คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1 เข้าเรียนวันแรก
I
เข้าเรียนวันแรก
“ว้า~ว...!” เด็กสาวผมทองยาวเป็นลอนรวบไว้เป็นหางม้า ร้องออกมาด้วยความตกตะลึงอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงเรียน เมื่อเห็นว่าที่ๆ ตนจะได้เข้ามาเรียนนั่นใหญ่โตมโหฬาร และ งดงามเกินจะบรรยายออกมาด้วยคำพูด ตัวโรงเรียนเรียนแต่งแต้มด้วยสีขาวสวย ทางเดินปูด้วยพื้นอย่างดี รอบๆ บริเวณเต็มไปด้วยสีเขียวของสนามหญ้า และ หลากหลายสีของดอกไม้นานาชนิดที่ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่น
“นี่น่ะเหรอดิสสิเดีย...?” เด็กสาวเอ่ยกับตัวเองเบาๆ ขณะกวาดดวงตากลมโตสี อเมทิสต์ของเธอมองรอบๆ ที่เต็มไปด้วยเหล่านักเรียนใหม่ซึ่งอยู่ในอาการเดียวกับเธอ
“สวยจังเลย...”
เด็กสาวเริ่มก้าวเท้าเดินมาตามทางเดิน ตลอดทางเดินทั้ง 2 ข้างทางจากประตูรั่วไปจนถึงลานน้ำพุ่งจัตุรัสกลางโรงเรียน ถูกตกแต่งด้วยกำแพงพุ่มไม้ที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีสวยสด และ ต้นไม้ที่ปลูกเว้นระยะห่างกันไว้อย่างสวยงาม ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังเดินอยู่ตรงทางเข้าปราสาทในเทพนิยายยังไงอย่างงั้น
ตุบ!
“อุ๊ย!” เด็กสาวที่มัวเพลิดเพลินอยู่กับสภาพแวดล้อมอันแสนงดงามจนลืมมองทางข้าหน้า ชนให้กับร่างสูงร่างหนึ่งเบื้องหน้าเธอ “ขะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันได้มอง”
“ไม่เป็นไร... ฉันก็ไม่ได้มองเหมือนกัน...” เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้มีรอยแผลเป็นที่ถูกฟันด้วยของมีคมอยู่บนหน้า ผมสั้นสีน้ำตาล และ นัยน์ตาคมกริบสีฟ้า ที่คอสวมด้วยสร้อยหัวสิงโต เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เออ... เธอก็... เป็นนักเรียนใหม่ใช่มั้ย?” เด็กสาวถาม
“อืม...” หนุ่มหน้าบากพยักหน้าเงียบๆ
“เหมือนกันเลย ฉัน ทีน่า” เด็กสาวแนะนำตัว
“...” เด็กหนุ่มมองหน้าเด็กสาวอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยตอบ “สคอลล์
”
“ยินดีได้รู้จักนะ สคอลล์” เด็กสาวกล่าว
“...” ด้วยรอยยิ้มสดใสของเด็กสาวทำให้เด็กหนุ่มหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย
“หืม~? มีอะไรเหรอ?” เด็กสาวเจ้านามทีน่าเอ่ยถาม
“มะ. ไม่มีอะไร...ฉัน... ต้องไปแล้ว
” หนุ่มหน้าบากเอ่ยเรียบๆ ก่อนหันหน้าหลบตาเด็กสาว แล้วก้าวเท้าเดินจากไปด้วยคำบอกลาสั้นๆ
“เออ... แล้วเจอกันนะ...” เด็กสาวเอ่ยลาเสียงอ่อยๆ ขณะก้มหน้าหลบตาเศร้าของตัวเอง ‘ใจเย็นทีน่า เขาคงจะมีธุระ... เราไม่ได้อยู่โรงเรียนเก่าแล้ว ที่นี่ไม่มีใครรู้เรื่องพลังของเรา... เฮ้~อ... เดินหาหอประชุมก่อนดีกว่า...’
“หวา!”
โครม!
“ห๊ะ!” เด็กสาวสะดุ้งตกใจเมื่อมีอะไรบางอย่างตกลงมาจากต้นไม้ข้างๆ ตน
“อู~ย... เจ็บ...” เด็กหนุ่มตัวเล็กผมยาวสีทองรวบไว้อย่างลวกๆ ขณะที่เสยผมด้านหน้าให้ตั้งขึ้นชี้ฟ้า บ่นพึมพำพลางเอามือลูบหัวตัวเองที่ตกลงมากระแทกพื้น พลางลุกขึ้นคุกเข่านั่งอยู่กับพื้น
“ปะ เป็นอะไรรึเปล่า?” ทีน่าก้มตัวลงมาดูอาการเด็กหนุ่มร่างเล็ก
“มะ. ไม่เป็น... ไร...” เด็กหนุ่มผมตั้งผู้เงยหน้ามาสบตา เด็กสาวนามทีน่า เบิกตากว้างขณะมองหน้าเด็กสาวราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด “สวย...”
“หื~ม? ไม่เป็นไรจริงๆ น่ะเหรอ?” ทีน่าหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนเอื้อมมือยื่นไปเช็ดหน้าเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยคราบใบไม้ และ เปลือกไม้
“อะ! มะ ไม่เป็นไรจริงๆ! ไม่เป็นไรจริงๆ มะ ไม่ต้องห่วง!” เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นอย่างลุกลี้ลุกด้วยหน้าที่แดงจัด ก่อนออกตัววิ่งหายไป
“อะ เอ๋~...?”
“ปะ. ไปก่อนนะ!” เด็กหนุ่มเอ่ยลา
‘ขายหน้าจังเลย... แค่เจอคนสวยๆ ยื่นหน้ามาใกล้ก็สั่นแล้ว ไม่ไหวเลยเรา’ เด็กหนุ่มตัวเล็กคิดขณะวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดจะเหลียวกลับมามอง
“เฮ้~อ...” ทีน่ามองเด็กหนุ่มตัวน้อยที่เดินจากไปด้วยแววตาที่ดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ‘อะไรเนี่ย... อย่าบอกนะว่าที่นี้ก็...’
ห้องสภานักเรียน
“อรุณสวัสดิ์ครับ / ค่ะท่านประท่าน” เหล่านักเรียนในห้องเกือบ 10 คน ซึ่งนั่งประจำที่รอบโต๊ะประชุมตัวใหญ่ ลุกขึ้นยืนขณะเอ่ยต้อนรับ เด็กหนุ่มผมยาวสีเงินใต้หมวกเกราะใบสวยแปลกตา ผู้กำลังเดินเข้ามาในห้องด้วยแววตาเย็นชาจากดวงตาคมกริบสีฟ้าคู่สวย
“อรุณสวัสดิ์ มากันครบรึยัง?” เด็กหนุ่มเจ้าของตำแหน่งประธานเอ่ยรับ ขณะเดินมานั่งประจำที่ของตน ณ หัวโต๊ะ
“เออ... ฟีเรี่ยนยังไม่มาครับ” หนึ่งในเจ้าหน้าที่สภากล่าว
“หื~ม?”
“โทรไปถามแล้ว เห็นว่าต้องดูแลกุหลาบป่าที่เพาะไว้ที่บ้านก่อนออกมาครับ” เด็กหนุ่มหน้าหวานผู้มีผมหยักศกสีเงินยาวลงเกือบถึงกลางหลัง ว่าขึ้นพลางหันไปมองประธานหนุ่ม
“เหรอ... ถ้าเจอกันในห้องเรียน ก็บอกเขาด้วยว่า เที่ยงนี้ให้มาประชุดเปิดภาคเรียนด้วยนะ เซซิล” ประธานหนุ่มว่า
“ครับ ท่านไลท์” หนุ่มหน้าหวานตอบรับ
“เอาล่ะ สำหรับเช้าวันนี้ มีหัวข้อหลักในการประชุดอยู่ 3 ข้อ” ประธานหนุ่มไลท์ เริ่มต้นการประชุม “ข้อแรก ขอให้ทุกคนเตรียมการสำหรับปฐมนิเทศให้ดี ในช่วงที่ให้รุ่นพี่เข้าไปแนะแนวน้องใหม่ปีหนึ่ง ของให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ”
“ไม่ต้องห่วงครับ พวกเราเตรียมการเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ให้ประธานช่วยตรวจสอบ และ แก้ไข้ส่วนที่ใช้ไม่ได้ อีกทีครับ” หนึ่งในสมาชิกสภากล่าว
“ดีมาก จบการประชุมแล้ว เอามาให้ฉันดูได้เลย” ไลท์พยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนเอ่ยเริ่มเรื่องต่อไป “ข้อที่สอง จากสถิติปัญหาของเทอมที่แล้วอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แต่ยังไม่เป็นน่าพอใจ ดังนั้น ขอให้เพิ่มสมาชิกของเราในการเดินสำรวจรอบๆ โรงเรียน คอยสอดส่องดูแลอย่าเกิดปัญหา ไม่ว่ายังไงเทอมนี้ต้องลดสถิติปัญหาให้น้อยที่สุด”
“ค่ะ ทางเราจะจัดการให้คะ ขอประธานโปรดวางใจ” หนึ่งในสมาชิกรับคำสั่ง
“ข้อสุดท้าย... เนื่องจากปีที่แล้วหนึ่งในนักเรียนทุนของได้ก่อเรื่องจนเป็นข่าวกระฉ่อนดังไปทั่ว ฉันจึงต้องการอาสาสมัคในการจับตาดู และ ค่อยให้คำแนะนำเหล่านักเรียนทุนใหม่ปีนี้ ใครจะอาสาบ้าง...?”
จัตุรัสน้ำพุกลางโรงเรียน
“ประกาศอีกครั้ง ขอให้นักเรียนทุกคนไปรวมกันที่หอประชุม เพื่อร่วมการกล่าวเปิดภาคเรียน และ ปฐมนิเทศนักเรียน ก่อน 8.00 น” เสียงประการดังมาจากลำโพงตามจุดต่างรอบโรงเรียน
“เฮ้ซีดาน! ตอนนี้กี่โมงแล้วอะ?” เด็กหนุ่มผมสั้นสีน้ำตาลนามบัทส์ เอ่ยถามเพื่อนหนุ่มผู้อยู่ข้างๆ กัน
“ไม่รู้สิ บัทส์ ฉันไม่มีนาฬิกา” เด็กหนุ่มผมยาวสีทองรอบไว้ที่ท้ายทอยเอ่ยตอบ
“ก็ดูในมือถือสิ” บัทส์กล่าว
“อ้า~ว? แล้วทำไมนายไม่ดูมือถือนายล่ะ?” ซีดานว่า
“เออใช่! ลืมไปเลย ฮะๆ” บัทส์หัวเราะก่อนหยิบมือถือขึ้นมาดู
“นายนี่ตลกดีนะ ฮะๆ” ซีดานกล่าวก่อนร่วมหัวเราะ
“7.45 แล้ว... ฉันว่าเราไปหอประชุมกันดีกว่า” บัทส์บอก
“อื้ม! ว่าแต่... หอประชุมมันอยู่ตรงไหนอะ?” ซีดานถาม
“นั่นดิ” บัทส์เอามือขึ้นเกาหัว
“แล้ว... เอาไงล่ะทีนี้?” ซีดานแบมือยกไหล่ขณะเอ่ยถาม
“อืม... ลองถามคนแถวนี้ดูดีกว่า” บัทส์ว่า ก่อนมองหาที่พึ่งรอบตัว จนในที่สุด ดวงตากวนๆ สีเดียวกับเส้นผม ก็ไปสะดุดเข้ากับหนุ่มหน้าบากนามสคอลล์ที่เดินหนีจากทีน่ามาเมื่อครู่ ยืนอ่านสมุดเล่มเล็กๆ อยู่ไม่ไกลนัก “นั่นไง! ไปกันเหอะ! นี่...!”
“หื~ม?” สคอลล์หันมามองยัง 2 เด็กหนุ่มต้นเสียง
“ขอโทษนะครับรุ่นพี่ หอประชุมไปทางไหนเหรอครับ?” บัทส์เอ่ยถาม
“ฉันอยู่ปีหนึ่ง...” สคอลล์บอก
“อ้าว~? เหรอ? ทำไมตัวสูงจังเลย...” ซีดานกล่าว “ช่างเหอะ ว่าแต่นายรู้ทางไปหอประชุมรึเปล่า?”
“แผนที่อยู่ในสมุดประจำตัวนักเรียน...” สคอลล์ตอบ พลางชูสมุดประจำตัวนักเรียนที่ตนอ่านอยู่ให้ทั้ง 2 ดู
“อ. อ้า~ว
งั้นหรอกเหรอ” ทั้ง 2 เกาหัวอายๆ “เออใช่! ไหนๆ ก็ไหนๆ เราไปหอประชุดด้วยกันเลยปะ?”
“ไม่...”
หลังโรงเก็บรถ นักเรียน
‘เอ๋~? ที่นี่ไม่น่าจะใช่หอประชุมนะ... แต่แผนที่บอกมาทางนี้นี่นา...’ ทีน่าที่กำลังเดินหาหอประชุมเอ่ยตัวเองในใจ ขณะก้มลงมองแผนที่ในสมุดประจำตัวนักเรียนบนมือ “ทำไงดี... หลงทางซะแล้ว...”
“เฮอะ! ทำไมเราต้องเข้าไปฟังกล่าวเปิดเรียนอะไรเนี่ยด้วยวะ” เสียงเด็กของชายดังมาจากไม่ไกลนัก
“ใช่ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย น่ารำคราญชะมัด” เสียงอีกเสียงหนึ่งใกล้ๆ กันสมทบ
‘มีคนอยู่แถวนี้พอดีเลย เข้าไปถามทางดีกว่า’ ทีน่าคิดดีใจ ก่อนเดินไปตามทางที่เสียงลอยมา โดยไม่เอะใจในคำพูดที่ได้ยิน
“เฮ้! จะดีเหรอ? เกิดพวกครู หรือ สภานักเรียนมาเห็น พวกเรามีหวังถูกส่งไปหา อาจารย์ใหญ่เคออส กับ ครูการ์แลนด์เล่นงานเอานะ” เด็กหนุ่มผู้ยืนอยู่มุมอาคารกับเพื่อนอีก 2 คนเอ่ยขึ้นอย่างหวาดๆ ขณะลังเลกับการจุดบุหรี่ในมือ
“เฮ้~ย! ปอดแหกไปได้! พวกครูกับสภานักเรียนที่จะมาออกเดินตรวจตอนนี้วะ?” เด็กหนุ่มข้างๆ กันว่าขณะดูดเอาควันมะเร็งเข้าปอด
“ใช่ๆ! วันนี้เปิดเรียนวันแรก ทุกคนไปรวมกันที่หอประชุมกันหมดแล้ว จะมีไอ้บ้าไหนมาทะลึ่งออกสำรวจโรงเรียนตอนนี้” เด็กหนุ่มอีกคนเอ่ยสมทบพร้อมกับควันในปาก
“นะ... นั่นสินะ” เด็กคนแรกว่าก่อนจุดบุหรี่ยกขึ้นมาดูดอย่างสบายใจ
“ขอโทษนะคะ หอประชุมไปทางไหนคะ? ห๊ะ!?” ทีน่าที่เดินเข้ามาหวังจะถามทางเด็กหนุ่มทั้ง 3 เบิกตาตกใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
“ยะ แย่แล้ว!”
“พวกคุณ... สูบบุหรี่ในโรงเรียนงั้นเหรอ...?” ทีน่าเอ่ยอย่างหวาดๆ
“ถ้ามีใครรู้พวกเราเสร็จแน่! จับเธอไว้!” ว่าจบทั้ง 3 ก็วิ่งตรงเข้าไปหาทีน่าทันที
“ว้า~ย!” ทีน่าร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนกลับหลังหันก้าวเท้าวิ่งหนีเด็กหนุ่ม 3 คน ที่พุ่งตรงเข้ามาหาเธอสุดฝีเท่า
“อย่าหนีนะ...!” เด็กหนุ่มทั้ง 3 ว่าขณะยังวิ่งตามเด็กสาวอย่างเอาเป็นเอาตาย
‘ทำไมซวยอย่างงี้ มาวันแรกก็เจอเรื่องไม่ดีเลย แบบนี้ไม่เอานะ’ ทีน่าคิดในใจขณะก้าวเท้าวิ่งออกมาจากมุมอาคารอย่างสุดชีวิต
“หน่อย! หนีไม่พ้นเหรอ!”
ไม่ช้าทั้งทีน่า และ เด็กดูดบุหรี่ทั้ง 3 ก็หลุดออกมาจากมุมอาคาร มายังทางรถวิ่ง ทีน่าที่วิ่งหนีการไล่ตามมาอย่างหวาดกลัวเริ่มทิ้งห่างนักเรียนแหกกฎทั้ง 3 ที่ยังคงตามเธอมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ในไม่ช้าเธอคงหนีพวกเขาพ้น แต่ใดนั้น
บรื้น~! เอี๊ย~ด!
“ว้า~ย!” ทีน่าร้องเสียงดัง หลังรถมอเตอร์ไซด์สีดำคันสวยที่เกือบพุ่งชนเธอ เบรกปัดท้ายดริฟท์มาหยุดลงหน้าเธอพอดี
“ทำอะไรของเธอ...” เด็กหนุ่มผมตั้งชี้ฟ้าสีทอง บนมอเตอร์ไซด์เอ่ยถามขณะมองผ่านเลนซ์แว่นตากันลมมาที่เธอด้วยท่าทีเย็นชา
“...” ทีน่าที่เห็นภาพตนเฉียดความตายไปแค่เสี้ยววินาที ยังคงช็อคจนพูดอะไรไม่ออก แข็งขาอ่อนลงจนต้องทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาเบิกกว้าง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบนใบหน้าขาวเนียนของเธอ ในขณะที่หายใจถี่รั่ว ราวกับกำลังขาดอากาศ
“เป็นอะไรรึเปล่า...?” เด็กหนุ่มเจ้าของรถมอเตอร์ไซด์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงหลังก้าวลงจากรถมาดูอาการ เมื่อเห็นหน้าซีดเผือก และ ท่าทีตกใจของทีน่า
“อยู่นั่นไง! มาเร็ว!” เด็กแหกกฎทั้ง 3 ที่ยังคงตามทีน่ามาอย่างไม่เลิกรามาร้องโหวกเหวกขณะวิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ชะ ช่วยด้วยค่ะ พะ พวกเขาจะทำร้ายฉัน” ทีน่าเอ่ยอ้อนวอนของความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มเจ้าของมอเตอร์ไซด์คันสวย
“...” เด็กหนุ่มมองเด็กสาวอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ย “หลบข้างหลังฉัน...”
“ขะ ขอบคุณค่ะ” ทีน่าลุกขึ้น แล้ววิ่งอ้อมไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของรถทันที
“เฮ้ย! นายน่ะ! ส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้เราเดี๋ยวนี้นะ!” 3 เด็กแหกกฎที่วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้ามอเตอร์ไซด์ของเด็กหนุ่มเอ่ยด้วยท่าทางวางกล้าม
“ต้องการอะไรจากเธอ...?” เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ธะ เธอ... เธอทำผิดกฎของโรงเรียน พวกเราจะคุมเธอไปส่งอาจารย์การ์แลนด์” หนึ่งใน 3 เด็กแหกกฎเอ่ยโกหก
“มะ ไม่ใช่นะคะ!” ทีน่าพยายามจะแก้ตัวแต่ก็หยุดลง เมื่อเด็กหนุ่มเจ้าของมอเตอร์ไซด์ยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องพูด
“กฎข้อไหน...?” เด็กหนุ่มหนุ่มเอ่ยถาม
“อะ เออ... ธะ เธอ...” เด็กแหกกฎพยายามนึกหาคำตอบที่เข้าท่า แต่ก็นึกไม่ออกจนในที่สุด “มะ มันไม่เกี่ยวกับนายนี่! ส่งเธอมาให้เราได้แล้ว!”
“ทำผิดแล้วยังมีหน้ามาโยนโทษคนอื่น... แถมยังโกหกแก้ตัวหน้าด้านๆ อีก
” เด็กหนุ่มว่า
“ทะทำ ผะผิดอะไร!? นะ นาย
“บุหรี่อยู่คามือหยั่งงั้นยังมีหน้ามาบอกว่าไม่ผิดอีกเหรอ...” เด็กว่าขณะมองตรงไปที่ซองบุหรี่ และ ไฟแช็กในมือทั้ง 3 คน “ไม่บอกก็รู้ว่าเธอคนนี้ดันไปเห็นพวกนายตอนสูบบุหรี่อยู่ พวกนายเลยไล่ตามเธอมา...”
“เออ...! แล้วทำไม! ตกลงนายจะส่งผู้หญิงนั่นมาดีๆ หรือต้องให้ใช้กำลังห๊ะ!” เด็กแหกกฎคนสุดท้ายสติแตก แหกปากเสียงดัง พลางกำหมัดทำท่าหาเรื่อง
“พวกนายอยากเจอกับฉันงั้นเหรอ...” เด็กหนุ่มเจ้าของรถมอเตอร์ไซด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันจากจิตสังหาร ขณะที่ยกมือขึ้นถอดแว่นกันลมออก เผยให้เห็นใบหน้าของเขา
“เฮือก...!!” ทั้ง 3 ถึงสะดุ้งตกใจ เหงื่อแตกพล่าน กระเดือกน้ำลายก้อนใหญ่ลงคออย่างยากลำบาก ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นใบหน้าเด็กหนุ่มตรงหน้า “คะ คลาวด์ สไตรฟ
!!”
“ว่าไง... จะเอายังไง...” เด็กหนุ่มเจ้าของมอเตอร์ไซด์ เจ้าของชื่อ คลาวด์ เอ่ยด้วยท่าทีแสนเย็นชาเช่นเดิม ขณะส่งแววตาดุดัน มาจากดวงตาคมกริบ สีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต มายังนักเรียนแหกกฎทั้ง 3
“ยะ ยกโทษให้พวกเราด้วย เราสำนึกผิดแล้ว
!!” ทั้ง 3 เริ่มขาอ่อนขณะค่อยๆ ก้าวถอยหลังไปด้วยความกลัว ขณะพยายามอ้อนวอนให้คลาวด์ปล่อยพวกเขาไป
“เอาสมุดพกนักเรียนมา...” คลาวด์กล่าวเรียบๆ
“!” เด็กแหกกฎเบิกตากว้าง ทำท่าจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นท่าทางแสนน่ากลัวของคลาวด์ เสียงของพวกเขาก็หายไปกับลำคอ ทั้ง 3 จึงต้องทำตาม
“เอาล่ะ... ไปให้พ้นหน้าฉัน...” คลาวด์ที่คว้าเอาสมุดประจำตัวนักเรียนทั้ง 3 เอ่ยไล่ทั้งสามไปด้วยท่าทีเย็นชาอันน่าสะพรึงกลัว
“เหวอ
!!” ทั้ง 3 วิ่งหนีกันหน้าตื่น ขณะร้องออกมาอย่างขวัญหนีดีฟ่อ
“...” คลาวด์มองตัวแหกกฎทั้ง 3 วิ่งจากไปอย่างเซ็งๆ ก่อนหันกลับมาหาทีน่าที่ยืนอยู่อีกฝั่งของมอเตอร์ไซด์เขา “ไม่เป็นไรแล้ว...?”
“คะ ค่ะ... ขอบคุณค่ะ
” ทีน่าเอ่ยขอบคุณอย่างเกร็งๆ ใน สายตามองตรงมายังเด็กหนุ่มผู้ช่วยเธอไว้
“เธอเป็นเด็กใหม่ใช่มั้ย...?” คลาวด์ถาม
“รู้ได้ไงคะ?” ทีน่าถามคืน
“มีแต่เด็กใหม่เท่านั้นแหละที่หลงทางจากหอประชุมมาที่นี่” คลาวด์ตอบ
“เหรอคะ...? แล้วหอประชุมไปทางไหนเหรอคะ?” ทีน่าถาม
“นี่...” คลาวด์เดินมาหาทีน่าก่อนเปิดสมุดพกของนักเรียนแหกกฎคนหนึ่งออกดูแผนที่ ขณะชี้นิ้วอธิบายให้ทีน่าฟัง “เธอดูแผนที่กลับด้านน่ะ... อันที่จริงไม่ความผิดเธอหรอก อาคารโรงเรียนนี้ดันสร้างเหมือนกันทั้ง 4 ทิศ แถมในแผนที่ดันไม่บอกไว้อีก...”
“อ๋อ...” ทีน่าพยักหน้าเข้าใจขณะมองตามที่คลาวด์ชี้
“อะนี่...” คลาวด์โยนสมุดพกทั้ง 3 เล่มให้ทีน่า
“อะ เอ๋~?” ทีน่ารับสมุดพกมางงๆ
“เอาไปให้อาจารย์ฝ่ายปกครองจัดการที” คลาวด์ว่าขณะก้าวขาขึ้นมอเตอร์ไซด์
“ดะ เดี๋ยว~! ยังไม่รู้จักกันเลย” ทีน่ากล่าว “ฉันนักเรียนใหม่ทีน่า แบรนฟอร์ดค่ะ”
“คลาวด์ สไตรฟ อยู่ปี 2...” คลาวด์กล่าวตอบ
“ยะ ยินดีได้รู้จักนะคะ รุ่นพี่คลาวด์” ทีน่าว่า
“อืม... รีบๆ ไปหอประชุมได้แล้ว เดี๋ยวอาจารย์ตรวจรายชื่อเขาจะว่าเอา...” คลาวด์ว่าขณะลงมือสตาร์ทรถ
“ค่ะ! ขอบคุณอีกครั้งค่ะ!” ทีน่าก้มหัวให้คลาวด์ก่อนวิ่งจากไป
“หึ...” คลาวด์พึมพำกับตัว ขณะทำท่าจะขี่รถเข้าไปจอดในอาคาร แต่ทันใดนั่น
วิ้ง~!
“หื~ม?” อะไรบางอย่างสะท้องแสงขึ้นมาแยงตาคลาวด์ ทำให้หนุ่มผมชี้ฟ้าก้มหน้าลงไปเก็บขึ้นมา
“พวงกุญแจงั้นเหรอ...?”
หอประชุม
“นี่พวกนาย... เลิกตามฉันซักทีได้มั้ย...” สคอลล์เอ่ยอย่างหน่ายๆ ขณะหันหน้ามองบัทส์ และ ซีดานด้วยแววตาดุดัน
“ทำไมล่ะ?” บัทส์ และ ซีดานยิ้มให้สคอลล์
“รำคราญ
” สคอลล์ตอบอย่างตัดเยื่อใย
“ม่าย~!” ทั้ง 2 ตอบกลับมาอย่างไม่คิดอะไร
“ห~า?” สคอลล์ยืนงงทันที
“อยู่กับนายสนุกดี เราไม่ปล่อยนายไปง่ายๆ หรอก” ซีดานว่า
“ช่ายๆ นายมาเป็นพวกกับเราดีกว่า!” บัทส์ชวน
“เฮ้~อ!” สคอลล์ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ก่อนพยายามเดินออกจากลิงทั้ง 2 ตัว
อีกมุมหนึ่ง
‘ทันเวลาเฉียดฉิวเลย’ ทีน่าที่เดินเข้ามาในหอประชุมที่เต็มไปด้วยนักเรียนในเครื่องแบบเหมือนกับเธอคิดในใจ พลางมองสำรวจดูรอบๆ ก่อนยืนเข้าแถว กับคนอื่นๆ ‘เอ๊ะ! นั่น!’
ดวงตากลมโตของเธอเห็นเข้ากับเด็กหนุ่มตัวน้อยตกต้นไม้ที่วิ่งจากเธอไปเมื่อครู่ ยืนไม่ไกลจากเธอนัก
“หื~อ?” เด็กหนุ่มตัวน้อยที่รู้สึกเหมือนมีคนมองตนอยู่หันมองรอบตัว ก่อนนัยน์ตาสีมรกตคู่สวย จะหันมาเจอทีน่าพอดี
“อ๊ะ” ทีน่าทำท่าจะยกมือทักทาย แต่ก็หยุดลงเมื่อนึกถึงทีท่าของเด็กหนุ่มเมื่อครู่
‘นั่นมัน คนเมื่อตอนนั่นนี่นา’ หนุ่มตัวน้อยคิด ขณะยังคงมองมาที่ทีน่า แล้วสายตาช่างสังเกตของเข้า ก็สะดุดเห็นท่าทางที่ดูเศร้าๆ ของทีน่า ก่อนจะรู้สึกตัว ‘แย่แล้ว! ตอนนั่น จู่ๆ เราก็วิ่งหนีออกมาไม่พูดอะไรเลย เธอต้องรู้ไม่ดีแน่ เราแย่จริงๆ! ต้องทักทายซะหน่อยแล้ว’
“เฮ้” เด็กหนุ่มที่รู้สึกสึกผิดหันมาโบกมือ พร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ทีน่า
“เฮ้” ทีน่าเอ่ยเบาๆ ขณะโบกมือตอบด้วยรอบยิ้มเช่นกัน
‘จะว่าไปได้พบสาวสวยแบบนี้ตั้งแต่วันแรกเนี่ยถือเป็นลางดีนะเนี่ย’ หนุ่มตัวน้อยคิดเข้าข้างตัว
‘ไม่ใช่อย่างที่เราคิดจริงๆ ด้วย ดีจังเลย...’ ทีน่าทำท่าโล่งใจ
“สวัสดีนักเรียนทุกคน” เสียงหวานฟังลื่นหูดังมากจาลำโพงรอบหอประชุม ทำให้เหล่านักเรียนทักหลายหันไปมองที่เวที “ขอต้อนรับสู่ดิสสิเดีย”
เจ้าของที่กระจายมาตามลำโพงนั่น คือครูสาวแสนสวยที่ทำเอาเด็กมองตามกันอย่างตกตะลึงในความงดงาม ผู้ยืนอยู่ ณ โพเดี่ยมกลางเวทีด้วยท่าทางใจดี
“ครูมีชื่อว่าคอสมอส เป็น ผู้อำนวยการของ ม.ปลาย แห่งนี้ โรงเรียนของเราเป็นเกียรติที่ได้รับหน้าที่เป็นสถานศึกษาแก่พวกเธอ พวกเรา...”
“โห~! นั่นน่ะเหรอ? ผู้อำนวยการ?”
“สวยจังเลย...”
“ยังสาวซะด้วย...”
เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นในกลุ่มนักเรียนใหม่ทั้งหลาย ในขณะที่ผอ. คนสวยกำลังกล่าวทักทายอยู่บนเวที ซึ่งทุกๆ เสียงต่างก็เอ่ยชื่นชมถึงความงดงามของผอ.คอสมอสเป็นเสียงเดียวกัน
“ครูขอฝากไว้เอาเท่านี้ ต่อไปอาจารย์ใหญ่จะให้เกียรติขึ้นมากล่าวทักทายทุกคน เชิญ อาจารย์เคออสค่ะ” ว่าจบคอสมอสก็เอ่ยเชิญ ชายร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำสีเข้ม ผู้มีเขายาวสีแดงสดชี้ออกมาทางแนวขวาง หน้าตาน่ากลัว เดินขึ้นมายืนประจำที่โพเดี่ยม
“สวัสดีนักเรียนทุกคน” เสียงเข้มหน้ากลัวพอๆ กับหน้าตาทำเอาบรรยากาศแห่งความหลงใหลที่ ผอ.คอสมอส สร้างไว้ กลายเป็นเถาถ่านไปในทันที “ครูชื่อเคออส เป็นครูใหญ่ของ ม.ปลายดิสสิเดียแห่งนี้ โรงเรียนเป็นเกียรติที่ได้รับหน้าที่ดูแลความคุมพวกเธอให้อยู่ในระเบียบที่ดีงามชองสังคม พวกเรา...”
“โห~! นั่นน่ะเหรอ? ครูใหญ่?”
“น่ากลัวจังเลย...”
“เทียบกับผอ. แล้วต่างกันราวนางฟ้ากับซาตานเลย...”
“ครูเองก็ขอฝากไว้เอาเท่านี้เช่นกัน อ๋อ! อีกอย่างหนึ่ง... ถ้าใครคิดจะทำผิดกฎของโรงเรียนล่ะก็... เตรียมตัวเจอกับครูได้เลย...” ว่าจบครูใหญ่เคออสก็ส่งแววตาดุๆ สีแดงน่ากลัวมาทั้งเด็กทั้งหลาย เอาซะขนลุกไปทั้งหอประชุม
“ต่อไปนี้ ประธานนักเรียนจะขึ้นมากล่าวทักทายกับนักเรียนทุกคน ขอเชิญ ประธานนักเรียน วอริเออร์ ออฟ ไลท์”
ทันทีที่อาจารย์โฆษกพูดจบ ทุกสายตาในห้องประชุมก็หันไปมองที่ชายหนุ่มในหมวกเกราะซึ่งกำลังค่อยๆ ย่างก้าวขึ้นไปบนเวทีด้วยท่าทีอันสง่างาม ผมสีเงินพลิ้วไสวไปตามแรงเดิน ต้องเข้ากับแสงไฟหอประชุมเป็นประกาย ในที่สุดประธานหนุ่มก็มาหยุดลงที่หน้าโพเดี่ยม นัยน์ตาสีฟ้าสวยส่งแววตาเย็นชาที่ดูเป็นมิตรฉายไปทั่วหอประชุม ทำเหล่ารุ่นน้องทั้งหลายหลงไหลกันไปตามๆ สาวๆ ต่างชื่นชม หนุ่มๆ ต่างให้ความเคารพ ไม่แปลกเลยที่เขาได้ยืนอยู่ยืนบนตำแหน่งประธานนักเรียน
“สวัสดีเพื่อนๆ นักเรียนทุกคน ผมชื่อ วอริเออร์ ออฟ ไลท์ เป็นประธานนักเรียนแห่ง ม.ปลายดิสสิเดียแห่งนี้ ทางสภานักเรียนเราเป็นเกียรติที่ได้อยู่ร่วมกันในปีการศึกษานี้กับทุกคน พวกเรา...”
“หล่อจัง...”
“เท่จริงๆ ด้วย...”
“ว่าแต่... นั่นหมวกอะไรอ่ะ?”
“เออ... ไม่รู้ฉันคิดไปเองรึเปล่านะ แต่รู้สึกเหมือน ผอ. ครูใหญ่ ประธานนักเรียนจะพูดคล้ายๆ กัน เหมือนก๊อปกันมานะ” (ปัดโถ่~! เป็นแค่ตัวประกอบอย่าแฉคนแต่งดิ!)
“ผมก็ขอฝากไว้เอาเท่านี้เช่นกัน ต่อจากนี้ ทางเราจะปล่อยให้ ปี 2 และ 3 ไปเข้าห้องเรียนก่อน สำหรับเหล่าน้องๆ นักเรียนใหม่ให้อยู่รอที่นี่ก่อน ทางเราจะมีพี่ๆ สมาชิกสภาเข้ามาให้คำแนะนำ เชิญครับทุกคน” ว่าจบประธานหนุ่มก็กล่าวปิดการประชุม ก่อนปล่อยนักเรียนเก่าทั้งหมดไปขึ้นชั้นเรียน เหลือไว้แค่นักเรียนใหม่ยืนเข้าแถวประจำที่อยู่ในหอประชุม แล้วจึงเดินลงมาจากเวทีพลางเอ่ยเรียกสมาชิกสภามือขวาของตนให้ทำหน้าที่ที่มอบหมายไว้ “เซซิล...”
“สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน” หลังเหล่าปี 2 ปี 3 ออกไปได้ไม่นานนัก เหล่าสภานักเรียนที่นำมาโดยชายหนุ่มสมาชิกสภาผู้มีผมหยักศกเงินยาวลงมาเกือบถึงกลางหลัง นัยน์ตาสีอเมทิตย์สวย หน้าหวานราวผู้หญิง หากไม่ติดว่าอยู่ในขุดนักเรียนขายแล้วหลายๆ คนคงนึกว่าคนที่เห็นตรงหน้าเป็นเด็กสาวแน่ๆ “พี่ชื่อเซซิล ฮาวีย์ เป็นกรรมการคุมความประพฤตินักเรียน ต่อจากนี้ไป ให้น้องๆ ทุกคน แยกเข้าแถวกันเป็นห้องของตน แล้วพี่จะให้เหล่าสมาชิกสภาที่มีหน้าที่คอยสอดดูแลแต่ละชั้น ไปแนะนำทุกคนนะครับ”
“ครับ/ค่ะ” ปี 1 ทั้งหลายตอบรับ
ไม่นานนัก เหล่านักเรียนปี 1 ทั้งหมดก็แบ่งแถวกันออกเป็น 6 ห้อง เรียงตั้งแต่ห้อง A ไปสิ้นสุดที่ห้อง F ทันทีที่จัดแถวเสร็จ เซซิลก็จัดแจงให้สมาชิกแต่ละคนที่เขาเตรียมมาเข้าไปกล่าวให้คำแนะนำกับเหล่าปี 1
“ห้อง A แถวไหนครับ?” เซซิลเอ่ยถาม
“ทางนี้ค่ะ!” ไม่รอช้า สาวๆ กวักมือเรียกทันที (หั่นแน่~!)
“สวัสดีครับน้องๆ ปีหนึ่งทุกคน พี่ของแนะนำตัวอีกครั้งนะครับ พี่ เซซิล ฮาวีย์ เป็นกรรมการคุมความประพฤตินักเรียน อยู่ปี 3 ห้อง A ต่อไปนี้พี่จะเป็นคอยดูแลห้องเราอยู่ห่างๆ มีเรื่องอะไรก็มาขอคำปรึกษาได้ ฝากตัวด้วยนะครับ” เซซิลว่า
“ฝากตัวด้วยครับ/ค่ะ” ปี 1 ห้อง A ทั้งหมดตอบรับ
“เอาล่ะ จากนี้พี่จะแนะนำพวกเราเกี่ยวกับกฎระเบียบในโรงเรียนนะฟังให้ดีล่ะ” ว่าจบเซซิลก็เริ่มสารทยาย
“เฮ้~ๆ เสน่ห์ยังแรงไม่ตกเลยแฮะ” ทีดัสชายหนุ่มผมสั้นสีทอง ตาสีฟ้าสวยผู้ยืนเอามือ 2 ข้างซ้อนพิงกำแพงอยู่ข้างๆ ประตูหอประชุมเอ่ยขึ้น ขณะมองตรงมายังเพื่อนหนุ่มหน้าหวานที่ล้อมรอบไปด้วยน้องปี 1
ควับ...
“อ้า~ว ไงคลาวด์” ทีดัสที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาข้างๆ ตน จึงหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นเข้ากลับคลาวด์เดินเข้ามาในหอประชุมพอดี
“เขา... เลิกกันหมดแล้วเหรอ?” คลาวด์ถามหน้าตาย
“วู้~! ปีมะโว้แล้วเพื่อนเอ๊~ย! นายไปอยู่ไหนมา?” ทีดัสถาม
“นั่งหลับอยู่โรงเก็บรถ...” คลาวด์ตอบอย่างไม่คิดอะไร
“เฮ้~ย!? นายเป็นนอนในโรงเก็บรถ เกิดใครขี่รถมาเหยียบนายเขาจะเป็นไง?” ทีดัสเอ่ยเตือน
“ฉันนอนบนมอเตอร์ไซด์...” คลาวด์ตอบหน้าตาเฉยดังเดิม
“เฮ้~ย...!? มันนอนได้ไงวะ?” ทีดัสมองมาที่คลาวด์อย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ ขณะจินตนาการณ์ภาพตาม “เอาเหอ~ะ... ปกตินายก็ไม่ค่อยชอบอยู่ในที่คนเยอะๆ อยู่แล้ว”
“อืม...” คลาวด์ตอบรับง่ายๆ “งั้นฉันขึ้นห้องก่อนแล้วกัน...”
“อื้อ!” ทีดัสตอบรับ
“ทีดีส!”
“หือ~?” ทีดัสหันหาเซซิลที่ตะโกนเรียกหาตน
“มาทางนี้หน่อย!” เซซิลกวักมือเรียก
“เซซิลเรียกน่ะ งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ห้องนะ” ทีดัสว่าก่อนวิ่งไปหาเซซิล
“อืม...” คลาวด์ตอบรับขณะทำท่าจะเดินออกจากหอประชุม ทันใดตาก็ไปสะดุดเข้ากับเด็กสาวน่ารัก ซึ่งยืนอยู่หลังสุดของแถว “หื~ม...?”
“มีอะไรเหรอเซซิล?” ทีดัสที่วิ่งมาตามเสียงเรียกของเซซิลเอ่ยถาม
“ทุกคนพี่ขอแนะนำให้รู้จักนี่ ทีดัส กัปตันทีม และ ดาวเด่นประจำ บลิสบอลของดิสสิเดีย” เซซิลแนะนำทีดัส
“โห~!” ปีหนึ่งส่วนใหญ่ร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
“ขะ ขะ ขอ ละ ลายเซ็นหน่อยครับ”
“ขอจับมือหน่อยค่ะ”
“ผมเป็นแฟนตัวยงของพี่เลยนะครับ”
“ใครน่ะ?” นักเรียนปี 1 คนหนึ่งกระซิบถามเพื่อน
“นายไม่รู้จักเหรอ? ทีดัส สุดยอดผู้เล่นบลิสบอลระดับ ม.ปลาย ที่ได้รับการจับตามองจากคนทั้งโลก ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีนำทีมดิสสิเดียชนะเลิศปีที่แล้ว!”
“จริงอะคนนี้น่ะเหรอ?”
“ใจเย็นๆ ครับทุกคน เรื่องนี้เอาไว้ก่อน” ทีดัสยกมือผ่อนเสียงเหล่าปี่หนึ่งเบื้องหน้าตนลงเมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศไฟนอลมุงจากห้องอื่นๆ ที่เริ่มหันมามองทางเขาเมื่อได้ยินเสียงฮือฮา “ตกลง เรียกฉันมามีอะไรเหรอ เซซิล?”
“ในฐานะนักเรียนทุนเหมือนกัน ฉันอยากให้นายเข้าไปแนะนำน้องๆ นักเรียนทุนใหม่ของปีนี้หน่อย”เซซิลว่า “ฉันแยกพวกเขาเข้าแถวอยู่นั่นน่ะ”
“ได้สิ จัดให้” ทีดัสตอบรับก่อนเดินไปยังแถวด้านหลังที่ประกอบไปด้วย สคอลล์ บัสท์ ซีดาน ออนเนี่ยนไนท์ และ ทีน่า “หวัดดีทุกคน...”
“เด็กคนนั่น... รู้สึกว่าจะชื่อ... ทีน่าสินะ...” คลาวด์พยายามรื้อฟื้นความจำในหัวที่ยังเบลอๆ อยู่ เนื่องมาจากเพิ่งตื่นเมื่อไม่นาน “เหมือนเราจะลืมอะไรไป... ช่างเหอะ...”
ว่าจบเจ้าตัวก็เดินจากไป ทั้งๆ ที่พวกกุญแจอันเล็กน่ารักยังถูกกำอยู่ในมือ
ปี 1 ห้อง A
“อรุณสวัสดิ์นักเรียนทุกคน” อาจารย์มาดขรึมผู้สวมหมวกเกราะสีดำสนิทแต่งลวดลายด้วยสีทอง มีเขาชี้ขึ้นฟ้าคล้ายเขาของด้วงคีม ผู้ยืนอยู่หน้าชั้นเรียนเอ่ยทักทายเหล่าเด็กปีหนึ่งประจำห้อง “ครูชื่อกอลเบซ ฮาวีย์ เป็นอาจารย์ประจำชั้นของพวกเธอ ควบตำแหน่งอาจารย์ฝ่ายปกครอง หากมีปัญหาอะไรมาปรึกษาครูได้ทุกเมื่อ วิชาหลักขอครูคือภาษาอังกฤษ ตามตารางเรียนเราจะได้พบกัน 2 คาบติดกันต่อจากคาบโฮมรูมทุกเช้าต่อจากนี้ ก่อนจะเริ่มคาบโฮมรูมมีใครมีคำถามไหม?”
“เออ... ทำไมครูต้องใส่หมวกเกราะคะ?” หนึ่งในนักเรียกหญิงคนหนึ่งยกมือถาม
“ความชอบส่วนตัว...” กอลเบซตอบแบบสั้นๆ ได้ใจความก่อนถามต่อ “มีใครมีคำถามอีกไหม?”
“...” ไม่มีใครเสนอหน้า เอ๊ย มีข้อสงสัยใดๆ
“เอาล่ะ งั้นเริ่มคาบโฮมรูมเลย วันนี้เป็นวันแรกครูอยากให้ทุกคนรู้จักกันไว้” ในขณะที่พูดเจ้าตัวก็หยิบรายชื่อนักเรียนขึ้นมาเตรียมพร้อมไว้ “ครูจะเช็คชื่อ แล้วใครที่ถูกเรียกชื่อให้ลุกขึ้นพูดแนะนำตัวกับเพื่อนๆ ทั้งห้อง นอกจากชื่อแล้วจะพูดอะไรอีกก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ ฉายา เบอร์โทรศัพท์ ความประสงค์ในการเรียน ม.ปลาย และ อื่นๆ อีกมากมาย แล้วแต่พวกเธอ แต่อย่าให้นานเกินไป เริ่มจากคนแรกเลย ริทซ์ เมาเลอร์...”
“ริทซ์ เมาเลอร์ ย้ายมาจาก เซนท์ ไอวาลิส เป็นเด็กประจำอยู่หอพักดิสสิเดีย ย้ายมาเรียนที่นี้เพราะต้องการศึกษาในโรงเรียนชั้นนำค่ะ
” เด็กสาวผมยาวสีแดงผู้นั่งอยู่มุมซ้ายสุดของห้องลุกขึ้นแนะนำตัว ทั้งๆ ที่ควรจะมีอาการเกรงเล็กน้อยเพราะเป็นผู้เริ่มคนแรก แต่เธอกลับพูดอย่างสุขุม และ นั่งลงหลังพูดเสร็จอย่างเรียบง่าย
“ดีมากคุณ
“คะ. ค่ะ ซ่าร่าห์ เวียร่า มาจาก เซนท์ ไอวาลิส อยู่หอห้องเดียวกับริทซ์ ย้ายมาที่นี้ด้วยเหตุผลเดียวกับริทซ์ค่ะ” เด็กสาวผิวคล้ำผมยาวสีขาวปล่อยมัดเป็นจุกเล็กๆ 2 ข้าง ส่วนที่เหลือยาวลงมาปรกหลัง ลุกขึ้นแบบอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ตอบออกมาแบบสบายๆ ก่อนนั่งลงดังเดิม
“อืม... พวกเธอย้ายมาด้วยกันสินะ ครูไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็อย่าอยู่กันแค่ 2 คน ให้พูดคุยคบกับเพื่อนคนอื่นๆ ด้วยนะ” กอลเบซว่า
“ค่ะ” 2 สาวตอบรับ
“เอาล่ะคนต่อไป มิวท์ แรนเดลล์
”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับ
“มิวท์ แรนเดลล์
ได้ยินรึเปล่ารึเปล่า” กอลเบซว่าก่อนมองมายังเด็กหนุ่มผมยุ่งๆ สีน้ำตาลหยักศกที่นั่งถัดมาจากลิทซ์ และ ซาราห์
“เออ... ” เด็กหนุ่มนั่งนิ่งพยายามจะเอ่ยปากลุกขึ้นแนะนำตัว แต่ก็ไม่กล้า
“ขออนุญาตครับครู มิวท์ แรนเดลล์ ค่อนข้างขี้อาย่ะครับ ผมมาร์ช ราดิว์จู เป็นเพื่อนมิวท์ครับ พวกเราย้ายมาจาก เซนท์ ไอวาลิส เหมือนกันกับ ลิทซ์ และ ซาร่าห์ ฝากตัวด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มผมทองยาวประบ่าเอ่ยแนะนำตัวแทนเพื่อนข้างๆ ตน
“ขอบใจ มาร์ช...” เด็กหนุ่มนามมิวท์กระซิบบอกมาร์ชเพื่อนของตน
“เอาล่ะ ยินดีได้รู้จักนะคุณแรนเดลล์ คุณราดิว์จู ตอนนี้ยังอาจไม่ชินกับโรงเรียน ก็ค่อยๆ ปรับตัวไปแล้วกันนะ เอาล่ะ คนต่อไป... แรมซ่า เบโอล์ว”
“ครับ แรมซ่า เบโอล์ว ย้ายมาจาก...”
แล้วการแนะนำตัวก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยนักเรียนแตกละคนก็ลุกขึ้นมาแนะนำตัว บางคนคนก็บอกแค่ชื่อเฉยๆ บางคนก็บอกที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ บางคนก็เอ่ยบอกความต้องการในการเรียนม.ปลายให้เพื่อนๆ ฟัง เช่น แรมซ่า ต้องการอยู่อย่างนักเรียนธรรมดาทั่วไป เดลิต้า ต้องการเรียนในที่มีระดับสูงกว่าที่เคยเรียนมา มัสทาดิโอ ต้องการศึกษาในระบบช่างกลของโรงเรียน อากริอัส ตามเพื่อนสาว โอวีเลียมา และ อื่นๆ อีกมากมาย จนในที่สุดก็มาถึง
“ต่อไป ออนเนี่ยน ไนท์
”
“คะ ครับ!” หนุ่มน้อยผมทองลุกขึ้นยืนเพื่อให้ทุกคนเห็นหน้าตา ก่อนกล่าวแนะนำตัว แต่ก็หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงฮือฮาจากเพื่อนๆ
“เฮ้! หมอนั่นเด็ก ม.ปลายจริงเหรอ?”
“ตัวเล็กเป็นบ้าเลย”
“น่ารักจังเล~ย!”
“อะแฮ่ม!” กอลเบซส่งเสียงให้ทุกคนอยู่ในความสงบก่อนเอ่ยบอก “คุณไนท์ ยืนบนเก้าอี้ให้ทุกคนเห็นหน่อย”
“ฮ่าๆ...” เพื่อนแอบหัวเราะเล็กน้อย
“ครับ” ออนเนี่ยนตอบรับอย่างไม่ถือสาอะไรก่อนกระโดดขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แล้วเอ่ยแนะนำตัว ”ผมออนเนี่ยน ไนท์ จากเมืองเออร์ จะเรียกออนเนี่ยนเฉยๆ หรือหัวหอม ตามฉายาที่โรงเรียนเก่าก็ได้ ผมเป็นหนึ่งในนักเรียนทุนของดิสสิเดียฝากตัวด้วยครับ”
“ออนเนี่ยน หัวหอม ฮะๆ ชื่อเท่ดีนะ” เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง
“งั้นเราเรียกหมอนั่นว่าหัวหอมดีกว่า”
“ไม่ได้ๆ ไม่เข้าท่าเลย ตัวเล็กน่ารักๆ แบบนี้ต้องน้องหอมสิ”
“เออ! เหมาะเลย เรียกน้องหอมนี่แหละ”
“อะแฮ่ม! ขอบคุณมากคุณไนท์ เอาล่ะ คนต่อไป” กอลเบซไอเรียกความสนใจของทั้งห้องอีกครั้งก่อนเริ่มไล่รายชื่อคนต่อไป “สคอลล์ ลีออนฮาร์ท
”
“ครับ...” สคอลล์ตอบรับก่อนลุกขึ้นยืน
“โห~
หล่อ
” สาวๆ ในห้องมีปฏิกิริยาทันที
“ฉันว่าน่ากลัวมากกว่า...” แต่สาวบางคนก็กลัวท่าทางขรึมของสคอลล์
“ตัวสูงชะมัด”
“มีแผลตรงหน้าด้วย ท่าทางโหดน่าดู”
“สคอลล์ ลีออนฮาร์ทจากโรงเรียนฝึกทหาร SeeD เป็นนักเรียนทุน” ว่าจบก็นั่งลง
“พูดแค่เนี้ย~!?”
“เฮ้ย! โรงเรียนฝึกทหารเชียวนะเว้ย ไปกวนเข้าเดี๋ยวโดนยิงหัวเอาไม่รู้ด้วยนะ”
“เออ... นั่นดิ...”
“เอาล่ะคนต่อไป” กอลเบซเริ่มขี้เกียจไอตัดบท จึงได้เอ่ยต่อไปโดยไม่สนใจเสียงฮือฮาจากเหล่านักเรียนของเขา “บัทส์ คราวเซอร์
”
“คร๊า~บ บัสท์คร๊าบ!” เมื่อได้ยินชื่อตนเจ้าหนุ่มตัวดีก็กระโดดลุกขึ้นยืนโบกมือเรียกความสนใจจากทุกคน “ผมบัทส์ คราวเซอร์ เรียกบัทซ์เฉยๆ ก็ได้นะครับ ผมมาจากเมืองลิซ เป็นหนึ่งในนักเรียนทุนเช่นกัน สิ่งที่ชอบที่สุดคือ โชโคโบะ ขอฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจด้วยคร๊า~บ!”
“โอ้โหเฮะ ไอ้หมอนี้พรีเซนท์ตัวเองซะเต็มที่เลย...”
“เหอะๆ ดูร่าเริงจน ร่าหมันไส้ยังไงก็ไม่รู้แฮะ”
“ทำไมอะ? ฉันว่าน่ารักดีออก”
“ต่อไป” และอีกเช่นเคย กอลเบซรีบเอ่ยตัดเสียงฮือฮา “ซีดาน ไทรบอล...”
“คร๊า~บผม!” ไม่ต่างจากเพื่อนคู่ขา หนุ่มตัวเตี้ยหน่อยยืนขึ้นยกมือเรียกความสนใจจากบรรดาเพื่อนๆ “หวัดดีคร๊าบ ผมซีดาน ไทรบอล เรียกซีดานได้ตามสบายครับ ผมมาจากอเล็กซานเดรีย เป็นนักเรียนทุน อีกหนึ่งคน ขอเตือนไว้ก่อนใครอยู่ใกล้ผมอย่าเผลอนะครับ (กระเป๋าตังหายแน่นอน) ฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจเช่นกันคร๊าบ!”
“เหอะๆ มาอีกหน่อแล้ว”
“ดูท่าจะเป็นคู่หูกันด้วยแหะ หมั่นไส้ยกกำลัง 2 เลย”
“ทำไมอะ น่ารักดูออก”
“วู้! ตั้งแต่น้องหอมมาแล้ว มีใครไม่น่ารักมั๊ยเนี่ย!?”
“อะแฮ่ม... เกินไปแล้ว...” กอลเบซว่าคิ้วกระตุกเหล่ตามองเหล่านักเรียนที่กำลังจับกลุ่มกันซุบซิบสร้างเสียงฮือฮากันอย่างไม่ชอบใจนิดๆ
“ขอโทษค่ะ /ครับ...” หลังกล่าวขอโทษ ก็หันกลับมาโทษกัน
“เห็นมั้ย~! น่ารักๆ อยู่ได้ โดยกันทั้งกลุ่มเลย ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้”
“ช่ายๆ ทำเวอร์ไปได้ เห็นใครดูดีเป็นไม่ได้เลย...”
“...” ผู้หญิงในกลุ่มพูดไม่ออก
“เอาล่ะ... คนต่อไป” การแนะนำตัวดำเนินต่อไป “ทีน่า แบรนฟอร์ด...”
“ค่า...”
“โอ้~ว... /ว้า~ว.../โห~.../ แม่เจ้าโว้~ย...” เหล่าหนุ่มมองมายังเด็กสาวอย่างหื่น เอ๊ย ตื่นตา เมื่อทีน่าลุกขึ้นยืนแนะนำตัว
“ทีน่า แบรนฟอร์ด มาจากแลนด์ ออฟ เอสเปอร์ เป็นนักเรียนทุนเช่นกันค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ” ทีน่าแนะนำตัวอย่างสุภาพก่อนนั่งลง
“สว~ย...” เหล่าหนุ่มๆ ที่ต่างมองทีน่าด้วยความหน้าหม้อ เอ๊ย หน้าหลงใหล [เฮ้ยถามจริงคนเขียนทำไมชอบด่าเพศตัวเองฟะ!?] (ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่เผาตัวเองมันสะใจดี วะฮ่าๆ) [มันบ้าแล้ว...]
“แห~ม... ทีงี้มองซะตาเยิ้มเชียวนะ...” สาวๆ หมั่นไส้บ้าง
“อะแฮ่~ม
!” กอลเบซไอเสียงดังฟังชัด เหล่ตามมองอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนเอ่ยบอก “ทำอะไรเกรงใจอาจารย์นิดก็ดีนะ อาจารย์ก็มีหัวนะ (ถึงอยู่ในหมวกก็เหอะ)”
“ขอโทษค่า.../คร๊าบ...” ทั้งกลุ่มเอ่ยเสียงจ๋อยๆ ก่อนที่การเช็คชื่อ แนะนำตัวจะดำเนินต่อไปจนคนสุดท้าย
“ฝากตัวด้วยครับ”
“ครบแล้ว ครูก็ฝากให้ทุกคนอยู่ร่วมกันดีๆ ดูแลซึ่งกันและกันจนจบการศึกษานะ” กอลเบซกล่าวปิด “เอาล่ะ หมดคาบโฮมรูมพอดี ต่อคาบภาษาอังกฤษเลย”
ว่าจบกอลเบซก็เก็บสมุดจดรายชื่อใส่กระเป๋าประจำตัว ก่อนหยิบหนังสือภาษาอังกฤษออกมาพร้อมกับ
“OK Let’s Begin today’s lesson. For the first day everyone bring up your book and open to the content.”
“โห~!” เด็กๆ โห่ “เอางี้เลยเหรอครู?”
“เอางี้แหละ ให้เวลาทำใจ 5 วิ แล้วเอาหนังสือออกมาเรียน”
“คร๊า~บ/ค่า” เด็กตอบรับยิ้มกับท่าทางเป็นมิตรของอาจารย์ก่อนหยิบหนังสือขึ้นมาเตรียมพร้อมเรียน ก่อนเริ่มเรียน
พักเที่ยง ปี 2 ห้อง A
“อย่างงี้นะ พอฉันตรงเข้าทำท่าจะทำประตู ฝ่ายตรงข้ามก็จะมาประกบใช่มะ แล้วฉันก็จะส่งมาให้นายที่อยู่ข้างหลังแทน จากนั่น”
“ทีดัส” คลาวด์เอ่ยเรียกกัปตันทีมบลิสท์บอลที่กำลังวางแผนการเล่นกับเพื่อนอยู่
“หื~ม? มีอะไรเหรอ?” ทีดัสหันหน้ามาเอ่ยถาม
“เด็ก ที่นายคุยด้วยเมื่อเช้าอยู่ห้องไหน?” คลาวด์ถามเรียบ
“คนไหนอะ?”
“ผู้หญิงสีผมทองเป็นลอน หน้าหวานๆ”
“อ๋อ~! ทีน่าน่ะเหรออยู่ห้อง A น่ะ” ทีดัสตอบ
“ขอบใจ
” ว่าจบเจ้าตัวก็เดินจากไป
“อื้อ
แห~ม เดี๋ยวนี้มีถามถึงเด็กผู้หญิงด้วยแฮะ ถ้าไม่รู้จักนายนะคลาวด์ ฉันคงนึกว่านายจะไปจีบน้องเขา เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ... คลาวด์มันสนใจผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่...” ทีดัสเอ่ยกับตัวเองงงๆ ก่อนจะรู้สึกตัว แล้วจึงตะโกนเรียนเพื่อนสนิทอีก 2 คนของตนที่นั่งคุยกันอยู่อีกมุม “เฮ้ย! หรือว่า!? โอ้แม่พระเจ้า! ข่าวใหญ่เว้ยเฮ้ย! เซซิล
! ฟีเรี่ยน...! โบะของเราโตเป็นหนุ่มแล้ว
!”
ปี 1 ห้อง A
“ปะไปกันไอติมกัน”
“เออปะ”
หลังจบคาบ เหล่านักเรียนทั้งหลายก็พากันแยกย้ายกันไปกินข้าว แล้วผักผ่อนในช่วงพักกลางวันหายไปกว่าครึ่งห้อง ส่วนที่เหลือก็ยังคงสิงสู่ เอ๊ย วนเวียนอยู่ในห้องทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ อย่างเป็นกันเอง [นี่ตกลงตั้งใจเขียนผิดใช้ปะ] (ไม่รู้ไม่บอก)
“ไงฉันลิสท์ นี่ซาร่าห์”
“ฉันอากริอัส ส่วนนี่โอวีเลีย “
“หวัดดี ฉันแรมซ่า ยินดีได้รู้จัก”
“หวัดดีแร่มซ่า ฉันมาร์ช ยินดีได้รู้จักเช่นกัน”
“หวัดดี” ในขณะที่ทุกคนกำลังทำความรู้จักกันอยู่ พ่อหนุ่มตัวน้อยออนเนี่ยนก็เดินเข้ามาทักสาวสุดน่ารักประจำห้อง “ฉันออนเนี่ยน เรียกหัวหอมก็ได้ยินดีได้รู้จัก”
“หวัดดี ออนเนี่ยน ฉันทีน่า ยินดีได้รู้จัก” ทีน่าทักกลับอย่างเป็นมิตร
“คือเรื่องเมื่อเช้า... ขอโทษทีนะ ที่วิ่งหนีเธอ” ออนเนี่ยนว่า
“ไม่เป็นไร แค่ตกใจนิดหน่อยเอง” ทีน่าตอบรับ “ว่าแต่ทำไมต้องวิ่งหนีด้วยล่ะ?”
“คือ...” น้องหอมใบ้กินทันทีขณะพูดกับตัวเองในใจ ‘งานเข้าและ ใครจะกล้าบอกว่าตกต้นไม้เสียฟอร์มเลยวิ่งหนีมา...’
“อะ เออ... พอดี... เออ... ปวดท้องเลยรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำน่ะ อึก!” เจ้าตัวนึกขึ้นได้ถึงกับสะอึกหยุดปั้นเรื่องก่อนเอ่ยด่าตัวเองในใจ ‘พูดไปได้ไงวิ่งหาห้องน้ำ~! น่าอายกว่าตกต้นไม้อีก โง่จริงเรา... เธอจะคิดยังไงล่ะนี่?’
“อ๋อ...”
“ห๊ะ?” น้องหอมสะอึกอีกครั้งเมื่อทีน่าตอบรับง่ายๆ ไม่มีท่าทีขำ ไม่มีสายตาดูถูก หรือ รังเกียจ ไม่มีท่าทีอื่นๆ ใดๆ นอกจาก ‘อ๋อ เข้าใจแล้ว’ จนเจ้าตัวนึกแปลกใจ อะไรทำให้เด็กสาวตรงหน้าเขาใสซื่อได้ขนาดนี้
“ยังไงก็ยินดีได้รู้จักอีกทีนะ” ทีน่าว่าพลางส่งยิ้มสดใสมาให้น้องหอม
“อื้ม!” น้องหอมยิ้มตอบ “นี่ๆ ฉัน... ขะ ขอ... เป็น... พะ เพื่อนเธอสนิทได้มั้ย?”
“ได้สิ”
“เย้!” น้องหอมหันแอบหลังกำมือแน่นแสดงความดีใจเหมือนนักบอลทำประตูได้
“เฮ้พวก...” เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งไม่ไกลนักซุบซิบกัน “สาวคนนั่นน่ะ ที่ชื่อทีน่าน่ะ น่ารักจริงเลยว่ะ”
“อย่าว่าน่ารักเฉยๆ น่ารักสุดๆ เลยต่างหาก” เพื่อน อีกคนในกลุ่มสมทบ
“หึ! น่ารักแค่ไหนไม่คณามือเราหรอก” คนที่หน้าตาดูมีราศีที่สุดในกลุ่มว่า
“โด่~ ขี้คุยชัด” เพื่อนเดิมดูถูก
“ก็ได้! มาเดี๋ยวจะจีบหญิงโชว์ตั้งแต่วันแรกเลย” หนุ่มหน้าตาดีหน่อยคุย ว่าจบเจ้าตัวก็เดินตรงไปหาทีน่าทันที แต่ยังไม่ทันใดเอ่ยทัก จู่ๆ
“ทะ ทีน่า” เด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาทักที่น่าด้วยท่าทีแปลกๆ “ทะ ทีน่าใช่มั้ย?”
“อะ อื้ม...” ทีน่าตอบรับงงๆ
“มะ มี ระ รุ่นพี่มาหาเธอ” เด็กสาวคนนั่นบอก
“เอ๋~?” ทีน่าอุทานก่อนจะหันไปมองที่ประตู พร้อมกับเหล่าไฟนอลมุงที่หูถ่างเมื่อได้ยืนเรื่องน่าสนใจแล้วหันมามองตามทีน่า
“ไง...” คนตรงหน้าประตูยกมือทัก
“รุ่นพี่คลาวด์?” ทีน่ามองตรงมาที่คลาวด์อย่างไม่เชื่อสายตา ไม่ต่างอะไรจากเหล่าไฟนอลมุงทั้งหลายที่กำลังมองรุ่นพี่ผู้เยือนตาข้าง
“เฮ้! นั่นคลาวด์ สไตรฟไม่ใช่เหรอ?”
“คลาวด์ สไตรฟ? ใช่คนที่ว่ารึเปล่า?”
“อื้อ!”
“หล่อจังเล~ย...”
“ยังไม่เลิกอีกเหรอ ตั้งแต่โฮมรูมมาแล้ว...”
“เรื่องของฉันย่ะ!”
“ว่าแต่ทีน่าไปรู้จักพี่เขาได้ไงอะ?”
“ไม่รู้ ต้องติดตามตอนต่อไป...” ทันทีที่คนสุดท้ายเอ่ยทิ้งท้ายไว้ เหล่าไฟนอลมุงที่ซุบซิบฮือฮากันอยู่ก็เงียบลงแล้วสามัคคีหันไปมองคู่หนุ่มสาวตรงหน้าเป็นตาเดียวกัน
“มานี่หน่อยสิ...” คลาวด์เอ่ยเรียกเรียบๆ
“คะ ค่ะ...” ทีน่าที่ยังแปลกใจนิดๆ เดินไปหาคลาวด์ ก่อนทั้งคู่จะเดินออกจากห่างหน้าต่าง หลบทัศนวิสัยของเหล่าไฟนอลมุง ที่ยังคงมองเหตุการณ์ตาไม่กระพริบ
พรึบ~!
เมื่อมองซ้ายมองขวาเห็นไม่มีใครสังเกต เหล่าไฟนอลมุงก็ไม่รอช้า พุ่งตัวไปเกาะขอบประตู ถ่างหูฟังทันที
“รุ่นพี่มีอะไรเหรอคะ?” ทีน่าเอ่ยถามคลาวด์
“เธอทำตกน่ะ...” คลาวด์ยื่นพวกกุญแจรูปมูเกิลที่ตนเผลอถือขึ้นมาบนห้องด้วยความสะลึมสะลือเมื่อตอนเช้าคืนให้ทีน่า
“อุ๊ย! ขอบคุณค่ะ...” ทีน่าเอ่ยขอบคุณ “ขอโทษที่ทำให้รุ่นพี่ลำบากค่ะ”
“ช่างมัน... ฉันไปและ...” ว่าจบคลาวด์ก็หันหลังเดินจากไปทันที
“ละ แล้วเจอกันใหม่นะคะ” ทีน่าเอ่ยตาหลังไป ก่อนได้คำตอบรับเป็นมือของคลาวด์ที่ยกขึ้นเหนือหัวเป็นเชิงตอบรับแม้จะไม่ได้หันหน้ากลับมา แต่นั่นก็ทำให้ที่น่าแอบยิ้มก่อนมองมาที่พวงกุญแจในมืออย่าดีใจ ‘เรามีรุ่นพี่กับเขาแล้ว...’
ช่างเป็นความคิดที่แสนใสซื่อ แต่... เหล่าไฟนอลมุงไม่ได้คิดอย่างงั้น
“มีให้พวงกุญแจกันด้วย!”
“เฮ้ย~? เมื่อกี้เขาบอกว่าทีน่าลืมไว้ไม่ใช่เหรอ?”
“โถ~! ผู้ชายขรึมๆ เวลาให้ของขวัญผู้หญิงก็ชอบบอกอย่างงี้แหละ”
“ใช่เหรอ?”
“แน่นอน!”
“เฮ้!ว่าแต่นายจะจีบทีน่าไม่ใช่เหรอ?”
“โห~ พูดไม่คิด เมื่อกี้เอาตาไปไว้ไหน? เห็นไหมว่านั่นใคร? รุ่นพี่คลาวด์ ไสตรฟ ทั้งสูงใหญ่ มาดเข้ม หล่อขรึมระดับนั่น แล้วจะให้ฉันเอาอะไรไปสู้!”
“ไม่ใช่แค่นั่นสิ ขืนนายไปจีบเด็กเขามีหวังเจอดีแน่เลย นั่นคลาวด์ ไสตรฟนะโว้ย”
ว่าจบเหล่าไฟนอลมุงทั้งหลายก็หันมาจ้องทีน่าที่ถือพวงกุญแจกลับมานั่งทีโต๊ะตัวเองอย่างอารมณ์ดี โดยหารู้ไม่ว่าเพื่อนในห้องคิดไปไกลแล้ว~
“นี่ๆ คลาวด์ สไตรฟคือใครเหรอ?” เสียงใสๆ เอ่ยถามมาจากเด็กหนุ่มมือวางอันดับ 2 ด้านความเตี้ยของห้อง
“พวกนายไม่รู้จักอะ!?” เพื่อนในห้องหันมาถามเป็นเสียงเดียวกัน
“หึ
” ซีดานกับบัสท์ส่ายหน้า
“คลาวด์ ไสตรฟ อดีตนักเรียนทหารของบริษัทชินระ หนึ่งในบริษัทที่มีเสียงชื่อในการปั้นทหารระดับ S คลาส... ร่วมฝึกงานทำภารกิจกับเจ้าหน้าที่จริง ในงานจริงมาแล้วนับไม่ถ้วน เป็นนักเรียนทหารที่กองทัพหลายที่ต่างจับตามอง... เมื่อปีที่แล้วได้รับ สิทธิพิเศษจากทางบริษัทให้มาเรียนต่อที่ดิสสิเดียตามข้อเสนอทุนของ ผอ.คอสมอส ซึ่งทำให้เขาเป็นที่จับตายิ่งขึ้นไปอีกในวงการทหาร” ทุกคนเบิกตากว้างหันไปมองสคอลล์ด้วยความตกใจหาที่เปรียบไม่ได้ เมื่อหนุ่มหน้าบากที่พูดนับคำได้อ้าปากสารทยายประวัติรุ่นพี่ที่เพิงจากไปมาซะยาวพรืดจนคนฟังยังหายใจไม่ทัน
“บัสท์ / ซีดาน” 2 ลิงมองหน้ากัน
ผัวะ!
“โอ้ย~!” ทั้ง 2 ร้องโอดโอยหลังต่อยหน้ากันไปคนละที
“เหมือนจะไม่ได้ฝันนะ” ซีดานว่า “ไม่น่าเชื่อ สคอลล์พูดยาวๆ เป็นด้วย?”
“นั่นดิ เดี๋ยวนะ! นายไปรู้เรื่องของพี่เขาได้ไงอะ?” บัสท์หันมาถามงงๆ
“เรื่องของฉัน...” ว่าจบสคอลล์ก็เปิดกล่องข้าวของตนออกกินอย่างไม่สนใจใคร
“อย่างที่บาก เอ๊ย สคอลล์พูดนั่นแหละ แต่เรื่องของเรื่องมันไม่ได้มีแค่นี้น่ะสิ” หนึ่งในไฟนอลมุงว่าขึ้น
“หือ~?” ทุกคนหันมาหาคนพูดพร้อมกัน แม้แต่น้องหอมที่ทำท่าจะไม่สนใจ แต่หูน้อยๆ ของเจ้าตัว ก็ถ่างออกเป็นจานดาวเทียมรอรับสัญญาณจากสื่อทันที เหลือเพียงแค่ทีน่ากำลังหยิบข้าวกล่องขึ้นมาทาน หลังที่คล้องพวงกุญแจไว้กับกระเป๋าดังเดิม
“พวกนายทุกคนรู้จักเมืองมิดการ์ใช่มั้ย เมืองๆ นั่นมีแก๊งนักเลยอยู่แก๊งหนึ่งรู้จักกันในนาม เดอะ เทริคซ์”
“เดอะ เทริคซ์?” ซีดานทวนชื่อ
“ใช่ เดอะ เทริคซ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ นักเลงในสูท แก๊งที่แม้แต่เจ้าพ่อมาเฟียระดับบิ๊กๆ ได้ยินชื่อแล้วยังต้องหนาว”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรุ่นพี่คลาวด์ล่ะ?” บัสท์ถามแทรก
“ฟังให้จบก่อนสิ ไม่มีใครในมิดการ์ที่กล้าต่อต้าน เดอะ เทริคซ์ เพราะข่าวลือว่า มีองค์กรใหญ่ระดับมหาอำนาจคอยค้ำหัวพวกมันอยู่”
“ก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องของเราตรงไหนเลย” ซีดานเริ่มงง
“เฮ้ย! พวกนายก็ฟังให้จบก่อนดิ! ถามแทรกอยู่ได้ จะได้เล่ามั้ยล่ะเนี่ย!? เข้าเรื่องต่อ แต่แล้วมีแก๊งนักเลงอีกแก๊งหนึ่งลุกขึ้นมาห้ำหั่นกับเดอะ เทริคซ์ซึ่งนำโดยคนร่างยักษ์ แบร์เร็ท วอลเลซ ผู้มีมือขวาเป็นปืน ชื่อของแก๊งนั้นก็คือ แอวาแลนช์!” คนเล่าหยุดลงเล็กน้อยหันมามองหน้าซีดาน และ บัสท์
“ไม่ขัดแล้ว เล่าไปดิ” ทั้ง 2 ว่า
“โอเค... ตามที่เล่ามาพวกนายยังไม่เห็นว่ารุ่นพี่คลาวด์จะเกี่ยวอะไรตรงไหนใช่มั้ย? มาเข้าเรื่องกันเลย”
“วู้! ตกลงที่เล่ามานี่แค่เกริ่นงั้นเหรอ?” ซีดานโวย
“ช่าย แหะๆ” คนเล่าหัวเราะกวนๆ “เอาล่ะ เล่าดีๆ แล้ว แก๊งแอวาแลนช์มีข่าวลือแปลกๆ ว่า จริงๆ แล้วแบร์เร็ท วอลเลซไม่ใช่หัวหน้าที่แท้จริงของแก๊ง แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าตัวจริงของแก๊งเป็นใคร รู้เพียงว่า หัวหน้าแก๊งเป็นผู้ชายหุ่นดี ไว้ผมตั้งๆ ใช้ดาบใหญ่ๆ คล้ายปังตอประกอบกันหลายๆ อันเป็นอาวุธ”
“แล้วไง...?” 2 ลิงถามเป็นเสียงเดียวกัน
“เมื่อปีที่แล้ว มีช่วงหนึ่งที่มิดการ์เกิดศึกการปะทะกันใหญ่ระหว่างเดอะ เทริคซ์ กับแอวาแลนช์ จนถึงขั้นทำหนึ่งในที่กำเนิดพลังงานในเมื่องถึงกับระเบิดเลย! พวกนายอาจจะไม่รู้เพราะทางการกลบข่าวเรื่องนี้ไว้แล้วปล่อยข่าวออกมาเป็นเกิดอุบัติเหตุแทน”
“อ๋อ~! ข่าวการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อปี่ที่แล้วนี่เอง...” บัสท์ทำท่านึกได้ ก่อนเอ่ยถามต่อ “มันก็ยังไม่เกี่ยวอะไรกับรุ่นพี่เขาอยู่ดี?”
“ถึงจุดสำคัญแล้วฟังนะ ในวันที่โรงกำเนิดพลังงานระเบิด มีนักข่าวคนหนึ่งถ่ายรูปชายคนหนึ่งในแก๊งแอวาแลนช์ที่กำลังใช้ดาบที่มีรูปร่างเหมือนปังตอยักษ์ ฟันฝ่าวงล้อมของเหล่าเดอะ เทริคซ์ ออกมาจากที่เกิดเหตุ ชายคนนั้นมีรูปประพันสันฐานเหมือนหัวหน้าแก๊งแอวาแลนช์เปี๊ยบเลย! ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ รุ่นพี่คลาวด์ สไตรฟนั่นเอง!”
“หา~?” ทั้ง 2 ลิงอุทานเป็นเสียงเดียวกัน
“ไร้สาระ...” สคอลล์ที่กินข้าวเสร็จพอดีเก็บกล่องข้าวเข้ากระเป๋าก่อนหยิบหนังสือของโรงเรียนเตรียมทหาร SeeD ขึ้นมาอ่าน
“แล้วใช่รุ่นพี่คลาวด์จริงเหรอ?” บัสท์เอ่ยถาม
“ใช่ๆ... ไม่ใช่แค่คนที่ดูเหมือนพี่เขาเหรอ?” ซีดานสมทบ
“ฉันก็ไม่รู้นะ มันเป็นข่าวลือน่ะ เห็นว่าหลังจากเหตุการณ์วันนั้นไม่กี่วัน ก็มีคนกลุ่มหนึ่งในชุดสูทนั่งรถลีมูซีนขันสีดำนับ 10 คัน มาที่ดิสสิเดีย เพื่อพบรุ่นพี่คลาวด์ และ ผอ.คอสมอส ถึงพวกนั่นจะเดินทางกลับไปอย่างเรียบง่าย แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องราวที่พวกเขาเข้าไปคุยกับผอ.คือเรื่องอะไร ทำให้ชื่อของพี่คลาวด์ดังไปทั่ว จนถึงปัจจุบัน”
“โห~?” 2 ลิงอุทานก่อนมองหน้ากันเหมือนเป็นเรื่องสนุก
“นี่ๆ ฉันสงสัยมานานแล้ว มันจะเป็นอย่างข่าวลือจริงๆ น่ะเหรอ?”
“นั่นสิ ถึงจะเป็นนักเรียนเตรียมทหาร แต่ก็ยังเป็นเด็กอยู่ดีแหละ พี่เขายังไม่ครบ 18 เลย จะกล้าถึงขนาดไประเบิดที่กำเนิดพลังงานได้ไง?”
“จริงไม่จริงไม่รู้ แต่แหล่งข่าวที่ฉันได้มาเชื่อถือได้แน่นอน...”
“แหล่งข่าว? จากไหน?”
“กระทู้โรงเรีย~น!”
“ถุย!” เหล่าไฟนอลมุงถุยใส่คนเล่าพร้อมกันอย่างไม่ต้องนัดหมาย
“ไอ้บ้า! แค่กระทู้โรงเรียน! คุยซะได้ยินมาจากสายลับระดับชาติงั้นแหละ!”
“อย้~าๆๆ...! อย่าดูถูก ความสามรถของเครือข่ายอินเตอร์เน็ทนะ กระทู้โรงเรียนนี้แหละคือแหล่งข่าวสุดยอดของดิสสิเดียแห่งนี้ อยากรู้อะไรเข้าไปดูซะ ทุกซอกทุกมุมในกระทู้มีคำตอบให้ท่าน!”
“วู้~! ปล่อยมันบ้าไปคนเดียวเหอะ พวกเราไปกินข้ากันดีกว่า”
“เฮ้ย~! รอด้วย” ว่าจบเหล่าไฟนอลมุงก็แยกย้ายกันออกจากห้องเหลือไว้แต่เหล่านักเรียนที่ห่อข้าวมากินเอง กับน้องหอมที่กำลังนั่งครุ่นคิดกับสิ่งที่ได้ยิน
“มีคนอันตรายขนาดนี้ในโรงเรียนด้วยเหรอ?” น้องหอมคิด
ณ ทางเดินสู่ตึกปี 2
“ฮัดชิ้~ว...” คลาวด์จามเบาๆ ราวกับถูกคนนินทา ขณะที่ตนกำลังเดินกลับห้องของตน แต่แล้ว
แท้น แท้ แท้ แท่ แท แท้น แท แท้...!!
เสียงมือถือดังมาจากกระเป๋ากางเกงคลาวด์ ไม่รอช้าหนุ่มหัวโบะล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าก่อนกดรับสาย
“ว่าไง... อืม... คืนนี่เหรอ? ได้... นายล่วงหน้าไปก่อนเลยแบร์เร็ท... อืมแล้วจะรีบไป...” ทันทีที่คุยจบ เจ้าตัวก็กดวางสายก่อนใส่โทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าอย่างเดิม
ตอนเลิกเรียน
“บ๊าย~บายแรมลิสท์ บ๊าย~บายซาร่าห์”
“บ๊าย~บายอากริอัส โอวีเลีย”
“ไปนะเดลิต้า”
“เจอกันพรุ่งนี้มิวท์”
“เฮ้มาร์ช! ฉันกับมัสทาดิโอจะไปดูไอเทมกัน ไปด้วยกันมั้ย?”
“ไปสิ ร้านไหนเหรอ?”
“...”
“เฮ้! สคอลล์รอด้วย
!”
“ไปนะทีน่า!”
“เจอกันพรุ่งนี้ ออนเนี่ย” ท่ามกลางบรรยากาศหลังสิ้นสุดการเรียนในวันแรก เหล่าเด็กๆ ต่างบอกลาซึ่งกันและกัย บ้างก็ชวนกันไปเที่ยว บ้างก็เดินออกไปดื้อๆ บ้างก็วิ่งตามกันไป เป็นเหตุการณ์ที่พบได้ทั่วไปในช่วงเวลาแสนสุขในโรงเรียน เช่นเดียวกับเด็กสาวที่กำลังบอกลาเพื่อนสนิทตัวน้อยของตน
“เจอกันพรุ่งนี้” น้องหอมตอบรับ ก่อนสะพายกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องไปอย่างร่าเริง ขณะโบกมือลาเพื่อนสาวของเขา “บาย~!”
“บายจ๊ะ” ทีน่าหันกลับมาจัดโต๊ะตัวเองให้เรียบร้อยหลังยิ้มโบกมือตอบน้องหอม ก่อนสะพายกระเป๋าพาดบ่า แล้วจึงเดินออกจากห้องไป
โรงเก็บรถ นักเรียน
‘แหะๆๆ... ดูแผนที่กลับทิศอีกแล้วเรา’ ทีน่าเกาหัวอายๆ ขณะแลบลิ้นยิ้มๆ ให้กับความเปิ่นของตนเองด้วยท่าทางแสนน่ารัก ก่อนหยิบสมุดประจำตัวนักเรียนขึ้นมาเปิดดูแผนที่อีกครั้ง ‘โรงเรียนนี่ใหญ่จริงๆ คงต้องใช้เวลาจำทางซักพักแล้วล่ะ’
ตึกตัก!
“เฮือก!” ทันใดนั้น ขณะที่ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปอย่างปกติ จู่ๆ หัวใจที่เต้นอยู่เป็นจังหวะสม่ำเสมอก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนเปลี่ยนจังวะเป็นแรงถี่รั่ว จนทีน่ารู้สึกเหมือนหัวใจของเธอจะหลุดออกมาจากอก สายตาของเธอเริ่มเรือนรางไม่ต่างอะไรกับสติของที่ค่อยๆ จางหายไป “ไม่นะ... ทำไมต้องเป็นตอนนี้...”
ตึกตัก!
“ไม่นะ... ไม่... ต้องหา... ที่... หลบ...” ทีน่าใช้แรงเฮือกมองหาสถานที่ลับตาคน ในที่สุดตาสีอเมทิตย์สวยที่ตอนนี้เห็นทุกอย่างเป็นภาพเบลอ ก็ไปสะดุดเข้ากับมุมอาคารที่นักเรียกแหกกฎเมื่อเช้าใช้เป็นที่หลบสูบหรี่ “ต้อง... ไป... หลบ...”
“เฮ้
นั่นใช่เด็กที่เราเจอเมื่อเช้ารึเปล่า?” หนึ่งนักเรียกแหกกฎที่กำลังเดินมายังโรงรถกับเพื่อนทั้ง 2 ชี้ไปยังทีน่าที่ค่อยๆ ย่างก้าวเข้าไปในมุมเพาะพันธุ์เมร็งของพวกเขาราวกับคนกำลังจะเป็นลม
“เออใช่! ไปทำอะไรตรงนั้นนะ?” นักเรียกแหกกฎอีกคนข้างๆ กันว่า
“เฮ้! จะว่าไปวันนี้เราไม่ได้ถูกเรียกไปพบอาจารย์การ์แลนด์กับอาจารย์กอลเบซ เรียกไปหาเลยนี่หว่า แสดงว่าเธอคนนั่นยังไม่ได้เอาสมุดประจำตัวของเราไปให้อาจารย์แน่เลย” นักเรียกแหกกฎคนสุดท้ายว่าขณะระลึกภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าที่พวกตนถูกคลาวด์ยึดสมุดประจำตัวของตนไป แล้วยื่นให้ทีน่าเอาไปให้อาจารย์ “ดีเลย ตอนนี้เธออยู่คนเดียว ไอ้เจ้าคลาวด์ สไตรฟก็เพิ่งขี่มอเตอร์ไซด์ออกไปเมื่อกี้ เราไปแย่งสมุดพกคืนมากันเหอะ”
“ถ้าเกิดแย่งมาแล้ว วันต่อมายัยคนนั่นไปบอกคลาวด์ สไตรฟล่ะ?” เพื่อนคนหนึ่งถามอย่างเป็นกังวล “ยังไงพวกนั่นก็ต้องเอาเรื่องไปรายงานอาจารย์อยู่ดี”
“นายจะไปกลัวอะไร ที่คลาวด์ สไตรฟให้ยัยผู้หญิงคนนั่นเอาสมุดพกของเราไปให้อาจารย์เพราะอะไรรู้มั้ย? เพราะไม่มีอาจารย์คนไหนเชื่อมันน่ะสิ มันเป็นเด็กเกเรติดบัญชีดำของโรงเรียน แล้วครูคนไหนจะเชื่อคำพูดมัน” นักเรียกแหกกฎคนแรกสารทยาย “ส่วนยัยเด็กนั่นน่ะ ดูจากท่าทางแล้วคงเป็นพวกลูกแหง่ ไม่ก็ลูกคุณหนู แค่ขู่หน่อยก็หงอไม่กล้าทำอะไรแล้ว!”
“โอเคๆ ก็ได้ งั้นไม่ต้องรอช้าไปกันเลย” ว่าจบนักเรียกแหกกฎทั้ง 3 ก็วิ่งตามทีน่าที่หายเข้าไปในมุมตึกโดยทันที และแล้ว
“อ๊า~ก...!!!”
เสียงกรีดร้องของทั้ง 3 ดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ พร้อมกับแสงสว่างสีขาวที่วาบออกมาจากมุมอาคาร ด้วยเสียงร้อง และ แสงประหลาดทำให้เหล่าไฟนอลมุงที่อยู่รอบๆ กรูกันเข้ามาดูสถานการณ์เป็นแทบ จะติดก็แค่ ตอนนั้นไม่มีใครอยู่รอบๆ เลย เว้นแต่...
‘หือ...? อะไรน่ะ?’
บ้านรีเทรินเนอร์
แอ๊~ด! ปึง!
“อ้า~ว? กลับมาแล้วเหรอทีน่า?” หญิงสาวแสนสวยนามเซเลสผู้กำลังทำกับข้าวอยู่ในควัมเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา
ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! แอ๊~ด! ปึง!
“เอ๋~?” เซเลสร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้ที่เข้ามาได้บ้านเมื่อครู่วิ่งขึ้นบ้านก่อนปิดประตูห้องอย่างรีบร้อน “ทีน่า~!”
กึก
เซเลสวางงานที่ทำอยู่ลงก่อนเดินออกจากครัวขึ้นบันไดตรงไปหาห้องของทีน่าด้วยความเป็นห่วง
ก๊อกๆๆ!
“ทีน่า? เป็นอะไรรึเปล่า?” เซเลสเอ่ยถาม
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ชายหนุ่มผมสีเงินเอ่ยถามขณะเปิดประตูเดินออกมาจากห้องข้างๆ
“ล๊อค ทีน่าไม่รู้เป็นอะไร พอกลับมาก็วิ่งเข้าห้องไม่พูดอะไรเลย” เซเลสเอ่ยกับล๊อคผู้เป็นสามี
“...” ล๊อคหันไปมองประตูห้องทีน่าขณะเอามือจับคางเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างก่อนหันมาบอกเซเลส “ไม่มีอะไรเหรอ ฉันว่าเธอแค่เหนื่อยน่ะ...”
“แต่ว่า~!” เซเลสทำท่าจะทักท้วง
“เอาล่ะๆ เธอกลับไปเตรียมอาหารต่อเถอะ เดี๋ยวฉันคุยกับทีน่าเอง” ล๊อคตัดบท
“โอเค...” เซเลสตอบ ก่อนเดินกลับลงบันไดไปด้วยความกังวล ถึงแม้จะเป็นห่วงเด็กสาว แต่เธอก็ทำได้ทำอะไรไม่ได้ จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของล๊อคแทน
“ทีน่า...” ล๊อคเรียกเด็กสาวเบาๆ
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ดังมาจากในห้อง
แกร๊ก~!
ไม่รอช้า ล๊อคใช้ความสามารถส่วนตัวสะเดาะกลอนประตูเปิดออกทันที แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิด เด็กสาวในความดูแลของเขานอนฟุบหน้าร้องไห้อยู่บนเตียงด้วยท่าทีทุกข์ระทม ช่างดูน่าสงสารยิ่งนัก
“เฮ้อ~
ควบคุมพลังไม่ได้อีกแล้วสินะ...” ล๊อคว่า พลางเดินเข้าไปนั่งลงที่เตียงของเด็กสาว “เรื่องเป็นยังไงเล่าให้ฉันฟังซิ...”
“วันนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี... หนูเข้าโรงเรียนได้เหมือนคนทั่วไป... ไม่มีใครมองหนูเป็นตัวประหลาด... หนูได้มีเพื่อนใหม่... หนูได้มีรุ่นพี่กับเขา... หนูคิดว่าตอนนี้คงได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติเขาสักที... แต่แล้ว...” ทีน่าเล่าเรื่องเราของเธอให้ล๊อคฟังด้วยเสียงซะอื้น ขณะใบหน้าขาวสวยของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา “พอหนูกำลังจะกลับมานี่... จู่ๆ พลังเอสเปอร์ก็ปะทุขึ้นมาอีก... หนูแอบไปหลบอยู่ที่ลับตาก่อนสติจะหายไป... ตอนแรกหนูนึกว่าปลอดภัยแล้ว... แต่พอได้สติกลับมา... หนู... หนูทำร้ายคนอีกแล้ว
”
“มานี่มา...” ล๊อคพยุงทีน่าลุกขึ้นนั่งก่อนปาดน้ำตาแก้วใสๆ ของเธอ “มันเป็นอุบัติเหตุทีน่า เธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น... อย่าโทษตัวเองเลย...”
“ล๊อค...” เด็กสาวมองหน้าล๊อคชายหนุ่มผู้เปรียมเสมอพ่อ ชายผู้เป็นทั้งครู และ เพื่อน ชาย... ผู้เจ้าชีวิตเธอ ด้วยความซึ้งใจที่อะไรเปรียบไม่ได้ ก่อนโผเข้ากอดชายหนุ่มแล้วปล่อยโฮออกมา “ฮือ...”
“ร้องออกมาให้ทีน่า... เธอไม่ต้องกังวล... ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เธอเอง...” ล๊อคปลอบเด็กสาว
ดิสสิเดีย
“
” อาจารย์หนุ่มผมยาวสลวยสีเงินสวย มองสภาพของนักเรียนแหกกฎทั้ง 3 ที่นอนกองกันอยู่ที่พื้นในสภาพโทรมสุดๆ ราวกับรุมถูกกระหน่ำฟาดด้วยไม้มาก็ไม่ปาน
“นายเห็นเหตุการณ์ใช่มั้ย?” กอลเบซเดินเข้ามาถามอาจารย์ผมเงิน “เซฟ
”
“ไม่เห็น...” อาจารย์หนุ่มนามเซฟตอบ
“อย่าโกหกเซฟ”
“แทนที่นายจะมาสอบสวนฉัน ฉันว่านายโทรเรียกรถพยาบาลมาดีกว่า” เซฟเอ่ยขัดกอลเบซที่ทำท่าจะเค้นความจริงจากเขา
“หึ...” กอลเบซสบถ แล้วจึงหยิบมือขึ้นมาโทรขอความช่วยเหลือ
“ฉันไม่ชอบยุ่งกับความลับใคร ไม่ต่างกับฉันไม่ชอบให้ใครยุ่งความลับของฉัน...” เซฟว่า “แต่... บอกนายได้อย่างหนึ่งกอลเบซ...”
กอลเบซหันมามองหน้าเซฟ
“ศึกระหว่างผอ.คอสมอส และ ครูใหญ่เคออสปีนี้ น่าสนใจแน่ๆ...”
ความคิดเห็น