ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Porsche the medium love us

    ลำดับตอนที่ #6 : 6

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 54


    ใบหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เขายืนทรงตัวอย่างโซเซ ฉันยังอดนึกไม่ได้ว่าทำไมเขายังขับรถมาได้อีก

    “เธอกลับมาทำไมไม่บอกฉัน หะ”เขาถามด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง อ๊ายย แล้วถ้าเกิดเขาโมโหฉันขึ้นมาแล้วต่อยฉันฟันร่วงล่ะ ทำไงๆ เขาจะจ่ายเงินค่าทำฟันเทียมให้ฉันไหม

    “ฉันโทรหานายแล้วแต่ไม่มีคนรับนิ้ ช่วยไม่ได้ อีกอย่างคำว่าแป๊บเดียวของนาย มันนานมากรู้ไว้ด้วย”พูดจบฉันก็ปิดประตูใส่หน้าเขา แต่เขากลับดันไว้ทำให้ฉันปิดประตูไม่ได้  ไม่นะอย่าทำอะไรบ้าๆแบบนั้นนะ นี่ฉันคิดไปไกลไปไหม ก็มันเหมือนในหนังนี่ ที่พระเอกเมาแล้วมาหานางเอกที่ห้อง แล้วก็ อ้ายยย ไม่คิดๆ ไม่

    “ฉันจะนอนที่นี้”เขาพูดก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง ทิ้งให้ฉันยืนจับลูกบิดประตูที่มองตามแผ่นหลังเขาไป

    “นายจะบ้าเหรอ ไม่ได้นะ”เสียงห้ามของฉันไม่ได้ทำให้เขาหยุดการกระทำนั่นเลยสักนิดเดียว เขากลับไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนอนอย่างสบายใจ

    “ออร์แปง นายลุกขึ้นมาเดียวนี้นะ ออร์แปงงงง”ฉันไปกระชากเสื้อสูทของเขาแต่เขาก็นอนนิ่ง ทั้งๆที่ฉันเองก็กระชากแรงอยู่เหมือนกัน ฉันจึงตัดสินใจก้มลงไปจ้องหน้าเขาที่หลับตาพริ้มเหมือนเด็กน้อย เขาคงหลับเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ล่ะมั้ง ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้เขานอนบนเตียงอย่างสบาย ส่วนตัวฉันนะเหรอ นอนพื้นค่ะ สบายไหมล่ะ T^T

    กริ้ง ๆ กริ้ง ๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งเป็นเวลาปกติที่ฉันตั้งปลุกไว้ เมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำให้ฉันกระเด้งสุดตัวขึ้นมาจากเตียงนอน ฉันเอามือแคะขี้ตาที่พอกอยู่เป็นก้อนเบ้อเริ่มด้วยอาการที่งัวเงีย แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อคืนนี้ ออร์แปงนอนที่นี้ ฉันนอนที่พื้นข้างล่าง แล้วทำไมตอนนี้ฉันถึงได้มานอนบนเตียงได้ล่ะ ฉันก้มลงมองที่พื้นข้างเตียงเพราะคิดว่าเขาอาจจะนอนอยู่ก็ได้แต่ไม่มีเลย  อาจจะเป็นความฝันก็ได้ ใช่ ความฝันแน่นอน ฮ้าววววว รีบอาบน้ำไปเรียนดีกว่า ว่าแล้วฉันก็ลุกบิดขี้เกียจเดินเข้าห้องน้ำ

     

    นึกแล้วผมก็อดขำตัวเองไม่ได้ เมื่อคืนที่ผมไปหาสกายที่ห้อง ไม่รู้สิว่าเป็นอะไร เท่าที่จำได้ผมพาเธอไปที่ผับประจำของผม เพราะว่าผมมีนัดกับเพื่อนแต่ผมกะไว้ว่าจะเข้าไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้นแล้วจะรีบออกไปส่งเธอ แต่ผมก็เผลอดื่มหนักและติดแหง็กอยู่ในนั้นตั้งนานโข นึกขึ้นได้อีกที่ก็ปาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว สภาพผมตอนนั้นเหมือนหมาก็ไม่ปาน เดินด้านก้าวถอยสอง เมื่อออกมาจากผับผมก็คิดอะไรบางอย่างได้ สกาย เธอบอกว่าจะรอผมอยู่ที่รถผมรีบเดินให้เร็วที่สุด แต่กลับไม่เจอเธอผมคิดว่าเธอคงจะกลับบ้านแล้วแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ อาจเป็นเพราะว่าผมกลัวเธอมาใช้หนี้ที่ค้างต่อไม่ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เลยตัดสินใจขับรถด้วยอาการที่เมาได้ที่ มาหาเธอที่อาพาทเม้นต์ ผมไม่รู้หรอกว่าห้องเธอคือห้องไหน เพราะผมมาส่งเธอแค่หน้าอาพาทเม้นต์อย่างเดียว ผมไปโวยวายกับยามเพื่อที่จะรู้ห้องเธอ และในที่สุดผมก็รู้ว่าเธออยู่ห้องไหน ผมเคาะประตูอยู่สักพัก ผมเรียกชื่อเธอเบาๆ แล้วเธอก็เปิดประตูออกมา ผมดีใจที่เธอปลอดภัยดีแต่รู้สึกโมโหที่กลับมาโดยไม่บอกผมสักนิด

    “สกาย ซากาย”ผมเรียกชื่อเธอเสียงยานคาง ผมรู้สึกว่าอาการเมาของผมจะเข้าขั้นสูงสุดแล้วล่ะ ผมกำลังจะน็อค แล้วอะไรเป็นยังต่อผมไม่รู้แล้ว มารู้สึกตัวอีกทีก็ตีสามกว่าๆแล้ว ผมตื่นมาด้วยอาการปวดกบาลและมองไปรอบๆห้องที่มันไม่ใช่ห้องของผม ดูผ้าห่มนี่สิ ลายเชอร์รี่ บ้าแล้ว ไม่ใช่ของผม ผมจึงตัดสินใจลงจากเตียงแต่ก็ต้องชะงัก สกาย เธอนอนอยู่ที่พื้นที่มีแค่หมอนแค่นั้น อ่อ ผมเกือบเหยียบเธอด้วยดีนะที่หยุดทัน นี่ผมอยู่ที่ห้องเธอเองเหรอ ผมนึกย้อนถึงเรื่องเมื่อคืน ผมมาหาเธอที่นี้ ใช่แล้ว ผมลุกขึ้นจากเตียงแล้วอุ้มสกายขึ้นมานอนบนเตียง และรีบออกมาจากห้องเธอ

    ณ คอนโดของผม

    “ลมอะไรหอบพวกมึงมานี่กันว่ะ”ผมออกมาเปิดประตูห้องให้พวกมันที่หอบข้าวของมาเยอะเว่อร์ อย่าพูดว่าข้าวของเลยส่วนประกอบของการตั้งวงดีกว่า ชัดเจนดี

    “อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไปผับบ่อยๆก็เบื่อวะ”เซน เพื่อนในกลุ่มที่ขี้หลีอันดับหนึ่งในกลุ่มตอบก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวยาว

    “แต่วันนี้กูกลับเร็วหน่อยนะเว้ย มีนัดกะวีต หวานใจกูวะ”สตรีมบอกอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินเอาของที่ติดมือไปวางในครัว

    “เออ จะทำอะไรก็ทำเหอะ กูง่วงนอน”ผมพูดพร้อมกับเดินกุมหัวตัวเอง เพราอาการแฮงค์เมื่อคืนยังเล่นงานอยู่

    “ได้ไงวะ พวกกูมาหามึงแล้วมึงเป็นเจ้าบ้านนะโว้ย”เสียง เจแปน หนุ่มลูกครึ่งโวยขึ้นมาแบบขำๆ ทำเอา เซน และ สตรีมอดขำไม่ได้

    “เออ กูรู้ แต่กูจะนั่งรอ มึงเข้าครัวไปดิ”ผมบอกเจแปนแล้วทิ้งตัวลงข้างๆเซนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่

    “เฮ้ย นี่แกมีหนังสือโป้ด้วยเหรอเนี่ย เยอะป่าว แบ่งกูมั้ง”สตรีมหยิบหนังสือโป๊เล่มหนึ่งขึ้นมาชู

    “ไม่ใช่ของกู นั่นมันของไอ้เซนลืมไว้”

    “มิน่าล่ะ กูหาที่บ้านยังไงก็ไม่เจอ เอามานี่”เซนคว้าหนังสือจากมือของสตรีมมากอดยังกับเด็กน้อยได้ของเล่น

    “ยืมหน่อยๆ”เสียงอ้อนของสตรีมทำให้ผมอดขำไม่ได้ ไอ้บ้านี่ท่าจะโรคจิตจริงแหะ

    ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

    “ฮัลโหลครับ”ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นตอบปลายสาย

    (ยังไม่ตื่นเหรอแปง)

    “แม่เหรอครับ มีอะไรหรือเปล่า”

    (อ้อ เย็นนี้ แม่จะไปหาลูกที่คอนโดนะ เดี๋ยวไปทานข้าวกัน อย่าลืมบอกสกายด้วยล่ะ)

    ให้ตายสิ แม่บอกว่าจะมาหาผมงั้นเหรอ  งานเข้าแล้วล่ะ ปัญหาใหญ่เลย

    “ครับๆ ได้ครับ แล้วเจอกันครับ”ผมวางสายด้วยอารมณ์ที่หดหู่จนไอ้เซนจับอาการได้

    “เป็นไรไปว่ะ แม่มึงหาผู้หญิงให้อีกงั้นสิ”

    “ยิ่งกว่านั้นอีก เอาเป็นว่าวันนี้ยกเลิกปาร์ตี้ของพวกมึงก่อนเหอะ แม่กูจะมานี่”ผมบอกพวกมันที่แสดงสีหน้าหงุดหงิดแต่มันก็เข้าใจผม พวกมันรู้ดีว่าแม่ผมนะเจ้าระเบียบแค่ไหน จะดื่มอะไรก็ไม่ว่าแต่ต้องไม่ใช่ที่คอนโดผม พวกมันรวมถึงผมด้วยเคยโดนแม่ผมเทศนาชุดใหญ่ให้เมื่อเดือนก่อนนี้เองที่มาจัดปาร์ตี้แบบนี้แล้วท่านก็มาโดยไม่บอกไม่กล่าว เล่นหูชากันเป็นแถบๆ ดีนะที่ท่านยังโทรมาบอกวันนี้ไม่งั้นก็คงได้รับชุดใหญ่อีกแน่

    “วันหลังก็ได้ว่ะ พวกกูกลับล่ะ”เจแปนออกมาจากครัว แล้วมาตบไหล่ผม ดูท่าทางมันจะรีบกว่าใครๆซะอีก มันคงจะกลัวแม่ผมล่ะมั้ง ฮ่าๆๆๆๆ

    “เออ แล้วเจอกัน”ผมบอกพวกมันที่กำลังสวมรองเท้าผ้าใบกันด้วยความรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก พอพวกมันออกไปเท่านั้นแหละ คิ้วผมผูกเป็นปมกับปัญหาที่เหลือ ผมจะบอกเธอยังไงดีล่ะ เธอจะยอมช่วยผมไหม โอ้ย สมองผมจะระเบิดล่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×