ดี ทำไมต้องรับงานวันนี้ด้วยอ่า บริษัทนี้นี่มันยังไงแทนที่จะให้พัก!” ร่างสูงบ่นเหมือนกับหมีกินผึ้ง จะว่าน่ารักก็น่ารัก จะว่างี่เง่าก็งี่เง่า เขาจะกำหนดตารางงานตัวเองได้ยังไง เป็นไปได้ก็ไม่อยากออกไปทำงานในวันปีใหม่แบบนี้หรอก
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมเสร็จงานจะตามไปหาดีไหม” จงอินยื่นข้อเสนอที่คิดว่าดีและคนตัวสูงไม่น่าปฏิเสธ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดคนที่ยืนตรงข้ามยิ้มกว้างออกมา
“งั้นโทรทำงานเสร็จโทรหาพี่…พี่จะไปรับเอง จงอินไม่ต้องลำบากมา” ตอนนี้ร่างเพรียวก็ได้ด้พยักหน้ารับเพราะไม่งั้นคนตรงหน้าไม่ยอมกลับแน่ๆ
“ครับเดี๋ยวจะโทรหา…รีบกลับได้แล้ว ผมไปแล้วนะพี่ชานยอล” ร่างเพรียวยกมือบ๊ายบายคนตัวสูงที่ส่งยิ้มกลับมาให้ แฟนคลับหน้าตึกมองมาที่ทั้งสองคนจนกระทั่งร่างสูงของนักร้องบอยแบรนด์อีกค่ายเดินออกไปจึงหยิบโทรศัพท์มาจิ้ม
CHANKAILOVER : ชานยอลมาส่งจงอินที่หน้าหอแต่เช้าเลย น่าจะออกไปด้วยกันมา อร๊ายยยย แต่ก่อนจะไปเห็นยืนคุยกันอยู่นาน น่าจะเป็นชานยอลที่ไม่อยากกลับ
ชานยอลที่กำลังนั่งรถตัวเองตัวเองกลับกดเข้าทวิตอ่านแฟนแอคก่อนจะยิ้มออกมา เอ่ยชมแฟนคลับบ้านชานไคคนนี้เดาเรื่องได้ใกล้ความจริงจนน่าจะเป็นนักสืบ กดรีทวีตไว้ในแอคลับๆ ของตัวเอง ก่อนจะเห็นแอดมินบ้านนี้ทวีตอีกข้อความหนึ่ง คราวนี้ใบหน้าคนที่อ่านยิ้มกว้างความสุขแทบทะลัก
CHANKAILOVER : จงอินบอกว่า ปีใหม่นี้อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรัก วันนี้เจอชานยอลอยู่กับจงอิน แสดงว่า คนที่จงอินรักก็คือชานยอลนะสิ >/////////////<
มันแน่นอนอยู่แล้ว
คนที่จงอินรักก็คือผมนี่ไง J
--------------------------------
ช่วงแมวพิมพ์
HNY 2015 รีดดอร์ทุกคน มีความสุขกันมากๆ นะคะ ตอนนี้อาจจะมาสั้นไปหน่อย ^^ เจอกันอีกทีคงนานเลยล่ะ555555555
ความคิดเห็น