ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS EXO {CHANKAI / KRISTAO}

    ลำดับตอนที่ #6 : {SF} ขี้หึง!! CHANKAI

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 57


    Minor!


              จงอินเซ็กซี่สุดๆ เลยอ่า

     

    ดูกล้ามหน้าท้องสิ อ๊ายยยยยยย ใจสั่น #มดลูกจะพัง

     

    ทำไมหล่อแบบนี้ ดูไหปลาร้าสิ SEXY สุดๆ >////////////////////////////////<

     

    แล้วอีกสารพัดที่บอกว่าคนชื่อ คิมจงอิน เซ็กซี่มากแค่ไหน ชานยอลนั่งไล่เปิดกระทู้ในแฟนบอร์ดดูก็เห็นมีแต่ภาพคนผิวสีแทนเปิดเสื้อโชว์หน้าท้อง ใส่เสื้อกว้านอก  ดวงตาขี้เล่นเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ด้วยความไม่ชอบใจที่คนของตัวเองโชว์นู้นนี่นั่นให้คนอื่นเห็น

     

    ชานยอลมองภาพสะท้อนในกระจกที่ตั้งไว้ ก่อนจะเห็นว่าจงอินเดินเข้ามากับเจ้ามันเน่  โดยวันนี้จงอินใส่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงขาสั้นของเจ้าตัวเช่นเคย เดินถือชาไข่มุกถือเข้ามากับเจ้ามันเน่ ที่คงจะชวนจงอินไปซื้อด้วยกัน

     

    ชานยอลกำลังจะไล่ปิดกระทู้ที่เปิดเมื่อครู่กันคนอื่นสงสัย แต่แบคฮยอนมันก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ เข้ามากอดคอไว้

     

    “เดี๋ยวนี้แกต้องพึ่งรูปในเน็ตเลยหรอ” เสียงแบคฮยอนเอ่ยอย่างล้อเลียน ก่อนชานยอลจะตบกะโหลกไปทีหนึ่งข้อหาความคิดมันลามก

     

    “อย่างกูไม่ต้องหรอก กูแค่หวงเวลาจงอินต้องโชว์ร่างกายให้คนอื่นเห็น” แบคฮยอนพักหน้าแบบเข้าใจ ตบบ่าหนาดัง ปุปุ เหมือนจะเข้าใจ

     

    “ดีนะที่คยองแต่งตัวมิดชิดตลอด เลยไม่ต้องมานั่งหึง”แบคฮยอนยักคิ้วอย่างเหนือกว่า ก่อนจะทิ้งให้ชานยอลอยู่คนเดียว ทำสีหน้าครุ่นคิดหาวิธีให้จงอินแต่งตัวมิดชิดแบบคนอื่นบ้าง

     

    เนื่องจากวันนี้เป็นวันพักผ่อนสมาชิกแต่ละคนเลยแยกออกไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ  โดยชานยอลเลือกจะนั่งเล่นกีตาร์เงียบๆ ภายในบ้านแทนการออกไปข้างนอกให้รำคาญใจกับผู้คน

     

    จงอินกับเซฮุนนั่งจับคู่เล่นเกมกันในห้องนั่งเล่น ส่งเสียงดังจนชานยอลที่นั่งเกากีตาร์เพลินๆ ยังสะดุ้งกับเสียงโวยวายจากทั้งสองคน

     

    ดีโอและพี่จุนมยอนเดินเข้ามาในบ้านหลังจากออกไปช้อปปิ้งกันมาเสร็จ ดูจากถุงที่ซื้อมาส่วนมาจะเป็นของดีโอเสียส่วนใหญ่ เดี๋ยวเจ้าแบคมันเห็นก็โวยวายอีกที่พี่ซูโฮซื้อของให้แฟนมัน

     

    ไม่มีเงินซื้อให้แล้วยังพาลอีก

     

    ชานยอลเดินเอากีตาร์ไปเก็บก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่มักเน่สองคนนั่งเล่นอยู่ สภาพตอนนี้บอกได้เลยว่าแทบจะตีกัน  เซฮุนมันนั่งเอาขาพาดตักจงอิน ส่วนจงอินมันก็เอาขาพาดเซฮุน แกล้งดึงจอยกันไปมาเหมือนเด็กๆ

     

    “ไอ้จงอินมึงอย่าโกงดิ”

     

    “มึงเริ่มก่อนเองนะ” จงอินกระแทกไหล่เซฮุนก่อนรถในจอทีวีจะไหลเกือบตกทาง ดีที่เซฮุนมันหักเลี้ยวขึ้นมาได้ เซฮุนมันไม่ยอมแพ้ยกมือขึ้นบังตรงหน้าจงอินบ้าง ผมได้แต่ขำกับการแกล้งกันเป็นเด็กๆ เดินเข้าไปก่อนจะก้มลงไปคล้องคอจงอินไว้ แล้วแย่งจอยมาเล่นเอง

     

    “ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ” พอโดนแย่งจอยจงอินก็เบะปากออกทันที ถึงจะไม่พอใจแต่เจ้าตัวก็ยอมให้ชานยอลบังคับจอยในมือ เพราะเซฮุนมันกลับไปตั้งใจเล่นเหมือนเดิม

     

    “เลี้ยวขวาสิพี่ชานยอลนั่นแหละๆ เย้!” เสียงจงอินตะโกนขึ้นมาอย่างดีใจเมื่อผมพารถสปอร์ตสีแดงของเจ้าตัวแซงเซฮุนเข้าเส้นชัยไป เจ้ามันเน่มันเบ้ปากให้ผมกับจงอิน

     

    “อ่อนว่ะ” จงอินทำหน้ากวนๆใส่เซฮุนจนมือขาวๆ ดันหน้าออกมา

     

    “มึงขี้โกงอ่ะ!” พูดจบมันก็ทิ้งจอยเดินออกไป จงอินหัวเราะร่าเอามือกุมท้องตัวเองที่ขำแรงไปหน่อย  ชานยอลก้มหน้าลงไปก่อนจะฝังจูมกลงบนแก้มใส

     

    “ไปซื้อของหาอะไรกินข้างนอกไหม ไม่ได้ออกไปเที่ยวด้วยกันสองคนนานแล้วนะ” ชานยอลเอ่ยชวน เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันก็นานแล้วที่เขาสองคนไม่ได้ไปไหนด้วยกัน ไปทียกโขยงกันไปทั้งวงตลอด

     

    อยากจะไปสวีทสองคนบ้าง

     

    “ได้แต่พี่ชานยอลเลี้ยงนะ ผมไม่มีตังค์” ชานยอลยีศีรษะทุยเบาๆ เมื่อเห็นสายตาใสที่เงยหน้ามาสบตาแบบลูกหมา

     

    “พี่เลี้ยงอยู่แล้วน่า ไปแต่งตัวไป” ชานยอลบอกคนผิวสีแทน ก่อนจะปล่อยให้จงอินกลับไปที่ห้องเพื่อแต่งตัว รอไม่นานจงอินก็ออกมาในชุดกางเกงยีนต์ขายาวขาดตั้งแต่ขาอ่อน เสื้อกล้ามสีดำตัวเดิมแต่มีแจ็คเก็ตคลุมทับ พร้อมหมวกใบหนึ่ง ชานยอลจ้องมองเหมือนไม่ชอบใจนัก

     

    “กางเกงนี้ไม่ใช่ของจงอินนี่”

     

    “ของเทาไง ยืมมันมาใส่ก่อนได้มันไม่ว่าอะไร” จงอินพูดขึ้นไม่ได้รู้ถึงสายตาที่ชานยอลมองเจ้าตัว มือหนาฉุดมือบางไว้

     

    “ไปเปลี่ยนชุด” จงอินเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ

     

    “ทำไมต้องไปเปลี่ยน ชุดนี้ไม่ดีตรงไหน”

     

    “พี่บอกให้ไปเปลี่ยนไงจงอิน โดยเฉพาะกางเกงไปเปลี่ยนมาแบบธรรมดาเลย” ชานยอลย้ำเสียงหนักขึ้น แต่ดูเหมือนคนผิวสีแทนจะยังไม่เข้าใจถึงเจตนาที่แท้จริง จึงทำหน้ามุ่ยใส่คนเป็นพี่

     

    “ทำไมวันนี้พี่เป็นแบบนี้เนี่ย ผมไม่ไปเปลี่ยน” จงอินก็หัวรั้นไม่แพ้กัน พอโดนทำเสียงเข้มใส่ก็เกิดอาการต่อต้านทันที ชานยอลมองหน้าจงอินก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่อยากให้ทะเลาะกันออกไปเดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุกเปล่าๆ

     

    “ก็ได้ไม่ต้องไปเปลี่ยนหรอก” พอได้ยินแบบนั้นจงอินก็เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็นบางๆ ก่อนทั้งสองคนจะเดินออกไป

     

    ชานยอลคว้ามือนุ่มเข้ามาก่อนจะกุมไว้พาเดินเร็วๆ ผ่านช่วงตึกไปจนถึงป้ายรถเมล์ พอเห็นว่าปลอดคนก็ถอนหายใจออกมา เดินไปซื้อตั๋วแล้วรอรถมา

     

    “แล้วพี่จะพาผมไปที่ไหนอ่ะ” จงอินถามขึ้นมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นระหว่างรอรถเมล์ 

     

    “เดี๋ยวก็รู้”

     

    พออยู่ในรถจงอินที่นั่งติดหน้าต่างก็นั่งดูวิวข้างๆ ไปเรื่อยไปจนศีรษะทุยกระแทกกระจกนั่นแหละ มือหนาจับศีรษะจงอินให้เปลี่ยนมาพิงตัวเอง เสียงเพลงของวงตัวเองยังดังก้องอยู่ในหู

     

    너의 이름을 부르고 너의 손을 잡아도 되는

    ผมเรียกชื่อของคุณได้แล้วผมก็สามารถกุมมือของคุณไว้ได้

     

    부서지는 햇살은 나만 비추나 이렇게 행복해도 ?

    นี่แสงสว่างกำลังส่องมาที่ผมเพียงคนเดียวหรือเปล่านะ ผมมีความสุขกับมันได้ใช่ไหม?

     

    나의 이름을 부르고 나의 어깨에 기대 오는

    คุณเองก็เรียกชื่อของผมแล้วก็เอนตัวพิงลงมาบนไหล่ผม

     

    하늘의 햇살은 너만 비추나 그렇게 눈부셔도 ?

    แสงสว่างจากฟ้าก็กำลังสาดทอมาที่คุณคนเดียวเลยใช่มั้ยล่ะ คุณถึงส่องประกายอย่างนี้

     

    ชานยอลเกลี่ยใบหน้าใสของคนที่หลับได้ทุกที่ทุกเวลา  เวลาหลับของจงอินเป็นภาพที่น่าเอ็นดูน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ ไม่งั้นชานยอลคนนี้ไม่หลงหัวปักหัวปรำหรอก

     

    มือหนากระชับมือนุ่มมาจับไว้ก่อนจะประสานกันแน่นในเสื้อคลุม ฟังเพลงคลอเบาๆพร้อมมองคนที่กำลังหลับใหลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก  

     

    so lucky to be your love, i am.

    โชคดีเหลือเกินที่ความรักของคุณ ก็คือผมเอง?

     

    (Song:Lucky-EXO)

     

    พอถึงที่หมายคนตัวโตก็ปลุกจงอินให้ตื่น เจ้าตัวขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะเปิดตามองรอบๆ

    “นี่มันฮงแดนี่”

     

    “ก็ใช่ไงกินข้าวเสร็จจะได้เดินซื้อของด้วยทีเดียว ไม่เคยมาไม่ใช่หรอเรา” จงอินพยักหน้าก่อนจะยิ้มกว้างแบบดีใจเดินลงรถเมล์ไปกับปาร์คชานยอล อากาศในวันนี้อุณหภูมิหนาวปกติทำให้คนที่ใส่เสื้อผ้าค่อนข้างไม่หนามาสามารถเดินได้อย่างสบายๆ

     

    ระหว่างทางมีนักศึกษาหลายคนมองมาทางชานยอลและจงอิน  เพราะคุ้นหน้าคุ้นตาว่าเป็นบอยแบรนด์ชื่อดังวง Exo  แต่ผู้คนก็เพียงแต่มองและถ่ายรูปอยู่ห่างๆ ไม่ได้เข้ามาวุ่นวาย

     

    มือเล็กของจงอินดึงชายเสื้อปาร์คชานยอลไว้ให้คนร่างสูงหยุดเดิน ก่อนจะชี้มือไปที่ร้านไก่ทอดของรุ่นพี่ SJ

     

    “ไปกินไก่ทอดกันพี่ชานยอล จงอินอยากกิน” เจ้าตัวทำหน้าอ้อน ก่อนจะฉุดแขนร่างสูงให้เดินตรงไปยังร้านนั้น

     

    จะถามพี่ทำไม….ถ้าจะลากกันซะขนาดนั้น

     

    แต่ถึงจงอินไม่บอก เขาก็พาเจ้าตัวมากินอยู่แล้ว เขาตามใจจงอินจะตายและรู้อีกด้วยว่าเจ้าตัวรักการกินไก่ทอดเป็นชีวิตจิตใจมากแค่ไหน

     

    พอเข้ามาในร้านชานยอลก็ดึงมือจงอินไปนั่งด้านในสุดของร้านหลบมุมคนอื่นๆ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว

     

    พนักงานนำเมนูอาหารมาให้ ก่อนจงอินจะเปิดดูและสั่งอย่างว่องไว

     

    “พี่ชานยอลอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม”

     

    “แล้วแต่จงอินเถอะ” พอผมพูดแบบนั้นเจ้าตัวก็สั่งอาหารอีกสองสามอย่าง ก่อนจะยื่นเมนูคืนให้พนักงานไป สีหน้าจงอินดูตื่นเต้นและเฝ้ารอว่าไก่ทอดจะน่ากินเพียงใด

     

    “ทำหน้าเหมือนไม่เคยกินไปได้ ไก่ทอดที่ไหนก็เหมือนกันแหละ” ชานยอลพูดขึ้นมาลอยๆ แต่พอจงอินได้ยินก็รอยยิ้มก็หุบลง

     

    “มันจะเหมือนกันได้ไง! แต่ละที่รสชาติมันไม่เหมือนกันสักหน่อย พูดแบบนี้ไม่ต้องกินเลยนะ” จงอินพูดขึ้นทำหน้างอนร่างสูงที่นั่งตรงข้าม

     

    “พี่ไม่กินจากจาน แต่จะกินจากปากจงอิน แบบนี้ดีไหมครับ” ร่างสูงพูดจบก็ยิ้มกว้างออกมา จนคนผิวสีแทนรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้ ถึงแม้จะรู้สึกเขินแต่ความหมั่นไส้มันก็มีมากกว่า

     

    “ผมไม่ให้กินง่ายๆหรอก”

     

    “เดี๋ยวก็รู้”

     

    ไม่นานพนักงานก็นำไก่ทอดและเครื่องเคียงต่างๆ มาเสิร์ฟตามที่จงอินได้สั่งไปจนเต็มโต๊ะ พนักงานของถ่ายรูปทั้งสองคนเพื่อนเอาไปแปะไว้ที่ผนัง ซึ่งทั้งสองคนก็ให้ความร่วมมือและยังให้ลายเซ็นอีกด้วย

     

    กลิ่นไก่ทอดหอมยั่วน้ำลาย ทำให้จงอินไม่รอช้าที่จะคว้ามันขึ้นมากิน ในขณะที่ชานยอลค่อยๆ หยิบไปกิน นั่งมองคนตรงข้ามที่นั่งกินไก่เหมือนเด็กๆ ก็อดยิ้มอออกมาไม่ได้ ยิ่งเวลาทำสีหน้าเหมือนว่ามันอะไรเหาะยิ่งน่ารักจนอยากจะปล้ำกลางร้าน

     

    สงบใจไว้ปาร์ชานยอล

     

    “อร่อยใช่ไหมล่ะพี่ชานยอล” เจ้าตัวพูดขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของคนเป็นพี่ทานไก่ทอดจนหมดน่องแล้ว

     

    “อร่อย”

     

    พอได้ยินร่างสูงพูดแบบนั้นเจ้าตัวก็ยิ้มออกมา ซอสที่เลอะเปรอะเปื้อนริมฝีปากทำให้ร่างสูงย้ายตัวเองจากที่นั่งไปนั่งข้างๆ คนผิวสีแทนที่ยังนั่งกินไม่รู้เรื่อง

     

    “กินยังไงให้เลอะเนี่ย” ร่างสูงหยิบทิชชู่ก่อนจะเช็ดคราบซอสที่เลอะตามริมฝีปากให้ จงอินยิ้มจนตาหยีก่อนจะเอ่ยขอบคุณ

     

    “ขอบคุณ” ไม่ทันจะพูดจบ มือหนาก็ใช้ร่างกายตัวเองบังสายตาคนด้านนอก  ใช้มือประคองหน้าเรียวไว้แล้วแลบลิ้นเลียคราบที่เหลือบนริมฝีปากของจงอิน

     

    พอร่างสูงถอยออกไปพร้อมกับเลียริมฝีปากน้อยๆ จงอินก็หน้าแดงระเรื่อก้มหน้างุด ใช้มือผลักอกแกร่งของคนเป็นพี่

     

    “เดี๋ยวคนอื่นเห็นพี่ชานยอล!” ปากเอ่ยว่า แต่หน้ากลับแดงเถือกเพราะการกระทำจากร่างสูง คนที่เพิ่งทำอะไรประเจิดประเจ้อไม่ได้สำนึกกลับยิ้มกว้างแทนเสียอย่างนั้น

     

    ร่างสูงดึงจานตัวเองมาอยู่ฝั่งเดียวกับจงอิน หยิบไก่ทอดมาไว้ในจานแล้วทำท่าจะกินต่อไม่สนใจคนข้างๆ ที่นั่งทำตาโต

     

    “กลับไปนั่งที่พี่เลยนะ พี่ชานยอล”

     

    “ไม่เอา อยากนั่งกับแฟน” จงอินทำสีหน้าตกใจก่อนจะมองซ้ายมองขวาว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่า

     

    “พี่ชานยอลกลับไปนั่งที่เลยนะ เดี๋ยวถ้าแฟนคลับถ่ายรูปได้ทำยังไง ผมไม่อยากโดนพี่เมเนเจอร์บ่นนะ”

     

    “ไม่ต้องห่วงพี่บอกพักงานไว้แล้ว ว่าไม่ให้เข้ามายุ่งย่ามตรงแถวนี้” ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ก่อนจะนึกได้ว่าปาร์คชานยอลกระซิบอะไรกับพนักงานตั้งแต่ตอนเข้าร้านแล้ว

     

    ร้ายจริงๆ

     

    “งั้นก็สบายใจได้ กินต่อเถอะ เดี๋ยวจะได้ไปซื้อของกัน” พอชานยอลพูดแบบนั้นจงอินก็กลับมานั่งกินไก่ทอดตามเดิม จนอาหารในโต๊ะพร่องไปเกือบจะหมด

     

    ร่างสูงคว้าใบหน้าคมมาประกบจูบแย่งเนื้อไก่ในปากคนผิวสีแทนอย่างไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากหนาสอดเข้าไปก่อนจะหยอกล้อกับลิ้นบางจึงถอนริมฝีปากออกมา แล้วนั่งเคี้ยวไก่อมยิ้มอย่างมีความสุข

     

    คนที่โดนเอาเปรียบทั้งอายทั้งโมโห จะโวยวายมากก็ไม่ได้เพราะอยู่ข้างนอก จึงยอมให้คนข้างๆ เอาเปรียบจนปากบวมเจ่อไปหมด

     

    หลังจากออกมาจากร้านไก่ทอด จงอินก็ดูจะงอนปาร์คชานยอลเสียแล้ว เจ้าตัวเดินเร็วไม่รอชานยอลเลย แต่ขาเรียวยาวอย่างชานยอลเดินไปกี่ก้าวก็ถึงตัวคนผิวสีแทน

     

    “โกรธพี่จริงๆหรอ” เจ้าตัวหันมามองด้วยใบหน้าขุ่นเคือง

     

    “ก็พี่ชานยอลฉวยโอกาสนี่! นี่มันข้างนอกนะ”

     

    “งั้นพี่จะทำแต่ที่ลับตาแล้วกัน โอเคไหมครับ” พอได้ยินคำตอบยียวนย้อนแบบนั้นจงอินก็ไปไม่ถูก ชานยอลยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพาคนผิวสีแทนเลี้ยวเข้าร้านขายหมวกตรงข้างหน้า

     

    พอเข้ามาในร้านหมวกหลายหลายสไตล์ที่แขวนโชว์อยู่ก็ดึงความสนใจจากร่างสูงได้ชะงัก เขาหยิบใบนู้นใบนี้มาลอง ก่อนจะถามคนผิวสีแทนที่กำลังยืนเลือกอยู่

     

    “พี่ใส่ใบนี้แล้วหล่อไหม” ชานยอลหยิบหมวกสีทึบมีขนขึ้นมาสวมให้จงอินดู คนเป็นน้องส่ายหน้ากับอาการชอบหมวกขนของคนตรงหน้า

     

    มีมันจะเต็มห้องแล้วมั้ง

     

    “เอาแบบอื่นไปบ้างสิพี่ชานยอล แบบนี้มีเต็มห้องจนจะทับตายอยู่แล้ว” พอจงอินบอกแบบนั้นร่างสูงก็วางหมวกใบนั้นลงและเลือกหยิบหมวกใบใหม่มาลองสวมให้ดู

     

    “ใบนี้โอเคไหม” พอจงอินพยักหน้าชานยอลก็ส่งให้พ่อค้าก่อนจะจ่ายเงินเรียบร้อย เล่นเอาจงอินอึ้งไปเลย ก่อนชานยอลจะพาเดินออกมาร้านมาเดินดูของด้านนอก

     

    คนผิวสีแทนทำหน้าเหมือนเด็กๆ ได้มาเที่ยว ชี้ให้ชานยอลแวะร้านนู้นร้านนี้ไปหมด ก่อนมือหนาจะมีถุงเพิ่มขึ้นมาซึ่งล้วนเป็นของคนข้างตัวมากกว่าตัวเอง จนมาถึงร้านเสื้อผ้าที่จงอินชวนเขาเข้าไป

     

    “เสื้อตัวนี้เท่ไหมพี่ชานยอล” จงอินหยิบเสื้อกล้ามสีดำลายหัวกะโหลกสกรีนสีตัดกันให้ดู ไอ้เท่มันก็เท่อยู่หรอก แต่ข้างหลังนี่สิคว้านลึกไปมั้ง

     

    “อืมก็เท่ดี แต่พีว่าเอาตัวนี้ดีกว่าไหม” ชานยอลเลือกหยิบเสื้อยืดลายใกล้เคียงกันให้จงอิน ก่อนจะยื่นให้เจ้าตัว เป็นเสื้อยืดสีดำแทน

     

    “แต่ผมชอบตัวนี้มากกว่าอ่ะ ใส่แล้วไม่ร้อนดีด้วย” แถมยังเป็นอาหารตาคนอื่นอีก  ปาร์คชานยอลต่อประโยคในใจ

     

    “พี่ไม่ให้จงอินใส่ คว้านหลังขนาดนั้นพี่หวง” ชานยอลพูดจบก็ดึงเสื้อออกมาจากมือจงอินแล้วแขวนกลับเข้าที่เดิม คนผิวสีแทนหน้ามุ่ยหยิบเสื้อตัวเดิมถือไว้แล้วเดินเข้าไปตรงดูกระจกใกล้ห้องแต่งตัว

     

    ร่างสูงเดินตามไป ก่อนจะคว้าคนผิวสีแทนเข้ามาในห้องแต่งตัวและลงกลอนเรียบร้อย

     

    “พี่ชานยอลจะทำอะไร ออกไปเลยนะ!” ร่างสูงไม่ยอมออกเอาตัวบังทางออกไว้ไม่ให้คนผิวสีแทนออกไปได้ จงอินเริ่มวิตกกลัวคนอื่นจะมาเห็น

     

    “คุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน พี่ไม่ให้ใส่เสื้อตัวนี้เด็ดขาด” ชานยอลยื่นคำขาด สายตาจริงจังจนจงอินเริ่มอ่อนลง แต่เพราะโดนดุร่างบางจึงไม่ยอมแพ้

     

    “ทำไมล่ะ! ก็จะใส่ มันไม่เห็นเสียหายตรงไหน” ชานยอลถอนหายใจออกมาเมื่อคนตรงหน้าเริ่มจะพยศกับเขาอีกแล้ว

     

    “ก็พี่หวง ก็พี่หึง ไม่ชอบให้มองร่างกายจงอิน วันนี้พี่ยอมเพราะมากับพี่ ถ้าจงอินไม่ฟัง โดนดีแน่!” ชานยอลดุคนผิวสีแทนซึ่งทำหน้าสับสนว่าจะยอมดีหรือจะดื้อต่อ

     

    “ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย คนอื่นจะมองก็มองไปสิ” จงอินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ชานยอลคว้าเสื้อตัวปัญหามาไว้ในมือแล้วโยนไปกองกับพื้น

     

    “แต่พี่หึง เข้าใจพี่หน่อยนะครับจงอิน” มือหนาลูบใบหน้าจงอิน ก่อนจะดันร่างบางติดผนังห้องลองเสื้อ ก้มหน้าลงไปที่ซอกคอเรียวสีน้ำผึ้ง ก่อนจะเริ่มขบเม้มจนเกิดรอย

     

    “พี่ชานยอล..จะทำอะไร..อื้ออ” จงอินถามขึ้นมาพยายามจะดิ้นแต่ก็ถูกรวบมือไว้เหนือหัว ยิ่งเบี่ยงหน้าก็ยิ่งโดนจมูกโด่งซุกไซร้พร้อมกับโดนทำรอยเต็มแผ่นอก

     

    “ก็ทำสัญลักษณ์ไว้ จงอินจะได้ไม่ใส่เสื้อโชว์ผิวให้ใครเห็น” คนผิวสีแทนได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ ที่โดนเอาเปรียบอีกแล้ว ชายยอลพลิกร่างบางให้หันหน้าเข้าผนังก่อนจะถอดเสื้อนอกจงอินออกเหลือเพียงเสื้อกล้ามตัวเดียว

     

    ริมฝีปากหนาจูบที่หัวไหล่ ก่อนจะเริ่มทำรอบแบบเดิมกับที่ทำด้านหน้า มือหนาถกเสื้อยืดขึ้นก้มลงลากริมฝีปากทำรอบทั้งแผ่นหลัง ในขณะที่คนผิวสีแทนเอามือยันกระจกไว้

     

    สัมผัสจากริมฝีปากทำให้ตัวรู้สึกร้อนทั้งหน้าทั้งร่างกาย  ไม่นึกว่าชานยอลจะทำจริงๆ ยิ่งมองตัวเองในกระจกห้องลองเสื้อก็ต้องเบือนหน้าหนีภาพน่าอายของตัวเอง

     

    ชานยอลปล่อยเสื้อลงมาตามเดิมก่อนจะจูบลงที่บั้นเอวสวย มือหนาลูบไปตามหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เรียกเสียงครางจากคนที่โดนรุนราน แต่ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดคนด้านหลังก็หยุดมือแล้วลุกขึ้น หยิบเสื้อจงอินมาใส่ให้ตามเดิม

     

    “ทีหลังอย่าดื้อนะครับจงอิน พี่หึง พี่หวงของพี่ ครั้งหน้าจงอินโดนทำรอยทั้งตัวแน่” ชานยอลพูดขึ้นก่อนจะจูบที่ขมับบางของคนหน้าแดง ตอนนี้ทั้งแผ่นอกและแผ่นหลังคงเต็มไปด้วยรอยจูบจากร่างสูงหมดแล้ว  คนผิวสีแทนกระชับเสื้อคลุมให้ปิดร่างกายมิดชิดกว่าเดิมกลัวคนอื่นเห็น

     

    พรุ่งนี้โดนพี่สไตล์ลิสดุแน่!!

     

    ชานยอลเปิดประตูห้องลองเสื้อออกมา ก่อนจะเอาเสื้อกล้ามตัวนั้นไปแขวนที่เดิม แล้วหยิบเสื้อที่เขาเล็งไว้ให้จงอินไปจ่ายเงินแทน จงอินที่เดินตามออกมาก้มหน้างุดเดินตามชานยอล

     

    “จะกลับกันเลยไหม พี่ซูโฮโทรมาตามแล้ว” ชานยอลถามคนข้างตัวที่ไม่พูดตั้งแต่ออกจากร้านแล้ว

     

    “แล้วแต่พี่ชานยอลสิ” จงอินพูดขึ้น ก่อนมือหนาจะจับเข้าที่แก้มนุ่มแล้วจับมันฉีกออก

     

    “ยิ้มหน่อยสิคนดี พี่ไม่สบายใจนะ” จงอินมองคนตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วยิ้ม ที่จริงไม่ได้โกรธอะไร ก็แค่เขินเท่านั้น  ยิ่งรู้ว่าพี่ชานยอลหวงขนาดนี้ก็ยิ่งเขินหนัก หัวใจมันพองโตจนแทบระเบิดออกมา

     

    “จงอินยิ้มแล้ว งั้นกลับกันดีกว่า จงอินคงจะเหนื่อยแล้ว” ตกลงได้ดังนั้นทั้งสองคนก็นั่งรถกลับไปที่หอพัก

    ……………………………………………

     

    “ไปเที่ยวไหนกันมาอ่ะ ไม่ชวนเลย” แบคฮอยอนพูดขึ้นคนแรก ก่อนทำท่าจะคว้าของในมือผมไปดู

     

    “อันนี้ของจงอิน แกห้ามแตะต้อง” ชานยอลพูดขึ้นก่อนจะเดินตามจงอินไป

     

    “โด่ว! ไอ้ขี้หวง คยองหายโกรธแบคกี้นะ คยอง” คยองซูสะบัดหน้าก่อนจะเดินหนีแบคฮยอนเข้าไปในครัวอย่างรำคาญ

     

    ชานยอลเดินเอาของไปวางบนเตียงให้ ส่วนจงอินถอดเสื้อคลุมออกเหลือแต่เสื้อกล้าม หันมาขอบคุณชานยอลที่พาไปเที่ยวแถมยังซื้อของให้เยอะแยะ

     

    “พี่ชานยอลทีหลังห้ามผมบ้างนะ นี่ผมเผลอตัวซื้อมาเยอะเลย” จงอินพูดขึ้นเมื่อมองถุงที่กองอยู่บนเตียงนอน รู้สึกเกรงใจแฟนตัวเองขึ้นมา ถึงแม้ชานยอลจะบอกทุกครั้งว่าเต็มใจ

     

    ร่างสูงเดินเข้าไปกอดเอวจงอินไว้ โยกศีรษะทุยเบาๆ

     

    “ไม่เป็นไรหรอก ขนหน้าแข้งไม่ร่วง! ไปหาอะไรกินดีกว่า ดีโอคงทำไว้แล้ว” ชานยอลบอกก่อนจะจูงมือจงอินออกไป สมาชิก Exo แต่ละคนกลับมาจากที่ไปทำธุระของตัวเองในกันอยู่เต็มห้องรับแขก

     

    ชานยอลและจงอินเดินเข้าไปที่ครัวเพื่อหาอะไรกิน ก่อนจะพบว่าของกินที่ดีโอทำหมดแล้ว

     

    “เดี๋ยวพี่ทำให้จงอินใหม่ไหม” ดีโอถามขึ้นเมื่อจงอินถามว่ากับข้าวหมดแล้วหรอ แต่ชานยอลบอกไม่ต้องเดี๋ยวทำให้เอง

     

    “พี่ชานยอลลลลทำอาหารหรอ ทำเยอะๆเผื่อเทาด้วยนะ” มันเน่ฝั่งเอ็มวิ่งเข้าเมื่อได้ยินแว่วๆ ว่าพี่ชายตัวสูงจะทำอาหาร ดวงตาใสเป็นประกายจนชานยอลเคาะกะโหลกกลับไป

     

    “พี่คริสไม่ให้กินอะไรหรือไง ถึงหิวตลอดเวลา” คนที่ถูกพาดพิงเดินมาหาคนของตัวเองก่อนจะฉุดไว้ในอ้อมกอด

     

    “เฮ้ย! ใครบอกว่าพี่ไม่ให้กิน คนอย่างอู๋อี๋ฟานไม่เคยต้องให้แฟนต้องอดๆอยากๆ แต่เทาแค่กินตลอดเวลาเท่านั้นเอง” เทาหน้าบูดทันทีที่โดนแฟนตัวเองแซะเข้าให้ก่อนจะขืนตัวออกจากอ้อมกอด

     

    “ว่าแบบนี้ วันนี้นอนข้างนอกไปเลยนะ!” พอเทาเริ่มจะงอนคริสก็ลากคนของตัวเองไปง้อเสียแล้ว พอเรื่องวุ่นวายจบลงชานยอลก็หันมาทำอาหารง่ายๆ อย่างเช่น ข้าวผัด เพื่อกินกับจงอินสองคน

     

    ดวงตาใสมองคนที่ตั้งใจทำอาหารก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ แผ่นหลังกว้างของพี่ชานยอลเวลาตั้งใจทำอะไรมีเสน่ห์จนละสายตาไม่ได้ทุกที

     

    “ทำอาหารเก่งแบบนี้ ใครๆ ต้องอยากได้พี่ไปเป็นลูกเขยแน่ๆ” จงอินพูดขึ้นมา ก่อนชานยอลที่กำลังเอาข้าวผัดใส่จานจะหันกลับมา

     

    “แล้วตระกูลคิมอยากได้เป็นลูกเขยบ้างไหมล่ะ” พูดจบก็ยักคิ้วให้ ก่อนจะหันกลับจัดการกับข้าวผัดต่อไม่สนใจคนผิวสีแทนที่นั่งหน้าแดงกับประโยคเมื่อครู่

     

    พออาหารอยู่ตรงหน้าจงอินก็ไม่รอช้ารีบจัดการทันที ชานยอลเองก็หิวไม่แพ้กันต่างคนจึงต่างกินก่อนจะแยกย้ายกันไป

     

    “ฝันดีนะครับคนดีของพี่ชาน” ชานยอลหอมแก้มคนที่เดินสะลึมสะลือเต็มทนหลังจากไปอาบน้ำและมานั่งดูหนังด้วยกัน  ชานยอลเดินมาส่งจงอินที่หน้าห้องซึ่งเจ้าเซฮุนมันเข้าไปก่อนแล้ว

     

    “ฝันดีเช่นกันครับ หาววว” ชานยอลยิ้มบางๆ ออกมายีศีรษะทุยก่อนจะดันให้จงอินเข้าไปนอนแล้วปิดประตูให้

    ……………………………………………………

     

    “ไคทำไมไม่ใส่เสื้อตัวนั้นอ่ะ ไหนเมื่อวานบอกจะใส่ไม่ให้เรายืมไง” เซฮุนถามขึ้นก่อนจะชูเสื้อกล้ามคว้านยาวจนเกือบถึงเอวที่ไปซื้อกับเซฮุนมาแล้วกะว่าจะใส่

     

    “พอดีวันนี้มันหนาวๆ เลยอยากใส่เสื้อผ้าที่มันอุ่นๆ” จงอินตอบเซฮุนก่อนจะเดินออกมาด้วยชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีแดงกับกางเกงยีนต์

     

    จะใส่ได้ไงล่ะ รอยเต็มตัวขนาดนั้น!!

     

    พอจงอินเดินออกมาจากห้องชานยอลก็เข้ามาหาทันที ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ

     

    “วันนี้จงอินแต่งตัวน่ารัก เรียบร้อย ถูกใจปาร์คชานยอลสุดๆ” จงอินอดจะทำหน้าหมั่นไส้แฟนตัวเองไม่ได้

     

    มันเพราะใครเล่าที่ทำให้เป็นแบบนี้!!

     

    ที่จริงก็ไม่ได้ชอบแต่งตัวโชว์ใครหรอกก็อยากโชว์เจ้าตัวนั่นแหละ (อย่าเอาไปบอกพี่เขานะครับ) เดี๋ยวได้ใจ ใครจะไปรู้ล่ะว่าเห็นตัวใหญ่ๆ แบบนี้ ขี้หึงเอาเรื่องเหมือนกัน

    ………………………………………

     

     

    ช่วงแมวพิมพ์

    ไรหายไปนานเลย คนอ่านหายหมดเลยป่ะเนี่ย555555 ช่วงนี้เปิดเทอมแล้วอาจจะอัพไม่เร็ว เพราะต้องแต่งหลายเรื่องด้วย แต่พยายามจะมาอัพนะคะ เรื่องนี้ตอนหน้าจะเป็นของคริสเทาค่ะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×