คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : {OS} FANKAI 2 CHANKAI
หลังจากได้ส่งซีดีทีบรรจุคลิปจีบศิลปินที่ตัวเองคลั่งไคล้แบบไม่อายฟ้าดิน ซึ่งได้รับคอมเม้นขอบคุณกลับมาก็มโนเป็นตุเป็นตะว่าจงอินคงมีใจให้ไม่มากก็น้อย จึงเดินหน้าจีบในไอจีต่อไปถึงแม้ไอ้แบคจะด่าว่าบ้าแยกความจริงกับโลกมโนไม่ออก ศิลปินเขาก็ใจดีกับแฟนคลับทุกคนนั่นแหละ ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ
แหม…พูดตัดกำลังแบบนี้ พี่ชานอยากจิครายยยยย
“วันนี้ทำไมจงอินน่ารักแบบนี้ เอาหูกระต่ายมาใส่หูแล้วโม้เอร้สุด น่ารักมากกกก” ร่างสูงพิมพ์ความรู้สึกตัวเองลงไปในทวิตขณะดูรายการสัมภาษณ์ของสถานีช่องหนึ่ง รายงานทุกความเคลื่อนไหวของรายการแบบเรียลไทม์ให้แฟนๆ ที่ติดตามเขารู้ข่าวด้วย หยิบฟิกเกอร์รูปไคมานั่งตักตัวเองก้มหน้าลงก่อนจะกดถ่ายรูปอัพภาพลงไอจีแล้วไม่ลืมแทกไอจีเจ้าของฟิกเกอร์ด้วย
ดูรายการน้องไคกับน้องไค(ตัวจิ๋ว) น่ารักจนอยากจะจับหมุนสามรอบแล้วพาไปเล่นน้ำที่ห้อง
พออัพลงอินตราแกรมเรียบร้อยก็กลับมานั่งดูรายการต่อ อมยิ้มกับทุกอิริยาบถที่น้องไคทำหรือขยับจนเหมือนคนบ้า
ทำไมยิ้มน่าแบบนี้
ทำไมทำเสียงขึ้นจมูกน่ารักแบบนี้
ทำไมอายน่ารักแบบนี้
ทำไมแอทแทคหัวใจพี่แบบนี้
อร๊ายยยยยยย
ผมรู้น่าว่าทุกคนก็เป็นเวลาดูศิลปินที่ตัวเองชอบ ก่อนความฝันผมจะดับลงเมื่อๆ ไอ้น้องชายหน้าตายมันเดินมาหยิบรีโมตเปลี่ยนช่องดูรายการทำอาหารเฉย
“ไอ้เซฮุนน!!!” ผมร้องเสียงดังก่อนจะหันไปส่งสายตาค้อนแบบไม่พอใจ ซึ่งไอ้น้องชายหน้าตายของผมมันก็ไม่สนใจ หยิบขนมกินนั่งดูรายการอาหารที่มันเปิด
“ไอ้เซฮุน! มึงเห็นไหมว่ากูดูน้องไคของกูอยู่ มึงมาเปลี่ยนทำไม”
“รายการมันใกล้จะจบแล้วเหอะพี่กางแบ่งน้องดูทีวีบ้างจะเป็นไรไป แล้วเมื่อไหร่จะเลิกบ้าไคอะไรนี่สักที ดำก็ดำ หน้าตาก็ไม่เห็นจะหล่อ ไม่รู้พี่ดูยังไงว่าน่ารัก” ดูมันพูดจา! ร่างสูงเดินไปดีดหูน้องชายตัวเองโทษฐานมาว่าน้องไคสุดที่รักว่าดำ ไม่หล่อ ไม่น่ารัก
“หุบปากไปเลยมึง! กูไม่น่ากลับบ้านเลย ปวดประสาท!” พูดจบก็เดินทิ้งให้น้องชายตัวเองทำหน้าไม่พอใจ หยิบฟิกเกอร์เดินขึ้นชั้นสองไปนั่งดูแบบคนเดียวฟินๆ ในห้อง แต่พอเปิดเน็ตดูรายการต่อก็เห็นว่ารายการจบไปแล้ว จึงได้แต่ด่าน้องชายตัวเองในใจจนมันคงจามหลายรอบแล้วแหละ
ครืดด~
ไอโฟนสีขาวสั่นขึ้นในมือร่างสูง ก่อนชื่อบนหน้าจอจะปรากฏเป็นชื่อไอ้หมาแบค
“มีไรว่ามา…คนหล่อไม่ค่อยว่างต้องไปตามเทคแคร์น้องไค”
“ไอ้ยอล! นี่มึงยังไม่เลิกมโนอีกหรอว่ะ โอยยย กูละปวดหัว เออ! กูจะโทรมาบอกว่าอย่าลืมซื้อแผ่นซีดีมาไรท์งานนะมึง วันจันทร์ต้องส่ง”
“เออๆ กูรู้แล้ว เดี๋ยวออกไปซื้อ คนหล่อกินปลาที่มีโอเมกาทุกวันจำได้ไม่ต้องให้เห็บหมาตัวเล็กอย่างมึงเตือนหรอก งั้นแค่นี้นะ บาย!” ผมรีบกดวางสายก่อนที่จะโดนด่า ซึ่งผมขอจิตนาการว่ามันคงด่าผมแบบไม่ได้ผุดได้เกิดแล้วล่ะ แต่ผมสนใจไหมมมม ไม่!
ผมหยิบกระเป๋าตังค์และกุญแจรถเตรียมออกไปซื้อแผ่นซีดีเพื่อไรท์งานพรุ่งนี้เพราะเกรงว่าถ้าไปซื้อตอนเช้าไม่ทันแน่ๆ เนื่องด้วยคงตื่นสายและรีบบึ่งไปมหาลัยเลย
“กูไปข้างนอก ฝากซื้ออะไรไหม” ผมถามไอ้น้องชายหน้าตาย ก่อนมันจะขยับปากพูดสั่งออกมา
“ชานมไข่มุกกกกก” แหม…มึงไม่ต้องลากเสียงให้กูเอ็นดูหรอก ถ้ากูไม่ซื้อมาให้เดี๋ยวมันก็ฟ้องป๊ากับม๊าว่าไม่ตามใจมันอีก แล้วเงินค่าขนมผมก็จะหดหายลงไป
“ขอไข่มุกพิเศษด้วยนะพี่ชาย” ทีแบบนี้ล่ะเรียกพี่ชาย ถุย! ทุกทีเรียกกู “ พี่กาง ” แค่หูกูบานกว่ามึงหน่อยเดียวก็ไม่เคารพกูซะแล้ว ไอ้น้องไม่รักดี!
“เออ…ไอ้หน้าตายเดี๋ยวกูซื้อมาให้” ผมบอกมันไปก่อนจะขับรถออกไปยังห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน ที่ตอนเด็กๆ ชอบมาเดินตากแอร์เล่น มุ่งหน้าไปซื้อแผ่นซีดีก่อนจะได้น้ำและขนมติดมือกลับบ้านเพราะมันกำลังลดราคา แล้วเดินไปยังร้านชานมไข่มุกเจ้าประจำของไอ้เซฮุน
“ป้าครับชานมเผือกเพิ่มไข่มุกด้วยครับ” ผมสั่งชานมให้ไอ้น้องชายก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดฆ่าเวลาไม่ได้มองคนรอบข้าง ก่อนเสียงที่กระทบโสตประสาทจะทำให้ร่างสูงต้องหันไปมอง
“ชานมไข่มุกแก้วหนึ่งครับ” ตากลมโตกระพริบถี่เพื่อมองภาพตรงหน้าว่าตัวเองไม่ได้กำลังอยู่ในความฝัน ผิวสีแทน ปากเล็กๆ เสียงน่ารัก ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ส่งมาให้ร่างสูง
น้องไค!!!!!!!
การเจอไอดอลที่ชอบในระยะประชิดทำเอาร่างสูงทำอะไรไม่ถูก มือไม้เย็นทำตัวไม่ถูกถึงแม้จะเคยเจอตอนแฟนไซน์ครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นก็แค่แปปเดียว แต่ตอนนี้น้องไคตัวเป็นๆ มายืนอยู่ข้างๆ แถมยังยืนส่งยิ้มให้อีก
โฮกกกกกกกกกกก พี่ชานจะอุ้มกลับบ้าน!!!
“ได้แล้วพ่อหนุ่ม เฮ้! พ่อหนุ่ม” ป้าร้านชาไข่มุกเรียนร่างสูงที่กำลังเหม่ลอยมองหน้าไอดอลตัวเองตาไม่กระพริบ จนมือเรียวสะกิดที่แขนเท่านั้นแหละสติที่เคยหายก็กลับมาทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ…ป้าเขาเรียกหลายรอบแล้ว” น้องไคเอ่ยถามมือที่สะกิดยังสัมผัสอยู่กับท่อนแขน
ขอลาตายแป๊บ พี่ชานฟินนนนนนนน
“เอ่อ…ไม่ได้เป็นไรครับ” ผมรีบบอกน้องไคก่อนจะหันไปจ่ายเงินและรับชาไข่มุกจากป้า สายตายังมองคนข้างตัวที่ยิ้มแย้มรับชาไข่มุกจากป้า ก่อนใบหน้าน่ารักจะทำหน้าตกใจล้วงมือคลำหาของบางอย่างใบหน้าวิตกกังวลจนผมที่ยืนอยู่อดถามไม่ได้
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“คือ…ผมลืมหยิบเงินลงมาจากรถ เอ่อ…ช่วยออกเงินให้ก่อนได้ไหมครับ แล้วผมจะรีบเอามาคืน” น้องไคบอกกับผมส่งสายน่าสงสารจนใจอ่อนยวบ รีบควักเงินส่งให้ป้าร้านชานมไข่มุกทันที
“ขอบคุณมากนะครับ” น้องไคส่งยิ้มมาให้อย่างขอบคุณ ยิ้มตาหยีอย่างน่ารัก #พ่อแม่ผมอยากเอากลับบ้าน!
“น้องไคมาทำอะไรที่นี่หรอครับ” ชานยอลรวมรวบความกล้าถามออกไป สายตาคมหันมาก่อนจะเอ่ยพูดออกมา #แค่ขยับปากยังน่ารัก
“พอดีมีงานแถวนี้…จบงานเลยมาแวะหาของกินครับ” ร่างสูงทำเสียงอ๋อในใจก่อนจะเงียบไป สายตาน้องไคหันไปมองรอบตัวก่อนจะเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ผมจำได้ว่าเป็นผู้จัดการน้องไคเดินเข้ามาหาเราทั้งสองคน
“พี่ก็นึกว่าหายไปไหน…เป็นห่วงกลัวโดนซาแซงโรคจิตตาม”
“ผมแค่จะเดินหาร้านชาไข่มุกแป๊ปเดียวเอง พี่ฮยอกไม่ต้องห่วงขนาดนั้นหรอก แถวนี้ไม่มีซาแซงหรอกพี่” น้องไคส่งยิ้มมาให้ผมเหมือนไว้ใจผม อย่าไว้ใจพี่พี่อยากเป็นซาแซงก็วันนี้แหละ!
“ไม่เจอก็ดีแล้ว…รีบกลับรถดีกว่าเดี๋ยวแทมินจะรอนาน”
“เอ่อ…พี่ฮยอก พอดีผมรีบลงมาไม่ได้เอาเงินติดตัวมา แล้วพี่ชายคนนี้ก็เลยออกค่าชาไข่มุกให้ก่อน” พอน้องไคบอกแบบนั้นสายตาผู้จัดการก็มองตรงมายังผม
“พี่ก็ไม่ได้เอาเงินมาซะด้วย รบกวนไปเอาเงินที่รถได้ไหมครับ” ผู้จัดการน้องไคบอกกับร่างสูง ซึ่งชานยอลส่ายหน้ากลับไป
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้เอง” ทำเท่ส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร ทั้งที่ในใจอยากจะบอกว่า แต่งเข้าบ้านพี่เลยไหม ไม่ต้องทำอะไรพี่ชานเลี้ยงเอง!!
“แต่ไคเกรงใจ…ไปเอาเงินคืนเถอะนะครับ” น้องไคส่งสายตาแป๋วทำเสียงออดอ้อนแบบเกรงใจ ทำตัวน่ารักไม่เกรงว่าหัวใจพี่ชานจะวายตายหรือไง! ทำไมน่ารักแบบนี้!
“ครับ” ผมตอบตกลงเหมือนต้องมนต์สะกดเดินตามน้องไคและพี่ผู้จัดการไปยังลานจอดรถ พอเปิดประตูรถแทมินคู่หูไคก็โผล่หน้าออกมาก่อนจะตกใจเมื่อเห็นคนหล่อแบบผม
“โอ๊ะ! ผู้ชายคนในคลิปนี่” แทมินพูดออกมาก่อนจะโดนน้องไคดันให้กลับไปนั่งที่เดิม มือเรียวหยิบเงินออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะหันกลับมาก็โนคู่หูกระชากตัวไปกระซิบกระซาบอะไรสักอย่าง พอดีกับโทรศัพท์เข้าเลยเดินออกมารับ ซึ่งคนโทรก็เป็นเจ้าน้องชายหน้าตายนั่นแหละ โทรมาบ่นว่าเมื่อไหร่จะกลับ
“ขอบคุณที่จ่ายให้ก่อนนะครับ” น้องไคยื่นเงินคืนมาให้ พร้อมกับกระดาษใบเล็ก พอมือหนาทำท่าจะเปิดแทมินคู่หูก็รีบเบรก
“ไปเปิดที่บ้านดีกว่านะครับ ขอบคุณนะครับที่ช่วยไคมัน” พูดเสร็จก็ส่งยิ้มให้แบบมีเลศนัย ส่วนน้องไคยังยิ้มหวานมาให้จนพี่ชานแทบจะลอยเพราะความฟิน วันนี้ก็ไม่ได้ทำบุญนะทำไมโชคดีแบบนี้ครัชชชช
“พวกเราไปแล้วนะครับ” ทั้งสองคนยกมือบ๊ายบายผม แล้วดึงประตูรถตู้ปิดไป สายตาคนตัวสูงมองตามรถตู้จนลับสายตา ก่อนจะเปิดกระดาษที่ถูกยัดใส่มือมา อ่านอักษรในกระดาษอีกทีเพื่อความแน่ใจ
นี่มัน!! ไอดีคาท๊กน้องไค!!!
มือหน้าสั่นระริกด้วยความดีใจ กระโดดโลดเต้นอยู่ในลานจอดรถอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะขึ้นรถตัวเองและหยิบมือถือขึ้นมาแอดไปอย่างรวดเร็ว รอสักพักคนตรงข้ามก็กดรับพร้อมส่งสติกเกอร์ทักทายมา
ตาย! วันนี้พี่ชานต้องตายแน่ๆ!! นี่ฝันไปใช่ไหม !!!
ตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่จนรู้สึกแสบไปข้างก็รู้ตัวเองทันทีว่านี่ความจริง รอยยิ้มประดับบนใบหน้าก่อนจะถ่ายรูปชานมไข่มุกที่ซื้อมาอัพลงอินตราแกรม พร้อมข้อความสุดเสี่ยว
Pcylovek
ขอบคุณชานมไข่มุกที่ทำให้พี่ชานเจอเนื้อคู่ เจอแม่ของลูกในอนาคต >///////////////<
…………………………………………….
“พี่กาง…ไปห้างแล้วซื้อยาบ้ามากินหรอ ยิ้มอยู่นั่นแหละ” ไอ้น้องชายตัวดีมันมองผมด้วยสายตารังเกียจ มือดูดชานมไข่มุกมองผมด้วยหางตา ไอ้เด็กเวรนี่!
ขายาวของร่างสูงถีบเข้าที่สีข้างคนพูดอย่างหมั่นไส้จนคนที่ดูดชานมไข่มุกอยู่สำลัก หันมามองพี่ชายตัวเองตาเขียวปั๊ด
“พี่กาง!! เสียดายชาไข่มุก” #ผมนี่อึ้งเลยครัช มันไม่โกรธที่ผมถีบแต่เสียดายชาไข่มุกที่หกไป
“หุบปากแล้วกินๆ ไป” ผมบอกกับมันก่อนจะหันกลับมายิ้มกับข้อความที่ส่งคุยกับน้องไคในคาท๊กต่อ ยิ้มอ่านก็ยิ่งปริ่ม พี่ชานครับ พี่ชาน พี่ชาน พี่ชาน…
โอยยยยยยยยยย อยากกินเด็ก
ดีดดิ้นอยู่กับโซฟาด้วยความฟิน สายตาหวานเยิ้มจ้องโฟนจนคนเป็นน้องอดสายหน้าไม่ได้กับความบ้าของพี่ตัวเอง ปาร์คชานยอลยังนั่งมองข้อความที่คุยกับน้องไคไม่เลิกถึงขนาดน้องตัวเองปิดไฟหมดถอดปลั๊กพัดลมออก ชานยอลยังนั่งฟินไม่เลิกนั่งยิ้มกับข้อความจนคนเป็นน้องได้แต่ปล่อยให้พี่บ้าไป
ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่เลิกสงสัยต้องพาไปหมอจริงๆ
อีกด้านหนึ่งเจ้าของคาท๊กก็นอนอมยิ้มเลิก อาการไม่ต่างกันกับแฟนบอยเท่าไหร่
“จงอิน…นอนได้แล้วพรุ่งนี้มีงานเช้า” แทมินเอ่ยว่าเพื่อนก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกมาจากมือเจ้าตัว ขำกับสีหน้าเหมือนเด็กน้อยถูกขัดใจ แล้วตอนรู้เรื่องว่าผมให้คาท๊กไปก็โวยวายใหญ่ พอทีอย่างนี้มานอนยิ้มเล็กยิ้มน้อย น่าหมั่นไส้!
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็คุยกันในคาท๊กมากขึ้น ยิ่งช่วงดึกๆ แฟนบอยนี่แทบไม่ทำอะไรรอว่าวันนี้ศิลปินในดวงใจจะทักมาหรือเปล่า ตอนส่งไปบอกว่าจะจีบแล้วได้หน้าหัวเราะกลับมานี่ฟินจนวันนั้นไม่ทำอะไร น้องไคไม่ว่าอะไรแสดงว่าให้จีบ(พี่ชานมโนเอง)
“เมื่อไหร่น้องไคจะทักมา น้องไคจงทักมา น้องไคจงทักมา” ชานยอลนั่งท่องมนตร์อะไรสักอย่างจนแบคฮยอนที่นั่งดูทีวีอยู่อยากจะปารีโมตใส่
แมร่งน่ารำคาญ!
ตั้งแต่มันได้คาท๊กน้องไค(ตอนแรกนึกว่ามันมโน) มันก็บ้าขึ้นทุกวัน จากปกติอาการหนักก็กลายเป็นหนักกว่าเดิม นั่งรอว่าวันไหนน้องไคของมันจะส่งข้อความมาเพราะมันกลัวรบกวนเขา ซึ่งหลังจากผมแอบไปเปิดอ่านผมก็พอรู้ว่าทำไมเพื่อนผมอาการหนักขึ้น
ในข้อความนี่อย่างอ่อย!
น้องไคของมันตอบมาอย่างห่วงใย ตอนมันบอกว่าไม่สบาย(ซึ่งมันตอแหล) รวมทั้งข้อความอ้อนๆ แบบ ไม่มาหาผมหรอ ,ไม่เห็นหน้าพี่ชานเลย เรียนหนักหรอครับ
100 น้องไคชอบมันชัวร์!!!
ฮุฮุ ผมคิดอะไรออกมาแล้ว มาดูกันว่าไอดอลขวัญใจปาร์คชานยอลจะจริงใจกับเพื่อนผมแค่ไหนหรือแค่มาให้ความหวังไอ้หูกางแล้วจากไป
แบคฮยอนเลื่อนภาพตัวเองกับไอ้เพื่อนหูกางในโทรศัพท์ก่อนจะเลือกภาพที่คิดว่ามันดูสวีทแบบที่แฟนๆ ในไอจีชอบจิ้น แล้วอัพลงไปพร้อมกับข้อความสุดกรี๊ด พอกดส่งก็หัวเราะออกมาจนไอ้ชานยอลมันหันมามอง
ต่อไปก็รอดูกันว่าน้องไคมันจะมีปฏิกิริยายังไง
……………………………………………
คนผิวสีแทนนั่งเลื่อนไอจีของตัวเองเมื่อกลับมาถึงห้อง ดูว่าวันนี้ใครอัพอะไรบ้างก่อนจะกดไปดูไอจีของคนที่คุยอยู่ด้วยในขนาดนี้ แต่พอเห็นภาพที่แทกมาพร้อมกับข้อความคอมเม้นถล่มทลายก็ทำใบหน้างอทันที ใจมันเจ็บแปล๊บขึ้นมาทั้งที่ไม่ได้มีอะไร เพียงแค่มองภาพผมคนสีน้ำตาลซบไหล่ด้านหลังคนที่ตัวสูงกว่า
Baekhyun
เกลียดคนตัวสูง! จะทำอะไรก็ต้องเงยหน้า เมื่อยคอL
ดวงตาสุกใสสั่นขึ้นเลื่อนดูข้อความมากมายที่คนมาเม้น มีแต่คนเชียร์กันเต็มไอจีจนมือบางเลิกเลื่อนดู ก่อนเจ้าของคนที่โดนแทกจะเข้ามาเม้นใต้ภาพ
Pcylovek
มึงอยากเตี้ยเอง! ภาพเก่ามากอ่ะ…ตอนนั้นตัวเท่าลูกหมาน่ารักเชียว
Baekhyun
กวนตีน! ไม่ต้องมาชมเลย งอนนนนนนน
มือเรียวชะงักค้างมองข้อความก่อนจะเลื่อนผ่านไป ก่อนจะกดเข้าไปดูในไอจีก็เห็นว่าชานยอลอัพภาพนั่งดูทีวีด้านข้างมีมือขาวๆ ทำท่าจะทุบหัวบ่งบอกให้รู้ว่าคนที่ถ่ายรูปนี้เป็นใคร
ใจร่างเพรียวว้าวุ่นขึ้นมาทันทีพยายามไม่คิดมากแต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้ มือเรียวเลื่อนเปิดอีกโปรแกรมขึ้นมา พิมพ์ข้อความลงไปก่อนจะลบมันอีกรอบ พิมพ์ๆ ลบๆ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ส่งออกไป รอดูว่าคนตรงข้ามจะส่งข้อความทักไหมแต่ก็ไม่มีข้อความใดๆ ส่งมา
สุดท้ายจึงตัดสินใจอัพภาพก่อนจะเข้านอนไปทั้งที่ในใจวุ่นวาย
Kaizer
เป็นคนไม่สำคัญ
หลังจากข้อความถูกส่งขึ้นไปผ่านไปสามวัน คาท๊กไม่มีข้อความของจงอินขวัญใจปาร์คชานยอลอีกเลย ร่างสูงกระวนกระวายใจเพราะไม่เห็นข้อความ อัพไอจีแบบเศร้าๆ กับฟิกเกอร์น้องไคจนคนที่ไม่รู้นึกว่าอกหักจากสาวที่ไหน
“เป็นอะไรของมึงว่ะ…ทำหน้าเหมือนคนป่วย” แบคฮยอนตามขึ้นเพราะมันเล่นเขี่ยข้าวในจานไม่กินสักที
“มึงงงง! น้องไคไม่ทักกูเลย”
“มึงก็ทักเขาไปสิ”
“กูทักไปแล้ว…น้องไคอ่านแต่ไม่ตอบ กูทำอะไรผิดว่ะ พี่ชานทำอะไรให้น้องไคโกรธ ไมตัดรอนพี่แบบนี้ ฮือออ” ชานยอลทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก่อนจะแหกปากออกมาอย่างเว่อร์ๆ จนโดนแบคฮยอนตบกะโหลกถึงหยุดทำตัวปัญญาอ่อน
“พอๆ เขาไม่ตอบก็ไปหาสิ วันนี้น้องไคของมึงมีงานใกล้แถวนี้ไม่ใช่หรอว่ะ” แบคฮยอนบอกคนที่กำลังทำหน้าเศร้าด้วยความสงสาร รู้ดีว่าสาเหตุก็มาจากตัวเอง
“จริงด้วย…งั้นกูไปก่อนนะ ฝากประชุมงานแทนกูด้วย บรัย” พูดจบชานยอลก็วิ่งออกไปทิ้งคนที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่กระพริบตาปริบๆ
งานแถลงข่าวคอนเสิร์ตรวมศิลปินที่จะมีในอีกสามเดือนข้างหน้าวันนี้คนมาอย่างล้นหลามมากมายมีแฟนคลับของศิลปินหลายคนมาจับจองที่กันล้นหลาม ชานยอลที่เพิ่งมาถึงอึ้งกับภาพตรงหน้าเพราะไม่รู้จะไปแทรกตัวตรงไหน มองไปที่เวทีไกลลิบๆ ก็เห็นน้องไคของตัวเองและแทมินนั่งอยู่กับศิลปินคนอื่น ทุกทีเขาไม่เคยมางานแถลงข่าวแบบนี้เพราะรู้ว่ามันเข้าถึงตัวยากเนื่องจากจำนวนแฟนคลับอันมหาศาล
ด้วยความพยายามชานยอลพยายามแทรกตัวเองเข้าไปสิงเสาที่อยู่ตรงหน้า โชคดีที่ตัวสูงกว่าร้อยแปดสิบทำให้ไม่โดนกองทัพแฟนเกิร์ลตัวกระจ้อยเหยียบตาย มือยาวหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาก่อนจะส่งคาท๊กไปหาน้องไคว่าอยู่ในงาน ดวงตาโตมองศิลปินในดวงใจอยู่ไกลๆ อย่างไม่ให้คลาดสายตาจนการแถลงข่าวจบ ขาเรียวรีบวิ่งไปตามขบวนแฟนเกริ์ลที่กำลังวิ่งไปทางที่ศิลปินออก รู้สึกตัวเองจะเป็นบ้าแน่ๆ ถ้าวันนี้ไม่ได้คุยกับน้องไค ด้วยความสูงบวกกับรูปร่างที่ได้เปรียบชานยอลก็สามารถพาตัวเองมาติดรั้วจนได้ น้องไคเดินทักทายแฟนคลับมาเรื่อยๆ จนถึงร่างสูง
ใบหน้าคมมองแฟนบอยตัวเองที่ปัจจุบันฐานะอาจจะพิเศษขึ้นมาหน่อย ก่อนจะเดินผ่านไปไม่มีแม้แต่ทักทายจนแทมินที่เดินอยู่ข้างๆ ถึงกับงง ชานยอลเห็นแบบนั้นใจน้อยๆ ก็สลายลงทันที
ฮืออออออออออออ น้องไคเมิน
“จงอินเป็นอะไร ทำไมไม่ยิ้มให้พี่เขาเลยล่ะ…จงอิน” แทมินถามเพื่อนสนิทตัวเองเมื่อมาถึงรถตู้ มือเรียวรับโทรศัพท์มาจากผู้จัดการก่อนจะเปิดโทรศัพท์ข้อความที่ร่างสูงส่งไว้ก็เด้งขึ้นมาทันที
“ไม่อยากยิ้ม…”
“งอนว่างั้น…กูบอกแล้วไงว่าให้ถาม ชานยอลของมึงก็เคยบอกแล้วนี่ว่าเป็นเพื่อนกัน คิดมาก” แทมินว่าเพื่อนให้ ก่อนจะฉวยโทรศัพท์เพื่อนมาพิมพ์ข้อความออกไป
Jongin
แบคนี่เพื่อนพี่จริงๆ หรอ ทำไมดูสนิทกันจัง L
“แทมิน!!” จงอินร้องลั่นเมื่อเห็นข้อความที่ส่งออกไป ตีไหล่คนที่ทำอะไรโดยพลการโดยไม่ถามความสมัครใจสักนิด
“ส่งข้อความไปถามก็จบ…อย่างี่เง่าน่าจงอิน”
ข้อความที่ถูกส่งไปขึ้นมาว่าอ่านอย่างรวดเร็ว ก่อนคนปลายสนทนาจะพิมพ์ตอบกลับมา
Chanyeol
น้องไคหึงพี่ชานหรอครับ >/////< เขินแป๊บ แบคเป็นเพื่อนจริงๆ ครับ เอาเบอร์ไปโทรคุยกับมันได้เลย 0856789043
Jongin
ใครหึงกัน! เมื่อกี้แทมินมันพิมพ์ไม่ได้เกี่ยวกับจงอินเลย
Chanyeol
ง่ะ! น้องไคไม่หึงพี่จริงหรอ แล้วทำไมไม่ตอบพี่ล่ะ เจอหน้าก็ทำเหมือนกับพี่เป็นแค่ขอนไม้ พี่เสียใจนะรู้ไหม
“ฟอร์มนี่เยอะจริงๆ ” แทมินส่ายหัวโคลงศีรษะเบาๆ กับความซึนของเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้นั่งพิมพ์ตอบกลับไปคิ้วไม่ขมวดอย่างเก่าแล้ว แทมินไม่เข้าใจเพื่อนตัวเองเลยว่าจะปากแข็งไปทำไหม ทั้งที่ก็ชอบแฟนบอยตัวเองไม่น้อย ยิ้มทุกทีเวลาได้คุยกันจนพี่ฮยอคแจสงสัยว่ากินยาผิดมาหรือเปล่า
Chanyeol
น้องไคว่างไหมครับ พี่ว่าจะชวนไปทานข้าว ไม่ไกลตึกน้องไคมาก
ข้อความเอ่ยชวนไปทานข้าวทำเอาจงอินเขินจนไปไม่เป็น รู้ดีว่าคนที่พิมพ์มานี่ชวนเดทกลายๆ ไอ้ดีใจก็ดีใจ แต่กลัวว่าคนอื่นจะรู้มากกว่า มองไปทางแทมินมันก็บอกให้ตอบรับไปเดี๋ยวมันจะช่วยเอง
Jongin
ได้ครับ…สักห้าทุ่มได้ไหม ผมจะถึงตึกประมาณนั้น
Chanyeol
โอเคครับ…เดี๋ยวพี่จะไปรับนะ เห็นคนใส่ฮู้ดสีเทาๆ นั่นพี่เองนะ
หลังจากนัดแนะกันเสร็จชานยอลก็กลับไปที่ห้องอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ฉีดน้ำหอมที่ไม่ได้ใช้มานาน ตอนแรกไม่กล้าชวนหรอก แต่ลองชวนไปเผื่อได้ น้องไคดันตอบกลับมา ฟินจนน้ำตาจะไหล
ไปเดทกับน้องไค!
นี่มันความใฝ่ฝันของแฟนบอยอย่างผมเลย ไปทานข้าวกัน นั่งจ้องตากัน ป้อนอาหารกัน อร๊ายยยยยยย แค่คิดก็เขิน ทุกทีได้แต่มโนหน้าจอคอม วันนี้ฝันจะเป็นจริงแล้ว #กำมือพร้อมทำหน้าภูมิใจ
พอแต่งตัวเสร็จก็ขึ้นรถเมล์ไปรอแถวๆ หอน้องไค เห็นแฟนคลับมายืนรอหน้าห้องกันเต็ม แล้วแบบนี้น้องไคจะมาหาพี่ชานยังไงเนี่ย ผมส่งข้อความไปทางคาท๊กน้องไคเพราะเป็นห่วงดวงใจของผมจะออกมาไม่ได้ แต่ทางนั้นก็บอกว่ามีแผนอยู่แล้ว
“กรี๊ดดด” เสียงกรี๊ดเบาๆ ของแฟนคลับทำให้ชานยอลต้องเพ่งมองคนที่หน้าประตู แทมินกับน้องไคเดินออกมาพร้อมกับผู้จัดการ ทั้งสองคนใส้ฮู้ดสีดำ คาดผ้าปิดปากสีดำเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก แฟนคลับทุกคนต่างเดินไปทางนั้นหมด ร่างสูงที่กำลังจะเดินไปหาตกใจเมื่อเจอใครไม่รู้เดินมาหาตัวเอง ก่อนคนนั้นจะลดผ้าปิดปากลง
“รีบไปดีกว่านะครับ…เดี๋ยวแฟนคลับจับได้” น้องไคพูดขึ้นก่อนจะจับมือผมเดินไปอีกทางให้พ้นแฟนคลับตรงนั้น
มือน้องไคนุ่มมากกกกกกกก
ผมนี่สติจะแตก…น้องไคแต่งตัวใสเสื้อยืดคาดผ้าปิดปากสีดำไว้เฉยๆ ผมหน้าม้าสีน้ำตาลปรกใบหน้าหวานอย่างลงตัว มือยังคงลากผมออกไปให้ไกลหอโดยเร็ว
“แค่นี้คงพ้นแล้ว” น้องไคพูดขึ้นมาก่อนจะหายใจออกมาอย่างโล่งอก ผมจ้องใบหน้าหวานอย่างลืมตัว ยิ้มออกมาจนน้องไครู้ตัวรีบปล่อยมือออก แต่ผมกลับคว้ามือน้องไคมากุมเหมือนเดิม
เนียนเท่านั้นที่ครองโลก!
“ไปกินข้าวกันเถอะ” ผมกระชับมือน้องไคพาเดินไปยังร้านที่เคยมากินตอนมาตามน้องไคที่หอ มือทั้งสองคนยังกุมกันไว้โดยที่ไอดอลขวัญใจปาร์คชานยอลไม่ได้ปล่อยมือออก
พอเข้ามาในร้านก็เลือกนั่งโต๊ะที่มันในสุดเพื่อป้องกันคนมาเห็น ก่อนจะสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ
มือเรียวถอดผ้าปิดปากออกเผยรอยยิ้มน่ารัก รู้สึกเขินเมื่อสบสายตาคนที่นั่งจ้องตัวเองอย่างกับจะกลืนกิน ตอนจะออกมากลัวแฟนคลับจับได้แทบตาย ดีที่แทมินหลอกพี่ฮยอคแจได้สำเร็จให้พี่ทีมงานในตึกปลอมตัวเป็นผมแล้วเดินออกไป
“ใครคิดแผนให้น้องไคหนีออกมาเนี่ย”
“แทมินคิดครับ” ผมตอบพี่ชานยอลไปใช้ตะเกียบหยิบอาหารขึ้นมากินแก้เขิน ที่จริงร้านนี้ผมก็เคยมากินแล้วเพราะมันไม่ไกลจากตึกของบริษัทมากเท่าไหร่
“คิดมากเรื่องเพื่อนสนิทพี่อีกไหม…มันไม่อะไรจริงๆนะ” ร่างสูงพูดขึ้นมาก่อนผมจะส่ายหน้าไปให้ ฟังแล้วก็อายตัวเองที่ไปงอนพี่เขาแบบนั้นเสียหลายวัน เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยผมจะไปหึงพี่ชานยอลได้ยังไง!
“ผมรู้แล้วครับ..กินกันดีกว่าเนอะ” ผมเปลี่ยนเรื่องคีบปลาหมึกใส่ให้พี่ชานยอลในชามข้าว คนตรงข้ามทำหน้าเขินๆ ก่อนจะอมยิ้มไปทานข้าวไป ทำเอาผมเขินไปด้วย
ไม่รู้ระหว่างผมกับพี่ชานยอลใครหน้าแดงกว่ากัน
“เดี๋ยวพี่เดินไปส่งนะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวแฟนคลับมาเห็น”
“แต่พี่อยากไปส่ง…พี่ห่วงกลัวเรามีอันตราย” ขณะที่ทั้งสองคนเถียงกันอยู่หน้าร้าน กลุ่มเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาทางร้าน ก่อนผู้หญิงกลุ่มนั้นจะจ้องมาทางผมกับน้องไคทำท่าเหมือนจะจำได้ ผมรีบพาน้องไคออกมาจากหน้าร้านเดินกลับไปยังทางตึกบริษัท
“ส่งแค่นี้ก็พอครับ..พี่ชานรีบกลับไปเถอะเดี๋ยวจะดึก” ชานยอลพยักหน้าให้เพราะเห็นว่าอีกไม่ไกลก็ใกล้จะถึงตึกแล้ว และตัวเองก็ไม่อยากเสี่ยงโดนแฟนคลับน้องไครุมกระทืบเนื่องจากไปยุ่งกับศิลปินขวัญใจเขา พลังแฟนเกริ์ลนี่น่ากลัวมาก ผมพิสูจน์มาแล้ว!
“ฝันดีนะครับ…ทีหลังเรียกผมว่าจงอินก็ได้นะครับพี่ชานยอล” น้องไคบอกก่อนจะส่งยิ้มน่ารักมาให้ แล้วรีบเดินกลับไปยังตึก ส่วนตัวผมนี่ยิ้มค้างเลยครับ เพราะน้องไคเคยบอกว่าไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อจริง
นี่ถือว่าผมเป็นคนพิเศษใช่ไหม!!!!
โฮกกกกกกกก ให้ความหวังแบบนี้แต่งงานกับพี่เลยเถอะ!!!
------------------------------------------------------
ช่วงแมวพิมพ์
คือหายไปนานมาก ***เค้าขอโทษ งานมันเยอะจริงๆ แล้วพาลทำให้แต่งไม่ออกไปด้วย พอดีช่วงนี่ว่างเลยมาต่อ เกือบจะดองฟิคแล้วเนี่ย เอ๊ะ! หรือดองไปแล้ว 555555555555555555
ความคิดเห็น