คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
Target
ตอนที่ 1
ในมือของคณาธิปมีสมุดขนาด A5 เล่มหนึ่ง
มันคือสมุดสะสมลายเซ็นรุ่นพี่ บรรดาเฟรชชี่ปีหนึ่งมีกันทุกคนเพราะได้รับภารกิจจากรุ่นพี่ปีสองให้ไปตามล่าลายเซนต์รุ่นพี่ปีแก่ให้ได้มากที่สุดในเวลาสามวัน หากครบสามวันแล้วใครที่รวบรวมลายเซ็นได้น้อยที่สุดยี่สิบคนก็จะถูกลงโทษ เจมเดาว่าคงไม่พ้นเต้นโชว์หรือกินอะไรพิเรนทร์ๆ ตามวัฒนธรรมอันดี (แล้วเหรอวะ) ของกิจกรรมรับน้อง
"เฮ้ยไอ้เจม มึงได้ลายเซนต์รุ่นพี่กี่คนแล้ววะ"
จารุกิตติ์ เพื่อนสนิทคนเดียวของคณาธิปเดินเข้ามาถาม เขาเป็นเพื่อนของเจมตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม และดวงสมพงษ์ต่อเนื่องด้วยการสอบติดคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน
วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันที่สาม คณาธิปกับจารุกิตติ์อยู่ในชุดนักศึกษา มีป้ายห้อยคอระบุชื่อเล่นและรหัสนักศึกษาสามตัวท้ายพร้อมสรรพ สีของป้ายก็บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นน้องใหม่ของคณะเศรษฐศาสตร์
"ได้เยอะกว่ามึงไม่เท่าไรหรอกไอ้เต้"
"รุ่นพี่ปีสองแม่ง...หาอะไรให้กูทำเนี่ย"
เต้สะบัดสมุดพึบพับไปมา
"เดี๋ยวมึงจะไปล่าลายเซ็นรุ่นพี่กะกูไหม"
เจมถามเพราะหมดคาบเรียนสุดท้ายในช่วงบ่ายแล้ว
"ไม่ว่ะ กูมีนัด"
เจมได้ยินแล้วกรอกตามองบน เขาคาดเดาแล้วว่าต้องได้รับคำตอบแบบนี้ เนื่องจากเต้กำลังอยู่ในช่วงอินเลิฟ พอหลังเลิกเรียนเมื่อไรก็หายต๋อมไปอยู่กับแฟนร่ำไป แถมยังปกปิดตัวตนแฟนซะอย่างกับกำลังคบเจมส์บอนด์ก็ไม่ปาน
เจมรู้แค่ว่าเต้มีแฟนเป็นผู้ชาย และมันก็เป็นฝ่ายยกทัพไปตีเมืองจันทร์แฟน ไม่เคยปล่อยให้แฟนมีโอกาสยกทัพมารุกรานมันได้สักครั้ง
"ถ้ามึงติดหนึ่งในยี่สิบท๊อปโหล่แล้วโดนพี่ปีสองสั่งให้ทำอะไรแปลกๆ ต่อหน้าเพื่อนร่วมรุ่น กูไม่รู้กะมึงด้วยนะ"
"ไม่กลัวเว้ย เพื่อนเห็นแค่ร้อยกว่าคนเอง" เต้ยักไหล่
"กูเชื่อมึงครับ ไอ้หน้าคอนกรีต"
เต้เป็นคนประเภท 'มั่นหน้า' จนตั้งฉายาให้ตัวเองว่าเป็นแฝดของณเดช...ดาราชายยอดนิยมในขณะนี้ ซึ่งก็เป็นความจริงหลายส่วน ทั้งใบหน้าหล่อเหลา ตัวสูง กล้ามแน่น ตามประสานักกีฬาบาสเกตบอลประจำโรงเรียน
เจมยังนึกเสียดาย เพราะแทนที่ไอ้เต้มันจะมาสายหล่อ กลับมาสายฮาป่วงซะนี่
เสียงเพลงจากโทรศัพท์ของเต้ดังขึ้น
"ครับที่รัก ได้ครับเดี๋ยวหล่อไปหา"
เจมเบะปากให้กับน้ำเสียงฟรุ้งฟร้ิงมุ้งมิ้งของอีกฝ่าย
ทีกับเพื่อนกะฝูงเรียกมึงเรียกกูเหมือนอยู่ในรังโจร ทีกะแฟนนี่ออดอ้อนฉอเลาะ อยากจะถีบเข้าให้
"ไอ้เจมกูไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้"
"เออ"
พอเต้เดินหายไปแล้ว เวลานี้เจมอยู่ที่ตึกอาคารเรียนรวม เขาต้องเดินไปคณะเศรษฐศาสตร์เพื่อล่าลายเซ็นรุ่นพี่ เพราะส่วนใหญ่รุ่นพี่มักจะกระจุกตัวอยู่ที่คณะ
โชคดีที่ตึกคณะกับอาคารเรียนรวมไม่ไกลกันมาก ใช้เวลาเดินประมาณสิบนาทีก็ถึง จึงทำให้เจมไม่อยู่ในอาการหอบแดกท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามบ่ายของเมืองหลวงประเทศไทย
ระหว่างทางก็มีเพื่อนร่วมรุ่นที่เดินตามๆ กันมาเพื่อทำภารกิจเดียวกันหลายสิบคน
เมื่อถึงคณะแล้วอย่าคิดว่าเฟรชชี่ทุกคนจะรีบเข้าชาร์ตรุ่นพี่อย่างกับดงซอมบี้ แต่ละคนต่างก็กล้าๆ กลัวๆ ที่จะเข้าไปขอลายเซ็น เพราะเงื่อนไขการจะได้ลายเซ็นรุ่นพี่แต่ละคนคือต้องทำตามคำสั่งรุ่นพี่หนึ่งอย่างก่อนจะได้ลายเซ็นไป จึงยังไม่มีผู้กล้าคนไหนเดินเข้าไปหากลุ่มรุ่นพี่เสียที
อีกทั้งจากประสบการณ์สองวันที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า ขอก่อนได้เปรียบนั้นไม่มีจริง ไม่ว่าใครจะขอลายเซ็นก่อนหรือหลังก็โดนแกล้งกันทุกคน ยิ่งมาเป็นกลุ่มยิ่งโดนแกล้งเยอะกว่าฉายเดี่ยว
เหตุนี้เจมจึงยืนอยู่ห่างๆ รอดูทิศทางลมตามสโลแกนประจำตัวที่ว่า 'รวมกันตายหมู่ แยกอยู่กูรอด'
และแล้วก็มีกลุ่มนศ.ปีหนึ่งชายเป็นทัพหน้าเข้าไปหารุ่นพี่ ไม่นานก็ได้ยินเสียงรุ่นพี่สั่งให้พวกนั้นวิดพื้นคนละห้าสิบทีเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
นั่นยิ่งทำให้เจมและเฟรชชี่อีกหลายคนวงแตกฮือ ไม่มีใครกล้าเข้าไปขอลายเซ็นของรุ่นพี่กลุ่มนั้นอีก แต่แยกย้ายกันไปหารุ่นพี่ในบริเวณอื่นแทน
เจมเดินมองหารุ่นพี่ด้วยตัวคนเดียวเพราะเขายังไม่สนิทกับเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น ส่วนไอ้คนที่สนิทมากๆ ก็ดันไม่อยู่เสียนี่
ในที่สุดก็เห็นว่าบริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนข้างอาคารมีกลุ่มรุ่นพี่สามคน เมื่อคำนวนดูแล้วหากรุ่นพี่ให้ทำอะไรประหลาดๆ ที่จะเสี่ยงต่อการอับอายไปชั่วลูกหลาน ก็จะเป็นการอับอายต่อหน้ารุ่นพี่เพียงสามคนเท่านั้น
ขณะที่เจมยังรีๆ รอๆ อยู่นั้น รุ่นพี่สองคนก็ลุกจากโต๊ะแล้วพากันเดินไปไหนสักแห่ง เหลือเพียงรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งหันด้านหลังให้เจมพอดี เจมแทบอยากจะก้มกราบสวรรค์
...เยส! โอกาสเหมาะแล้วกู! มีคนเดียวเวลาสั่งให้ทำอะไรก็จะได้เห็นแค่คนเดียว
คิดเสร็จเจมก็ปราดเข้าไปหารุ่นพี่ด้วยความเร็วแสง
ก่อนจะรีบเบรคหัวทิ่มเมื่อรุ่นพี่หันมา ทำให้ได้เห็นใบหน้ารุ่นพี่ผู้นี้คมชัดระดับ HD
เชี่ย! นี่มันรุ่นพี่คนนั้น!!
ภาพแฟรชแบ็กกลับไปเมื่อสองวันก่อนเปิดภาคการศึกษา
ในช่วงบ่ายซึ่งแสงตะวันกำลังแผดเผาได้ที่ กลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งยืนนิ่งอยู่ในสนาม โดยตั้งแถวเป็นระเบียบ เว้นช่องไฟห่างเท่าๆ กันทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ถูกล้อมรอบด้วยรุ่นพี่ปีแก่ที่กำลังส่งเสียงตะโกนอันดัง หรือเรียกง่ายๆ ว่า...ว้าก
เจมยืนอยู่แถวริมสุด เหงื่อไหลออกทั่วทั้งตัวประหนึ่งน้ำตกไนแองการ่า แต่ก็ต้องทำหน้านิ่ง โดนตะคอกข้างหูก็นิ่ง โดนแกล้งชนไหล่ก็นิ่ง เหม็นกลิ่นปากรุ่นพี่ก็ต้องนิ่ง...
"คุณ! เมื่อกี้ชนเพื่อนผมเหรอ!"
...พ่อมึงดิสัส เพื่อนมึงอะจงใจชนกู กูยืนนิ่งยิ่งกว่ารูปปั้นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอีกตอนนี้
"ผมถามคุณอยู่นะ ทำไมไม่ตอบ!"
...ตอบหรือไม่ตอบกูโดนด่าปะวะ ไอ้อ้วน ไอ้ปากเน่า ไอ้ท่อส้วมแตกในปากเอ้ย!
รุ่นพี่ร่างท้วมยังคงยืนอยู่หน้าเจม "เอ้าตอบสิคุณ"
"ไม่ได้ชนครับ"
"ทำเสียงไม่พอใจ? คุณไม่พอใจอะไรผม!"
...ไอ้เหี้ย กูพูดด้วยเสียงคีย์ต่ำยิ่งกว่าพระสวด มึงฟังยังไงของมึงหา!
"ผมจะจำคุณไว้" พูดจบรุ่นพี่ร่างท้วมก็หาเรื่องเฟรชชี่คนอื่นต่อ
...โถ่ นึกว่าจะแน่
เจมอดไม่ได้จึงเบะปากใส่ทีหนึ่ง จังหวะที่กำลังเบะปากก็เหลือบไปเห็นรุ่นพี่หน้าหล่อคนหนึ่งมองมาพอดี
...เชี่ยละ เห็นเบะปากใส่รุ่นพี่คาตาแบบนี้กูโดนแน่ๆ
รุ่นพี่หน้าหล่อเดินเข้ามาหาเจม แล้วหยิบป้ายชื่อที่ห้อยคอมาพลิกดูไปมา
ด้านหน้าป้ายชื่อเขียนชื่อเล่นและรหัสนักศึกษาสามตัวท้าย ส่วนด้านหลังป้ายเขียนรายละเอียดอื่นๆ อย่างชื่อ-นามสกุลจริง กรุ๊ปเลือด ที่อยู่ เบอร์โทร ของที่ชอบ ฯลฯ
พอเผลอสบตากับรุ่นพี่อีกหน ก็เห็นรุ่นพี่ส่งยิ้มแบบมีลับลมคมในให้
เจมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เหงื่อแตกซิกกว่าเดิม จินตนาการไปต่างๆ นานาว่าตัวเองโดนทำโทษอะไรบ้าง
และแล้วรุ่นพี่ก็ทำในสิ่งที่เจมคาดไม่ถึง นั่นคือ...เดินห่างออกไป
...อ่าว ไม่ลงโทษกูเหรอวะ แล้วเมื่อกี้ยิ้มอ่อนมองแรงเหมือนมีเลศนัยคืออะไร?
เจมได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ
หลังจากวันนั้นกิจกรรมรับน้องยังคงมีต่อเนื่องแล้วแต่รุ่นพี่จะนัดแนะ เจมก็คิดว่าจะไม่โดนลงโทษอะไรจากรุ่นพี่หน้าหล่อแล้วล่ะมั้ง
มารู้ภายหลังว่ารุ่นพี่คนนี้ชื่อ นนท์ อยู่ปีสี่ แถมยังเป็นอดีตเดือนคณะ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงหล่อปานนั้น เทียบกับไอ้เต้ที่หล่อแบบแบดบอยแล้ว พี่นนท์คงหล่อแบบเทพบุตร
จนกระทั่งเปิดเทอมวันแรก เจมเดินสวนกับพี่นนท์ พี่เขามองเจมด้วยสายตาประหลาดๆ ในความคิดของเจม
ครั้งแรกยังไม่เท่าไร พอบังเอิญเจอครั้งที่สองก็โดนมองอีก เจมจึงรู้สึกว่าโดนหมายหัวแล้วแน่ๆ ทำให้ตั้งแต่นั้นเขาก็คิดมาก เดาว่าที่พี่นนท์ยังไม่ทำอะไรก็คงเพราะรอวันทำโทษแบบชุดใหญ่ชัวร์
แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งเวลานี้ซึ่งเจมได้จ๊ะเอ๋กับพี่นนท์ที่โต๊ะมาหินข้างอาคารเรียน
...เอาไงดีวะ ถอยดีกว่ามั้ยกู
ขณะที่เจมจะก้าวเท้าหนี รุ่นพี่อดีตเดือนคณะก็เอ่ยขึ้น
"มีอะไรหรือเปล่า 'น้องเจม' "
...เชี่ยยย ป้ายชื่อกูห้อยหราขนาดนี้ยิ่งย้ำว่ากูเป็นคนเดียวกับวันนั้นอีก ทำไมซวยงี้วะ
"ผ...ผมมาขอลายเซ็นรุ่นพี่ครับ" เจมทำใจดีสู้เสือ ยื่นสมุดพร้อมปากกาไปตรงหน้าพี่นนท์
"รู้เงื่อนไขใช่ไหมว่าถ้ามาขอลายเซ็นต้องทำตามคำสั่งหนึ่งอย่าง"
...รู้สิวะครับ กูโดนมาแล้วทั้งปั่นจิ้งหรีด วิดพื้น สก๊อตจั๊มป์ ตีลังกา หกสูง ขาดแค่โดดร่มกูก็จะกลายเป็นทหารราบแล้ว!
นนท์กระตุกยิ้มมุมปาก จ้องหน้าเจมครู่หนึ่งก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเป้
เจมกระพริบตามองอย่างไม่ไว้ใจ
...ล้วงเอาอะไรวะ อย่าบอกนะว่าเอาไฟแช็คมาลนขนกู
ไม่นะไม่!! กูยังไม่อยากขนด้วน ใครก็ได้ช่วยกูที!!!
พอพี่นนท์กำบางสิ่งยื่นออกมาต่อหน้า เจมรีบเบือนหน้าไปอีกทางพร้อมกับหลับตาปี๋
"เป็นอะไร?"
พี่นนท์ถามขณะเห็นอาการประหลาดของรุ่นน้อง
"ละ...แล้วพี่ล้วงอะไรออกมาอะ ผมไม่ชอบเล่นไฟนะ"
"ไฟ? ไฟอะไร ไม่เห็นเข้าใจ"
"ก็ในมือพี่ไง"
"แบ้งค์ร้อยเนี่ยนะ?"
...หะ แบ้งค์ร้อยเหรอ
เจมลืมตาแล้วหันขวับไปมอง
"แบ้งค์ร้อยจริงๆ ด้วย..."
...หน้าแหกเลยกู อุตส่าห์เล่นใหญ่
"ตลกน่ะเรา" พี่นนท์หัวเราะขัน ยิ่งทำให้ออร่าความหล่อเปล่งประกายอีก 189.6%
"แล้วพี่ยื่นแบ้งค์ร้อยให้ผมทำไม"
"จะใช้ให้ไปซื้อของเพื่อแลกกับลายเซ็นไง"
"ซื้อของ???"
...กูฟังผิดหรือเปล่าวะ รุ่นพี่คนอื่นมีแต่จะแกล้งเอาสะใจ แต่ไอ้พี่นนท์แม่งมาแปลก มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าวะ
"ไปซื้อคาปูชิโนกับโกโก้ปั่นที่ร้านกาแฟใต้ตึกคณะให้หน่อย อย่างละแก้วนะ"
"จะให้ไปซื้อจริงๆ เหรอฮะ" เจมรับแบ้งค์ร้อยมา แถมยังเผลอพูดด้วยแบบเป็นกันเองอีก
"อืม รีบไปซื้อสิ ถ้ากลับมาจะเซ็นให้"
เจมยกมือเกาหัว หมุนตัวเดินไปทางร้านกาแฟเหมือนยังงงๆ
ผ่านไปครู่หนึ่งเจมก็กลับมาพร้อมกับถือแก้วกาแฟและโกโก้ปั่นอย่างละข้าง ส่วนรุ่นพี่ก็ยังนั่งโต๊ะม้าหินอ่อนคนเดียวเหมือนเดิม
เจมยังคงระแวงเรื่องที่โดนพี่นนท์หมายหัว คิดไปว่าอาจเป็นแผนแกล้งให้ตายใจแล้วค่อยจัดหนักวันว้ากใหญ่ก็เป็นได้ ฉะนั้นจึงไม่อยากพูดคุยกะพี่หน้าหล่อคนนี้นานนัก กะว่าถ้าได้ลายเซ็นแล้วจะรีบชิ่งออกมาทันที
"นี่ครับ"
เจมยื่นแก้วเครื่องดื่มกับเงินทอนให้รุ่นพี่
พี่นนท์รับเฉพาะแก้วกาแฟกับตังค์ทอน ทำเอาเจมต้องยื่นแก้วโกโก้ให้อีกรอบเผื่อรุ่นพี่ลืมว่าสั่งซื้อสองอย่าง
"โกโก้ด้วยครับพี่"
"เอาไปเหอะ"
"หา?"
"พี่ซื้อให้"
"หา!? พี่ซื้อโกโก้ให้ผม?"
"อือ เป็นการตอบแทนที่เดินไปซื้อกาแฟให้ไง"
...ใช่เหตุผลนี้เหรอวะ ไม่ใช่ว่าใส่ยาถ่ายไว้ในแก้วนะ
แต่กูเป็นคนไปซื้อนี่หว่า ชักจะเพ้อเจ้อใหญ่ละกู
"แล้วก็นี่ เซ็นให้แล้ว"
นนท์ยื่นสมุดพร้อมปากกาคืนให้
"ขอบคุณครับ" พูดจบก็รีบปลีกตัวออกมา
เจมเดินดูดโกโก้ปั่นโดยพยายามไม่คิดสงสัยอะไรมาก อะไรที่เป็นของฟรีเขาเอาหมด แถมยักนึกดีใจที่พี่นนท์ไม่สั่งชาเขียวปั่น ไม่งั้นเขาคงเอาเททิ้งสถานเดียว เพราะเกลียดที่สุดคือชาเชียวนี่แหละ!
แต่พอมานึกดูอีกที ด้านหลังป้ายชื่อของเขาเขียนไว้ว่าชอบกินโกโก้ปั่นที่สุดนี่หว่า...
_____________________________________________
สวัสดีค่าาา
ในที่สุดก็โพสนิยายวายเรื่องแรกให้ได้อ่านกันสักที ><
เลือกวันดี๊ดี April Fools' Day ซะด้วย ฮาาาาาา
สำหรับนักอ่านใหม่ๆ นะคะ ต้องขอบอกว่าผู้แต่งเขียนนิยายมานานแล้ว แต่ที่เคยเขียนล้วนเป็นแนวแฟนตาซี
ฉะนั้นนิยายเรื่องนี้นอกจากจะเป็นนิยายวายเรื่องแรกแล้ว ยังเป็นนิยายที่ไม่แฟนตาซีเรื่องแรกอีกด้วยค่า
ก็ขอฝากเนื้อฝากตัว ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ
หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยล่วงหน้าด้วยค่ะ m(_ _)m
________________________________________________
เรื่อง Target มีให้โหลดเวอร์ชั่น Ebook ด้วยนะคะ ^^
และขอฝากนิยายวายเรื่อง รุกแรกพบ ด้วยค่าาา ^___^
ความคิดเห็น