คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : suspicious
2 วันต่อมา ชั้นพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแต่ทำไมมันดูอยากจังล่ะ ไม่เห็นตอนที่ชั้นอยู่ที่อเมริกาเลยสักนิด หรือเป็นเพราะลูซิเฟอร์คอยช่วยชั้นนะ พูดถึงลูซิเฟอร์ชั้นอยากรู้จังว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไงบ้างแต่ช่างเถอะ ไม่มีเขาชั้นก็ทำได้
“เพชรเดินเร็วหน่อยสิ เหม่อลอยไปไหนเนี่ย” คิมตะโกนเรียกทำให้ความคิดของชั้นหยุดเพียงเท่านั้น
“มาแล้ว!!” ชั้นรีบวิ่งเดินตามเพื่อนๆไป เนื่องจากเรากำลังไปเรียนวิชาพละกัน ระหว่างที่รอครูพวกผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะเล่นบาสบ้าง บางกลุ่มก็เล่นบอล ส่วนพวกผู้หญิงก็นั่งคุยเรื่องดารา ทรงผม นินทา ไปเรื่อยเปื่อยซึ่งรวมถึงกลุ่มชั้นด้วย
“..จากนั้นพวกนั้นก็เลี้ยงข้าวเรา ตอนนั้นทั้งอิ่มทั้งอร่อยมากเลยแหละ เสียดายที่ไอ้เพชรมันไม่ว่าง” แพมกับคิมกำลังคุยเรื่องที่ชั้นชนะงัดข้อพวกไอ้บอลเมื่อวันก่อนให้เพื่อนๆฟัง
“ว่าแต่..แกไปทำอะไรมาอ่ะเพชร มีเคล็ดลับอะไรอ่ะ งัดข้อชนะพวกนั้นได้แบบสบายๆ” คิมถาม
“พูดไปพวกเธอคงจะเชื่อชั้นหรอก ชั้นไปฟิตออกกำลังกายมาน่ะ” ก็ชั้นเคยลองพูดกับพวกนี้แล้วว่าถ้าชั้นเป็นแวมไพร์จะเป็นยังไงแต่พวกนี้ก็ไม่เชื่อ ชั้นเลยเลือกที่จะไม่บอกใคร
“นี่ๆ..ชั้นมีเรื่องไรจะเล่าให้ฟัง...บลาๆๆ..” เพื่อนคนนึงกำลังเล่าอะไรให้เราฟังอยู่ แต่แพมก็ตะโกนขึ้นมาว่า
“พุ่งมาแล้ว!!!”
“เห้ย ระวัง!!!!”
หมับ!!! ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก มีลูกบอลกำลังพุ่งเข้ามาที่เรา ถ้าชั้นรับไว้ไม่ทัน ลูกบอลนี่คงพุ่งเข้าหัวชั้นอย่างแรงแต่ปัญหาก็คือ ชั้นแรงเยอะเกินไปทำให้ลูกบอลที่ชั้นคว้าได้อยู่ที่มือนั้นบุบไปข้างนึกตามแรงจับของชั้น ชั้นได้ยินเสียงลมที่กำลังรั่วไหลจากมาจากบอลด้วย
“เห้ย!แกจับแรงไปเปล่าเนี่ย” ไอ้บอลที่รีบวิ่งเข้ามาดูลูกบอลของตัวเอง
“เห้ย บุบเลยหรอเนี่ย” เพื่อนที่เตะฟุตบอลตอนนี้เริ่มวิ่งมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ
“ก็มันจะโดนหัวชั้นนี่ ชั้นก็ต้องป้องกันตัวไว้ก่อน” ชั้นพยายามาหาข้ออ้าง
“ด้วยการทำลายลูกบอลชั้นงั้นสิ”
“นายเติมลมดีรึยังเถอะ” ชั้นบอกปัดๆไป หวังให้เรื่องมันจบจากนั้นก็รีบเร่งให้คิมกับแพมรีบเดินออกไปจากตรงนี้เร็วๆ
“บ้าน่า..เมื่อกี้เล่น ลูกยังแข็งอยู่เลย อยู่ดีๆลมจะมาอ่อนและบุบอย่างนี้ได้ไง” ไม่พูดเปล่าไอ้บอลมันวิ่งมาคว้าข้อมือชั้นไว้และบีบข้อมือชั้นอย่างแรง
“เธอเอาอะไรมาเจาะลูกบาสชั้น” ปกติถ้าเป็นชั้นคนเดิมก็คงจะโวยวายหรือไม่ก็ขำแก้ต่างที่ตัวเองทำแต่ตอนนี้คนนั้นไม่มีอีกแล้ว
“ชั้นไม่ได้เจาะอะไรทั้งนั้นแหละ” ด้วยความที่ชั้นกลัวว่าความลับจะแตก ถ้าชั้นจะสะกดจิตใครอีกสักคนก็คงไม่เป็นไรหรอกเนอะ
“ลูกบอลของนายมันไม่ดีเองตังหากไม่ใช่ความผิดชั้น”
“ลูกบอลของชั้นมันไม่ดีเอง ไม่ใช่ความผิดเธอ”
“เยี่ยม!งั้นชั้นไปก่อนนะ” จากนั้นชั้นก็รีบเดินออกไปพร้อมกับเพื่อนๆ แต่ไม่ว่าชั้นจะไปไกลแค่ไหนชั้นก็ได้ยินเสียงพวกนั้นคุยกันอยู่ดี
“เห้ย บอลแต่นายพึ่งจะซื้อมาไม่นานนี้เองไม่ใช่หรอ มันจะไม่ดีได้ยังไงล่ะ” ชินพูด
“ลูกบอลของชั้นไม่ดีตังหาก ไม่ใช่ความผิดเพชรหรอก” บอลพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเหมือนกับการสะกดจิตเลย
“ทำไมยัยนั่นถึงได้แรงเยอะขนาดนั้นนะ” ชินพูดออกมา
หึ่ย!ถ้าเกิดพวกนั้นรู้ความจริงล่ะว่าชั้นเป็นอะไรชั้นจะทำยังไงดี ...แต่พวกเขาคงคิดไม่ถึงหรอกมั้งว่าจะมีแวมไพร์อยู่ที่มืองไทยจริงๆน่ะ
“ห้าววว!!” เสียงหาวของเด็กนักเรียนหลังจากที่พึ่งจะขึ้นมาจากการเรียนพละเสร็จ แล้วต้องมาเรียนวิชาประวัติศาสตร์ต่อซึ่งมีครูคนใหม่มาสอน เห็นบอกกันว่าครูคนนี้จบมาจากเมืองนอกโดยตรงรู้เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกือบทุกอย่างไม่ใช่แค่ไทยแต่รวมถึงทั่วโลก
“เอาล่ะ..งั้นเริ่มเรียนกันเลย..เปิดหนังสือหน้า154”
“เริ่มที่ประวัติศาสตร์ของอเมริกาเหนือละกันนะ”ครูก็อธิบายไปเรื่อยๆถึงเหตุกาณ์สำคัญต่างๆ และเรื่องลี้ลับปริศนาและเรื่องแปลกประหลาดที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ในเมืองแห่งหนึ่งที่อเมริกาซึ่งเมืองนั้นคือเมืองที่ชั้นเคยไปเรียนแลกปลี่ยน
“จากที่ครูเล่ามาอาจจะเป็นแวมไพร์ก็ได้นะครับ”
“ครูค่ะ แวมไพร์มีจริงมั้ย” เมย็ถาม
“ครูก็ไม่แน่ใจ”
“ครูเคยเจอมั้ย”
“เล่าให้ฟังหน่อย”
“ครูก็ไม่แน่ใจ เพื่อนครูที่เมืองนอกบอกเคยเจอพวกนี้มักจะรวมตัวอยู่กับพวกเรา แข็งแรงพละกำลังเยอะ ว่องไววิ่งเร็ว และที่สำคัญมันสะกดจิตเราได้อย่าพยายามสบตามัน”
“แล้วเราจะรู้ได้ไงค่ะว่าใครเป็นแวมไพร์”
“มันกลัวแสงแดดใช่มั้ยค่ะครู”
“ครูค่ะเพื่อนครูเป็นแวมไพร์หรือเปล่า”
“ตอนนี้เพื่อนครูเขาเสียแล้ว โดยไม่มีสาเหตุ” สิ้นเสียงคุณครูทำให้ทุกคนเงียบกริบ
“บางทีพวกนี้อาจจะมีอยู่จริง ถ้าครูเจอครูพร้อมที่จะเอาลิ่มตอกหัวใจพวกมันทันที”
“ครูไม่กลัวหรอค่ะ”
กริ้ง!!!!!!!! แล้วในที่สุดก็หมดเวลาคาบเรียนนี้ที่ครูเอาแต่พูดถึงแวมไพร์
“เจอกันอาทิตย์หน้าทุกคน” หลังจากที่ครูออกไปนักเรียนส่วนใหญ่ก็จะอออกไปหาอะไรกินข้างล่าง บ้างนั่งทำการบ้าน สำหรับเรานั่งคุยกัน
“แวมไพร์มันมีจริงมั้ย”
“ถ้าชั้นบอกว่าชั้นเป็นแวมไพร์ล่ะ”ชั้นพูดขึ้นอีกครัง้เพื่อว่าคราวนี้พวกนี้จะเชื่อบ้าง
“งั้นชั้นขอเป็นหมาป่า” แพมพูดขึ้น
“ชั้นพูดจริงนะ เธอไม่เห็นหรอทำไมลูกบาสนั่นถึงยุบทั้งๆที่มันมีลม” ชั้นพยายามให้เหตุผล
“ใช่ๆ เธอคือแวมไพร์ชั้นเชื่อถือ ชั้นจะบอกความลับให้..ชั้นนี่แหละมนุษย์หมาป่า”
“เห้อ!!” ชั้นถอนหายใจออกมา เมื่อสิ่งที่ชั้นพยายามจะบอกยัยสองคนนี่แต่พวกนั้นกลับไม่เชื่อแล้วจะทำยังไงได้ล่ะชั้นคงต้องเก็บความลับนี้อยู่คนเดียวทั้งๆที่ชั้นอยากจะระบายอยากจะพูดให้ใครสักคนฟัง...แค่ใครสักคน
ความคิดเห็น