ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Target [yaoi] -จบแล้ว-

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.57K
      59
      30 เม.ย. 59


    ตอนที่ 13

     

    เจมตักผัดกะเพราะเข้าปากพลางดูหน้าจอมือถือพลาง

    เขาต้องการเผือกทุกเรื่องเกี่ยวกับพี่โจ จึงเข้าไปสอดส่องในเฟสบุ๊คของพี่โจประหนึ่งเป็นสต๊อล์คเกอร์

    นนท์ซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามเห็นเจมเอาแต่จ้องมือถือจึงหลุบตามองว่ามีอะไรน่าสนใจนักหนา

    แต่แล้วเขาก็นิ่ง เมื่อภาพหน้าจอเป็นเฟสบุ๊คของคนรู้จักที่เรียนคณะวิศวะ

    จิรานนท์กำช้อนส้อมแน่น รู้สึกว่าข้าวผัดในจานไม่อร่อยอีกต่อไป สิ่งรอบกายดูขัดหูขัดตา สรรพเสียงน่าหนวกหูไปหมด

    เขายกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม ก่อนพยายามถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้เป็นปกติ

    "เจมสนใจโจอยู่เหรอ"

    "ห๊ะ!" เจมสะดุ้งกับคำถามของรุ่นพี่จนรีบเงยหน้าขึ้นมอง

    "ก็เห็นเอาแต่ดูเฟสบุ๊คของไอ้โจมัน"

    เจมอ้าปากหวอ

    ...เหยดดดด เพิ่งเคยได้ยินพี่นนท์เรียกคนอื่นว่า 'ไอ้' เป็นครั้งแรก

    เจมกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึงของพี่นนท์

    "เอ่อ..."

    ...เอาไงดีวะ

    ถ้าตอบว่าไม่ก็จะดูแถๆ เพราะมือถือโชว์หราอยู่ทนโท่ว่าส่องเฟสพี่เขาอยู่

    แต่ไงกูจะไม่บอกความจริงว่ากำลังตามหาตัวคู่อาฆาตวัยเด็กเด็ดขาด

    ลองตอบกลางๆ ละกัน

    "ผมว่า พี่โจเขาก็เท่ดีนะพี่ มีแต่คนรุมกรี๊ด ใครๆ ก็อยากรู้จัก"

    เจมพูดจบก็อยากจะถีบปากตัวเอง

    ...เชี่ยแล้วไง นี่กูกำลังชมคนหล่อต่อหน้าคนหล่อที่มีแฟนคลับพอๆ กันอยู่นี่หว่า

    พี่นนท์คิดว่ากูไม่เห็นความสำคัญแน่เลยแม่ง

    ต้องรีบพูดแก้ละ

    "เอ่อ ผมหมายถึง--"

    "พี่ติดต่อให้ไหม" นนท์พูดแทรกขึ้น

    "หะ...หา?"

    "ถ้าเจมอยากเจอ อยากพูดคุยกับโจ พี่ติดต่อให้ก็ได้" นนท์หลุบมองจานข้าว ไม่ยอมสบตากับรุ่นน้อง

    ฝ่ายเจมก็รู้สึกโหวงอกแปลกๆ

    ...แค่คำถามของพี่นนท์ไม่กี่คำ ทำไมกูต้องรู้สึกผิดด้วยเนี่ย

    เจมเขี่ยข้าวคลุกผัดกะเพราไปมา คิ้วขมวดเป็นปมเข้าหากันเรื่อยๆ

    ...แต่นี่เป็นทางลัดที่จะได้ทำความรู้จักกับพี่โจ แล้วถามกับเจ้าตัวให้รู้เรื่องไปเลยว่าตอนเด็กเคยอยู่เชียงใหม่หรือเปล่า

    กูควรจะคว้าโอกาสนี้ไว้สิ

    "งั้น...พี่ช่วยติดต่อพี่โจให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากคุยด้วย"

    เจมพูดออกไปโดยไม่รู้เลยว่าประโยคนั้นมันทิ่มแทงใจของจิรานนท์เพียงใด

    "ได้สิ"

    ...อะไรที่เจมต้องการ พี่ทำให้ได้ทั้งนั้น

    "พี่ขึ้นไปบนห้องก่อนนะ"

    นนท์หยิบจานกับแก้วน้ำแล้วลุกออกจากโต๊ะ

    เจมมองตามหลังร่างสูงด้วยอารมณ์หลากหลาย

    จากนั้นก็ยกมือปิดหน้า แล้วตบแก้มทั้งสองข้างของตัวเองเบาๆ

    ...สติ ไอ้เจม สติ

    ตั้งสติก่อน เคลียร์ทีละเรื่อง

    รอให้เรื่องพี่โจพ้นไปก่อนแล้วค่อยมาคิดเรื่องพี่นนท์

    เจมเตือนตัวเอง

    เหตุที่ให้ความสำคัญของพี่โจก่อนเพราะนี่เป็นโอกาสที่จะได้ปลดแอกความรู้สึกคับแค้นใจในวัยเด็ก ส่วนพี่นนท์นั้นยังไงก็ได้เจอกันทุกวันอยู่แล้ว จะสะสางเมื่อไรก็ได้

     




    ในคาบเรียนวิชาสายสังคมซึ่งเป็นห้องสโลปใหญ่ที่ใช้โต๊ะยาวร่วมกันในหนึ่งแถว มีเสียงจอแจพูดคุยของนักศึกษาที่นั่งเกือบเต็มพื้นที่ร่วมร้อยคนขณะรออาจารย์เข้าห้องก็

    เจมนั่งเหม่อจนเต้ใช้ศอกสะกิด

    "ไอ้เจม ง่วงนอนเหรอ"

    "เปล่า" เจมตอบแบบไร้ชีวิตชีวา

    "แล้วเป็นไรวะ"

    "เปล่า"

    "เปล่าเหี้ยไร ก็เห็นอยู่ว่าอย่างกับผีตายซาก มีปัญหาไรอีกล่ะ เงินก็มีใช้แล้วไม่ใช่?"

    "อย่าถามมากได้ไหม" เจมเบือนหน้าไปอีกทาง

    "เอ้าไอ้นี่"

    เสียงข้อความมือถือของเจมดังขึ้น

    เต้จึงไม่ได้เซ้าซี้ต่อ

    เจมหยิบมือถือดู พบว่านนท์ส่งข้อความมาทางเฟสบุ๊ค

    เจมค่อนข้างแปลกใจ เพราะเมื่อวานหลังจากกลับขึ้นห้อง พี่นนท์ก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีก ส่วนเขาก็ไม่กล้าคุยอะไรกับพี่นนท์ ถึงขั้นต้องไปหลบนั่งพิมพ์งานในห้องคอมหอด้วยซ้ำ แม้ตอนเช้าก็ยังไม่ได้ทักกันสักคำ

     

    Jiranon Kittanapokin

    วันนี้ตอนทุ่มครึ่งว่างไหม

    พี่นัดโจให้แล้ว

     

    เจมอ่านข้อความ แต่ยังไม่รู้ว่าจะพิมพ์ตอบว่าไงดี

    นึกอยู่นานสุดท้ายก็ยอมพิมพ์ตอบไป

     

    Kanatip Chaikasem

    ว่างครับ

    นัดที่ไหนเหรอครับ

     

    Jiranon Kittanapokin

    หอสมุด ชั้นสอง

    ที่โต๊ะแถวๆโซนหนังสือต่างประเทศ

     

    Kanatip Chaikasem

    โอเคครับ

     

    เจมกำลังจะพิมพ์ขอบคุณ

    แต่เห็นพี่นนท์กำลังพิมพ์อะไรมา จึงยั้งไว้ก่อน

     

    Jiranon Kittanapokin

    พี่บอกโจว่าจะนัดอ่านหนังสือด้วยกัน

    แต่พี่จะไม่ไป

    ถ้าเจมไปเจอโจ ก็แนะนำหน่อยว่าเป็นเมทพี่

    จะได้สนิทง่ายขึ้น

     

    เจมอ่านข้อความของพี่นนท์แล้วรู็สึกฉุนขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    ...ไม่ต้องผลักไสกูให้คนอื่นขนาดนั้นก็ได้ไหม

    ไม่คุยด้วยแม่งละ

     

    Kanatip Chaikasem

    ขอบคุณที่ช่วยนะครับ

    ผมเรียนก่อนนะ อาจารย์เข้าแล้ว

     

    เจมโกหกไป จะได้จบบทสนทนาเสียที

    ดูเหมือนพี่นนท์ก็ไม่ได้พิมพ์อะไรกลับมา แค่อ่านแล้วก็เงียบไปเช่นกัน

    เจมคว่ำหน้ามือถือวางบนโต๊ะพร้อมกับพ่นลมออกจมูกแรงๆ

    ดีที่เต้มัวแต่จิ้มเล่นเกมในมือถือ ไม่งั้นคงหาว่าเขาอยู่ในช่วงเมนส์มา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเหม่อเดี๋ยวหงุดหงิด

    ด้านหลังของเจมถัดไปอีกหนึ่งแถวข้างบน หยงนั่งเยื้องหลังเจมอยู่ และเขาก็ได้เห็นข้อความที่เจมพิมพ์โต้ตอบกับพี่นนท์ทุกข้อความ

    หยงยกมือขึ้นดุนแว่นด้วยประกายตาหมายมาด

    พอหมดคาบเรียน เจมกับเต้กำลังยืนรอจะเดินออกจากแถวที่นั่ง หยงที่อยู่ด้านหลังก็เอ่ยขึ้น

    "เจม เต้ เนื้อหารายงานเสร็จหรือยัง"

    "อ้อเสร็จแล้ว แป๊บนะ" เจมพูดพลางล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้

    "เดี๋ยวส่งเมลให้ละกัน" เต้โบกมือ

    หยงพยักหน้า

    "อะนี่" เจมยื่นแฮนดี้ไดรฟ์ให้กับเพื่อนแว่น

    "อยู่ในนี้เหรอ" หยงรับไปไว้ในมือ

    "อื้อ ไฟล์เวิร์ดที่อยู่นอกโฟลเดอร์เลยอะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกได้นะ เราไม่ได้เซฟเก็บไว้ที่อื่นอะ พิมพ์สดจากที่เขียนในกระดาษเลย"

    ขณะพูดเจมก็หงุดหงิดกับตัวเอง

    เมื่อวานเอาแต่ฟุ้งซ่านคิดโน่นนี่จนลืมเซฟเก็บไว้ในเครื่องคอมที่หอ ลืมแม้แต่จะส่งเข้าอีเมลตัวเอง ฉะนั้นถ้าไฟล์ในแฮนดี้ไดรฟ์เกิดมีอะไรผิดพลาดต้องพิมพ์ใหม่สถานเดียว

    "ได้ เดี๋ยวถ้าเซฟลงโน๊ตบุ๊คเสร็จเราจะเอามาคืนให้นะ" หยงบอก

    "อืม คืนเมื่อไรก็ได้" เจมพูดก่อนจะเดินออกจากแถวที่นั่งไปกับเต้

    หยงหลุบมองแฮนดี้ไดรฟ์ในมือครู่หนึ่งแล้วนำเก็บเข้ากระเป๋า

     




    เจมบีบมือเข้าหากันแน่น

    ด้านหน้าไกลออกไปจากชั้นหนังสือที่ยืนหลบอยู่ พี่โจนั่งอยู่คนเดียว แม้โต๊ะรอบข้างจะมีคนนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานอยู่ประปราย แต่ออร่าความหล่อของรุ่นพี่วิศวะปีสี่ก็เปล่งประกายจนเจมมั่นใจว่านั่นใช่พี่โจแน่ๆ

    เจมยังละล้าละลังว่าจะเดินเข้าไปทักพี่โจยังไงดี

    คิดคำทักอยู่สองสามประโยคแต่ยังไม่มีความกล้าพอ

    เจมสูดลดหายใจเข้าลึก

    ใจเย็นไอ้เจม แค่เนียนเข้าไปทักแล้วขอนั่งด้วย

    จากนั้นก็เร่ิมชวนคุย แล้วค่อยเลียบเคียงถามว่าเคยอยู่เชียงใหม่ไหม ถ้าเคย เคยวิ่งเล่นกับเด็กแถวนั้นไหม แค่นี้เอง ง่ายๆ

    เจมพยักหน้ากับตัวเอง

    ขาข้างหนึ่งกำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่โทรศัพท์ก็สั่นเสียก่อน เป็นสัญญาณว่ามีใครกำลังโทรหา

    เจมยกมือถือขึ้นมาดูหน้าจอ พบว่าเป็นชื่อหยง

    "ว่าไงหยง" เจมพยายามไม่ให้เสียงดังนักเพราะจะรบกวนคนอื่น

    "เจม เราเปิดไฟล์ไม่ได้อะ"

    "หา!" เจมรีบตะครุบปากเพราะรู้สึกว่าอุทานเสียงดังไปจนคนที่มายืนค้นหนังสือบนชั้นเขม่น

    "เปิดไฟล์ในแฮนดี้ไดรฟ์ไม่ได้เลย"

    "จริงดิ"

    "เจมช่วยส่งไฟล์มาใหม่ได้ไหม ตอนนี้เลย คือเราจะเอารายงานไปเย็บเล่มแล้วอะ"

    เจมยกมือเกาหัว "คือเรามีแต่ไฟล์ในแฮนดี้ไดรฟ์อะ ถ้าจะเอาตอนนี้เดี๋ยวเราไปพิมพ์แล้วส่งเมลให้ละกัน รอได้ป่ะ"

    "อืมๆ จะรอนะ"

    "เคๆ เดี๋ยวถ้าส่งเมลแล้วจะไลน์บอกละกัน ไม่น่าจะเกินชั่วโมง"

    "ได้ๆ แค่นี้ก่อนนะ เราจัดหน้ารายงานก่อน"

    "อ่าๆ"

    พอเจมวางสายก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะกดหาเบอร์ของพี่นนท์

    พออีกฝ่ายรับสายจึงรีบแจ้ง

    "พี่นนท์ครับ ผมคงไปเจอพี่โจไม่ได้แล้วล่ะ"

    "ทำไมล่ะ?"

    นนท์พูดสาย เขาไม่ได้อยู่ที่หอ

    แต่ลอบมองดูเจมจากมุมหนึ่งในหอสมุด

    และตอนนี้ก็ยังมองเจมไม่ให้คลาดสายตา

    "คือมีงานด่วนเข้ามา ผมต้องรีบทำอะครับ"

    "โอเค รีบทำงานเถอะ เรื่องโจพี่จะรับหน้าให้เอง"

    "ครับๆ ขอบคุณนะครับพี่"

    เจมวางสายเพราะต้องรีบไปดูห้องคอมว่ามีที่วางไหน พลางยกนาฬิกาข้อมือดูไปด้วย

    พอเห็นว่าเป็นเวลาทุ่มกว่าๆ ก็พอโล่งใจ เพราะห้องคอมปิดสองทุ่มสี่สิบห้า

    จิรานนท์ส่งเมสเสจหาโจว่าไปนั่งอ่านหนังสือด้วยไม่ได้แล้ว จากนั้นก็เดินตามหลังเจมไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว

    ฝ่ายโจก็นำข้อความขึ้นมาดู พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นหลังไวๆ ของเพื่อนสมัยมัธยม

    โจหรี่ตา เกิดความสงสัยว่านนท์มาพบกับตนไม่ได้เพราะเร่งรีบไปทำอะไร ในเมื่อมาถึงหอสมุดแล้ว?

    หนุ่มวิศวะตัดสินใจพับเก็บหนังสือแล้วลุกตามไปดู

     




    เจมหยิบกระดาษที่เขียนเรียบเรียงเนื้อหาไว้นำออกมาวางข้างๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์

    เขารู้สึกโชคดีที่ห้องคอมมีโต๊ะว่างจนสามารถเลือกที่นั่งได้ตามสบาย จึงมานั่งมุมที่ห่างไกลจากประตูเข้าออก เพื่อให้ห่างไกลจากเสียงรบกวน

    เจมเร่ิมพิมพ์ไปได้ไม่กี่บรรทัดก็มีมือใครมาวางบนบ่า

    "พี่นนท์?"

    เจ้าของชื่อนั่งลงเก้าอี้ของโต๊ะคอมฯ ด้านขวาที่ว่างอยู่

    เจมอยากจะถามว่ามาได้ยังไง แต่อีกฝ่ายชิงพูดเสียก่อน

    "มีอะไรให้ช่วยไหม"

    "เอ่อ ไม่เป็นไรครับ"

    นนท์เหมือนไม่ได้สนใจฟังคำตอบ เขาหยิบกระดาษสองสามแผ่นที่ซ้อนด้านล่างออกมาดู

    "จะพิมพ์พวกนี้ลงเวิร์ดใช่ไหม มา...เดี๋ยวพี่ช่วย" พูดจบนนท์ก็กดเปิดโปรแกรมเวิร์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที

    "ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ" เจมแย่งกระดาษ แต่อีกฝ่ายไม่ปล่อยให้ง่ายๆ

    "แบ่งกันพิมพ์จะเสร็จเร็วกว่านะ ขืนชักช้าเดี๋ยวห้องคอมก็ปิดหรอก"

    "งั้นคนละสามแผ่นก็แล้วกันครับ"

    เจมจนปัญญาจะปฏิเสธ

    ...เอาที่พี่สบายใจเลยครับ

    อยากช่วยก็ช่วยไป ขี้เกียจห้ามละ ยิ่งรีบๆ อยู่

    ฝ่ายนนท์ พอเห็นเจมยอมให้ช่วยก็ขยับยิ้มมีความสุขโดยไม่คิดปิดบัง

    ไกลออกไปจากจุดที่สองคนนั้นนั่งพิมพ์งานกันอยู่ โจยืนกอดอกหรี่ตามองการกระทำของเพื่อนสมัยมัธยม และพยายามมองว่าคนที่นั่งข้างๆ จิรานนท์มีหน้าตายังไง

    ไม่นานก็เดินออกจากห้องคอมพิวเตอร์ด้วยแววตามีเลศนัย

     


    __________________________________________________________

    สรุปว่าเจมไม่ได้เจอพี่โจ แต่พี่โจดันเจอเจมก่อน จะยังไงล่ะทีนี้...




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×