เอาเรื่องมาใหม่ คู่มือตรวจภายใน สำหรับคุณผู้หญิง เอามาใหม่จบ - เอาเรื่องมาใหม่ คู่มือตรวจภายใน สำหรับคุณผู้หญิง เอามาใหม่จบ นิยาย เอาเรื่องมาใหม่ คู่มือตรวจภายใน สำหรับคุณผู้หญิง เอามาใหม่จบ : Dek-D.com - Writer

    เอาเรื่องมาใหม่ คู่มือตรวจภายใน สำหรับคุณผู้หญิง เอามาใหม่จบ

    ถ้าคุณได้อ่านเรื่องคู่มือตรวจภายใน สำหรับคุณผู้หญิงแล้ว ตอนนี้ยังเกิดอะไรขึ้นที่คุณจะไม่คาดหมายที่คุณจะต้องระวังให้ดีๆด้วยน่ะครับจบสิ้นสุดครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,770

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    1.77K

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 มี.ค. 53 / 11:58 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ความขี้อายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของสาวไทย เพราะได้รับการอบรมสั่งสอนให้เป็นกุลสตรีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จนทุกวันนี้ แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปพร้อมๆ กับโลกยุคไร้พรมแดน แต่ผู้หญิงก็ยังคงมีความอายอยู่ ต่อให้เป็นหญิงเก่งหญิงแกร่งแค่ไหนก็เถอะ

      เพราะความอายนี่เอง ทำให้ผู้หญิงไม่น้อยไม่กล้าไปพบแพทย์เพื่อ "ตรวจภายใน" เพราะการตรวจดังกล่าวต้องเปลือยส่วนที่เป็นส่วนตัวมากๆ ซึ่งไม่อยากให้ใครเห็น นอกจากนี้ยังกลัวเจ็บ และกลัวในอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะในรายที่ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ไม่เคยแต่งงาน หรือคลอดลูกมาก่อน

      ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ในจำนวนนั้นอาจมีหลายรายที่มีความผิดปกติของอวัยวะภายในเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่สืบพันธุ์ ทำให้คนแต่งงานแล้วมีลูกยาก หรือมีโรคติดเชื้อบางอย่างที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางเพศ และที่ร้ายแรงก็คือ อาจมีไวรัสเอชพีวี (Human Papillma Virus) ซึ่งเป็นไวรัสที่มีโอกาสพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็งต่อไป ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ โดยสาวไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกมากอันดับ 1

      ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาทุกอย่าง ผู้หญิงทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จึงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในได้แล้ว เพื่อจะได้ทราบว่า ตัวเองมีปัญหาอะไรหรือไม่ ถ้ามีจะได้แก้ไขทันเวลา และเพื่อสุขภาพที่ดี

      โรคที่ต้องตรวจภายใน
      สำหรับผู้หญิง มีโรคมากมายที่เกิดขึ้นจากความเกี่ยวข้องของอวัยวะทั้ง 7 ได้แก่ รังไข่ ท่อนำไข่ มดลูก เยื้อบุโพรงมดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด และอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนนอก ซึ่งต้องตรวจภายในเท่านั้นจึงจะทราบถึงความผิดปกติ เช่น ช็อกโกแลตชีพ ที่เป็นสาเหตุหลักของการปวดประจำเดือน และมีลูกยาก ซึ่งผู้หญิงเป็นกันมาก

      "ช็อกโกแลตซีสต์เป็นอาการของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เพราะเยื่อบุโพรงมดลูกเมื่อไปเกาะที่เกาะที่บริเวณรังไข่ จะมีเลือดออกเหมือนประจำเดือน แต่ไม่ไหลออกมานอกร่างกาย จะขังอยู่ภายในพอเก่าเข้าจะเป็นสีน้ำตาลข้นเหมือนช็อกโกแลตเหลว จึงเรียกกันว่า ช็อกโกแลตชีสต์" นพ.ฉันทวัฒน์ เชนะกุล สูตินรีแพทย์ มะเร็งนรีเวช กล่าว

      อวัยวะภายในที่เกี่ยวพันกับโรคต่างๆ อาทิ

      • รังไข่ : มีโอกาสเป็นมะเร็งในรังไข่ได้ ทั้งในวัยเด็ก วัยเจริญพันธุ์ วัยกลางคน และวัยสูงอายุ
      • มดลูก : มีโอกาสเป็นเนื้องอกในมดลูก ซึ่งมีตั้งแต่เนื้องอกธรรมดาที่ไม่ใช่มะเร็ง โดยพบมากราว 60% ของผู้หญิงทั่วไป แต่อยูที่ขนาดว่าโตหรือไม่ ถ้าโตหรือออกอาการผิดปกติก็ต้องรักษา นอกจากนี้ยังมีโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อมดลูกที่พัฒนาเป็นเนื้องอกที่เป็นมะเร็งได้อีก
      • เยื่อบุโพรงมดลูกข้างใน : ในกรณีที่เยื่อบุโพรงมดลูกข้างในเจริญมาก หนาตัวผิดปกติ ก็จะทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติที่มาพร้อมกับประจำเดือน หรืออาจพัฒนาเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
      • ปากมดลูก : เนื้องอกธรรมดาที่ปากมดลูกไม่น่ากลัวเท่ากับเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก

      เหตุผลที่ต้องตรวจ
      มะเร็งที่พบมากในผู้หญิง คือ มะเร็งปากมดลูก ซึ่งจะพบได้ก็ต่อเมื่อต้องตรวจภายในเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้รับผลพวงอื่นๆ เกี่ยวกับระบบอวัยวะภายใน เช่น มดลูก รังไข่ ฯลฯ โดยปัญหาที่พบมากคือ ปวดท้องประจำเดือนเรื้อรัง มีลูกยาก หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตถ้าเป็นมะเร็ง คุณหมอบอกว่า อวัยวะเหล่านี้ไม่เหมือนอวัยวะอื่นๆ ที่เป็นระบบปิด ซึ่งมีปัจจัยรบกวนจากภายนอกน้อย แต่อวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงมีปัจจัยภายนอกเข้าไปรบกวน นั่นคือการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้มีการขยายตัว และเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย โดยเฉพาะเมื่อมีลูก ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นอะไรได้มาก "ถ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ โอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก เกือบจะเป็นศูนย์ แต่ยังมีรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกที่อกาจเกิดความผิดปกติขึ้นได้ ดังนั้น นี่คือประโยชน์ของการตรวจภายใน" คุณหมอบอก

      เตรียมตัวอย่างไร
      คุณหมอแนะนำว่า แทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไร เว้นเสียแต่ในระหว่างที่มีรอบเดือนไม่ควรมาตรวจ โดยก่อนตรวจ แพทย์จะซักถามประวัติ เช่น ประวัติความสัมพันธ์ทางเพศ หรือแต่งงานหรือยัง มีลูกหรือยัง เพื่อจะได้เลือกวิธีการตรวจรวมทั้งเลือกใช้ขนาดเครื่องมือแพทย์ที่เหมาะสม ในกรณีที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศมาก่อนเลย เครื่องมือแพทย์ที่ใช้จะมีขนาดเล็กกว่า เป็นต้น และใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ในการตรวจแต่ละครั้ง โดยแพทย์จะส่งเซลล์ที่ได้ไปยังห้องปฏิบัติการ หรือส่งต่อไปอัลตราซาวด์ หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับความผิดปกติของแต่ละคน

      ตรวจอย่างไร
      สำหรับวิธีการตรวจ แพทย์จะให้ผู้ป่วยเปลี่ยนไปสวมชุดคลุม แล้วใช้เครื่องมือแพทย์ลักษณะคล้ายปากเป็ดขนาดเล็กๆ แบนๆ สองอัน สอดเบาๆ เข้าไปในช่องคลอด เพื่อเปิดขยายออกให้เห็นปากมดลูก จากนั้นจะใช้เครื่องมือเข้าไปเก็บเซลล์ที่ปากมดลูก จากนั้นจะใช้เครื่องมือเข้าไปเก็บเซลล์ที่ปากมดลูกไปตรวจหาความผิดปกติต่อไป โดยทุกขั้นตอนจะมีพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอยู่ในห้องด้วย

      "ในรายที่แต่งงานมีลูกแล้ว แพทย์อาจใช้นิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อกระดกมดลูกขึ้น สอดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อกระดกมดลูกขึ้น อีกมือหนึ่งคลำที่หน้าท้อง เพื่อจะทราบว่ามอดลูกโตไหม และมีความเจ็บปวดตรงไหนหรือเปล่า เพราะบางโรค เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ บางทียังไม่ถึงขั้นเป็นซีสต์ใหญ่ แต่คนไข้มีอาการปวดมาก เพราะโรคไปเกาะบริเวณเส้นประสาท หรือบริเวณด้านหลังมดลูกที่มีการเคลื่อนไหว เช่น รอยต่อระหว่างมดลูกกับลำไส้ใหญ่ เวลาถ่ายแล้วจะปวดมาก หรือเวลามีประจำเดือนจะปวดเหมือนอยากถ่ายอุจจาระ หรือท้องเสีย การตรวจวิธีนั้จะทำให้รู้ว่ามีเมเม็ด มีตุ่ม หรือเจ็บปวดเกิดขึ้นเมื่อไม่"คุณหมอบอก

      วิธีชีวิตที่เปลี่ยนไป
      โรคภายในของผู้หญิงที่พบบ่อยมาก ได้แก่ โรคตาขาว เลือดออกผิดปกติ ประจำเดือนมาไม่ตรงหรือมาน้อย ปวดประจำเดือน ปวดท้องน้อย และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ซึ่งมีผลมาจากผู้หญิงสมัยนี้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป คือแต่งานช้าลง มีลูกตอนอายุมาก ทำให้รอบประจำเดือนมีมากขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่อายุ 15-16 ปี ก็ตั้งท้องแล้ว ทำให้รังไข่มีโอกาสได้หยุดทำงาน ยิ่งในรายที่มีลูกหัวปีท้ายปี รังไข่ก็แทบจะไม่ได้ทำงานเลย เนื่องจากโรคเหล่านี้เกี่ยวพันกับการทำงานของรังไข่นั่นเอง

      ส่วนโรคตกขาวที่เป็นกันมาก หมายถึงการมีมูกออกมาจากช่องคลอด ปกติจะมีอยู่แล้ว เพราะเป็นน้ำหล่อลื่น แต่หากเกิดอักเสบจากการติดเชื้อต่างๆ เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อพยาธิ ซึ่งไม่ถือว่าน่ากลัว แต่น่ารำคาญ เช่น ทำให้คัน มีกลิ่น มีมูกเยอะเกินไป "อะไรก็ตามที่เคยเป็นปกติของชีวิต แล้วไม่เป็นไปตามนั้น ก็ถือว่าผิดปกติ อย่างตกขาวที่มีอาการคัน มีกลิ่น หรือมีมูกเยอะเกินไปถือว่าผิดปกติแล้ว ซึ่งควรจะมาปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติต่อไป"

      อย่าอาย อย่ากลัว อย่างเกร็ง เป็นคำแนะนำง่ายๆ ที่คุณหมอบอกทิ้งท้าย เพราะค่านิยมผู้หญิงไทยมักอายที่จะไปตรวจภายใน นอกจากนี้ยังรู้สึกกลัว ทำให้เกิดอาการเกร็ง ซึ่งเป็นอุปสรรค คือการตรวจของแพทย์ แต่ทางที่ดีเพื่อสุขภาพที่ดี ควรใส่ใจในเรื่อนี้กันด้วย

      ใช้ชีวิตให้ห่างจากโรค

      การใช้ชีวิตแทบจะไม่เกี่ยว แต่ดูแลได้ด้วยการ

      • ไม่สูบบุหรี่ เพราะสารทาร์ และนิโคตินจะเข้าไปในกระแสเลือดด
      • รักษาสุขอนามัยอย่างพอดี
      • ไม่เปลี่ยนคู่นอน
      • ไม่ใช้แผ่นอนามัยแบบแผ่น โดยเฉพาะชนิดมีน้ำหอม เพราะแผ่นอนามัยจะดูดซึมความชื้นไปเก็บสะสม แต่อากาศไม่ผ่านทำให้หมักหมมเชื้อโรคที่เจริญเติบโตในที่ไม่มีโอกาสทั้งหลายจะชอบ เช่น เชื้อรา ทำให้เป็นเชื้อรากันมาก
      • ช่วงมีประจำเดือนควรเปลี่ยนผ้าอนามัยให้บ่อย อย่างน้อยทุก 3 ชั่วโมง

      ข้อมูลแพทย์ โรงพยาบาลวัฒโนสถ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×