คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 4 สิ้นสุดอาทิตย์แรก การเริ่มต้นเรื่องราวบทใหม่
IV
สิ้นสุดอาทิตย์แรก
การเริ่มต้นเรื่องราวบทใหม่
แท้น แท้ แท้ แท่ แท แท้น แท แท้...!!
“ว่าไง?” คลาวด์ที่เดินเอารถของตนที่โรงเก็บรถโรงเรียน ล้องเอามือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนยกขึ้นมากดรับสาย
“เฮ้คลาวด์! วันนี้เจซซี่เจอทางเข้าโรงไฟฟ้าใหม่ที่พวกเดอะ เทริคซ์ มันใช้เป็นที่มั่นด้วย! พวกเราเข้าไปลุยกับพวกมันคืนนี้เลยตกลงมั้ย!?” เสียงของชายร่างยักษ์ดังออกมาจากปลายสาย
“ไม่สนใจ...” คลาวด์ว่าจบคลาวด์ก็กดวางสายลงไปอย่างไม่ใยดี ก่อนกดปิดเครื่องแล้วเก็บมือถือลงกระเป๋าไปเหมือนเดิม ‘วันนี้ไม่มีอารมณ์...’
หลังถอนหายใจอย่างหน่ายๆ คลาวด์ก็เดินตรงไปยังมอเตอร์ไซด์ของเขาที่จอดอยู่คันเดียวตรงมุมซึ่งไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมาจอดใกล้ๆ
“หื~อ?” สายตาแสนเย็นชาหันไปสะดุดเข้าบางอย่างที่แปลกไป ‘อะไรนี่?’
ที่มุมจุดที่เขาจอดมอเตอร์ไซด์ไว้ประจำ ปรากฏเป็นประตูประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ประตูเหล็กกล้าดีไซน์แบบโบราณซึ่งอยู่ตรงกำแพงหน้ามอเตอร์ไซด์เขาพอดี
‘เอ... จำไม่ได้ว่ามีอะไรแบบนี้อยู่ตรงนี้นี่น่า...’ คลาวด์คิดในใจ ก่อนหันมาเลื่อนมอเตอร์ไซด์ออกเพื่อเดินเข้าไปดูประตูนั่นใกล้ๆ แต่แล้ว
วื~ด!
“หื~ม?” คลาวด์อุทานออกมาเบาๆ เมื่อประตูเหล็กด้านหน้าตนจู่ๆ ก็เปิดขึ้นมาโดยที่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ‘เหมือนจะเป็นทางเข้าอะไรซักอย่าง...’
ขณะยืนพูดกับตัวเองในใจ พลางจับตาเข้าไปในประตูนั่นเพื่อมีอะไรโพล่ออกมาพักหนึ่ง เมื่อไม่เห็นว่ามีอะไร เจ้าตัวก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปสำรวจในห้องทันที
วื~ด!
“หื~ม?” ทันทีที่ก้าวเข้ามาในประตูห้องประตูด้านหลังเขาก็ปิดลงทันที ‘ประตูอัตโนมัติงั้นเหรอ?’
คลาวด์ไม่คิดเปล่าลองเดินเข้าไปยืนหน้าปนะตูทดสอบดู แต่ผลปรากฏว่า ประตูไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด ทำเอาคลาวด์ข้องใจขึ้นมาทันที
‘เป็นแบบนี่... แสดงว่าต้องมีใครปิดประตูตอนเรา เข้ามาแน่ๆ...’ คลาวด์คิด
วิ้~ง!
ขณะคิดประมวลเหตุการณ์อยู่นั่นเอง จู่ๆ ก็ปรากฏแสงสว่างสีชมพูขึ้นจากทางด้านหลังเขา ทำให้คลาวด์รีบหันกลับมาดูแต่ยังไม่ทันที่ตาจะปรับโฟกัสภาพตรงหน้าแสงสว่างนั่นก็เปล่งแสงจ้าครอบคลุมไปทั้งห้องทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้
‘สังหรณ์ใจไม่ดีซะแล้วสิ...’ คลาวด์คิดในใจขณะเอาแขนขวาขึ้นบังตา
“ระ... รุ่นพี่... คลาวด์...”
“หื~อ?” เสียงหวานใสอันแผ่วเบาเอ่ยเรียกชื่อคลาวด์ทำให้เจ้าตัวถึงกับแปลกใจ ก่อนตัดสินใจเอาแขนลงแล้วมองจ้องเข้าไปในแสงนั่น
ภาพเบื้องหน้าเขา เงาบางๆ มีรูปร่างคลายร่างกายของเด็กสาว ผมยาวเป็นลอนที่ถูกรวบไว้ค่อยๆ สยายออก ดวงตาที่ดูกลมโตในตอนแรกค่อยเปลี่ยนรูปกลายเป็นดวงตาคมกริบพร้อมด้วยแสงสีขาวที่แผ่พุ่งออกมา อีกทั้งแรงดันของพลังประหลาดในรูปของรังสีออร่าที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
วา~บ
เมื่อแสงเริ่มจากลง พร้อมกับตาสีฟ้าสวยของคลาวด์ค่อยๆ ปรับตามมา และ ทันทีที่สายตาของเขากลับมาเป็นปกติ ตาทั้งข้างก็เบิกขึ้นเมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเงาบางๆ ภาพใต้แสงนั่น
คลาวด์ยืนนิ่งขณะจ้องมองไปที่เอสเปอร์สาวตรงหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ ในชีวิตที่ผ่านมา ที่ถึงแม้จะยังไม่ถึงหนึ่งส่วนสี่ของเวลาชีวิต แต่เขาก็ได้เห็นอะไรมาเยอะกว่าคนทั่วไป แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่นี้เป็นสิ่งที่พูดออกมาได้เลยว่าไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าจะได้เจอ นี่คืออะไร... สิ่งที่น่าหวาดกลัวขนาดทำให้คนด้านชาอย่าเขารู้สึกกดดัน แต่กลับเต็มไปด้วยความงดงามจนบรรยายอออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เบื้องหน้าเขาคืออะไรกัน... แล้วสิ่งนี้มาปรากฏตรงนี้ได้อย่างไร…
‘เอ๋~? เดี๋ยวก่อนนะ...’ คลาวด์ที่รู้สึกเอะใจอะไรบางอย่างเพ่งสายตามองไปที่หน้าของเอสเปอร์สาว พร้อมวิเคราะห์ประมวลข้อมูลในหัว และแล้ว คำตอบที่ได้มานั่นทำให้เขาถึงกับเอ่ยชื่อเจ้าของร่างนั่นออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ ‘ทีน่าเหรอ...?’
เขาจำได้... เขาจำใบหน้าหวานๆ ของเด็กสาวที่เขาคอยช่วยเหลือได้ ถึงแม้ทรงผมจะเปลี่ยนไป ดวงตาแปลี่ยนรูปทรง และทุกส่วนของร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูที่เปล่งประกายราวอัญมณี จนดูแทบไม่เหมือนมนุษย์ แต่เขาก็ยังจำใบหน้าของเธอได้ ใบหน้าที่เคยส่งยิ้มให้เขา... ใบหน้าที่เขาเคยเช็ดน้ำตาให้... ใบหน้าที่ทำท่าลำบากใจเวลาที่เขาถามถึงเรื่องของเธอ... ใบหน้า... ที่เขาเห็นภาพซ้อน... ของคนๆ นั่น...
‘ทีน่าไม่ผิดแน่ๆ...’ คลาวด์คิดขณะยังคงจ้องมองไปที่ทีน่าซึ่งกลายเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ซึ่งกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศห่างจากเขาไปไม่กี่เมตร ‘หรือว่า…!? นี่จะเป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าบอก...’
ยังไม่ทันที่การคิดตริตรองสถานการณ์ของคลาวด์จะสัมฤทธิ์ผล ทีน่าเอสเปอร์ที่กลายร่างเสร็จสมบูรณ์ และ ยึดครองสติของทีน่าไว้ก็ดูเหมือนจะเริ่มอาลาวาทอีกครั้ง
“...” คลาวด์ที่ผละตัวเองออกมาจากโลกแห่งความคิดกลับมาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน จับตามองทีน่าเอสเปอร์ที่ค่อยๆ ลอยลงมาเอาเท้าของตนแตะพื้น ก่อนหยุดค้างไว้พร้อมกับยกมือขึ้นมาเบื้องหน้าของเธอ และแล้ว
ฟึบ!
“ฮะ!” คลาวด์ที่ถูกคลื่นพลังจิตจากมือทีน่า เหมือนกับที่ออนเนี่ยนโดนจนกระเด็นไปชนผนัง แต่ด้วยร่างกายสูงใหญ่ซึ่งถูกฝึกมาเป็นอย่างดีทำให้เขาถูกซัดถอยหลังมาเพียงแค่ 3-4 ก้าว ก่อนยืนรักษาสมดุลต้านแรงนั่นไว้แล้วใช้แขนบางๆ ที่เต็มไปด้วยพลังอันมหาศาลของเขาปัดเบี่ยงทิศทางของคลื่นพลังนั่นไปอีกทาง
โคร~ม!
ทีน่าเอสเปอร์หันไปมองตามคลื่นพลังของตนที่ถูกคลาวด์เปลี่ยนเป้าหมายจากตัวเขาพุ่งตรงไปยังกล่องไม้ และ ลังเก่าอีกทางหนึ่งด้วยความแปลกใจ ก่อนหันกลับมามองที่บุรุษเบื้องหน้าพร้อมยกมือขึ้นปล่อยพลังของตนใส่เป็นชุดใหญ่
“ฮึบ!” คลาวด์กระโดดหลบไปอีกทางก่อนม้วนตัวลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วรีบก้าวเท้าออกวิ่งเป็นวงกลมรอบตัวทีน่าเอสเปอร์ที่ยังคงส่งห่าคลื่นพลังมาโจมตีเขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
‘ไม่ได้การแล้ว... ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายคือทีน่าก็เถอะ แต่ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็คงต้องลงมือสู้ด้วยแล้วล่ะ...’ คลาวด์ตัดสินในกับตัวเองก่อนเริ่มมองหาอะไรบางอย่างในขณะที่ล้วงมือซ้ายหาดูว่าพอจะมีอะไรที่ใช้การได้บ้างในกระเป๋าเสื้อ และ กางเกง ‘ฟิวชั่นซอร์ดอยู่ในรถ... ตอนนี้คงต้องหาอะไรแทนก่อนแล้ว...’
ฟรึ~บ!
“ฮึบ!” คลาวด์กระโดดตีลังกากลับหลังก่อนลงมานอนหมอบตรงพื้น หลบคลื่นพลังทางยาวที่ฟาดดักมาจากทางด้านหน้าตน ทันทีที่รู้สึกถึงจังหวะการขยับตัวที่แปลกไปของคู่ต่อสู้ด้วยความเจนสังเวียนการต่อสู้ ก่อนม้วนหลังกลับมายืนแล้วออกวิ่งหลบเข้าไปหลบหลังกล่องเหล็กโกโรโกโสสุดแสนจะเก่าที่วางซ้อนกันอยู่ตรงมุมห้อง
ฟรึ~บ! ครืน! ฟรึ~บ! ครืน! ฟรึ~บ! ครืน!
เอสเปอร์ทีน่าที่เห็นเป้าหมายของตนหายไปอยู่หลังที่กำบัง ก็ไม่รอช้าใช้คลื่นพลังแบบแส้นั่นเข้าฟาดใส่กล่องเหล็กเหล่านั่นอย่างบ้าระห่ำ ด้วยความเก่า และ สภาพแสนเสื่อมทำให้กล่องเหล็กที่ควรจะแข็งแรง และ ทนทาน ค่อยๆ แตกออกทีละนิด ซึ่งดูท่าทีน่าเอสเปอร์จะดูออก จึงฟาดพลังต่อไปเรื่อยๆ จนกว่ากล่องเหล็กโกโรโกโสเหล่านั่นจะแหลกสลายไป และ เผยให้เห็นเป้าหมายของตน
ฟรึ~บ! โครม~!
‘มีแค่มาเทอเรีย โบลท์ กับ ไอซ์ และก็... ไอ้นี่เองเหรอ?’ คลาวด์พูดกับตัวเอง ขณะจ้องมองไปที่ลูกแก้วสีเขียวแบบของเซฟ 2 ลูกในมือซ้ายซึ่งล้วงออกมาจากกระเป๋า และ ไม้เบสบอลที่มีตะปูตอกไว้เต็มหัวไม้ที่เขาหยิบขึ้นมาจากข้างๆ ตัว ซึ่งวางพิงไว้ที่หลังกล่องเหล็กที่เขาวิ่งเข้ามาใช้เป็นที่กำบัง (มาได้ไง?) แต่ขณะที่กำลังเตรียมพร้อม หน้าของทีน่าก็ปรากฏขึ้นในหัวทำให้คลาวด์มองอาวุธในมือตนอย่างลังเล ก่อนโยนไม้เบสบอลสุดสยองทิ้งนั่นไป แล้วหยิบไม้หน้าสามข้างๆ กันมาแทน (มีสำรองด้วย?) พลางบ่นกับตัวเองในใจ ‘ขืนเอาไอ้นั่นฟาดไปจริงๆ นิยายเรื่องนี้ติดเรทแน่...’ (ก็จริงนะ...)
ครื~น...!
คลาวด์เหลือบตาขึ้นไปมองกล่องเหล็กบนที่อยู่เหนือหัวตนที่แหลกสลายไปด้วยคลื่นพลังของทีน่า ตอนนี้ที่กำบังของเขาเหลือเพียงแค่กล่องที่เขาพิงหลังอย่เท่านั้น ดูท่าเขาต้องออกลุยซะแล้ว
ฟรึ~บ! ครืน! ฟรึ~บ! ครืน! ฟรึ~บ! ครืน!
คลาวด์หยิบเอาถุงมือ และ ปลอกแขนเหล็กมาสวมไว้ที่มือทั้ง 2 ข้าง ก่อนจับลูกแก้วมาเทอเรียกดใส่ปลอกแขนทำให้มาเทอเรียทั้ง 2 ลูกส่องแสงออกมาแวบหนึ่งก่อนจมเข้าไปฝั่งอยู่ในปลอกแขน แล้วจึงกระชับไม้หน้าสามในมือขวาเตรียมพร้อมรอจังหวะจู่โจม
ครื~น...! โคร~ม!
“โบลท์…” ทันทีที่กล่องใบสุดท้ายถูกทลายลง คลาวด์ก็ลุกขึ้นยืนก่อนปล่อยลำแสงสีน้ำเงินออกจากมือซ้ายขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศเหนือหัวห่างจากทีน่าไม่ไกลนัก ทำเอาเอสเปอร์ทีน่าหยุดการโจมตีลงก่อนเงยหน้าขึ้นไปมองที่ลำแสงนั่น ทันใดนั่นลำแสงที่ลอยอยู่ตรงหน้าเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้า พุ่งลงมาหาเธอ
เปรี้ย~ง! วิ้~ง!
ชั่วพริบตาที่สายฟ้าฟาดลงมา เอสเปอร์ทีน่าก็สร้างม่านพลังขึ้นมาป้องกันโดยฉับพลันทำให้สายฟ้ากระเด็นขึ้นไปปะทะกับเพดาน ก่อนสลายไป
“ไอซ์...” ขณะทีน่าเอสเปอร์สนใจอยู่ที่สายฟ้าที่ตนปัดขึ้นไปข้างบน คลาวด์ก็ปล่อยลำแสงสีฟ้าลงไปที่เท้าของทีน่า ทันทีที่แสงนั่นสัมผัสกับพื้น ก็เกิดน้ำแข็งปรากฏขึ้นมาเกาะกุมขาทีน่าไว้ทำให้เจ้าตัวขยับไม่ได้ เมื่อเห็นอย่างนั้น เธอจึงพยายามซัดลูกพลังใส่ก้อนน้ำแข็งนั่นให้ตนหลุดออกจากพันธนาการ จนเกิดช่องโหว่ขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้ดีว่าคลาวด์ไม่ยอมปล่อยโอกาศที่ตนสร้างขึ้นมานี้ให้หลุดมือ
“...” คลาวด์วิ่งเข้ามาหาทีน่าเอสเปอร์สุดฝีเท้า ไม้หน้าสามเงื้อขึ้นเตรียมจู่โจม สายตาคมกริบเล็งไปที่ต้นคอหมายตีให้เป้าหมายหมดสติ เมื่อถึงระยะลงมือ เจ้าตัวก็เหวี่ยงไม้ลงจากมุมสุดขวามือเฉียงลงมามุมด้านซ้าย ก่อนยกไม้ขึ้นไปสุดมุมซ้ายแล้วฟาดลงมาที่สุดมุมขวาเป็นรูปกากบาก ด้วยความเร็วเหนือมมนุษย์ ก่อนพุ่งตัวผ่านทีน่าไปยืนอยู่ด้านหลังเธอ พร้อมเอ่ยชื่อเพลงดาบของตนเบาๆ “ครอส แสลช...”
บรรยากาศรอบๆ เงียบลงไปทันตา ราวกับเวลาถูกหยุดลง ทั้งคลาวด์ และ ทีน่าต่างก็หยุดนิ่งไม่ขยับเขยือน เหมือนรอคอยอะไรบางอย่าง และแล้ว
เปรี๊ย~ง! ก็อก!
“หึ…” คลาวด์สบทเบาๆ ขณะมองดูไม้หน้าสามในมือตนหักลงไปต่อหน้าต่อตา ก่อนหันไปมองบาเรียม่านพลังที่ทีน่าสร้างขึ้นปกป้องตัวเองจากเพลงดาบของเขา
ซูม!
“ฮะ!” เช่นเดียวกับตอนที่สู้กับออนเนี่ยน ทีน่าเอสเปอร์คิดจะปิดบัญชีคลาวด์ด้วยบาเรียที่พุ่งเข้าซัดตัวเขากระเด็นไปอัดกำแพง แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั่นเสมอไป ด้วยร่างกายที่ถึงแม้จะไม่คล่องแคลวว่องไว และ พลิกแผลงไม่ได้อย่างออนเนี่ยน แต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้หุ่นเพรียวๆ ราวหนุ่มไอดอล ทำให้คลาวด์ สามารถต้านพลังของทีน่าเอสเปอร์ไว้ได้... แต่คงได้อีกไม่นานนัก
‘เอาไงล่ะทีนี้...’ คลาวด์คิดในใจขณะที่โดนบาเรียของทีน่าดันเข้าไปใกล้กำแพงด้านหลังตนเรื่อยๆ เรื่อยๆ
ซูม...!
“หึ!” คลาวด์สถบอีกครั้งก่อนหันมองเท้าด้านหลังของตนที่ตอนนี้ถูกดันมาจนเหลือระยะหาอีกแค่ไม่กี่เมตรก่อนสัมผัสกำแพง คลาวด์เข้าตาจนซะแล้ว สงสัยเขาคงต้องเสียทีให้เอสเปอร์สาวตรงหน้าซะแล้ว แต่ดูเหมือนว่าโชคยังเข้าข้างเขาอยู่ “หื~ม?”
คลาวด์มองไปยังไม้เบสบอลที่มีตะปูตอกไว้เต็มหัวที่เขาโยนทิ้งไปเหมือนครู่ ซึ่งตอนนี้โผล่มาอยู่ใกล้ๆ กับขาของเขาพอดี แม้เขาจะไม่อยากใช้มันสักเท่าไหร่ แต่ก็คงไม่มีทางเลือก คลาวดใช้แขนซ้ายต้านบาเรียของทีน่าเอสเปอร์ไว้ ก่อนย่อตัวลงเก็บไม้สยองนั่นขึ้นมากระชับให้อยู่มือ เตรียมพร้อมทลายบาเรียอของเธอ
ฉึบ!
“คลิมฮัสซาร์ด...” คลาวด์กระโดดถอยหลังไปจนสุดกำแพงตั้งท่าเตรียมพร้อม ทันทีที่บาเรียตามมาถึงระยะโจมตี เขาก็เหวี่ยงไม้เบสบอลจากด้านล่างเข้าใส่บาเรียนั่นอย่างแรงจนเกินเป็นรอยราวที่ดูเหมือนอากาศธาตุเบื้องหน้ากำลังแตกออก ก่อนหัวไม้จะทะลุเข้าไปข้างใน เท่านั่นไม่พอ คลาวด์ย่อตัวลง ก่อนกระโดดสุดขาลากเอาไม้เบสบอลสุดสยองนั่งทลายบาเรียรองทีน่าไปเป็นทางยาว ทำให้บาเรียที่เต็มไปด้วยพลังประหลาดของเธอสลายไปในทันที
คลิ้~ง! เพล้~ง!
“อ้~า...!” เมื่อบาเรียถูกทำลายลง ทีน่าเอสเปอร์ก็ยกมือทั้ง 2 ข้างไขว่กันก่อนจับที่หัวไหล่ทั้งร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ราวกับโดนฟาดเข้าเอง... หรือจะเป็นเพราะพลังที่สลายไปเพราะถูกคลาวด์โจมตีก่อให้เกิดผลสะท้อนกลับไป ยังไงก็ตามเมื่อเห็นว่ามีช่องโหว่ขึ้นมาอีกครั้ง คลาวด์ไม่รอช้ากระโดดขึ้นฟ้าเงื้อไม้เบสบอลติดตะปูสุดแขน เตรียบปิดฉากด้วยเบรเวอร์ แต่แล้ว
‘ไม่ได้สิ ขืนจบแบบนี้ทีน่าอาจถึงตายได้...’ คลาวด์นึกขึ้นได้ก่อนหยุดเพลงดาบหนึ่งในท่าไม้ตายของตนลง ขณะคิดหาวิธีในการจัดการปัญหาตรงหน้าโดยไม่ให้ทั้งคนที่สู้อยู่บาดเจ็บ และ ตัวเขาต้องเสียท่า แต่ยังไงล่ะ ทำยังไงถึงจะหยุดการต่อสู้นี้ลงโดยไม่ให้มีความเสียหายเกิดขึ้น
“อ้~า...!” ทีน่าเอสเปอร์ที่กลับมาตั้งตัวได้เงยหน้าขึ้นมาคลาวด์ที่กำลังลอยตัวตรงเข้ามาหาตน พร้อมกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ก่อนยกมือขึ้นปล่อยห่าพลังอัดกระแทกของเธอเข้าใส่เขาอย่างบ้าระห่ำด้วยความโกรธ
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
“...” แม้จะไม่สามารภมองเห็นคลื่นพลังจิตของทีน่าเอสเปอร์ที่พุ่งเข้ามาโจมตีตน แต่คลาวด์ก็รู้สึกได้ถึงแรงอัดอากาศพิฆาตที่กำลังใกล้เข้ามา ทำให้เขาสามารถเหวี่ยงไม้เบสบอลโต้พลังอัดกระแทกแต่ละลูกที่ส่งมาให้สลายไปก่อนถึงตัวเขา แม้จะทำได้อย่างจวนเจียน แต่นั่นก็ทำให้เขารอดพ้นจากการจู่โจมอันน่ากลัวของทีน่ามาได้อีกครั้ง มิหน่ำซ้ำ คลาวด์เริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง “หื~ม?”
“อ้~า...!” ทีน่าเอสเปอร์ยังคงกรีดร้องด้วยความโกรธา ยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นฟาดคลื่นพลังรูปแส้เหวียงเป็นแนวยาวขึ้นไปหาคลาวด์สุดกำลัง
“ไอซ์…”
ควับ! ตึก... ฟิ้~ว! วิ้~ง! ตูม!
คลาวด์บิดตัวหลับคลื่นพลังรูปแส้นั่นก่อนม้วนตัวกลับหลังแลนดิ่งกลับลงมายืนที่พื้น แล้วปล่อยพลังน้ำแข็งขึ้นไปจัดการกับพลังแส้นั่นไม่ให้ถล่มหลังคาลงมา
‘ดูเหมือนว่าเวลาโจมตีเธอต้อง...’ คลาวด์คิดวิเคราะห์สถานการณ์ขณะจับตามองดูทีน่าเอสเปอร์ที่ยิงเดือดดาลขึ้นไปเมื่อเขาทำลายการโจมตีทั้งหมดของเธอลงอย่างสิ้นเชิง ซึ่งดูท่าจะไม่เป็นผลดีนัก เหมือนความโกรธของทีน่าเอสเปอร์จะมาถึงขีดสุด เธอค่อยๆ ลอยตัวขึ้นไปเหนือพื้นเล็กน้อย ขณะรวบรวมพลังทั้งหมดมาไว้ที่มือทั้ง 2 ข้าง แม้จะมองไม่เห็น แต่คลาวด์ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันของอณุภาพของพลังที่ค่อยๆ ขยายตัวขึ้นในมือของเธอ ‘หึ... เอาไงเอากัน เสี่ยงดวงดู...’
คลาวด์ไม่รอให้ทีน่ารวบรวมพลังได้เสร็จ เข้าก้าววิ่งตรงไปที่น่าสุดฝีเท้า หมุนไม้เบสบอล 2 รอบก่อนเอามาพาดหลังตามเอกลักษณ์การต่อสู้ของตน แล้วจึงกระโดดพุ่งตัวไปหาทีน่าที่ลอยอยู่เหนือตน
วู~บ...!
“อ้~า...!” ทีน่าเอสเปอร์ที่เห็นคลาวด์พุ่งมาหาตนกรีดร้องเป็นสุดท้ายพอดีกับพลังลูกใหญ่ในมือทั้ง 2 ข้างที่รวบรวมได้อย่างเสร็จมสมบูรณ์ ทีน่าไม่รอช้าเช่นกัน เธอเหวี่ยงพลังนั่นขึ้นเหนือหัวก่อนขว้างตรงไปใส่คลาวด์ที่พุ่งมาหาเธอหมายจะปิดฉาก
ลูกพลังที่ใช้เวลารวบรวมนานกว่าลูกพลังธรรมดา ย่อมมีพลังมากว่าเป็นหลายเท่า เพียงแค่ลูกพลังธรรมดาๆ ก็ทำให้ชายฉกรรจ์ถึงกับล้มลงไปได้ แต่นี่เปรียบเสมือนลูกพลังนับสิบๆ ลูกอัดรวมกัน คงไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าหากโดนเข้าไปจะเป็นยังไง
ฟึ~ม!
ลูกพลังยักษ์นั่นพุ่งเข้าหาคลาวด์ด้วยความเร็วอันเกินความคาดหมาย ด้วยสปีด และ ขนาดของมันไม่มีทางที่เขาจะหลบพ้นแน่ การต่อสู้นี้รู้ผลแล้วงั้นเหรอ? คลาวด์ต้องจบลงด้วยท่าพิฆาตของรุ่นน้องน่ารักผู้ขาดสติของเขาเหรอ ขณะยังไม่ทันได้สรุปอะไร ลูกพลังมหากาฬนั่นก็ปะทะเข้ากับคลาวด์ก่อนระเบิดแรงอัดอากาศออกมา
ตูม!
แรงอัดอากาศทำให้ฝุ่นที่เกาะอยู่ทั่วห้องฟุ้งกระจายไปทั่วปริเวณ ทำให้มองไม่เห็นอะไร แต่เอสเปอร์ทีน่าก็ยังคงก้มมองดูจุดที่คลาวด์ถูกพลังพิฆาตของตนอัดใส่ เพื่อดูสภาพของเหยื่ออีกคนของเธอที่ถูกบดขยี้ลง... แต่แล้ว!
หมับ!
“ห๊ะ!” ทีน่าเอสเปอร์ร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อคลาวด์ที่น่าจะโดนแรงอัดของพลังบีบจนร่างกายแหลกสลาย หรือไม่ก็ถูกซัดกระเด็นลงไปกระแทกพื้น กลับพุ่งมาจับตัวเธอเอาไว้
ชั่วพริบตาที่ทีน่าเอสเปอร์ขว้างพลังนั่นใส่ เขาก็ขว้างไม้เบสบอลในมือเข้าสวน ทำให้ลูกพลังนั่นปะทะกันกับไม้เบสบอลนั่นก่อนจะโดนตัวเขา แม้จะโดนแรงระเบิดทำให้ความเร็วในการพุ่งตัวลดลงไปจนเกือบไม่พอที่จะไปให้ถึงตัวทีน่า แต่ด้วยฝุ่นที่คลุ้งขึ้นมาบดบังทัศนวิสัยทำให้คลาวด์สามารถเข้ารวบตัวทีน่าได้โดยไม่โดนเธออัดกลับมา
ควับ...! โคร~ม!
ทีน่าที่ถูกคลาวด์จับตัวไว้หล่นลงมาที่พื้นพร้อมกับผู้จับกุม โดยมีคลาวด์เอาตัวเป็นรองเธอรับเอาแรงกระแทกไว้คนเดียว แต่ถึงอย่างนั่น มือทั้งสองข้างที่รวบตัวทีน่าไว้ก็ยังคงเกาะกุมไว้แน่น ไม่ให้เธอได้ขยับตัว
“อึ~ย...!” ที่น่าเอสเปอร์พยายามดิ้นให้หลุดออกจากการเกาะกุมของคลาวด์ แต่ไม่เป็นผล ดูเหมือนว่าแม้จะมีพลังประหลาดที่มีอำนาจยากแก่การต้านทาน แต่แรงกายของเธอกลับไม่ต่างอะไรจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
“หึ... รู้สึกว่าถ้าขยับตัวไม่ได้ก็ไม่สามารถใช้พลังประหลาดนั้นได้สินะ...” คลาวด์เอ่ยออกมาด้วยความพอใจ ขณะเลื่อนมือที่สวมกอดทีน่าเปลี่ยนมาล๊อคแขนไว้แทน พร้อมกับค่อยๆ กดทีน่าให้คุกเข่าลงไม่ให้เธอดิ้นขัดขืนไปมากกว่าน ก่อนแบมือซ้ายแตะทีต้นคอของเธอ “ขอโทษนะ... โบลท์…”
เปรี๊ย!
“อ๊ะ!” ทีน่าเอสเปอร์ที่ถูกสายฟ้าเล็กๆ ของคลาวด์ช๊อตเข้าที่ต้นคอ ทำเอาทีน่าหมดสติลงไปทันที
‘ดูซิ... ได้ผลไหม...?” คลาวด์ที่เปลี่ยนจากล๊อคแขนมาประคองทีน่าที่หมดสติไปให้นั่งคุกเข่าเอนหลังพิงแขนเขารอดูผลของสายฟ้าที่เขาส่งเข้าไปป่วนประสาทของเธอ
“อา...” ทีน่าเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง ร่างกายสีชมพูสวยของเธอค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลับมาเป็นผิวมนุษย์ ดวงตาอันแสนหน้ากลัวกลับมาเป็นดวงตากลมโตดังเดิม ผมที่สยายค่อยกลับมาคืนทรง พร้อมกับที่มัดผมที่รวบขึ้นไปเหมือนเดิมราวเวลาย้อนกลับ ในไม่ช้าทีน่าร่างเอสเปอร์ ก็กลับมาเป็นเด็กสาวสวยใสดังเดิม
‘รู้สึกว่าการกระตุ้นประสาทจะได้ผล...’ คลาวด์พยักหน้าเบาๆ แสดงความยินดีให้กับความสำเร็จของตัวเอง ก่อนเอ่ยทักรุ่นน้องในอ้อมแขนเขา “ทีน่า...”
“ระ...” ทีน่าที่ลืมตาขึ้นเห็นหน้าของคลาวด์มองดูตนอยู่ มิหนำซ้ำยังตัวเขายังอยู่ในท่านั่งกึ่งอุ้มเธอด้วย เล่นเอาเธอหน้าแดงจัดขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่ แต่ด้วยความข้องใจที่ลืมตาขึ้นมาพบรุ่นพี่ผู้แสนดีของเธอ ทำให้เธอหน้ารีบเอ่ยถามสถานการณ์ออกไป โดยไม่ลืมรีบลุกขึ้นนั่งตั้งหลักด้วยตัวเอง “ระ รุ่นพี่! ปะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ!?”
“ฉันไม่เป็นไร...” คลาวด์ตอบสั้น
“ละ แล้ว... กะ เกิดอะไรขึ้นบ้างตอนฉันเออ... กลายเป็นอย่างงั้น?” ทีน่าถามอย่างลุกลี้ลุกลน
“เธอจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ...?” คลาวด์ถามด้วยความสงสัย
“ไม่ค่ะ...” ทีน่าตอบเสียงอ่อยๆ
“อืม... สรุปง่ายๆ เลยนะ เธออาลาวาท ฉันก็เลยสู้กับเธออยู่พักหนึ่ง ฉันทำเธอสลบไป แล้วเธอก็ตื่นขึ้นพร้อมกลับเป็นเหมือนเดิม” คลาวด์เรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดก่อนเล่าออกมาแบบสั้นๆ ได้ใจความ
“งะ... งั้นเหรอคะ...” ทีน่ามองดูคลาวด์อย่างทึ่งๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเอาชนะเธอในร่างเอสเปอร์ได้ มิหน่ำซ้ำยังแทบไม่มีบาดแผลติดตัวมาเลย เป็นไปได้ด้วยหรือที่คนธรรมดาอย่างเขาจะสามารถเอาชนะเธอในร่าปีศาจนั่นได้ แต่ถึงอย่างนั่นเธอก็ดีใจที่รุ่นพี่ที่แสนดีของเธอไม่ได้เป็นอันตรายเพราะเธอ
“นี่เหรอคือความลับที่เธอบอกฉันไม่ได้...” คลาวด์ไม่รอช้าเปิดประเด็นถามทันที
“คะ... ค่ะ...” ทีน่าพยักหน้าตอบ
“ฉันอยากบอกเหมือนเดิมนะว่า ฉันไม่คาดคั้นเธอ...” คลาวด์ว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขณะจ้องหน้าดูท่าทีทีน่า “แต่ในเมื่อฉันมารู้เข้าให้แล้ว ฉันคงต้องขอให้เธอบอกฉันซะแล้วล่ะ...”
“ค่ะ...” ทีน่าตอบรับ
“ทีน่า...! เป็นไงบ้า~ง…! คืนร่างรึยัง...!?” ออนเนี่ยนที่รู้สึกว่าเสียงอาลาวาทของเพื่อสาวเงียบลงไป จึงเอ่ยเรียกดู
“ใครน่ะ?” คลาวด์เอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงออนเนี่ยนดังมาจากนอกประตู
“เออ... ออนเนี่ยนน่ะค่ะ...” ทีน่าตอบ
“เด็กตัวเล็กๆ ที่สนิทกับเธอน่ะเหรอ?” คลาวด์เอ่ยขึ้น “เขารู้เรื่องของเธอด้วย?”
“ค่ะ... เขาก็เพิ่งรู้เมื่อวานตอนถูกฉัน... เล่นงานเอาน่ะค่ะ...” ทีน่าหลบตาตอบ
“อืม... เหตุการณ์ถล่มห้องเรียนเมื่อวานสินะ...” คลาวด์พยักหน้าเข้าใจ ก่อนยืนขึ้นปัดฟุ่นออกจากตัว ไม่เอ่ยคาดคั้นอะไรต่อ “บอกให้เขาเปิดประตูให้หน่อยสิ...”
“ค่ะ...” ว่าจบทีน่าก็ลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากตัวเช่นกัน ก่อนเดินไปที่น่าแล้วเอ่ยบอกออนเนี่ยน “กลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว เปิดประตูให้หน่อย”
“โอเค” ว่าจบอ่อนเนี่ยนก็เปิดประตูออกทัน “ไงที... น่า... เอ๋~?”
“ฉันจะไปเอารถ รอที่หน้าโรงเก็บรถแป๊บหนึ่ง...” ว่าจบคลาวด์ก็เดินออกไปอีกทางหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจเพื่อนตัวเล็กที่กำลังมองมาที่งงๆ
“ค่ะ... ออนเนี่ยนไปรอรุ่นพี่กัน...” ว่าจบทีน่าก็จูงออนเนี่ยนที่ยังงงอยู่ไปด้วยกัน
สวนสาธารณะ (ณ ม้านั่งใต้ต้นไม้ตัวเดิม)
“อย่างงั้นเองเหรอ...” คลาวด์ที่ยืนพิงม้านั่งเอ่ยตอบรับอย่างเข้าใจ เมื่อได้ยินเรื่องราวของทีน่าซึ่งนั่งเล่าความอยู่อีกข้างหนึ่ง โดยมีน้องหอมที่นั่งขั้นอยู่ตรงกลางคอยสนับสนุน และ ดูลาดเลาของคลาวด์อย่างไม่ไว้ใจ (ฮั่นแน่~... มีหวงๆ) “มีอยู่จุดหนึ่งที่ฉันยังไม่อยากเชื่อสักเท่าไหร่...”
“อะไรเหรอ ครับ/คะ?” ทั้ง 2 หันไปมองยังคลาวด์เป็นตาเดียวกัน
“นายเป็นนินจาจริงน่ะ?” คลาวด์เอ่ยถามแบบหน้าตาย ทำเอาทีน่าแอบหัวเราะน้อยๆ ในขณะที่ออนเนี่ยนเอ่ยยืนยันตัวเอง
“จริงๆ คร๊า~บ! ผมเป็นนินจาจริงๆ คร๊า~บ! ให้ใช้วิชานินจากให้ดูมั้ยคร๊า~บ!” ออนเนี่ยนยืนยันด้วยน้ำเสียงแกมโวยนิดๆ ขณะยกมือเตรียมประสานอินใช้คาถา
“ไม่ต้องหรอก... ฉันแค่ไม่อยากเชื่อเฉยๆ...” คลาวด์กล่าวเรียบๆ ทำเอาน้องหอมถึงกับเหวอ ขณะที่ทีน่าหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“ฮะๆๆ...” คลาวด์ และ ออนเนี่ยนหันมามองทีน่าที่หัวเราะอย่างสดใสอีกครั้งเมื่อได้ระบายเรื่องที่อัดอั้นตันใจออกมาจนเธอรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ทำเอาทั้ง 2 หนุ่มยืนยิ้มอย่างเอ็นดู (คลาวด์แค่กระตุกริมฝีปากเล็กน้อยก่อนกลับมาทำหน้านิ่งดังเดิม)
“ฉันร่วมด้วย...”
“หื~อ?” ทั้ง 2 หันมามองคลาวด์งงๆ
“ฉันร่วมช่วยพวกเธอแก้ปัญหานี้ด้วย...” คลาวด์อธิบาย
“อะ เอ๋~!? จริงเหรอคะ!?” ทีน่าเอ่ยถามด้วยความดีใจ
“ทำไมจู่ๆ เสนอตัวอย่างงี้ล่ะครับรุ่นพี่…” ออนเนี่ยนมองไปยังคลาวด์ที่หันหน้ามาสบตาเขาด้วยสายตาเย็นชาตามแบบของตน “เท่าที่ผมได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับรุ่นพี่มา รุ่นพี่ไม่ใช่คนที่เข้าสังคมกับเขาสักเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอเปล่าครับ?”
“ห~า!? จริงเหรอออนเนี่ยน!?” ทีน่าถามอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน เพราะในสายตาของเธอ ภาพจิตนการณ์ตัวตนของคลาวด์คือ รุ่นพี่ผู้แสนโอบอ้อมอารีย์ที่เป็นมิตรแท้คอยให้ความช่วยเหลือทุกคน แม้จะเป็นคนที่ดูเหมือนเย็นชา แต่จริงๆ แล้วกลับอบอุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ (โห~ จินตนาการณ์เจ้าหล่อน)
“จะ... จริง...” ออนเนี่ยนเอ่ยอย่างหวาดเมื่อที่หน้ายื่นหน้ามาถามใกล้ๆ เขา
“หึ... แล้วนายได้ยินข่าวลือมาว่าอะไรอีกล่ะ...?” คลาวด์ถามนิ่งๆ
“ก็... รุ่นพี่เป็นคนพูดน้อย พูดเท่าที่จำเป็น... ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้าง... ชอบอยู่ตัวคนเดียว ตีตัวห่างจากคนอื่น... ไปไหนมาไหนเงียบๆ... และก็ ป๊อบปูล่าร์ในหมู่สาวๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ชอบหนุ่มหล่อสไตล์เย็นชา... (ไอ้ข้อสุดท้ายมันแปลกๆ นะ)” ออนเนี่ยน สาทยายมาครบอย่างเสร็จสรรพทำเอาทีน่าอึ้งไปทันที “อ๋~อใช่เกือบลืม เพราะมีข่าวลือไม่ค่อยดีนอกโรงเรียน เลยทำให้คนส่วนโหญ่ค่อยข้างเกรงกลัว... ตรงทุกอย่างมั้ยครับ?”
“ตรง...” คลาวด์ตอบอย่างไม่ใส่ใจทำเอาทีน่าเหวอไปเลย “แหล่งข่าวดีนี่...”
“สำหรับนินจา การหาข้อมูลเป็นหนึ่งในความถนัดของเราครับ” ออนเนี่ยนตอบ ขณะแอบยืดเล็กน้อย (อันที่จริง ได้ความมาจากเพื่อนๆ กลุ่มไฟนอลมุงของห้อง)
‘พูดน้อยเหรอ? ไม่นี่ อยู่กับเราก็ให้คำแนะนำดีๆ ตั้งเยอะ... ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง? ก็ยังเก็บปุกปุยมาให้เราตั้ง 2 ครั้ง... ชอบอยู่ตัวคนเดียวตีตัวออกห่างจากคนอื่น? ก็เห็นรุ่นพี่มีเพื่อนอยู่ไม่ใช่เหรอ... ไปไหนมาไหนเงียบๆ? อันนี้ไม่รู้แฮะ... ข้อต่อไปไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใช่แน่นอน...’ ทีน่าคิดอย่างข้องใจอยู่คนเดียว “ข่าวนอกโรงเรียนนั่น... อันนี้น่าจะจริงนะ เพราะรุ่นพี่ 3 คนนั่นแค่เห็นรุ่นพี่คลาวด์ก็ถึงกับตัวสั่นเหงื่อไหลพรากเลยนี่นา...’
“งั้นทำไมถึงเสนอตัวมาช่วยทีน่าล่ะครับ?” ออนเนี่ยนถามคลาวด์คืน
“ก็แค่อยากช่วย...” คลาวด์ตอบสั้นๆ เล่นเอาออนเนี่ยนตีคิ้วงงทันที
“เอ๋~? ว่าไงนะครับ?” ออนเนี่ยนเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“นายขาดข้อมูลเกี่ยวกับตัวฉันไปอีกอย่าง...” คลาวด์กล่าว
“อะไรเหรอครับ?” ออนเนี่ยนถามต่อด้วยความสงสัยว่าตนพลาดตรงไหน
“ทำอะไรตามใจตัวเอง...” คลาวด์ตอบเสียงเย็นชาแบบไร้อารมณ์ “ฉันแค่รู้สึกว่าอยากจะช่วย ก็เลยเสนอตัวช่วยก็เท่านั่นเอง…”
“...” ออนเนี่ยนมองคลาวด์ด้วยความตะลึง แม้จะยังไม่เข้าใจเหตุผลของคลาวด์ แต่ด้วยท่าทางเงียบๆ ที่หลังจากพูดจบก็หันหน้าขึ้นมองฟ้าวางมาดขรึม ทำให้เขาคิดคำบรรยายออกมาได้คำเดียว ‘เท่... ชะมัดเลย...’
“ไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร... ยังไงก็ตาม... ถ้ามีปัญหาล่ะก็บอกได้นะ...”
“ขอบคุณมากนะคะ” ทีน่าเอ่ยรับด้วยความดีใจเมื่อรุ่นพี่ที่ตนสุดแสนจะนับถือเสนอตัวเข้าช่วยเธออีกคน แม้เธอจะยังข้องใจกับนิสัยที่แท้จริงของคลาวด์ แต่ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้นั้นก็ไม่ได้แปรเปลี่ยนไป
“งั้นก็ฝากด้วยนะครับ” แม้จะยังอึ้ง และ ทึ้งในความเท่ของคลาวด์ แต่ก็น้องหอมยังคงไม่วางใจในตัวเขาอยู่ดี ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ทุกครั้งที่เห็นทีน่ายิ้มให้คลาวด์ เขาก็มักจะเกิดความรู้สึกประหลาดที่ทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ แต่ถึงอย่างงั้นเขาไม่อาจปฏิเสธความหวังดีที่คลาวด์มีให้เพื่อนสาวได้ จึงทำได้แค่ตอบรับไปเท่านั้น
“ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว... ฉันกลับล่ะ...” ว่าจบคลาวด์ก็ลุกขึ้นยืนก่อนเดินไปที่รถมอเตอร์ไซด์ของเขาที่จอดไว้ด้านหน้า พร้อมกล่าวลา “กลับบ้านกันดีๆ ล่ะ...”
“ครับ/ค่ะ” ทั้ง 2 กล่าวลาคลาวด์ ก่อนโบกมือลากัน แยกย้ายกลับของแต่ละคน
“จะดูอยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหน...?” คลาวด์ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงรถของตน เอ่ยขึ้นมาราวกับกำลังพูดกับใครอยู่ ทันใดนั้น ร่างสูงของบุรุษผมเงินเจ้าของนาม เซฟ ก็ปรากฏกายออกมาจากมุมมืด
“หึๆๆ... ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างนายจะเสนอตัวช่วยคนอื่นเป็นกับเขาด้วย...” เซฟว่าด้วยรอยยิ้มสุขุมแกมเจ้าเล่ห์
“มันเรื่องของฉัน...” คลาวด์ตอบตัดเยื่อใย ทั้งๆ ที่คนที่เขาพูดอยู่ด้วยคืออาจารย์ประจำชั้นของเขาเอง “ว่าแต่นายตามฉันมาทำไม...?”
“อย่าเข้าใจผิด ฉันแค่เผอิญผ่านมา แล้วเห็นมอเตอร์ไซด์นายจอดอยู่ เลยสงสัยว่าคนอย่างนายไม่น่าจะมีอารมณ์สุนทรีย์มานั่งเล่นในสวนสาธารณะ” เซฟกล่าว “นึกไม่ถึงว่านายจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในความลับของเอสเปอร์สาว และ นินจาน้อยซะแล้ว...”
“แล้วมันยังไงล่ะ... นายก็ช่วยพวกเขาไว้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” คลาวด์กล่าว
“แค่เผอิญอยู่แถวที่เกิดเหตุพอดีก็เลยช่วยเอาไว้... แต่นึกไม่ถึงว่านายจะซวยถูกวอริเออร์จับตามองว่าเป็นตัวการซะงั้น...” เซฟตอบยิ้มๆ ขณะเอ่ยหยอกคลาวด์เล่น “เอาอย่างงี้ไหม? ไหนๆ ฉันเป็นอีกคนที่รู้ความลับนั่น จะให้ฉันร่วมช่วยอีกแรงไหมล่ะ?”
“ไม่สนใจ...” คำพูดประจำตัว ก่อนก้าวขาขึ้นมอเตอร์ไซด์ของตนหน้าตาเฉย พร้อมทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ “ฉันไม่รู้นะว่านายคิดอะไรแพลงๆ อยู่... แต่บอกไว้เลยนะ... ฉันไม่ยอมให้นายมาปั่นหัวทีน่าเหมือนที่ทำกับฉันหรอก... เซฟิรอธ...”
บรึ้~น! บรื้~น...!
“ฉันไม่ได้ปั่นหัวนาย คลาวด์... ฉันแค่อยากแก้ไขในสิ่งที่ทำผิดลงไป...” เซฟว่าขณะมองตามรถมอเตอร์ไซด์ของคลาวด์ที่แล่นจากไป “ฉันถึงได้ทิ้งชื่อนี้ไปยังไงล่ะ...”
ศูนย์ฝึกทหาร SeeD สนามเป้า
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
“...” สคอลล์ที่ยืนยิงเป้าอยู่ในล็อคของตน มองดูเป้าดิจิตอลเบื้องหน้า จากท่าทางของเขาแล้ว ดู้เหมือนว่าเขาจะไม่พอใจสักเท่าไหร่
“โห~! แม่เจ้าโว้~ย! 90 แต้ม! ยอดเลยสคอลล์!” เพื่อนหนุ่มหน้าทะเล้นที่มีรอยสักสีดำอยู่ตรงหน้า และ ผมสีบลอนด์ทรงประหลาดที่เสยไปด้านหลังยกเว้นด้านหน้าที่ทำตั้งขึ้นเป็นหงอนไก่ พูดเสียงดังโหวกเหวก ทำทุกคนหันมามองสคอลล์อย่างชื่นชม
“เก่งมากเลยสคอลล์!” เด็กสาวสไตล์ร่างเริงผู้ไว้ผมสั้นดัดปลายเอ่ยชมอีกคน
“หึ...” สคอลล์สบถเบาๆ อย่างไม่พอใจ
“เอ๋~!? มีอะไรเหรอ!?” เด็กหนุ่มมาดทะเล้นถามด้วยความแปลกใจ
“เป็นอะไรไปสคอลล์...? ปกติเธอทำได้ 100 เต็มทุกทีไม่ใช่เหรอ?” ครูสาวแสนสวยที่อายุไม่น่าจะห่างจากพวกเขาไม่กี่ปี เอ่ยถามลูกศิษย์คนโปรดด้วยความข้องใจ
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
“ฮ่าๆ! ไซเฟอร์ได้ 95 แต้ม! เหนือกว่านายตั้งเยอะ เห็นมะ!” เด็กหนุ่มผมดำสั้นร่างกายบึกบึนเอ่ยเย้ยพวกสคอลล์ขณะคนที่คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อน และ ลูกพี่ของเขา ที่ยืนอยู่อีกล๊อคหนึ่งทำแต้มได้สูงกว่า
“อ่อน... เนาะ~?” เด็กหนุ่มผมเงินผู้มีที่ปิดตาสีดำคาดไว้ที่ตาซ้ายกล่าวสั้นๆ ขณะหันไปเอ่ยกับพูดกับเจ้าของนามไซเฟอร์
“อย่างนายเนี่ยนะฝีมือตก? เป็นอะไรไปสคอลล์?” เด็กหนุ่มผมสั้นสีทอง ตาคมกริบสีคราม ผู้มีแผลเป็นตรงหน้าเช่นเดียวกับสคอลล์หันมาเอ่ยถาม ด้วยความสงสัย พร้อมด้วยน้ำเสียงปนเย้ยหยั่นที่แฝงมานัยๆ “หรือว่าพอได้ทุนไปโรงเรียนนั่นแล้ว นายก็ปล่อยตัวสบายไปวันๆ ทำให้นายอ่อนปวกเปียกอย่างงี้”
“อะไรก็ช่าง...” สคอลล์เปลี่ยนแม็กซีนไหม่ก่อนเล็งปืนไปที่เป้าของเขาอีกครั้ง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
“คราวนี้ 100 เต็ม!” หนุ่มหัวหงอนไก่ร้องออกมาอย่างไม่อายใคร
“หึ!จะทำก็ทำได้นี่...” ไซเฟอร์ก่อนเดินจากไปพร้อมกับลูกน้องทั้ง 2
‘ฉันเป็นอะไรเนี่ย...?’ สคอลล์คิด ขณะภาพของ 2 ลิงคอยตามหลอกหลอนในหัวอยู่เรื่อยๆ เป็นครั้งแรกที่คนที่ไม่ใช่นักเรียนทหารด้วยกันมายาดดีกับเขาแบบไม่เกรงกลัว
บ้านรีเทรินเนอร์
“กลับมาแล้วค่ะ” ทีน่าที่เดินเข้าบ้านมาเอ่ยบอกทุกคนด้วยน้ำเสียงที่บอกให้รู้เลยว่ากำลังมีความสุข
“หื~ม...?” สมาชิกทุกคนในบ้านที่ต่างได้ยินเสียงแสนสุขของทีน่า ต่างยื่นหน้าออกมาจากห้องที่ตนอยู่ มามองดูทีน่าตรงหน้าประตูทันที
“หนูมีการบ้านต้องทำ ถ้าอาหารเย็นเสร็จแล้วเรียกนะคะ หนูอยู่ในห้อง” ทีน่ากล่าวก่อนเดินขึ้นห้องไปอย่างอารมณ์ดี
“เอ๋~...!” ชายเจ้าของนามเอ็ดก้าร์เดินมาที่บัดไดขณะเอ๋ยาวเหยี่ยดด้วยความสงสัยที่มาพร้อมกับความดีใจที่เห็นทีน่ากลับบ้านมาอย่างมีความสุข “เมื่อวานก็เห็นยิ้มๆ มาวันนี้อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัดเลยเหรอ? แสดงว่าที่โรงเรียนต้องมีอะไรแน่ๆ”
“อะไรที่ว่านั่น มันคืออะไรเหรอ?” หนุ่มลำบึกซาบินที่เดินตามมาถาม
“ไม่รู้สิ แต่ต้องเป็นอะไรดีๆ แน่ๆ” เอ็กก้าร์ตอบ
“หรือเธอควบคุมพลังได้แล้ว?” ชายหนวดงามไคอันเอ่ย ขณะตามมาอีกคน
“ฉันว่าไม่ใช่หรอก...” ชายผมยาวหยักศกสีขาว มาดกวนๆ แบบขรึมๆ ว่าแทรกขึ้นมาก่อนเดินมาร่วมวงคุยกันที่หน้าบันใดอีกคน
“ไหงว่างั้นล่ะ เซทเซอร์?” เซเลสที่วางมือจากครัวมาจอยในวงด้วยอีกคนถาม
“พลังของเธอสูงมาก ไม่มีทางที่จะวบคุมได้ภายในข้ามวันหรอก” เซทเซอร์ตอบ
“ใช่ ฉันเห็นด้วย คงอีกนานกว่าที่เธอจะควบคุมพลังนั่นได้...” ล๊อคที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายเอ่ยสมทบ “แต่จะว่าไปก็ดีนะที่ได้เห็นทีน่ากลับมาอย่างมีความสุขแบบนี้ อยากรู้จริงๆ เลยว่าอะไรทำให้เธอมีความสุขได้ถึงขนาดนี้”
“อืม... ถ้าพูดถึงความสุขของวัยรุ่น ก็ต้อง... รักวัยรุ่น” เซทเซอร์เอ่ยตอบอย่างไม่ทันได้คิด ทำเอาวงสนทนาเงียบด้วยความอึ้งไปทันที “สำหรับสาวน้อยน่ารักวัยสดใสอย่างทีน่า ก็ต้องเป็นรักแรกพบที่โรงเรียน หึๆ... อยากรู้จังใครเป็นหนุ่มโชคดีคนนั่น...”
“โชคดีงั้นเหรอ...?” ล๊อคที่เงียบลงครู่หนึ่งเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหารขณะควงมีดในมือเล่น “ใครกล้ามาแตะทีน่าของฉัน ฉันจะทำให้มันโชกเลือด...”
“อึ๋~ย!” เท่านั้นเอง เหล่าสมาชิกวงสนทนากก็พากันแยกย้ายกลับที่ของตนปล่อยให้ล๊อคใช้ไฟโทสะแห่งความห่วงหวง เผาพลาญบรรยากาศแถวนั่นต่อไป
‘รักแรกพบงั้นเหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสินะ...” เซเลสคิดขณะเดินกลับเข้าครัว
ดิสสิเดีย วันต่อมา ห้องสภานักเรียน
“สรุปว่ายังไงก็หาตัวการไม่เจองั้นเหรอ?” ไลท์เอ่ยถามในที่ประชุมสภาภาคเช้า
“ครับ... ตามที่เราตรวจสอบมาทั้งหมด เบาะแสทุกอย่างชี้ไปที่คลาวด์ สไตรฟ แต่ก็มีข้อมูลยืนยันว่าไสตรฟบริสุทธิ์” หนึ่งในสภาปี 3 ว่า
“ข้อมูล... อะไรบ้างครับ?” หนึ่งในสภาปี 2 ถามด้วยความสงสัย
“มีนักเรียนเกือบ 20 คน เห็นสไตรฟขี่มอเตอร์ไซด์ออกไปจากโรงเรียนก่อนเวลาเกิดเหตุ มิหน่ำซ้ำ ตอนที่เกิดเหตุ นักเรียนบางคนที่บ้านอยู่แถบมิดการ์ก็เห็นคลาวด์อยู่ละแวกนั่นด้วย” สภาคนเดิมตอบ “ไม่ใช่แค่นั่น ท่านประธานที่เรียกสไตรฟ มาสอบสวนด้วยตัวเองก็ยังยืนยันเองเลยว่าเขาบริสุทธิ์”
“ทั้งรองประธานเซซิล และ สภาสวนสวยฟีเรี่ยนก็ปักใจไม่เชื่อด้วยว่าสไตรฟเป็นตัวต้นเหตุ...” สภาปี 3 อีกคนกล่าวเสริม
“รองประธานเซซิล และ ฟีเรี่ยน เป็นเพื่อนสนิทของสไตรฟไม่ใช่เหรอครับ? อย่างงี้ไม่ถือว่าสไตรฟใช้เส้นช่วยเหรอ?” หนึ่งในสภาปากเสียว่าขึ้นมาอย่างไม่คิด
“เฮ้ๆ! ระวังคำพูดหน่อย!” หนึ่งในสภานักเรียนปี 3 เอ่ยว่ารุ่นน้อง “ถึงจะเป็นเพื่อนกัน แต่รองประธาน และ สภาสวนสวยก็ไม่เคยใช้อำนาจของตัวเองผิดๆ แบบนั่น! ไม่งั้นทั้ง 2 คงไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นว่าที่ประธาน และ รองประธานของปีหน้าหรอกรู้มั้ย!?”
“ขอประทานโทษครับ!” สภาปากเสียคนนั้นเอ่ยขอโทษทันที
“ช่างมันเถอะครับ” เซซิลว่า กลับเข้าประเด็น “แล้ว... เราจะเอายังไงต่อครับ?”
“เบาะแสชี้ไปหาสไตรฟ แต่สไตรฟบริสุทธ์... เฮ้~อ... ทำไมต้องเกิดปัญญหาตั้งแต่อาทิตย์แรกด้วย...” ไลท์บ่นเบาๆ “คงต้องปิดคดีแค่นี้แล้วล่ะ...”
“เอ๋~? จะเลิกสืบสวนเรื่องนี้เหรอครับ?” ฟีเรี่ยนเอ่ยถาม
“คงต้องเป็นอย่างนั่นแหละ ในเมื่อเราสืบต่อไปไม่ได้ ก็คงต้องหยุดลงแค่นี้…” ไลท์สรุปเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมเอ่ยปิดคดี “ปัญหาครั้งนี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของพวกเรา เปิดเทอมมาก็เริ่มต้นได้ไม่ดีแล้ว เพราะฉะนั้น เราต้องอย่าให้มีปัญหาที่แก้ไม่ได้อย่างนี้ซ้ำสอง รับทราบ...?”
“ทราบครับ!” ทั้งสภาตอบรับ
“เอาล่ะ... เรื่องกระทู้โรงเรียนที่ให้ไปจัดการเป็นไงบ้าง?” ไลท์เปิดประเด็นต่อไป
“เรียบร้อยครับ เราริบของกลางมาหมดแล้ว วางใจได้ครับ” ผู้รับผิดชอบตอบ
“ดีมาก..." ไลท์กล่าวอย่างพอใจ
ปี 2 ห้อง A
“สรุปว่าคดีนี้นี่ล่มเพราะคนร้ายคือคลาวด์ แต่คลาวด์คือผู้บริสุทธิ์งั้นเหรอ?” ทีดัสกระซิบถามเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กัน “เออ... ฟังดูๆ ทะแม่งๆ นะ”
“เอาน่~า... อย่าไปสนใจมันเลย” ฟี่เรี่ยนว่า
“แต่มันก็น่าแปลกนะ ทำไมหลักฐาน และ เบาะแสทุกอย่างถึงชี้ไปที่คลาวด์ล่ะ?” ทีดัสยังคงถามต่อไป “ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อนายนะคลาวด์ แต่... มัน... แปลก...”
“นั่นสิ... ไม่แน่นะ... อาจเป็นคนอื่นที่จงใจทำให้ดูเหมือนคลาวด์เป็นคนผิดก็ได้” เซซิลว่า “ถ้าเป็นอย่างนั่นจริง ทุกอย่างก็จะสมเหตุสมผล”
“มัน... ไม่ละครไปหน่อยเหรอ?” ฟีเรี่ยนเอ่ยเสียงแห้งๆ “คิดดูสิ อย่างคลาวด์ไม่น่าจะมีคนทำอะไรให้แบบนั่น หรือต่อให้มี ฉันก็ว่าคนๆ นั้นไม่กล้าหรอก...”
“อืม...” ทันทีที่ฟีเรี่ยนว่าจบ ทั้ง 3 ก็พากันคิดภาพคลาวด์ถือดาบปังตอประจำตัวยืนเหยียบอยู่บนศพของมนุษย์เงา (แบบที่เห็นบ่อยๆ ในเรื่องโคนัน) ที่มีชื่อเขียนไว้ว่าผู้ประสงค์ร้าย ขณะมองลงมาที่คนๆ นั่นด้วยสายตาเย็นชา ‘ไม่มีใครกล้าแน่นอน...’
“นะ นายว่าไงคลาวด์?” ฟีเรี่ยนหันกลับมาถามเจ้าของเรื่องที่เขาสนทนากันอยู่หลังสลัดภาพจิตนาการณ์นั่นออกจากหัว
“ไม่สนใจ...” คลาวด์ตอบสั้นๆ
“อะ เอ๋~? ทำไมล่ะ?” เซซิลเอ่ยถามด้วยความข้องใจ
“เรื่องมันจบไปแล้วก็ให้จบไป...” คลาวด์ตอบง่ายๆ ได้ใจความครบถ้วน
“ก็... จริงของนาย” ฟีเรี่ยนเห็นด้วย
“ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาอีกล่ะ คลาวด์? ครั้งนี้นายรอดตัวมาได้ แต่คราวหน้ามันไม่แน่นะคลาวด์ นายมีชื่ออยู่ในบัญชีดำนะ ถ้าใครสร้างปัญหาแล้วให้นายเป็นแพะรับบาปแทน นายมีสิทธ์ถูกไล่ออกได้นะ” เซซิลกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าเป็นแบบนั่นนายจะทำยังไง?”
“ถ้าเป็นงั้นจริงฉันก็กลับไปเรียนต่อที่ชินระน่ะสิ ไม่เห็นมีอะไรยากเลย...” คลาวด์ตอบห้วนๆ โดยไม่ยอมมองดูความรู้สึกของเพื่อนรอบตัว
“เฮ้~อ...” เซซิลถอนใจกับคำตอบของคลาวด์
“คลาวด์?” ฟีเรี่ยนเอ่ยเรียกคลาวด์
“ไม่เอาน่ะคลาวด์ ทำไมพูดอย่างงั้นล่ะ?” ทีดัสเอ่ยถาม
“ก็ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ มันก็ช่วยไม่ได้…” คลาวด์ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา และ หน้าตายด้านไม่เปลี่ยน เล่นเอาเพื่อนๆ เขากุมขมับด้วยความเป็นห่วง แต่ความรู้สึกทุกอย่างก็หายไปทันทีที่ได้ยินประโยคต่อมา “แต่ก่อนไป... ฉันจะเก็บไอ้คนๆ ซะ...”
“อึ๋ย...” ภาพจินตนาการณ์ผุดขึ้นมาในหัวทั้ง 3 อีกครั้ง
“หึ...” คลาวด์หันหน้ามองหน้าต่างวางมาดเย็นชาทำไม่สนใจอะไร หันกลับมามองหน้าเพื่อนๆ ก่อนเอ่ยบอก “พวกนายกังวลมากเกินไป...”
“หมายความว่าไง?” ทั้ง 3 ถามเป็นเสียงเดียวกัน
“มันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกนายคิดหรอก...” คลาวด์เอ่ยบอกคำสุดท้ายก่อนกลับสู่ท่าเดิมเมื่อครู่ ปล่อยให้ทั้งซัดคำถามเข้าใส่เขาไม่หยุด
“นายรู้เหรอว่าเป็นฝีมือใคร?”
“ทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อยล่ะ?”
“ต้องการให้ช่วยมั้ย?”
“ไม่สนใจ...” คำสุดท้ายที่ดังออกมาจากคลาวด์ หยุดคำถามทุกอย่างลงทันที
“...” ทั้ง 3 มองมาที่คลาวด์ด้วยความกังวล แต่แล้วความกังวลนั่นก็ต้องหายไปอีกครั้ง ก่อนถูกแทนที่ด้วยความช็อค ตกตะลึง อึ้ง ทึ้ง และ ไม่อย่างเชื่อหูตัวเอง เมื่อ
“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง... แต่นี่เรื่องของฉัน...” คลาวด์เอ่ยเบาๆ
“ห~า?” ทั้ง 3 คนที่ยังคงตะลึงอยู่กับคลาวด์ที่เปลี่ยนไป เลื่อนเก้าอี้มาใกล้กันเปิดวงกอซซิบทันที
“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง เมื่อกี้คลาวด์พูดคำนี้ใช่มั้ย?” ทีดัสกระซิบถามขณะเอานิ้วแคะหูตัวเองแรงๆ ก่อนรอฟังคำตอบจากเพื่อนอีก 2 คน
“อืม... ชัดเลย... ถึงจะเบา แต่ก็ได้ยินชัดทุกคำเลย...” ฟีเรียนกระซิบบอก
“ไม่น่าเชื่อ... อะไรทำให้คลาวด์เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เนี่ย?” เซซิลกล่าวขอความเห็น “วันก่อนๆ ยังเป็นคลาวด์ สไตรฟ ผู้แสนเย็นชาตามแบบที่เรารู้จักอยู่เลย”
“ใช่... รู้สึกว่าคลาวด์จะเปลี่ยนไปตั้งแต่เปิดเทอมมานะ...” ฟีเรี่ยนว่า
“เปิดเทอมมา... คลาวด์เปลี่ยนไป... สิ่งที่ทำให้คลาวด์เปลี่ยนไป...?” ทั้ง 3 ต่างกอดอก ลูบข้าง เอากำปั้นอุดปากทำท่าคิด ก่อนเอ่ยออกมาพร้อมกัน
“ทีน่า...!”
ปี 1 ห้อง A พักเที่ยง
“ปะ! ไปกินไอติมกัน!”
“อีกและ!?”
“5 เรียก 9... 5 เรียก 9... ได้ยินแล้วตอบด้วย...”
“9 ได้ยินแล้วเปลี่ยน...”
“ทาร์เก็ทนับเบอร์ 8 อยู่ด้านหน้าแล้วรอสัญญาณจู่โจม...”
“ระวังด้วย นับเบอร์ 8 ไหวตัวไว ค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าอย่าให้เป้าหมายรู้ตัว”
“พวกนายเล่นอะไรกัน?” มาร์ชเอ่ยถามบัทส์ และ ซีดาน ที่มุดอยู่ใต้โต๊ะหลังห้อง จ้องมองไปที่สคอลล์ซึ่งนั่งกินข้าวอยู่หน้าห้อง ขณะสื่อสารกันด้วยโทรศัพท์แก้วกระดาษ
“ชู่ว์... เงียบๆ... เรากำลังปฏิบัติการลับอยู่” บัทส์ว่า
“อย่าเสียง เดี๋ยวสคอลล์ เอ๊ย! นับเบอร์แปดจะรู้ตัว...” ซีดานสมทบ
“อะ... โอเค...” มาร์ชตอบปัดก่อนเดินกลับไปรวมกลุ่มกับพวกของเขาเหมือนเดิม ‘2 คนนี้ หาอะไรติ๊งต๊องมาเล่นได้ทุกวันเลยแฮะ...’
“เอาล่ะไปกันเลย...” ว่าจบ ทั้ง 2 ก็โยนโทรศัพท์แก้วกระดาษทิ้งไป ก่อนค่อยๆ คลานตามพื้นตรงไปหาสคอลล์เหมือนทหารพราน แต่แล้ว
ตึก!
“จ๊า~ก...!!” ทั้งคู่ร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน หลังจากโดนสคอลล์ที่นั่นกินข้าวอยู่ หันเก้าอี้กลับมาใช้เท้าเหยียมมือของพวกเขาทั้ง 2 ตอนอยู่ในระยะโจมตีพอดี
“คิดจะทำอะไร...?” สคอลล์เอ่ยเซ็งๆ ก่อนปิดกล่องข้าวที่ตัวเองกินหมดแล้วลง ก่อนเอาเก็บเข้ากระเป๋า (หมอนี่กินข้าเร็วจริงวุ้ย!)
“แหะๆ ไม่ได้ประสงค์ร้ายนะสคอลล์” ซีดานเอ่ยแก้ตัว
“แค่จะดึงขาเก้าอี้นายให้หน้าคะมำใส่กล่องข้าวเท่านั้นเอง” บัทส์ว่าต่อ
“ใช่ๆ แค่นั้นเอง” ซีดานปิดท้าย
“อะ จ๊า~ก...!!” ทั้ง2 ร้องดังขึ้นยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อสคอลล์ยืนขึ้นทั้งๆ ที่ยังเหยียบอยู่บนมือของพวกเขาอยู่
‘วอนซะแล้ว...’ สคอลล์คิดในใจ ก่อนก้าวเท้าออกมาจากมือของทั้ง 2 ลิง
“ทำกันได้นะบาก” ทั้ง 2 ทำตาโตปากเบี้ยว ทำท่าเหมือนสาวน้อยโมเอะกำลังร้องไห้เพราะถูกพระเอกหนุ่มผู้แสนเย็นชารังแก “ฮือ...”
“ทำไมล่ะคะ? เค้าทำอะไรผิด? ทำไมบากคุงถึงแกล้งแต่เค้า” บัทส์ดัดเสียงเป็นเด็กผู้หญิง พร้อมทำท่าทางเหมือนเด็กสาวผู้ใสซื่อ เล่นเอารับไม่ได้กันทั้งห้อง
“หรือว่าบากคุงไม่ชอบขี้หน้าเค้า ไม่เอานะ เราก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ทำไมถึงต้องเกลียดกันด้วย” ซีดานไม่แพ้กัน ทำซะคนรอบๆ ที่มอง เอียนไปตามๆ กัน
‘ยิงทิ้งซะดีมั้ย...’ สคอลล์คิดขณะเอามือกุมขมับ
“อ้า~ว? พวกนายไม่พากย์น่ะวันนี้?” แรมซ่าเอ่ยถามเหล่าไฟนอลมุง และ ตัวประกอบฉากทั้งหลาย
“ไม่อะ... จะอ้วกอยู่แล้ว” คนพากย์ว่า “เล่นด้วยไม่ลงจริงๆ... แมนรับบ่ได้!”
“จะว่าไปนายห่อข้าวมากินทุกวันเลยเหรอ?” ซีดานเลิกเล่นปัญญาอ่อนแล้วเอ่ยชวนเพื่อนหน้าบากของเขาคุย
“ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย…” สคอลล์พูดตัดเยื่อใย
“แล้ว... พักเที่ยงนายไปไหนอะ? พอกินข้าวเสร็จก็เดินออกจากห้องไป แล้วไม่เห็นหน้ากันอีกเลยจนถึงเรียนคาบบ่ายทุกวันเลย?” บัทส์ถามบ้าง
“เรื่องของฉัน...” สคอลล์ยังคงตอบด้วยความรำคาญ
“เอ๋~… แอบไปทำอะไรสนุกๆ คนเดียวเปล่า” ซีดานเอ่ยด้วยเสียงกวนๆ
“จริงเหรอ!? บอกกันบ้างสิ! พวกเราจะได้ไปจอยด้วยไง!” บัทส์สมทบ
“เฮ้~อ...” สคอลล์ถอนใจก่อนรีบเดินจากห้องไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกตามหลังของทั้ง 2 ลิงที่พยายามตามเขาไป
“หนีไปแล้ว! ตามไปเร็วซีดาน!” บัทส์ว่า
“อื้อ!” ซีดานตอบก่อนทั้งคู่จะตามไป แต่พอออกมาจากห้องก็ไม่รู้สคอลล์ไปทางไหน จึงเดาสุ่มวิ่งขึ้นบันได โดยหารู้ไม่ว่าสคอลล์เดินลงไปข้างล่างต่างหาก
“เหอะๆ พวกนั่นยังถูกเมินอยู่ดี” อากริอัสว่า
“ใครบอกล่ะ สคอลล์เริ่มสนใจพวกเขาแล้วต่างหาก” คนพากย์ว่า
“ห~า?” พวกแรมซ่า (FF Tactic & FF Tactic Advance) ร้องประสานเสียงกัน
“เมื่อวานสคอลล์เดินจากทั้งคู่คนไปเฉยๆ แต่วันนี้มีหยุดพูดด้วยตั้ง 2-3 ประโยค (กับถอนใจอีก 1) แสดงว่า บากเริ่มเปิดใจแล้ว!” คนพากย์พูดเป็นนิยาย (ก็นิยายอะ)
‘2-3 ประโยคอะนะ’ เหล่าFFT คิด ขณะยิ้มแหย่ๆ ‘แต่มันก็จริงนะ...’
บันไดขึ้นดาดฟ้า
“จะดีเหรอทีน่า?” ออนเนี่ยนเอ่ยถามเพื่อนสาว
“ดีสิ เมื่อวานฉันทำให้รุ่นพี่ต้องลำบาก นอกจากนี้เขายังอาสาช่วยฉันอีก” ทีน่ากล่าวขณะกอดถุงขนมปัง และ เครื่องดื่มจากโรงอาหารที่หนุ่มปี 2 ทั้ง 4 ชอบพลัดเวรกันมาซื้อไปกินกันบนดาดฟ้าไว้ “อย่างน้อยก็ให้ฉันตอบแทนอะไรบ้าง แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี...”
“อืม... นั่นสินะ... งั้นก็ไปกันเถอะ” แม้ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึกภายในใจยังคงปฏิเสธอยู่ไม่ขาด แต่เขาก็ยอมรับเหตุผลของทีน่าโดยดี แล้วเดินขึ้นบันไดไปด้วยกัน
“เฮ้~! ฟีเรี่ยน วันนี้ตานาย!” ทีดัสว่าขณะเอนหลังนอนมองฟ้าอยู่บนพื้นดาดฟ้า
“เข้าใจแล้ว ไปเดี๋ยวนี้แหละ” ฟี่เรี่ยนที่รถน้ำกุหลาบแปลงพิเศษที่เขาเอามาปลูกไว้ในกระถางบนดาดฟ้าว่า ก่อนวางมือลง เตรียมพร้อมไปซื้ออาหารเที่ยง แต่แล้ว
แอ๊~ด!
“หวัดดี ค่ะ/ครับ รุ่นพี่” ทีน่า และ ออนเนี่ยนเอ่ยทักทั้ง 4 คน
“หวัดดี...” คลาวด์ที่นั่งอยู่บนหลังคาเหนือหัวพวกเขาทักตอบ ในขณะที่เพื่อนๆ อีก 3 คน กระพริบตา ปิ๊~งๆ อย่างทึ่งๆ
ฟึบ!
“นั่นไงๆ…! มาแล้ว…! สาวน้อยผู้น่ารักฮันนี่ของโบะ” ทีดัสกระซิบเปิดวงกอซสิบที่พวกเข้าทั้ง 3 กระโดดมาสุมหัวกันอยู่ที่มุมดาดาฟ้า
“สุดที่รักมาหาถึงที่ คลาวด์นายช่างโชคดีจริงๆ” เซซิลรับช่วงพรรณนาต่อ
“ไอ้ฉันก็ยังไม่อยากเชื่อว่าคลาวด์จะ... อย่างนั้นอะนะ...” ฟีเรียนละไว้ในฐานที่เข้าใจ ก่อนว่าต่อ “แต่เจออย่างงี้คงต้องเชื่อแล้วล่ะ”
“เรามาร่วมกันสนับสนุนความรักของคลาวด์กันเถอะ” เซซิลว่า
“อื้ม! เพื่อเพื่อนสุดเลิฟของเรา” ทีดัสว่า
“เออ... เอาไงก็เอา...” ฟีเรียนว่า (ด้วยความลังเลนิดๆ)
“ว่าไป ทีน่าขึ้นมาทำอะไรเนี่ย?” ทีดัสถาม
“คำตอบอยู่ที่ 6 นาฬิกา” เซซิลว่า “กลับหลังหัน...”
‘เอาเข้าไป...’ ฟีเรี่ยนชักไม่แน่ใจว่าตนตัดสินใจถูกรึเปล่า
“ดำเนินเรื่องต่อ” ว่าจบ ทั้ง 3 มองก็ตรงไปที่คลาวด์กับทีน่าเป็นตาเดียว
“ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบาก และ ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อวานนี้นะคะ” ทีน่าว่าพลางยื่นถุงในมือให้ “นี่ของเล็กๆ น้อยๆ แทนคำขอบคุณค่ะ”
“อืม...” คลาวด์ไม่มีทีท่าจะปฏิเสธ ยื่นมือรับของมา แล้วเอ่ยขอบคุณ “ขอบใจ...”
“ยินดีค่ะ” ทีน่าก้มหัวรับคำขอบคุณ
“แล้ววันนี้เอายังไง?” คลาวด์กระซิบถามเบาๆ
“พอเลิกเรียนก็คงต้องพาทีน่าเข้าไปอยู่ในห้องนั่นจนกว่าจะผ่าน 5 โมงเย็นไปนั่นแหละครับ” ออนเนี่ยนตอบ
“อืม... ให้ช่วยมั้ย?” คลาวด์ถามอีกที
“คง... ไม่ต้องหรอกครับ ผมจัดการให้เธอได้” แม้จะเข้าใจในความหวังดีของคลาวด์ แต่ออนเนี่ยนก็ไม่อยากให้เขาช่วยอยู่ดี (ทำไงได้ เด็กมันหึ~ง...)
“อืม... เข้าใจแล้ว... ฝากด้วยล่ะ…” คลาวด์เอ่ยทิ้งท้าย
ควับๆๆๆ!
“หวัดดี.../ไงจ๊~ะ?โย่! ทั้ง 2 คน” ฟี่เรี่ยน เซซิล และ ทีดัส ที่กระโดดเข้ามาทักรุ่นน้องทั้ง 2 “ขึ้นมาทำอะไรกันเหรอ?”
“สวัสดีค่ะ/ครับ” ทีน่า และ ออนเนี่ยนเอ่ยทักทั้ง 3 ตอบ ก่อนทีน่าจะเอ่ยตอบคำถามของพวกเขา “เมื่อวานรบกวนรุ่นพี่คลาวด์ไว้ วันนี้เลยซื้อของมาขอคุณน่ะค่ะ”
“หื~อ? ของดินรึเปล่าไหนดูซิ!?” ทีดัสไม่ว่าเปล่าฉกถุงในมือคลาวด์มาเปิด ก่อนร้องโอ้โห~ ออกมาซะดังลั่น “ว้า~ว! ขนมปังไส้เดรกตั้ง 8 ห่อ เอามาได้ไงเนี่ย! ปกติลงไปซื้อทีไรแทบไม่เหลือทุกทีเลยนี่นา”
“ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวครับ” ออนเนี่ยนว่า (แอบฉกมาจากคนที่ซื้อ แล้วเอาเงินยัดใส่มือแทน)
“ซื้อมาเยอะจังเลย?” ฟีเนี่ยนเอ่ยถาม
“ซื้อมาเพื่อรุ่นพี่ทุกคนนั่นแหละค่ะ” ทีน่าตอบ
“จริงเหร~อ!?” ทีดัสดีใจแบบเวอร์
“แห~ม ใจดีจัง” เซซิลเอ่ยชม “งั้นไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาทำความรู้จักกันหน่อยดีกว่า ฉันเซซิล ฮาวีย์ ยินดีได้รู้จักจ๊ะ”
“ฉันทีดัส” ทีดัสเข้ามาแจม
“ฉันฟีเรี่ยน ยินดีได้รู้จัก” ฟีเรี่ยนปิดท้าย
“ออนเนี่ยน ไนท์ ยินดีได้รู้จักครับ” ออนเนี่ยนแนะนำตัวตอบ ก่อนก้มหัวให้รุ่นพี่ชื่อดังของโรงเรียนทั้ง 4
“ฉันทีน่า แบรนฟอร์ดค่ะ ยินดีได้รู้จักนะคะทุกคน” ว่าจบทีน่าก็ยิ้มให้ทุกคนอย่างสดใส และ ใสซื่อ ทำเอาหนุ่มๆ ทั้ง 3 หน้าแดงไปตามๆ กัน
‘อึ๋~ย...’ ทั้ง 3สะดุ้ง ขณะคิดถึงใครบางคนในใจ ‘ถ้า มาเรีย/โรซา/ยูนะ รู้ล่ะก็...’
“ทีน่ากินด้วยกันมั้ยจ๊ะ?” เซซิลถามด้วยทีท่าเป็นมิตร ขณะขยิบตาให้ทีดัส
“นั่นสิ! กินด้วยกันหลายๆ คนสนุกนะ!” ทีดัสว่า ก่อนส่งสายตาต่อไปให้ฟีเรี่ยน
“หื~อ?” ฟีเรี่ยนมองทีดัสงงๆ ก่อนถูกทีดัส และ เซซิลเอาศอกกระทุ้งสีข้างๆ เบา ไม่ให้รุ่นทั้ง 2 เห็น “อุก! เออ... ใช่ๆ...”
“...” เซซิล และ ทีดัส เหล่ตามองฟีเรี่ยน ก่อนสายหน้าอย่างหมดอะไรตายอย่างให้กับเพื่อนผู้แสนซื่อ (บื่อ) ของตน ที่รับมุขไม่ทัน
“อ๋~อ ไม่ล่ะค่ะ หนูกับออนเนี่ยนห่อข้ามากินด้วยกัน เชิญตามสบายเลยนะคะ” ทีน่าเอ่ยปฏิเสธอย่างไร้เดียง “ขอตัวนะคะ... ปะ ออนเนี่ยน ไปกินข้าวกัน”
“อื้ม! ขอตัวนะครับทุกคน” ออนเนี่ยนรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว ก่อนจับมือทีน่าเดินลงบันไดไปอย่างไม่รอช้า เนื่องมาจากความรู้สึกประหลาดที่เขาสัมผัสได้จากออร่าอันไม่เป็นที่น่าวางใจของทั้ง 3 ที่ลอยปกคลุมรอบตัวพวกเขา (แหะๆ ของฟีเรี่ยนน่าจะเบาบางที่สุดสินะ)
“ไปนะคะพี่รุ่นพี่คลาวด์” ทีน่าหยุดฝีเท้าลงก่อนเอ่ยบอกลาคลาวด์
“ละ แล้วเจอกันครับ รุ่นพี่สไตรฟ” ว่าจบออนเนี่ยนก็จูงมือทีน่าลงไปต่อ โดยมีคลาวด์ที่ยกมือให้เป็นเชิงตอบรับ
“แล้วเจอกัน” ทั้ง 3 ยืนเรียงแถวหน้ากระดานโบกมือให้รุ่นน้องทั้ง 2 ก่อนกระโดดมาซุ่มหัวอีกครั้ง
“ฉันรู้สึกว่า ความรักของเพื่อนเราจะมีเจ้าปีศาจตัวน้อยๆ คอยขัดขวางนะ” ทีดัสกล่าวเปิดประเด็น
“หมายถึงออนเนี่ยนนะเหรอ?” ฟีเรี่ยนถามซื่อๆ
“ก็จะใครอีกล่ะ?” ทัดัสตอบหน่ายๆ
“นายคิดมาเกินไปรึเปล่าทีดัส?” ฟีเรี่ยนถามซ้ำ
“แค่เพื่อนห่วงเพื่อนเฉยๆ น่า” เซซิลสบทบ
“ก็อาจจะใช่... แต่ก็ไม่แน่...” ทีดัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงลึกลับ ก่อนกลับมาใช้เสียงกวนๆ โทนเดิม “ยังไงก็ช่าง วันนี้ได้ของกินฟรี พวกเราลุย!”
“ฮัดชิ้~ว!” ออนเนี่ยนจาม
“เป็นหวัดเหรอออนเนี่ยน?” ทีน่าถาม
“ไม่รู้สิ...”
เลิกเรียน
“การบ้านเยอะจังเลย รีบกลับบ้านดีกว่า”
“อื้ม! พรุ่งนี้เจอกัน”
“บาย...!”
“รีบไปกันเถอะ ทีน่า” ออนเนี่ยนเอ่ยเร่งทีน่าเพิ่งเก็บกระเป๋าเสร็จ
“อะ อื้ม!” ว่าจบออนเนี่ยนก็จูงมือทีน่าไปยังจุดหมาย
“2 คนนั้นสนิทกันจังเลยเนาะ” ริทซ์พูดกับเดลิต้า
“อืม... ผิด กับ พวกนี้เลย…” ว่าจบทั้ง 2 ก็หันไปมองอีกมุมหนึ่ง
“สคอลล์กลับบ้านด้วยกันนะ!” บัทส์ และ ซีดาน กระโดดมาชวนสคอลล์
“ไม่...” คำตอบสั้นๆ ได้ใจความ ใครได้ฟังก็รู้เรื่อง... ยกเว้นสองคนนี้
“ทำไมอะ!?” ทั้ง 2 เอ่ยประสานเสียงกัน
“เรื่องของฉัน...”
‘หมอนี้พูดได้แค่นี้รึไง...’ เหล่าผู้มองเหตุการณ์คิดในใจ
“ไม่เอาน่า สคอลล์ มาด้วยกันเหอะ” บัทส์ว่าขณะเข้าไปพิงตัวสคอลล์ตีสนิท
“นี่ๆ” ซีดาน เดินเข้าไปข้างสคอลล์ ใช้หางดันตัวขึ้นให้ตัวเท่าพอๆ กัน ก่อนเอามือกอดคอ “เดี๋ย~วขากลับฉันจากพาที่ลินด์บลัม แถวนั้นขอบอก สาวๆ นี่ เพีย~บ!”
“ไม่สนใจ...” ว่าจบสคอลล์เดินออกไปอย่าไม่บอกกล่าว ทำเอาลิง 2 ตัวที่ยืนพิง และ กอดคอเขาอยู่ ล้มลงไปจูบพื่นทันที
“เดี๋ย~วเด้!” ทั้ง 2 รีบลุกขึ้นแล้วิ่งตามบากไปอีกเช่นเคย
“ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ลิงทั้ง 2 ยังคงตามบากต่อไป อย่างไม่ละความพยายาม” คนพากย์พากย์นิ่งๆ ส่ายหน้ายิ้มๆ
“เฮ้~อ... เหนื่อยแทนสคอลล์จริง” มัสทาดิโอว่า
“ตะ แต่ ฉันว่าน่าสงสารบัทส์ กับ ซีดานนะ” มิวท์กล่าว
“ทำไมล่ะมิวท์” แรมซ่าเอ่ยถาม
“ก็... พวกเขาแค่อยากเป็นเพื่อนกับสคอลล์เฉยๆ ไม่ใช่เหรอ... สคอลล์ก็ไม่เห็นต้องใจร้ายแบบนั้นเลยนี่นา” มิวท์อธิบาย
“ที่เธอพูดก็มีเหตึผลนะ” โอลิเวียเห็นด้วย
“เอาน่าๆ ดูๆ ไป เดี๋ยวพวกเขาก็ดีสนิทกันเองน่า” แรมซ่าว่าปิดท้าย
ในเวลาต่อมา ที่ห้องลับตรงโรงเก็บรถโรงเรียน
“เป็นไงบ้างทีน่า?” ออนเนี่ยนเอ่ยถามจากนอกประตู
“กลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว เปิดประตูให้ที” ทีน่าตอบรับ
“อื้ม! แป๊บนะ” ว่าจบ ออนเนี่ยนก็เปิดประตูให้ทีน่าออกมา
วื~ด!
“เป็นไงบ้าง?” ออนเนี่ยนเอ่ยถามอีกครั้ง
“ก็ดีนะ เหมือนเผลอหลับไป แล้วตื่นขึ้นมาแล้ว” ทีน่าตอบรับ “ถ้าเป็นแบบนี้ได้ทุกวันคงไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วล่ะ ขอบใจนะออนเนี่ยน”
“ยินดี...” ออนเนี่ยนเอามือถูจมูกอายๆ “เอาล่ะจบเรื่องแล้ว พรุ่งนี้เจอกันนะ”
“อื้ม พรุ่งนี้เจอกัน” ทีน่า และ ออนเนี่ยนโบกมือลาซึ่งกันและกัน ก่อนออนเนี่ยนจะกระโดดหายตัวไป
“ไปเร็วสมเป็นนินจาจริงๆ” ทีน่าเอ่ยยิ้ม พลางก้มลงไปหยิบกระเป๋าที่ตนวางไว้ที่กำแพงข้างๆ ประตู “เรากลับบ้านบ้างดีกว่า… เอ๋~?”
บรื้~น...!
“รุ่นพี่...!” ทีน่าโบกมือให้คลาวด์ที่ขี่มอเตอร์ไซด์ออกมาจากโรงเก็บรถ
“หื~ม?” คลาวด์ที่ได้ยินเสียงเรียกของทีน่าเลี้ยวรถเข้ามาหาเธอ ก่อนจอดรถ แล้วลงมายืนคุยกับเธอ “ไง... เป็นไงบ้าง?”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” ทีน่าตอบรับ “วันนี้ไปได้ด้วยดี...”
“แล้วเจ้าหนูนั่นล่ะ?” คลาวด์ถาม
“กลับไปแล้วค่ะ” ทีน่าตอบ “อีกเดี๋ยวหนูก็จะไปด้วยเหมือนกัน”
“อืม...” คลาวด์ว่าก่อนทำท่าจะขี่รถจากไป แต่ก็ชะงักลงเหมือนมีอะไรมาฉุดให้หยุดลง ก่อนหันไปถามรุ่นน้องสาวของเขา “ให้ไปส่งไหม...?”
“หะ หา~?” ทีน่าอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ “จะไม่รบกวนเหรอคะ?”
“ไม่เป็นไร ฉันวางอยู่...” คลาวด์กล่าว “มาสิ”
“เออ... ก็ได้ค่ะ” ทีน่ารับคำชวนอายๆ ก่อนก้าวขาขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซด์คลาวด์
“บอกทางด้วย...” คลาวด์เอ่ยเบาๆ
“คะ ค่ะ...” ทีน่าตอบเขินๆ นี่เป็นครั้งที่ได้ซ้อนมอเตอร์ไซด์ แม้จะหวั่นใจ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความหวังดีของคลาวด์ได้
“จับดีๆ ล่ะ…” คลาวด์บอก พลางสตาร์ทเครื่อง
บรึ้~น!
“อุ๊ย!” ด้วยความตกใจ ทีน่าเอาแขนเกาะเอวคลาวด์ไว้แน่นทันที
“หึ...” คลาวด์แอบยิ้มมองทีน่า ก่อนเริ่มออกเดินทาง
บรื้~น...!
บ้านรีเทรินเนอร์
บรื้~น...! เอี๊ย~ด!
“หื~ม?” เซเลสที่รดต้นไม้อยู่ระเบียงชั้น 2 ตรงหน้าบ้าน ก้มหน้าลงมามองตามเสียงมอเตอร์ไซด์ที่เหมือนจะจอดลงที่หน้าบ้านของเธอ
“ที่เหรอ?”
“ค่ะ...”
“ทะ ทีน่า!?” เซเลสอุทาน ทันทีที่เห็นทีน่าก้าวลงจากหลังรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ ก่อนยืนสนทนากันกับหนุ่มรูปหล่อเจ้าของรถ
“ทีน่าเหรอ?” เช่นเดียวกันกับเซเลส คนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ ผสานกับเสียงอุทานตกใจของเซเลส ทำให้ทุกคนต่างรีบเดินมาดูสถานการณ์ที่ระเบียง “โอ้~!”
“โห~ นี่เหรอ? หนุ่มโชคดี ผู้ได้หัวใจของทีน่าไปครอบครอง” เซทเซอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“หล่อไม่เบาเหมือนกันนะ” เซเลสว่าตาม
“ไม่กี่วันมาส่งกันถึงบ้านเลย” เอ็ดก้าร์ว่า “ไฟแรงเหมือนกันนะหมอเนี่ย”
“เอ... ใครรู้สึกร้อนๆ บ้างมั้ย?” ซาบินถาม
“นี่...” ไคอันเหมือนจะนึกอะไรออก “ล๊อคยืนอยู่ข้างหลังพวกเราใช้เปล่า?”
“...” ไม่รอช้าเหล่าสมาชิกบ้านรีเทรินเนอร์ก็หันไปมองด้านหลังตน
“ไอ้หมอนั่นสินะ...” ล๊อคเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ก่อนชักมีดออกมาด้วยท่าทางน่าขนลุก “ฉันจะไปเก็บมัน...”
ควับ! โครม~!
ทันทีที่ล๊อคทำท่าจะก้าวออกวิ่งลงไปเจือนคลาวด์ เหล่าหนุ่มที่อยู่แถวนั่นก็กระโดดรวบตัวหยุดเขาไว้ทัน
“ปล่อย!ๆ ฉันจะไปฆ่ามาน...!” ล๊อคไม่ยอมแพ้ยังคงดึงดันพยายามดิ้นให้หลุดจากเพื่อนทั้ง 4 ของเขา
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” เด็กสาวผมทองตัวเล็กเดินเข้ามาหาพวกเขาทันทีที่ได้ยืนเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้น
“เรลม์ ไปเรียกม็อกกับอุมาโร่มาช่วยทางนี้ที” เอ็ดก้าร์เอ่ยขอเด็กน้อยคนนั่น
“อะ โอเค” เด็กสาวนามเรลม์ยังงงๆ อยู่ แต่ก็รีบทำตามโดยดี
“เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
“อืม”
บรึ้~น! บรื้~น...!
แอ๊~ด... ปับ!
“กลับมาแล้วค่~า!” ทีน่าเอ่ยบอกคนในบ้านอย่างอารมณ์ดีอีกครั้ง
“กะ กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ” เซเลสที่เดินยิ้มแหย่ๆ ลงมาจากบันใด เอ่ยทัก
“ทุกคนไปไหนหมดคะ?” ทีน่าเอ่ยถามเมื่อรู้สึกว่าบ้านดูเงียบๆ
“ยะ อยู่ในห้องของพวกเขาแหละ แปลกนะ วันนี้เงียบจนผิดปกติ” เซเลสชวนคุย
“งั้นหนู ขึ้นไปทำการบ้านในห้องนะคะ” ทีน่าบอกก่อนเดินขึ้นห้องไป
“วิ้~ว...” เซเลสเอามือเช็ดเหงื่อ ก่อนเดินเข้าไปในห้องของเธอ และ ล๊อค
“เป็นไงบ้างเซเลส?” เอ็ดก้าร์ถาม
“ทีน่าเข้าไปทำการบ้านในห้อง ส่วนหนุ่มคนนั่นก็ขี่รถออกไปแล้ว” เซเลสตอบ
“เอาล่ะ ม็อก อุมาโร่ ปล่อยเขาได้” เอ็ดก้าร์เอ่ยบอก ม็อกมูเกิลตัวน้อยที่มัดปาก และ เยติตัวหัวใหญ่ที่กอดล๊อคไว้ไม่ให้ขยับตัว ให้ปล่อยนักโทษได้
“เพื่อนกันทำได้ลงนะพวกนาย!” ล๊อคโวยน้อยๆ “ไม่เป็นไร! วันนี้ไม่ได้ ฆ่าพรุ่งนี้ก็ได้ฟะ!” ว่าจบล๊อคก็เดินงอนออกนอกห้องไป
“เฮ้~อ... ทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้...” เซทเซอร์ส่ายหน้าน้อยๆ
“เหอะๆ คนมีลูกสาวก็เป็นแบบนี้ทุกคนแหละ” ไคอันผู้มีประสบการณ์เอ่ย
“แต่ก็น่าดีใจกับทีน่านะ เขาได้มีคนที่ชอบกับคนอื่นเขาแล้ว” เอ็ดการ์ว่า
“นั่นสิ! เพราะงั้นเซเลส วันนี้ต้องฉลองด้วยกับข้าวมื้อใหญ่!” ซาบินกล่าว
“ก็ได้ๆ งั้นฉันไปเข้าครัวละนะ” เซเลสว่าก่อนเดินปลีกตัวไป ‘ดีใจด้วยนะ ทีน่า...’
ดิสสิเดีย วันต่อมา เวลาเลิกเรียน ณ ห้องผู้อำนวยการ
ท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าที่สดใส คอสมอสที่ยืนมองหน้าต่างจากบนห้องของตนดูเหล่าเด็กที่ถยอยกันเดินเข้าโรงเรียนอย่างมีชีวิตชีวา
‘นี่ก็เริ่มเทอมใหม่ มาได้เกือบอาทิตย์แล้วสินะ...’ คอสมอสคิด
ก๊อ~กๆ!
“วอริเออร์ ออฟ ไลท์ ขออณุญาติครับ อาจารย์” เสียงไลท์ที่อยู่หน้าประตูห้องเอ่ยรายงานตัวหลังเคาะประตูตามมารยาท
“เข้ามาเลยจ๊ะ” คอสมอสเชิญไลท์เข้ามา ขณะยืนรออย่างสงบ ทันทีที่ได้ยินเสียงปิดประตูเรียบร้อย เธอก็เอ่ยเปิดประเด็นทันที “เป็นไงบ้างจ๊ะ?”
“นอกจากปี 2 สามคนถูกทำร้ายอาการสาหัส และ เหตุการณ์ถล่มห้องปี 1 ทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี นักเรียนส่วนใหญ่พอใจกับการได้เข้าเรียน สรุป สถานการณ์ในอาทิตย์แรกค่อนข้างดีครับ” ไลท์รายงาน
“อืม... แล้วเหล่านักเรียนทุนเป็นยังไงบ้าง?” คอสมอสถามต่อ
“ครับ นักเรียนทุนปี 3 เป็นที่สภาทั้งหมดจึงไม่มีอะไรน่าห่วง” ไลท์รายงานต่อ “นักเรียนทุนปี 2 ทั้ง 4 ก็ยังไม่มีอะไรมากมาย... ยกเว้นคลาวด์ สไตรฟ...”
“คลาวด์เป็นอะไรงั้นเหรอ?” คอสมอสถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าครับ แค่เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์นั่น แต่ตอนนี้เราได้ข้อพิสูจแล้วว่าเขาบริสุทธิ์” ไลท์ยังคงว่าต่อไป “แต่นั่นก็ทำให้ชื่อของเขาถูกนำขึ้นมากล่าวถึงตั้งแต่อาทิย์แรก ดูท่าปีนี้จะมีเรื่องลำบากให้เขาตั้งแต่เริ่มเทอมใหม่เลยครับ”
“อืม... เราก็ต้องค่อยช่วยเหลือเขาต่อไป...” คอสมอสพยักหน้ารับคำ “แล้วทางนักเรียนทุนปี 1 ล่ะ?”
“ทั้ง 5 คนก็ยังไม่มีข้อมูลอะไรมากครับ ดูท่ากำลังปรับตัวอยู่ เราคงต้องดูไปเรื่อยๆ ล่ะครับ” ไลท์ว่าจนจบ
“อืม... ขอบคุณนะไลท์” คอสมอสเอ่ยขอบใจไลท์
“ยินดีครับอาจารย์” ไลท์โค้งรับคำขอบคุณ
“อาทิตย์แรกก็ถือว่าไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่ ไม่ใช่สิ ค่อนข้างดีซะด้วย...” คอสมอสเอ่ยยิ้มๆ “ไม่แน่นะ ปีนี้อาจจะเป็นปีที่มีความสุขก็ได้”
“ครับ...” ไลท์ตอบรับ
ห้องครูใหญ่
“อืม... สไตรฟ เป็นประเด็นที่ถูกนำขึ้นมาถกเถียงตั้งแต่อาทิตย์แรกเลยเหรอ...” ครูใหญ่เคออสกอดอกครุ่นคิดขณะฟังรายงานจากการ์แลนด์
“ครับ... ท่านคิดว่ายังไงครับ” การ์แลนด์เอ่ยถามความเห็น
“คงยังสรุปอะไรไม่ได้หรอก... เราคงต้องจับตาดูต่อไป... ถ้าเกิดสไตรฟก่อเรื่องเหมือนปีที่แล้วอีก เขาก็ต้องถูกไล่ออก แล้วคอสมอสที่รับร้องสถานะของเขาก็จะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย...” เคออสเอ่ยความเห็นออกมา
“งั้นเราก็คงต้องรอให้สไตรฟก่อเรื่องสินะครับ...” การ์แลนด์พยักหน้าเข้า
“ที่จริงฉันก็ไม่อยากให้ดิสสิเดียแห่งนี้ ต้องเสียชื่อเสียงเพราะกระทำของเด็กพวกนี้หรอกนะ แต่ถ้ามันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ก็คงต้องยอม...” เคออสกล่าว “ฝากด้วยล่ะ การ์แลนด์”
“ครับ...” การ์แลนด์ก้มหัวรับคำสั่ง
ห้องพยาบาล
“ขอบใจที่เล่าให้ฟังนะ” อันติเมเซียครูสาวประจำห้องพยาบาลเอ่ยบอกเด็กชายที่เข้ามาทำแผล “เอาล่ะ... ดูแลตัวเองดีๆ นะ”
“ยินดีครับ ขอบคุณครับอาจารย์” เด็กหนุ่มวว่าก่อนเดินออกจากห้องพยาบาลไป
แอ๊~ด... ปับ!
“...” อันติเมเซียมองดูประตูห้องที่นักเรียนคนเมื่อครู่เพิ่งเดินออกไปอยู่พักหนึ่ง ก่อนลุกขึ้นไปล๊อคประตู
แกร็~ก...
“เป็นไงบ้าง?” ครูหนุ่มเมเทอัสที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ใกล้ๆ กัน เอ่ยขึ้น
“เด็กนั่นบอกว่า ทางสภาบอกว่าคนที่เป็นตัวการของเหตุการณ์ถล่มห้องปี 1-A คือสไตรฟ” อัลติเมเซียว่า “แต่ตรวจสอบสอบดูดีๆ แล้ว กลับพบว่าสไตรฟบริสุทธิ์”
“หมายความว่าไงกัน? หรือว่าพวกสภานักเรียนตั้งใจจะเก็บความผิดครั้งนี้ของสไตรฟเป้นความลับ?” เมเทอัสเอ่ยถาม
“ฉันก็ไม่รู้...” อันติเมเซียกล่าว “แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีกับเรา... ยิ่งมีข่าวแย่ๆ เกี่ยวกับโรงเรียนนี้มากเท่าไหร่ เราก็มีโอกาศคุมอำนาจของโรงเรียนมากเท่านั้น...”
“นั่นสินะ...” เมเทอัสกล่าวสมทบ “ถือเป็นลางดี... ไม่แน่ปีนี้อาจจะเป็นปีของพวกเราก็ได้...”
“ตำแหน่งของ คอสมอส และ เคออส ต้องตกเป็นของเรา หึๆๆๆ... ฮ่าๆๆๆ...!”
ดาดฟ้า
“มีอะไร...” เซฟที่ยืนมองวิวจากชั้นบนสุดของตึกเอ่ยถาม กอลเบซที่เดินเข้ามาหาเขา
“ขอคุยด้วยหน่อย...” กอลเบซบอก
“ก็พูดมาสิ...” เซฟไม่ว่าอะไรปล่อยให้กอลเบซมายืนเคียงข้างตนตามสบาย “นายคิดยังไงกับโรงเรียนนี้...” กอลเบซเปิดประเด็น
“เป็นสถานที่ที่ดีที่หนึ่ง...” เซฟตอบสั้นๆ
“งั้นนาย...”
“ไม่ต้องห่วงกอลเบซ... ฉันบอกแล้วว่าฉันอยู่ฝ่ายนาย” เซฟเอ่ยสวนกอลเบซ “คอสมอส เป็นผู้มีพระคุณของฉัน ฉันไม่คิดจะทรยศเธอหรอก”
“แล้วทำไมนายถึง...”
“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่ใช่เหรอ?” ยังไม่ทันกอลที่เบซได้พูดจบ เซฟก็เอ่ยสวนขึ้นมาอีกครั้ง “อย่ากังวลไปเลย ฉันไม่ทำให้โรงเรียนนี้เป็นอะไรไปหรอก...”
“แต่ว่า...”
“นายจะเซ้าซี้ทำไมห๊ะ?”
“นายก็ให้ฉันพูดบ้างสิ!” กอลเบซที่ทนไม่ไหวที่ถูกแย่งบทเอ่ยสวนบ้าง “เฮ้~อ... ก็ได้... ฉันจะเชื่อใจนาย... อย่าทำให้ ผอ.คอสมอส ผิดหวังล่ะ...”
“หึๆ…” เซฟหัวเราเบาๆ “นายอย่ามาเสียเวลาสนใจฉันดีกว่า... เอาเวลาไปจับตาดู ยัยผู้หญิง 2 หน้า กับ ทายาทจักรพรรดิ์ตุ๊ดนั่นดีกว่า...”
ห้องพยาบาล (อีกครั้ง)
“ฮัดชิ้~ว...!” อันติเมเซีย และ เมเทอัส จากออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นันหมาย
กลับมาที่เดิม
“...” กอลเบซไม่ว่าอะไร ทำแค่กลับหลังหันแล้วเดินจากไป
‘ฉันยังมีภาระที่ต้องทำอยู่... คงทำอย่างที่นายไม่ได้หรอกกอลเบซ’ เซฟคิดในใจก่อนมองดูวิวเหล่านักเรียนที่บ้างก็ทยอยกันกลับบ้าน บ้างก็นัดไปเที่ยว บ้างก็ทำกิจกรรม ในโรงเรียนอย่างสุนทรีย์ เป้นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่หาได้ง่าย
รอบโรงเรียน
ฟีเรี่ยน
“เอาล่ะ... วันนี้บำรุงปุ๋ยชีวภาพก่อนกลับแล้วกัน”
“รุ่นพี่ฟีเรี่ยน ถุงนี้ใช่ไหมครับ?”
“ใช้แล้ว ใส่ถุงมือแล้วโรยให้รอบแปลงเลย”
เซซิล
“เอาล่ะทุกคนแยกย้ายได้ วันจันทร์หน้าเจอกัน”
“ครับ!”
“อ๋~อ! แล้วอย่าลืมทำรายงานมาด้วยล่ะ รับทราบ?”
“ครับ!”
ทีดัส
“เอานี้ไปกิน บลิสเอซ...!”
ฟุบ! โกลด์!
“วู้~…! ยอดไปเลยทีดัส!
ออนเนี่ยน
‘เอาล่ะ เรื่องของทีน่าเรียบร้อยแล้ว กลับสำนักดีกว่า’
ฟุบ!
‘เอาล่ะ วันนี้ทำสถิติใหม่ดีกว่า’
สคอลล์
“...”
บัทส์ และ ซีดาน
“ว้~า...! ตามสคอลล์ไม่ทันอีกแล้ว!”
“นั่นดิ... ขนาดพวกเราวิ่งตามนะเนี่ย...”
“หรือว่าเพราะเราขาสั้นเลยตามไม่ทัน?”
“จริงด้วย! ใช่แน่ๆ!”
ไลท์
“งั้นผมขอตัวนะครับ อาจารย์...”
“จ๊ะ กลับดีๆ นะ...”
“สวัสดีครับ...”
คลาวด์ และ ทีน่า
“ไม่ลำบากจริงๆ เหรอคะ?”
“ไม่เป็นไร... ขึ้นมาเหอะ...”
“งั้นก็... รบกวนด้วยนะคะ...”
บรึ้~น! บรื้~น…!
และแล้ว อาทิตย์แรกของภาคเรียนใหม่แห่ง ม.ปลาย ดิสสิเดีย ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทีน่าได้ เจอกับเพื่อน และ รุ่นพี่ที่เข้าใจ และ พร้อมให้ความช่วยเหลือเธอ คลาวด์ได้พบกับความรู้สึกประหลาดที่เขาเคยได้รู้สึกมาก่อนอีกครั้ง ออนเนี่ยนกลายเป็นอัศวินตัวน้อยๆ ของทีน่า เหล่าเพื่อนซี้ทั้ง 3 ของคลาวด์ ก็กลายเป็นสมาคมเม้าเพื่อนไปซะงั้น ทางบัทส์ กับ ซีดานก็พยายามผูกมิตรกับสคอลล์อยู่อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะยังปฏิเสธอยู่ไม่ขาดปาก แต่ก็ดูเหมือนว่าหนุ่มบากเริ่มเปิดใจแล้ว ส่วนไลท์ ก็ยังคงเป็นประธานผู้ทรงเกียรติ์ที่คอยดูแลทุกคนในโรงเรียนต่อไป
ช่างเป็นเวลาที่แสนสงบสุข แต่คงเป็นแบบนี้อีกไม่นาน เงามืดแห่งการแย่งชิงอำนาจกำลังคืบคลานเข้ามา จากนี้ไป การต่อสู้กันอย่างลับๆ ภายในดิสสิเดียแห่งนี้ ได้เริ่มขึ้นแล้ว เรื่องราวบทใหม่แห่ง ไฟนอล แฟนตาซี เริ่มขึ้นแล้ว...
ความคิดเห็น