ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sanctuary wall

    ลำดับตอนที่ #2 : sanc'wall -2

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 57


    ~ 2 ~


     

    " แบทเทิ้ล ปาร์ค " 


    เด็กหนุ่มอ่านชื่อสถานที่ที่ติดอยู่บนป้ายขนาดใหญ่เหนือศรีษะของเขา ตอนนี้เซอาร์  อิทเทอร์ และโดฮีกำลัง
    ยืนอยู่หน้าซุ้มทางเข้าของสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ภายนอกก็เป็นเหมือนสวนสาธารณะอื่นๆทั้วไปที่ผู้คนใช้เป็นที่
    พบป่ะพูดคุยกันเป็นปกติ 

    " เออ เก่งนี่หว่าอ่านออกด้วย 5555 " อิทเทอร์เอ่ยแซวน้องชาย เพื่อหวังจะยั่วโมโหเขาเล่นๆ

    " ปั่ดโถ นี่แค่ความจำเสื่อมนะเจ๊ ไม่ได้โง่ซะหน่อย ... แล้วนี่พาฉันมาที่นี่ทำไมหรอ มันก็สวนสาธารณะธรรมดาๆหนิ "

    " เดี๋ยวเข้าไปก็รู้เองแหละน่า ถามมากจริงๆ ไอเด็กคนนี้ "

    พูดจบเธอก็เดินนำหน้าน้องชายและโดฮี เข้าไปด้านในทันที

    ......................

     ภายในของสถานที่ที่ชื่อว่า แบทเทิ้ล ปาร์ค ก็เหมือนกับสวนสาธารณะที่อื่นๆ มีบรรยากาศร่มรื่นดูสบายตา มีลานกว้าง
    หลายจุด และมีร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่นๆ ตั้งไว้ในจุดต่างๆกระจายอยู่ทั่วทั้งสถานที่
    ไว้เพื่อบริการผู้คนที่เข้ามาพักผ่อนในที่แห่งนี้ แต่จะแตกต่างออกไปเพียงอย่างเดียวก็คือ ลานกว้างในจุดต่าง ไม่ดีมีเอาไว้
    ออกกำลังกายหรืออย่างไร แต่มีเอาไว้เพื่อ ต่อสู้ 

    " เห้ยย เจ๊ คน ตีกัน !! "

    เซอาร์แหกปากโวยวายพร้อมชี้ไปยังที่เกิดเหตุให้พี่สาวมองเห็นเช่นเดียวกับเขา

    " โอ้ยย อินี่ มึงจะแหกปากหาพระแสงของ้าวอะไรวะ  ปล่อยๆมันไปเถอะ "

    ผู้เป็นพี่สบถคำด่าออกมาอย่างหัวเสียที่น้องชายดันมาแหกปากไกล้ๆหูของเธอ 

    ทั้งสามเดินมาถึงร้านกาแฟ ที่ตั้งอยู่ด้านในสุดของสวนสาธารณะแห่งนี้ พร้อมกับนั้งลงบนเก้าอี้ที่ทางร้านเตรียมไว้เพื่อ
    บริการลูกค้าในทันที

    " สวัสดี หนู อิทเทอร์ ลมอะไรหอบหนูมาถึงที่นี้ได้ละ "

    ชายชราเอ่ยทักหญิงสาวเจ้าของชื่อ พร้อมยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรให้กับเธอ 

    " สวัสดีค่ะ คุณลุงเบอร์นาด แหม่ลุงก็พูดเกินไปนะคะ หนูก็มาออกจะบ่อย "

    เบอร์นาด ชายชราผู้เป็นเจ้าของร้านกาแฟแห่งนี้ เผยยิ้มเล็กๆให้กับคู่สนทนาของเขา 

    " อ่ะ แล้ว 2 คนนั้น ใครกันล่ะ " เขาเอ่ยถามถึงบุคคลทั้งสองที่มาด้วยกันกับเด็กสาวที่เปรียบสเมือนเพื่อนต่างวัยของตน

    " อ๋อ ผู้หญิงคนนี้เธอชื่อว่า โดฮี ค่ะเป็นลูกน้องคนใหม่ พึ่งมาทำงานที่ได้แค่ 2 เดือนเอง "

    " สวัสดีค่ะ คุณเบอร์นาด ฉันชื่อโดฮี ค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ "

    ชายชราพยักหน้าตอบรับพร้อมหัวเราะเบาๆ ในการแนะนำตัวที่แสนจะจริงจังของเด็กสาวคนใหม่คนนี้  ใจจริงแล้ว
    เขาอยากที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเลยด้วยซ้ำ แต่ติดตรงที่ว่ามันจะเป็นการเสียมารยาทสำหรับคนที่พึ่งจะรู้จักกัน

    " แล้ว ... เด็ก คนนั้นล่ะ " เขาหันหน้าไปมองทางเด็กหนุ่ม พร้อมกับเอ่ยถามอิทเทอร์

    " อ่าว นี่ลุงจำ เซอาร์ไม่ได้หรอคะ นี่น้องชายของหนูไง " เธอถึงกับแปลกใจ ที่ลุงเจ้าของร้านกลับจำน้องชายของเขาไม่ได้
    ทั้งๆ ที่พวกเขาทั้งคู่ออกจะสนิทกัน เพราะเดิมทีแล้ว อิทเทอร์รู้จักกับลุงเบอร์นาดได้ก็เพราะเซอาร์พามาแนะนำเองแท้ๆ

    " อ้อๆ จำได้แล้ว แหม่ โตขึ้นเยอะเลยนะ เอาซะลุงจำไม่ได้เชียว " ชายชราเอ่ยทักแบบติดๆขัดๆ ไป อาจจะเป็นเพราะเขากำลัง
    เนียนอยู่นั่นเอง

    " ครับ "  เซอาร์พยักหน้าตอบเพียงสั้น พร้อมกับหันมามองหน้าพี่สาว เชิงจะถามว่า นี่ใครกันวะ 

    หลังจากพูดคุยทักทายกันเรียบร้อย เบอร์นาดที่เดินกลับเข้ามาในร้าน ชะโงกหน้าออกไปมองเด็กหนุ่มที่ชื่อเซอาร์อีกครั้งอย่างสงสัย

    " จะให้จำได้ ได้ยังไง ก็สีหน้ากับแววตามันเปลี่ยนไปซะขนาดนั้น แถมจิตสังหารอันรุนแรงของมันก็หายไปด้วย เมื่อก่อนหน้ามันไม่ได้
    แบ๊วแบบนี้นี่หว่า น่ากลัวยังกับปีสาจ หึ๋ยยย คิดถึงตอนร้านพังแล้วขนลุก "

    ชายชราทำสีหน้าปุเลี่ยนๆ บ่นกับตัวเอง สักพักเมื่อตั้งสติได้ เขาก็กลับไปทำงานของเขาเหมือนเดิมนั่นก็คือทำตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง
    มานั่นเอง 

    ........................

    ในระหว่างที่ทั้งสามนั่งรอ อาหารที่ลุงเบอร์นาดกำลังทำ

    " เจ๊ ! ฉันมีคำถาม ทำไมคนพวกนั้นถึงสู้กันในที่แบบนี้ล่ะ แล้วทำไมคนอื่นๆถึงไม่เข้าไปห้าม "

    เซอาร์เอ่ยถามพี่สาวด้วยความสงสัย

    " แกนี่แบบ ... เฮ้อ ฉันละเหนื่อยใจในความใสซื่อของแกซะจริงๆ เดี๋ยวให้โดฮีเป็นคนอธิบายก็แล้วกัน "

    ผู้เป็นพี่ ทำหน้าเบื่อหน่าย พร้อมกับโยน ภาระที่จะต้องอธิบายสิ่งต่างๆที่น้องชายอยากรู้ ให้กับเด็กสาว
    หน้าตายเป็นคนจัดการ 

    " ค่ะ " เธอพยักหน้าตอบรับเพียงสั้นๆก่อนที่จะเริ่มอธิบาย ตอนนี้หน้าของเซอาร์กำลังจดจ้องอย่างใจจด
    ใจจ่อที่จะรอฟังคำอธิบายจากปากของเธอ

    " ค่ะ สถานที่ที่นี่คือ แบทเทิ้ลปาร์คหรือ MBP เป็นที่ที่ทางสภามาเฟียได้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ให้เหล่ามาเฟีย ได้พักผ่อนหรือร่วมกิจกรรม
    ต่างๆด้วยกัน รวมไปถึงต่อสู้ด้วย MBPจะมีอยู่ในทุกๆ เมือง แต่ละเมืองจะมีแค่ที่เดียวเท่านั้น เหตุผลที่มีการสร้าง MBP นั้น เหตุผลหลัก
    ก็คือ การป้องกันไม่ให้เหล่ามาเฟีย ไปมีเรื่องทะเลาะกันในย่านที่มีผู้คนอื่นพลุกพล่านและอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียทางด้านทรัพย์สิน
    ของผู้อื่นได้ เขาจึงมีแนวคิดที่ว่า "ถ้าจะต้องเดือดร้อน ให้เดือดร้อนในที่ที่เดียวจะดีกว่า" จึงเกิดเป็น MBP ขึ้นมาค่ะ "

    " งั้นแบบนี้ ถ้าเกิดว่ามาเฟียเกิดสู้กันแล้วแบบว่า มีตายขึ้นมาล่ะ " เซอาร์ยังคงถามด้วยความสงสัยเช่นเคย

    " จะไม่มีการตายเกิดขึ้นใน เขต MBP หรือ G war ค่ะ เพราะทางสภามาเฟียได้กำหนดไว้แล้วว่า อาวุธที่ทุกคนใช้ แม้รูปลักษณ์ภายนอก
    จะดูอันตราย แต่จริงๆแล้วไม่มีความอันตรายต่อชีวิตค่ะ เช่นดาบที่ผู้ชายคนนั้นใช้ (พลางชี้ไปในจุดที่มีการต่อสู้กัน) อาจจะดูเหมือนมีคม
    แต่จริงๆแล้วมันไม่คมค่ะ อาจจะสร้างได้แค่รอยแผลเล็กๆ หรือเจ็บสุดก็ ขาหัก แขนหัก กระดูกหัก กระโหลกแตกร้าว สมองกระทบกระเทือน
    เป็นต้น ค่ะ "

    เธอเล่าไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย แตกต่างจากเซอาร์ที่ตอนนี้ใบหน้าของเขาถอดสีบ่งบอกถึงอาการช๊อคที่อยู่ภายในจิตใจของเขา 

    " แม่งโคตรน่ากลัวเลยว่ะ " เขาบ่นกับตัวเองเงียบๆ 

    " แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการตายเกิดขึ้นในหมู่มาเฟียหรอกนะคะ "

    เซอาร์สะดุ้งโหยง " ห๊ะ นี่ยังไม่หมดอีกหรอ " เขาเอ่ยออกมาโดยสัญชาตญาณ

    " ค่ะ ถึงแม้ภายในจะมีกฏ แต่ภายนอกไม่ได้มีกฏแบบนี้ เนื่องจากบางกิล มีความบาดหมางกัน ขัดผลประโยชน์กัน จึงทำให้มีเหตุการณ์
    ลอบสังหาร หรือแม้การจัดฉากการตาย ก็ยังมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ "

    " แล้ว ...... " 

    " นี่น้องสาว~ น้องสาวคนที่ถักเปียน่ะ น่ารักอ๊ะ มีแฟนหรือยังจ๊ะ ไปเดทกับพี่มั๊ย??  "

    เซอาร์ยังพูดไม่ทันจบ เขามีเรื่องที่จะถามโดฮีอีกมากมาย แต่ก็ดันมีเสียงปริศนาเอ่ยขึ้นมาแทรกระหว่างบทสนทนาของพวกเขาเสียก่อน

    " ไสหัวไปสะ ไอพวกหางแถว " อิทเทอร์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบเชิงจะบอกว่าตอนนี้เธอกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่

    " นี่น้องสาวคนสวย อย่ายิ่งนักสิ ไม่รู้หรอว่าพี่เป็นคนของกิลไหน " ชายหนุ่มยังคงพูดจาโน้มน้าวพร้อมกับโอ้อวดถึงความยิ่งใหญ่ของตัวเอง
    ชายอีก2คนที่ดูเหมือนจะเป็นลูกน้อง ที่มาด้วยกันก็เอาแต่ส่งเสียงหัวเราะในลำคอ เชิงจะบอกว่า ไม่รู้ซะแล้วว่าลูกเราใหญ่ขนาดไหน

    " ซิลเวอร์ บุลเลต ใช่มั้ย ไอกิลกระจอกนั่นน่ะเหรอ " เธอตอบด้วยน้ำเสียงราวกับกำลังเย้ยหยันคู่สนทนา โดยที่สายตาของเธอนั้นไม่แม้
    จะชายตาแลผู้ชายที่กำลังพูดกับเธอเลยสักนิด

    " นี่ มันจะมากเกินไปแล้วนะ ที่มาว่ากิลฉันเป็นกิลกระจอก แกรู้มั้ยว่าฉันน่ะเป็นคลาส s ของกิลเลยนะ "  

    ชายหนุ่มกำลังชี้หน้าด่าทอ หญิงสาวด้วยความโกรดเกรี้ยวที่เธอดันบังอาจมาดูถูกกิลของเขา

    " นี่เธอรู้มั้ยว่าชั้น ชื่อ โจก ........ อ่อกก ๆ "
    เขาต้องหยุดพูดกระทันหัน เพราะตอนนี้ กำปั้นเล็กๆของคู่สนทนาของเขากำลังปะทะเข้ากึ่งปากกึ้งจมูกของเขาอยู่ ส่วนชายอีก2คน ทำหน้าเลิ่กลั่กๆ
    ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้ามาจู่โจมเธอเป็นเส้นตรง ชายคนแรกเข้ามาพร้อมกับกำปั้นทีพุ่งมาเพื่อจะปะทะกับใบหน้าเธอ  หญิงสาวร่างเล็ก ทำแค่เพียง
    ยกแขนเรียวๆของเธอขึ้นมาปัดการโจมตีอย่างง่ายดาย พร้อมทั้งปล่อยหมัดลุ่นๆเข้าไปที่ท้อง และยกเท้าขึ้นเหนือศรีษะพร้อมกับกดเท้าลงมากระแทก
    เข้าที่หัวของเขา จนชายคนแรกล้มลงไปกองลงกับพื้น

    " แก๊ นังตัวแสบ " ชายคนที่สอง สบถถ้อยคำออกมาพร้อมกับคว้าเก้าอี้ไกล้ๆตัวขึ้นมาเตรียมจะฟาดให้อิทเทอร์  เห็นดังนั้นเธอจึงใช้เท้าขึ้นมาถีบเก้าอี้ที่อยู่
    ด้านหน้าของเธอใส่ตัวเขา จากนั้นก็กระโดดหมุนตัวกลางอากาศครึ่งรอบพร้อมกับเตะไปที่เก้าอี้ของเขาที่เตรียมไว้เพื่อจะฟาดใส่เธอ แต่แล้วก็กลับกลาย
    ว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกนั้นถึงตัว เก้าอี้เจ้ากรรมตัวนั้นกลับไปกระแทกใส่หน้าของผู้ถือทันที ด้วยความแรงของการเตะ จึงทำให้เมื่อเก้าสัมผัสกับใบหน้า
    ของชายคนที่สอง ถึงกับแตกหักในทักที เมื่อชายคนที่สองลงไปกองกับพื้น หญิงสาวร่างเล็กจึงหันกลับมาที่ ตัวการของเรื่องนี้

    นั่นก็คือ ไอ้โจกเกอร์  มาเฟียคลาส s แห่งกิล ซิลเวอร์บุลเลต กิลระดับ s ของเมืองนี้ที่เปรียบเสมือนคู่แข่งต่างชั้นของกิลแซนนั้นเอง เหตุผลที่เขารู้จัก
    ชื่อของมัน นั่นไม่ใช่เพราะว่าเธอสนใจมัน แต่เป็น กิลเวอร์ บุลเลต เปรียบเสมือนกิลที่รวบรวมอันธพาลเอาไว้ วันๆคอยแต่จะสร้างความชิบหาย
    ให้กับชาวเมือง เธอจึงรู้จักพวกนี้ด้วยชื่อเสียงเสียๆของพวกมัน

    โจกเกอร์นั่งอยู่กับพื้น เอามือกุมปากตัวเองไว้เพราะตอนนี้เลือดที่เกิดจาก การโดนต่อยมันนไหลออกมามากเสียเหลือเกิน  เขามองหน้าหญิงสาวร่างเล็กยืนอยู่
    เบื้องหน้าของเขาด้วยความคับแค้นใจ 

    " นี่น่ะหรือ คนเก่งกิลดังของเมืองนี้ ไม่เห็นจะสักเท่าไหร่เลย กระจอก "

    อิทเทอร์ สบถถ้อยคำดูถูกชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า ราวกับจะเย้ยหยันถึงความอ่อนหัด

    " แก  นังตัวแสบ แกเป็นใคร " เขากัดฟันถามออกไปด้วยความโกรธ ที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรหญิงสาวคนนี้ได้เลย

    " แกน่ะ ไม่มีค่าพอที่จะรู้ชื่อฉันหรอก ไอกระจอก " พูดจบเธอสะแหยะยิ้มออกมายังกับแม่มดร้ายในนิทานของวอลดิสนีย์ แต่เธอก็ต้องหุบยิ้มลงไปชั่วขณะ
    เมื่อไอน้องชายตัวดันพูดแทรกขึ้นมา 

    " อิทเทอร์ ชื่อของเธอคือ อิทเทอร์ไงล่ะ  " 

    หญิงสาวร่างเล็กตวัดสายตามามองน้องชายทันทีพร้อมกับ พูดแบบไม่มีเสียงว่า 

    " อิเด็ก เหี้ย !! "

    เซอาร์เห็นดังนั้นจึงตกใจกับสิ่งที่ตัวเองไม่สมควรที่จะทำออกไป เขาหน้าถอดสีพร้อมกับหันหน้าหนีพี่สาวไปทันที แต่คนที่ตกตะลึงยิ่งกว่านั้นเห็นจะหนีไม่พ้น
    โจกเกอร์ สีหน้าของเขาซีดเผือด ปากสั่น ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำ เหม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าเป็นจำนวนมาก 

    " ทะ ทะ เธอ คืออิทเทอร์ แห่งกิลแซนหรอ  คนที่ผู้คนต่างเรียกกันว่า " นางฟ้าปีสาจ "คนนั้นน่ะเหรอ  ถึงแม้จะอยู่ในคลาสD แต่ฝีมือของเธอกลับเทียบเท่ากับพวก..
    คลาส ss   เธอคือ อะอะอิทเทอร์จริงๆหรอ  " 

    ชายหนุ่มเอ่ยออกมาราวกับกำลังไร้สติ ดวงตาของเขาเลือนลอย ราวกับหลุดไปอยู่อีกโลกนึง เขาคงรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองมากที่ดันไปหาเรื่องผิดคน
    แค่คิดถึงอนาคตของกิลก็ปวดสมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับกิลของเขาหลังจากนี้ มันจะเป็น หายนะ ครั้งยิ่งใหญ่ของกิลเขาเลยก็ว่าได้
    เพราะหากพูดถึงกิลที่กล้ามีปัญหากับกิลแซนละก็ ถ้าไม่ยุบกิลก็คงจะต้องย้ายเมืองกันเลยทีเดียว

    " ไสหัวไปซะ ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าพวกแกอีก  จะไปไหนก็ไป " ชายหนุ่มทั้งสามเมื่อได้ยินดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นแล้วพยายามที่จะออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่
    จะทำได้ แต่พวกเขาต้องหยุดชะงักกับประโยคที่เธอเอ่ยทิ้งท้ายไว้ 

    " แล้วไม่ต้องห่วงนะ เรื่องมันไม่จบง่ายๆแน่ เดี๋ยวเจอกันใน G war นะไอ้กระจอก " อิทเทอร์พูดพร้อมกับสะแหยะยิ้มออกมาราวกับปีสาจ ที่กำลังจ้องจะเหยียบพวกมดปลวก   ทั้งสามได้แต่กลืนน้ำลาย เอื้อกใหญ่ พร้อมกับ กระซิบกันเบาๆว่า " ชิบหายแล้ว "

    .................

    " นี่เจ๊ ..... " 

    " หุบปาก ไปเลยอิน้องเวร "

    เซอาร์พูดยังไม่ทันจบ ก็ต้องหยุดกระทันหันเพราะพี่สาวของเขาตะคอกใส่ด้วยความโมโห 

    " มึงไม่เข้าใจประโยคนี้หรือ ( แกไม่มีค่าพอที่จะรู้จักชื่อฉันหรอก ) ซึ่งนั่นก็แปลว่ากุไม่ต้องการให้มันรู้ชื่อ แต่นี่คือไร ?? มึงเสือกบอกชื่อกุไป มึงการอะไรจากกู๊ มึงต๊อบบ "

    อิทเทอร์ร่ยคำด่าใส่น้องชายบังเกิดเกล้าของเธอ ด้วยอารมณ์ที่ร้อนแรงยังกับเปลวเพลิงที่เผาไหม้อยู่ในนรก  เซอาร์เห็นดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรกลับไป
    เขาทำแค่เพียงก้มหน้าเพียงอย่างเดียว

    " มึงจะถามว่าทำไมกูถึงอยู่คลาส D ใช่มั้ย "

    จู่ๆเธอก็เอ่ยขึ้นมา เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศตรงหน้า ราวกับรู้ว่าน้องชายจะถามอะไร  เซอาร์ ทำแค่เพียงพยักหน้าตอบรับ

    " มันเป็นกลยุทร ของมึงนั่นแหละ แต่อีกอย่างมันก็เป็นที่กูด้วย เพราะกูเห็นว่ากิลเรา มีมึง กับพี่เซโร่ เป็นคลาส ss ก็เพียงพอแล้ว กูจึงคิดว่า คงไม่มีความจำเป็นอะไร
    ที่กูจะต้องเป็นคลาส ss ไปอีกคน "

    เธอตอบคำถามที่น้องชายต้องการ เซอาร์พยักหน้าแทนคำตอบ 

    " แล้วมันคือ กลยุทร อะไรหรอ " เขายังคงไม่หมดความสงสัยไปง่าย 

    อิทเทอร์หันมามองหน้าน้องชายแบบปลงๆอีกครั้ง 

    " เอาเดี๋ยวค่อยไปคุยกันที่บ้านละกัน "
    เซอาร์พยักหน้าตอบ ก่อนที่จะหันไปหาเรื่องคุยกับโดฮี ที่นั่งอยู่เงียบๆตลอดเหตุการณ์ที่ผ่านมา แม้ว่าเหตุการณ์ตรงหน้าจะระทึกหรือตื่นเต้นมากแค่ไหน
    แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงนิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

    " เฮ้ออ นี่ถ้าไม่ใช่น้องนะ สาบานเลยว่าจะเอาเท้างามๆคู่นี้ยัดใส่ปากไปสักที "

    อิทเทอร์ถอนหายเฮือกใหญ่ออกมาอีกหนึ่งคำรบ 

    ภายในร้าน....

    " เฮ้อ เอาอีกแล้ว บ้านนี้เป็นอะไรกันไปหมด มาทีไรต้องพังร้านทุกทีสิน่า "

    เบอร์นาดบ่นอยู่เพียงในร้านคนเดียว ก่อนที่ยกอาหารที่เขาทำเสร็จแล้วออกไปเสริฟให้กับพวกเขา 

     
    ........~.........



















     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×