ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Porsche the medium love us

    ลำดับตอนที่ #5 : 5

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 54


    “ฉันต้องทำตัวยังไงบ้าง”ฉันถามออร์แปงที่ขับรถอยู่ ดูเขาจะครึ้มเป็นพิเศษแหะ

    “ก็เป็นอย่างที่เธอเป็นนั้นแหละ” อั๊ยยะ ย้อนฉันอีก เดี๋ยวเหอะ

    ตึก ตัก ตึก ตัก ตื้นเต้น จะเจอแม่แฟนเป็นครั้งแรก ไม่ควรประหม่านะสกาย ย่ะ สกาย ไฟติ้ง!!!

    เราสองคน คือ ฉันกับนายออร์แปงนั่นแหละ เดินควงกันเข้ามาในร้านอาหารชื่อดัง มีหลายโต๊ะที่มองเรา แน่นอนล่ะ ก็นี่มันนางฟ้ากับเทพบุตรอ่ะเนอะ จะไม่มองและอิจฉาได้ไงกัน หึหึหึ ฉันรู้ฉันหลงตัวเองอยู่ เราเดินมาเรื่อยๆจนถึงโต๊ะที่มีผู้หญิงมีอายุแต่งตัวไฮโซนั่งรออยู่ เขายิ้มให้เมื่อเราสองคนมาหยุดอยู่ตรงหน้า

    “แม่ครับนี่สกายครับ”นายออร์แปงแนะนำฉันให้ผู้หญิงคนนั้นรู้จัก

    “สวัสดีค่ะ”ฉันยกมือไหว้ท่านเมื่อออร์แปงแนะนำตัวฉันเสร็จ

    “นั่งก่อนสิ”ท่านยิ้มแล้วผายมือไปที่เก้าอี้ ฉันยิ้มตอบ ออร์แปงทำตัวเป็นสุภาพบุรุษโดยการเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่ง ฉันจึงหันไปยิ้มให้ออร์แปงที่กำลังนั่งลงเก้าอี้ตัวข้างๆ  

    ไม่แย่อย่างที่คาดการณ์ไว้เลย ที่แรกคิดไว้ว่าพอเห็นหน้าแม่ของออร์แปงแล้ว หล่อนคงจะไม่ชอบฉันน่าดู ประมาณว่าผู้หญิงที่ฉันเลือกดีที่สุดแล้วสำหรับลูกชายฉัน แต่กลับกลายเป็นว่า เขาเหมือนจะถูกชะตากับฉันมากทีเดียวเลยทำให้ฉันรู้สึกแย่ที่ต้องมาโกหกเรื่องแบบนี้ แต่ช่วยไม่ได้นิ้นา

    ระหว่างทานอาหารท่านก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อยที่เกี่ยวกับฉันและนายออร์แปง  จะสงสัยอะไรนักหนาก็ไม่รู้ มาให้ดูตัวขนาดนี้แล้วนะค้าคุณแม๊!!!

    “แล้วรู้จักกับแปงมานานแค่ไหนแล้วล่ะ”

    “ก็สักพักนะค่ะ”ฉันยิ้มตอบท่าน อยากจะสารภาพว่าเพิ่งรู้จักเมื่อวันก่อนนี่เองค่ะ สักพักของหนูมันก็สองวันนี้เองค่ะ T^T

    “แล้วแปงเป็นไงบ้างล่ะ”แต่ล่ะคำถามของท่านทำให้ฉันเหมือนเดินเข้าไปในซอยตันที่ไม่สามารถหาทางออกได้เลย ชิบหาย ต้องโกหกอีกสารพัดสารเพ

    “เออ ออร์แปงเค้าก็”ฉันหยุดคำพูดแล้วเหลือบตาไปมองออร์แปงที่กำลังยกน้ำขึ้นมาจิบ

    “ก็ดีนะค่ะ เค้าก็เทคแคร์หนูดี หนูชอบเค้าก็ตรงนี้แหละค่ะ”พูดจบฉันก็หัวเราะเบาๆแล้วก้มหน้าทำปากเบ้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มหน้าบานต่อ

    “ก็ไม่รู้จะค้านอะไร ไหนๆก็อยู่ด้วยกันแล้ว แม่ก็คงทำอะไรไม่ได้” ห๊ะ!!!!!!!  อร๊ายยยนะ??? อยู่ด้วยกัน หมายความว่าไง

    หมอนั่นไปใส่ไข่อะไรกันอีก ไหนว่าแค่เป็นแฟนกำมะลอไง ไหงกลายไปเป็น มะ  เฮ้ย ภรรยาไปได้ล่ะ เยอะไปแล้วนะ และฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มแหย่ตอบท่าน แล้วโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆออร์แปงกัดฟันพูดทั้งๆทียังยิ้มอยู่

    “อะไรของนาย”

    “เออน่า เดี๋ยวบอก”

    เราทั้งสามคนนั่งคุยกันสารพัดสารเพจนเวลาป่านนี้ก็จะสามทุ่มอยู่แล้ว

    “เดี๋ยวแม่กลับก่อนล่ะกันนะ ดึกแล้ว”ท่านส่งยิ้มให้แล้วลุกเดินจากไป ตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันและนายออร์แปงสองคน

    “อยู่ด้วยกัน? อะไรของนายอีกล่ะ”ฉันหันไปถามเข้าด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

    “ก็แม่ฉันไม่เชื่อนะสิ ฉันก็เลยพูดไปให้มันจบๆก็แค่นั้นเอง”

    “นายมันจริงๆเลย”ฉันกัดฟันพูดก่อนจะจิ้มกุ้งชิ้นโตเข้าปากทีเดียว

    “เหอะน่า ก็แม่ฉันเชื่อแล้ว อีกอย่างท่านก็ไม่หาคู่ดูตัวให้ฉันแล้วไง”

    “งั้นฉันก็หมดหนี้แล้วสิ”ฉันหันไปยิ้มหวานให้เขาที่กำลังจ้องฉันอยู่

    “ก็ต่อเมื่อมันแน่นอนก่อน โอเค้ ไปกันเหอะ”เขายักไหล่ก่อนจะลุกขึ้นยืน

    “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจดังเฮือกเมื่อได้ยินคำตอบของเขาที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นยังไงเป็นศูนย์หรือเปล่าก็ไม่รู้

    ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านออร์แปงก็นั่งเงียบไม่พูดอะไรเลย มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด เฮ้อ แล้วฉันควรเริ่มบทสนทนายังไงดีล่ะ?

    “ออร์แปง”ฉันเอ่ยชื่อเขาโดยที่ไม่สบตา

    “อือ”มีแค่เสียงตอบเบาๆที่ห้วนได้ใจของเขา

    “นายบอกแม่นายว่าไงบ้างเกี่ยวกับฉันอ่ะ ฉันจะได้เตรียมตัวไว้ให้ถูก”ฉันพยายามพูดให้มันดูครึกครื้นมากที่สุด แต่เขากลับนิ่ง เป็นบ้าอะไรของเขาอีก

    “ล่าสุดฉันก็บอกท่านว่าเราอยู่ด้วยกันมาสามเดือนแล้ว ก็แค่นั้นแหละ”เขาตอบคำถามของฉันแต่กลับไม่มองฉันเลยสักนิด

    “เดี๋ยวไปกับฉันก่อนนะ แป๊บนึงแล้วจะไปส่ง”

    “ไปไหน”ฉันถามเขาแต่เขากลับไม่ตอบ ความเร็วของรถยิ่งเร็วด้วยอารมณ์ของเขาที่ฉันตามไม่ทัน

    ใช้เวลาไปแค่แป๊บเดียวรถก็มาจอดอยู่หน้าผับแห่งหนึ่งที่ผู้คนมากมายมาหาความบันเทิงใส่ตัว แต่ไม่ใช่คนอย่างฉันแน่นอน

    “นายจะไปนานแค่ไหน”ฉันหันไปถามเขาที่กำลังเปิดประตูรถ

    “ไม่รู้ ลงมาด้วยกันสิ” ฉันส่ายหน้าตอบเขา จะบ้าหรือไง

    “ฉันรออยู่นี่แหละ เร็วๆนะ”

    ยี่สิบหน้าทีผ่านไป  เขาเข้าไปทำอะไร ไหนบอกไม่นานไงล่ะ นี่ฉันนั่งรออยู่ในรถจนเหงื่อแตกเป็นไหแล้วนะ เนื่องจากความร้อนและอึดอัดภายในรถทำให้ฉันทนไม่ได้ฉันจึงออกมานั่งอยู่ข้างนอกแทน

    ตึด ตึด ตึด ตึด  ฉันโทรเข้ามือถือเขาไปประมาณห้าแสนสองหมื่นรอบได้แล้วมั้ง ไม่รับสายช้านนน  เขากำลังทำให้ฉันโกรธแล้วนะ ไปส่งฉันก่อนแล้วค่อยมาผับบ้าก็ได้ ไม่ใช่ให้ฉันมานั่งตบยุงรอแบบนี้ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้แต่ฉันก็ไม่มีทางที่จะย่างเท่าเข้าไปในผับนี้เด็ดขาด อันที่จริงเขาก็ไม่ต้องแคร์ฉันอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นอะไรกันก็แค่แฟน กำ มะ ลอ  เท่านั้น ฉันจึงตัดสินใจโบกรถแท็กซี่กลับบ้านโดยไม่ทิ้งโน้ตหรือเมจเสจบอกเขาเลย ออกมาแล้วไม่เจอฉันเดี๋ยวเขาก็กลับบ้าน แค่นั้นแหละ

    เมื่อกลับมาถึงห้องฉันก็รีบอาบน้ำอาบท่า เหลือบดูนาฬิกาเข็มสั้นชี้ที่เลขสิบสอง เข็มยาวชี้ที่เลขสิบ นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนี่หว่า พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย รีบนอนดีกว่า พอแต่งตัวเสร็จฉันก็กำลังจะปิดสวิตท์ไฟ

    ก้อก ก้อก ก้อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นและมีเสียงเรียกชื่อฉันเบาๆที่พอจะเดาออกว่าเป็นเสียงใคร ออร์แปงนั้นเอง

    “สกาย ซากาย”เสียงเรียกยังคงเรียกซ้ำไปซ้ำมาอย่างเบาๆ  การมาของเขาทำให้ฉันแปลกใจเล็กน้อย มันก็ดึกแล้วแทนทีเขาจะกลับบ้านแต่เขากลับมาหาฉัน เฮ้ย! ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ฉันส่ายหัวปัดความคิดบ้าๆออกไปจากหัวก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×