Love Ticket ตั๋วรักปักหัวใจ
รื่องราวความรักหวาน ๆ ปนอลเวง ระหว่างการินสาวนักเขียนโนเนมจอมเด๋อกับเอลลีนศิลปินสาวสวยสุดฮ็อท ที่โคจรมาพบกันเพราะ "บัตรคอนเสิร์ต"
ผู้เข้าชมรวม
135
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องราวของเรามันเริ่มจากตั๋วบัตรคอนเสิร์ต...
วันแรกของการเปิดจองบัตรคอนเสิร์ตของแฮยอน ทำเอาห้างสตาร์มอลล์แทบแตก ก็แหงล่ะสิ เธอเป็นถึงศิลปินฮอตระดับเอเชีย ไม่สิ ! ระดับโลกเชียวล่ะ บรรดาแฟนคลับแห่มาตั้งแคมป์กันหน้าห้างตั้งแต่หกโมงเย็นของเมื่อวานก่อน ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น ก็แหมนี่คือแฮยอนน่ะคุณจ๋า โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนักหรอกนะ ที่ระดับนางฟ้าแห่งวงการเคป๊อบจะมาเยือนถึงบ้าน หากพลาดคอน ฯ นี้ไปแล้วล่ะก็ ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้ฟังพลังเสียงใสกังวาน ท่าเต้นอันเร่าร้อน กับ สายตาออดอ้อนจนทำเอาทั้งหญิงชายใจละลายมานับไม่ถ้วนอีกเมื่อไหร่ หากจะให้ซื้อบัตรตีตั๋วไปชมถึงเกาหลี มีหวังต้องกินมาม่าไปเป็นปีจนโรคไตถามหาแน่ ๆ
นี่ก็ปาเข้าไปห้าโมงแล้วแถวคู่ก็ยังยาวเหยียดเหมือนงูขดไปมาล่วงเลยไปถึงชั้นสาม น่าสงสารพวกที่อยู่แถวหลังชะมัด “ช่างมีวาสนาน้อยเหลือเกิน ทำไงได้นะ ความเร็วเป็นเรื่องของปีศาจ โฮ้ๆ” ฉันอดกระหยิ่มยิ้มย่องในใจไม่ได้ อีกแค่สิบแปดคนเท่านั้น ฉันมองหน้าปัดนาฬิกาคิตตี้ก็อปจากคลองถมของตัวเอง เข็มสั้นเพิ่งเลยเลขสิบเอ็ดไปหมาด ๆ ส่วนเข็มยาวกำลังจะชี้ที่เลขหก เหลือสิบสามคนแล้ว...อีกสิบ...อีกห้าคน และในที่สุดก็ถึงคิวของฉัน !
มือเริ่มเย็น ชุ่มไปด้วยเหงื่อ หัวใจเต้นโครมคราม แฮยอน เรากำลังจะได้พบกันแล้วน้า ฮึ้ ๆ ๆ ! แต่วินาทีนั้นเองเหมือนโลกทั้งใบได้ถล่มลงมาทับร่างฉันจนแบนแต๊ดแต๋ เมื่อพนักงานจำหน่ายตั๋วคล้องโซ่กั้นที่หน้าห้องจำหน่ายตั๋วแล้วพูดคำที่ฉันอยากได้ยินเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตว่า “บัตรเดี่ยวยอดจองเต็มแล้วนะครับ เหลือแต่เพียงตั๋วคู่สำหรับคนที่ลงทะเบียนตั๋วคู่ไว้เท่านั้น”
“วอท เดอะ ฟัค ! ” ฉันร้องลั่นอยู่ในใจ ครู่นั้นเกิดเสียงโอดครวญดังระงมไปทั่ว ทั้งชายและหญิงบ่นกันขรมด้วยความผิดหวัง แต่ใช่ว่าฉันจะหมดวาสนาไปเสียทีเดียว และดูเหมือนพระเจ้าจะยังเมตตาฉันอยู่ เพราะวินาทีนั้นเอง ใครบางคนก็ชูโทรศัพท์ขึ้นที่กลางแถวปลายบันไดเลื่อนชั้นห้า “ฉันมีค่ะ ! ” เสียงเธอดังขึ้นท่ามกลางเสียงโอดครวญ ร่างสูงระหงพยายามแวกฝูงแฟนคลับผู้กำลังผิดหวังกันระนาว มุ่งหน้าเข้ามา “ฉันมี ค่ะ ขอทางหน่อย” ชั่วเดี๋ยวเดียวเธอก็มาถึงด้านหน้าห้องขายตั๋ว เธอยืนอยู่ข้าง ๆ ฉัน ร่างสูงเด่น ดวงตางดงามถูกอำพรางไว้ด้วยแว่นกันแดดแบรนด์ดัง พร้อมกับที่ศีรษะถูกคลุมหมวกปีกกว้างสีอ่อน กลิ่นน้ำหอมมีราคาหอมฟุ้งชวนฝัน ปากกระจับจิ้มลิ้มแดงแจ๋ ใบหน้ารูปไข่รึก็เรียวได้รูปไร้ที่ติ ต่างจากฉันที่หน้าอวบอูมเหมือนซาลาเปา แถมหุ่นก็อวบระยะกลาง โชคยังดีที่ได้ยีนส์ผิวขาวจากหม่าม้ามาเต็มระเบียด
“นี่ค่ะ เลขลงทะเบียนของฉัน” หญิงคนนั้นยื่นโทรศัพท์ให้พนักงานขายตั๋วดู ตอนนั้นแหละที่ฉันสังเกตว่าเธอแต่งตัวอย่างไร ดูท่าเธอจะไม่ใช่ธรรมดาซะแล้ว แม้เสื้อที่สวมจะเป็นเสื้อยืดสีขาวลายแมวโง่ ๆ กับกางเกงยีนส์ธรรมดา ๆ แต่กระเป๋านี่สิ หลุยส์วิคตองของแท้เชียวล่ะ นาฬิกาข้อมือก็ใช่ย่อยที่ไหน ระดับชาแนลวิบวับเชียว
“แล้วคู่อีกคนล่ะครับ ต้องมีอีกคนยืนยันตัวตนก่อนนะครับถึงจะยืนยันรายการได้”
หญิงสาวอ้ำอึ้งไปสักครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พอดีเขาติดธุระน่ะค่ะ มาไม่ได้”
พนักงานหนุ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะกล่าวว่า “ถ้างั้นก็ยังยืนไม่ได้นะครับ ยกเว้นคุณจะเปลี่ยนคน จับคู่ใครแถวนี้ก่อนก็ได้นะครับ”
หญิงสาวคนนั้นหันซ้ายหันขวา ทีแรกเธอมองผ่านฉันไปอย่างไม่ใยดี ซึ่งก็พอเข้าใจได้ ฉันคงหมดหวังแล้วล่ะ ฉันคิดว่าตัวเองควรกลับบ้านไปนอนแช่ในอ่างน้ำจมจ่อมกับความผิดหวังลำพังเหมือนนางเอกเอ็มวีจะดีกว่า
ฉันหันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากแถว
แต่ทันใดนั้นเสียงหญิงสาวคนนั้นก็ดังขึ้นใกล้ ๆ “เอ่อ คุณคะ...คุณคะ…” ฉันหันกลับไปตามเสียง “ช่วยเป็นคู่ให้ฉันหน่อยได้หรือเปล่า พอดีคนที่จะมาด้วยกำลังติดธุระและเค้าคงไม่อยากดูคอนเสิร์ตแล้ว แต่จะจองตั๋วได้ต้องมีคู่ยืนยันตัวตน คุณช่วยเป็นคู่ของฉันได้หรือเปล่า ไหน ๆ คุณก็อยากจะจองตั๋วอยู่แล้วใช่ไหม” เสียงเธอนั้นช่างอ่อนโยน ทำเอาใจฉันสั่นระรัว ไม่ค่อยมีใครปฏิบัติกับฉันแบบนี้มากนักหรอกนะ
ฉันทำทีเป็นถามกลับไปว่า “คุณ…เอ่อ…เรียกฉันเหรอค่ะ”
แต่หัวใจกลับกระหยิ่มยิ้มย่องและเต้นเร่า เพราะรู้ว่าคุณเธอกำลังขาดคนจองตั๋วคู่ และเป็นฉันคนนี้แหละที่กำลังจะได้รับสิทธิ์นั้น
“ใช่ค่ะ คุณช่วยมาลงทะเบียนบัตรคู่ของกับฉันได้หรือเปล่า ไหน ๆ คุณก็อยากจองตั๋วมาดูแฮยอนแล้วใช่ไหมคะ” เธอกล่าวพร้อมกับยิ้ม ตอนนี้เองที่ฉันเริ่มคุ้นหน้าหญิงสาวคนนี้แล้วล่ะ แต่เธอเป็นใครทำไมถึงคิดไม่ออกน้า
ฉันยิ้มแล้วตอบไปตามมารยาท ขณะที่ใจโลดเต้นอย่างกับลิงลพบุรีได้กล้วย
“อ๋อ ได้สิค่ะ ยินดีเลยล่ะค่ะ”
“งั้นดีเลย เราเป็นคู่กันแล้วนะคะ” เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า ทีเล่นทีจริง ทำเอาฉันหน้าแดงเป็นลูกตำลึงไปเลยล่ะ
"ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอคะ" เธอถาม
"ฉันชื่อการินค่ะ แล้วคุณล่ะคะ"
"ฉันชื่อเอลลีน เรียกเอลเฉย ๆ ก็ได้"
"เอลลีน...เอลลีน...โอ้ว ก็อด ! ฉันจำได้แล้ว คุณ ๆ ๆ เอลลีนแห่งวงเกิร์ลกรุ๊ป เยลโล่วบลู ชะ ๆ ๆ ใช่รึเปล่า ! "
ผลงานอื่นๆ ของ Romantic Bear ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Romantic Bear
ความคิดเห็น