ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Romeo & Juliet <<: อมตะรักแท้ตลอดกาล

    ลำดับตอนที่ #10 : Concernment :; อิตาลี ในสมันเรอเนอส์ซองค์

    • อัปเดตล่าสุด 14 ส.ค. 52



                  ในสมัยเรอเนอส์ซองซ์ คำว่า "อิตาลี" ไม่เพียงหมายถึงประเทศ หากยังรวมไปถึงบริเวณทางภูมิศาสตร์ที่เป็นนครรัฐเล็กๆที่มาประกอบเข้าด้วยกัน แต่ละนครรัฐมีเจ้าชายที่มีอำนาจปกครอง (ในเรื่อง โรเมโอและจูเลียต ก็มีบทเจ้าชายผู้ครองนครเวโรนา)เจ้าชายเหล่านี้บางครั้งก็มาจากครอบครัวขุนนางโบราณ บางครั้งก็เป็น คอนดอตติเอริ หรือผู้บัญชาการทหารซึ่งยึดอำนาจรัฐบาลเอาจากรัฐที่ว่าจ้างให้เขาป้องกัน และบางครั้งก็เป็นคนจากครอบครัวพ่อค้า ซึ่งเข้าไปยึดอำนาจเป็นผู้นำทางการเมืองและทางการเงิน

                  ประชากรอิตาลีในสมัยเรอเนซองซ์โดยคร่าวๆแบ่งออกเป็น ขุนนางผู้ดี พ่อค้า ช่างฝีมือกับศิลปิน กรรมกรในเมือง และชาวนาในชนบท บางครอบครัวก็มีทาสมาจากมองโกเลีย ตุรกี หรือรัสเซีย ทาสเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่คอยรับใช้ทำงานในบ้าน

                  ชนชั้นปกครองในนครรัฐอิตาลีส่วนใหญ่จะประกอบด้วยผู้ชายที่มาจากครอบครัวขุนนางผู้ดี อย่างไรก็ตามในบางท้องที่พ่อค้าได้รับอำนาจมากจนมีอำนาจควบคุมทางการเมือง คนเหล่านี้แสวงหาหนทางที่จะให้เป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตาด้วยการไปแต่งงานกับครอบครัวขุนนาง ในครอบครัวที่ร่ำรวยหรือครอบครัวขุนนาง บุตรชายจะเป็นผู้สืบทอดความมั่งคั่งของครอบครัว ธิดาจะได้รับสมบัติจากสิ่งที่ครอบครัวครอบครองอยู่เพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่มีพี่น้องเป็นผู้ชายก็ตาม อสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวจะตกเป็นของพี่หรือน้องชายของผู้ที่ตายจากไปโดยไม่มีบุตรชายสืบสกุล ครอบครัวจะนำความมั่งคั่งส่วนใหญ่ไปลงทุนจัดเตรียมธิดาให้พร้อมที่จะแต่งงาน โดยจัดให้มีสินสอดจำนวนมากเพื่อให้นางแต่งงานไปได้ดี เมื่อครอบครัวใดมีธิดามากจนเกินไป จึงจำเป็นต้องให้บางคนแบกกระเป๋าเข้าคอนแวนต์ (สำนักชี) เพราะจะได้ไม่ต้องจัดเตรียมสินสอดอีกต่อไป

                   ในบรรดาประชากร พ่อค้า ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาชิกที่มั่งคั่งที่สุด ถือว่ามีฐานะชนชั้นต่ำกว่าพวกขุนนางในบางเมือง แต่ในเมืองฟลอเรนซ์และเมืองเยอนัวกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะชนชั้นปกครองมีรากฐานมาจากการค้า

                   ช่างศิลป์ที่มีฝีมือ อาจทำงานได้ดีและโชคดีกว่ากรรมกรไร้ฝีมือ ซึ่งมักจะลำบากที่จะหาอาหารได้พอยาไส้ และมีเสื้อผ้าพอนุ่งห่มสำหรับตนเองและครอบครัว คนที่มีฐานะดีมองคนเหล่านี้ว่า ถ้าคนที่อยู่ในระดับต่ำสุดของสังคมสามารถหาอาหารได้ในวันๆนั้นก็เท่ากับมีเพียงพอแล้ว

                   คนที่อยู่ในระดับล่างสุดของสังคม คือ ชาวนาที่เพาะปลูกบนผืนดินที่ทำงานร่วมกับเจ้าของผืนดิน แล้วรับพืชผลเป็นค่าจ้าง คนพวกนี้ไม่เพียงต้องพึ่งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพันเก้า แต่ชีวิตมักต้องชงัดไปกับกองทัพ เมื่อมีการต่อสู้ระหว่างเมือง ที่มักจะย่ำยีชนบทจนราบเป็นหน้ากลอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×