Echo of the Sky
The Last Raptor
ผู้เข้าชมรวม
72
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
F-22 แร็พเตอร์ บล็อค 40/45
ฉายา The Last Raptor
ประเภท: เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 (Air Superiority Fighter)
ผู้พัฒนา: ล็อกฮีด มาร์ติน, โบอิ้ง ,แพรตต์แอนด์วิตนีย์ (เฉพาะเครื่องยนต์)
เข้าประจำการ: 2005 (กองทัพอากาศสหรัฐ)
จำนวนการผลิต: 195 ลำ (รวมต้นแบบ)
จำนวนปัจจุบัน: 1 ลำ (กองทัพอากาศสหประชาชาติ)
สถานที่ประจำการ: ฐานทัพอากาศไมนอต์ รัฐนอร์ทดาโคตา เขตปกครองตนเองพิเศษสหรัฐอเมริกา ภายใต้สหประชาชาติ
สมรรถนะหลัก
ความเร็วสูงสุด: มัค 2.25 (~2,410 กม./ชม.)
ซุปเปอร์ครูซ: มัค 1.82 (บินเร็วเหนือเสียงโดยไม่ใช้สันดาปท้าย)
เพดานบินสูงสุด: 20,000 ม.
รัศมีปฏิบัติการ: ~760–1,600 กม.
ระบบล่องหน (Stealth): ลดการสะท้อนเรดาร์
ระบบสร้างกระสุนและมิสไซล์จากอากาศในตัว (เทคโนโลยีของแอสทรัล รีปเปอร์ส): ด้วยที่เป็นเทคโนโลยียุคแรกๆ ทำให้ต้องใช้เวลาหลักชั่วโมงในการสร้างมิสไซล์ (ไม่สามารถอัพเกรดได้เพราะตัวเครื่องเก่าเกินไปและระบบ ซินเท็กซ์ ที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ได้)
อาวุธประจำเครื่อง
ปืน: M61A2 Vulcan (20 มม.) เคยมีแผนเปลี่ยนเป็นระบบเลเซอร์แต่ก็ใช้พลังงานเยอะเกินไปเลยยกเลิก
ขีปนาวุธ: AIM-120D AMRAAM, AIM-9X Sidewinder เคยมีแผนจะเปลี่ยนแต่ระบบผลิตอาวุธไม่สามารถสร้างได้
ระเบิดนำวิถี: ̶J̶D̶A̶M̶,̶ ̶S̶D̶B̶ ̶(̶G̶B̶U̶-̶3̶9̶)̶ ถูกยกเลิกการติดตั้งระบบสร้างอาวุธไม่สามารถผลิตได้
จุดเด่น
ความเร็วสูงและคล่องตัวมาก
บินล่องหนต่อเรดาร์
ระบบอิเล็กทรอนิกส์และเรดาร์เคยล้ำสมัย
ยิงเป้าหมายได้ก่อนถูกตรวจพบ
AI อัจฉริยะที่สามารถโจมตีและต่อสู้ได้สูง
ระบบสร้างอาวุธเองในตัว
เครื่องยังคงต้องการสนามบิน เพราะต้องให้ตัว AI พักและตรวจสภาพเครื่องอยู่
ข้อมูลโลกที่กำลังจะเคยอยู่
⦿ 2029: การมาถึงของ “แอสทรัล รีปเปอร์ส”
ในเดือนมิถุนายน ปี 2029 โลกได้พบกับปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ตลอดกาล น่านฟ้าของทุกประเทศเต็มไปด้วยยานบินที่ไม่มีสัญญาณใดๆ แจ้งเตือนล่วงหน้า พวกมันปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันทั่วโลก คล้ายกับว่า “โผล่ออกมาจากที่ว่างเปล่า”
ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก มนุษย์พยายามติดต่ออย่างสันติ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ
สหรัฐฯ, จีน, รัสเซีย, และ EU ต่างส่งเครื่องบินรบขึ้นตรวจสอบ แต่ไม่อนุญาตให้โจมตี
⦿ 2030: การทำสงครามระลอกแรก
เมื่อประเทศมหาอำนาจเริ่มยิงเตือน รีปเปอร์ส ก็แสดงตัวตนที่แท้จริง พวกมันเปิดฉากโจมตีฐานทัพสำคัญทั่วโลก ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน เมืองหลวงหลายแห่งถูกทำลาย
คลื่นแรกของการรุกราน เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ พวกมันเน้นทำลายศูนย์บัญชาการทางทหารและเครือข่ายสื่อสาร
น่านฟ้าถูกยึดครอง มนุษย์พยายามส่งเครื่องบินรบและขีปนาวุธเข้าโจมตี แต่มันเยอะเกินไป
เครื่องบินยุค 5-6 พอจะรับมือได้ แต่ด้วยจำนวนที่น้อยกว่ารีปเปอร์สมาก มันจึงเป็นสงครามที่มนุษย์ “ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด”
⦿ 2032: จุดเปลี่ยนของสงคราม
หลังจากเสียท่าไปถึง 3 ปี มนุษย์ค้นพบจุดอ่อนของพวกมัน
ยานบินของรีปเปอร์ส "ไม่ได้มีความคล่องตัวสูง" มันพึ่งพาการยิงจากระยะไกลและการป้องกันอัตโนมัติ และต้องมียานที่ทำหน้าที่ควบคุม เพื่อให้มันทำงานได้ดี
เครื่องบินที่คล่องตัว เช่น F-22, Su-57, J-20 สามารถ "หลบ" การยิงของพวกมันได้หากมีฝีมือมากพอ
เทคโนโลยีใหม่อย่าง Railgun และ Drone AI เริ่มถูกพัฒนาเพื่อใช้ตอบโต้
⦿ 2035-2039: การโต้กลับของมนุษย์
สงครามเข้าสู่ช่วงสุดท้ายเมื่อมนุษย์สามารถพัฒนาระบบอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
⦿ 2039: ชัยชนะที่แลกมาด้วยทุกสิ่ง
ในที่สุด มนุษย์สามารถขับไล่พวกมันออกไปได้ แต่ต้องสูญเสียมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลก
มหานครหลายแห่งกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง
กองทัพอากาศของโลกแทบไม่เหลืออะไรอยู่เลย
ถึงแม้สงครามจะจบลง แต่มนุษย์ "ยังไม่ชนะอย่างแท้จริง" หลายคนเชื่อว่า แอสทรัล รีปเปอร์ส "จะกลับมาอีก" และโลกอาจไม่โชคดีเช่นนี้อีกครั้ง…
ข้อมูลต่างโลก
มีสามทวีป 21 ประเทศ
รีปเปอร์สกำลังโจมตีอยู่ แต่ไม่ได้รุนแรงมากถือว่าค่อนข้างเบา
ระดับเทคโนโลยี สงครามเย็น
ข้อมูลตัวละครแร็ตเตอร์
เป็นผู้หญิงสูง 166 มีตาสีเหลืองส้ม มีผมสีเงินมัคหางม้าสูง
สวมชุดสูทสีเทาเข้ม ทับเสื้อเชิ้ตขาว ใส่ถุงน่องสีเทาเข้มยาวถึงต้นขา
เธอมีเรื่องกระทบจิตใจอยู่เยอะ ทั้งเครื่องในตระกูลแรตเตอร์ของเธอที่ถูกทำลายในช่วงสงครามไปแทบทั้งหมดจนเหลือเธอลำเดียว เธอเคยมีเพื่อนสนิทชื่อฟอลคอนและอีกหลายลำ แต่ก็ตกไปหมดแล้ว จะเหลือไลท์นิงแต่ก็ไม่ค่อยสนใจเธอและโทษเธอเรื่องที่ไม่สามารถช่วยฮอร์เน็ตได้
เธอมักจะโทษตัวเอง มีนิสัยเก็บตัวและไม่ชอบเข้าสังคม เมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นแบบนี้แต่เพราะการสูญเสียที่มากเกินไป ทำให้เธอเป็น
ผลงานอื่นๆ ของ ปลานกกระจอก ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ปลานกกระจอก
ความคิดเห็น