คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 5
“ฉันต้องทำตัวยังไงบ้าง”ฉันถามออร์แปงที่ขับรถอยู่ ดูเขาจะครึ้มเป็นพิเศษแหะ
“ก็เป็นอย่างที่เธอเป็นนั้นแหละ” อั๊ยยะ ย้อนฉันอีก เดี๋ยวเหอะ
ตึก ตัก ตึก ตัก ตื้นเต้น จะเจอแม่แฟนเป็นครั้งแรก ไม่ควรประหม่านะสกาย ย่ะ สกาย ไฟติ้ง!!!
เราสองคน คือ ฉันกับนายออร์แปงนั่นแหละ เดินควงกันเข้ามาในร้านอาหารชื่อดัง มีหลายโต๊ะที่มองเรา แน่นอนล่ะ ก็นี่มันนางฟ้ากับเทพบุตรอ่ะเนอะ จะไม่มองและอิจฉาได้ไงกัน หึหึหึ ฉันรู้ฉันหลงตัวเองอยู่ เราเดินมาเรื่อยๆจนถึงโต๊ะที่มีผู้หญิงมีอายุแต่งตัวไฮโซนั่งรออยู่ เขายิ้มให้เมื่อเราสองคนมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“แม่ครับนี่สกายครับ”นายออร์แปงแนะนำฉันให้ผู้หญิงคนนั้นรู้จัก
“สวัสดีค่ะ”ฉันยกมือไหว้ท่านเมื่อออร์แปงแนะนำตัวฉันเสร็จ
“นั่งก่อนสิ”ท่านยิ้มแล้วผายมือไปที่เก้าอี้ ฉันยิ้มตอบ ออร์แปงทำตัวเป็นสุภาพบุรุษโดยการเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่ง ฉันจึงหันไปยิ้มให้ออร์แปงที่กำลังนั่งลงเก้าอี้ตัวข้างๆ
ไม่แย่อย่างที่คาดการณ์ไว้เลย ที่แรกคิดไว้ว่าพอเห็นหน้าแม่ของออร์แปงแล้ว หล่อนคงจะไม่ชอบฉันน่าดู ประมาณว่าผู้หญิงที่ฉันเลือกดีที่สุดแล้วสำหรับลูกชายฉัน แต่กลับกลายเป็นว่า เขาเหมือนจะถูกชะตากับฉันมากทีเดียวเลยทำให้ฉันรู้สึกแย่ที่ต้องมาโกหกเรื่องแบบนี้ แต่ช่วยไม่ได้นิ้นา
ระหว่างทานอาหารท่านก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อยที่เกี่ยวกับฉันและนายออร์แปง จะสงสัยอะไรนักหนาก็ไม่รู้ มาให้ดูตัวขนาดนี้แล้วนะค้าคุณแม๊!!!
“แล้วรู้จักกับแปงมานานแค่ไหนแล้วล่ะ”
“ก็สักพักนะค่ะ”ฉันยิ้มตอบท่าน อยากจะสารภาพว่าเพิ่งรู้จักเมื่อวันก่อนนี่เองค่ะ สักพักของหนูมันก็สองวันนี้เองค่ะ T^T
“แล้วแปงเป็นไงบ้างล่ะ”แต่ล่ะคำถามของท่านทำให้ฉันเหมือนเดินเข้าไปในซอยตันที่ไม่สามารถหาทางออกได้เลย ชิบหาย ต้องโกหกอีกสารพัดสารเพ
“เออ ออร์แปงเค้าก็…”ฉันหยุดคำพูดแล้วเหลือบตาไปมองออร์แปงที่กำลังยกน้ำขึ้นมาจิบ
“ก็ดีนะค่ะ เค้าก็เทคแคร์หนูดี หนูชอบเค้าก็ตรงนี้แหละค่ะ”พูดจบฉันก็หัวเราะเบาๆแล้วก้มหน้าทำปากเบ้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มหน้าบานต่อ
“ก็ไม่รู้จะค้านอะไร ไหนๆก็อยู่ด้วยกันแล้ว แม่ก็คงทำอะไรไม่ได้” ห๊ะ!!!!!!! อร๊ายยยนะ??? อยู่ด้วยกัน หมายความว่าไง
หมอนั่นไปใส่ไข่อะไรกันอีก ไหนว่าแค่เป็นแฟนกำมะลอไง ไหงกลายไปเป็น มะ เฮ้ย ภรรยาไปได้ล่ะ เยอะไปแล้วนะ และฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มแหย่ตอบท่าน แล้วโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆออร์แปงกัดฟันพูดทั้งๆทียังยิ้มอยู่
“อะไรของนาย”
“เออน่า เดี๋ยวบอก”
เราทั้งสามคนนั่งคุยกันสารพัดสารเพจนเวลาป่านนี้ก็จะสามทุ่มอยู่แล้ว
“เดี๋ยวแม่กลับก่อนล่ะกันนะ ดึกแล้ว”ท่านส่งยิ้มให้แล้วลุกเดินจากไป ตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันและนายออร์แปงสองคน
“อยู่ด้วยกัน? อะไรของนายอีกล่ะ”ฉันหันไปถามเข้าด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“ก็แม่ฉันไม่เชื่อนะสิ ฉันก็เลยพูดไปให้มันจบๆก็แค่นั้นเอง”
“นายมันจริงๆเลย”ฉันกัดฟันพูดก่อนจะจิ้มกุ้งชิ้นโตเข้าปากทีเดียว
“เหอะน่า ก็แม่ฉันเชื่อแล้ว อีกอย่างท่านก็ไม่หาคู่ดูตัวให้ฉันแล้วไง”
“งั้นฉันก็หมดหนี้แล้วสิ”ฉันหันไปยิ้มหวานให้เขาที่กำลังจ้องฉันอยู่
“ก็ต่อเมื่อมันแน่นอนก่อน โอเค้ ไปกันเหอะ”เขายักไหล่ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“เฮ้อ”ฉันถอนหายใจดังเฮือกเมื่อได้ยินคำตอบของเขาที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นยังไงเป็นศูนย์หรือเปล่าก็ไม่รู้
ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านออร์แปงก็นั่งเงียบไม่พูดอะไรเลย มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด เฮ้อ แล้วฉันควรเริ่มบทสนทนายังไงดีล่ะ?
“ออร์แปง”ฉันเอ่ยชื่อเขาโดยที่ไม่สบตา
“อือ”มีแค่เสียงตอบเบาๆที่ห้วนได้ใจของเขา
“นายบอกแม่นายว่าไงบ้างเกี่ยวกับฉันอ่ะ ฉันจะได้เตรียมตัวไว้ให้ถูก”ฉันพยายามพูดให้มันดูครึกครื้นมากที่สุด แต่เขากลับนิ่ง เป็นบ้าอะไรของเขาอีก
“ล่าสุดฉันก็บอกท่านว่าเราอยู่ด้วยกันมาสามเดือนแล้ว ก็แค่นั้นแหละ”เขาตอบคำถามของฉันแต่กลับไม่มองฉันเลยสักนิด
“เดี๋ยวไปกับฉันก่อนนะ แป๊บนึงแล้วจะไปส่ง”
“ไปไหน”ฉันถามเขาแต่เขากลับไม่ตอบ ความเร็วของรถยิ่งเร็วด้วยอารมณ์ของเขาที่ฉันตามไม่ทัน
ใช้เวลาไปแค่แป๊บเดียวรถก็มาจอดอยู่หน้าผับแห่งหนึ่งที่ผู้คนมากมายมาหาความบันเทิงใส่ตัว แต่ไม่ใช่คนอย่างฉันแน่นอน
“นายจะไปนานแค่ไหน”ฉันหันไปถามเขาที่กำลังเปิดประตูรถ
“ไม่รู้ ลงมาด้วยกันสิ” ฉันส่ายหน้าตอบเขา จะบ้าหรือไง
“ฉันรออยู่นี่แหละ เร็วๆนะ”
ยี่สิบหน้าทีผ่านไป เขาเข้าไปทำอะไร ไหนบอกไม่นานไงล่ะ นี่ฉันนั่งรออยู่ในรถจนเหงื่อแตกเป็นไหแล้วนะ เนื่องจากความร้อนและอึดอัดภายในรถทำให้ฉันทนไม่ได้ฉันจึงออกมานั่งอยู่ข้างนอกแทน
ตึด ตึด ตึด ตึด ฉันโทรเข้ามือถือเขาไปประมาณห้าแสนสองหมื่นรอบได้แล้วมั้ง ไม่รับสายช้านนน เขากำลังทำให้ฉันโกรธแล้วนะ ไปส่งฉันก่อนแล้วค่อยมาผับบ้าก็ได้ ไม่ใช่ให้ฉันมานั่งตบยุงรอแบบนี้ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้แต่ฉันก็ไม่มีทางที่จะย่างเท่าเข้าไปในผับนี้เด็ดขาด อันที่จริงเขาก็ไม่ต้องแคร์ฉันอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นอะไรกันก็แค่แฟน กำ มะ ลอ เท่านั้น ฉันจึงตัดสินใจโบกรถแท็กซี่กลับบ้านโดยไม่ทิ้งโน้ตหรือเมจเสจบอกเขาเลย ออกมาแล้วไม่เจอฉันเดี๋ยวเขาก็กลับบ้าน แค่นั้นแหละ
เมื่อกลับมาถึงห้องฉันก็รีบอาบน้ำอาบท่า เหลือบดูนาฬิกาเข็มสั้นชี้ที่เลขสิบสอง เข็มยาวชี้ที่เลขสิบ นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนี่หว่า พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย รีบนอนดีกว่า พอแต่งตัวเสร็จฉันก็กำลังจะปิดสวิตท์ไฟ
ก้อก ก้อก ก้อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นและมีเสียงเรียกชื่อฉันเบาๆที่พอจะเดาออกว่าเป็นเสียงใคร ออร์แปงนั้นเอง
“สกาย ซากาย”เสียงเรียกยังคงเรียกซ้ำไปซ้ำมาอย่างเบาๆ การมาของเขาทำให้ฉันแปลกใจเล็กน้อย มันก็ดึกแล้วแทนทีเขาจะกลับบ้านแต่เขากลับมาหาฉัน เฮ้ย! ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ฉันส่ายหัวปัดความคิดบ้าๆออกไปจากหัวก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง
ความคิดเห็น