ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บันทึกลับฉบับเดซี่ - 2 พ่อ - แม่
บันทึกหน้าที่ 2 พ่อ - แม่
เดซี่ หรือ ชิน เฮยวอน เด็กหนุ่มอายุ 22 ปี รูปร่างสมส่วน ด้วยความสูงประมาณ 177 ซม.
ผมยาวปะบ่า ใบหน้าหวานบวกกับทรงผมที่ยาว จึงให้ใบทำหน้าของเขานั้นค่อนข้างโอนเอียง
ไปทางผู้หญิงเสียมากกว่า เดซี่มีพี่สาวอยู่ 1 คน
ชื่อว่า อีทเทอร์ หรือ ชิน เฮยมี เธอเป็นผู้หญิงที่มี่ร่างเล็ก ด้วยความสูงเพียง 155 ซม. ใบหน้า
ของเธอเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนที่ได้เห็นจะต้องยอมรับและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " น่ารัก "
(สำหรับผู้ชายที่ยังไม่ได้เห็นความมหัศจรรย์ของปากเธอน่ะนะ แต่ก็จะมีผู้ชายจำพวกที่แบบว่า
ถึงปากจะร้าย แต่ยังไงก็ยังน่ารักอยู่ดี มีพวกแบบนี้ให้เห็นอยู่บ่อยๆ)และด้วยรูปร่างที่เล็ก
จึงทำให้ใครหลายๆคนคิดว่าจริงๆแล้วเธออาจจะเป็นเพียงแค่เด็ก ม.ปลายก็ได้ ส่วนอายุของเธอ
ก็ปล่อยให้เป็นความลับของเธอไปเหอะ 555
เมื่อตอนที่ฮเยวอนอายุได้เพียง 10 ปี พ่อแม่ของเด็กทั้งสอง เกิดประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ... เวลาผ่านไปประมาณ1เดือน นาย ชิน จูวอน และนาง ชิน มีคยอง
ครอบครัวคนเกาหลีที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย ได้รับเด็กทั้งสอง มาเป็นลูกบุญธรรม
แบบถูกต้องตามกฏหมาย ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย แต่พวกเขาทั้งก็รักและดูแล
เด็กทั้งสองคนเป็นอย่างดี ......
จนมาถึงเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ....
" ฮัลโหลลล เฮยวอน สัปดาห์นี้ พ่อกับแม่ไม่กลับไทยนะลูก พอดีที่บริษัทของพ่อเค้ามีปัญหา
นิดหน่อยน่ะจ้ะ "
ชิน มีคยองโทรศัพท์ จากเกาหลีเพื่อบอกลูกชายของเขา ว่าสัปดาห์นี้ิพวกเขาคงกลับไปหาไม่ได้
" ครับแม่ .... แล้วพี่เฮยมีล่ะครับ "
" พี่เค้าก็คงจะไม่ได้กลับ เพราะช่วงนี้มันเป็นช่วงสุดท้ายของการฝึกงานของพี่เค้าแล้วน่ะจ้ะ "
ผู้เป็นแม่ตอบคำถามแทนลูกสาว
" โห งั้นแบบนี้ผมก็ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วล่ะสิครับ " ลูกชายตัวดีบ่นอุบอิบเพื่อให้แม่รู้ว่าเขาน้อยใจ
" เอาน่ะๆ เดี๋ยวเอาไว้แม่จะซื้อเค้กที่ลูกชอบ ไปฝากนะจ๊ะ คนดีของแม่ "
" ครับๆ แต่สัปดาห์หน้า พ่อกับแม่ต้องกลับมาให้ได้นะ "
" จ้าๆ นี่ตกลงคิดถึงแม่หรือคิดถึงเค้กกันแน่น้าา ?? "
ผู้เป็นแม่ ไม่วายที่แซวลูกชายตัวดีของเธอ
" ผมก็ต้องคิดถึงแม่อยู่แล้วแหละ ก็ ผมรักแม่หนิครับ "
" แหม่ ปากหวานเชียวน้า .... จ้ะๆ แม่ต้องวางสายละ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะจ้ะ แม่รักลูกมากนะ "
" ผมก็รักแม่มากเหมือนกันครับบ บ๊ายบาย "
หลังจากที่ร่ำลากันเสร็จ สายก็ตัดไป แต่ทั้งคู่หารู้ไม่ ว่านั้นจะเป็นการ ร่ำลากันเป็นครั้ง "สุดท้าย"
3 วันต่อมา .....
ครืดดดดด ..... ครืดดดดดด......
" โอยยย ใครโทรมาตั้งแต่เช้าเลยเนี่ยยย "
เฮยวอน งัวเงียด้วยความง่วง บ่นกับตัวเอง จากนั้นเขาจึงเอามือควานหาโทรศัพท์ที่สั่นอยู่
บนหัวเตียง
หลังคว้าโทรศัพท์ติดมือมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นนั้งเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมาจากความง่วง
และเพ่งมองไปยังเบอร์ที่โทรเข้ามา ราวกับมีลางสังหรณ์ บอกเหตุ
" เอ ~ เจ๊มันโทรมาทำไมตั้งแต่เช้าเลย มีอะไรหรือป่าวนะ ... (กดรับโทรศัพท์).... ฮัลโหล เจ๊ "
" ฮึกกกๆๆ ฮืออออออออ~ ฮะฮะเย วอนนนน ฮืออออออออ "
ปลายสายร้องไห้สะอึกสะอื้น พูดจับใจความไม่ได้
" เจ๊ ใจเย็นๆ เป็นอะไร ค่อยๆพูด หยุดร้องก่อนๆ "
ผู้เป็นพี่ยังคงร้องไห้ เขาจึงไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา
" เจ๊ หยุดร้องก่อนได้มั้ย ถ้าไม่หยุดร้อง ฉันก็จะฟังไม่รู้เรื่องนะ "
" .......... " ปลายสายเงียบไปสักครู่
" ฮึกกกๆ ฮะ เย วอนนน อึกกๆ กะ กะ แก ตั้งใจฟังฉันให้ดีนะ ฮึกกๆ พ่อแม่ของเรา เสียแล้ว "
หลังจากได้คำตอบจากพี่สาว เฮยวอน ถึงกับมือไม้สั่น หน้าชา ไม่มีเรี่ยวแรงแม้กระทั้งจะทรงตัว
ก็ยังทำไม่ได้ หัวใจของเขาเต้นเร็วกว่ารัวกลองเป็น100เท่า เหมือนหัวใจของเขาจะระเบิด
ออกเป็นเสี่ยงๆ เขาไม่สามารถที่จะคุมสติตัวเองเอาไว้ได้ น้ำตาที่พรั่งพลูออกมาอาบแก้มทั้ง
สองข้าง เสื้อตัวโปรดที่เขาใส่นอนเป็นประจำเปียกปอนไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาราวกับ
ก๊อกแตก
" ไม่จริง ไม่จริงใช้มั๊ย " เฮยวอนตะโกนออกมาราวกับคนบ้า
ตอนนี้ทุกอย่างมืดไปหมด สติของเขาเริ่มเลือนลาง ภาพบรรยายกาศในห้องค่อยๆจางหายไป
ฟรุ่บบบบบ ~ เฮยวอน หมดสติ ล้มตัวลงไปนอนกับพื้นห้อง
............................
เฮยวอน ค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ภาพที่เขาเห็นมันช่างเลือนลางยิ่งนัก แต่หลังจากที่ตาเขาเริ่ม
ปรับแสงได้ดีขึ้นแล้ว ภาพที่เขาเห็นก็คือ ..... แม่ !! ใช่ ชิน มีคยอง กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว
และมีเด็ก ชายหญิง2คนคอยหยิบจับสิ่งต่างๆ ราวกับเป็นลูกมือของเชฟใหญ่ โดยที่มีพ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์
เพื่อรอเวลาทานอาหาร มันเป็นภาพที่ดูเหมือนจะวุ่นวาย แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ... " ครอบครัว "
นี่สินะครอบครัวของฉัน จากนั้นภาพเก่าก็หายไป กลายเป็น ภาพของผู้คนมากมาย ที่ชุลมุนวุ่นวายอยู่
กับการช่วยผู้บาดเจ็บออกจากรถที่ประสบอุบัติเหตุ เฮยวอนมองซ้ายมองขวาเพื่อหาบางสิ่ง แล้วเขา
ก็หยุดสอดส่ายสายตา เพราะเขาเจอสิ่งที่เขาตามหาแล้ว
" พ่อ ...... แม่ " เขาตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง แต่ดูเหมือนคนที่ถูกเรียกจะไม่ได้ยินเอาเสียเลย
เพราะแท้จริงแล้วเสียงของเขานั้นช่างเบาเหลือเกิน เขายังคงตะโกนเรียกอยู่แบบนั้น
เวลาผ่านไปไม่นาน สิ่งที่เฮยวอนพยายามทำก็เกิดผล จูวอนและมีคยอง หันมามองหน้าลูกชาย และ
เดินตรงเข้ามาหาเขา
" พ่อ .... แม่ อย่าทิ้งผมกับพี่ไปเลยนะ ได้โปรด " เฮยวอนพูดไปสะอึกสะอื้นไป เหมือนคนที่กำลังจะ
ขาดใจตายยังไงยังงั้น
" พ่อกับแม่ ไม่ได้ไปไหนนะลูก พ่อกับแม่แค่จะไปเที่ยวพักร้อนกันสักระยะหนึ่งเอง "
เป็นจูวอน ที่กอดลูกชายไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น
" พ่อกับแม่จะอยู่ข้างๆลูกๆตลอดไป ไม่ร้องนะจ๊ะคนดีของแม่ "
ผู้เป็นแม่ยิ้ม มันช่างเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุด และคงจะเป็นรอยยิ้มสุดท้าย ที่เขาจะได้เห็น
เฮยวอนรู้ดี ว่านี่คือสิ่งสุดท้ายที่พ่อและแม่จะสั่งเสีย และนั่นก็คงเป็นรอยยิ้มสุดท้าย
ซึ่งเขาจะไม่มีวันได้เห็นอีกแล้ว
" ขอให้ลูกรู้ไว้ ว่าพ่อกับแม่จะอยู่ใน (พร้อมทั้งเอามือทาบไปที่อกซ้ายของลูก) นี้เสมอ นะจ๊ะ "
หลังจากพูดจบ ร่างขอทั้ง2คนก็ค่อยๆจางหายไปกลายเป็นผงระยิบระยับรอยขึ้นไปบนฟ้า
เฮยวอน สะดุ้งลุกขึ้นมาจากเตียงคนไข้ สมองของเขาตื้อเบลอไปหมด ตอนนี้เขาสับสนจน
ไม่สามารถแยกแยะได้แล้วว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง
" เห้ย !! เดซี่ เป็นไงบ้างวะ มึงรู้มั้ยมึงหลับไป 2 วันเลยนะเว้ย กูนะ งงเลย ทำอะไรก็ไม่ถูก ตอนแรก
เห็นมึงไม่มาเรียน กูเลยไปดูที่บ้าน เรียกก็ไม่เปิดประตู กูเลยตัดสินใจปีนบ้านเข้าไป เห็นมึงสลบ
อยู่ ดีนะ ที่กูมีสติ เรียกรถพยาบาลมาอ่ะ มึงถึงได้นอนอยู่นี่ไง "
คำบอกเล่าจากปากเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กๆของเฮยวอน นั่นก็คือ โน๊ต เด็กหนุ่มหน้าตาดี
ใบหน้าเรียวยาว ตาคม ผมตั้ง จมูกโด่งเป็นสันได้รูป ปากเรียวสวยหุ่นนายแบบ ผิวสีแทนๆ
ด้วยรูปร่างที่สูง ประมาณ 184 ซม. จึงทำให้มักจะมีแมวมองมาทาบทามให้ไปเป็นนายแบบ
บ้างก็ชักชวนให้เป็นดารา แต่ด้วยความที่เจ้าตัวไม่ชอบที่จะสุงสิงกับใครจึงปล่อยให้โอกาศ
หลุดลอยไปอย่างหน้าตาเฉย โน๊ตจะคุยแค่กับคนที่สนิทเท่านั้น แต่นอกจากเฮยวอนกับเฮยมีแล้ว
โน๊ตก็ไม่ค่อยพูดกับใครเลย
" โน๊ต เจ๊ล่ะ "
ชายหนุ่มไม่ตอบ ได้แต่เพียงยืนน้ำตาคลอทำหน้าเศร้าๆใส่เพื่อนสนิท
โน๊ต !! " มึงตอบกู " ตะคอกใส่เพื่อ ให้เพื่อนตอบคำถามที่ตนอยากรู้
.....ชายหนุ่มเงียบ ....ก่อนที่จะค่อยๆอ้าปากพูดปลอบโยนสนิท
" เดซี่ มึงทำใจดีๆไว้นะเว้ย แล้วฟังที่กูพูด .... เดซี่ ต่อให้ชีวิตมึงไม่เหลือใคร แต่มึงต้องไม่ลืมนะเว้ย
ว่ามึงยังมีกูเป็นเพื่อนอยู่ "
ชายหนุ่มพูดทั้งน้ำตา ใจนึงก็สงสารเพื่อน อีกใจนึงก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
" ลุงจูวอนกับป้ามีคยอง เขาไปสบายแล้ว สิ่งที่มึงควรห่วงมากที่สุด คือตัวมึงเอง แล้วก็พี่อีทเทอร์นะเว้ย "
เฮยวอน ก้มหน้าร้องไห้ เขาเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด แต่ใจของเขามันกลับตรงกันข้าม เขาไม่สามารถที่จะ
รับกับเรื่องนี้ได้ ........
หน้าหลุมศพ ........
หลังจากเสร็จพิธี แขกทุกคนก็ทยอยกลับกันหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงแต่ญาติสนิท เพื่อน และ2พี่น้อง
ที่ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงกับสิ่งรอบตัว พวกเขาทั้ง2เอาแต่ มองหลุมศพ ราวกับจะอ้อนวอนต่อพระเจ้า
ให้คืนพ่อแม่ของเขากลับมาแม้ในความเป็นจริง มันจะไม่มีทางทำได้ก็ตาม
เป็นโน๊ตที่เดินมาสะกิด และบอกกับเพื่อนสนิทของตน
" ไปกันเถอะ ทุกคนที่ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องใช้ชีวิตเผื่อในส่วนที่เหลือของคนที่จากไปนั่นแหละ "
พูดเสร็จก็เอามือ ไปตบที่ไหลเฮยวอนเบาๆเพื่อปลอบใจ
" เฮ้ออ ~ " เฮยมีถอนหายใจ ก่อนที่จะพูดประโยคสุดท้าย ต่อหน้า เค้าทั้งคู่
" สงครามที่แท้จริง น่ะ ไม่ใช่การรบในสนามหรอก ..... แต่มันคือการใช้ชีวิตที่เหลือบนโลกนี้ต่างหาก "
ชิน เฮยมี พูด ก่อนที่จะวางดอกไม้ช่อโตช่อสุดท้ายที่ถืออยู่ในมือไว้หน้าหลุมศพ ของ " พ่อ - แม่ "
.............................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น