ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS EXO {CHANKAI / KRISTAO}

    ลำดับตอนที่ #10 : {SF} AFTER COUNTDOWN KRISTAO

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 58


    T H E M E
    ◈ B L & W H ◈
                                                        


    เสียงฝีเท้าหลายคู่เดินกันขวักไขว่ด้านหลังเวทีเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับศิลปินบอยแบนด์สุดฮอตของประเทศ ทีมงานยืนซับเหงื่อ ช่วยแต่งตัวให้สำหรับการขึ้นแสดงเวทีต่อไปในงานแสดงท้ายปีสุดยิ่งใหญ่  พอทุกคนเรียบร้อยหนุ่มๆ ทั้งหลายก็ถูกดันให้รีบไปขึ้นแสดงทันที

     

    บอยแบรนด์กลุ่มแรกแต่งชุดโทนสีขาวเดินออกมาด้วยเสียงเพลงจังหวะ R&B เซ็กซี่  ร่างกายแต่ละคนเริ่มขยับตามจังหวะที่ได้ฟัง ปล่อยลีลาพลิ้วไหวยั่วยวนชวนให้สาวๆ น้ำลายหก  ก่อนเพลงจะถูกสับเปลี่ยนเป็นบีทหนักสไตล์ฮิปฮอป บอยแบรนด์อีกกลุ่มใส่ชุดสีดำทั้งตัวเดินมาออกก่อนจะตีลังกาเพื่อเริ่มแสดง ร่างกายขยับอย่างแข็งแรง มีพลังจนทำให้สาวๆ ใจละลาย

     

    พอถึงเพลงที่สามบอยแบรนด์ทั้งหมดออกมาเต้นด้วยกัน เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอล์แสดง สายตาแรปเปอร์ตัวสูงมองคนดวงตาเฉี่ยวในชุดสีขาวที่ไม่แม้จะปรายหางตามา เคลื่อนตัวขยับไปซ้อนด้านหลังแตะมือที่ไหล่แต่ก็โดนบิดตัวออก พอเพลงจบใบหน้าหวานนั่นก็ยิ้มแย้มขึ้น ชะงักรอยยิ้มเมื่อเห็นคนร่างสูงข้างๆ เดินหนีไปกอดแขนพี่ในวงเดินกลับเข้าไป

     

     ทำเอาแม่ยกคู่จิ้นข้ามวงคริสเทา งงเป็นแถบๆ

    ……………………………………….

     

    “ยังไม่เลิกงอนคริสมันอีกหรอ” เสียงลู่หานพี่ใหญ่ประจำวงพ่วงตำแหน่งวงถามน้องชาย เพราะอยู่บนเวทีเจ้าตัวยุ่งนี่เดินมากอดแขนตัวเองเฉยเลย

     

    “เลิกงอนนานแล้วแต่อยากดัดนิสัย พองอนทีถึงมาสนใจกันที ธรรมดาผมส่งข้อความไปเป็นร้อยตอบกลับมาแค่ อืม ไม่ก็ส่งสติ๊กเกอร์ ผมบอกพาไปซื้อหมาหน่อยก็ติดงาน เบื่อ! คราวนี้เทาจะงอนนานๆ เลย! ” เจ้าตัวบ่นเสร็จก็เดินไปนั่งหน้าบูดอยู่ที่โซฟา ปากคว่ำลงอย่างน้อยใจ

     

    “เข้าใจคริสมันบ้างสิงานมันเยอะ อาจไม่มีเวลาตอบข้อความก็ได้” ชานยอลเดินเข้ามาหาก่อนเจ้าตัวยุ่งประจำวงจะพุ่งเข้ามากอดแขนไว้ทำตาปริบๆ

     

    “ทีพี่ชานยอลยังมีเวลาให้จงอินเลย ทำไมพี่คริสไม่มีเวลาให้ผมบ้างอ่ะ” เจ้าตัวยังไม่ยอมแพ้ถามพี่ชายข้างตัวขึ้น ทำเอาชานยอลพูดไม่ออก

     

    “คริสมันคงอยากมีเวลาให้เทาแหละ แต่เทากับคริสว่างไม่ค่อยตรงกันนั้นน่ะเป็นปัญหา” เทาเริ่มคิดตามที่พี่ชายพูดก็เห็นว่าจริง วันที่วงว่างส่วนมากก็ไม่ตรงกับของพี่คริส แล้วไหนพี่คริสยังมีงานเดี่ยว รับเล่นละคร ซึ่งทำให้เวลาเจอกันก็น้อย จะเจอก็แต่ตอนมาอัดรายการเพลงเพราะชอบคัมแบคพร้อมกัน 

     

    “พี่ว่าชานยอลพูดก็ถูกนะ เพราะคริสก็รับงานเยอะ แต่ตอนนี้ไปเปลี่ยนชุดกันก่อนจะได้ไปร่วมงานให้เสร็จ” ลู่หานบอกน้องทุกคนในวงก่อนจะเรียกพี่ทีมงานที่เอาชุดมาเปลี่ยนให้เข้ามา พอเปลี่ยนชุดเสร็จทุกคนก็เดินออกมายืนรอกันหน้าห้อง สักพักคนผิวสีแทนหวานใจแรปเปอร์ตัวสูงก็เดินเข้ามาทักทาย

     

    “ทีจงอินมาหาพี่ชานได้ พี่คริสนี่ไม่คิดจะมาหาผมเลยใช่ไหม!” เทาบ่นขึ้นมาเมื่อเห็นจงอินเดินไปแล้ว มองเห็นรอยยิ้มพี่ชานยอลก็ยิ่งหมั่นไส้เข้าไปอีก ก่อนลู่หานพี่ใหญ่ของวงจะเดินมาลากให้น้องเล็กของเราขึ้นเวทีได้แล้ว

     

    ดวงตาเฉี่ยวมองดูโชว์ของงานท้ายปีสลับกับมองไปทางฝั่งตรงข้าม ร่างสูงของแรปเปอร์ฝั่งนู้นกำลังปรึกษาอะไรกับพี่แบคฮยอนสักอย่าง ก่อนจะโดนพี่คยองซูที่นั่งข้างกันเอื้อมมือมาหยิกจนเจ้าตัวเบ้หน้าด้วยความเจ็บ ใบหน้าสวยยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนตัวสูงทำสีหน้าเจ็บแล้วเถียงบางอย่างกลับไป คราวนี้โดนพี่คยองทุบเข้าอีกที

     

    “แหน่ะงอนเขาแล้วมานั่งยิ้มมองเขา” เฉินเอ่ยแซวน้องขึ้นเมื่อเห็นน้องเล็กของวงมองไปด้านตรงข้ามแล้วนั่งยิ้มบ้างหัวเราะบ้าง ทั้งที่ปากบอกว่า งอนหนักหนา

     

    “เปล่าสักหน่อยเทาขำแฟนคลับฝั่งนู้นเฉยๆ” คนเป็นพี่เลิกแซวคนปากแข็งที่ตอนนี้แสร้งหันกลับมาดูโชว์อย่างตั้งใจ มองไปก็เห็นคนฝั่งนู้นมองน้องตัวเองสายตาละห้อยหมดมาด

     

    พอกันทั้งคู่

     

    หลังงานจบทั้งหมดก็กลับไปที่หอด้วยรถตู้ของทางสถานี  คนร่างเพรียวเดินลงมาพร้อมกับลู่หานเกาะติดแจเป็นตังเมตามนิสัยของเจ้าตัวที่ชอบอ้อนชาวบ้าน พอถึงห้องเจ้าตัวยุ่งก็สไลด์โทรศัพท์อันดับแรก มองข้อความที่ฝั่งนู้นส่งมาก็ไม่ตอบกลับ

     

    “ไปอาบน้ำไปเทา” ชานยอลเดินมาเรียกเทาหลังจากทุกคนไปอาบน้ำเตรียมเข้านอนกันเรียบร้อยแล้ว

     

    “อ้าวพี่ชานยอลไม่ไปหาจงอินแล้วหรอ” เจ้าตัวยุ่งถามคนเป็นพี่

     

    “จงอินง่วงเลยเปลี่ยนเวลาแทน เราอ่ะไปอาบน้ำนอนได้แล้ว” จื่อเทาพยักหน้าๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องหยิบเสื้อผ้าและผ้าขนหนูออกมาอาบน้ำ ขณะกำลังเข้าห้องหางตาก็เหลือบเห็นเงาดำๆ ที่โซฟา ความกลัวเริ่มเกาะกุมคนกลัวผีขึ้นสมอง ในใจจิตนาการไปต่างๆ นานาๆ ยิ่งมีเสียงฝีเท้าเดินยิ่งทำให้ประสาทเสีย สุดท้ายทำใจกล้าเดินเข้าไปก่อนจะตกใจจนทรุดลงกับพื้น

     

    “แบร่!!!

     

    “เทา!” คนตัวสูงเดินเข้าไปหาคนที่ทรุดนั่งกับพื้นด้วยความตกใจ ก่อนจะโดนทุบอกดัง อั่ก!

     

    “นี่เล่นอะไรพี่คริส! ปล่อยเทาเลยนะ!” ร่างเพรียวสะบัดตัวออกมองด้วยสายตาโกรธๆ ก็รู้ว่ากลัวผียังมาแกล้งกันอีก! นิสัยไม่ดี!

     

    “กลัวมากหรอพี่ขอโทษ กะมาเซอร์ไพร์สเฉยๆ ไม่นึกว่าจะตกใจ” คนตัวสูงพูดขึ้นเนียนเข้าไปกอดเอวร่างบางไว้ ทำหน้าตาน่าสงสารเรียกความเห็นใจ ทั้งที่ความจริงกะมาแกล้งเจ้าตัวยุ่งนี่แหละ

     

    “ก็รู้ว่าเทากลัวผียังจะมาแกล้งอีก” คราวนี้เจ้าตัวยุ่งร้องไห้ออกมาทั้งที่อยู่ในอ้อมกอดร่างสูง มือหนาจับศีรษะบางให้มาซบกับอกตัวเองลูบหัวเบาๆ ปลอบใจคนที่ตกใจ คู่รักฮอปบิทเสนอให้ผมใส่เต้นโคฟเวอร์จีดีศิลปินขวัญใจเทาในชุดเสือดาว ซึ่งผมคิดว่าเป็นอะไรที่คนบ้าจะทำเท่านั้น เลยเลิกปรึกษาแล้วโทรหามาร์คให้ช่วยพาเข้ามาที่หอ

     

    “ว่าแต่พี่คริสเข้ามาได้ไง มันต้องสแกนลายนิ้วมือไม่ใช่หรอ” พอเลิกร้องไห้คนในอ้อมกอดก็สงสัยขึ้นมาทันที

     

    “ก็ให้พี่มาร์คช่วยนิดหน่อย” คนตัวสูงตอบกลับมาแบบยิ้มแห้งๆ คนในอ้อมกอดขืนตัวออกไปยืนกอดอกเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองกำลังงอนอยู่  ทำเอาร่างสูงงุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไป

     

    “แล้วเข้ามาทำไม ไม่กลับหอไปล่ะ”

     

    “ก็มาง้อคนแถวนี้” พูดจบก็ยักคิ้วให้ร่างเพรียวที่ยืนกอดอกนิ่ง แต่ริมฝีปากพยายามกลั้นยิ้มอยู่

     

    “มาง้อทำไมทุกทีไม่เห็นจะสนใจนี่”

     

    “พี่หรอไม่สนใจเทารักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว เมื่อไหร่จะหายงอนพี่สักที หมดมุขจะง้อแล้วเทาอ่า” คนตัวสูงเดินเข้ามากอดเกยคางไว้บนไหล่คนร่างเพรียว เอาหน้าไถไปบนไหล่อย่างอ้อนๆ ทำเอาคนโดนกอดเขิน ริมฝีปากยิ้มจนแก้มจะฉีก ถึงแม้จะยังงอนอยู่บ้างจากที่ร่างสูงทำไว้แต่ตอนนี้เจออ้อนเข้าไปแบบนี้เขาขอยอมแพ้แล้วกัน

     

    “หายอนพี่แล้วใช่ไหมเทา” ร่างสูงที่เงยหน้าไปเห็นรอยยิ้มพร้อมกับใบหน้าแดงๆ ของเจ้าตัวยุ่งก็รีบถามทันที

     

    “อื้อ”

     

    พอได้ยินร่างเพรียวตอบแบบนั้น ก็จัดการระดมหอมแก้มคนในอ้อมกอดใหญ่เพราะเครียดเรื่องเจ้าตัวยุ่งนี่หลายวัน จนทำงานพลาดไปหลายอย่าง  โดนผู้กำกับดุที่เหม่อลอยระหว่างถ่ายทำด้วย

     

    “อื้อพอแล้วพี่คริสแก้มเทาช้ำหมดแล้ว” ร่างเพรียวดันหน้าที่ยังระดมหอมแก้มตัวเองไม่หยุด ก่อนจะหนีออกจากอ้อมกอดคนชอบเอาเปรียบ

     

    “กินมาม่าไหมเดี๋ยวพี่ทำให้” ร่างสูงถามขึ้นก่อนจะได้รับการพยักหน้าอย่างรัวๆ เจ้าตัวดูร่าเริงขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงของกินเข้ามากอดแขนสายตาวิบวับ

     

    “ใส่ปูอัดด้วยนะพี่คริสพี่ลู่ซื้อมาในตู้เย็น” ร่างสูงเดินไปที่ตู้เย็นหาวัตถุดิบใส่มาม่าอย่างง่ายๆ ออกมา ตั้งน้ำเตรียมใส่เส้นลงไป จึงบอกให้เจ้าตัวยุ่งไปนั่งรอที่โต๊ะแต่เทาก็ยังไม่ไปวนเวียนอยู่รอบตัวเขา

     

    แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ชอบนี่

     

    “พี่คริสขอไข่สองฟอง”

     

    “ในงานไม่ได้กินอะไรหรือไงเราทำไมหิวขนาดนี้เนี่ย” มือหนายีศรีษะบางที่ตอนนี้กำลังมองน้ำในหม้อเดือดพร้อมกับมาม่าที่เริ่มสุกแล้ว

     

    “ได้กินขนมไป 3 ชิ้นเอง เทานี่หิวจะตายอยู่แล้ว พี่ลู่ก็บอกว่าอย่ากินมากตั้งแต่เช้าเพราะจะใส่ชุดแล้วไม่หล่อ” เสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อได้ฟังเหตุผลที่เจ้าตัวยุ่งของเขาไม่ได้กินข้าว โดนลู่ห่านมันแกล้งอีกแล้ว

     

    “งั้นเดี๋ยวพี่ทำอย่างอื่นเพิ่มให้แล้วกัน ขอไปดูของในตู้เย็นก่อน” ร่างสูงเปิดหาผักกับเนื้อสัตว์ที่พอจะทำอาหารได้ เห็นมีหมูกับพริกหยวกเหลือ จึงตัดสินใจทำหมูผัดพริกหยวกให้เจ้าตัวยุ่งทาน

     

    “โอยยยย….กินเลยได้ไหม กลิ่นหอมมากกก” ร่างเพรียวก้มลงไปสูดกลิ่นอาหารจากชามของตัวเอง ก่อนจะเริ่มใช้ตะเกียบคีบเส้นมาม่าขึ้นมาซูดเสียงดัง ส่วนคนที่ทำก็นั่งมองอย่างมีความสุขก่อนจะเริ่มกินของตัวเอง

     

    “อร่อยมากอ่ะ พี่คริสฝีมือไม่เคยตกจริงๆ นะ”

     

    “กินเสร็จค่อยพูดก็ได้เทา” ร่างสูงส่ายหัวให้กับคนที่อาหารยังเต็มปากแต่กลับมาพูดชมตนเอง ยกนิ้วโป้งบอกว่า เยี่ยม ส่งมาให้ ทำตัวน่ารักจนร่างสูงอดยิ้มออกมากว้างๆ กับกริยาน่ารักแบบนั้นไม่ได้

     

    “พี่คริสพรุ่งนี้มีงานหรือเปล่า”

     

    “มีตอนเช้าเลยทำไมหรอ” สีหน้าคนตรงข้ามหม่นลงเมื่อได้ยินคำตอบจากร่างสูง ทั้งที่กะจะชวนไปเที่ยวเพราะนานๆ จะได้หยุดสักครั้ง 

     

    “ก็จะชวนไปเที่ยว ไปดูหนัง กินข้าว ทำไมพี่ต้องมีงานวันปีใหม่ด้วยเนี่ย!” ร่างเพรียวเริ่มบ่นออกมาตามประสาเจ้าตัวทำหน้ามุ่ยจนร่างสูงต้องเข้าไปปลอบ

     

    “เอาไว้คราวหน้าแล้วกันถ้าคราวหน้าพี่ว่างเราค่อยไปเที่ยวกัน วันนี้เรานั่งดูหนังอยู่ที่ห้องก็ได้ ถ้าเทาไม่เหนื่อยก่อน” ร่างสูงถามออกมาอย่างเป็นห่วง เนื่องจากวันนี้ตัวเองและคนข้างๆ เหนื่อยมาทั้งวันจากงาน

     

    “เทาตื่นเต็มตาตั้งแต่พี่หลอกผีแล้วดูหนังด้วยกันก็ดี แต่ครั้งหน้าไปดูด้วยกันที่โรงนะ” คนตัวสูงเอื้อมมือมาเกี่ยวก้อยสัญญากับนิ้วเรียวของคนที่นั่งอยู่ บ่งบอกว่าจะไม่ผิดสัญญาแน่นอน

     

    “สัญญาครับ” รอยยิ้มหวานถูกส่งออกมา ก่อนเจ้าตัวยุ่งจะเดินไปเปิดทีวีกดไล่หาช่องหนังดู

     

    ร่างเพรียวเอนศีรษะนอนหนุนไหล่ร่างสูงดูทีวี มือเรียวก็จับเล่นกับมือร่างสูงไปเพลินๆ เพราะเจ้าตัวไม่ว่าอะไรแถมยังชอบที่มีมือนุ่มๆ ลูบบ้าง บีบบ้าง เสียอีก พอหนังผ่านไปครึ่งเรื่องก็รู้สึกได้ว่าศีรษะคนที่นั่งด้านข้างเริ่มตกลง มองไปก็เห็นเจ้าตัวยุ่งหลับสนิทเข้าสู่นิทราเรียบร้อยแล้ว

     

    “ไหนใครบอกว่าไม่ง่วงนะ” คนตัวสูงเอ่ยขึ้นก่อนจะจัดการปิดทีวีเรียบร้อย สะกิดร่างเพรียวให้ไปนอนที่ห้องดีๆ เพราะเขาอุ้มไปไม่ไหวเนื่องจากขนาดตัวไม่ได้ต่างกันมาก เจ้าตัวตื่นมาแบบงัวเงียกอดแขนร่างสูงไว้แล้วบอกว่า พาไปนอนหน่อย ขายาวเดินพาคนที่ง่วงนอนมาจนถึงห้อง เปิดประตูไปก็เห็นชานยอลนอนหลับสนิทไปแล้ว   

     

    พอถึงเตียงร่างเพรียวก็พุ่งลงที่นอนดึงแขนร่างสูงให้ตามลงไปนอนด้วย

     

    “เทาอ่าพี่ต้องกลับหอนะ เดี๋ยวคนอื่นสงสัยเอา” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูคนที่นอนอยู่ แต่แรงกอดรัดที่แขนไม่คลายลง พูดเสียงอู้อี้

     

    “นอนเป็นเพื่อนหน่อย พรุ่งนี้ค่อยกลับ”

     

    คนตัวสูงยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนที่นอนอยู่อ้อนแบบนั้น

     

    “ไม่เอาน่าเทาพี่ต้องกลับแล้ว” เจ้าตัวยุ่งส่ายศีรษะทั้งที่หลับตาอยู่อย่างไม่ยอมรับ กระชับแรงรัดที่แขนมากขึ้น ก่อนจะดันตัวเอาหัวทุยๆ มาซบที่อกหนา

     

    “นอนด้วยกันก่อนนะนะ” เจออ้อนแบบนี้ ต่อให้ใจแข็งแค่ไหนก็แพ้

     

    “อื้อพี่ยอมแพ้ นอนด้วยกันก็นอนด้วยกัน”  ริมฝีปากสวยยกยิ้มขึ้นในความมืด ก่อนเปลือกตาจะเปิดขึ้นมา ทำให้รู้ว่าเจ้าตัวยุ่งนี่แกล้งหลับ

     

    “สุขสันต์วันปีใหม่นะครับเทาลืมบอกไป” เจ้าตัวบอกก่อนจะจุ๊บที่ริมฝีปากหยักแล้วลงไปนอนยิ้มตามเดิม

     

    “สุขสันต์วันปีใหม่เหมือนกันฝันดีนะ” มือหนาเกี่ยวเอวบางมาก่อนจะจรดริมฝีปากที่หน้าผาก มือบางเอื้อมมากอดเอวร่างสูงไว้ซุกหน้ากับอกหนาหลับตาพริ้ม พูดใส่อกหน้าอู้อี้ว่า ฝันดี

    ………………………………………..

     

    ตอนเช้าตรู่หลังจากตื่นนอนและบอกเจ้าตัวยุ่งว่าต้องกลับแล้วเพราะมีงานตอนสายๆ คนที่ยังนอนอยู่ก็ลุกขึ้นมาบ๊ายบายก่อนจะลงไปนอนต่อ มองไปที่เตียงข้างๆ ก็ไม่เห็นชานยอล เดาได้ว่าคงจะไปหาจงอิน

     

    คนตัวสูงกระชับหมวกแก็ปในมือให้ปิดใบหน้าไว้ก่อนจะเดินออกมาจากหอของบอยแบรนด์ชื่อดังอีกวง แฟนคลับที่มารอหน้าตึกมองตามเพราะรู้สึกคุ้นหน้า ก่อนจะนึกได้ว่าคนเมื่อครู่เป็นแรปเปอร์ของวง Moonlight แต่กว่าจะคิดออกคนตัวสูงก็เดินออกไปจนลับสายตาแฟนคลับกันเสียแล้ว

     

    แฟนคลับผู้หญิงคนหนึ่งยกมือถือขึ้นมากดพิมพ์ทวีตเหตุการณ์เมื่อครู่

     

    Kristaolover: พี่คริสเดินออกมาจากหอของ Wolf ตอนเช้า สงสัยมาง้อเทาแน่เลย เพราะในงานเทาไม่มองหน้า 555555 #มโนกันไป #ว่าแต่มาทำอะไรน้า

     

    คนที่นั่งรถกลับหอกดรีทวีตข้อความก่อนจะยิ้มออกมา พร้อมกับกดตอบเจ้าของแฟนไซน์คู่ตัวเอง

     

    คริสเป็นแฟนเทา : ผมว่าคริสต้อง้อเทาด้วยมาม่าและดูหนังตอนดึกด้วยกันแน่เลย J

     

    --------------------------------

    ช่วงแมวพิมพ์

    HNY 2015 ทุกคนอีกครั้งนะ เรื่องนี้มีสองพาร์ท หวังว่าทุกคนคงชอบกัน แต่แต่งออกมาคนละแนวเลย555555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×