ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Target [yaoi] -จบแล้ว-

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.93K
      103
      5 เม.ย. 59


    ตอนที่ 3

     

    เจมยืนดูดนมกล่องรสช็อกโกแลตหน้าห้องเรียน โดยมีนักศึกษาที่รอเรียนอีกสามสี่คนยืนกินขนมปังอยู่แถวนั้นเช่นกัน เนื่องจากมีป้ายติดตรงประตูว่าไม่อนุญาติให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปในห้องเรียน

    สักพักเต้ก็เดินมาสะกิด "เป็นไงวะมึง"

    "อะไรเป็นไง?" เจมเลิกคิ้ว

    "ก็เรื่องพี่นนท์ไง มึงเอาตัวรอดยังไงเมื่อคืน"

    ...ไอ้เหี้ยนี่ก็พูดเหมือนกูจะโดนพี่นนท์ข่มขืน

    "กูไปอยู่ห้องคอมจนเที่ยงคืน เข้าห้องปุ๊บก็หลับแม่ง"

    คำตอบของเจมทำเอาเต้พยักหน้าเข้าใจกลยุทธ์เป็นอย่างดี จากนั้นก็ลากเจมให้ห่างออกมาจากคนอื่น

    "มึง แฟนกูเล่าให้ฟังเมื่อคืน" เต้กระซิบ

    "เล่าอะไร แล้วไมมึงต้องทำลับๆ ล่อๆ เนี่ย"

    "ฟังกูก่อนดิ แฟนกูเล่าว่าไอ้พวกพี่ว้ากมันจะใช้วิธีรับน้องแบบว่า จะหาดรามาให้พวกเราเว้ย เช่นอาจจะยัดข้อหาให้ปีหนึ่งสักคน อ้างว่าทำผิดอะไรสักอย่าง แล้วบังคับให้พวกเราเลือกว่าจะเอาเพื่อนหรือเอารุ่น"

    แฟนของเต้อยู่ในวัยทำงาน แน่นอนว่าย่อมผ่านวัยนักศึกษามาแล้วจึงรู้เบื้องหลังของกิจกรรมรับน้องดี

    "แม่งเหี้ยว่ะ" เจมทำหน้าสยองกับแผนการรับน้องเยี่ยงละครน้ำเน่า

    "กูว่ามึงโดนละ พวกพี่ว้ากเล็งเอามึงมาก่อดราม่าให้รุ่นเราแน่ๆ"

    "เชี่ย ทำไมต้องเป็นกูวะ"

    "ใครทำอะไรให้มีประเด็นก็คงแม่งโดนหมด แล้วมึงเสือกถอดป้ายคาตารุ่นพี่อีก คิดว่าพี่เค้าไม่เห็นป้ายมึงในห้องเหรอ กูว่าเห็นแน่ๆ"

    "เออว่ะ"

    เจมคล้อยตาม ป้ายขนาดครึ่ง A4 วางหราบนโต๊ะซะขนาดนั้น ไม่เห็นก็ตาบอดแล้ว

    "เฮ้ยมึงๆ นั่นใช่พี่นนท์ปะวะ"

    เต้สะกิดแล้วบุ้ยหน้าให้ดูในทิศทางหนึ่ง เจมหันมองตามแล้วก็ต้องผงะ

    "ใช่ว่ะ มากับกลุ่มพี่ปีสี่ด้วย"

    "มีเรียนแถวนี้มั้ง" เต้คิดในแง่ดี

    เจมเบือนหน้าไปทางอื่น ทำทีดูดนมกล่องไปพลางเพราะไม่อยากให้กลุ่มรุ่นพี่เห็นว่ามองอยู่

    "เหี้ยแล้วไอ้เจม พวกรุ่นพี่เข้าไปห้องเรียนเราว่ะ" เสียงของเต้ทำเอาเจมสะบัดหน้าไปมองเพื่อน

    "จริงดิ!!"

    "เออ กูจำได้ว่าคาบแรกไม่มีพวกปีสี่คณะเราเรียนไม่ใช่เหรอวะ"

    "กูก็จำได้ว่าไม่มี"

    "ปกติคาบแรกไม่ค่อยมีใครเข้าเรียนด้วยนะ สงสัยแม่งนัดกันไม่เรียนเพราะหลอกให้พวกเราตายใจว่าไม่เจอปีแก่แหง" เต้เอ่ย

    เจมกลืนน้ำลาย

    ...แปลว่าเมื่อกี้พี่นนท์ไม่ได้เดินตามเรา แต่จะเดินมาเรียนที่นี่อยู่แล้วเหรอ

    งั้นแสดงว่ากูคงไม่โดนเพ่งเล็งหรอกมั้ง

    เจมนึกปลอบตนเอง จากนั้นก็นำกล่องนมไปทิ้งถังขยะแล้วชวนเต้เข้าห้อง

    วิชานี้เป็นวิชาที่มีคนเรียนร่วมร้อย ประกอบด้วยนักศึกษาหลายคณะ หลายชั้นปีเรียนรวมกันในห้องสโลป แต่เก้าอี้แยกนั่งคนละตัว

    "มึงอะกินช้า ที่นั่งจะเต็มหมดแล้ว"

    เต้หันมาบ่นหลังจากที่กวาดตามองแล้วพบว่าเก้าอี้ถูกจับจองไปเกือบหมดแล้ว ยกเว้นเก้าอี้บริเวณใกล้กับรุ่นพี่ปีสี่คณะเศรษฐศาสตร์

    ไม่แปลกที่เด็กปีหนึ่งเกือบทุกคนเลือกนั่งห่างๆ จากกลุ่มรุ่นพี่พวกนั้น ส่วนชั้นปีอื่นของคณะอื่นก็นั่งแยกเป็นกลุ่มๆ

    "อย่าบอกนะว่าต้องนั่งใกล้พวกรุ่นพี่" เจมพูดเสียงเบา

    "ช่วยไม่ได้มึง" เต้บอกแล้วเดินแทรกเข้าไปด้านใน เลือกนั่งเก้าอี้ตัวที่สองที่ถัดจากกลุ่มปีสี่คณะเศษรฐศาสตร์

    เหลือเพียงเก้าอี้หนึ่งตัวที่เป็นตัวคั่นระหว่างพี่ปีสี่กับเต้ นั่นแปลว่าเจมต้องนั่งตัวนั้น และที่บรรลัยกว่าเดิมคือพี่ปีสี่ที่อยู่ถัดไปคือพี่นนท์

    ...ไอ้เชี่ยเต้ เอาตัวรอดเลยนะมึง

    เจมอดด่าเพื่อนในใจไม่ได้ เพราะปล่อยให้เขานั่งเป็นไม้กันหมาให้มัน

    ระหว่างที่นั่งรออาจารย์ พี่นนท์ก็ไม่ได้ทักอะไรเขา เจมจึงคิดไปว่าพี่นนท์กำลังรักษามาดรุ่นพี่ที่จะไม่ทำตัวสนิทกับรุ่นน้องล่ะมั้ง

    ถึงแม้ตอนนี้กลุ่มรุ่นพี่ก็หันหน้าไปคุยกันโดยไม่สนใจพวกรุ่นน้อง เจมก็อดจะนั่งทำตัวเกร็งไม่ได้ กลัวว่าถ้าขยับตัวแม้แต่นิดเดียวจะโดนเอาไปเป็นประเด็นว้าก

    ไม่นานมีผู้ชายคนหนึ่งเดินหอบเอกสารเข้ามาวางบนโต๊ะด้านหน้ากระดานไวท์บอร์ด

    "วิชานี้อาจารย์มนุษย์ป้าสอนไม่ใช่เหรอวะ แล้วนั่นใคร" เต้หันมาถามเสียงเบา

    เต้เอ่ยถึงอาจารย์ผู้หญิงที่เข้ามาสอนในคาบแรกว่าเป็นมนุษย์ป้า เพราะสรุปจากการแต่งกายและความเจ้าระเบียบ

    "ไม่รู้ เป็นผู้ช่วยอาจารย์มาเตรียมโต๊ะให้อาจารย์หรือเปล่า" เจมคาดเดา

    "แต่แม่งหล่อว่ะ" เต้มองแล้วทำหน้าเหมือนเจอคู่แข่ง

    "เออหล่อ มึงดูพวกผู้หญิงดิ จ้องตาเยิ้มเลย"

    เจมชวนให้เพื่อนหันไปมองนักศึกษาเพศหญิงไม่ว่าชั้นปีไหน ซึ่งทุกคนล้วนแต่มองคนที่อยู่หน้าห้องตาไม่กระพริบ

    "สวัสดีครับนักศึกษา" ชายผู้นั้นเริ่มจับไมค์พูด "ผมเป็นอาจารย์ที่จะมาสอนแทนอ.สายสุนีย์ในภาคเรียนนี้ เนื่องจากอ.สายสุนีย์ติดภารกิจอื่นอย่างเร่งด่วน"

    เกิดเสียงฮือฮาขึ้นเล็กๆ จับใจความได้ว่าพากันโล่งใจที่ไม่ต้องเรียนกับอาจารย์มนุษย์ป้าจอมเนี๊ยบ

    "แนะนำตัวก่อนเลยนะครับ ผมชื่อธีทัต เรียกเป็นกันเองว่าอาจารย์เทมส์ก็ได้นะครับ"

    "อาจารย์เทมส์ กรี๊ดดด" นักศึกษาหญิงทั้งหลายพูดทวนชื่อพร้อมกับกรี๊ดกร๊าดออกนอกหน้า

    "เงื่อนไขกระบวนวิชาจะมีการปรับเกณฑ์คะแนนเก็บเล็กน้อย เดี๋ยวผมจะแจก outline ให้ทุกคนรับทราบนะครับ แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาดูกันว่าทั้งภาคเรียนผมจะเก็บคะแนนตรงไหนบ้าง"

    outline ที่ธีทัตกล่าว ย่อมาจาก course outline หมายถึงรายละเอียดกระบวนวิชาตั้งแต่ชื่ออาจารย์ ชั่วโมงเรียน จุดประสงค์รายวิชา เนื้อหาการสอน รวมไปถึงขั้นตอนการเก็บคะแนน

    ธีทัตพูดจบก็วางไมค์แล้วนำปึกกระดาษส่งให้คนที่นั่งแถวหน้า แล้วฝากแจกจ่ายต่อไปยังคนด้านหลัง ธีทัตกลับมายืนที่โต๊ะอีกครั้ง

    "ระหว่างที่รอรับ outline ผมขอเช็คชื่อก่อนนะครับ อ้อ...ขอบอกไว้ก่อนว่ามาเรียนวิชาของผม หากเข้าห้องช้าเกินสิบห้านาทีถือว่าขาดเรียน ถ้าขาดเกินสองคาบจะหมดสิทธิ์สอบทันที นอกจากจะเป็นการป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ยืนยัน"

    อาจารย์เทมส์ประกาศเสียงเฉียบขาด ทำเอาทั้งห้องเงียบกริบ

    จากคนที่คิดว่าหลุดพ้นจากอาจารย์มนุษย์ป้ามาได้ กลับโอดครวญกว่าเดิมว่าอาจารย์หน้าหล่อคนนี้โหดกว่าเห็นๆ

    เสียงประกาศชื่อเริ่มดังขึ้น ส่วนใหญ่ก็ได้ยินตอบว่ามาครับ มาค่ะ กันไม่ขาดสาย

    "จิรานนท์"

    พอถึงชื่อของพี่นนท์ เจมสังเกตเห็นว่าอาจารย์เทมส์ชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเงยมองเจ้าของชื่อ แล้วหรี่ตาลง

    "ครับ"

    ส่วนพี่นนท์ก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อสบตากับอาจารย์หนุ่ม ราวกับว่าศัตรูเก่าได้โคจรมาพบกันโดยไม่คาดคิด

    เพียงเสี้ยววินาทีถัดมาอาจารย์ก็เรียกชื่อคนต่อไป

    เจมเหล่มองพี่นนท์ที่นั่งติดกันด้านขวามือ เห็นสันกรามบนใบหน้าของพี่เขานูนขึ้นตามจังหวะขบฟัน คิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่น บรรยากาศมาคุสุดๆ

    ...สองคนนี้มีเรื่องกันมาก่อนแหง

    เคยแย่งแฟนกันหรือเปล่าวะ

    นี่ไม่ได้เสือกนะ แค่อยากรู้เฉยๆ ถถถถถ

     


    พอจบคาบเรียน เจมกับเต้ก็เดินออกจากห้องพร้อมกับคนอื่น

    "คาบต่อไปเรียนไหนวะ" เต้ถาม

    "แป๊บนะ" เจมค้นกระเป๋าจะหยิบถุงดินสออกมา เพราะเก็บกระดาษระบุตารางเรียนไว้ในนั้น

    "ทำไมนานวะ" เต้ทำเสียงจึ๊กจั๊ก

    "มึงก็หัดพกตารางสอนมั่งดิวะ ...เฮ้ยมึง กูว่ากูลืมถุงดินสอไว้ในห้องแน่เลย เดี๋ยวไปดูแป๊บนะ มึงรอกูตรงนี้นะเว้ย"

    "เออๆ"

    เจมมักวางถุงใส่ปากกาดินสอไว้ตรงพื้นใกล้ขาโต๊ะ เพราะไม่อยากให้เกะกะพื้นที่วางสมุด

    เมื่อเขาเดินเข้าห้องก็เห็นว่าอาจารย์กับรุ่นพี่ยืนประจัญหน้ากันอยู่ใกล้ประตูพอดี ในห้องไม่มีคนอื่นอีก

    เจมเลยทำไม่รู้ไม่เห็นแล้วตรงดิ่งไปยังเก้าอี้ที่ตนเคยนั่ง ได้ยินเสียงของอาจารย์เทมส์ดังแว่วเข้ามา

    "ถ้ามีปัญหาหรือทนไม่ได้ก็ถอนรายวิชาไปซะเมื่อยังมีโอกาส"

    "ผมว่าปัญหาอยู่ที่อาจารย์มากกว่ามั้งครับ ยังไงผมก็จะเรียนวิชานี้ต่อ หวังว่าอาจารย์คงไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานนะครับ"

    "ระวังคำพูดของคุณด้วย จิรานนท์"

    เจมหยิบถุงใส่อุปกรณ์เครื่องเขียนเสร็จพอดี ในจังหวะที่กำลังจะเดินไปทางประตู ก็เห็นอาจารย์ส่งสายตาคมปราบใส่พี่นนท์ก่อนจะผลุนผลันออกไป

    ฝ่ายรุ่นพี่ก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เจมเลยถือโอกาสสาวเท้าออกจากห้องให้เร็วที่สุด

    ...นั่นปะไร เคยมีเรื่องกันแน่ๆ แล้วใช่ไหม

    แล้วกูไปเสือกอะไรเขาเนี่ย

    เจมสะบัดศีรษะแล้วรีบเดินกลับไปหาเต้ที่คงยืนรอแกร่วนานแล้ว

     


    หลังมื้อเที่ยงเจมปลีกตัวมาที่ร้านกาแฟของศตคุณใต้อาคารเรียนรวม เพื่อสมัครเป็นพนักงานพาร์ทไทม์

    เจมแนะนำตัวกับเจ้าของร้านสักพักก็มานั่งคุยกันที่โต๊ะเล็กๆ สำหรับนั่งเล่นในร้าน

    "พี่ขอดูตารางเรียนของเจมหน่อย"

    "นี่ครับ"

    พอรับตารางเรียนไป ศตคุณก็เปิดแฟ้มที่นำติดมือมาด้วย พอพลิกกระดาษที่สอดด้านในไปๆ มาๆ ปึกประดาษก็ไหลหล่นจากขอบตก

    "เดี๋ยวผมช่วยเก็บครับ"

    เจมก้มลงรวบรวมกระดาษบนพื้นเพื่อสร้างภาพความมีน้ำใจอันดีต่อว่าที่นายจ้าง

    แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นรูปถ่ายใบหนึ่งที่สอดแทรกอยู่ในแผ่นกระดาษปึกหนึ่ง

    มีชายสี่คนอยู่ในรูป เหมือนอยู่ในงานเลี้ยงฉลอง สีหน้าทุกคนยิ้มแย้มสนุกสนาน เห็นชัดว่าสามในสี่คือจิรานนท์ ศตคุณ และอาจารย์ธีทัต

    ส่วนผู้ชายอีกคนเป็นใคร เขาเองก็ไม่รู้จัก

    "พี่ณัทรู้จักอาจารย์เทมส์ด้วยเหรอครับ"

    เจมนำกระดาษที่หล่นพื้นมาวางบนโต๊ะ พร้อมกับยื่นรูปถ่ายคืนให้

    ...อย่าหาว่าเสือกเลยนะ แต่แม่ง โครตสงสัยว่ะ

    "รู้จักเทมส์ด้วยเหรอ" ศตคุณรับรูปถ่ายไปถือ

    ...รู้จักกันจริงๆ ด้วย

    "ผมเรียนวิชาของอาจารย์เทมส์น่ะครับ"

    "อ๋อ... พี่เป็นเพื่อนกับเทมส์น่ะ" ณัทเอ่ยแล้วยิ้มเศร้า นำรูปถ่ายสอดเก็บไว้ในแฟ้มเหมือนเดิม

    เจมไม่ได้ถามอะไรต่อ แม้จะอยากรู้อะไรมากกว่านี้ก็ตาม

    ณัทพิจารณาตารางเรียนของเทมส์ครู่หนึ่งก่อนเอ่ย

    "ถ้าพี่ให้เจมมาทำงานช่วงบ่ายของสองวันนี้" เขาชี้ไปตรงช่องของวันที่ไม่มีคาบเรียน "กับหลังเลิกเรียนวันนี้ เลิกงานหนึ่งทุ่ม เจมมีอะไรขัดข้องไหม"

    "ไม่น่ามีปัญหานะครับ"

    "งั้นตกลงทำจันทร์ถึงศุกร์ อาทิตย์ละแปดชั่วโมงนะ" ศตคุณกล่าวสรุป

    "ครับ ได้ครับ"

    "เดี๋ยวพี่ร่างใบสัญญาจ้างงานเลยละกัน ไม่รีบใช่ไหม"

    เจมยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา "ไม่ครับ เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงก่อนเข้าเรียน"

    ศตคุณพยักหน้าแล้วเร่ิมเขียนรายละเอียดการว่าจ้าง ไม่นานก็เอาให้คณาธิปอ่านทวนก่อนจะลงลายเซ็นชื่อ

    "เจมเริ่มงานได้เมื่อไร วันนี้เลยไหม"

    "เอ่อ วันนี้คงไม่ได้ครับ เพราะรุ่นพี่นัดทำกิจกรรมรับน้องตอนเย็น"

    "งั้นเป็นวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน"

    "ครับ โอเคครับ"

    เจมเก็บใบสำเนาการจ้างงานใส่กระเป๋าขณะเดินออกจากร้าน รู้สึกดีใจที่มาสมัครทันก่อนที่คนอื่นจะแย่งเวลาทำงานไป เนื่องจากพี่นัทไม่ได้จ้างเขาแค่คนเดียว แต่ยังจ้างนักศึกษาคนอื่นให้มาช่วยทำงานในช่วงเวลาที่ไม่ทับซ้อนกับเวลาทำงานของเขา ดังนั้นร้านนี้ก็จะมีนักศึกษามาทำงานสลับหน้ากันไปในแต่ละชั่วโมง

     


    "สรุปประเด็นอีกรอบนะครับ เรื่องล่าลายเซ็นเลื่อนระยะเวลาถึงจันทร์หน้า ใครยังได้ลายเซ็นรุ่นพี่ไม่เยอะก็รีบๆ เข้านะ อีกเรื่องคืองานเฟรชชี่ไนท์จะมีเดือนหน้า แต่ละสาขาให้เตรียมตัวคิดการแสดงด้วย กำหนดส่งรายละเอียดการแสดงอาทิตย์หน้านะครับ ส่งได้ที่สโมฯคณะ ใครอยากให้ใครเป็นดาวเดือนคณะก็เล็งๆ ไว้นะ จะมีประกวดคืนนั้นเหมือนกัน ...เอาล่ะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านได้"

    เมื่อสิ้นเสียงเฮดสันทนาการปีสอง น้องปีหนึ่งคณะเศรษฐศาสตร์ก็ลุกขึ้นยืน พากันเดินออกจากลานหน้าอาคารเรียนของคณะเพื่อกลับหอพักในกำกับฯ

    "น้องเต้ๆ" พี่ปีสองผู้หญิงเรียก เป็นหนึ่งในกลุ่มรุ่นพี่สันทนาการ

    เต้ซึ่งกำลังเดินคุยกับเจมก็หยุดแล้วหันไปมอง

    "มีไรครับ"

    "น้องเต้เตรียมการแสดงบนเวทีด้วยนะ พี่จะให้น้องประกวดเดือนคณะ"

    "ห๊ะ!" เต้ทำตาโต พลางหันมาทางเจมราวกับจะถามว่า 'ได้ยินอย่างที่กูได้ยินมั้ย'

    เจมพยักเพยิดเป็นเชิงว่า 'กูก็ได้ยินอย่างที่มึงได้ยินนั่นแหละ'

    "จริงดิพี่" เต้หัวเราะ

    "ลองดูก่อนๆ เต้นี่ตัวป๊อบของรุ่นเลยนะ"

    เต้ได้ยินอย่างนั้นก็เสยผม

    "แหม ผมก็ไม่ได้หล่อขนาดนั้น"

    ...จ้าาาาาา พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง

    แหม ทำเป็นถ่อมตัว สาดดดด

    เจมมองเพื่อมอย่างเอือมๆ

    "นะเต้นะ ประกวดหน่อยๆ"

    "ถ้าพี่พูดถึงขนาดนี้ ผมจะปฏิเสธได้ไงละค้าบ" เต้ทำทีจัดคอปกเสื้อเชิ้ต

    เจมกลอกตามองบน

    "โอเคๆ อย่าลืมคิดการแสดงโชว์บนเวทีน้า" พี่ผู้หญิงโบกมือแล้วเดินกลับไปยังกลุ่มของสันทนาการ

    "มึงเอาจริงดิ" เจมถาม

    "มึงคิดว่ากูมีดีอะไรให้โชว์นอกจากเล่นบาส"

    เต้เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลประจำโรงเรียนสมัยมัธยม

    "มึงจะไปเล่นบาสโชว์?"

    "ไอ้บ้า มึงก็ช่วยคิดถึงความเป็นจริงนิดหนึ่ง"

    "แล้วมึงจะเอาไรไปโชว์"

    "เต้นท่าบ้าๆ บอๆ ประกอบมิวสิคก็ได้มั้ย กูก็ไม่ได้อยากเป็นเดือนคณะขนาดนั้น" เต้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดแชทหาแฟน

    "ไม่ได้อยากเป็นแล้วมึงเข้าประกวดทำไมวะ"

    "ก็พี่เค้ามาชวน กูก็ต้องรับปากไว้ดิวะ"

    "ถ้าเสือกได้ขึ้นมาล่ะ"

    "ก็เป็นเดือนคณะไง ถามได้" เต้ยักไหล่

    ...แหม แล้วบอกไม่อยากเป็น ไอ้ห่านจิก

    "เฮ้ยไอ้เจม เดี๋ยวแฟนกูจะมารับที่คณะว่ะ มึงกลับเองได้ใช่ไหม"

    "ทำอย่างกับมึงไม่เคยทิ้งกูนะ แหม่" เจมเท้าสะเอว

    "มึงก็ต้องเข้าใจว่ากูกำลังข้าวใหม่ปลามัน" เต้เอามือมาตบบ่าเจมปุๆ

    "ค้าบ คุณเพื่อน เอาที่มึงสบายใจ"

    "แล้วนี่มึงโอเคที่จะต้องกลับไปอยู่หอกับพี่นนท์แล้ว?"

    "โอเคห่าอะไรล่ะ คืนแรกใช้มุกไปอยู่ห้องคอมไปแล้ว คืนนี้กูจะใช้มุกอะไรดีวะ"

    "หาอะไรทำดิ อ่านหนังสือเล่นเนตอะไรก็ได้ที่แบบ..ให้มึงดูยุ่งๆ"

    "กูก็คิดอยู่"

    "ซักผ้าไหมมึง ซักมือแม่งเลย ช้าดี"

    "เออๆ ความคิดดีๆ"

     


    เจมทานข้าวเย็นให้เสร็จก่อนขึ้นไปบนหอพัก พอจะเปิดประตูห้องก็เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอพี่นนท์ แต่เมื่อเข้าห้องไม่เห็นพี่นนท์ก็รู้สึกโล่งใจ จากนั้นก็หิ้วตะกร้าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วเข้าไปในห้องน้ำรวม

    ปกติที่ใต้หอจะมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญให้บริการ กระนั้นที่ห้องน้ำก็มีโซนสำหรับซักผ้าด้วย

    ผ่านไปพักหนึ่งเจมก็บิดผ้าทุกชิ้นจนเสร็จ นำตะกร้าผ้าหิ้วกลับเข้าห้องเพื่อนำไปตากตรงระเบียงหลังห้อง

    ปรากฏว่าเห็นพี่นนท์กำลังยืนตากผ้าอยู่พอดี

    ...เชี่ยยยย ไอเดียของไอ้เต้แม่งเล่นกูแล้วไง

    ที่พี่นนท์ไม่อยู่ในห้องคือไปซักผ้า?

    แล้วซักที่ไหนวะ ไม่เห็นในห้องน้ำเลยนี่หว่า

    โอ๊ยแม่ง กะจะหลบหน้า เป็นไงล่ะมึง เจอกันจะๆ เลี่ยงไม่ได้ด้วย สาดดดด

    เจมอยากจะตีอกชกหัว ถ้าไม่ติดว่ากำลังหิ้วตะกร้าอยู่ก็คงทำไปแล้ว

    "อ้าวเจม จะตากผ้าเหรอ" นนท์เงยหน้าแล้วเห็นเจมยืนอยู่

    "ครับ..."

    "มาสิ มีที่ว่างเหลือเยอะเลย"

    นนท์ใช้ไม้แขวนกับทั้งเสื้อและกางเกง จึงไม่กินพื้นที่ราวตากมากนัก

    เจมเดินตัวลีบไปยืนตากผ้าข้างๆ พี่นนท์

    "ซักมือมาเหรอ" นนท์ทัก

    เขาคงเห็นความเปียกชื้นจากการบิดที่เป็นลักษณะใช้มือ ไม่ใช่มาจากเครื่องซักผ้า

    "ครับ"

    เจมเหลือบมองเสื้อผ้าของพี่นนท์แล้วเดาว่าเมื่อกี้พี่นนท์คงไปซักที่เครื่องหยอดเหรียญ

    "วันหลังไปซักที่เครื่องหยอดเหรียญข้างล่างสิ ใกล้ๆ ห้องน้ำน่ะ"

    นนท์คิดว่าเจมไม่รู้ว่ามีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญด้วย จึงบอกข้อมูลออกไป

    "อ่อครับ"

    ...กูรู้แล้วครับ แต่กูอยากซักนานๆ เพราะไม่อยากอยู่ในห้องกับพี่นี่แหละ ฮือออ

    เจมอยากจะร้องไห้เป็นภาษาอารบิก

    และด้วยความที่ไม่อยากตากผ้าใกล้กับพี่นนท์นานๆ จึงรีบหยิบเสื้อผ้าออกมาตากแบบลวกๆ ส่งผลให้มีชิ้นหนึ่งหลุดตกจากราว

    เจมยังไม่ทันก้มเก็บ นนท์ซึ่งตากผ้าเสร็จพอดีจึงเอื้อมหยิบขึ้นมาตากให้ใหม่

    และที่ epic เหนือสิ่งอื่นใดก็คือชิ้นที่ตกคือกางเกงในขอบยางยืดย้วยของเจม

    ...โอ๊ยไอ้เหี้ยยยย อายกว่านี้มีอีกมั้ยยยยย

    เจมอยากจะเอาหัวโขกกับราวตากผ้าให้รู้แล้วรู้รอด

    ...ที่กูจะอายเพราะพี่นนท์ก็เก็บกกน.ให้ด้วยหน้านิ่งๆ อมยิ้มหน่อยๆ นี่แหละ!

    "...ขอบคุณครับ"

    เจมบอกเสร็จก็ก้มหน้างุด ตั้งหน้าตั้งตาตากผ้าต่อแม้อยากจะมุดพื้นปูนหนีก็ตามที

    อิมแพคจากเหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้เจมไม่กล้ามองหน้ารุ่นพี่อีกเลย ต้องรีบหาอะไรมาทำให้ดูยุ่งๆ เข้าไว้

    เจมเลือกหยิบโจทย์เลขวิชาคำนวนมาทำ เพราะเวลาคิดคำตอบเจมจะลืมทุกอย่างและจดจ่อกับโจทย์เลขเท่านั้น

    ผ่านไปพักหนึ่ง มีโจทย์ที่เจมยังข้องใจและต้องการรู้คำตอบเป็นอย่างมาก จึงแชทถามเต้ ทว่าการพิมพ์ถามมันช้าเกินไป ไม่ได้ดั่งใจเจม เจมเลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนรักเลยดีกว่า

    "แน่ใจเหรอว่าวิธีนี้จะได้คำตอบที่ถูก" เจมฟังเต้อธิบายแล้วยังคงกังขา

    "ไม่รู้ว่ะ กูก็คิดได้เท่านี้แหละ" เต้บอก

    "เออๆ งั้นแค่นี้นะ" เจมกดวาง หยิบดินสอมาถือ กะว่าจะทบทวนโจทย์อีกรอบ

    "มีอะไรให้ช่วยไหม" นนท์ถาม เดินเข้ามาใกล้โต๊ะเจมเมื่อไรก็ไม่ทราบได้

    "เอ่อ..."

    เจมเงยมองรุ่นพี่ซึ่งยืนประชินตนโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะบอกปัดยังไง

    "ข้อนี้เหรอ" นนท์เอื้อมชี้นิ้วไปบนกระดาษ

    "ครับ..."

    เจมตอบออกไปอย่างลืมตัว กะไว้ว่าจะปฏิเสธ เนื่องจากเขายังไม่ลืมเหตุการณ์ทำกกน.ตก จึงไม่ต้องการจะมีปฏิสัมพันธ์กับพี่นนท์ช่วงนี้เพราะความอายยังคงค้างอยู่

    "อืม...ข้อนี้..."

    นนท์ย้ายไปยืนหลังเก้าอี้ของเจม โน้มตัวกางแขนคล่อมเจมไว้จากด้านหลัง นำหน้ายื่นเข้าไปจนคางแทบจะติดกับขมับข้างซ้ายของเจมเพื่อดูโจทย์เลขนั้นใกล้ๆ

    ...เดี๋ยวๆๆ จำเป็นต้องใกล้ขนาดนี้มั้ย ถาม!!

    เจมเกร็งตัวขึ้นทันใด

    "ต้องเริ่มแก้จากตรงนี้..." นนท์เริ่มอธิบาย

    และไม่พูดเปล่า เขานำมือข้างขวาทาบทับมือขวาของเจมที่กำดินสอคาไว้ เพื่อเขียนเลขลงบนกระดาษผ่านมือของเจม

    การกระทำของนนท์ทำเอาเจมหูหื้อตาลาย ฟังอะไรไม่รู้เรื่อง รู้อย่างเดียวคือกลิ่นสบู่พี่นนท์หอมมาก ตอนที่เขาเริ่มทำโจทย์จนไม่สนใจรอบข้าง พี่นนท์คงไปอาบน้ำมาแล้วแน่ๆ ลมหายใจก็หอมสดชื่อด้วยกลิ่นยาสีฟันรสมิ้นท์อีกด้วย

    "พอเข้าใจบ้างหรือยัง"

    นนท์ถามเมื่อโชว์การแก้สมการให้เสร็จ หน้ายังแนบอยู่ใกล้ขมับเจม

    "...ครับ" เจมตอบไปงั้น ทั้งที่ไม่มีอะไรเข้าหูเลยสักอย่าง

    "งั้นมีอะไรก็ถามพี่อีกได้นะ"

    เมื่อนนท์ผละออกห่าง ไอความร้อนจากกายของเขาก็จางหายไปด้วย แผ่นหลังชองเจมกลับมาโปร่งโล่งจนใจหาย มือขวาว่างเปล่า ไม่มีการเกาะกุมจากมืออบอุ่นอีก

    สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือจังหวะการเต้นของหัวใจของเจมที่ถี่ขึ้นอย่างชัดเจน



    ______________________________________________

    รู้สึกว่าเจมกับพี่นนท์อยู่ด้วยกันแล้วบันเทิงมาก 555+



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×