ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    7 King - 7ราชามหาเวท

    ลำดับตอนที่ #4 : 4 ออกเดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 57


    ~ 4 ~ 


     

    " พี่ ! จะพาผมไปไหนครับ "

    เดซี่เอ่ยถามมนขณะที่ตอนนี้กำลังถูกฉุดกระชากจากหญิงสาวร่างเล็กที่ไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงขนาดนี้มาจากไหนกัน

    " ตามเหอะน่า เดี๋ยวก็รู้เองแหละ " 

    ยูริเองก็สงสัยเช่นกันว่าพวกเขาทั้งคู่กำลังจะไปที่ใด แต่ที่สงสัยยิ่งกว่าคือทำไมคนที่เธอเฝ้าตามหามานาน แต่บทจะเจอก็เจอง่ายเสียเหลือเกิน เธอจึงตัดสินใจวิ่งตามทั้งคู่ไป

    ปัง !!  เสียงเปิดตูของอีทเทอร์ดังขึ้นจนทำให้คนที่อาศัยอยู่ภายในห้องถึงผวากับเสียงนั้น  เลโอที่ตอนนี้กำลังนั่งดูหนังสือเล่มใหญ่อยู่ตรงโซฟานั้น รีบหันมาหาต้นตอของเสียงทันที  เบื้องหน้าของเขา คือหญิงสาวร่างเล็ก กับเด็กหนุ่มผมยาว และสาวสวยอีกคนนึงที่กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู 

    " เด็กคนนี้แหละที่ฉันบอกนาย " 

    อีทเทอร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ไปยังเดซี่ที่ตอนนี้กำลังยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เขาไม่เข้าใจว่า อีทเทอร์พาเขามาที่นี่ทำไม และผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมเธอถึงแนะนำเขาต่อผู้ชายคนนี้ด้วย ไม่นานอีทเทอร์ก็พาเด็กหนุ่มเข้าไปภายในห้องนั้นตรงที่เลโอนั่งอยู่ เธอยกข้อมือของเดซี่ขึ้นมาพร้อมกับถลกแขนเสื้อของเขาขึ้นเพื่อจะเผยสัญลักษณ์ที่เธอเคยบอกไว้ให้เลโอได้เห็น 

    " นี่ไง ใช่สัญลักษณ์นี้หรือป่าว "

    เลโอที่ได้เห็นสัญลักษณ์นั้น ถึงกับเผยรอยยิ้มแห่งดีใจขึ้นมาในทันที (ไม่คิดเลยว่าจะเจอง่ายขนาดนี้ ) เขาคิดภายในใจ ก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเดซี่ เขาจับข้อมือของเดซี่ยกขึ้นมาดูไกล้ๆ

    " เดี๋ยว ! นั่นคุณจะทำอะไรครับ "

    เดซี่ร้องท้วงขึนมาพร้อมกับสะบัดแขนของเขาออกขอมือของ ชายหนุ่มตรงหน้า แต่เลโอกลับจับข้อมือของเขาไว้แน่น จนเขาไม่สามารถที่จะหลุดจากพันธะนั้นได้ 

    " ฉันขอดูให้ชัดๆหน่อย " 

    เลโอเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับเพ่งมองสัญลักษณ์ที่ข้อมือนั้น เมื่อดูเสร็จเลโอเดินกลับไปนั่งที่โซฟาและเปิดหนังสือขึ้นทันที เดซี่ที่กำลังงุนงงกับการกระทำของเขาจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

    " สัญลัษณ์นี้ มันคืออะไร หรอครับ "  

    เขาเอ่ยถามพรางมองไปที่ทุกคน ก่อนที่จะหันไปมองหน้าเลโอราวกับกำลังขอคำตอบ

    " คุณคือ ราชาเอลฟ์ ที่กลับชาติมาเกิดน่ะ " 

    สิ้งเสียงคำตอบ เดซี่ถึงกับอุทานออกมาพรางกับหันไปมองหน้ายูริทันที เพราะเมื่อกี๊ทั้งคู่พึ่งจะคุยกันถึงเรื่องนี้ไปหยกๆ แต่ผู้ชายคนนี้กลับบอกว่าเขาเป็น คนที่ผ๔้หญิงคนนี้ตามหาเอาเสียดื้อๆ 

    " บ้าแล้ว มันจะเป็นไปได้ยังไงกันครับ คุณคงจำผิดคนแล้วล่ะ "

    " ไม่ผิดหรอก "

    เลโอท้วงขึ้นพร้อมกับยื่นหนังสือในมือให้กับเด็กชายเบื้องหน้าของเขา เดซี่รับหนังสือนั้นขึ้นมาดู เลโอชี้ไปยังจุดที่มีสัญลักษณ์นั้นที่อยู่ในหนังสือ เดซี่เพ่งดูรูปในหนังสือกับข้อมือตัวเองสลับกันไปมา ถึงแม้หน้าตาของคนในรูปถึงแม้จะไม่เหมือนแต่ก็มีส่วนที่คล้ายคลึงกับเขาอยู่ไม่น้อย แต่ที่เหมือนกับเขาที่สุดก็คงจะเป็นสัญลักษณ์รูปมงกุฎนั่น

    " หนังสือเล่มนี้เป็นของปู่ของฉันเอง " เลโอเริ่มอธิบาย 

    " ท่านมอบไว้ให้ฉันก่อนที่ที่จะเสีย ท่านบอกว่าฉันจะต้องกำจัดราชามังกรดราโกรนิคให้ได้และเพื่อให้ได้พลังที่จะสามารถกำจัดดราโกรนิคได้นั้นฉันจึงจำเป็นต้องรวบรวมทุกคนที่อยุ่ในหนังสือเล่มนี้ " 

    " ราชามังกร ไหน ผมไม่รุ้จัก " 

    " ดราโกรนิค ราชาของชนเผ่ามังกรที่ชั่วร้ายที่สุดในโลกยังไงละคะ " 

    เป็นยูริที่แทรกขึ้นมาตอบคำถามแทนเลโอ เดซี่ได้ดินคำตอบนั้นแต่ก็ยังไม่คลายความสงสัย 

    " ตอนนี้มันกำลังใช้พลังอำนาจของมัน ยึดครองโลกนี้อยู่ยังไงล่ะ " .

    เดซี่พยักหน้ารับ เขาเพียงแค่รับรู้แต่จริงๆแล้วเขากลับไม่รุ้อะไรเลยเสียด้วยซ้ำเพราะวันๆเขาเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในโรงแรมและนานๆครั้งเพียงเท่านั้นที่เขาจะออกไปข้างนอกเช่นที่ตลาดของเมือง เขาจึงไม่ค่อยรับรู้เกี่ยวกับเรื่องภายนอกเสียเท่าไหร่

    " แต่คุณจะแน่ใจได้ยังไงกัน ว่าผมคือคนที่คุณตามหา แค่สัญลักษณ์นี้เพียงเดียว มันจะยืนยันได้หรอครับ " 

    " มีวิธีนะคะ " ยูริหยิบหนังสือที่อยู่ในเสื้อคลุมของเธออกมาพร้อมกับส่งให้เดซี่ 

    " ฉันเคยบอกใช่มั๊ยคะว่า ถ้าคนที่เป็นราชาเอลฟ์กลับมาเกิดถ้าได้หนังสือนี่คืนไป เขาอาจจะจำเรื่องราวนะอดีตได้ " 

    " แต่ผมเคยสัมผัสกับหนังสือเล่มนี้มาแล้วนะครับ แต่ทำไมผมถึงจำอะไรไม่ได้ จริงๆแล้วผมอาจจะไม่ใช่คนที่พวกคุณตามหาก็ได้ " 

    " แต่ลองดูก็ไม่เสียหายหนิ " 

    เป็นอีทเทอร์ที่เอ่ยขึ้นหลังจากที่ยืนฟังอยุ่นาน เดซี่รับหนังสือมาถือไว้ในมือ พร้อมกับค่อยๆเปิดหนังสือผ่านไปทีละหน้า

    " ลองเลือกมาสักหนึ่งบทสิ " 

    เดซี่ละสายตาจาหนังสือมามองที่ต้นเสียง ก่อนจะกลับไปสนใจตัวหนังสือต่อไป ไม่นานเดซี่ทำสีหน้าเหมือนว่าตัดสินใจได้แล้วว่าจะลองบทเวทไหนดี

    " เอาบทนี้ละกัน "

    ว่าจบเขาผายมือออกไปข้างตัวค่อยๆหลับตาลงช้าๆพร้อมร่ายบทเวทออกมาเป็นเสียง " บทลำนำแห่งอัสนี หอกเทพสายฟ้า " ว่าจบเขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆก่อนที่จะเหลือบสายตาไปดูที่มือนั้น แต่สิ่งที่เขาเห็นกลับตรงกันข้ามกับที่เขา ในมือของเขาช่างว่างเปล่าไร้ซึ่งอาวุธใดๆ เขาถอนหายใจหนึ่งครั้งดังๆ

    " เห็นมั๊ยครับ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ใช่คนที่พวกคุณตามหาหรอก " 

    " ไม่ มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่  " เลโอว่าขึ้นพร้อมกับสีหน้าชวนสงสัย

    " นายลองทำจิตใจให้สบาย คิดแค่ว่าอาวุธที่นายเรียกจะต้องออกมา คิดแค่นั้นก็พอ ลองใหม่สิ " 

    เดซี่พยักหน้ารับก่อนที่จะลองอีกครั้ง  [ต้องออกมา หอกเทพสายฟ้าจงมาอยู่ในมือข้าเถิด ] เขาคิดในใจก่อนที่จะร่ายเวทบทเดิม และสุดท้ายทุกอย่างก็เหมือนเดิมคือไม่มีอาสุธใดๆโผล่ออกมา จึงทำให้เดซี่และทุกๆคนต้องผิดหวังกันอีกครั้ง แต่เวลาผ่านไปไม่นานหลังจากที่ทุกคนเริ่มสิ้นหวังและคิดว่าเดซี่อาจจะไม่ใช่ราชาเอลฟ์รีเทิร์นจริงๆก็ได้ ทันใดนั้นเองบรรยากาศภายในห้องก็เปลี่ยนไป มีลมพัดเบาๆก่อตัวขึ้นและสิ่งที่ทุกคนต้องตะลึงและต้องรีบถอยห่างออกจากเดซี่ก็คือ แสงสีเหลืองทองส่องสว่างเจิดจ้าอยู่ที่พื้นบริเวณรอบๆตัวของเขา เป็นลักษณะวงกลมขนาดประมาณ2เมตรและมีอัขระโบราณปรากฏอยู่ภายในวงเวทนั้น พร้อมกับในมือของเขาที่ตอนนี้กลับมีหอกยาวสลักไปด้วยลวดลายที่สวยงามและมีกระสายฟ้าแล้นอยู่ทั่วทั้งตัวหอก ซึ่งเจ้าตัวเองก็ออกจะตกตะลึงอยู่ไม่แพ้คนรอบข้างเช่นกัน

    " นี่สินะ เวทมนตราอันเป็นตำนานของเผ่าเอลฟ์ หอกเทพสายฟ้า ช่างเป็นอาวุธที่สวยงามแต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายเช่นกัน " 

    เลโอเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทันที แม้แต่เดซี่เองที่ตอนนี้ออกจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะสามารถทำได้ แต่ก็เผยรอยยิ้มอย่างดีใจออกมา ไม่ต่างอะไรกัยทั้งสองสาวที่อยู่ภายในห้องก็อยู่ในอารมณ์เดียวกันกับทั้งสองหนุ่มเช่นกัน ไม่นานเดซี่ก็สลายเวทนั้นปล่อยให้อาวุธและวงเวทนั้นจางหายไป ก่อนที่ทั้งสี่คนจะนั่งลงที่โซฟาภายในห้องของเลโอเพื่อช่วยกันปรึกษาว่าจะเอายังไงกันต่อไป


    ......................................................


    " โฮเซ่ กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ " 

    เสียงสดใสของสาวสวยเอ่ยทักทายน้องชายทันทีที่เขาก้าวเข้ามายังปราสาท โฮเซ่เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่พึ่งเดินทางกลับมาจากภารกิจที่เสด็จพ่อหรือองค์ราชาสั่งให้เขาออกไปปฏิบัติแทน ถึงแม้จะเป็นภารกิจแต่มันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่นัก เพราะสิ่งที่ราชาสั่งให้โฮเซ่ออกไปทำนั้นมันก็แค่การออกไปเยี่ยมเยียนเหล่าชาวเมืองเท่านั้นเอง  เด็กหนุ่มส่งรอยยิ้มสดใสให้แก่พี่สาวทันทีที่สิ้นเสียงทักทายจากเธอ

    " กลับมาแล้วรึ เป็นอย่างไรบ้าง " 

    คราวนี้เป็นเสียงทุ่มฟังดูน่าเกรงขาม เอ่ยถามขึ้นบ้าง  โฮเซ่รีบหันมามองยังต้นเสียงทันที 

    " ชาวเมืองอยู่กันอย่างสงบสุขเช่นเดิม ครับท่านพ่อ " 

    " อืม ก็ดีแล้ว เจ้าน่ะอีกไม่นานก็จะต้องขึ้นเป็นราชาแล้ว ผูกมิตรไว้กับเหล่าชาวไว้น่ะดีแล้ว เวลาที่เจ้าขึ้นครองราชจะได้มีแต่คนที่พร้อมจะจงรักภักดีแก่เจ้า " 

    " ครับท่านพ่อ " โฮเซ่น้อมรับคำสั่งสอนของผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะหันไปสนใจที่พี่สาวของตน

    " พี่ริเซ่ ฉันมีของมาฝากพี่ด้วยนะ " เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปที่พี่สาวก่อนที่ทั้งคู่จะพากันออกไปยังข้างนอก

    " นี่ๆ อย่าวิ่งเล่นกันในปราสาทสิ เด็กพวกนี้ไม่รู้จักโตกันเสียจริงๆ " 

    เป็นเสียงสวยเอ่ยขึ้น ถึงแม้อาจจะฟังเหมือนเป็นการดุแต่ทว่าน้ำเสียงกลับแสดงถึงความห่วงใยเสียมากกว่า

    " ครับ/ค่ะ ท่านแม่ " ทั้งคู่ขานรับก่อนที่จะพากันวิ่งออกไปดังเดิม ปล่อยให้ผู้เป็นแม่ยืนส่งยิ้มอย่างระอาให้แก่ลูกทั้งสอง

    ภายนอกปราสาท ตอนนี้สองพี่น้อง ต่างพากันนั่งอยู่บนเก้าอี๊ที่จัดอยู่ในสวนหน้าปราสาท ไม่นานโฮเซ่ก็หยิบของที่อยู่ภายในกระเป๋าของตนออกมาพร้อมกับยื่นให้แก่พี่สาวทันที 

    " มันคืออะไรหรอ " ริเซ่ถามขึ้นก้อนที่จะรับสิ่งนั้นมาไว้ในมือ

    " สร้อยคอน่ะพี่ ฉันเห็นว่ามันแปลกดีพี่คงจะชอบ แล้วคนขายเขาบอกว่าเป็นของหายากด้วยนะ ฉันก็เลยซื้อมาฝากพี่น่ะ " 

    "  สวยมากเลยล่ะ ขอบใจนะ เธอนี่รู้ใจพี่จริงๆเลย " เธอพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิกแก้มน้องชายด้วยความเอ็นดู โฮเซ่ก็ส่งยิ้มระรื่นกลับมาให้เธอเช่นกัน ทั้งคู่คุยกันถึงเรื่องต่างๆพร้อมกับเสียงหัวเราะ แต่ไม่นาน ภายหน้าประตูก็มีเสียงของผู้มาเยือนดังขึ้น ทั้งคู่หยุดคุยและหันมาให้ความสนใจแก่ผู้มาเยือนทันที สิ่งที่ทั้งคู่เห็นคือชายแก่น่าจะมีอายุน้อยกว่าพ่อของพวกเขาสัก 2-3 ปี รูปร่างดูสง่างามเช่นเดียวกับพ่อของทั้งคู่ ใช่แล้วเขาคือท่านอาลูเซียส หรือน้องขององค์ราชานั่นเอง

    " นั่นท่านอาลูเซียสนี่ เขามาทำไมกันนะ "  ริเซ่เอ่ยถามผู้เป็นน้อง แต่ก็ไม่ได้คำตอบใดๆจากเขา เพราะโฮเซ่เองก็สงสัยเช่นเดียวกับเธอ  

    " แต่ฉันว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่เลย เพราะแต่ละครั้งที่ท่านอามา มักจะพาเรื่องมาให้ท่านพ่ออยู่เสมอ " เป็นโฮเซ่ที่พูดขึ้นไม่นานลูเซียสก็เดินทางเข้ามายังมนปราสาทเป็นที่เรียบร้อย 

    " อ่าว ริเซ่ โฮเซ่ ไม่เจอกันนานเลยนะ หลานทั้งสองสบายดีใช่มั้ย "  เขาเอ่ยทักทายเด็กทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม  ทั้งคู่ทำอค่เพียงแสดงความเคารพโดยที่ไม่ได้อะไรออกไป เห็นดังนั้นลูเซียสจึงเลือกที่จะเดินไปยังปราสาทแทน

    " ท่านอาเดินทางมาถึงที่นี่ไม่ทราบมีธุระอะไรหรือครับ " โฮเซ่เอ่ยถามไม่นานหลังจากที่ผู้เป็นอาก้าวเดินออกไป ได้ยินดังนั้นลูเซียสจึงหยุดเดินและตอบคำถามแก่หลานชายของตน

    " อาก็แค่มาหาพ่อของพวกเจ้า มันแปลกหรือ ที่พี่น้องมาหากัน " ลูเซียสตอบ แต่การตอบครั้งนี้เป็นน้ำเสียงที่เยือกเย็นต่างจากการทักทายเมื่อสักครู่นี้ยิ่งนัก พูดจบลเขาก็ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า พร้อมกับการยิ้มอย่างมีเลสนัย 

    " มาหา บ้าอะไร ชิ "  โฮเซ่เดาะลิ้นขัดใจออกมา ทำให้พี่สาวที่ยืนอยู่ข้างๆต้องเอื้อมมือขึ้นมาแตะไหล่เบาๆเพื่อปลอบใจ

    ........................................

    " นี่ผมจะต้องออกเดินทางหรอ " เดซี่เอ่ยถามด้วยความตกใจ เขาแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เพราะตั้งแต่เขาเกิดมา เขาไม่เคยออกไปไหนไกลจากที่แห่งนี้เกินกว่า 1 กิโมตรเลยสักครั้ง นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องออกไปเขาจึงรู้สึกแปลกใจมากเป็นพิเศษ

    " ใช่แล้วล่ะ ก็อย่างที่ฉันอธิบายไปเมื่อกี๊ ฉันต้องรวบรวมพวกนายเพื่อให้ได้พลังที่จะเอาไปกำจัดเจ้าราชามังกรนั่น เพราะฉนั้นนายจงมากับฉันและก็เดินทางออกตามหาพวกที่เหลือเถิดนะ " เลโอย้ำอีกครั้ง 

    " แต่ว่า ใครจะดูแลกิจการของผมล่ะครับ " 

    " แต่นายก็ยังไม่ได้เป็นเจ้าของเสียหน่อย ตอนนี้นายยังเป็นแค่ทายาทเฉยๆ พ่อนายยังไม่ได้ยกโรงแรมนี้ให้นายสะหน่อย " เป็นอีทเทอร์ที่เอ่ยขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมคราวนี้เธอถึงเห็นด้วยกับเลโอ ที่จะพาเดซี่ออกไปพจญภัย

    " แต่ว่าพี่ ..... " 

    " นายมีสำคัญมากๆนะ เพราะถ้าไม่มีนายแล้ว ราชามังกรนั่นอาจจะยึดครองโลกนี้สำเร็จก็ได้ ถึงตอนนั้นโลกนี้จะเป็นไปในรูปแบบฉันเองก็ไม่แน่ใจ ถึงตอนนั้นโรงแรมนี้รวมไปถึงคนสำคัญของนายอาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกก็ได้ " 

    เดซี่เพียงแค่ต้องการที่จะอยากมีชีวิตอิสระเท่านั้น แต่ถ้าสิ่งที่เลโอพูดเป็นความจริง ถ้าราชามังกรนั่นครองโลกได้จริง เขาอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แบบอิสระได้แน่ๆ คิดได้ดังนั้นก็หันไปขอความเห็นจากอีทเทอร์ที่นั่งข้างๆ เธอทำแค่เพียงพยักหน้าให้เขา เดซี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจ

    " ก็ได้ๆ ผมออกเดินทางไปกับคุณก็ได้ แต่ว่าผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมจะไปช่วยอะไรคุณได้ล่ะครับ "

    " ไม่ต้องห่วง แค่สิ่งที่นายทำเมื่อกี๊ก็ช่วยได้มากแล้ว ในระหว่างที่เดินทาง ฉันจะช่วยสอนนายเอง "

    เลโอเอยขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเอื้อมมือไปตบไหล่เดซี่เบาๆ 

    " นี่ๆ ฉันขอไปด้วยคนได้ไหม " อีทเทอร์สะกิดไหล่ของเลโอก่อนที่จะถามออกไป  ได้ยิินดังนั้นเขาถึงกับตะลึงกับความคิดของเธอ

    " เธอจะบ้ารึไง นี่พวกฉันไม่ได้เที่ยวนะ มันอันตรายไปไม่ได้หรอก " ได้ยินดังนั้นอีทเทอร์ถึงกับหน้าสลดลงทันที แต่ก็มิว่ยหันมาขอความช่วยเหลือจากเดซี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ  แต่สิ่งที่ได้คือคำตอบเดียวกับเลโอ เพราะถึงแม้เดซี่จะรู้ตัวว่าตัวเองอ่อนแอเพียงใด แต่เขาก็ไม่อยากเห็นใครต้องลำบากเหมือนกัน จะมีก็แค่เพียงยูริที่เข้าใจความรู้สึกของอีทเทอร์

    " ให้เธอเดินทางไปด้วยเถอะค่ะ เพราะอย่างน้อยเธออาจจะช่วยคุณตามหาคนเหล่านั้นได้ เหมือนกับครั้งนี้ "  ยูริว่าขึ้นพร้อมกับหันไปชูนิ้วโป้งขึ้นให้กับอีทเทอร์  เห็นดังนั้นเธอถึงกับยิ้มพร้อมส่งสัญลักษณ์เดียวกันกลับไปให้ยูริ

    " ใช่ๆ ฉันช่วยนายหาได้นะ เชื่อเซ้นฉันสิ " อีทเทอร์ยืนขึ้นพร้อมกับเอากำปั้นเล็กมาทุบที่หน้าอกตัวเองราวกับจะบอกว่าเชื่อใจฉันได้เลย เลโอเห็นแก่ที่คราวนี้เธอช่วยเขาหาเดซี่จนเจอและก็เชื่อว่าจะช่วยหาคนอื่นๆได้ เขาจึงพยักหน้าเชิงอนุญาตแก่อีทเทอร์ ส่วนทางอีทเทอร์นั้นก็กระโดดเข้ากอดกับยูริเพื่องแสดงความดีใจทันทีจนลืมไปว่าเธอเองก็พึ่งจะรู้จักกับยูริเมื่อไม่นาทีนี้เอง ไม่นานเธอก็รู้สึกตัวแล้วรีบปล่อยยูริทันที

    " ขะ ขะ ขอโทษค่ะ ฉันลืมตัวไปหน่อย " 

    " ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดีเสียอีก ฉันเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อน ต่อไปนี้เรามาเป็นเพื่อนกันนะคะ (^ ^) " ยูริส่งยิ้มให้กับเธอพร้อมกับยื่นมือออกไป เห็นนั้นอีทเทอร์กลับกระโดดสวมกอดเธออีกครั้งพร้อมกับเสียงหัวเราะ จนทำให้ยูริและเดซี่ถึงกับหัวเราะในความสดใสของเธอ แม้แต่เลโอเองก็ลอบยิ้มเองเช่นกัน 

    " จำไว้แค่อย่างเดียวก็พอ ว่าอย่าเป็นตัวถ่วง " เลโอว่าขึ้นมนขณะที่อีทเทอร์ผละตัวออกจากยูริเพื่อนใหม่ของเธอ

    " ชิ ! ฉันรู้แล้วล่ะน่า " อีทเทอร์จิปากก่อน และแลบลิ้นใส่เลโอก่อนที่จะฉวยข้อมือของยูริแล้วพากันวิ่งออกไปนอกห้อง เลโอส่ายหน้าเบาๆถึงความกวนประสาทของอีทเทอร์ ก่อนที่จะกลับไปให้ความสนใจกับการเก็บของต่อไป

    " ถ้างั้น ผมเองก็ขอตัวออกไปเก็บของก่อนนะครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับ " พูดจบเดซี่ก็เดินออกจากห้องไป

    ตอนเช้าตรู่ของอีกวัน......

    เลโอที่ตอนนี้กำลังยืนอยูใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าโรงแรม เขากำลังรอทั้งสามคนอยู่ซึ่งตอนนี้ก็นานมาเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครออกมา ไม่นานก็เสียงคนกำลังเดินมา นั่นคือ เดซี่ที่สะพายกระเป๋าเป้ใบไม่ใหญ่นัก ตามมาด้วยยูริและอีทเทอร์ที่กำลังแบกกระเป๋าใบใหญ่มาอย่างทุลักทุเลเห็นแล้วชวนขัดใจยิ่งนัก

    " นี่เธอจะย้ายบ้านรึไง ถึงได้แบกของไปเยอะขนาดนั้นน่ะ เธอคิดว่าจะแบกของพวกนั้นไปตลอดการเดินทางได้รึไง โง่จริง "  เลโอดุด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

    " ก็ของฉันมันเยอะนี่นา แล้วมันก็จำเป็นมากด้วย " อีทเทอร์ไม่วายที่จะเถียงออกไป แต่น้ำเสียงช่างดูเบาบางยิ่งนัก เลโอได้ยินดังนั้นจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ 
     
    " งั้นก็แล้วแต่เธอละกันนะ  แล้วอย่ามาอ้อนวอนให้คนอื่นเขาช่วยแบกละกัน " ว่าจบเขาก็เชิดหน้าไปอีกทาง ปล่อยให้อีทเทอร์เบะปากใส่อย่างขัดใจ ส่วนเดซี่และยูริก็ได้แต่หัวเราะกับการกระทำของทั้งคู่ จนทำให้คนอารมณ์เสียอย่างเลโอต้องหันมาทำหน้าดุใส่ทั้งคู่ 

    " เอาล่ะ ออกเดินทางกันเถอะ " ว่าจบเลโอออกเดินนำหน้าทุกคนไป ทั้งสามเห็นดังนั้นจึงออกเดินตามเดซี่และอีทเทอร์ดูเหมือนจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะนี่อาจจะเป็นการออกเดินทางพจญภัยครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้









    ........................................


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×