ตอนที่ 4 : ภารกิจแทรก
ขณะที่เธอนั่งเล่นสั่งอาหารมากินไปพลางๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ ใบหน้าสวย นั้นยังคงงอง้ำและแฝงไปด้วยอารมณ์อยากจะฆ่า นี่ถ้ามีงานเข้ามาตอนนี้ละก็ เฮ้อ สงสารเหยื่อจริงๆ
‘ เว้ยยยยยยยยย เซง เรียนอีกละมันจะเรียนอะไรนักหนา ’ แล้วเสียงถอนหายใจก็ตามมาหลังจากที่เจ้าตัวคิด
หลังจากนั้นไม่นานคุณเธอก็จัดการกับอาหารตรงหน้าพร้อมทั้งจ่ายเงินเสร็จก็เดินขึ้นไปบนห้อง เพื่ออ่านหนังสือที่ซื้อมาต่อ แค่ไม่นานก็ทำให้เธอกลับมาอารมณ์ดีได้ ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ
แต่แล้วความสุขใจที่กำลังมีอยู่ก็ถูกขัดจังหวะจนได้ เมื่ออยู่ๆ ก็มีนกเหยี่ยวขนสีขาวตัวหนึ่งบินมาเกาะที่หน้าต่างห้องเธอ และเสียงร้องของมันก็สามารถเรียกความสนใจของเจ้าของห้องได้ แต่แล้วดวงตาสีทองก็เบิกขึ้นเมื่อพบสิ่งที่ติดขาเจ้านกน้อยมา
“ จากพี่ดาเนียนี่ อืม มีภารกิจงั้นหรอ ในเวลาแบบนี้อะนะ คงมีอะไรสักอย่างแน่ ” หลังจากนั่งคิด นอนคิด ยืนคิด แล้วก็ได้คำตอบว่าจะลองไปดูเสียหน่อย แล้วก็ช็อคอีกหลายกระทงเมื่อ….
“ แล้วนัดที่ไหนเนี่ย อืม ฮะ ที่วังเนี่ยนะ! ไปทำบ้าอะไรที่วังเนี่ย ” แววตาช็อคแต่ก็นั่นแหละ ที่สำคัญคือ พี่ดาเนียเข้าไปได้ไงน่ะสิ
‘ หรือว่าพี่ดาเนียจะถูกจับได้แล้วซักมาที่เรา ไม่สิ ถ้าเป็นงั้นคงมีทหารมาลากเราไปเรียบร้อยแล้วสิ หรือว่าพี่ดาเนียเป็นสายให้ทางการ บ้าๆๆ จะบ้าหรอพี่เขาทำงานกะเรามาตั้งหลายปี คงไม่หรอก เอ แปลกจริง จะไม่ไปก็ไม่ได้ ถ้าพี่เขาส่งมางี้แสดงว่ามีเหตุจำเป็นไม่งั้นคงมาบอกเราทีหลังแล้ว งั้นสงสัยต้องระวังหน่อยละ ’ เมื่อคิดได้ดังนั้น เมดันล่าก็ไปแต่งตัวเพื่อจะไปคืนนี้
ที่พระราชวังแห่งอาณาจักรสกาไลต์ ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองมีปราสาทอยู่ถึง 3 ปราสาท สร้างขึ้นมาร่วม 1000 ปีได้แล้ว มีการป้องกันจากทหารจำนวนไม่ต่ำกว่าครึ่งพัน!
“ อืม นี่ก็เกือบจะ 2 ทุ่มแล้วนะดาเนีย แน่ใจหรอว่าเขาจะมา ” เสียงดังมาจากชายวัย 40 ต้นๆ ที่กำลังนั่งอยู่ในห้องทรงอักษรส่วนพระองค์ จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่องค์ราชาแห่งอาณาจักรน่ะซิ เอ่ยกับดาเนียซึ่งนางก็นั่งอยู่ข้างๆนี่เอง
“ มาแน่นอนเพคะ อีกไม่นานหรอกเพคะ ” เสียงของดาเนียยังคงมั่นใจ เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าเธอเรียกนางไปแบบนี้นางต้องมาแน่ แต่นางคงจะระวังตัวไว้ในระดับหนึ่งแน่นอนเพราะว่าเธอดันนัดเมดันล่ามาที่วัง!
“ แน่ใจหรอว่านางจะมา ข้ากลัวว่านางจะ... ” ก่อนจะได้ตรัสจบก็มีเสียงขัดขึ้นมาก่อนซะได้
“ ท่านไม่ต้องกลัวว่าข้าจะไม่มาหรอก ข้าต้องมาแน่ ” เสียงจากเมดันล่าที่ซ่อนตัวอยู่เกือบ 10 นาที กะว่าจะลองสังเกตการณ์ดูว่าทุกอย่างเป็นอย่างไรซะหน่อย แต่ดันฟิวส์ขาดกับประโยคขององค์ราชานะสิ
‘ นางนี่หรอจะกลัวฝันไปเหอะ ’
“ อ้า ท่านเขี้ยวเงินนี้เอง ว่ายังไงยินดีที่ได้รู้จักนะ ” เสียงองค์ราชาทักทายอย่างเป็นกันเองทำให้อารมณ์ของนางดีขึ้นมาหน่อย
“ เพคะ หม่อมฉันก็ยินดีที่ได้พบพระองค์ แต่หม่อมฉันอยากรู้เหตุผลที่เรียกมามากกว่า ” เมื่อพูดจบนางก็เดินมานั่งลงข้างๆรุ่นพี่สาวของเธอ
‘ อืม มาถึงก็เปิดเรื่องเลย สงสัยยังไม่หายโกรธเรื่องประโยคเมื่อกี้แฮะ ’ เมื่อทรงคิดได้ก็เปิดเรื่องทันที
“ อืม ข้าเป็นคนให้ดาเนียเรียกเจ้ามาเองนั่นแหละ ข้ามีภารกิจจะมอบหมายให้เจ้า หวังว่าคงไม่ขัดข้องนะ ” เมื่อตรัสจบ ความเงียบก็เข้ามาแทนที่แม้จะไม่นานแต่ก็สร้างความอึดอัดได้เล็กน้อย
“ ข้าคงต้องขอฟังเงื่อนไขและข้อมูลให้มากกว่านี้เสียก่อนจึงจะตอบได้ ” นางคงไม่อาจตกปากรับคำได้ก่อนที่จะฟังเงื่อนไขได้หรอก แม้พี่ดาเนียจะเป็นคนแนะนำเองก็เถอะ
“ อืม นั่นสินะ ได้ ข้อเสนอของข้าคือต้องการให้เจ้ามาเป็นองครักษ์ของลูกชายข้า ตราบที่เขายังเรียนอยู่ที่เอ็กคาร์เซีย ส่วนเรื่องค่าจ้างข้าจ่ายไม่อั้น! ตกลงไหม ” เสียงองค์ราชายังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม
‘ อืมเอ็กคาร์เซียเรียนด้วยกัน 4 ปี แต่ค่าจ้างไม่อั้นนี่ใจป้ำไม่น้อย อ้อ เข้าใจแล้ว ที่แท้ก็อย่างงี้นี่เอง พี่ดาเนียนี่ไม่เบาเหมือนกัน เห็นว่านางต้องเข้าไปอยู่แล้วและถ้ามีลายเซ็นรับรองขององค์ราชาจะทำให้อะไรๆ ก็ง่ายขึ้น แถมยังไงการทำงานนี้ก็เป็นตอนกลางคืนอยู่แล้ว และได้ยินมาว่าองค์ชายของที่นี่ก็มีองครักษ์ที่มีผีมืออยู่แล้วคนหนึ่งคงไม่ต้องกังวลสักเท่าไหร่ ’ เมื่อเข้าใจอะไรง่ายขึ้นนางก็คิดจะตอบรับข้อตกลงอยู่หรอกแต่ว่า......
“ พระองค์ก็ทรงเห็นว่าหม่อมฉันเป็นแค่สาวน้อยบอบบางจะไปทำงานอยู่ท่ามกลางชายหนุ่มถึง 2 คนมันจะดีหรอเพคะ ” ไหนๆ ฝ่ายนั้นก็กะไม่อั้นอยู่แล้ว ก็ขอเล่นตัวสักนิดเถอะ
“ แล้วเจ้าจะเอายังไงล่ะ ” อืม เคี่ยวใช้เล่นแฮะ สาวน้อยบอบบางอยากจะบ้า เป็นนักฆ่าไม่ใช่หรอ แต่ก็ต้องตามน้ำไปนี่ เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ต้องพูดไปตามนี้
“ อืม ข้าแค่อยากจะได้ป้ายผลึกของทางสกาไลต์ก็แค่นั้น ” เสียงหวานตอบซื่อๆ แต่ก็ทำเอาคนฟังทั้งสองถึงกับอึ้ง
‘ เอาละถ้าได้เจ้าป้ายนี่มาละก็คงสบายกว่าเดิมเยอะ ’ นางนี่ช่างคิดจริงจริ๊ง
ป้ายผลึกนั้นเป็นป้ายที่ได้รับพระราชทานเท่านั้น ผู้ที่ถือสิ่งนั้นหมายความว่าได้รับความไว้วางใจจากองค์กษัตริย์มากๆ ส่วนมากจะเป็นองค์รัชทายาทหรือขุนนางชั้นสูงที่ช่วยงานมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี มีอำนาจสั่งการทหารและสภาขุนนางได้เทียบเท่ากษัตริย์สั่งการเองเลย
“ เจ้าไม่คิดว่ามันจะเกินไปหรอ ป้ายผลึกนี้สำคัญขนาดไหนเจ้ารู้ดี มันไม่ใช่ของที่จะให้กันได้ง่ายๆ นะ ” คำพูดที่แฝงความไม่พอใจไว้เล็กน้อยแต่กลับแฝงความขบขันและชื่นชมไว้
‘ นางฉลาดมากทีเดียว และยังกล้ามากด้วยที่ขอของแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ ถ้านางกล้าขอ เราก็ต้องกล้าให้สิ ' ไม่รู้เพราะความคิดนี้มันดังไปหรือแววตาแบบนี้ที่ทำให้ดาเนียตกใจและทางเมดันล่าก็ยิ้มอย่างพึงพอใจได้ไม่น้อย
“ ก็ได้ ข้าตกลง ข้าจะทำให้ทันที ระหว่างนี้เจ้าก็ไปรู้จักกับองค์ชายแล้วก็องครักษ์ไว้ก่อนละกัน ” สิ้นคำตกลง ก็ทำให้เมดันล่าหลุดอาการลิงโลดอย่างดีใจจนออกนอกหน้า
สาวน้อยที่ตอนนี้กระโดดไปมาส่งเสียงร้องแบบยินดี โดยมีดาเนียไล่จับมานั่งเฉยๆ เรียกรอยยิ้มจากองค์ราชาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ ดาเนียเจ้าพานางไปหาซาเวียร์กับเอเรียสก่อนสิ พวกเขารออยู่ที่ห้องสมุดนะ " เสียงตรัสสั่งขององค์ราชาทำให้นางสะกิดใจไม่น้อย เอ๊ะ ชื่อคุ้นๆ
“ เพคะ งั้นพวกข้าขอลานะเพคะ ” สิ้นเสียงล่ำลาจาก 2 นาง พวกนางก็เดินจากไป
“ อืม ใช้ได้แฮะ สงสัยต้องไปบอกท่านดาล่าให้เตรียมทำป้ายผลึกเสียแล้ว ” หลังจากนั้นองค์ราชาก็เสด็จออกไปจากห้องทิ้งให้เทียนไขที่อยู่ในห้องทั้งหมดดับลง
ตัดกลับมาทาง2สาวที่กำลังเดินไปห้องสมุด
“ นี่ๆ พี่ดาเนีย ข้าถามหน่อยสิ ทำไมพี่ถึงมาอยู่ในวังได้ละ แล้วยังให้ข้ามารับงานแบบนี้ได้แสดงว่าเส้นใหญ่ไม่น้อยเลย ” เสียงถามเจือความสงสัยจากสาวน้อยรุ่นน้องเรียกรอยยิ้มเอ็มดูจากนางได้เสมอ
“ ก็ นอกจากพี่จะเป็นนักข่าวส่วนตัวของเจ้าแล้วเนี่ย พี่ก็เคยเป็นนักข่าวให้กับทางราชสำนักสกาไลต์มาก่อนน่ะ แต่พี่ก็ติดต่อกับองค์ราชาอยู่บ้างเป็นบางครั้ง เพราะงั้นข่าวของพี่ถึงได้ถูกต้องเสมอไงจ๊ะ ” เสียงตอบเรียกตาโตๆ จากเมดันล่าได้ไม่น้อย
‘ ที่แท้พี่ดาเนียก็เคยทำงานอยู่กับทางนี้นี่เอง ถึงได้เข้าถึงข้อมูลส่วนลึกๆได้ ’ เจ้าของความคิดมองสายข่าวของเธอยิ้มๆ
“ อะ ถึงแล้วล่ะห้องสมุด ” เสียงทักขัดจังหวะความคิดของเมดันล่าก็ทำให้นางต้องหันมาสนใจห้องตรงหน้าแทนแต่พอเปิดเข้าไปจากใบหน้าที่เคยนิ่งกลับเป็นเหวอทันที ก็นั่นมันซาเวียร์กับเอเรียสนี่! แล้วทำไมมันมาอยู่นี่ได้เนี่ย
“ เฮ้ยๆ เมดันล่านี่ มาอยู่นี่ได้ไงเนี่ย หรือว่าเปลี่ยนใจจะมารับดวงใจจากข้าไป ” เสียงทักทายกวนจากซาเวียร์ยังคงเหมือนเดิมเป๊ะ แล้วอีกคนก็แค่ทำหน้านิ่งๆ ไม่พูดอะไรเช่นเดิม
“ ไอ้บ้าเนี่ยนะ เจ้าชาย บ้าไปแล้ว ” เสียงตอบปนด้วยความมึนตึบสร้างความหนักใจให้กับดาเนียได้ไม่น้อย
อันที่จริงนางรู้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่ร้านเหล้าแล้วแต่คิดว่าไม่บอกก็คงไม่เป็นไร
แต่ที่ไหนได้ เฮ้อ เหนื่อยใจชะมัด
ขณะที่แต่ละคนกำลังยุ่งไปกับช่วงเวลาของตัวเอง ในสุดก็มีคนทักขึ้นมาจนได้
“ แล้วสรุปว่ามากันได้ไงเนี่ย ” เสียงถามจากเอเรียสซึ่งวันนี้พูดเป็นคำแรกตั้งแต่ที่เธอมาถึงห้องเลยมั้ง
“ ก็คืองี้ เดี๋ยวเมดันล่าเนี่ย เขาจะมาเป็นองครักษ์อีกคนนึงของเธอน่ะ ” เสียงดาเนียอธิบาย
“ อืม เสด็จพ่อบอกไว้ว่าจะมีคนมาเป็นองครักษ์อีกคน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิง ” เสียงตอบจากซาเวียร์เหมือนพึ่งนึกขึ้นได้แต่ดันไปสะกิดใจสาวน้อยผู้ถูกนินทาเข้านะสิ
“ เป็นผู้หญิงแล้วมันยังไงหรอ ซาเวียยยยยยยยยยร์ ” น้ำเสียงของเธอตอนนี้ไม่เหมาะให้มีคนไปลองดี แต่ก็นะ ซาเวียร์มันเคยรู้อะไรซะที่ไหนล่ะ
“ ก็ไม่ทำไมหรอก แต่ให้ผู้หญิงมาเป็นองครักษ์ของเจ้าชายมันยังไงไม่รู้แฮะ เอ่อ เมดันล่า เม เมจั.... ” คำพูดไม่ทันจบ องครักษ์มือใหม่ก็ส่งหมัดตรงเข้าหน้าองค์ชายเสียดั้งเกือบยุบ
“ โอ๊ย เม ชกมาได้เป็นองค์รักษ์ไม่ใช่หรอทำร้ายเจ้าชายได้ไงอะ ” เสียงอุทธรณ์ดังมาจากเจ้าชายที่ไม่เหมือนเจ้าชาย
“ เจ้าชายที่ไหนปากหมาอย่างงี้บ้างเล่า ” เสียงตวาดกลับของเธอทำเอาคนกำลังจะอ้างต่อหุบปากสนิท
หลังจากได้ทักทายกันพอหอมปากหอมคอก็ได้เวลาเรื่องจริงๆ จังๆ เสียที
“ ว่ายังไง สรุปไปทำอีท่าไหนถึงมาเป็นองครักษ์ฉันได้เนี่ย ” คำถามถูกเปิดมาจากองค์ชายแห่งสกาไลต์
แต่คนตอบไม่ใช่คนถูกถามแต่เป็นรุ่นพี่สาวแทน เพราะคนที่ถูกถามกำลังนั่งปั้นหน้าบูดทำปากขมุบขมิบอยู่ เมื่อดาเนียเล่าจบ ก็ทำเอาซาเวียร์หัวเราะค้าง ส่วนเอเรียสกลับนั่งทำหน้าไม่สนใจใคร แม้เจ้าตัวจะเก็บรายละเอียดทั้งหมดได้ก็ตาม
“ ใครที่ไหนมันบ้าพอที่จะเอานักฆ่ามาเป็นองครักษ์วะ ”
“ ถามโง่ๆ พี่ดาเนียก็พึ่งจะเล่าจบไป คนที่จ้างฉันก็พ่อแกไง ” เสียงจากเมดันล่าตวาดกลับเข้าให้
‘ ให้ตาย บอกที่ซิว่าไอ้นี่ว่าไอ้นี่มันไม่ได้เป็นเจ้าชาย โง่ก็โง่ ปากก็หมา ’ เสียงด่าอย่างหงุดหงิดในใจไม่สามารถทำให้คนถูกนินทารับรู้ได้เลย
“ ช่างมันเหอะ ยังไงๆ ก็ต้องเป็นมันอยู่แล้วไม่ใช่หรอ องครักษ์น่ะ แล้วจะบ่นมันไปทำไม ” เสียงบ่นอย่ารำคาญจากคนที่เงียบมาตลอดขัดคอคนที่กำลังจะด่าและกำลังจะถูกด่าต่อได้
“ เออนั่นดิ งั้นก็ช่างหัวมันปะไร งั้นเมจังฝากตัวไว้ด้วยละ ส่วนใจอยากจะฝากนะแต่กลัวเธอเอาไปทิ้ง เพราะฉะนั้นก็อดไป ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ”เสียงหัวเราะช่วงท้ายทำเอาคำพูดซึ้งช่วงแรกหายไปทันที
“ ไอ้บ้านี่ จะพูดดีให้มันจบประโยคก็ไม่ได้ ” แม้ปากจะบ่นแต่ที่มุมปากกลับมีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับอยู่ ไม่ใช่แค่ที่เมดันล่าเท่านั้น ทั้งดาเนียและเอเรียสก็เช่นกัน
แล้วมิตรภาพระหว่าง 2 องครักษ์กับไอ้เจ้าชายโง่ๆ ก็อุบัติขึ้นจนได้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เจ้าชายโง่ๆๆ
เจ้าชายโง่ๆ.. แจ๋วเลย
ซาเวียร์ กวนจัง แล้วป้ายผนึกทำอารายได้หรอ
อ่านแล้วอารมณ์ดี
ตอนนี้บทพูดค่อนข้างเยอะ (หรือเราคิดไปเอง...?)
ตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย ตรงความสัมพันธ์ของนักฆ่า กับ
พวกเชื้อพระวงค์ ดูจะสนิดสนมเกินไปหน่อย
ดูจกการเจรจาต่อรองนะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 พฤษภาคม 2554 / 23:18