ตอนที่ 16 : การประลอง 100%
“ แฮ่กๆๆ เฮ้ย ” เสียงหอบที่เคยมีอยู่กลายเป็นการร้องเสียงหลงจากร่างของนักฆ่าสาวนามเมดันล่าที่ต้องกระโดดออกมาให้พ้นระยะโจมตีของเด็กหนุ่มฝั่งตรงข้ามที่อยู่ในสภาพเหนื่อยอ่อนไม่แพ้กัน
‘ ไอ้หมอนี่ อึดเป็นบ้าเลย ’ แล้วความคิดของสาวน้อยร่างบางก็ถูกขัดจังหวะจากลูกไฟสีดำสนิทนับสิบลูกที่ถูกส่งมา ทำให้เจ้าของความคิดต้องเรียกเกราะแสงมาป้องกันก่อนจะกระโดดหลบฉากออกไปอีกครั้ง
นี่พวกเธอก็สู้กันมาเกือบชั่วโมงแล้ว สภาพเหนื่อยอ่อนเหงื่อเม็ดโป้งจำนวนมากผุดพราวขึ้นมาบนใบหน้า เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็เปียกโชกราวกับเพิ่งอาบน้ำ หัวแตกและรอยขีดข่วนเต็มตัว
ย้อนไป 40 กว่านาทีก่อน
“ ฮึ นึกว่าจะไม่มาตามนัดเสียแล้ว ” เสียงจากชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนลานประลองที่รอคนที่พึ่งมาถึงในชุดนักเรียนเหมือนเดิม
“ ฉันไม่พลาดเรื่องสนุกหรอก ” สาวน้อยที่พึ่งก้าวออกมาในชุดนักเรียนหอมังกรทมิฬเช่นกันเอ่ยขึ้นอย่างท้าทาย ก่อนจะค่อยๆ ย่างขึ้นไปบนลานประลองเพื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่รอคอยอยู่
วันนี้มีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 100 เพราะวันนี้ผู้ที่จะมาประลองเป็นถึงหัวหน้าและรองหัวหน้าชั้นปี 1 ของหอมังกรรัตติกาล ที่หลายคนสนใจไม่ว่าจะเพราะฝีมือหรือหน้าตาก็ตาม และแน่นอนว่าต้องมีคนในหอมากันครบไม่เว้นแม้แต่ลิลลี่ที่พึ่งฟื้นขึ้นมาไม่นานก็ด้วย
“ มาเลยแต่อย่าออมมือละคุณหัวหน้าชั้นปี ” นักฆ่าสาวที่ขึ้นมาเตรียมพร้อมอยู่ด้านบนเอ่ยขึ้นอย่างกวนๆ ทั้งรอยยิ้ม
“ เช่นกันคุณรองหัวหน้าชั้นปี ” องครักษ์หนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็กวนกลับไปอย่างไม่น้อยหน้าทั้งยังส่งรอยยิ้มน้อยๆ ไปให้ด้วย เอ๋เดี๋ยว เอเรียสกวน! แล้วก็ยิ้ม! พระเจ้า สงสัยว่าวันนี้อาจจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่ๆ
“ พร้อมแล้ว เริ่มได้เลย ” องครักษ์หนุ่มบอกให้สัญญาณก่อนจะเตรียมตัวรับการโจมตีจากอะไรก็ตามที่กำลังจะมาถึง
“ ได้ๆ จัดให้ ” สาวน้อยหันมายิ้มอย่างถูกใจก่อนที่คฑาสีเงินจะโผล่ขึ้นมาในมือ
“ ข้าเมดันล่า โซ...เลีย ผู้ครองตราแห่งสกา...ดาน่า ขอเอ่ยนามเทพีแห่งรัตติกาล จงผนึกม่านมายา สร้างอาณาเขตแห่งมนตรา สรรสร้างเวลาแห่งนิรันดร์ สไลต์วอกเกอร์ ” สิ้นเสียงใสก็ปรากฏวงมนตราสีดำสนิทเรืองแสงอยู่ใต้เท้าของนักฆ่าสาวก่อนจะขยายเข้าไปถึงตัวเอเรียส
“ ข้าเอเรียส ดราโก...คัส ผู้ถือครองตราแห่งวิน....กาเร่ ขอเอ่ยนามเทพีแห่งรัตติกาล จงผนึกม่านมายา สร้างอาณาเขตแห่งมนตรา สรรสร้างเวลาแห่งนิรันด์ สไลต์วอกเกอร์ ” แล้วมนตราเดียวกันก็ถูกเอ่ยขึ้นมาจากคนอีกคนก่อนจะปรากฎวงมนตราสีดำเช่นกันจากใต้เท้าขององครักษ์หนุ่มก่อนจะขยายดันวงมนตราของเมดันล่าออกไปได้ครึ่งทาง
“ ฮึ ไหนล่ะฝีมือที่ว่า ” เอเรียสหันมาทางนักฆ่าสาวพลางพูดแหย่ก่อนจะเรียกแท่งน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนใสแต่แข็งและคมดังเพชร พุ่งไปพร้อมจะเสียบร่างของนักฆ่าสาว
ฝั่งเมดันล่าที่เห็นเอเรียสเริ่มจู่โจมเข้ามาก็กระโดดหลบออกไปด้านข้างก่อนจะเรียกดาบคู่สีเงินออกมากระชับอยู่ในมือบางก่อนจะหายไปวับไปจากสายตาของผู้ชมจำนวนมากก่อนจะปรากฏอีกทีด้านขวามือของเอเรียสพร้อมกับเสือกดาบเข้าหาสีข้างของคู่ต่อสู้
แต่อีกฝ่ายก็ไวพอจะปัดดาบให้ออกจากวิถีพร้อมกับแทงดาบกลับเข้าไปบ้างแต่ร่างบางก็หายไปแล้วมาโผล่อีกทีทางซ้ายแทนทำให้เอเรียสต้องหลบออกมาตั้งหลักก่อน
“ ดูเหมือนเมจะเป็นฝ่ายรุกนะ ” เซนัสหันมาคุยกับซาเวียร์ที่กำลังดูการต่อสู้อย่างแปลกใจ
“ มันก็ไม่แน่หรอก เอเรียสน่ะ ไม่ได้มีฝีมือแค่นี้หรอก ” ซาเวียร์ยิ้มน้อยๆ แต่ไม่นานรอยยิ้มก็หายไปสงสัยว่าสิ่งที่ติดใจซาเวียร์อยู่จะไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว
แล้วดูท่าซาเวียร์จะรู้จริงเพราะเอเรียสที่เก็บดาบสีดำเข้าไปแล้วหยิบหอกสีทองออกมาแทน ที่ปลายด้านหนึ่งมีลักษณะเป็นเกลียวคู่สีดำสนิท ส่วนอีกด้านเป็นปลายแหลม 3 อันลักษณะคล้าย 3 ง่าม ด้วยความยาวเกือบ 2 เมตรทำให้ดูเกะกะไม่น้อย
แต่เมื่อองครักษ์หนุ่มเริ่มหยิบมากวัดแกว่งเล็กน้อยก็ทำให้รู้ว่ามันหาได้เกะกะอย่างที่คิดไว้ไม่ มันดูคล่องแคล่วและน่าเกรงขามทีเดียว
เอเรียสหายไปต่อหน้าคนทั้งหลายก่อนจะมาปรากฏตัวอีกทีตรงหน้าของนักฆ่าสาวพร้อมกับแทงหอกไปด้านหน้า
นักฆ่าสาวที่พึ่งจะเห็นก็ไม่ทันที่จะหลบ ทำได้แค่เบี่ยงตัวให้พ้นจากจุดสำคัญเท่านั้น ก่อนจะกระโดดหลบออกไปด้านหลัง โดยที่มือกุมไหล่ซ้ายที่โดนแทงไปเมื่อกี๊ ที่ตอนนี้แทบจะขยับไม่ได้แถมเลือดยังไหลออกมามากเสียจนคนดูชักเริ่มเป็นกังวล
เมดันล่าที่รู้สึกจะไม่ค่อยดีแล้ว ก็เปลี่ยนมาใช้คฑาแทนเริ่มด้วยการรักษาไหล่ซ้ายเสียก่อน แต่ดูว่าเอเรียสจะไม่ยอมง่ายๆ เพราะเขาพุ่งเข้ามาซ้ำทันที
เอเรียสที่เข้ามาพร้อมกับแทงหอกไปด้านหน้าทำให้นักฆ่าสาวที่รักษาเกือบเสร็จแล้วต้องหลบฉากไปด้านข้าง แต่เอเรียสก็ยังคงตามติดไปทำให้เธอต้องหลบไปทางขวาพร้อมกับอาศัยจังหวะที่เอเรียสดึงหอกกลับถีบเข้าไปที่ช่วงลำตัวแล้วใช้แรงส่งดันตัวออกมาพร้อมกับรักษาตัวเองต่อจนเสร็จ
“ มาเลย เดี๋ยวงานนี้ต้องเล่นแรงซะแล้ว ” สิ้นเสียงของสาวน้อยนักฆ่าอาณาเขตสีดำทั้งหมดก็สลายไปพร้อมกับคฑาสีเงินด้ามใหม่มาปรากฏในมือแทน
เอเรียสที่กำลังมองดูร่างบางที่กำลังยืนถือคฑาที่เรืองแสงสีทองจ้าออกมา ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวถึงกลางหลังบัดนี้โบกสะบัดพริ้วไหวคล้ายต้องลม ละอองสีทองรอบตัวทำเอาคนดูทั้งหลายหยุดหายใจไม่เว้นแม้แต่คนที่กำลังยืนอยู่บนลานประลองอีกคน
กว่าที่เอเรียสจะเรียกสติกลับมาได้ดวงตาสีทองก็ลืมขึ้นพร้อมกับลำแสงสีทองพุ่งจากหัวคฑาพร้อมเข้าปะทะกับร่างของเขาแล้ว โชคดีที่เรียกบาเรียออกมาป้องกันทันแต่ก็ไม่วายกระเด็นไปชนกับกำแพงด้านหลัง
เอเรียสที่ดูเหมือนนิ่งไปแล้วกลับมาขยับอีกครั้งก่อนจะเรียกคฑาสีเงินคล้ายกับของเมดันล่าออกมาพร้อมกับที่ละอองสีเงินโปรยลงมารอบตัวของเขา ผมสีฟ้าอ่อนที่ปรกใบหน้าเริ่มพลิ้วไหวอีกครั้ง
นักฆ่าสาวที่เห็นก็หลับตาลงบ้าง คฑาสีเงินที่เคยสมบูรณ์มีรอยร้าวเกิดขึ้น ไม่นานเกินรอดวงตาทั้ง 2 สีก็เปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกัน ทำให้เห็นก้อนพลังงานสีเงิน 2 ลูก สีหนึ่งเป็นสีเงินสว่างจ้าอยู่ในมือของเอเรียส อีกลูกเป็นสีออกเทาๆอยู่ในมือของเมดันล่าก่อนที่ทั้ง 2 ลูกจะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อมันกระทบกันก็เกิดเสียงเปรี๊ยะๆ ดังไปทั่ว
ตอนนี้สภาพของทั้ง 2 ดูเหนื่อยอ่อน เหงื่อจำนวนมากเกาะพราวอยู่ที่ใบหน้าและไรผม อาการหอบเริ่มมีให้เห็น
หลังจากชนกันอยู่เกือบ 10 นาทีทั้ง 2 ลูกก็ระเบิดขึ้นพร้อมกัน! ทำให้ทั้ง 2 กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
เกือบ 15 นาทีกว่าฝุ่นจะจางลง สภาพที่เห็นคือเอเรียสที่นอนอยู่หน้ากำแพง หัวแตก ปากแตกเนื้อตัวมอมแมม
ฝ่ายนักฆ่าสาวก็ไม่ต่างกัน นอนอยู่ในสภาพเดียวกันหัวแตกอยู่หน้ากำแพงอีกฝั่ง แขนซ้ายที่พึ่งรักษาก็แผลเปิด เนื้อตัวมอมแมมเหมือนกัน
หลายนาทีอยู่ที่ทั้ง 2 อยู่ในสภาพนั้นแต่ไม่นานทั้ง 2 ก็เริ่มขยับ ก่อนจะยืนดูท่าทีฝ่ายตรงข้าม
กลับมาทางปัจจุบัน
“ พวกเราว่าพอเถอะ ” เสียงจากอาเรียที่อยู่ด้านล่างพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
“ อีกนิดเดียว เดี๋ยวก็จบแล้ว ” เมดันล่าตอบไปโดยได้รับการยืนยันจากเอเรียสที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทำให้เพื่อนๆ ด้านล่างปวดหัว ‘ นี่พวกนี้มันจะไม่ยอมจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย ’
นักฆ่าสาวที่กำลังจะพุ่งเข้าไปจู่โจมต่ออยู่ดีๆ ก็ชะงักก่อนจะหายวับไปจากตรงนั้น สร้างความแปลกใจให้กับเอเรียสไม่น้อย ก่อนจะรับรู้ถึงความผิดปกติแต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะตอนนี้ร่างบางของนักฆ่าสาวไปปรากฏอยู่ตรงหน้าซาเวียร์ก่อนจะถูกมีดสั้น 3 ด้ามปักเข้าที่บริเวณช่องท้องท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเหล่าเพื่อนทั้งหลาย
เสียงเชียร์ที่เคยดังก้องสนามกลายเป็นเสียงกรีดร้องตกใจของนักเรียนหญิงมากมาย ทำให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายต้องลี้ภัยโดยด่วน
เอเรียสที่คว้าร่างบางก่อนที่จะล้มลงไปกระแทกพื้นไว้ได้ทันปล่อยให้รุ่นพี่ 4-5 คนตามคนร้ายไปพร้อมกับเหล่าเพื่อนที่เหลือ คนดูอื่นๆ ก็จากไปกันหมดแล้วทิ้งไว้แค่ร่างบางที่นอนสิ้นสติอยู่ในอ้อมแขนของเอเรียส
“ เมๆ เป็นไงบ้าง ทำใจดีๆ ไว้นะ เธอจะต้องไม่เป็นอะไร ” อาเรียที่เข้ามาดูเอ่ยเรียกอย่างเป็นห่วง
เอเรียสถอดแหวนทองที่มีมรกตเม็ดโตอยู่ออก ไอเวทจำนวนมหาศาลแผ่ออกมาปกคลุมร่างของเอเรียส มือซ้ายของเอเรียสที่กุมมือของเพื่อนสาวอยู่เรืองแสงสีเงินกระจ่างก่อนที่จะเข้าหุ้มร่างของนักฆ่าสาวที่นอนไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขน มืออีกข้างก็ค่อยๆ ดึงมีดออกทีละเล่มเรียกเลือดสีดำจำนวนมากให้ไหลออกมา
กาโอที่อยู่ด้านข้างคอยขับพิษในร่างกายออกมาพร้อมกับเลือดสีดำที่ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก และรับมีดสั้นจากเอเรียสที่กำลังจะไปดึงด้ามต่อไป ถึงกับงงกับพลังเวทที่ไหลออกมามากกว่าก่อนหน้าที่หลายเท่า แล้วคนที่ใช้พลังจนหมดตัวจะมีพลังขนาดนี้ได้ยังไง
15 นาทีที่ผ่านมายังไม่มีใครพูดอะไร เอเรียสดึงมีดออกจากร่างของนักฆ่าสาวออกหมดแล้วแต่พิษในร่างกายยังมีอยู่การขับออกจำเป็นต้องไปหายาแก้พิษมา ที่ทำได้ตอนนี้มีแค่สกัดพิษเอาไว้ไม่ให้ลุกลามไปใหญ่
เอเรียสอุ้มร่างไร้สติไปพักที่ห้องของตนโดยมีกาโอกับอาเรียตามไปด้วย ส่วนซาเวียร์เห็นบอกว่าจะไปจัดการบางอย่างแต่ไม่ได้บอกว่าอะไร
“ เกิดอะไรขึ้นหรอ ตอนนั้นน่ะ ” อาเรียถามขึ้นหลังจากที่เอเรียสจัดการร่างบางให้นอนอยู่บนเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมเธอถึงหายไปจากตรงนั้น แต่ไม่นานฉันก็จับความรู้สึกประหลาดได้ จะร่ายเกราะป้องกันให้พลังเวทก็ไม่เหลือแล้ว ” เอเรียสที่อธิบายให้กับอาเรียฟังดวงตาสีฟ้าอ่อนนั้นยังคงแฝงแววเศร้าสร้อยอยู่
“ ถ้าตอนนั้นฉันหยุดเล่นอะไรโง่ๆ เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น ”
“ เอาน่าตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือต้องไปหาทางรักษายัยนี่ก่อน ” กาโอที่ยืนอยู่ในห้องด้วยปลอบเอเรียสที่กำลังโทษตัวเองอยู่
แล้วการพูดคุยก็ถูกขัดจังหวะจากผู้มาใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับความเป็นห่วง
“ คุณเมเป็นยังไงบ้างครับ ” โชแปงที่เข้ามาเป็นคนสุดท้ายกล่าวถามเอเรียสที่ถอยไปยืนคู่กับกาโอ
“ ตอนนี้สกัดพิษเอาไว้แล้ว เหลือแต่ต้องไปหาวัตถุดิบปรุงยา ” เอเรียสตอบทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองคนอื่น
“ งั้นเขียนมาเลย เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกันหา ” ฟรอนเทียร์เอ่ยขึ้นมาบ้างพร้อมกับคนอื่นๆ ที่เห็นด้วย
“ เดี๋ยวฉันจะเขียนมาให้ ขอไปห้องสมุดก่อน กาโอไปช่วยฉันหน่อยแล้วกัน ” เอเรียสที่หันไปมองกาโอที่พยักหน้ารับก่อนเดินตามองครักษ์หนุ่มออกไปนอกห้อง
“ ทั้งหมด 6 ชิ้น เดี๋ยวแบ่งกันไปเอา ” เอเรียสที่กลับมาที่ห้องพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง
“ เพอริดอทจากถ้ำดรินเทอรี่ ไข่มุกจากใต้ทะเลสาบดานูป เลือดของกามัวล่า น้ำแร่จากยอดเขาคิรินปัส ดอกซาเรร่า แล้วก็เลือดบริสุทธ์ ” พอได้ยินสิ่งที่ต้องหาแต่ละคนหน้าซีดเหงื่อแตกกันเป็นแถว เพราะแต่ละอย่างหาง่ายทั้งนั้นนี่
“ ซานัส ฟรอนเทียร์พวกนาย 2 คนไปหาไข่มุกที่ดานูปแล้วกันโอเคมั้ย ” เอเรียสหันไปแบ่งหน้าที่ให้กับซานัสแล้วก็ฟรอนเทียร์ที่ได้รับการพยักหน้ากลับมาเป็นอันโอเค
“ พวกฉัน 2 คนไปหาเลือดกามัวล่ามาเอง ” เลโอที่หันไปกอดคอน้องชายฝาแฝดก่อนจะเสนอตัวเองซึ่งเอเรียสก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ ผมกับลิลลี่จะไปหาน้ำแร่จากคิรินปัสเองครับ ” โชแปงที่หันไปบอกกับเอเรียสก่อนจะหันไปมองลิลลี่ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าตอบรับอย่างไม่ปฏิเสธ
“ สไตร์ นายกับไอซิส พวกนายไปหาดอกซาเรร่าแล้วกัน ” เอเรียสที่หันไปบอกกับสไตร์บ้าง
“ อืม ” ไอซิสตอบกลับมาทันทีส่วนสไตร์ก็แค่พยักหน้าเฉยๆ
“ ซาเวียร์ อาเรีย ไปหาเพอริดอทที่ถ้ำดรินเทอรี่แล้วกันนะ เดี๋ยวฉันกับกาโอจะไปเอาเลือดบริสุทธ์เอง ” เอเรียสที่บอกกับซาเวียร์แล้วก็อาเรียซึ่งก็ได้คำตอบมาเป็นที่หน้าพอใจ
“ ส่วนเรื่องเวลาเรียนฉันจัดการบอกอาจารย์ใหญ่ไปแล้วซึ่งท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ” เอเรียสกล่าวให้ทราบโดยทั่วกันเอ่ยก่อนจะเอ่ยต่อทันที
“ แล้วเดี๋ยวใครจะเป็นคนปรุงยาล่ะ จะให้อาจารย์ลูเซียปรุงให้หรอ ” แฝดหนุ่มผู้น้องถามอย่างสงสัย
“ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวฉันจะเป็นคนปรุงเอง ” องครักษ์หนุ่มผมฟ้าตอบอย่างมั่นใจ
“ ที่สำคัญคือเรามีเวลาสำหรับหายาแค่ 3 วัน ถ้าเกินกว่านี้พิษจะเริ่มกระจายหลังจากนั้นก็...... ” เอเรียสเลือกที่จะละช่วงสุดท้ายเอาไว้ในฐานที่รู้กัน
บรรยากาศกลับเงียบเหงาและซึมเศร้าเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เหล่าเพื่อนพ้องทั้งหลายก็หวังไว้ไม่ให้มันเกิด
“ ผมว่าพวกเราเริ่มไปหากันเถอะเดี๋ยวจะไม่พอ 3 วันเอง เดี๋ยวก็หมดแล้วนะครับ ” โชแปงพูดขึ้นมาเตือนสติของทุกคนทำให้บรรยากาศในห้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม
สิ้นคำทุกคนก็แยกย้ายกันไปหาของตามที่แบ่งกันไว้ เพราะคงไม่มีใครอยากปล่อยเวลา 3 วันอันมีค่าให้หมดไปอย่าไร้ประโยชน์
“ กงล้อแห่งโชคชะตาเริ่มหมุนแล้วสินะ ” หญิงผู้อยู่ในห้องที่มีเพียงแค่เทียนไขเล่มเดียวที่ให้แสงสว่างเอ่ยขึ้น
“ นั่นสินะ ในเมื่อเขาคนนั้นตัดสินใจจะบอกให้รู้ไป 1 คนแล้ว ที่เหลือก็ต้องรอสิ่งนั้นให้ตามหาเจ้าของของมัน พร้อมกับที่คนในคำทำนายจะได้รับฟังสิ่งที่พวกเขาควรรู้จากคนที่ควรจะเริ่มพูดได้แล้ว ” เสียงเอ่ยยาวจากบุรุษที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับสตรีคนนั้นทำให้เธอสงสัยเล็กน้อย
“ ท่านคิดว่าอย่างนั้นหรือท่านเอเดรียน ” สตรีลึกลับคนนั้นเอ่ยถามขึ้น
“ แน่นอนสิคาราเลีย ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามคำทำนายของท่านผู้นั้นแล้ว มันจะเริ่มขึ้นพร้อมกับที่น้ำตาของเธอผู้นั้นหลั่งริน ” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ในมุมมืดเอ่ยตอบแทนบุรุษอีกคนที่นั่งอยู่
“ งั้นหรือ งั้นเชิญเถอะท่านฮอเรโซ่ สนใจชาสักแก้วไหม จากซโคต้าเชียวนะ ” สตรีคนเดียวในห้องเอ่ยชวนกับผู้ที่ยืนอยู่ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากเขาคนนั้น
“ แด่ช่วงเวลาที่เศร้าสร้อยที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า ” สตรีผู้รินชาให้กับทุกคนเอ่ยขณะที่ยกแก้วชาขึ้นมาในระดับสายตา
“ แกร็ง ” เสียงแก้วกระทบกันดังกังวาลไปทั่วห้องพร้อมกับที่เทียนไขที่มีอยู่เล่มเดียวดับไปทั้งที่ไม่มีลมสักนิด!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขณะนี้ตอนที่ 16 ของผมออกไป 100% แล้วนะคับ จะได้ไม่ทำให้readerทั้งหลายต้องรอนาน ขอบคุณทุกคอมเม้นที่ทำให้ผมทำได้ดีขึ้นนะคับ ขอบคุณนักอ่านที่เป็นกำลังใจ และขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ติดตามนิยายเนรื่องนี้ของผม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หนุกมากๆๆค่ะ
ลึกลับดีจังเลยยย!
เอเรียสสสสสส<3
แล้วก็มาอัพต่อไวๆนะคะ
จะคอยติดตามต่อเรื่อยๆค่ะ
แล้วมาอัพต่อไวๆนะคะ
แล้วยูมิก็คิดว่าจะอัพนิยายของยูมิเร็วๆนี้ด้วยค่ะ
ยังไงก็ต้องขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องแรกของเรานะคะ