ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Prince of Tennis in Three Kingdoms The Red Cliff

    ลำดับตอนที่ #3 : Match 2 ย้อนเวลาสู่ยุคสงคราม ขบวนอพยพที่ถูกโจมตี

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 52


    href="file:///C:\DOCUME~1\user\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />

    Match 2

    ย้อนเวลาสู่ยุคสงคราม

    ขบวนอพยพที่ถูกโจมตี

                    

               

    เหวอ...!!!”

                ตุบ!!

              โออิชิกับคิคุมารุ 2 หนุ่มคู่หูแร็กเก็ตทองผู้ถูกพายุประหลาดหอบขึ้นฟ้าหายไปเป็น 2 คนแรกหล่นตุบลงมาฟ้าเหมือนใบไม้บนต้นที่ร่วงจากยอดไม้ลงมาสู่พื้นดิน (อาจจะลงมาเร็ว และ แรงกว่านะ ฟังจากเสียงกระทบพื้นบอกได้เลยว่าเจ็บแน่ๆ)

                อู~ย... เป็นไงบ้างเอจิ โออิชิหันไปถามเพื่อนหนุ่มผู้ร่วงลงมาด้วยกัน

                เจ็บนะสิถามได้... คิคุมารุตอบพลางลูบหัวตัวเองเบาๆ

                ว๊า~ก...!!!”

                หา~? ทั้ง 2 เงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่กำลังร่วงลมมาไม่ไกลจากพวกเขานัก

                ปัง!!

              เอ่~อ... โมโมะครางหลังลงพื้นด้วยหน้าอย่างจัง ซวยกว่านี้มีมั้ยเนี่~ย...

    พลั่ก!!

    อุก…!!” โมโมะถึงกับอ้าปากร้องตาเหลือกเมื่ออินูอิที่ร่วงตามมาหล่นลงมานั่งตรงกลางหลังตนพอดี

                อ้าวโมโมะ!?อินูอิเอ่ยทักเบาะรองรับมีชีวิตที่ตนหล่นมาทับ

                ซุ่ม!!

              อั๊ก...!!/ไคโด!?/” อินูอิเรียกชื่อหนุ่มอสรพิษที่ร่วงลงมาทับตนอีกทีหนึ่ง

                รุ่นพี่...!? ไคโดนั่งมองหน้าคนที่ตนทับค้างไว้อยู่โดยไม่รู้ว่าคนอีกข้างล่างนั้นร่อแร่เต็มที่แล้ว

                เบรินนิ่ง...!!” เสียงอันแสนจะคุ้นหูที่ฟังเหมือนกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำอินูอิและ ไคโดมองขึ้นไปข้างบนเหนือหัวตนอย่างหวาดๆ และแล้วสิ่งที่พวกเขากำลังกลัวอยู่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

                หลบปา~ย...!!!”

                ตูม!!

              เหอ~?

    รุ่นพี่คาวามูระ!!/คุณทากะ!!” 2 หนุ่มร้องเรียกชื่อบุรุษที่ดับเครื่องชนเหาะลงมาทับพวกเขาซะเต็มตัวจนแร็กเก็ตหลุดมือทำให้ออกจากสถานะไฟลุกไปทันที

                เฮ้ย~!! โทดที!! เป็นไงบ้าง!? ไคโด! อินูอิ! เอ๋~? แล้วใครนอนจมดินอยู่นั่นน่ะ

                แอ๊~... โมโมะครางตอบคาวามูระที่กำลังมองมายังร่างของตนที่สภาพดูไม่ได้จนน่าจะเรียกเป็นศพซะมากกว่า (ซวยพอรึยังโมโมะ สมพรปาก...)

                จะถึงพื้นล่ะนะ! ทุกคนเตรียมตัวไว้นะ!” ฟูจิที่โอบเอาปีหนึ่งทั้ง 5 ไว้ในอ้อมแขนร้องเตือนพวกรุ่นน้องขณะที่พื้นดินใกล้เข้ามาทุกทีจนในที่สุด ฮึ๊บ!”

                พลั่ก! ครืด...!

              เฮอ... ฟูจิคลายมือออกหลังจากเอาหลังลงครูดกับพื้นรับแรงกระแทกให้เหล่าปี 1 ทั้งห้าที่อยู่ในอ้อมกอดของตนไม่ให้บาดเจ็บ (โห~... พระเอ๊~ก พระเอก)

                รุ่นพี่ครับ!/รุ่นพี่ฟูจิค่ะ!/เป็นอะไรรึเปล่าครับ!?/เจ็บมั้ยค่ะรุ่นพี่!?” เหล่ารุ่นน้องทั้ง 5 ร่มถามด้วยความเป็นห่วง ขณะค่อยๆ พยุงฟูจิขึ้น

                ฉันไม่เป็นไร... พวกเธอปลอดภัยกันก็ดีแล้ว ฟูจิลุกขึ้นก่อนหันไปมองคนอื่นๆ

                โทดนะโมโมะ เป็นไงบ้า~…” คาวามูระเอ่ยถามรุ่นน้องผู้ถูกรุมทับจนจมดิน และ เพิ่งถูกแงะขึ้นมานั่งขัดสมาธิปลงอนิจจังอยู่หน้าจำเลยทั้ง 3 คน

                ไม่เป็นไรหรอกครับคุณทากะ โมโมะบอก

                ใช่ครับรุ่นพี่ ทนไม้ทนมืออย่างหมอนี่ แค่นี้ไม่ถึงกับตายหรอก ไคโดเหน็บแนม

                แกว่าไงนะเจ้างูพิษ!!” โมโมะลุกขึ้นมาแหกปากเอาหัวชนหัวกับไคโด

                แกโง่เอง! มั่วแต่นอนค้างให้คนอื่นเขาหล่นลงมาทับอยู่ได้!” ไคโดโต้กลับ

                หน่อ~!! หล่นมาทับคนอื่นแล้วยังมีหน้ามาว่าฉันอีกเหรอ!!” โมโมะไม่เลิกรา

                ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่บนตัวแกซักเท่าไหร่หรอก!! ชู่ว์...!!” ไคโดก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน

                ไม่เอาน่~า พวกนาย... คาวามูระเอ่ยห้าม

                ทุกคนเป็นไงบ้างฮะ…!?เสียงเรียกของคนที่เด็กที่สุดในตัวจริงเซงาคุเรียกเอาความสนใจของทุกคนหันไปมองอีก 2 คนที่มาเป็นอันดับสุดท้าย

                 ชึบ... ตึก!

              2 หนุ่มลงพื้นได้อย่างนิ่มนวลผิดกับคนอื่นๆ ซึ่งตอนนี้กำลังมองดูผู้ที่มาเป็นคู่สุดท้ายลงพื้นอย่างสวยงาม (เหอะๆ ฝีมือคนละชั้นจริงๆ)

    มีใครบาดเจ็บรึเปล่า...? เทะสึกะถาม

    คิดว่าไม่มีนะ... โออิชิเดินนำทุกคนมารวมตัวกันที่หน้าเอจิเซน และ เทะสึกะ นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

    ... ทุกคนเงียบเสียงไปเหมือนไม่มีใครรู้

    น่าจะเป็นการปรากฏของหลุมอากาศที่ทำให้เกิดมิติผันผวนคล้ายพวกหลุมหนอนที่อยู่ในอวกาศเคลื่อนย้ายเรามาล่ะมั้ง อินูอิว่า

    มันจะใช่เหร~อะ...เอจิเซนบ่นพึมพำ

    มีอะไรเหรอเอจิเซนอินูอิหันหน้ามาถามต้นเสียง

    เปล่าฮะ...เอจิเซนเบือนหน้าหนี

    มีใครคิดทฤษฏีอื่นนอกกจากนี้ได้อีกมั้ย? คนถามหันดูรอบๆ ที่ไร้ปฏิกิริยาจากบรรดาเพื่อนร่วมชะตากรรม เอาล่ะ มีคำถามเดียวที่ต้องถาม มีใครรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน?

     ถ้าเดาไม่ผิด... ที่นี้คือประเทศจีน

     อ๋~อ จีนนี้เอง…”

     หา~!!! ประเทศจีน!!! ชู่ว์...!” ทุกคนเบิกตากว้างก่อนร้องอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน (อันเสียงงูนี้ไคโดทำคนเดียวนะ)

    แน่ใจเหรอเทะสึกะ โออิชิถามซ้ำ

    ไม่รู้สิ... อาจจะไม่ใช่ก็ได้...

    ไม่เหรอ... ที่นี้ประเทศจีนจริงๆ ฟูจิว่าสวน

    นายแน่ใจได้ไง อินูอิถาม

    นั่นไง ฟูจิชี้นิ้วไปที่อะไรบางอย่างที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรข้างหลังพวกเขา

    หือ~? ทุกคนหันไปมองสิ่งนั้นพร้อมกัน และ ภาพที่พวกเขาได้เห็นก็ทำเอาทุกคนถึงกับทำหน้าแหย่ตีคิ้วไปตามๆ กัน

    ประเทศจีน! ป้ายไม้โกโรโกโสอันหนึ่งซึ่งดูจะปักลงอย่างไม่มั่นคงนักอยู่ที่ปลายเนินที่พวกเขายืนอยู่ (เฮ้ย~!? อะไรวะเนี่ย~? มี่งี้ด้วย...?)

    ใครมันอุตริเอาป้ายพรรณนี้มาปักไว้วะ...เหล่าสมาชิกชมรมเทนนิสคิด

    เห็นมั้ย... แค่ดูก็รู้แล้วก็รู้แล้วว่าภาษาจีน ฟูจิเอ่ยเสริม

    เอ๊ะ~! ป้ายนั้นมันแปลกๆ นะแง่~ว? คิคุมารุเดินไปดึงป้ายที่ปักอยู่ขึ้นมาดู

    มีอะไรเหรอ เอจิ? คาวามูระเดินเข้ามาดูใกล้ๆ อีกคน

    ก็นี้ไง คิคุมารุชูป้ายให้ทุกคนดู นี้มันตัวอักษรภาษาจีน!”

    อื้อแล้วมันเป็นยังไงเหรอ คาวามูระถาม

    นายอ่านออกใช่มั้ย? คิคุมารุถามคืน

    ก็ออกน่ะสิ... คาวามูระตอบงงๆ

    พวกนายอ่านออกใช่มั้ย? คิคุมารุหันไปถามคนอื่นๆ

    อื้ม... ทุกคนพยักหน้า

    แล้วพวกเราอ่านออกได้ไงล่ะ!? นี้ภาษาจีนนะ!” คิคุมารุว่า

    ... ทุกคนยังมองมายังผู้ที่ถือป้ายอยู่อย่างงงๆ แต่ในที่สุด

    จริงสินะ... เราเป็นคนญี่ปุ่น แล้วอ่านภาษาจีนออกได้ไง? ฟูจิเอะใจเป็นคนแรก

    เออใช่!/จริงด้วย!” ทุกคนประสานเสียงอุทานพร้อมกันอีกครั้ง

    ฉันว่ามันชักไม่ใช่การผันผวนของมิติธรรมดาแล้วล่ะ อินูอิ... เทะสึกะเอามือขึ้นกอดอกขณะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก

    อืม... ฉันก็ชักไม่มั่นใจกับทฤษฎีนั้นแล้วสิ อินูอิขยับแว่นก่อนหันมาหาคิคุมารุที่กำลังเอาป้ายปักไว้ที่เดิม แต่จะว่าไปนายก็ยอดไปเลยนะเอจิ แค่มองผ่านๆ ก็เห็นทันทีเลยว่ามันผิดปกติ สมแล้วที่เป็นคนที่มีสายตาดีที่สุดในเซงาคุ

                ของมันแน่อยู่แล้ว คิคุมารุเอานิ้วชี้ถูจมูกแก้อาย

                แห~ม เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ารุ่นพี่คิคุมารุก็สังเกตอะไรที่เป็นประโยชน์เป็นด้วย ว่ามะ?

                ว่างั้นแหละฮะ.../อันนี้ฉันเห็นด้วย ชู่ว์...เอจิเซนกับไคโดเอ่ยรับคำโมโมะอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

                นี่พวกนาย!” คิคุมารุหันไปแยกเขี้ยวใส่รุ่นน้องทั้ง 3 ที่กำลังยืนนินทาเขาแบบระยะเผาขน

                หืม~? ระหว่างที่คนอื่นกำลังมองภาพคิคุมารุเขม่นสายตาใส่อีกสามคนที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้น สายตาของซากุโนะก็หันไปสะดุดเข้ากับเทะสึกะที่แยกตัวไปยืนอยู่คนเดี่ยวที่ริมสุดเนิน ทำท่าเหมือนกำลังมองดูอะไร

                กัปตันค่ะ...? ซากุโนะเดินเข้าไปทักเทะสึกะ

                หื~ม...? เทะสึกะหันมามองสาวน้อยที่เดินเข้ามาหาตน มีอะไรเหรอริวซากิ?

                กัปตันมองอะไรอยู่คะ? ซากุโนะถาม

                ดูนั้นสิ... ซากุโนะหันหน้าไปมองทางเดียวกับเทะสึกะมอง และ ภาพที่เห็นก็คือ

                คนนี่นา!” เสียงของซากุโนะเรียกเอาความสนใจของทุกคนให้หันทางตนทันที

                ไหน!” คิคุมารุ กับ โมโมะ วิ่งกรูเข้ามาดูพร้อมกับ ไคโดที่ถูกฉุด และ เอจิเซนที่ถูกหิ้วคอมาด้วย ขณะพวกที่เหลือค่อยๆ เดินตามมา

                นั้นไง! คนจริงๆ ด้วย!” โมโมะร้องโหวกแหวกขณะชี้มือลงเบื้องล่างเนินที่พวกเขายืนอยู่ ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยกลุ่มคนนับไม่ถ้วนที่กำลังทยอยกันเดินจับกลุ่มเป็นขบวนผ่านใต้เท้าพวกเขาไป

                พวกเขาจะไปไหนกันน่ะ คาจิโร่ถามขึ้นมาลอย

                แล้วฉันจะไปรู้ได้ไง โฮริโอะตอบกวนๆ

                มันจะยากอะไรเล่า ก็ลงไปถามเซ่~! ไปกันเถอะเอจิเซน!”

    ไม่เอา อะ!” เอจิเซนทำท่าจะปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะได้เอ่ยค้านอะไร โมโมะก็เอามือจับคอเสื้อรุ่นน้องตัวดีที่ตนเพิ่งปล่อยมืออกเมื่อกี้ลากลงเนินไปด้วยกัน

    เฮ้! รอด้วยเซ่~!” คิคุมารุวิ่งตามไป

    อย่าไปกันเองสิพวกนาย!” โออิชิพยายามห้ามแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

    ผมไปตามให้ครับ... ไคโดอาสาก่อนจะวิ่งตามไปอีกคน

    เฮ้~อ... โออิชิส่ายหน้าถอนหายใจก่อนหันไปหาเทะสึกะ เฮ้ เทะสึกะ ทำไมเห็นว่ามีคนมาแล้วไม่เรียกพวกเราล่ะ?

    ก็มันดูแปลกๆ น่ะสิ…” เทะสึกะตอบ

    แปลก? แปลกยังไงเหรอเทะสึกะ? โออิชิถามต่อ

    พวกนายดูการแต่งตัวของคนพวกนี้สิ... เทะสึกะว่า

    หือ~? อีก 10 คนที่เหลือ (ตัวจริง 5 กับตัวแถมอีก 5) มองลงไปยังกลุ่มคนที่ยังคงเดินผ่านเนินที่พวกเขายืนอยู่ไปเรื่อยๆ

    เอ๋~!? โทโมเอะเอ่ยขึ้นคนแรก ทำไม่แต่งตัวกันอย่างนั้นล่ะ?

    ภาพที่พวกเขาเห็นคือเสื้อผ้าของคนเหล่านั้นเกือบทุกคนเป็นผ้าเก่าๆ ธรรมดาๆ ไม่เหมือนผ้าใยสังเคราะห์แบบปัจจุบัน พร้อมกับผ้าคาดเอว และ รองเท้าฟางที่ดูเหมือนจะผ่านการใช้มาอย่างหนักไม่น้อย

    เหมือนคนที่มาจากสลัมเลย คาสึโอะว่า

    ไม่แน่อาจจะเป็นอย่างคาสึโอะพูดก็ได้โออิชิออกความเห็น

    ดูดีๆ สิ... ไม่ใช่แค่การแต่งตัวที่แปลก... ทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่ติดตัวมาด้วยต่างก็ดูเป็นของโบราณทั้งนั้น แถมยังใส่เกวียนลากมาอีกต่างหาก... ฟูจิเสริม

    หรือว่า...อินูอิเบิกตากว้าง (แต่มองไม่เห็นตาเพราะว่านบัง) เมฆนั้นนอกจากจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายสสารข้ามมิติแล้ว ยังทำให้เกิดการผันผวนของเวลาอีกด้วย

    ~!? ทุกคนอุทาน

    ม.ม. หมายความว่า พวกเราถูกซัดเข้ามาในมิติอะไรนั้นทำให้ย้อนเวลามาตกอยู่ที่จีนในสมัยก่อนงั้นเหรอ? โออิชิเอ่ยด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล

    ก็อาจจะเป็นไปได้นะ แค่อาจจะนะ

    ไม่เหรอก... เทะสึกะว่าสวนขึ้นมา มันน่าจะใช่อย่างที่นายพูดแหละอินูอิ...

    ทำไมถึงได้แน่ใจขนาดนั้นล่ะ? ฟูจิถาม

    ฉันกับเอจิเซนฝันถึงบางอย่างเกี่ยวกับจีนสมัยราชวงศ์ฮั่นน่ะสิ... เทะสึกะตอบ

    ฝันงั้นเหรอ? ฟูจิมองเทะสึกะงงๆ

    ใช่... ฝันเหมือนกันเปี๊ยบเลยด้วย ราวกับเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง…”

    ไหนลองเล่าให้ฟังซิเทะสึกะ ฟูจิบอก

    เฮ้~…!!!/ทหารวุ่ย...!!!/หนีเร็ว...!!!/กรี๊~…!!!/ว้า~ก...!!!”

    อะไรน่ะ!?ทุกคนถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกโว้ยวายที่ดังขึ้นมา

    แย่แล้วๆๆๆ…!!” คิคุมารุที่กำลังวิ่งขึ้นเนินมาตะโกนเรียก

    มีอะไรเหรอเอจิ? โออิชิถาม

    แฮ่กๆ พวกเจ้าเปี๊ยก แฮ่ก…” คิคุมารุหอบเล็กน้อยก็ว่าต่อ ถูกพาตัวไปแล้ว!!”

    นี้... รุ่นพี่... เรียวมะพูดขึ้นขณะที่ยืนเต๊ะท่าล้วงกระเป๋าอยู่อย่างไม่สบอารมณ์ทั้งๆ ที่ยังทำหน้าตายอยู่เหมือนเดิม เราอยู่ที่ไหนเนี่ย…”

    แล้วฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะ ถูกลากมาด้วยกันยังจะถามอีกโมโมะตอบเซ็งๆ

    แล้วมันเพราะใครล่ะที่ทำให้เราต้องโดนลากมาอย่างงี้! ชู่ว์…!” ไคโดเอ่ยกัด

    เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน หลังจากที่โมโมะกับคิคุมารุที่หิ้วเอาเอจิเซนวิ่งลงมาหากลุ่มคนข้างล่างหวังจะสอบถามอะไรหลายๆ อย่าง พร้อมกับไคโดที่วิ่งตามาติดๆ จู่ๆ ก็มีกลุ่มคนในชุดเกราะนับพันคนที่คาดว่าน่าจะเป็นทหาร ควบม้าตรงเข้ามาทางพวกเขาที่กำลังปะปนอยู่กับขบวนนั้นพอดี ทำให้บรรดาผู้คนแตกตื่นกรีดร้องกันลั้นวิ่งกันจ้าล่ะหวั่นจนทำให้โมโมะที่ยู่กลางกลุ่มพอดีถูกลากไปกับกลุ่มคนที่วิ่งตื่นกันยังกับมดแตกรัง ไคโดที่อยู่ใกล้พอดีก็คว้าเอาขาเอจิเซนที่ลอยตามโมโมะไปแบบบอดี้เซิร์ฟกะจะฉุดทั้ง 2 ไว้ แต่แรงเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวหรือจะสู้คนนับนับร้อยๆ ชีวิตได้ ทำให้เจ้าตัวถูกลากบอดี้เซิร์ฟไปด้วยอีกคน เหลือทิ้งไว้แต่คิคุมารุที่หลุดรอดไปได้อย่างหวุดหวิด

    นายไม่มาอยู่กลางกลุ่มดูบ้างสิจะได้รู้ว่าเป็นยังไง!” โมโมะเถียง

    ก็ใครบอกให้โง่เข้าไปอยู่กลางกลุ่มล่ะ!” ไคโดโต้กลับ

    ฉันไปถามว่าเราอยู่ที่ไหน! ไม่ช่วยแล้วยังจะมาว่าฉันอีก!” โมโมะไม่ยอมแพ้

    ยังไม่มีใครให้นายมาเลยนะ!” ไคโดไม่น้อยหน้าเช่นกัน

    แต่ฉันก็ยังไม่ได้ยินใครบอกว่าไม่ให้มาเลย!”

    ก็นายไม่ยอมถามก่อนนะสิ! ชู่ว์...!”

    พอได้แล้วฮะ... เอจิเซนว่าเสียงแข็ง แทนที่จะมัวทะเลาะกันเอาเวลามาเดินหาพวกกัปตันไม่ดีกว่าเหรอฮะ

    “…” ไคโดและโมโมะที่ยืนกระชากคอเสื้อกันอยู่ก้มหน้าลงมองคนตัวเล็กกว่าที่กำลังจ้องพวกเขาด้วยสายตาจริงจังจนทั้งคู่จำจะปล่อยมือออกจากกัน เชอะ!/ชู่ว์...!”

    พวกรุ่นพี่คงยังรู้ใช่มั้ยครับว่าตอนนี้อยู่ในที่แบบไหน... เอจิเซนว่าเป็นนัยๆ

    หือ? ทั้งสองคนมองรอบๆ แล้วก็ต้องเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้เห็น อะไรเนี่ย~!?

    รอบๆ ตัวพวกเขาเต็มไปด้วยศพที่นอนตายกันเกลื่อนไม่เว้นทั้งหญิงหรือชาย หรือแม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ บนตัวศพทุกศพมีแต่รอบแผลจากอาวุธมีคม และ รอยเท้าม้าย้ำผ่านเต็มไปหมด

    อย่าบอกนะว่า! ไอ้พวกที่ขี่ม้ามาเมื่อกี้เป็นคนทำ!” ไคโดว่า

    ก็ไม่น่าจะเป็นใครได้อีกล่ะฮะ...เอจิเซนก้มหน้า

    อะไรจะโหดร้ายขนาดนี้! ขนาดเด็กกับผู้หญิงยังฆ่าได้ลง!” โมโมะเอ่ยขณะกัดฟันแค้นแทนพวกที่ตาย

    ตอนนี้ดูท่าเราจะไม่ปลอดภัยซะแล้ว เอจิเซนว่าขณะทำท่าทางเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง ในที่สุด หื~ม... นั้นไง...

    นายจะทำอะไรน่ะเอจิเซน โมโมะเอ่ยถามคนที่กำลังเดินตรงไปยังซากศพที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาไม่ไกลนัก

    เอาอาวุธไงครับ…” เอจิเซนว่าขณะหยิบดาบที่อยู่ในมือศพผู้ชายคนหนึ่งขึ้นมาถือไว้กับตัว ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะงั้นเราน่าจะต้องหาอะไรมาป้องกันตัวเผื่อไว้ก่อนดีกว่า

    จริงของนาย... ไคโดเอ่ยปากเห็นด้วยพลางมองหาอาวุธที่ดูเหมาะมือใกล้ๆ ตัว ก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับทวนแบบชาวบ้าน 2 ด้ามที่ปักอยู่ตรงต้นไม้ทางด้าวขวาของตน เมื่อเห็นสิ่งที่ต้องก่อนแล้วไคโดก็เดินเข้าไปดึงทวนนั่นออกมาจากต้นไม้ แล้วโยนด้ามหนึ่งไปให้โมโมะ เอานี่... ชู่ว์...

    อืม... ขอบใจ... โมโมะรับทวนมาจับให้กระชับก่อนยกพาดคอ แล้วเอายังไงต่อล่ะ พวกนายจำทางที่เราถูกลากมาได้มะ?

    เอจิเซนกับไคโด 2 ส่ายหน้า

    ตอนชุลมุนกันอยู่พวกเราก็ถูกเบียดไปทางนี้ทีลากไปทางนี้ที จนตาลายไปหมดคงไม่มีใครจำทางได้หรอก ชู่ว์... ไคโดเอามือเท้าสะเอว

    นั้นก็เหลือทางเดียวแล้วล่ะฮะ เอจิเซนถืดดาบคว่ำลงแล้วเอาปลายดาบชี้พื้น

    นายจะทำอะไรน่ะเอจิเซน โมโมะถาม

    “Which? (วิช?) เอจิเซนว่า

    ~า...? โมโมะ กับ ไคโดมองงงๆ ก่อนหันมามองหน้ากันอีกที

    เมื่อไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน ก็เหลือทางเดียวคือต้องเสี่ยงดวงเอาล่ะฮะ เอจิเซนยิ้มเล็กน้อยก่อนปล่อยมือออกจากดาบ ปลายดาบชี้ไปทางไหนเอาทางนั้นนะฮะ...

    เคล้~ง...

    สามก๊กงั้นเหร~อ?!” ทุกคนร้องขึ้นพร้อมกัน (อีกครั้ง)

    สรุปว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในยุคสงครามงั้นเหรอ!? โออิชิแทบไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินหลังจากเทะสึกะเล่าเรื่องรูปปั้นกับแสงจ้านั้นให้พวกเขาฟัง

    ถ้างั้นพวกที่ขี่ม้าไล่ฆ่าพวกชาวบ้านเมื่อกี้ก็! พวกทหารน่ะสิ!”

    โอ้ไม่…!”

    พวกเอจิเซนแย่แล้ว!”

    ทำไงดีล่ะ! ทั้งรุ่นพี่โมโมะกับรุ่นพี่ไคโด ก็อยู่กับเจ้าเอจิเซนน่ะ!”

    ต้องรีบตามไปช่วยแล้ว!”

    เรียวมะคุง...

    อย่าแตกตื่นน่า!” เทะสึกะขึ้นเสียงเรียกสติเหล่าสมาชิกชมรมกลับมา ทั้ง 3 คนนั่นไม่ได้อ่อนแอจนไม่มีปัญญาทำอะไรสักหน่อย มิหน้ำซ้ำพวกนั้นยังมีฝีมือ และ เทคนิคการเอาตัวรอดพอๆ กับพวกเรา เพราะฉะนั้นตอนนี้อย่าเพิ่งตื่นตูม ช่วยกันคิดดีๆ ว่าจะไปตาม 3 คนนั้นยังไง

    ... เมื่อได้สติกลับมา ทุกคนก็เงียบกริบหันมาฟังคำสั่งผู้สั่งการที่ยืนอย่างองอาจอยู่หน้าทุกคน (สมกับเป็นกัปตัน)

    คิคุมารุ พวกเอจิเซนถูกฝูงชนในขบวนอพยพนั้นพาไปทางไหน? เทะสึกะถาม

    เออ... รู้สึกว่าจะทางนั้นนะ คิตุมารุชี้มือไปทางตะวันออก

    ทางนั้นเหรอ... เทะสึกะมองไปตามทางที่คิคุมารุชี้แล้วนิ่งไปพักหนึ่ง เอาล่ะทุกคน... พอลงจากเนินนี้แล้วให้มองหาอาวุธหรืออุปกรณ์อะไรก็ได้ที่ตกอยู่ข้างล่างเอาติดตัวไว้ป้องกันตัวเองคนล่ะชิ้น แล้วกลับมาเดินจับกันเป็นกลุ่มไว้ เข้าใจมั้ย

    ครับ/ค่ะ/อื้ม ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน

    เออ! เดี๋ยว~! ก่อนจะไปฉันมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกพวกนาย... คิคุมารุเดินไปยังป้ายโกโรโกโสตรงปลายเนินนั้นก่อนพลิกอีกด้านหนึ่งมาให้คนอื่นๆ ดู

                ~า...!”

    ![ สะพานเตียงปันเกี้ยว ] I [ ทุ่งเตียงบันโบ๋ ]"

    ตกลง... เราจะไปทางไหนอะ?

    ทางซ้าย...

    เฮ้~อ... เหนื่อยเหมือนกันแฮะ

    ช่าย... แต่ถึงกับให้ม้าพวกเรามาตีอีแค่ขบวนอพยพนี่ ท่านโจโฉคิดอะไรอยู่นะ

    มันก็ยังดีกว่าโดนส่งไปแนวหน้าล่ะน่า ลองคิดดูสิ ถึงทหารของไอ้เล่าปี่มันจะมีน้อยกว่าทางเราราวฟ้ากับเหว แต่ขุนพลมันก็มีฝีมือร้ายไม่ใช่ย้อยเลยน้า โดดเฉพาะคนชื่อกวนอูน่ะ

    จริงของเจ้า ข้าก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน เห็นว่าท่านโจโฉอยากได้มาร่วมกองทัพด้วยแทบขาดใจ แต่เจ้านั่นก็ปักใจอยู่ที่เล่าปี่อย่างเดียว ท่านเลยโจโฉทุ่มสุดตัวให้นู่นบ้างให้นี่บ้าง ชวนมากินข้าวบ้าง นับถือกวนอูเป็นสหายบ้าง ค่อยเถิดทูนอยู่ตลอด หวังว่าจะพิชิตใจกวนอูให้ได้ ถึงขนาดมอบม้าเซ็กเธาว์ให้เป็นม้าคู่กายเชียวนะ

    ขนาดนั้นเลย!? แล้วสำเร็จมั้ย?

    ถ้าสำเร็จแล้วจะต้องมาค่อยระวังมันหาสวรรค์วิมานอะไรเล่า! ถามไม่คิด! หลังจากกวนอูมันพบโอกาสกลับไปหาเล่าปี่ มันก็หักด่านเมืองเราไปตั้ง 6 ด่านจนกลับไปหาไอ้เล่าปี่นายมันได้

    6 ด่านเชียวเหรอ!”

    เออ! สิวะ!”

    แล้วเป็นไงต่อ!?

    ซึบ…!

    หือ~!? ทหารทั้ง 3 ที่นั้นจ้อกันอยู่เงียบเสียงลงทันทีที่ได้ยินแปลกๆ มาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ ตัว

    ชู่ว์...

    เหอะ! นึกว่าอะไร งูนี้เอง ว่าจบก็หันไปคุยกันต่อ

    เฮ้ย อยู่นิ่งๆ สิวะ อยากให้พวกมันเข้ามาฆ่านักรึไง ไคโดกระซิบด่าโมโมะ

    เออ พยายามอยู่ พุ่มนายไม่ได้เล็กเหมือนฉันนี่หว่า โมโมะตอกกลับ

    จะทะเลาะกันทำไมล่ะเนี่ย เอจิเซนส่ายหน้า

    จะว่าไปต้นเหตุก็คือนายนั้นแหละ เอจิเซน ไคโดหันมาว่าเอจิเซน

    อ้า~ว ไหงเป็นผมเอจิเซนหันไปถามไคโด

    ก็นายไม่ใช่เหรอที่เสี่ยงดวงพาพวกเราเดินมาทางนี้ โมโมะตอบแทน

    อ้า~ว ก็ไม่เห็นมีใครค้านอะไรเลยนี่นา อีกอย่างที่ต้องติดอยู่ในที่แบบนี้ก็ไม่ใช่ความผิดผมซะหน่อย พวกเราดวงซวยเองต่างหาก

    ทั้ง 2 เถียงไม่ออก เพราะทั้ง 3 ก็ร่วมใจกันเดินมาตามทางที่เสี่ยงดวงเอาด้วยดาบ โดยไม่นึกไม่ฝันว่าทหารม้ากลุ่มหนึ่งที่มีลูกทีมประมาณ 30 กว่าคนจะแยกตัวออกมาหยุดพักกันทางนี้พอดี กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายเกินไปที่จะเดินหนี ทั้ง 3 จึงต้องมาซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เล็กๆ ซึ่งตอนนั้นอยู่ใกล้ๆ พวกเขาพอดี (อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น)

    เดี๋ยวก่อน ข้าปวดฉี่ รอแปปนึงเดี่ยวค่อยเล่าต่อ ทหารคนหนึ่งลุกขึ้นก่อนหันหน้ามาทางพวกเอจิเซน

    เฮ้ยๆๆๆๆ…” พวกเอจิเซนดูเหมือนจะรู้ว่าไอ้ทหารคนนั้นกำลังคิดอะไร

    เอาไงดี!?’

    เฮ้ย! ยังไงฉันก็ไม่ยอมนะเฟ้ย!’

    นายว่าอันไหนจะดีกว่ากันล่ะ ยอมเหม็นนิดหน่อย กับ โดนไล่ฆ่า

    เออ...! ยอมก็ได้ฟะ ชู่ว์…’

    ไคโดกับโมโมะคุยกันทางสายตา (ทำได้ด้วยเว้ย) ก่อนมองหน้ากันสรุปว่าทนอยู่เงียบๆ ไว้ก่อนและกัน แต่ยังไม่ทันได้หันมาบอกอีกคน เจ้าเปี๊ยกของเซงาคุก็โผล่พรวดออกไปทันที

    ถ้าต้องนอนซุ่มให้ไอ้หมอนี้ฉี่ใส่ ผมยอมตายซะดีกว่า เอจิเซนว่า

    ไอ้บ้าเอ๊~ย... รุ่นพี่ทั้ง 2 เอามือกุมขมับ

    เฮ้ย! พวกสอดแนม!” ไอ้ทหารคนทำกำลังจะแก้กางเกงฉี่ตะโกนเรียกพรรคพวกให้หันมาสนใจเด็กหนุ่ม 3 คน ที่ถูกมองว่าเป็นฆ่าศึก ก่อนชักดาบออกจากฟักข้างตัวเงื้อขึ้นฟ้าเตรียมฟันเอจิเซนทันที ตายซะเถอะ…!”

    หึแค่นี้ยังอ่อนหัด... ว่าจบเด็กหนุ่มก็กระชับดาบในมือแล้วเหวี่ยงดาบเข้าจุดตายจบชีวิตทหารคนนั้นนั้นทันที

    แก…!” อีก 2 คนที่อยู่ใกล้ๆ กันชักดาบออกมาหมายเอาชีวิตเด็กหนุ่มที่ยืนทำหน้าตายอยู่ต่อหน้าพวกเขา

     เอานี้ไปกิน!/เจอนี้หน่อย! ชู่ว์...!” โมโมะกับไคโดโผล่ออกมาจากพุ่มไม้พร้อมกับกระโดดพุ่งหอกเข้าแทงทหารอีกสองคนหมดลมหายใจทันที

    ฆ่ามัน…!!” ทหารคนอื่นๆ ที่มองดเหตุการณ์อยู่ต่างชักดาบออกมาก่อนกรูเข้ามาปลิดชีวิตเด็กหนุ่มทั้ง 3

    เอาล่ะนะ! ชู่ว์...!/พร้อมเสมอ.../เข้ามาเลย…!” ไคโด เอจิเซน และ โมโมะตั้งท่าพร้อมรับศึกก่อนวิ่งเจ้าไปลุยกับศัตรูอย่างไม่หวั่นเกรงต่อความตาย สมาชิกเงาคุทั้ง 3 บุกตะลุยไล่หยุดลมหายใจผู้ปองร้ายต่อตนไปทีละคนๆ อย่างไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะมีฝีมือถึงขนาดนี้ การต่อสู้ดำเนินไปแค่ 10 นาที กลุ่มทหารเกือบ 30 คนเหลือเพียงไม่กี่คน ที่กำลังยืนขาสั่นหลังจาเห็นเพื่อนร่วมทัพของตนถูกเด็กเพียงแค่ 3 คนเก็บจนเกือบหมด

    ว๊า~ก...!!” ทันทีที่ 3 หนุ่มหันมามองด้วยสายตาอาฆาต เหล่าผู้ที่ยังเหลือรอดอยู่ก็เขวี้ยง อาวุธทิ้ง ก่อนใส่ตีผีวิ่งหนีไปอย่างไม่อายใคร

    ชิ! มีแต่พวกกระจอก... ไคโดว่าขณะเอาหอกพาดคอ

    ว่างั้นแหละ โมโมะสมพลางควงหอกเล่น

    กรอบๆๆ...ครืด!

    รู้สึกว่าตัวหัวหน้าจะมาแล้วนะฮะ…” เอจิเซนเอ่ยขึ้นเมื่อมีบุรุษแปลกหน้าในชุดเกราะคล้ายๆ พวกทหารที่พวกเขาจัดการไป ติดก็แค่มีผ้าคลุม 3 คนขี่ม้ามาหยุดอยู่หน้าพวกเขาไม่ไกลนัก

    ฝีมือไม่เลว ไอ้หนู... บุรุษผู้ยืนม้าอยู่ตรงกลางกลุ่มว่าขึ้น ถือว่าเก่งไม่เบาเลยที่จัดการกับทหารของข้าไปได้เกือบหมด อนาคตคงเป็นทหารยศสูงๆ ได้สบาย แต่น่าเสียดายที่ต้องมาเจอพวกข้าในวันนี้ ไม่งั้นพวกเจ้าคงจะมีชีวิตต่อไปได้อีกยาวเลย

    ...

    มีอะไรจะสั่งเสียไหมไอ้หนู... ?ทหารบนหลังม้าวางท่าถามอย่างใหญ่โต

    พูดจบยัง...? เอจิเซนถามกวนๆ

    ~า...? นายทหารบนหลังมามองเอจิเซนงงๆ

    พูดจบยัง จะได้เริ่มซะที... ว่าจบเอจิเซนก็ยกดาบขึ้นตั้งท่าเตรียมรับการโจมตี

    อะ... นายทหารนั่นเงียบไปพักหนึ่ง ฮ่าๆๆๆๆ!”

    ขำอะไร...? เอจิเซนถามอย่างไม่สบอารมณ์

    นี้เจ้าคงไม่คิดว่าจะเอาชนะข้าด้วยดาบสัปปะรังเคนั้นเหรอกนะ นายทหารหัวเราะเยาะ ดาบน่ะ มันต้องอย่างนี้

    ชวิ้~ง...

    นายทหารบนหลังม้าชักดาบแบบตะวันตกที่มีคมดาบสีเงินสวยและดามจับสีแดงสดดูสะดุดตา ออกมาโชว์ให้เอจิเซนดู

    อย่างหวังจะคิดมาเทียบชั้นกัน แค่ดาบก็บอกความแตกต่างได้แล้วไอ้หนู

    ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไงฟะ ชู่ว์... ไคโดว่า

    ใช่! อีกแค่ดาบดีกว่าก็ไม่ใช่ว่าแกจะชนะได้ซะหน่อย โมโมะเสริม

    หึๆๆ พวกเจ้าไม่รู้อะไรแล้ว นายทหารอีกคนข้างซ้ายว่าขึ้นก่อนชูขวานอันโตพร้อมกับด้ามเหล็กที่ยาวจนเท่าส่วนสูงตนพอดีขึ้นระดับสายตา พร้อมกับเพื่อนฝั่งตรงข้ามอีกคนที่ชูค้อนศึกอันใหญ่ที่ด้ามยาวพอๆ กันขึ้นมาให้ประจักแก่สายตา

    แค่อาวุธก็บอกได้แล้วว่าคนถือมีฝีมือแค่ไหน ดูง่ายๆ อาวุธของพวกข้าทั้งสวยงาม และ หน้าเกรงขาม ส่วนของพวกเจ้า มันอะไร ไม้จิ้มฟันรึไง เห็นแค่นี้ก็บอกได้แล้วว่าคนที่ถือมีน้ำยาแค่ไหน คนที่ถือค้อนพูดต่อ

    เอ๋~… ดูฝีมือด้วยอาวุธงั้นเหรอ? เอจิเซนเอ่ยเรียกความสนใจของพลม้าทั้ง 3 ให้หันมาที่เขา ถ้างั้นฉันขอดาบนั้นไว้แล้วกันนะ

    ฟุบ!

    เอจิเซนวิ่งตรงเข้าไปหานายทหารพลม้าผู้ยืนม้าอยู่ตรงกลางอย่างรวดเร็ว เล่นนายทหารนั้นถึงกับตกใจไม่น้อย แต่ก็ยกดาบขึ้นเตรียมตั้งรับอย่างรวดเร็ว

    หึ! รนหาที่ตาย ย๊าก~!” นายทหารควบม้าวิ่งเข้าใส่เอจิเซนก่อนเหวี่ยงดาบใส่ตัวจริงปีหนึ่งแห่งเซงาคุที่วิ่งเข้าใส่เขาอย่างแรง และ แม่นย่ำ คมดาบวิ่งตรงเข้าลำแสกหน้าเอจิเซนพอดี หลบไม่ทันแน่ๆ นี้คือจุดจบของเจ้าชายลูกสักหลาดหรือนี่ แต่ทันใดนั้น

    ฟึบ! ครืด...!

    หา~! สไลด์ไปกับพื้นงั้นเหรอ!” นายทหารดึงบังเหียนม้าให้หยุดลงทันทีตัวของเด็กหนุ่มลอดผ่านคมดาบของเข้าไปได้หวุดหวิดหลังเอจิเซนทิ้งตัวลงสไลด์ไปตามพื้น เข้าท่าดีหนิไอ้หนู! แต่อย่าหวังว่าจะหลบได้อีก! เฮือ~!!”

    ฉัวะ!

    Reverse Drive B! (รีเวิร์ส ไดรฟบี!) เอจิเซนที่สไลด์ตัวผ่านคมดาบไปได้นั้นใช้ขาทั้ง 2 ข้างดีตัวกระโดดกลับหลังตรงมาที่นายทหารคนนั้นที่กำลังหันหน้ามาพอดี ก่อนที่จะซัดดาบในมือเข้าซอกคอสังหารนายทหารพลม้าจอมคุยโวในทันที

     เล้ง! หน่อยแก!!” เพื่อนอีก 2 คนที่ยืนม้าดูอยู่ไม่รอช้ากระชากบังเหียนม้าวิ่งเข้าหาเอจิเซนหวังจะแก้แค้นให้เพื่อนที่ถูกปลิดชีพไป

                ตายซะเถอะไอ้เด็กบ้า…!!” ค้อน และ ขวาน ถูกเงื้อขึ้นเตรียมฟาดลงที่เด็กหนุ่มเบื้องหน้าในอีกไม่กี่อึดใจ แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปถึงตัวของเด็กหนุ่มที่หันมายิ้มกวนๆ ให้พวกเขา เสียงตะโกนจากเด็กหนุ่มอีก 2 คนที่โผล่มาคนล่ะข้างของเขาทั้งสองก็เรียกให้พวกเขาหันไปมองแต่ละข้างของตน

                คู่ต่อสู้ของนายคือฉัน!!” ไคโด และ โมโมะตั้งท่าเตรียมจู่โจม ทันทีที่พลม้าทั้ง 2 วิ่งมาเข้าระยะโจมตี 2 หนุ่มก็เหวี่ยงหอกในมือเข้าใส่นายทหารทะลุชุดเกราะเข้าไปอย่างรุนแรงดับลมหายใจของทั้ง 2 ด้วยท่าที่เรารู้จักกันดี “Snake Shot!! (สเนคชอท!!) / Jack Knife!! (แจ็กค์ไนฟ!!)”

                ร่างไร้ชีวิตนายทหารม้าทั้ง 2 ร่วงจากหลังมาลงมากองอยู่กับศพไร้หัวของเพื่อนตนที่ไปปรโลกก่อนตนได้ไม่นาน พร้อมกับอาวุธที่พวกเข้าภาคภูมิใจนักหนาที่หลุดออกจากมือพวกเขาไป

                หึตอให้อาวุธดีแค่ไหน แต่ถ้าฝีมือพวกนายมันมันอ่อนหัด มันก็ไม่ช่วยให้นายเก่งขึ้นมาได้เหรอ... เอจิเซนเอ่ยปิดฉาก ดาบนี่... ฉันขอแล้วกันนะ

                ว่าจบทั้ง 3 ก็ทิ้งดาบกับหอกชาวบ้านที่ได้มาจากศพผู้อพยพในตอนแรกทิ้งไป ก่อนก้มลงหยิบอาวุธใหม่ขึ้นมา

                ต้องอย่างงี้สิค่อยเหมาะมือหน่อย โมโมะยกค้อนศึกขึ้นลงอย่างคะนองมือ

                เลิกเล่นได้แล้ว ชู่ว์... เอจิเซน... เสียงดวงอีกทีซิ ไคโดที่กำลังแบกขวายักษ์ที่เพิ่งหยิบขึ้นมาไว้บนบ่าเอ่ยบอกเอจิเซน

    เอ๋... ยังไม่เข็ดเหรอครับเนี่ย... ขณะที่ปากกำลังว่าไปอย่าง มือที่ถือดาบใหม่คว่ำลงอีกครั้งก่อนปล่อยให้มันร่วงลงพื้นไป “Which? (วิช?)

    เคล้~ง...!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×