ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Endless’s Wars : the last story

    ลำดับตอนที่ #1 : ตำนานวันสร้างโลก...[1]

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 49


    มหากาพย์สงครามล้างเผ่าพันธุ์

    Part 1 : ตำนานวันสร้างโลก 1-1

                  

          หากว่าดวงดาวดวงใดก็ตามที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่    ดาวดวงนั้นมักมีเรื่องเล่ามากมายที่ถูกเล่าสืบต่อกันมาของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น  แต่ทว่าบางเรื่องราวอาจถูกกล่าวขานกันจนกลายเป็นตำนานสืบไปดังเช่นเรื่องราวของการสร้างโลกบน ดาวเคราะห์ เกรนเซียร์ <Grenzear>  หนึ่งในจำนวนดาวเคราะห์ของกาแล็คซี่โครนอส  ดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นดาวเคราะดวงที่สี่ในจำนวนดาวเคราะห์ทั้งสิบสี่ดวง  สิ่งมีชีวิตกำเนิดขึ้นมาอย่างมากมายหลายเผ่าพันธุ์ รวมไปถึง  มนุษย์  ด้วยเช่นกัน 

     

            มีตำนานบทหนึ่งกล่าวว่าขณะที่ทุกสรรพสิ่งถือกำเนิดขึ้นมาบนผืนแผ่นดินนั้น  ได้มีบุรุษผู้หนึ่งเกิดขึ้นมาจากผืนแผ่นดินและเปลวเพลิงอันร้อนแรงของแกนโลก  เขาเรียกตนเองว่า เกรนเซียร์  บุรุษผู้นั้นมีอำนาจมากมายมหาศาลจนทุกสรรพสิ่งเรียกเขาว่า มหาเทพบิดร <Archlord Grenzear> มหาเทพได้สร้างเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ขึ้นมาอย่างมากมาย  รวมไปถึงกระทั่งเผ่าพันธุ์ยักษ์  มนุษย์ที่มีพละกำลังมากมายมหาศาล  ร่างกายที่ใหญ่โตกำยำของเผ่าพันธุ์ยักษ์นั้น  ขนาดที่เล็กที่สุดของพวกเขาก็ประมาณ สอง ควอเนลแล้ว <ค่ามาตรวัดของดาวเคราะห์เกรนเซียร์ 1 ควอเนล = 1.6 เมตร>  พวกเขามีอารมณ์ที่ดุร้าย  สีผิวเขียวกล่ำเป็นประกาย  พวกเขานับถือมหาเทพบิดรยิ่งชีพของพวกเขาเองเสียอีก

     

            หลังจากที่มหาเทพได้สร้างเผ่าพันธุ์ยักษ์ขึ้นมาแล้ว  เขาก็ได้สร้างเผ่าพันธุ์อสูรขึ้นมาหลังจากนั้นไม่นาน  เหล่าอสูรถูกสร้างขึ้นด้วยเปลวเพลิงและความมืดมิด  พวกอสูรจึงมีร่างกายที่แปลกประหลาด  และมีอำนาจแห่งความมืดอยู่ในตัว  พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่โหยหาการเข่นฆ่ากว่าทุกสรรพสิ่งบนผืนพิภพ  เหล่ายักษ์เอือมระอากับความบ้าคลั่ง  พวกเขาจึงก่อสงครามกับเหล่าอสูรอยู่เรื่อยมา

     

            กาลเวลาไหลเวียนไปจวบจนมหาเทพเริ่มรู้สึกอ้างว้าง  เขาจึงกรีดเลือดของตนลงในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล  พร้อมกับหยาดน้ำตาของตนลงไป  ก่อนที่จะใช้อำนาจทั้งปวงของเขาสร้างมนุษย์ขึ้นมาอีกตนหนึ่ง  มนุษย์ผู้นั้นเป็นสตรีที่มีรูปโฉมงดงาม  ผิวพรรณของนางขาวสะอาด ซึ่ง ขัดกับผิวของเขาที่ออกแดงกล่ำอย่างมาก  มหาเทพจึงเอ่ยเรียกนางว่า  โซฟิเทียร์  <Zophitear>  มหาเทพมารดร 

            พวกเขาอยู่กินกันเรื่อยมา  จนกระทั่งวันหนึ่ง  เกรนเซียร์สังเกตว่าภรรยาของตนเริ่มมีอำนาจขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับตน  เขาจึงเริ่มหวาดกลัวว่าสักวันหนึ่ง  นางจะมีอำนาจที่ทัดเทียมกับตน  หรือ  อาจมากกว่าตนด้วยซ้ำ  แต่เนื่องจากนางมีความอ่อนโยนอยู่ในตัวของนาง  นางจึงยังคงให้อภัยผู้เป็นสามีทุกครั้งที่สามีพยายามจะลอบสังหารตน  แต่สิ่งที่นางมิอาจอภัยให้แด่สามีของตนนั้น  มีเพียงเรื่องเดียวนั่นคือ  เขาได้สังหารบุตรของพวกเขาเองด้วยความหวาดระแวง  นางจึงชุบชีวิตบุตรของนางขึ้นมาอีกครั้ง  และตั้งชื่อให้กับเขาว่า  อาห์คาเทล <Arhcatale>  ซึ่งนางให้ความหมายกับชื่อบุตรของนางว่า  ผู้สังหารเทพ

     

            อาห์คาเทล  เป็นบุรุษที่มีความยุติธรรมและความกตัญญูอย่างมาก  เขาจึงไม่อาจหักใจสังหารบิดาตนได้  ถึงแม้ว่ามารดาของเขาจะสั่งมาก็ตามที  เขาเริ่มเบื่อหน่ายกับการแก่งแย่งชิงดีของบิดาและมารดาของตน  จวบจนกระทั่งสงครามของเหล่าอสูรและยักษ์  จนวันหนึ่งเขาได้ใช้อำนาจที่ตนมีสร้างเผ่าพันธุ์ขึ้นมาอีกเผ่าพันธุ์หนึ่ง  ซึ่งเผ่าพันธุ์นี้มีรูปร่างเฉกเช่นเดียวกับเขาและมหาเทพทั้งสององค์  เพียงแต่ว่าผิวพรรณของพวกเขานั้นขาวราวกับหิมะเช่นเดียวกับมหาเทพมารดร  และมีรูปร่างเพรียว  ใบหูเรียวยาว รวมถึงสีผมที่ขาวสะอาดดุจหิมะในยามฤดูหนาว  พวกเขาได้รับอำนาจแห่งมนตราทั้งสี่ธาตุมาใช้  จึงทำให้พวกเขากลายเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าอสูรและยักษ์ไปในทันที  พวกอสูรและยักษ์ต่างพากันเรียกพวกเขาว่า  เอลฟ์  หรือ  เอเวน  นั่นเอง

     

            เผ่าพันธุ์เอลฟ์เป็นชนเผ่าแรกที่เริ่มมีการปกครองในระบอบกษัตริย์  ซึ่งพวกเขาใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในพงไพรี  จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันนั้นมีแต่คนเรียกขานพวกเขาว่า  องครักษ์แห่งพงพันธุ์  เอลฟ์มีสายตาและประสาทสัมผัสด้านการได้ยินดีกว่าเผ่าพันธุ์อื่น  พวกเขาจึงเริ่มฝึกทักษะด้านการใช้ธนูไว้สำหรับป้องกันการรุกรานของอสูรและยักษ์  ซึ่งถือว่าเป็นทักษะที่พวกเอลฟ์เชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก  รองมาจากการใช้มนตราของพวกเขา  เหล่าเอลฟ์ยกย่องนับถืออาห์คาเทลเป็นเทพพิทักษ์องค์หนึ่ง  ถึงขนาดที่ว่าพวกเขาเรียกขานอาห์คาเทลว่า  เทพกษัตริย์ทรงธรรม  เลยทีเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×