ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sanctuary wall

    ลำดับตอนที่ #4 : sanc'wall -4

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 57


    ~ 4 ~


     
    " เห้ยยยย อย่าเอาแต่หลบอย่างเดียวดิวะ ตอบโต้กลับไปบ้าง "

    อิทเทอร์ตะโกนเสียงดังลั่น 

    " โห้ยย แค่หลบอย่างเดียวก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว "

    เซอาร์เห้วใส่พี่สาวที่เอาแต่ตะโกนสั่งเขา ในขณะที่ตอนนี้เขากำลังโดนเจ้าแฝดทั้งคู่รุมเข้าโจมตีอย่างหนักหน่วง
    ชนิดที่ว่าไม่มีแม้เวลาให้พักหายใจเลย  เซอาร์ ทำได้พียงแค่หลบการโจมตีเหล่านั้น ทุกท่วงท่าทุกการโจมตีของมาร์คัส
    และมาร์โก้ที่โจมตีเข้ามานั้น หากว่าลองโดนเข้าไปสักทีละก็ อาจจะสลบเมือดทันทีเลยก็เป็นได้ ถึงแม้เขาจะหลบ
    การโจมตีเหล่านั้นได้ แต่มันก็เป็นการหลบแบบเฉียวฉิวทั้งสิ้น เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงหลบได้
    เขารู้สึกราวกับร่างกายมันขยับไปเองโดยที่เขาไม่ได้สั่งการใดๆเลย

    " โหยนี่จะฆ่ากันรึไง " เด็กหนุ่มสบถคำออกมาพร้อมกับหลบการโจมตีเหล่านั้นต่อไป

    " เป็นไงมั่งโดฮี การเคลื่อนไหวของเค้าดีขึ้นบ้างหรือป่าว "

    อิทเทอร์หันมาถามเด็กสาวที่กำลังจดจ้องอยู่กับการต่อสู้เบื้องหน้า

    " ดีขึ้นค่ะ จากที่เคลื่อนไหวแบบสะเปะสะปะในตอนแรก แต่ตอนนี้การเคลื่อนไหวเหล่านั้นเริ่มมีรูปแบบมากขึ้น แต่ที่
    แปลกกว่านั้นคือ ถึงแม้การโจมตีของแฝดคู่นั้นจะต่อเนื่องแค่ไหน แต่ในขณะที่บอสหลบการโจมตีเหล่านั้นความเร็ว
    ในการเตลื่อนที่ของเขาไม่ได้ลดลงเลย แต่กลับเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่สม่ำเสมออีกด้วย "

    อิทเทอร์พยักหน้ารับ เธอออกจะอึ้งนิดๆกับความสามารถของเด็กสาวที่สามารถมองการเคลื่อนไหวต่างๆของน้องชาย
    ได้อย่างทะลุปุโปร่ง 

    " เอาวะ ฝึกวันแรก แถมยังเจอกับไอแฝดนรกนี่อีก แต่ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าไม่เลว แสดงว่าความหวังยังมี "

    อิทเทอร์พูดพร้อมกับรอยยิ้ม ดวงตาสีอำพันคู่สวยเปล่งประกายวาววับ ราวกับมีความหวัง

    " ฉันคิดว่าถ้าคู่ต่อสู้ไม่ใช่ สองคนนี้ บอสอาจจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่านี้อีกค่ะ "

    โดฮีพูดขึ้นมา ด้วยสีหน้าราบเรียบเช่นเดิม

    " เอาน่าๆ วันนี้เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ ... หึหึ "

    อิทเทอร์พูดจบพร้อมกับยิ้มมุมปากแบบมีเลศนัย 

    " เมื่อก่อนทำไมเหรอคะ " โดฮีเอ่ยขึ้นเพื่อต้องการให้อิทเทอร์พูดต่อให้จบ 

    " ก็ แบบไอแฝดนี่ คงจะไม่เกิน1 นาที รับรองรู้ผล  และคนเดียวที่จะสามารถสู้ได้อย่างสูสีกับมันก็เห็น
    จะมีแค่พี่เซโร่เท่านั้นแหละ "

    พูดจบเธอก็หัวเราะออกมา พร้อมกับหันไปมองการต่อสู้ของน้องชายที่อยู่เบื่องหน้าต่อ ปล่อยให้เด็กสาวหน้าตายนั้น
    ต้องครุ่นคิดกับประโยคที่อิทเทอร์พึ่งพูดจบไป เพราะโดฮีเองพึ่งเข้ามาทำงานและยังไม่เคยเห็นเซโร่ต่อสู้เลยสักครั้ง
    จึงทำให้เธอรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถที่แท้จริงของ เซอาร์ เพราะถ้าหากคนที่สามารถสู้กับเขา
    ได้อย่างสูสี มีแค่เซโร่ที่ดำรงตำแหน่งบอสคนปัจจุบันเพียงคนเดียวล่ะก็ งั้นเซอาร์เองก็คงจะไม่ต่างจากปีศาจไปสักเท่าไหร่หรอก

    ..........


    ณ ปราสาทกิลวิกซ์

    " เอ็น " 

    หนุ่มผิวเข้มหันไปยังต้นเสียง ที่เอ่ยเรียกชื่อเขา ชายหนุ่มร่างสูงผมสีแดงสดดูสะดุดตา ใบหน้าเรียวยาว กำลังเดินเข้ามาหาเขา

    " ว่าไง ราวี่ ธุระที่ให้ไปจัดการน่ะ เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย " เอ็นเอ่ยถามผู้มาใหม่ ราวี่พยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟา
    ตัวใหญ่ไกล้ๆกับเอ็น 

    " แล้วฮงบินล่ะ "  เอ็นยังถามถึงเพื่อนในกิลอีกคนนึงที่เขาสั่งให้ออกไปทำธุระพร้อมกับราวี่ แต่ตอนนี้ไม่เห็นเขากลับมาด้วยกัน

    " ว่าไงเอ็น ถามหาฉัน มีอะไรหรอ " ยังไม่ทันที่เอ็นจะคิดจบ เสียงของเขาคนที่เอ็นกำลังถามถึงก็เอ่ยทักขึ้นมา 

    ฮงบิน หนุ่มหน้าตาดี สวมแว่นตาทรงกลมขนาดใหญ่ ผมสั้นสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าของนั้นช่างหวานราวกับใบหน้าของหญิงสาว
    ดวงตาสีน้ำทะเลของเขาช่างดูมีสเน่ห์ชวนให้หลงไหลเหลือเกิน

    " ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟังด้วยนะ  เอ็น " 

    เอ็นพยักหน้ารับคำ เพื่อให้เพื่อนของตนพูดต่อ 

    " นายจำ ไอโจกเกอร์ กิลซิลเว่อร์บุลเล็ต ได้หรือป่าว " เอ็นพยักหน้ารับ

    " มันบอกว่า มันเห็นใบหน้าของ นางฟ้าปีศาจ ของกิลแซนแล้ว "

    " จริงหรอ แล้วรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง " เอ็นทำสีหน้าตกใจนิดๆ ก่อนที่ฮงบินจะเล่าต่อ

    " จริง แต่ไม่ไม่เล่าให้ฉันฟังนะ เผอิญฉันไปได้ยินมาน่ะ เห็นมันบอกว่า เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ
    แต่สวยมากอ่ะ ชอบถักผมเปีย " 

    หนุ่มแว่นพยายามอธิบายลักษณะของผู้หญิงที่ตนพูดถึง

    " ใครกันนะ ตัวเล็กๆ สวยๆ แต่เก่งขนาดนั้นน่าจะอยู่ คลาส ss ล่ะมั๊ง แต่กิลแซน มีคลาส
     ss ไม่กี่คนเองหนิ แล้วก็ยังเป็นผู้ชายซะด้วย " เอ็นครุ่นคิดเป็นการใหญ่

    " ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะ ฉันก็ได้ยินมาแค่นี้ แต่นายอย่าพึ่งเดาสุ่มสี่สุ่มห้าเลย เพราะ
    คลาสไหนๆ ของกิลแซน มันก็ลูกปีศาจทั้งนั้น "

    " เฮ้ออ ~ วันนี้มีเรื่องเซอร์ไพร้ หลายเรื่องเลยแหะ " 

    เอ็นถอนหายใจออกมาอีกหนึ่งคำรบ


    .........................


    ณ ปราสาทกิลแซน 


    " โอ้ยย พอกันที ไม่ฟงไม่ฝึกแม่มแล้ววว เหนื่อยโว้ยยย " 

    เซอาร์ เดินเข้ามาภายในบ้านพร้อมกับตะโกนแหกปากคล้ายกับระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในใจ ก่อนที่เขาจะเดินหระแทกเท้าตึงตัง
    ขึ้นไปบนห้องของตัวเอง อย่างกับเด็กๆ 

    " 555 นี่แค่เบสิคๆเองนะโว้ยยไอ้น้องงง " อิทเทอร์ ที่เดินตามมา ตะโกนไล่หลังน้องชายไป หวังที่จะยั่วให้เขาโมโหหนักกว่าเดิมอีก

    " มีอะไรกันหรอ " เซโร่ ที่ได้ยินเสียงเอ่ะอ่ะ โวยวายของน้องชาย ถึงกับต้องเปิดประตูมาดูเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    " ก็นะ ฉันพาน้องไปเล่นมานิดหน่อยน่ะพี่ " อิทเทอร์ไหวไหล่ พร้อมตอบคำถามที่ พอได้ยินปุ๊บ เซโร่ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าน้องชายตัวดี
    ของเขาไปประสบพบเจออะไรมาบ้าง  เซโร่ ส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับเพื่อเข้าไปทำงานในห้องต่อ 

     

    ................

    ภายในห้องของเซอาร์ 


    " ตรงนั้นๆ แหละ อื้มมมมม ดี ดีมากเลยโดฮี อ๊าาาาา อื้มมมมม " 

    " บอส !! รบกวนช่วยเลิกทำเสียงทุเรสๆแบบนั้นทีเถอะค่ะ " โดฮีด้วยน้ำเสียงที่ดุบวกกับใบหน้าที่แสนจริงจังของเธอ

    " ก็แหม คุณมือเบามากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยนะ " เขาพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้นๆ ก่อนจะทำท่าทีเคลิบเคลิ้มต่อ 

    หญิงสาวหน้าตาย ยังคงนวดให้เจ้านายของเธอ เพราะเขาบ่นว่าปวดตรงนั้นเจ็บตรงนี้ แล้วๆก็อ้อนให้เธอนวดให้ ซึ่งก็น่าแปลก
    เพราะโดฮี เธอไม่ชอบที่จะปฏิบัติแบบนี้กับใครเลย แต่ทำไมกับเขาเธอถึงยอมกันนะ

    " ดึกแล้ว  บอสควรจะพักผ่อนได้แล้วนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ " เธอพูดพร้อมกับเดินไปที่ประตูห้อง ด้วยสีหน้าราวกับรูปปั้น

    " ฝันดีนะ โดฮี "  เซอาร์ตะโกนบอกเธอ ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไป 

    " น่ารักดีแหะ แต่ทำไมเธอถึงไม่ยอมยิ้มเลย ถ้ายิ้มจะต้องน่ารักมากกว่านี้แน่ๆ  "

    เซอาร์ พูดกับตัวเองก่อนที่จะล้มตัวลงนอนเพื่อพักผ่อนเอาแรง เพราะในวันพรุ่งนี้เขาคงจะต้องเจออะไรที่หนักหนากว่านี้เป็น
    10เท่าแน่นอน ลางสังหรเขาบอกแบบนั้น


    .....................



    ณ บ้านหลังใหญ่ใจกลางกรุงบาเซโลน่า ประเทศสเปน 

    " ก๊อกๆๆ " 

    มิลันด้าเปิดประตูเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนเธอและสามี 

    " สวัสดีค่ะคุณแม่ " หญิงสาวผู้มาเยือน เอ่ยทักทายเจ้าของบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและถ้อยคำที่ดูจะสนิทสนมกันพอสมควร

    " อ๊ะ หนูโซจิน เป็นยังไงบ้างลูก สบายดีไหมเอ่ย แล้วนี่ลมอะไรหอบหนูมาถึงที่นี่ได้เชียว "

    มิลันด้าเอ่ยทักทายโซจิน คำถามมากมายหลุดออกมาจากปากเธอไม่หยุดจนทำให้หญิงสาวตรงหน้าตอบคำถามแทบจะไม่ทัน
    เมื่อเธอได้สติ จึงหยุดถาม แล้วเปลี่ยนเป็นเชื่อเชิญแขกสาวเข้าไปในบ้านทันที

    " เดี๋ยวหนูนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ไปตามพ่อก่อนนะ " มิลันด้าเรียกให้โซจินที่กำลังเดินตามเธอมา พลางชี้นิ้วไปที่โซฟา
    บอกให้หญิงสาวนั่งรอก่อน  โซจินพยักหน้ารับคำ ก่อนที่มิลันด้าจะหายขึ้นไปในชั้นบนของบ้าน

    โซจิน หญิงสาวที่มีใบหน้าสวยงาม ผมของเธอสีม่วงประกายแดงยาวสลวยรับกับใบหน้า ดวงตากลมแวววาวราวกับกระต่ายน้อย
    แสนน่ารักไม่มีผิด เธอกำลังอยู่บนโซฟาเพื่อรอมิลันด้า และ ฟาเบียนสกี้  ไม่นานทั้งสองก็เดินลงมาเพื่อพบกับเธอ

    " สวัสดีค่ะคุณพ่อ " โซจินลุกขึ้นยืนโค้งศีรษะเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพแก่ฟาเบียนสกี็

    " สวัสดีจ่ะ แหม่ ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้นะหนูโซจิน ยังไงเน่ก็คนกันเอง คิดว่าฉันกับมิลันด้าเป็นพ่อแม่เธอเถอะนะ "
    ฟาเบียนสกี้ หนุ่มร่างสูงดูมีอายุแม้จะอยู่ในชุดสบายๆ แต่ก็ยังคงความน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย  เอ่ยทักทายกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า

    " แล้วนี่งานที่ปารีสน่ะ เป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยดีหรือป่าว "

    " ค่ะ ฉันจัดการให้เรียบร้อยแล้ว "  

    " อ่า ดีมากเลย ต้องขอบใจหนูโซจินมากๆเลยนะ ถ้าไม่ได้หนูละก็ กิลของเราคงแย่แน่ๆ " ฟาเบียนสกี้เอ่ยชื่อชมปนขอบคุณกับงานที่
    โซจิน จัดการให้เป็นที่เรียบร้อย 

    " แล้วนี่เซอาร์ ไม่อยู่หรอคะ ไม่เห็นตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว " หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะเหตุผลที่เธอมาที่นี่ก็คือ เขา

    " อ๋อ เขากลับไปอยู่ที่กิลแล้วน่ะ เอ๊ะ !! นี่ฉันยังไม่ได้บอกหนูหรอกเหรอ " 

    โซจินได้แต่ทำหน้างงๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาเพื่อบอกว่า เธอไม่รู้เรื่องนี้เลย 

    " อ๊า ฉันต้องขอโทษด้วยนะ พอดีมันยุ่งๆน่ะฉันจึงลืมบอก ขอโทษจริงๆนะ " มิลันด้ากล่าวพร้อมสีหน้ารู้สึกผิดที่เธอดันลืมบอกเรื่อง
    สำคัญแก่โซจิน

    " ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เพราะยังไงฉันก็ต้องแวะมาหาคุณพ่อกับคุณแม่ก่อนกลับไปที่กิลก่อนอยู่แล้วค่ะ " 

    โซจินพูดขึ้นเพื่อบอกให้มิลันด้าเลิกขอโทษขอโพยเธอเสียที 

    " แล้วนี่หนูจะกลับเลยงั้นเหรอ " เป็นชายวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นมา

    " ค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าจะกลับพร้อมกับเซอาร์ แต่ตอนนี้คงต้องไปคนเดียวแล้วล่ะค่ะ " 

    เธอตอบคำถามด้วยรอยยิ้มที่ภายในใจแสนจะรู้สึกแย่ที่เธอกันมาไม่เจอเขา

    " แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ จะกลับไปเมื่อไหร่เหรอคะ " ไม่นานโซจินก็เอ่ยถามผู้ใหญ่ทั้งสอง

    " อีกไม่นานหรอกจ่ะ น่าจะเป็นช่วงพิธีิรับตำแหน่งนั่นแหละ " มิลันด้าตอบคำถาม

    " ถ้างั้น ฉันขอตัวก่อนนะคะ เพราะไกล้จะได้เวลาเดินทางแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปรอที่กิลนะคะ "

    " จ้าๆ ฝากดูแลที่กิลด้วยนะ เดี๋ยวอีกไม่นานพวกฉันจะตามไป "

    โซจินพยักหน้ารับคำพร้อมโค้งศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากบ้าน

    " มีลูกสะใภ้ที่สวยและเก่งแบบนี้ มันก็ดีอยู่นะ นี่ถ้าเจ้าเซอาร์มันจำอะไรได้มากกว่านี้ 
    คงได้จัดงานแต่งต่อจากพิธีรับตำแหน่งแน่ๆเลยล่ะ "

    มิลันด้าเอ่ยกับสามีพร้อมรอยยิ้มที่แสนจะปลาบปลื้มใจ พร้อมกับมองร่างของหญิงสาว
    ที่เดินออกไปจากประตู


    ......................
     
    ~ โดฮี พาร์ท ~

     

    กรี๊งงงงงงงง ~ กรี๊งงงงงงงงงง ......... กึ้ก!!!!

    เสียงของฝ่ามือเล็กๆกระทบใส่นาฬิกาปลุกจอมโวยวายที่กำลังแหกปากร้องสั่นไหวอยู่หัวนอน
    ของหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังซุกตัวหลบความหนาวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่บนเตียงนอนของ
    เธอ  หลังจากที่เธอหยุดเสียงน้องปลุกของนาฬิกาเจ้ากรรมด้วยมือตัวเองแล้ว  เธอก็ค่อยๆลุกขึ้น
    และบิดตัวไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยล้าจากการนอน โดฮีมองดูนาฬิกาที่มันกำลังบอกเวลาว่านี้มัน 
    05.00 น. แล้วว ตี 5 !! ใช่ตี 5 เธอต้องตื่นขึ้นมาเพื่อจัดการธุระส่วนตัวของเธอเองให้เสร็จก่อนที่
    จะถึงเวลาที่เธอจะต้องไปปลุกเจ้านายขี้เซาของเธอ 

    07.30น. นี่เป็นเวลามาร่วมๆ 1 เดือนแล้ว ที่โดฮีจะต้องทำหน้าที่นี้ ในเวลานี้ของทุกๆวัน นั่นก็คือ
    การปลุกเซอาร์

    หน้าห้องของเซอาร์ 

    " นี่ฉันจะต้องแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันนะ เมื่อไหร่ภารกิจมันจะเสร็จสิ้นไปเสียที่ ฉันล่ะเบื่อจริงๆ "
    โดฮีคิดเพียงในใจก่อนที่จะ สลัดความคิดเหล่านั้นออกไปพร้อมกับ เคาะประตูห้อง

    ก๊อกๆๆๆ  ..... ก๊อกๆๆๆๆ 

    " สงสัยจะยังไม่ตื่นอีกตามเคย " เธอรำพึงกับตัวเองก่อนที่จะถือวิสาษะเปิดประตูเข้าไป  สิ่งแรกที่เธอ
    พบคือ ชายหนุ่มหน้าหวานยังกับผู้หญิง กำลังนอนหลับใบหน้าของเขาแสดงถึงความสุขที่ได้หลับไหล
    โดยที่ไม่รับรู้ถึงเรื่องภายนอกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น  โดฮีค่อยๆก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆ
    โดยที่สายตาของเธอก็ยังคงจ้องมองอยู่ที่เซอาร์ที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงใหญ่ของเขา

    " จะมีสักครั้งมั้ยนะ ที่ฉันจะเห็นอิตานี่ มันตื่นก่อนที่ฉันจะเข้ามาเนี่ย " เธอบ่นพร้อมกับเดินเข้าไปไกล้ๆ
    เตียงมากขึ้น 

    " ฉันไม่แปลกใจเลยนะ ถ้าหากอิตาบเานี่จะถูกลอบสังหารตอนกำลังหลับเนี่ย " เธอเอ่ยเบาๆพร้อมกับ 
    ยื่นหน้าเข้าไปไกล้ๆ ชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่  ไม่นานเธอก็เผยรอยยิ้มของเธอออกมา เป็นรอยิ้มที่แสนสดใส
    ไม่น่าเชื่อว่า ภายใจ้ใบหน้าที่เรียบเฉยราวกับรูปปั้น จะมีรอยยิ้มนี้ซ่อนอยู่ 

    " น่ารัก !! " เธออุทานออกมาเบาๆ เมื่อได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ไม่นานเธอต้องผงะตัวออกมา
    พร้อมกับส่ายหัวไล่ความคิดที่อยู่ในหัวเธอออกไป 

    " ไม่ได้ๆ เราจะคิดแบบนี้ไม่ได้ เราต้องไม่ลืมสิ ว่าเรามาที่นี่เพื่ออะไร " 

    หลังจากหยุดความคิด เธอจึงรับวิ่งไปที่หน้าต่างและ ดึงผ้าม่านออกเพื่อให้แสงแดดยามเช้ารอดเข้ามาภาย
    ในห้องเป็นการปลุกเจ้านายของเธอในอีกวิธีหนึ่ง พร้อมกับปรับสีหน้าของตัวเองที่ตอนนี้กำลังเปื่อนไปด้วยรอยยิ้ม

    ร่างของชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงเริ่มขยับ เพราะตอนนี้แสงแดดที่ส่องเข้ามานั้กำลังแยงตาของเขาอยู่

    " ฮ๊าวววว ~ เช้าแล้วหรอโดฮี " เขาเอ่ยถาม โดยที่ไม่ต้องมองก็รู้มาคนที่มาปลุกเขาคือใคร

    " อรุณสวัสค่ะบอส " โดฮี ยังคงเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเช่นที่เธอเคยทำ








     




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×