ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS EXO {CHANKAI / KRISTAO}

    ลำดับตอนที่ #1 : {SF} JUST A CAT ตอน วิธีเลื้ยงแมวขี้เซา CHANKAI

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 56


    :-Daisy ✿

     

     

    “จงอิน…. จงอิน ตื่นได้แล้ว” เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ข้างหูไม่ได้ช่วยให้แดนซ์ซิ่งแมทชีนของวงรู้สึกตัวแต่อย่างไร เรื่องการหลับอันเลื่องลือของเจ้าตัวเป็นที่รู้กันว่า นอนได้ทุกที่ แล้วปลุกยากยังกับอะไรดี ร่างสูงถอนหายใจออกมาก่อนจะเริ่มลงมือปลุกใหม่ในแบบฉบับของตัวเอง ขอตั้งชื่อว่า

     

    วิธีปลุกแมวชี้เซาฉบับชายปาร์ค

     

    ข้อแรก แหย่ให้รำคาญ

     

    ร่างสูงเข้าไปนั่งข้างๆแมวขี้เซาตัวนี้ ก่อนจะใช้จมูกไล่ตั้งแต่เส้นผมจนมาถึงซอกคอ ไซร้จมูกตัวเองไปเรื่อยๆ มือก็สอดเข้าไปเกาหน้าท้องที่เริ่มมีก้อนเนื้อหยุ่นน่าบีบ สร้างความรำคาญให้แมวตัวนี้ไม่น้อย

     

     พอเห็นว่าแมวขี้เซาตัวนี้เริ่มขยับตัว ก็จัดการกระซิบข้างหูพร้อมกับเขย่าไปด้วย

     

    “อื้อ” เสียงร้องแรกดังออกมาจากปากแมวขี้เซาทำให้ชายปาร์คพอใจ ก่อนจะจัดการขั้นต่อไปด้วยการกอดรัดแมวตัวนี้จนหายใจแทบไม่ออก

     

    “ตื่นได้แล้วนะจงอิน ทุกคนรออยู่นะ” แมวขี้เซาโอนไปเอนมาเหมือนจะตื่น แต่ไม่ยอมลืมตาเอามือขยี้ตาตัวเองก่อนจะทำท่ากลับไปนอนอีก ร่างสูงมองขึ้นก่อนตัดสินใจว่าต้องใช้วิธีต่อไป

     

    ข้อสอง ไม่ตื่นก็จูบปลูกซะเลย

     

    คิดจบก็ประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากบางที่เผยออยู่ บดเบียดริมฝีปากเข้าไปก่อนจะเปิดปากอีกคนด้วยลิ้นหนาที่เข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับโพรงปากแมวขี้เซาที่ยังนอนไม่รู้เรื่อง

     

    แมวขี้เซาของเราพอรู้ว่ามีคนมายุ่งกับร่างกายตัวเองในขั้นอันตรายก็ตาตื่นทันทีตามสันชาติญาณ มือบางของแมวขี้เซาทุบอกร่างสูงเมื่อรู้สึกว่าจะหมดลมหายใจ หน้าแดงระเรื่อจากการถูกจูบอย่างไม่ตั้งตัว แต่ถึงจะตกใจ….แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก       

     

    “ตื่นได้แล้วนะ พี่โคดี้ให้มาตามไปแต่งหน้าทำผม” แมวน้อยขี้เซาในอ้อมกอดผมพยักหน้าๆ แบบรับรู้ ก่อนผมจะดึงเจ้าตัวให้ลุกขึ้นมา  จงอินยังขยี้ตาตัวเองแล้วปิดปากที่กำลังหาว

     

    เห็นไหมผมจัดการได้ เชื่อฝีมือปาร์คชานยอลสิ!

     

    พอเข้าในห้องแต่งหน้าทำผม ความวุ่นวายก็บังเกิดทันที เซฮุนวิ่งเล่นกับจื่อเทาเหมือนที่นี่เป็นสนามเด็กเล่น พี่คริสกำลังส่งสายตาจ้องไอ้เด็กเซฮุนที่บังอาจไปแกล้งแมวน้อยของเขา  

     

    “จงอินขยี้ตาอีกแล้วใช่ไหม ตาช้ำเลย” ผมหันไปก็เห็นจงอินกำลังโดนพี่ช่างแต่งหน้าดุอยู่ เจ้าตัวยิ้มไปให้พี่ช่างแต่งหน้าซะจนพี่เขาพูดไม่ออก

     

    ก็แมวขี้เซาของผมยิ้มน่ารักซะขนาดนั้น   เป็นใครก็ต้องใจอ่อน

     

    “ทีหลังผมจะไม่ทำแล้วครับ” เสียงจงอินพูดขึ้นก่อนพี่ช่างแต่งหน้าจะบอกว่า พูดแบบนี้ทุกที

     

     จงอินยังนั่งอยู่ที่เดิม ส่วนผมที่แต่งหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วก็ถูกเลือกไปใส่สูทสำหรับออกงานวันนี้ พอเดินออกมาจงอินก็แต่งหน้าเสร็จแล้ว

     

    อายไลเนอร์สีดำเพิ่มความเฉี่ยวให้นัยน์ตาคม ผมสีดำยิ่งขับให้ใบหน้านั้นดูเซ็กซี่ยั่วยวนขึ้นเท่าตัว ยิ่งปากที่ทาลิปกลอสสีมันวาวชวนให้น่าไปจูบนั่นอีก  แมวน้อยขี้เซาของผมกลายร่างเป็น แมวน้อยยั่วสวาทเลยทีเดียว

     

    จงอินเดินเข้ามาใกล้ผมก่อนจะบ่นว่าหิว

     

    “ชานยอล เสร็จแล้วไปหาของกินนะหิว” ผมพยักหน้าให้ก่อนจะบอกว่าจะนั่งรออยู่ที่โซฟา เจ้าหมาแบคเดินเข้ามาก่อนจะส่งสคริปต์ที่ต้องทำในวันนี้ ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะตอนแรกต้องเดินออกไปพร้อมกับคริส  แต่ยังดีที่ผมได้นั่งข้างแมวน้อยของผม

     

    “ชานยอล….นี่แกฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า” เจ้าหมาแบคมันพูดขึ้นหลังจากส่งสคริปต์ให้ผมแล้วมันก็อธิบายเพิ่มเติม

     

    “รู้แล้ว….วันนี้ไม่ต้องนั่งข้างแกดีใจว่ะ” ผมพูดขึ้นก่อนจะโดนแบคเอาสคริปต์ตีเข้าที่ไหล่

     

    “ใครอยากนั่งข้างแกกันไอ้กูหาง เชิญนั่งกับแมวแกให้พอใจเถอะ” ผมหัวเราะขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา พี่คริสกำลังนั่งลูบผมเทาเบาๆ ท่าทางเหมือนแมวกำลังอ้อนเจ้าของไม่มีผิด

     

    “พี่คริส….เทาอยากกินไอ้นั่นจังเลยที่พี่ทีมงานยกมาให้อ่ะ”

     

    “อะไรหรอ ขนมหรืออาหาร”

     

    “ไอ้ที่มันเป็นซองสีเหลืองๆ อ่ะ พี่คริสไปขอพี่ทีมงานให้เทาหน่อยนะ”

     

    “แต่เทาจะกินมากไปแล้วนะวันนี้ พี่เห็นไปกินขนมกับเซฮุนมาอีก”

     

    “ก็เทาอยากกินอีกอ่ะ นะพี่คริส เทาขอกินถุงนี้อีกถุงเดียวน้า” เสียงอ้อนๆ มาพร้อมกับท่าทางน่ารัก หัวหน้าวงเอ็กโซเอ็มถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นก่อนเดินไปหาทีมงาน

     

    ตามใจแมวตัวเองตลอด ว่าแล้วทำไมพี่คริสถึงเรียก แมวน้อยจอมดื้อ

     

    ­“ชานยอลเสร็จแล้วไปหาอะไรกินกันเถอะ” ผมหันไปมองก็เห็นแมวน้อยของผมใส่สูทสีดำสนิทเรียบร้อยแล้ว  ถ้าแฟนคลับมาเห็นคงกรี๊ดกันยาวเป็นกิโลเพราะความหล่อ แต่สิ่งที่ผมเห็นเป็นออร่าฟุ้งๆกระจายออกมามากกว่ารังสีความหล่อ

     

    ก็แมวน้อยขี้เซาของผมใส่ชุดอะไรก็น่ารัก

     

    ผมกับจงอินเดินเข้าไปยังห้องที่พี่ๆ ทีมงานนั่งกันอยู่ ก่อนจงอินจะบออกพี่ทีมงานว่าหิว มีข้าวกล่องเหลือไหม พี่ทีมงานเดินไปหยิบข้าวกล่องมาให้ผมสองคนก่อนจะมีน้ำผลไม้ติดไม้ติดมือมาให้อีก ผมยิ้มขอบคุณพี่ทีมงานก่อนจะหาที่นั่งทานข้าวกับจงอิน

     

    ผมเปิดกล่องข้าวตรงหน้าก่อนจะส่งให้จงอิน ก็แมวน้อยของผมเลือกกินเหมือนกัน บางอย่างก็กินบางอย่างก็ไม่ชอบกิน ผมเลยต้องสแกนก่อน

     

    วิธีป้อนข้าวแมวน้อยฉบับชายปาร์ค

     

    ข้อแรก เขี่ยของที่ไม่ชอบไปให้ไกล

     

    ผมจัดการเขี่ยบล็อกโคลี่ออกไปจากล่องข้าวจงอินให้มันมาอยู่ในกล่องข้าวผมแทน ก่อนจะยื่นให้เจ้าตัว จงอินส่งยิ้มมาให้ผมแบบขอบคุณ

     

    “เดี๋ยวผมให้หมูชิ้นนี้เป็นการตอบแทน” เจ้าตัวพูดขึ้นก่อนจะคีบหมูกลมๆ ในกล่องข้าวมาให้ผมชิ้นหนึ่ง รู้จักแบ่งของกินด้วยแมวตัวนี้  

     

    “จงอินกินเยอะๆ นะ ชานชอบเวลาจงอินมีพุงนิ่มๆ” แมวน้อยของผมหน้าแดงขึ้นมา ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่ผมอย่างน่ารัก  ผมคีบนั่งกินข้าวไปมองหน้าจงอินไปเจ้าตัวดูจะเขินๆ ถึงหันหน้าหนีผมตลอด

     

    “จะมองทำไมกินของตัวเองไปสิ” เจ้าตัวพูดขึ้นขณะกำลังเคี้ยวข้าวตุ่ยๆ ผมเขยิบเก้าอี้ไปนั่งด้านหน้าจงอิน เจ้าตัวดูจะตกใจก่อนจะหันหน้าหนี ผมที่แกล้งจงอินสำเร็จก็หัวเราะขึ้นแล้วทานอาหารกล่องต่อไป

     

    พอกินข้าวเสร็จผมก็เปิดประป๋องน้ำผลไม้ขึ้นมา เป็นน้ำมะเขือเทศสดที่ผมไม่ชอบเลยแต่แมวน้อยของผมชอบมาก พอเจ้าตัวดื่มของตัวเองดื่มหมดผมก็กดยิ้มที่มุมปาก

     

    “จงอินดื่มน้ำมะเขือเทศอีกไหม” เจ้าตัวพยักหน้าก่อนจะยื่นมือมาด้านหน้าเหมือนจะให้ผมส่งกระป๋องไปให้ ผมกระชากแขนอีกคนเข้ามายกดื่มน้ำมะเขือเทศแล้วส่งต่อน้ำนั้นผ่านริมฝีปาก

     

    ข้อสอง ทานข้าวเสร็จ น้ำต้องป้อนด้วยปากนะครับ

     

    คนที่โดนป้อนน้ำด้วยริมฝีปากหน้าแดงเถือกไม่แพ้มะเขือเทศบนกระป๋อง ก่อนจะลุกขึ้นหนีอย่างอายๆ ทิ้งให้ร่างสูงนั่งหัวเราะอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า

     

    พอถึงเวลาต้องขึ้นรถ คนตัวสูงพยายามจะเนียนมานั่งข้างแมวของตัวเองแต่ก็โดนเจ้ามักเน่เซฮุนตัดดึงแขนจงอินตัดหน้าไปนั่งด้วย เขาเลยต้องนั่งเฉินและพี่คริสที่รถตู้ด้านหลัง

     

    “ทำหน้ามุ่ยเชียว อดนั่งกับจงอินล่ะสิ” พี่คริสพูดขึ้นขณะสายตายังจับจ้องอยู่เบาะหน้ารถที่มีแมวของตัวเองอ้อน พี่ซูโฮลีดเดอร์ของพวกเรา

     

    “ก็ใช่ไง พี่ก็เหมือนกันปล่อยจื่อเทาให้ไปอ้อนคนอื่น ระวังแมวเหลิงจนไม่อยากกลับมาหาเจ้าของนะครับ” ผมพูดขึ้นก่อนจะยักไหล่น้อยๆ 

     

    “พี่มีวิธีจัดการของพี่ รับรองแมวพี่หนีไปไหนไม่รอด ดูแมวของตัวเองดีๆ ล่ะ คนจ้องจะงาบเยอะนะ” ผมมองไปที่จงอินซึ่งกำลังพิงไหล่เซฮุนแล้วหลับ นี่ขนาดเพิ่งนอนมาเอง แมวของผมนี่หลับได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ

     

    “อย่าหวังว่าจะงาบแมวผมได้เลย แมวผมถึงจะขี้เซาแต่ไม่ได้หลอกง่ายนะครับ” ผมพูดตอบกลับไปไปก่อนจะนั่งมองศีรษะทุยที่พิงไหล่เซฮุนตามเดิม

     

    เฉินที่อยู่ข้างๆ ด่าพวกผมแบบไร้เสียงว่า

     

    ไอ้พวกหลงแมว!

     

    ซึ่งผมกับพี่คริสก็ไม่ได้สนอะไร ก็ที่เฉินพูดมันเป็นความจริงนี่

    ………………………………………………

     

    พอถึงงานทุกคนก็เดินลงจากรถไปทีละคน ผมเดินลงมาพร้อมกับพี่คริสก่อนจะโบกมือให้แฟนคลับและกองทัพนักข่าวที่มารุมถ่ายภาพ

     

    ผมถูกจัดตำแหน่งยืนอยู่ด้านนอกซึ่งเป็นที่ประจำ ต่างจากจงอินที่จะต้องยืนกลางตลอดเพราะเขาถือเป็นหน้าตาของวงเรา  พอพิธีกรเริ่มสัมภาษณ์ผมก็เลิกมองจงอินหันมายิ้มให้แฟนคลับ โบกมือตามสไตล์แฮปปี้ไวรัส

     

    พอเราถูกพาเข้าในงาน ผมก็เดินเนียนไปข้างจงอิน ก่อนจะจัดการนั่งลงที่เก้าอี้และบอกให้จงอินนั่งข้างๆ เซฮุนระเหิดไปอยู่กับจื่อเทาแมวน้องพี่คริสแทน สายตาพี่คริสมองตามไปจนถึงที่นั่งแบบหวงๆ

     

    “วันนี้แฟนคลับมาเยอะเนอะ ตื่นเต้นยังไงไม่รู้” แมวขี้เซาของผมพูดขึ้น  มองไปรอบๆสถานที่แฟนคลับเข้ามาเข้ามาจนเต็มอัฒจรรย์ไปหมด นี่ถือเป็นงานใหญ่พวกเราซ้อมกันมาอย่าเต็มที่ แล้วดูท่าแมวขี้เซาของผมต้องรับบทหนัก ทั้งเต้นเปิดงาน มีแบทเทิลตอนขึ้นโชว์อีก

     

    “เจ็บเอวไหมจงอิน” ผมแตะมือลงที่เอวจงอิน ก่อนเจ้าตัวจะส่ายหน้าบอกว่าไม่เจ็บ พองานจะเริ่มพวกเราก็คุยกันได้นิดหน่อย จงอินถูกทีมงานเรียกตัวไปเต้นเปิดงาน mama ในวันนี้ แมวของผมหันมาส่งยิ้มให้ก่อนผมจะทำท่าไฟท์ติ้งตอบกลับไป

     

    ทำให้ตอนนี้ที่นั่งข้างผมว่างลง เซฮุนสะกิดแขนผมก่อนจะยิ้มตาปิดตามแบบฉบับมักเน่ ­

     

    “พอจงอินไปนี่ขรึมเลยนะ ยิ้มเยอะสิๆ พี่เดี๋ยวแฟนคลับสงสัยน้า” ผมฉีกยิ้มกลับไปให้ก่อนเจ้ามักเน่ของวงจะหัวเราะกลับมา พอไฟเปิดมืดลงการแสดงก็เริ่มขึ้นจงอินกระโดดขึ้นมาจากหลุมก่อนจะโชว์สเต็ปเต้นจนผมเห็นยังเหนื่อยแทน

     

    พอไฟมืดก็เห็นเจ้าตัววิ่งไปข้างหลังเวทีทันที ผมอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางการวิ่งลงไปแบบน่ารัก พอมีพิธีกรขึ้นพูดผมก็กลับไปสนใจที่งานต่อ 

     

    รู้ตัวอีกทีตอนจออินกลับมานั่งข้างผมตามเดิมนี่แหละ ใบหน้าจงอินถูกพี่ๆ ทีมงานแต่งมาใหม่อีกรอบเพราะเต้นเมื่อตอนเปิดหน้าคงลบหมด

     

    “พี่ยอลมองเวทีบ้าง อย่าเอาแต่มองคนนั่งข้างๆ” ไอ้มักเน่สะกิดผมอีกแล้ว เมื่อผมยังหันมองทางจงอินไม่เลิก ก็แมวขี้เซาของผมน่ามองกว่าไอ้บนเวทีเป็นไหนๆ แต่นี่มันที่สาธารณะทำอะไรมากไม่ได้ก็เลยหันกลับไปมองเวทีตามเดิม   

     

    พวกเราลุกออกไปจากที่นั่งเมื่อมีศิลปินคนอื่นเข้ามาเยอะขึ้น พอกลับมาก็พบว่าที่นั่งมันเลอะซึ่งแมวน้อยของผมไม่ยอมนั่งเอาแต่ปัดเก้าอี้เพราะมันสกปรก

     

    “อ่า….เลอะอ่ะ”  จงอินพูดซ้ำๆไปมาเอามือปัดให้เก้าอี้สะอาด

     

     “จงอินนั่งตักพี่ไหม” ผมเรียกจงอินมาใกล้ๆ ก่อนจะตบที่หน้าขาตัวเอง ซึ่งเจ้าตัวส่ายหน้าก่อนใบหน้าจะขึ้นสีระเรื่อ

     

    ความจริงอยากจะดึงลงมานั่งตักใจจะขาด

     

    จงอินหันไปมาเพื่อจะหาที่นั่ง แต่เจ้าเซฮุนกลับดึงเก้าอี้ของจงอินออกไปทำให้เจ้าตัวงงๆ  พี่ๆทีมงานเลยหาเก้าอี้ตัวใหม่ที่สะอาดมาให้จงอินนั่ง  ผมดูการแสดงไปเหลือบมองจงอินไปเหลือบมองซานดาร่าขวัญใจปาร์คชานยอลคนนี้ไป 

     

    ปวดคอสุดๆ ไม่รู้จะเกรงทำไม

     

    ซึ่งตอนหลังไอ้มักเน่เซฮุนมันก็ข่อนแคะให้ว่า จะเหลือบมองทำไม หันไปมองตรงๆ ก็หมดเรื่อง นี่ตกลงมันเป็นพี่ผมตั้งแต่เมื่อไหร่ดูมันพูด

     

    ตอนนี้พวกเราออกจากงาน MAMA มาแล้ว ดีโอเจ็บข้อเท้าจากการแสดงด้วย จงอินเข้าไปดูแลดีโออย่างเป็นห่วง เพราะจงอินรักพี่ชายคนนี้ของเขามาก

     

    “พี่ดีโอเจ็บมากไหม จะขี่หลังผมไหม” เสียงจงอินถามขึ้นขณะกำลังประคองดีโอที่เดินกระเผลกอีกข้างเป็นซูโฮที่เข้าไปช่วย

     

    “ไม่เป็นจงอิน พี่เดินได้น่าถึงมันจะเจ็บอยู่นิดๆ” ดีโอยิ้มออกมาให้พวกเรา แต่ดูจากอาการปวดที่ข้อเท้าก็รู้ว่าคงเจ็บมาก จงอินยังยืนยันจะช่วยดีโออยู่จนดีโอถอนหายใจอย่างยอมแพ้ 

     

    พอกลับถึงที่พักทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนเพราะเหนื่อยจากงานวันนี้ ดีโอถูกส่งไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจข้อเท้า จงอินยังคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะห่วงพี่ชายคนสนิทของเขา

     

    “ดีโอไม่เป็นอะไรมากหรอก อย่าคิดมากน่า” ผมพูดขึ้นกับจงอินก่อนจะใช้นิ้วคลายคิ้วที่ขมวดปมของจงอินออก

     

    “แต่ผมห่วงพี่ดีโอ ท่าทางจะเจ็บน่าดู บวมซะขนาดนั้น” จงอินพูดขึ้นใบหน้ายังยู่อยู่  สงสัยต้องใช้วิธีปาร์คชานยอล

     

    วิธีปลอบแมวขี้เซา

     

    ข้อแรก ใช้คำพูดหลอกล่อ

     

    “ดีโอไม่เป็นไรหรอกเชื่อพี่เถอะ ไปถึงโรงพยาบาลหมอเขาก็หาวิธีรักษาให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ไม่เกินอาทิตย์ก็กลับมาเดินได้ปกติแล้ว” พูดไปก็ดึงตัวจงอินมาซบอกอุ่นๆของผม มือก็ลูบกลุ่มผมนิ่มๆไป

     

    อ่า~ มีความสุข

     

    “ตั้งอาทิตย์หนึ่งเลยหรอ พี่ดีโอทำอะไรลำบากแย่” จงอินยังคงไม่เลิกคิด นี่จะห่วงดีโอมากกว่าห่วงตัวเองแล้วมั้ง เริ่มน้อยใจนิดๆ

     

    “เอาแบบนี้ ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวพี่ดีโอกลับมาค่อยไปถามอาการ” เจ้าตัวดูจะคล้อยตามผมนิดๆ ก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงบ่งบอกว่าเข้าใจแล้ว ยังไม่ทันใช้ข้อสองเสียงแหลมๆ ? ก็ดังมาแต่ไกล

     

    “เกรงใจนิดหนึ่งไม่ได้อยู่กันแคสองคนนะเว้ย จะมาอ้อนมาสวีทก็เกรงใจกันบ้าง” แบคฮยอนยืนเท้าสะเอวก่อนจะเดินเข้ามานั่งที่โซฟาอย่างหัวเสีย จงอินผละจากอกผมก่อนจะลุกขึ้นไปเตีรยมอาบน้ำ จื่อเทาเข้ามาเกาะเอวแบคไว้อย่างอ้อนๆ

     

    “เทากลับไปอ้อนเจ้าของแกเลยไป นั่งเอาเงิงชี้มาจะทิ่มหัวฉันแล้ว ไอ้ปาร์คถ้าจะเต๊าะเด็กช่วยไปทำที่ลับตาได้ไหม เห็นแล้วหงุดหงิด” คนไม่มีคู่ก็งี้แหละ ผมแลบลิ้นใส่แบคมันก่อนจะขยี้หัวมันเล่นอย่างสนุกสนาน

     

    “ขี้อิจฉาว่ะ” ผมพูดขึ้นก่อนจะโดนมันแยกเขี้ยวใส่

     

    “ไปดีกว่าอยู่กับหมาบ้าแบบแกมีแต่เสียสุขภาพจิต” ผมพูดขึ้นก่อนจะโดนแบคมันแว๊ดกลับ

     

    “กลับไปเลี้ยงแมวดำของแกไปเลย ไอ้หมาโกลเด้นหูกาง” พี่คริสกับจื่อเทาหัวเราะขึ้นกับคำที่แบคเรียกผม ก่อนเฉินที่เดินเข้ามาจะหัวเราะสมทบ

     

    “ก็ดีกว่าหมาไร้คู่หูตก ขาสั้นอย่างแกแล้วกัน” ผมทิ้งระเบิดไว้ก่อนจะรีบเดินออกมา ไม่งั้นอีกสามวิแบคมันคงกลายร่างเป็นหมากระโจนกัดผมจริงๆ แน่

     

    “ปาร์คชานยอลลลลลลลล!!!!

                                                                                               

    ผมไม่สนใจเสียงโวยวายของแบค เดินเข้าไปในห้องตัวเองก่อนจะเห็นว่าจงอินยังนั่งอยู่ในห้องนอน

     

    “พี่ลู่เข้าไปอาบน้ำตัดหน้า” ผมพยักหน้าอย่างรับรู้ ก่อนจะนั่งลงที่เตียง จงอินเลิกทำหน้ายู่แล้วใบหน้าล้างเครื่องสำอางค์ออกจนหมดแล้ว  ผมสีดำที่ย้อมมาใหม่ทำให้จงอินหน้าเด็กกว่าทุกสี เพิ่มออร่าความน่ารักจนกระแทกตาปาร์คชานยอลคนนี้เข้าเต็มๆ อยากจะกระโดดฟัดสักสองสามทีให้หายหมั่นเขี้ยว

     

    “พี่ชานทำหน้าหื่นคิดเรื่องลามกอีกแล้วใช่ไหม” ผมหัวเราะแห้งๆ ส่งไปให้ เอาหัวไปไถกับแขนเล็กๆจงอิน ซึ่งเมื่อก่อนก็ใหญ่กว่าผมแต่ผมไปฟิตกล้ามเพื่อจะมาปกป้องแมวขี้เซาของผมโดยเฉพาะ คุณผู้อ่านไม่รู้หรอกว่าผมหวงแมวผมแค่ไหน จงอินชอบเล่นไปทั่ว สนิทกับคนนู้นคนนี้ไปหมด

     

    ยิ่งเพื่อนสนิท อีแทมิน แทบจะไซร้คอกันกลางเวทีตลอด

     

    ปาร์คชานยอลหวงนะครัชชชชชช

     

    แต่ทำอะไรไม่ได้ไง เลยได้แต่หวงแบบเงียบๆ จนไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นแฟนจงอิน นึกว่าเป็นแฟนกับดีโอกันหมด  เพราะจงอินชอบไปอ้อนดีโอ ที่จริงจงอินอ้อนผมบ่อยนะยิ่งบนเตียง ฮุ ฮุ ไม่พูดดีกว่า

     

    “พี่ชานจงอินไปอาบน้ำก่อนนะ ไปอาบน้ำด้วยกันไหม คนอื่นจะได้ไม่รอนาน” เจ้าตัวทำตาแป๋วแล้วถามคำถามแบบนี้กับผมได้ยังไง อุตส่าห์เก๊กขรึมมาจนจะจบตอนแล้ว จงอินทำพี่ปาร์คตบะแตกนะ!!!!!

     

    “ไปสิ!” ผมรีบตอบอย่างไว ลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับจงอิน ลู่หานเดินออกมาพร้อมกับพี่เลย์ ผมหรี่ตามองแบบไม่แน่ใจ ทุกทีพี่ลู่หานไม่ชอบอาบน้ำกับคนอื่นไม่ใช่หรอ

     

    ไหนพี่เลย์ยังหน้าแดงๆ อีก นี่เข้าไปทำอะไรกันมาครับตอบ! จะเข้าไปทำบ้าง!

     

    “พี่ลู่ แอ๊ะๆ” ผมพูดขึ้นก่อนจะชี้นิ้วสลับไปมาระหว่างสองคน พี่ลู่หานรีบดึงพี่เลย์ออกไปทำหน้าดุๆ แต่จริงๆ อมยิ้มจนตีนกาที่หางตาโผล่ขึ้นมาน้อยๆ เลย แหม

     

    ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำที่มีแมวน้อยของผมกำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ อุต๊ะ! ขอเลือดด่วนได้ไหม ถึงจะเห็นบ่อยแต่หัวใจพี่และโพรงจมูกพี่มันไม่ชิน ฟินได้ไม่นานก็มีมารมาขัดขวางความสุข

     

    ปัง!

     

    “อาบน้ำด้วยคนสิ”

     

    ไอ้ไอ้มันเน่ปีศาจ

     

     ผมแทบจะดิ้นเมื่อเซฮุนมันเดินเข้ามาก่อนจะชวนอาบน้ำด้วยกันหน้าตาเฉย ซึ่งจงอินก็พยักหน้าบอกให้มาอาบด้วยกัน ผมนี่แทบจะกรีดร้องอยากอาบกับแมวน้อยกับผมสองคนดันมีมารมาขวาง  แบบนี้จะทำอะไร ? ก็ไม่ได้

     

    หลังจากอาบน้ำเสร็จจงอินก็บอกว่าจะรอพี่ดีโออยู่ข้างนอก ผมเลยบอกจะรอเป็นเพื่อนเจ้าตัว ซึ่งตอนนี้เอ็กโซแต่ละคนก็ทยอยกันอาบน้ำเข้านอนกันแล้ว พรุ่งนี้จะต้องบินกลับแต่เช้าอีก

     

    “จงอินง่วงหรือยัง” ผมถามเจ้าตัวที่ตอนนี้นั่งกอดหมอนเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยรอดีโอ

     

    “ยังไม่ง่วง” ยังไม่ง่วงแต่ตาจะปิดเฉยๆ ใช่ไหม  ผมจับศีรษะเจ้าตัวให้มาพิงไหล่ผมไว้ มือก็เข้ากุมมือจงอินไว้ซึ่งเจ้าตัวหันมามองหน้าก่อนจะหันกลับไปทางเดิมอย่างเขินๆ

     

    ไม่นานเสียงหายใจสม่ำเสมอก็บกได้ว่าคนข้างๆคงเข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมหันไปก็เห็นจงอินคอพับกับไหล่ผมตามระเบียบ ผมจัดการอุ้มแมวน้อยของผมขึ้นมา กำลังจะเดินไปที่ห้อง แต่ประตูหน้าห้องดันเปิดเสียก่อน

     

    ดีโอเดินมากับพี่เมเนเจอร์พร้อมกับไม้เท้าอันใหญ่กว่าตัวอีก

     

    “จงอินหลับแล้วหรอ” ผมพยักหน้าให้ขณะกำลังอุ้มจงอินอยู่ แมวน้อยของผมตัวเบามากจริงๆ อุ้มแค่นี้พี่ปาร์คไม่มีปัญหา

     

    “จงอินมันห่วงพี่มาก ถึงขนาดนั่งรอเลยนะ” ผมบอกกับดีโอก่อนเจ้าตัวจะพยักหน้า

     

    “พี่รู้อยู่แล้วแหละ ว่าจงอินต้องมานั่งรอ พาน้องไปนอนเถอะ ตื่นขึ้นมาตอนนี้เดี๋ยวตอนเช้างัวเงีย” ผมถามไถ่อาการดีโออีกเล็กน้อย ก่อนพี่ซูโฮจะมาพยุงดีโอเข้าห้องไปเพราะนอนห้องเดียวกัน

     

    ผมที่อุ้มแมวน้อยของผมอยู่ ก็จัดการพาแมวน้อยไปวางไว้บนเตียงตัวเองดึงเตียงของอีกคนเข้ามาชิดเพื่อตอนเช้าจงอินจะได้มีพื้นที่ แต่คืนนี้ขอแบบแนบชิดก่อนนะ

     

    ผมหยิบผ้าห่มมาคลุมให้แมวน้อยของผม พอได้ผ้าห่มปุ๊บก็จัดการซุกทันที ผมรีบแทรกตัวเข้าไปดึงผ้าห่มออกจากมือก่อนจะดึงจงอินมาซุกที่อกแทน

     

    พอได้รับไออุ่นแมวน้อยขี้เซาก็เบียดร่างเข้าไปใกล้กว่าเดิมอย่างอัตโนมัติ หรือเป็นความเคยชินก็ไม่รู้ ชานยอลลูบศีรษะเบาๆก่อนจะจีบที่หน้าผาก

     

    “ฝันดีนะแมวน้อยขี้เซา” พูดจบก็เข้าสู่ห้วงนิทราตามแมวน้อยตัวเองไปอีกคน

     

    รุ่งเช้าแมวน้อยขี้เซาตื่นขึ้นมาก่อนเพราะความหิว กระพริบตาอยู่สองสามทีจึงรู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงกับใครอีกคน จงอินลอบมองใบหน้าคนที่น้อยหลับเหมือนเด็กๆ ก่อนจะดึงหูกางๆ ของชานยอลเล่นแล้วหัวเราะขึ้นมา

     

    คนที่โดนกวนรู้สึกตัวตั้งแต่โดนดึงหูเล่นแล้วแต่ไม่ยอมลืมตาอยากรู้ว่าแมวน้อยของเขาจะทำอะไรต่อ จงอินยื่นตัวมางับจมูกปาร์คชานยอลก่อนจะผละออกไปไม่ได้รู้ตัวว่าคนที่นอนอยู่แทบทนไม่ไหวแล้ว

     

    “จงอินถ้ายังยั่วพี่อีกที เช้านี้ไม่ได้กินข้าวแน่” ปาร์คชานยอลพูดขึ้นพร้อมกับลืมตาตื่นอย่างเต็มที่ แมวน้อยของเราสะดุ้งตาโตก่อนจะหน้าแดงแจ๋

     

    “นนี่ตื่นนานแล้วหรอ” เสียงเล็กๆ แบบแมวๆ ดังออกมา

     

    “ก็ตั้งแต่ดึงหูพี่เล่นแล้วล่ะ ว่าไงจะกินกันบนเตียงไหม หรือจะออกไปทานข้าวข้างนอก” พูดยั่วให้จงอินตกใจเล่น ก่อนแมวน้อยจะหนีออกจากอ้อมกอดเพราะรู้ว่าตัวเองอยู่ในภาวะอันตราย

     

    “ปล่อยนะพี่ชานไปกินข้าวข้างนอกสิ หิวแล้ว” จงอินทำหน้าอ้อนวอน ที่ไม่ทำให้เจ้าตัวปลอดภัยขึ้น มันทำให้ผมอยากกินแมวตัวนี้ยิ่งกว่าเดิมอีก

     

    “จูบพี่ก่อน แล้วพี่จะปล่อย” ผมพูดขึ้นก่อนจะยิ้มกรุ่มกริ่มใส่ จงอินทำปากยื่นออกมาอย่างขัดใจ แต่เจ้าตัวก็ยอมทาบริมฝีตัวเองลงบนริมฝีปากผม

     

    พอเข้าแผน ผมก็ใช้มือรั้งต้นคอจงอินไว้ แทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกับความหวานจากลูกแมวที่ตื่นมายั่วผมแต่เช้า มือที่ว่างลากผ่านเสื้อกล้ามสีดำมาตามแนวกระดูกสันหลัง ก่อนจะสอดมือเข้าไปสัมผัสผิวเนียนนุ่มมือ 

     

    จงอินทุบอกผมเบาๆ บอกให้หยุดจูบเมื่อเขาหมดลมหายใจ ผมยอมผละออกมองดูแมวน้อยในอ้อมกอดผมที่หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด ริมฝีปากแดงช้ำจากรสจูบ

     

    “ไปกินข้าวกัน”

     

    “ขอพี่กินจงอินก่อน แล้วค่อยไปกินข้าวกันนะ” จงอินอ้าปากเหมือนจะต่อว่าตอนฟังผมพูดจบ แต่ผมไม่ยอมให้เจ้าตัวว่าได้หรอก จัดการประกบริมฝีปากลงไปปิดกั้นคำพูดมั้งหมด จงอินทุบที่ไหล่ผมอย่างประท้วง แต่ผมไม่ปล่อยให้แมวตัวนี้หลุดรอดจากมือผมได้หรอก

     

    ปาร์คชานยอลมีวิธีกล่อมแมวอยู่ ซึ่งวิธีนี้ขอเก็บเป็นความลับ

      

    ………………………………………

    ช่วง แมวพิมพ์ = =

    สวัสดีค่ะ ^^ นี่เป็นฟิคชานไคเรื่องแรกเลยจริงๆ ถ้ามีอะไรจะติชมก็เม้นบอกกันได้นะคะ ที่ตัดสินใจแต่งคู่นี้เพราะหาอ่านยาก แล้วก็ชอบคู่นี้มากพอๆ กับคริสเทา ซึ่งจะเป็นตอนหน้า 555

    ถ้าใครอยากจะเวิ่นในแท็ก  ติดแท็ก  #ชคคท  ไว้ไรเตอร์จะไปอ่านค่ะ นี่ทวิตเตอร์ไร maycassiopiea ถ้าใครจะทวงฟิคก็เชิญที่นี่เลยคะ แต่ไรไม่ค่อยอัพเดทข่าวอะไรนะบอกไว้ก่อน 55555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×