ตอนที่ 20 : ตอนที่ 18 เมื่อได้ปาติซิเย่เป็นผัวต้องพลีกาย
ถ้าพี่ป้องไม่ยอมเป็นผัว กั๊กจะแบะแล้วนะ!!!
+++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 18 เมื่อได้ปาติซิเย่เป็นผัวต้องพลีกาย
กั๊ก
แหมะ...แหมะ...
พวกคุณคิดว่าน้ำอะไร...อะไรนะ น้ำลาย แบบว่าผมได้กลิ่นเค้กแล้วลายน้ำพุ่งอะไรแบบนั้นใช่มั้ย
ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นแหละ คิดว่าไอ้น้ำใสๆ ที่ไหลลงไปหยดบนแก้มของพี่ป้องอาจจะเป็นน้ำลายของผม ซึ่งผมไม่ได้ล้อเล่น ไม่ได้เอาตลกเข้าว่า เพราะผมไม่รู้ตัวจริงๆ...ไม่รู้เลยว่าน้ำตา...ไหลลงมา
“น้ำ...อะไร...” ผมกระซิบเสียงแผ่ว ยกมือจับแก้มตัวเอง แล้วพบว่ามันไม่ใช่น้ำลาย แต่มันไหลออกมาจากดวงตา
“กั๊กร้องไห้หรือ...นี่ร้องไห้อีกแล้วหรือ” สมองผมอาจจะใช้การไม่ได้แล้วก็ได้ เพราะผมกำลังพูดกับตัวเองอยู่ ไม่ขยับแม้แต่จะลงจากตัวของพี่ป้อง หากแต่นั่งนิ่งที่เดิม ปาดไปมาบนใบหน้า อย่างกับพิสูจน์ให้แน่ใจว่ามันคือน้ำตา พร้อมกับถามตัวเองว่า...
“แล้วกั๊ก...ร้องไห้ทำไมล่ะ”
ผมพึมพำ ก่อนที่จะกดสายตาลงไปมองผู้ชายตัวโต แล้วผมก็นึกขึ้นได้
“อ้อ ใช่สิ พี่ป้องปฏิเสธกั๊กนี่เนอะ ร้องไห้เพราะอกหักนี่เอง” ผมหัวเราะ ผมคิดว่าผมคงใกล้บ้าเต็มทีแล้วถึงแสดงออกแบบนี้ แทนที่จะลุกหนีความอับอายที่เข้าใจผิดไปยกใหญ่ หรือโทรไปหาไอ้สองผัวเมียนั่นที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ แต่ผมกลับหัวเราะ...ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้เหมือนคนบ้านั่นแหละ
ตลอดสิบแปดปี ผมไม่เคยชอบใคร อาจจะมองว่าคนนั้นสวย คนนี้น่ารัก เออ ผู้ชายคนนั้นหล่อดี แต่ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจมากเท่านี้มาก่อน แต่กับพี่ป้อง เจอกันถึงเดือนหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ทำไมผมถึงเสียใจขนาดนี้ ก็แค่ผู้ชายคนนึง ถึงจะทำเค้กอร่อยแค่ไหน แต่ใช่ว่าผมจะไปซื้อเค้กร้านเขาอีกไม่ได้นี่ ไอ้กราฟก็ได้ จันทร์เจ้าก็ได้ แม่ก็ได้ ถ้าอยากกินมากๆ ก็ขอร้องให้ไปซื้อให้ก็ได้ แต่...
“ฮึก...ฮ่าๆ...หยุดร้อง...สิวะ...ฮ่าๆๆ...”
“น้องกั๊ก...”
เพียะ!
ร่างกายผมไปไวกว่าสมองอีกแล้ว เพราะแค่พี่ป้องเอื้อมมือจะเช็ดน้ำตาให้ ผมก็ปัดมันออก หันขวับไปสบสายตา ก่อนที่จะกระซิบ
“อย่ามาใจดีกับกั๊ก...นะ...อย่ามา...ใจดี...” ผมก็นึกนับถือตัวเองอยู่หรอกที่พูดแล้วฟังรู้เรื่อง แต่พอพี่ป้องยังยืนยันที่จะยื่นมือมาจับแก้มผมอีก
“ยะ...อย่า...ใจดี...นะ...ฮึก...ฮึก...โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”
ผมก็ปล่อยโฮเหมือนเด็กสามขวบซะอย่างนั้น
ตอนแรกยังหัวเราะไปร้องไห้ไป ตอนนี้เงยหน้าขึ้นฟ้า ปล่อยเสียงโฮออกมาเต็มที่ ขณะที่น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าก็ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง เปรอะเปื้อนแก้มไปหมด สองมือก็ยกขึ้นป่ายปัดไปมาบนหน้า รู้แค่...กูเสียใจ
ผมไม่รู้ว่าพี่ป้องทำหน้ายังไง ผมรู้แค่ผมจะร้อง แล้วก็ร้องให้ตายไปข้างนึงด้วย แต่แล้ว...
หมับ
“เด็กดี ร้องไห้ทำไมครับ”
ก็มึงหักอกกูอะ ฮือออออ
ผมไม่ตอบหรอก แค่หายใจยังลำบากเลย เมื่อน้ำหูน้ำตามันไหลออกมาหมดจนคงทุเรศน่าดู ใจอยากจะผลักคนที่ดันตัวขึ้นมากอด แต่ตอนนี้จะใช้แรงเพื่อร้องไห้ ใครจะทำไมกู
“ไม่เอา ไม่ร้องนะ”
มึงก็ยอมเป็นผัวกูสิ แล้วกูจะหยุดร้อง แงงงงงง
“มอมแมมหมดแล้วนะเรา”
เออ กูไม่น่ารัก ไม่ต้องมารักกูเลย โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
“แต่ทำไมน้า น้องกั๊กถึงน่ารักที่สุดในสายตาของพี่”
กูรู้แล้วว่ากูไม่น่ารัก ไม่ต้องมาย้ำกันเลย ฮึก...เดี๋ยวนะ...
ผมได้ยินอะไรแว่วๆ ฟังไม่ชัด แต่ยังไม่ยอมหยุดร้อง แค่กดหน้าลงมาอีกหน่อย เพื่อถาม แต่เสียงที่ออกมา...
“กั๊ก...ฮึก...ฮึก...น่ารัก...น่ารัก...หรือ...ไม่...ฮือ...”
ทำไมกูถึงพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้วะ!!!
ฟึ่บ
“ครับ น่ารักที่สุดเลย” ไอ้พี่ป้องคนใจร้ายมันเอามือมาเช็ดน้ำตาน้ำมูกให้ผมอะ แม้มันจะไม่รังเกียจน้ำมูกใสๆ ของผม แต่มันบังอาจหักอกผมอะ ดังนั้น ยังไงผมก็ไม่มีทางยกโทษให้มันง่ายๆ แน่ ผมจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ผมจะยกมือปิดหูแล้ว แต่...
“น่ารักจน...” พี่ป้องจับมือผมที่กำลังจะยกปิดหู แล้วเขาก็...กระซิบ
“รักนะครับ”
“...ฮึก...ฮึก...ฮือ...”
ไม่ ผมยังไม่หยุดร้อง สมองยังไม่ทำงาน ประสาทยังพิการอยู่ ก็เลยได้แต่สะอื้นมองหน้าพี่ป้องนิ่ง และนั่นก็ทำให้พี่เขา...
จุ๊บ
พี่ป้องจุ๊บแก้มของผมอะ!
ไม่ มันอาจจะดูไม่พิเศษใช่มั้ย แต่ตอนนี้แก้มผมนี่เปื้อนไปหมดทั้งน้ำมูกน้ำตาน้ำลาย แบบที่พี่เขาผละออกยังเห็นน้ำเหนียวใสๆ ติดปลายจมูกไปเลย แปลว่าเขาไม่รังเกียจทุกน้ำที่ออกมาจากร่างกายของผม แล้วไหนจะ...
“พี่...ฮึก...รัก...ไม่...ฮึก...จริง...ไม่...เชื่อ...”
ผมจะพยายามพูดภาษาคน แต่ทำไมออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งแทนที่พี่ป้องจะตอบคำถาม ทำไมเขาถึงยิ้มกว้าง แล้วรวบผมไปกอดแน่นๆ ทิ้งหัวมาถูกับหัวผมอะ ไหนจะ...
“โอ๊ย ทำไมน้องกั๊กน่ารักแบบนี้หืม จะให้พี่หลงไปถึงไหนกัน ถ้าน่ารักแบบนี้พี่ก็อยากจะขโมยไปไว้ที่ร้านแล้วไม่เอามาคืนพ่อแม่เราแน่ๆ” พี่ป้องไม่พูดอย่างเดียว พี่เขายังกระชับตัวผมแน่นๆ กอดอย่างหมั่นเขี้ยว จนตามไม่ทันแล้วนะ
นี่ตกลงจะปฏิเสธหรือจะรับรัก เอาแน่ๆ เด้!
ผมถามได้แค่ในใจ ปากมันยังพูดไม่ออก ได้แต่ยอมให้พี่ป้องกอดกระชับเหมือนตุ๊กตายัดนุ่น ทั้งยัง...หอมเหม่งซ้ายขวานี่คืออะไรกัน!
มาต่อกันๆ
“งื้อ...พอ...ฮึก...แล้ว...” ไม่ได้อยากทำตัวน่ารัก ไม่ได้อยากทำอะไรทั้งนั้นแหละ แต่มันงอแงได้แค่นี้จริงๆ ยิ่งพี่ป้องไม่ยอมปล่อย เขากอดผมแน่น ฟัดผมอยู่นั่น จนบรรดาน้ำทั้งหลายเลอะเสื้อเชิ้ตของพี่เขาไปหมด แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยนะ
“พี่อุตส่าห์อดใจไว้ตั้งนาน แบบนี้พี่ก็ตบะแตกกันพอดีน่ะสิ”
“ตะ...บะ...แตก...ฮึก...ไร...อะ...”
ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่เก็ต!!!
ผมไม่รู้ทำหน้ายังไง แต่พี่ป้องที่ยิ้มกว้างก็ลดเป็นรอยยิ้มแห้งๆ ดึงหัวผมไปซุกกับอกที่มันอุ่นมาก แข็งมาก น่างับหัวนมเล่นมาก แถมยังหอมมากๆ ด้วย
“น้องกั๊กฟังพี่ก่อนนะครับ...เราจะเชื่อมั้ยว่าพี่ชอบน้องกั๊กตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้ว”
“ไม่...ฮึก...” ปากผมไปก่อนสมอง แต่ผมก็ไม่เชื่อหรอก ใครจะเชื่อลง มึงหักอกกูอะ
“จริงๆ ครับ พี่ชอบน้องกั๊กจริงๆ นะ เด็กอะไรก็ไม่รู้น่ารักจัง หน้าขาวๆ ตัวเล็กๆ พอเจอกันก็มาทำหน้าแดงใส่ แม้พี่จะงงว่าวิ่งหนีพี่ทำไมก็เถอะ แล้วเจอกันแต่ละทีก็ทำตัวน่ารักอยู่นั่น จะไม่ให้พี่ชอบเราได้ยังไง...”
“แต่...”
“ชู่ว ขอพี่พูดจบก่อนนะ แล้วจะให้ว่าทุกคำเลย”
ง่ะ พี่ป้องอย่ามาพูดเสียงอุ่นๆ ข้างหูนะ มันจั้กจี้!
ผมไม่ได้ใจอ่อนกับพี่เขานะ ก็แค่เป็นคนมีเหตุผลไง เลยอยากฟังคำอธิบายก่อนว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่ นี่ถ้าพูดไม่ดี จะไม่ทำตัวน่ารัก...เอ๊ย จะต่อยให้สักหมัดเลย
ท่าทางที่พอผมนิ่งลงไปหน่อย พี่ป้องก็โยกตัวผมเบาๆ
“ถึงเราน่ารักก็จริง แต่พี่น่ะ 28 แล้วนะ ถ้าเราเรียกก็คงว่าคนแก่ได้เต็มปาก แถมน้องกั๊กยังบอกอีกว่าอายุสิบเจ็ด โห ฟังแบบนี้ไปคนแก่นี่ใจฝ่อเลย พี่ก็เลยคิดว่าขอแค่ได้แตะบ้างนิดหน่อย คนแก่ก็ใจชื้นแล้ว แต่ใครจะคิดล่ะว่าพี่จะได้แตะน้องกั๊กมากขนาดนั้น ใจก็ถามตัวเองทุกวันว่าจะบอกรักดีมั้ยน้า แต่น้องกั๊กเองก็ยังเด็ก พี่เลยตั้งใจว่ารอน้องกั๊กสัก 18 ก่อน แล้วจะลองเสี่ยงดูว่าคนแก่อย่างพี่จะมีโอกาสบ้างหรือเปล่า”
พี่ป้องก็อธิบายไป โยกตัวผมไป...นี่คิดว่ากูแปดขวบหรือไงวะ กูสิบแปดแล้วนะ!!!
ผมก็ด่าแก้เขินไปงั้นแหละ พอรู้ว่าพี่เขาคิดแบบนั้น สองมือนี่จับเข้าที่ชายเสื้อ เงยหน้าขึ้นมอง กัดปากแรงๆ
“แล้วที่...ที่ไม่...จูบ”
คำถามนี้คาใจกูมาก
พี่ป้องก็หัวเราะแก้เขิน ยกมือมาบีบจมูกผมเบาๆ
“งื้อ!”
“ก็น้องกั๊กทำตัวน่ารักแบบนี้จะอดใจไหวได้ยังไงล่ะ ขืนจูบไป พี่ต้องเลยเถิดจนติดคุกแน่ๆ”
“ตะ...แต่...แฟน...”
โอ๊ย กูชักขัดใจตัวเอง เมื่อไหร่กูจะหยุดสะอื้นวะ!
ผมอาจจะพูดไม่ได้ แต่ผมก็เขย่าเสื้อพี่ป้องเหมือนเด็กๆ จะเอาคำตอบให้ได้ว่าแล้วหนก่อนมาบอกว่าจะไม่จูบกับคนที่ไม่ใช่แฟนได้ยังไง และนั่นก็ทำให้พี่ป้องโน้มหน้าลงมาจนหน้าผากเราชิดกัน จากนั้น พี่ก็เขาก็อมยิ้มน้อยๆ
“พี่อยากให้เกียรติน้องกั๊กให้มากที่สุดครับ ถ้าน้องกั๊กไม่ตกลงเป็นแฟนพี่ แต่จูบพี่เพราะว่าเรื่องที่พี่ทำให้ พี่ก็ตั้งใจจะไม่แตะต้องน้องกั๊กมากกว่านั้น พี่อาจจะบ้าไปเอง แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน พี่ก็อยากให้น้องกั๊กเก็บจูบนี้...” พี่ป้องยกมือแตะริมฝีปากของผม
“...ไว้ให้กับคนที่น้องกั๊กรักดีกว่า”
โอ๊ย พ่อเทวดาถูกยันลงมาเกิด!!!
ผมอดไม่ได้ที่จะด่าเขา ทั้งที่...
กูหน้าร้อนจะไหม้อยู่แล้วโว้ย!!!
ผมไม่คิดเลยว่าพี่ป้องจะคิดกับผมแบบนี้ แล้วไม่รู้ทำไม เพราะพี่เขาเป็นผู้ใหญ่ใช่มั้ย ถึงทำให้เด็กอย่างผมเขินโคตรๆ เขินจนพูดไปแค่คำเดียว...
“จูบ”
ใจจริงอยากจะบอกว่างั้นมาแลกลิ้นกันตอนนี้เลยมั้ยพี่ แต่หลุดออกมาได้คำเดียว ให้พี่ป้อง...ยกมือปิดปากกูอีกและ
“พี่จะจูบให้ แต่พี่ขอถามคำนึงก่อน”
หงึกๆๆๆๆ
งานนี้พยักหน้าคอแทบหลุด กำชายเสื้อแน่นๆ ตั้งใจว่าจะยอมทุกอย่างถ้าได้จูบปากนี้สักที รู้สึก I want you I need you มาก และนั่นก็ทำให้พี่ป้องส่งยิ้มมาให้ แล้วไม่รู้ทำไม ยิ้มนี้ถึงกระแทกหัวใจเต็มแรง รู้สึกว่าพี่เขาโคตรของโคตรหล่อ หล่อแบบบรรลัยเลยล่ะ ตอนถามว่า...
“เป็นแฟนกันมั้ยครับ”
หมับ
“อื้อออออออออออออ!!!”
ไม่ได้จะทำตัวน่ารักนะ ไม่ได้แรดด้วย แต่ร่างกายมันสั่งให้โถมไปกอดคอพี่ป้องแน่น พยักหน้ารัวๆ ส่งเสียงลากยาว ขณะที่ใจซึ่งคิดว่าละเอียดเป็นผุยผงกลับหลอมรวมกัน แล้วก็เหลวเป็นน้ำคาอกพี่ป้องอีกเช่นเคย รู้แค่ว่า...
กูมีผัวแล้วโว้ย!!!
“จูบ...จูบกันนะ...นะ....นะครับ...” บอกกันแบบนี้ ยังไงคืนนี้ก็ต้องเอาปาติซิเย่เป็นผัวให้จงได้!!!
“วันเกิดกั๊ก...จูบกันนะ เป็นแฟนกั๊กนะ...” ใครจะว่าผมหน้าไม่อายก็ช่าง แต่ผมจะขอ วันเกิดผม ผมต้องได้ ขณะที่เขย่ามือพี่เขา ผละออกมามองหน้า พยายามที่จะยื่นหน้าไปจูบ และนั่นก็ทำให้พี่ป้องยิ้มบางๆ หัวเราะนุ่มๆ แล้ว...
จุ๊บ
“เอาอีก”
ปากแตะปากแทบไม่รู้รสแบบนี้ไม่พอโว้ย!!!
ผมพยายามเกี่ยวคอพี่ป้องเอาไว้ ดึงให้เขาขยับเข้ามา แต่พี่ป้องเหมือนแกล้งอะ พี่เขาเอียงหน้าให้ปลายจมูกโด่งโดนปากของผมแทน จะพยายามเอียงตามยังไงก็ยังเบี่ยงไปมา จนปากพี่เขาโดนแค่ขอบปากของผม จนชักเคืองแล้วนะ
“พี่ป้อง จะโกรธแล้วนะ!”
ไหงผมจะโกรธ แต่พี่ป้องหัวเราะวะ อีกทั้ง...
“น่ารักจริงๆ เลย”
“เปล่า...อื้ออออออออ”
วินาทีที่จะปฏิเสธว่าไม่น่ารักแล้วโว้ย แกล้งกันอยู่นั่น พี่ป้องกลับประกบริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว ให้ผมเบิกตากว้าง สัมผัสได้ถึงรสนุ่มชื้นที่มัน...หวานจัง
วาบ
ผมไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่แค่ปากแตะปาก ก็รู้สึกถึงความหวานล้ำที่แผ่ซ่านมาที่ตัวของผม ชนิดที่ของหวานทุกชนิดบนโลกที่เคยลิ้มลองสู้ไม่ได้ มันสะท้านสะเทือนไปหมด จนต้องขยุ้มผมพี่ป้องเอาไว้ ขยับตัวนิดๆ เมื่อมันหวามในอก แต่พี่ป้องไม่หยุดแค่นั้นแล้ว พี่เขากำลัง ‘กิน’ ปากผม
“จุ๊บ...อื้อ...อ้ะ...” พี่ป้องกำลังดูดปากทั้งบนทั้งล่างของผม จนตัวผมสั่น มันไม่ใช่แค่ความเสียวซ่าน แต่มันดีกว่านั้น ลิ้นชื้นๆ ที่กำลังตวัดเลียไปทั่ว แล้วสอดเข้ามาภายใน จนผมได้รู้ว่ามีอะไรที่อร่อยและหวานกว่าขนมเค้กที่ผมโปรดปรานนักหนา
จูบพี่ป้องหวาน...หวานมากๆ
หากเปรียบเป็นขนม พี่ป้องกำลังส่งน้ำผึ้งรสเลิศเข้ามาในปากของผม จนผมต้องดูดมันหนักๆ อย่ากจะกินมากกว่านี้ และเมื่อดูด ผมก็สัมผัสถึงความนุ่มนิ่มกว่าเค้กชนิดใดบนปลายลิ้น อดไม่ได้ที่จะงับเบาๆ แล้วดูดหนักๆ ไหนจะจมูกได้กลิ่นวานิลลาหอมกรุ่นที่กำจายไปทั่วตัว
ผมกำลัง...เมาจูบ
เมาของหวานที่ชอบมากๆ นั่นแหละ
“อื้อ...อื้ม...จุ๊บ...จ๊วบ...” ผมได้ยินเสียงของเหลวในปากที่พี่ป้องกำลังป้อนให้ผมไม่หยุด มากขนาดที่มันกำลังไหลลงมาที่ขอบปาก และริมฝีปากผมก็เปียกชุ่มไปหมด ผมพยายามกลืนแล้ว แต่มันก็ยังส่งมา ไหลหยาดหยดผ่านปลายคาง และผม...ก็ไม่รู้แล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่
ผมสั่น ผมคราง ผมเสียวไปหมดทั้งตัว และพี่ป้องก็ ‘กิน’ ผมไม่หยุด
ฮวบ
ตัวมันอ่อนขนาดที่ทิ้งฮวบลงไปแล้ว ตาปรือขึ้นมองพี่ป้องช้าๆ รู้สึกเมา รู้สึกมึน แต่ก็อยากได้อีก รู้สึกอยากถูกกินไปเรื่อยๆ แต่...
“วันนี้พอแค่นี้เนอะ”
..................................
ต่อค่ะ
เฮ้ย!!!!
“มะ...ไม่เอานะ...เอาอีก...อีกนะ...” ผมอยากกินอีก อยากกินมากกว่านี้ จนผวาไปจับแขนเสื้อพี่ป้องเอาไว้แน่นร้องขอเสียงสั่นๆ แต่พี่ป้องส่ายหน้า ใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดมุมปากให้อย่างเบามือ แต่ผม...ตวัดลิ้นเลียนิ้วพี่ป้องซะเลย
“พี่...อื้อ...มากกว่านี้...นะ...นะ...” ผมจับข้อมือพี่ป้องแน่น ทั้งดูดทั้งเลียนิ้วของเขา ส่งลิ้นไปเลียที่ร่องนิ้ว แล้วกลับมาดูดนิ้วโป้งแรงๆ งับมันเบาๆ ขณะที่ส่งมืออีกข้างไปปิดเป้ากางเกง
ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้าเจอของหวานที่ใช่ ผมจะแข็งขึ้นมา และมัน...แข็งแล้ว
เจอกันที่บล็อกนะคะ
ต่อจากบล็อก
ผมจะ...ตายแล้ว
ไม่ได้ทรมานแทบตาย แต่ผม...กำลังจะตายแล้วขึ้นสวรรค์
“อร๊าง...ฮื้อ...จุ๊บ...จ๊วบ...” พี่ป้องกลับมาจูบผมอีกครั้ง จูบแล้วก็จูบ จนร่างกายละลายไปหมด ได้แต่กำขยุ้มผมพี่ป้องไว้แน่น ตอบรับเขาอย่างไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง
ผมไม่รู้หรอกว่าพี่ป้องจะอึดอีกนานแค่ไหน แต่ผมเข้าใจคำว่าไม่ใจดีเหมือนทุกทีแล้ว
พี่ป้องตอนนี้ยังกับคนละคน แต่เป็นคนละคนที่ผม...แม่งโคตรติดใจ!!!
“อีก...อีก...อีกนะ...ฮ้า...” ไม่รู้เหมือนกันว่าเสียงครางเปลี่ยนเป็นเสียงร้องขอตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผมอยากได้อีก...อยากได้
แกร๊ง
นาฬิกาบอกเลยเที่ยงคืนแล้ว ตอนที่พี่ป้องกระซิบ
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ”
ของขวัญวันเกิดที่ได้ปาติซิเย่เป็นผัวสมใจ หากแต่ไม่คาดคิดเลยว่าคนใจดีคนนั้น...จะเอาเรื่องแบบนี้
ทว่าถ้าเป็นพี่ป้องล่ะก็ เด็กกามๆ อย่างไอ้กั๊กก็ยอมพลีกายสู้ตายเหมือนกัน
ว่าแต่ พี่จะอึดอีกนานมั้ยครับ ผมจะไม่ไหวแล้วนะ อร๊างงงงงงงงงง
............................................
ครบค่ะ ก่อนอื่น เมย์ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าเมย์ควรจะอัพนิยายหรือเปล่า (โดยเฉพาะเรื่องนี้ คือลังเลนานมากจริงๆ โดยเฉพาะเนื้อหาตอนนี้ที่ค่อนข้าง อะเนอะ แหะๆ) คือก็ถามตัวเองมาหลายวันแล้วอะงับ เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าเหมาะสมหรือเปล่า ยังไง เมย์ก็ขอโทษก่อนนะคะ ถ้าหากการอัพฟิคในช่วงเวลานี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และหากนิยายที่เมย์อัพทำให้ใครสักคนสบายใจขึ้น เมย์ก็ดีใจแล้วเนอะ เราจะผ่านความเศร้าครั้งนี้ไปด้วยกัน ยังไงก็ขอโทษและขอบคุณนะคะ
สำหรับเรื่องผมหวาน เมย์ต้องขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่หนังสือไปลงงานหนังสือแล้วหมดตั้งแต่ครึ่งวัน ขอบคุณมากจริงๆ สำหรับคำถามว่าผมหวานจะมีลงงานเพิ่มมั้ย คำตอบคือไม่มีเนอะ จะมีเปิดทางเว็บวันที่ 20 นี้ ได้ของแถมครบทุกอย่างค่ะ สำหรับใครไปงานหนังสือไม่ได้กล่อง ติดต่อ B2S ได้เลยนะคะ ทางนั้นมาเอากล่องไปเพิ่มแล้ว และขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ ขอโทษที่มาขายของในช่วงเวลานี้
สำหรับเฟซเมย์
https://www.facebook.com/FictionMame12938?ref=bookmarks
และทวิตเตอร์
สำหรับเฟซ เมย์มีแอดมินตอบให้ค่ะ แต่ทวิตเตอร์จะเป็นทวิตส่วนตัว
เอาล่ะค่ะ ไปแล้ว สุดท้าย ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ทุกเม้น ทุกแรงโหวต รักซูจู รักรีดเดอร์ทุกคนค่า
ปล. เรื่องนี้รบกวนใช้แท็ก #ผมหวาน นะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่ป้องลอกคราบสักทีนะคะ สมใจยัยกั๊กเลย 555
กั๊กมีผัวแล้ว