ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sanctuary wall

    ลำดับตอนที่ #1 : sanc'wall -1

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 57


    ~ 1 ~
     


    " โอ้โหววววว ~ อะไรมันจะใหญ่โตขนาดนี้เนี่ย แม่เขียนแผนที่ให้ผิดหรือป่าวหว่า ? "

    เบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม คือปราสาทขนาดใหญ่โตมโหฬาร เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกใจ เพราะเขาเดินทาง
    มาตามแผนที่ที่แม่เขาเขียนไว้ให้เขา เนื่องเขาต้องเดินทางมากลับมาที่ " บ้าน " เพียงคนเดียว 

    " แม่ครับ แม่เขียนแผนที่ให้ผมถูกแน่ใช่ไหมครับ " 

    เขาโทรถามความแน่ใจ จากผู้เป็นแม่ทันที เมื่อได้เห็นสถานทีที่อยู่ตรงหน้า 

    " ถ้ามันเป็นปราสาทหลังใหญ่ๆล่ะก็   ใช่เลยลูก "

    เธอตอบคำถามเพื่อย้ำให้ลูกชายมั้นใจว่าสิ่งที่เขาเห็นน่ะถูกแล้ว นั่นคือบ้านของเขา

    เขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ก่อนจะสูดอากาศหายใจเข้าลึกๆ 1 ครั้ง พร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปในปราสาทใหญ่หลังนั้น

    แม้ว่าเส้นทางจากหน้าประตูรั้ว จะห่างไกลจากประตูของปราสาทมากถึงประมาณ 500 เมตร แต่ก็ไม่ได้ทำให้
    เขารู้สึกเหนื่อยกับการเดินสักเท่าไหร่ เพราะในระหว่างทางเดิน มีสิ่งสวยงามให้เขาดู ทั้งต้นไม้ ทั้งของตกแต่งที่ดูสวยงาม
    มากมาย ทุกสิ่งอย่างถูกจัดวางไว้ถูกที่และสวยงาม บริเวณของปราสาทนี้มีพื้นที่ประมานกว่า 20ไร่ ภายในบริเวณพื้นทีไกล้ๆ
    กับตัวปราสาทจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาชนิด

    ................................

    หน้าประตู ...........

    " เห้ย ไอหน้าจืด แกเป็นใครวะ มายืนเสนอหน้าอะไรตรงนี้ "

    ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้ากร้านโลก เอ่ยขึ้นพร้อมจ้องมองมาที่เขาเหมือนกับหมีป่าที่กำลังจ้องจะกินเหยื่อยังไงยังงั้น

    " เอ่อ ผะ ผมชื่อ เซอาร์ คะครับบบ ผมเดินมาตามแผนที่นี้ "

    เด็กหนุ่มเอายขึ้นด้วยน้ำเสียงติดขัดพร้อมก็บยื่นแผนที่ในมือให้กับชายหนุ่ม

    " แผนที่อะไรวะ แล้วใครให้แผนที่แกมาวะ " เขายังคงถามด้วยน้ำเสียงดุกึ่งตะคอกกลับไป

    " มะ แม่ครับ แม่ผมเขียนให้ครับ " เซอาร์ ตอบคำถามด้วยความหวาดกลัว 

    " แล้วแม่แกเป็นใครวะ ....." 

    " ก็แม่ฉันไงละโว้ยยยยยยยยย ไอ้หมีควาย " เขาพูดยังไม่ทันจบ ก็มีเสียงหญิงสาวปริศนาตะโกนขึ้นมาเสียก่อน พร้อมกับ
    รองเท้าที่ลอยเคว้งคว้างมากลางอากาศ

    โป้กก !!   " โอ้ยยย " หนุ่มร่างยักษ์ ร้องเสียงหลง เมื่อรองเท้ากระทบโดนหัวของเขา

    " แกกล้าดียังไงห๊าา ถึงมากล้าหาเรื่องน้องชายฉัน "

    " พี่อิทเทอร์ " เด็กหนุ่มตะโกนเรียกชื่อของเธอทันทีที่หันไปเห็นเธอ

    อิทเทอร์ หญิงสาว วัย 25 ปี สาวสวยผมสีน้ำตาลดวงตาสีอำพันกลมโต ผมยาวถึงกลางหลังถูกถักเป็นเปียไว้อย่างสวยงาม ด้วยรูปร่างที่เล็ก
    จึงทำให้เธอดูอ่อนกว่าวัย  เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก มักจะมีหนุ่มๆมาจีบเสมอ แต่พอรู้ว่านิสัยเธอออกจะเถื่อนๆไปหน่อย หนุ่มๆก็จะทยอย
    ตีตัวออกห่างเสียหมด  อิทเทอร์เป็นพี่สาวเพียงคนเดียวของเซอาร์

    ป้าบบบบ !!

    อิทเทอร์ตบไปที่หลังหนุ่มร่างยักษ์ 1 ที แรงๆ

    " ฉันจะไม่ลงโทษที่แกบังอาจล่วงเกินน้องฉันนะ เพราะฉันถือว่าแกพึ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน แต่อย่าให้มีครั้งต่อไปอีกนะ "

    เธอ เอ่ยเตือนลูกน้องคนใหม่ ที่ไม่รู้ประสีประสา 

    " ไป มีอะไรจะไปทำ ก็ไปทำซะ ไปๆ " 

    ลูกน้องพยักหน้ารับคำ แล้วก็รีบเดินไปทันที เพราะเขากลัวเหลือเกินว่าจะตกงาน 

    " หูยย พี่นี่โหดอ่ะ ดูสิ ไอหมีนั่นหงอไปเลยอ่ะ "

    " นี่ยังไม่ได้ครึ่งของแกเลยนะ " 

    เธอยิ้มแบบมีเลสนัย ให้กับน้องชาย 

    " อะไร ยังไม่ได้ครึ่งคืออะไร ผมไม่เข้าใจ "

    เขาถามด้วยความสงสัย ว่าสิ่งที่สาวพูดคืออะไรกันแน่

    " เออๆ ช่างเถอะ เข้าไปข้างในได้แล้ว พี่เซโร่ รอแกอยู่ " อิทเทอร์พูดตัดประเด็นพร้อมกับเดินนำหน้าน้องชายเข้าไปในปราสาท

    ...................

    ภายในห้องทำงานที่มีขนาดใหญ่ ที่นี่เป็นห้องของ เซ่โร่ ผู้ที่รักษาตำแหน่งบอสไว้ ชั่วคราว ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาใบหน้า
    เรียวยาว ดวงตาคมนัยตาสีน้ำเงินเข้ม ผมยาวไม่มากจัดทรงเรียบร้อย รูปร่างสูง ลักษณะของเขาเป็นคนเงียบขรึมดูสุขุมพูดน้อย

    " เป็นไงบ้าง เซอาร์ นั่งก่อนสิ เดินทางมาคงจะเหนื่อยน่าดูเลยสินะ "

    ผู้เป็นพี่เอ่ยทักทายน้องชาย ด้วยความเป็นห่วง เพราะพวกเขาพี่น้องไม่ได้อยู่ด้วยกันมาร่วมๆเวลาประมาณเกือบ2ปี เลยทีเดียว

    " ก็นิดหน่อยน่ะครับ " เซอาร์ ตอบเพียงสั้นๆ   อาจจะเป็นเพราะพวกเขาห่างเหินกันมานานจึงทำให้ความสนิทของพวกเขาดูลด
    น้อยลงไป 

    " เห็นแม่บอกว่า เราหายดีแล้ว นี่แสดงว่าพร้อมที่จะกลับมาทำงานได้แล้วล่ะสิิ " 

    เด็กหนุ่มทำหน้าสงสัย กับคำถามที่พี่ชายเขาถาม ทำงานอะไร เขาไม่ได้ต้องการที่จะกลับมาทำงานเขาแค่ต้องการกลับมา ตามหา
    ความทรงจำของตัวเอง

    " ไม่เห็นแม่เขาบอกเลยนะ ว่าผมต้องมาทำงาน แม่บอกว่าถ้าอยากจำเรื่องราวในอดีตได้ ก็ให้กลับมาที่นี่ "

    " ก็เพราะจะหาความทรงจำที่หายไปนั่นแหละ นายถึงต้องทำงาน เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่นายจะจำทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองได้ "

    เซโร่ยังคงพูดเหตุผลต่างๆที่ทำให้น้องต้องกลับมาที่นี่ เรื่องราวเหล่านี้ ล้วนแต่ผ่านการปรึกษากันหมดระหว่าง พ่อแม่อิททอร์
    และเซโร่ เป็นอย่างดีแล้ว 

    " แล้วพี่จะให้ผมทำงานอะไรหรอ " 

    " นายก็กลับมารับ ... โอ้ยย ..."  เป็นอิทเทอร์ที่หยิกแขนเขาเพื่อให้เขาหยุดพูดก่อน 

    " ฉันว่าอย่าพึ่งบอกดีกว่า พี่ก็อดทนอีกนิดนึงละกัน เดี๋ยวเอาไว้ฉันอธิบายให้มันฟังก่อนแล้วค่อยให้มันรับตำแหน่งกลับไป "

    เธอกระซิบบอกพี่ชายเบาๆ  เซโร่ ทำแค่เพียงพยักหน้ากลับไป

    " เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกครั้งละกัน ตอนนี้นายไปพักผ่อนก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวพี่จะให้คนไปคอยดูแล ถ้าแกต้อง
    การอะไรก็บอกเธอ เลยละกัน เดี๋ยวเธอจะจัดการให้ "

    " ส่วนเรื่องต่างๆ ที่แกอยากรู้ เกี่ยวกับงานเดี๋ยวฉันจะอธิบายให้แกฟังเอง " อิทเทอร์ บอกน้องชายก่อนที่จะสะกิดให้เขาลุกจาก
    เก้าอี้และเดินตามเธอมา  เซอาร์ หันไปโค้งให้กับพี่เพื่อแสดงความเคารพ ก่อนที่จะเดินตามหลังอิทเทอร์ไป

    " รีบๆปรับตัวแล้วกลับมารับตำแหน่งให้ไวๆด้วยล่ะน้องชาย  ฉันเบื่อกับตรงนี้จะแย่อยู่แล้ว ดีแค่ไหนแล้วที่ตอนนั้นฉันไม่รับ
    ตำแหน่งบอสไว้เอง "

    ชายหนุ่มบ่นพึมพัมกับตัวเอง ก่อนที่จะตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อเรียก สติให้กับตัวเอง ก่อนที่จะลงมือ จัดการกับกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า

    ............................

    เซอาร์ เด็กหนุ่มอายุ 22 ปี หน้าของเขาหล่อเหมือนพี่ชาย และก็มีบางทุมที่สวยเหมือนพี่สาวเช่นกัน ผิวขาว ดวงตาสีอำพัน ใบเรียวยาว
    ด้วยผมของเขาที่ยาวประบ่าสีดำเงางาม จึงทำให้หน้าเขาค่อนไปทางผู้หญิงเสียมากกว่า 
    แม่ของเขาเล่าว่า เมื่อ2ปีที่แล้วเขาประสบอุบัติเหตุ สมองกระทบกระเทือน จึงทำให้เขาสูญเสียความทรงจำไป แต่เขาก็ไม่ได้ลืมไปเสีย
    ทุกเรื่องทีเดียว เขาจำ พ่อ แม่ เซโร่ และ อิทเทอร์ได้ แต่ก็แค่จำได้ว่าเป็นครอบครัว แต่ในส่วนที่เหลือเขาจำอะไรไม่ได้เลย แม้กระทั่ง
    ตัวเอง

    ภายในห้องนอนใหญ่หรูหรา มีเตียงคิงไซท์ตั้งอยู่กลางห้อง ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม เซอาร์ยังคงตะลึงอยู่กับห้องของเขา มันช่างใหญ่
    อะไรขนาดนี้ 

    ก๊อกๆๆๆ ...... เสียงเคาะประตูดังขึ้น 

    " ขออนุญาติเข้าไปนะคะ คุณเซอาร์  "

    " เชิญครับ "

    หญิงสาวร่างเล็กเปิดประตูเข้ามา เธอมีใบหน้าที่น่ารักดวงตากลมผมยาวประมาณในบหู อยู่ในชุดเสื้อสูทเข้ารูปกับกระโปงยาวถึงหัวเข่า

    " ฉันชื่อ โดฮี ค่ะ คุณเซโร่ สั่งให้ฉันมาคอยรับใช้คุณ "

    เด็กหนุ่มหัวเราะทันที เมื่อเธอแนะนำตัวเสร็จ 

    " 5555 พี่เซโร่นี่นะ จะทำอะไรให้มันเป็นเรื่องทำไม  คุณโดฮี ไม่ต้องมาคอยดูแลผมหรอครับ ผมดูแลตัวเองได้ (^_^) "

    " ไม่ได้ค่ะ ฉันต้องทำตามหน้าที่ และอีกอย่างฉันยินดีที่จะทำหน้านี้ด้วยค่ะ "

    เธอปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจัง จนทำให้เซอาร์ถึงกับพูดไม่ออก 

    " งั้น ตอนนี้ผมผมต้องการพักผ่อน คุณโดฮีพอจะช่วยผมได้หรือป่าวล่ะครับ "

    " ได้ค่ะถ้าต้องการอะไร ก็บอกได้เลยนะคะ "

    พูดจบเธอเดินออกจากห้องไป ทำให้เซอาร์อดที่จะหัวเราะกับท่าทางจริงจังของเธอไม่ได้


    ............................


    ครืดดดดดดด ...... เสียงเลื่อนผ้าม่านของโดฮี ผสมกับแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอนปลุกให้ เซอาร์ต้องตื่นจากการ
    หลับบไหล  เขาลุกขึ้นมานั่ง เอามือขยี้ตา ผมของเขายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง  แต่ก็ยังคงความหล่อในแบบพึ่งตื่นไว้อยู่

    " ฮ๊าวววว ~ เช้าแล้วเหรอเนี่ย " เขาพูดพร้อมกับบิดตัวไปมาเพื่อไล่อาการเมื่อยล้าจากนอนเมื่อคืน

    " อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเซอาร์ " สาวร่างเล็กเอ่ยทักทายเจ้านายคนใหม่ สีหน้าของเธอเรียบเฉย ยากที่จะเดาได้ว่าเธอคิดอะไร

    " คับๆ อรุณสวัสดิ์ครับคุณโดฮี ... สีหน้าแบบนี้ นี่คุณจริงจังไปหมดทุกเรื่องเลยหรือป่าวครับเนี่ย "

    เซอาร์ไม่วายที่จะแซวสาวหน้าตายคนนี้ เพราะสีหน้าของเธอดูจะจริงจังมาก เสียจนมันไม่เหมือนการปลุกเลย

    เธอทำแค่เพียงพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง 


    เซอาร์ลุกออกจากเตียงนอน และเดินออกไปนอกห้อง เขาเดินออกมายังราวระเบียง และมองลงไป ชั้นล่างจะเป็นห้องโถงขนาดกว้างทรงกลม
    เพราะบ้านที่เขานอน จะเป็นตึกที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของปราสาท เป็นตึกทรงกลม3ชั้น ชั้นแรกเป็นห้องโถง ส่วนช้้น2และ3 จะเป็นห้องนอน 
    ซึ่ง เซอาร์และ อิทเทอร์จะอยู่ที่ชั้น2 ส่วนชั้น 3 จะเป็นห้องนอนและห้องทำงานของเซโร่ ปกติพ่อแม่ของพวกเขาจะอยู่ที่นี่ด้วย ตอนนี้ที่ห้องโถง
    บรรจุไปด้วยคนประมาณ10กว่าชีวิตได้ กำลังนั่งคุยกันเอะอะเสียงดังพอสมควร  

    " นี่ ฉันควรจะต้องชินกับชีวิตแบบนี้แล้วใช่มั้ยเนี่ย " 

    " อ้าว ตื่นนานหรือยัง " อิทเทอร์เอ่ยทักน้องชาย 

    " พึ่งตื่นอ่ะ โดฮีมาปลุก " 

    " อ๋อ อิเด็กหน้าตายนั่นอ่ะหรอ 555 เออๆ แหม่พี่เซโร่เข้าใจเลือกคนจริงๆ " 

    เธอหัวเราะ ร่า เมื่อพูดถึงโดฮี เด็กสาวที่ทำหน้าเป็นแค่หน้าเดียว

    " ขำอะไรนักหนาเนี่ย โอ๊ว แล้วไอพวกข้างร่างนี่ใครอ่ะ "

    เซอาร์ทำเสียงหงุดหงิดใส่พี่สาว ที่เอาแต่หัวเราะ 

    " อ่าวอินี่ วอนโดนด่าแต่เช้าเลยนะ พึ่งมาแค่วันแรกก็หาเรื่องโดนด่าซะแล้ว .... ไอพวกข้างล่างก็คิอลูกน้องของเราไง "

    อิทเทอร์บ่นใส่น้องชายก่อนที่จะตอบคำถามที่เขาถาม 

    " ยังไง วะ ลูกน้อง นี่พวกเราเป็นอะไร ทำงานอะไรแน่เนี่ย "

    " แกตั้งใจฟังดีๆนะ ฉันจะเล่าแค่รอบเดียว .... พวกเราเป็นมาเฟีย "

    เด็กดูเหมือนจะตกใจกับคำตอบจากปากพี่สาว  แต่เธอก็ยังคงเล่าต่อ

    " พวกเราเป็นมาเฟีย ในโลกนี้มีมาเฟียมากมายหลายกิล เราจะพูดถึงกิลเราก่อนละกัน กิลเรามีชื่อว่ากิล Sanctuary wall 
    ถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของเรา สืบทอดตำแหน่งบอสโดยการคัดเลือกฝีมือของทายาทในแต่ละรุ่น ( แต่ละกิล
    มีวิธีคัดเลือกบอสต่างกันออกไป )บอสคนก่อนก็คือคุณปู่ของเรา กิลถูกแบ่งเป็นระดับเอาไว้ ระดับต่ำสุดก็คือ ระดับ B และ
    ก็ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆคือ A , S , แล้วก็ SS หรือกิลในตำนานนั่นเอง กิลในตำนาน ของโซนเอเชีย จะมีอยู่ 4 กิล ซึ่งกิลเราก็เป็น
    กิลในตำนานเช่นกััน "

    " หื้มมม ยิ่งใหญ่อ่ะ ดูยิ่งใหญ่ไปเลย 5555 แล้วไงต่อๆ " เขาดูจะสนุกและตื่นเต้นกับเรื่องเล่ามากโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันสำคัญ
    ขนาดไหน อิทเทอร์ยังคงเล่าต่อ

    " ส่วนมาเฟียก็่เช่นกัน ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเป็นก็เป็นได้ มาเฟียก็ถูกแบ่งเป็นระดับเช่นเดียวกัน แต่มาเฟียจะเรียกเป็น คลาส
    ก็จะมีตั้งแต่ คลาส D , C , B , A , S , แล้วก็ SS ส่วนใหญ่จะเป็นพวกบอส แต่มันก็ต้องขึ้นอยู่ ระดับของกิลด้วย เช่น ถ้ากิล
    ระดับ B คือระดับที่ต่ำสุด ก็อาจจะมีมาเฟีย คลาส A หรือ B เป็นบอสก็ได้ เพราะบางครั้ง คลาส B ของกิลระดับ A บางคนเก่ง
    กว่าบอสบางกิลก็มีิ การจะเป็นมาเฟียได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการฝึกฝน มีการสอบ มีการทดสอบฝีมือจากสภามาเฟียโดยตรง
    มาเฟียก็เปรียบเสมือนอาชีพๆหนึ่ง กิลก็เหมือนเป็นบริษัทหนึ่งที่ต้องจ้างพนักงานมาทำงาน แล้วก็ต้องให้ค่าตอบแทน "

    " โห ยุ่งยากว่ะ แล้วเงินที่จ่ายเป็นค่าตอบแทนล่ะ เราไปเอามาจากไหนหรอ " เขาถามเพื่อให้พี่สาวเล่าต่อ เพราะเขาสงสัยเหลือ
    เกินมา มาเฟียมันสามารถทำเงินได้ยังไง

    " แกเคยดูกีฬาหรือป่าว ที่เขาต้องแข่งกัน เพื่อให้ได้ที่ 1 อ่ะ .... มาเฟียก็เหมือนกัน จะมีรายการต่างๆที่ทางสภามาเฟียจะจัดขึ้น
    เพื่อให้ทุกกิลได้แข่งขันชิงเงินรางวัลกัน และในแต่ละเดือน จะมีการแข่งขันรายการใหญ่ก็คือ G war เงินรางวัลของกิลที่ชนะ
    ก็ประมาน 100 ล้าน อ่ะ ส่วนกติกาก็ง่ายๆ ในแต่ละเมืองจะมีปราสาท แล้วในชั้นบนสุดของปราสาทจะมีผลึกคริสตัลอยู่ เราก็
    ทำลายคริสตัลนั่น เราก็ชนะแล้ว แต่... เค้าจะปล่อยมาเฟียทุกกิลที่อยู่ในเมืองนั้นๆเข้าไปพร้อมกันหมดเลยนะ เท่ากับว่าเราจะ
    ต้องตะลุมบอนกับกิลอื่นๆแล้วก็ต้องชิงทำลายผลึกให้ได้ก่อนด้วย "

    " หูยยย แล้วแบบนี้ิถ้ากิลไหนที่แพ้ก็จะอดรางวัลไปเลยอ่ะดิ แล้วแบบนี้ก็เท่ากับว่าทั้งเดือนกิลก็จะอดรายได้งั้นเหรอ ? "

    " เพราะแบบนี้เขาถึงจัดกันหลายทัวนาเมนท์ไงล่ะ ในแต่ละเดือน มีทัวนาเมนท์กว่า 10 ทัวนาเมนท์อ่ะ แล้วก็ยังจะมีแบบระบบ
    พันธมิตรกันอีก ระบบพันธมิตรก็คือ การที่ระหว่างกิลทำสัญญากัน เช่น เข้าแข่งทัวนาเมนท์นั้นๆ แล้วก็ช่วยกันเอาชนะหรือแบ่ง
    กันชนะ เพื่อสลับกันได้เงินรางวัล " 

    " โหแจ่มๆ ระบบพันธมิตรนี่ดีจังเลยเนอะ แบบนี้ก็เหมือนกับว่าช่วยเพื่อนมนุษย์ ไปในตัว ... แล้วเรามีกิลไหนเป็นพันธมิตรบ้างอ่ะ "

    " ไม่มี " เขาถึงกับอึ้งในคำตอบของพี่สาว 

    " ทำไมอ่ะ กิลเราไม่ดีหรอ หรือยังไง ทำไมไม่มีใครเป็นพันธมิตรกับเรา " เซอาร์ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อรู้ว่า กิลตัวเองไม่มีพันธมิตรเลย
    สักกิล ซึ่งนั่นก็แปลว่า ถ้ากิลของเขาเข้าร่วม ทัวนาเมนท์ หรือ G war เมื่อไหร่ พวกเขาก็จะต้องสู้เพียงลำพังแน่นอน

    " ที่จริงแล้ว มีแต่กิลอื่นๆที่เสนอเข้ามาเป็นพันธมิตรกับเราตั้งมากมาย "

    อิทเทอร์ตอบคำด้วยสีหน้าปุเลี่ยนๆ 

    " อ่าว แล้วทำไมเราถึงไม่ตอบรับละ "

    " เพราะอะไรน่ะเหรอ ..... ก็เพราะมึงไม่เอาไง มึงบอกว่าไม่ชอบพันธมิตร มันเกะกะเวลาต้อสู้ เกะกะที่จะต้องวางแผนด้วย "

    เธอเบ้ปากพร้อมตอบตะโกนตอบเหมือนกับคำตอบนี้มันอัดอั้นอยู่ในใจมานานแล้ว 

    " เห้ยยย แล้วเกี่ยวไรกับผมอ่ะ ไหนพี่บอกว่า บอสคือปู่ไง  คนตัดสินใจก็ต้องเป็นสิ "

    แม้เขาจะตกใจกับอาการของพี่สาว แต่ก็ยังคงยิงคำถามที่ตัวเองอยากรู้ออกไปหาพี่สาวอีก

    " นี่ อิคุณน้อง ฟังกุดีๆนะคะ ปู่มึงน่ะ ตายไปตั้งกะปีมะโว้แล้วว แล้วคนที่เป็นบอสต่อคือใครรู้มั้ยคะ "

    เธอเว้นช่วงให้น้องชายทำหน้าสงสัยปนโง่ใส่เธอสัก3วิ

    " คือมึงไงคะ อิเซอาร์ผู้ใสซื่อ อิเ _ี้ ย "

    " ห๊ะ ผมเหรอ ใช่เหรอ ?? " เขาทวนคำตอบอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

    " เออค่ะ คือมึงเลยแหละ  แล้วตอนนี้ ช่วยหยุดสงสัยก่อน เพราะมึงต้องไปเตรียมตัวนะคะ "

    พูดจบเธอก็หมุนตัวกลับเพื่อที่จะเดินไปยังห้องของตัวเอง ปล่อยให้น้องชายยืนงง กับตัวเองอยู่

    " เห้ยย พี่อิทเทอร์ !! แล้วเราจะไปไหนกันหรอ " เขาตะโกนถามไล่หลังพี่สาวไป 

    เธอหันกลับมาพร้อมกับตอบ " เราจะไปที่ Battle Park กัน " .... " แล้วช่วยเลิกเรียกฉันว่าพี่อิทเทอร์
    ฟังแล้วจะอ้วก เรียกฉันว่าเจ๊เหมือนเดิมเถอะ "

    อิทเทอร์พูดจบเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอเดินห้องพอดี ..... ปังงง !!

    " นี่กูเป็นบอสเหรอเนี่ย กากๆแบบกูเนี่ยนะ !! " 

    เขาบ่นกับตัวเอง ตอนนี้เขาสับสนกับตัวเองมาก หลายๆความรู้สึกที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้เขาสับสนไปหมด
    ตั้งแต่มาที่นี่ มีเหตุการณ์มากมายที่ทำให้เขารู้สึกช๊อค แต่เรื่องที่ช๊อคที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่เขาเป็น ถึง
    " บอสของ กิลในตำนาน "
     
    ...........~.............




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×