ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไพรรีมรณะ

    ลำดับตอนที่ #6 : ไพรีมรณะ บทที่ 6 "ตามรอยพญาอัคคี"

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 49


    “กริชสะกดอสรพิษ?” ไพรทวนถึงชื่อของศาสตราวุทธในตำนาน ที่ถูกเก็บรักษาอยู่ในถ้ำโลกนาคราชแห่งนี้ นาคีสาวผู้เลอโฉม ได้จับมือไพรเอาไว้และเริ่มพูดกับไพรอีกครั้งหนึ่ง
    “ศาสตราวุทธนี้ เสด็จพี่ในชาติก่อน ได้ใช้มัน ต่อสู้กับพญาอัคคีมาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วในตอนนี้ มันก็ถึงเวลาแล้วที่เสด็จพี่ ในชาติภพใหม่นามว่า ไพร จะต้องใช้มัน ปราบพญาอัคคี อสรพิษอสูรที่ปกครองโลกเบื้องบนอยู่ในตอนนี้” นางนาคี วิกานมุณี จูงมือไพร เดินออกไป เลี้ยวที่มุมหนึ่งของหลืบถ้ำ เบื้องหน้าของไพร ชายฉกกรจ์จำนวน 4 คน ยืนหันหน้าเข้าหากัน โดยแบ่งพื้นที่ตรงกลางสำหรับ เป็นทางเดินเข้าประตูที่ปิดไว้

    “พระชายา......” ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คน ก้มลงกราบ วิกานมุณี นาคีสาวผู้นี้โดยทันที
    “ลุกขึ้นซะ......ข้ามีธุระที่จะต้องเข้าไปในนี้ กับเสด็จพี่ อัศนะนาคราช”
    “เอ๋......เหนือหัวอัศนะนาคราช……คือ ไอ้มนุษย์บนดินชั้นต่ำนี่น่ะเหรอขอรับ!?” ชายฉกรรจ์เหล่านั้น มองหน้าไพรอย่างไม่เชื่อในสายตา
    “เสียมารยาท!!” วิกานมุณีเอ็ดเสียงดังก้อง ชายฉกรรจ์เหล่านั้น รีบหมอบลงทันที
    “ข้าบอกให้พวกเจ้า เปิดทางเข้าให้ข้า ไม่ได้ยินรึ?”
    “ขอ....ขอรับ!!”
    ด้วยประโยคนี้ ทำให้เหล่านาคองครักษ์เหล่านั้น ต้องรีบปลดล็อกกลอนประตูบานใหญ่ทั้ง 2 ออกแล้ว ให้ วิกานมุณี กับ ไพร เข้าไปภายในห้องแห่งนั้น และเบื้องหน้าของไพรและวิกานมุณี ศาสตราวุทธอันทรงอิทธิฤทธิ์ ก็ได้ปักอยู่บนหินก้อนมหึมานั่น
    “นั่นไงเพคะ.......กริชสะกดอสรพิษ” วิกานมุณี ชี้ไปที่กริชที่ปักอยู่บนหิน
    “กริชสะกดอสรพิษ”

    ศาสตราวุทธในตำนานโบราณของเมืองนาคราช ลวดลายของกริช ที่ด้ามนั้น เป็นรูปหัวพญานาคสีทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงพลังอำนาจที่น่าเกรงขามของเหล่าพญานาคในตำนาน
    “เสด็จพี่....ดึงกริชสะกดอสรพิษออก แล้วนำมันไปต่อสู้กับพญาอัคคี เพื่อช่วยรักที่เสด็จพี่ มีต่อลิซ่าเถอะเพคะ” วิกานมุณีกล่าว
    “จะให้ผม....ดึงศาสตราวุทธเล่มนี้ ไปใช้ได้จริงๆรึครับ?” แม้แต่ไพร ยังรู้สึกเกรงต่อศาสตราวุทธชิ้นนี้
    “ในชาติก่อน ศาสตราวุทธนี้ก็เป็นของเสด็จพี่อยู่แล้ว.......ขอเพียงเสด็จพี่ ไม่ได้นำไปใช้ในทางที่ไม่ดี เสด็จพี่ก็จะไม่มีภัยอันตรายใดๆเพคะ.....ถ้าเสด็จพี่ มีศาตราวุทธนี้ไว้กับตัว ภูตผีปีศาจ หรือแม้แต่พญาอัคคี ก็ไม่อาจทำอันตรายใดๆกับเสด็จพี่ได้หรอกเพคะ”
    ไพร......ซึ้งในน้ำใจของนาคีสาว “วิกานามุณี” ซึ่งในอดีตชาตินั้น เธอเคยเป็นคู่ครองของเขานั่นเอง ไพรก้มลงกราบเท้าของนาคีสาวผู้นี้อย่างตั้งใจจริง
    “ขอบคุณมากครับ......องค์นาคีผู้สูงส่ง”
    “เสด็จพี่เพคะ....กราบหม่อมฉันทำไม ลุกขึ้นเถอะเพคะ” วิกานมุณี รีบจับไพรให้ลุกขึ้น เธอยิ้มอย่างมีความสุข
    “ชาติก่อน ผมอาจจะยิ่งใหญ่มีอำนาจก็จริง แต่ในปัจจุบัน ผมกลายเป็นมนุษย์ที่ต่ำชั้นกว่าท่านอีก......แต่ท่านยังให้ความเคารพผม ในฐานะที่ผมเคยเป็นคู่รักของท่านในปางก่อน...ผมซึ้งใจในตัวท่านจริงๆ องค์นาคีผู้เลอโฉม”

    วิกานมุณี ให้ไพร เดินเข้าไปยังข้างหน้า และให้ไพร จับด้ามของกริชไว้เพื่อให้ไพร ดึงกริชสะกดอสรพิษ ออกมาจากหิน ไพรยิ้มให้แก่วิกานมุณี และจิตใจของเขา นึกถึงแต่ว่า จะต้องช่วยทุกคนๆที่กระจัดกระจายกันไป กลับมาให้ได้ และต้องช่วยลิซ่า ให้กลับมาอย่างปลอดภัย
    “เอาละนะ!!” ไพร ดึงกริชสะกดอสรพิษออกมาจากหิน ประกายแสงจากตัวกริช ส่องแสงสว่างออกมา ต่อจากนี้ไป ผู้สืบทอดอำนาจแห่งกริชสะกดอสรพิษคนต่อไปก็คือ ไพร นี่เอง

    “ขอบคุณมากนะครับ......ผมจะต้องช่วยลิซ่า และปราบพญาอัคคีลงให้จงได้”
    ไพร และ วิกานมุณีสวมกอดกันอย่างแนบแน่น ไพร ก้มหัวลงและจุมพิตที่หน้าผากของวิกานมุณี นาคีสาว ซบลงที่หน้าอกของไพร เธอพูดกับไพรว่า......
    “แม้ว่าเสด็จพี่จะรักคนอื่นไม่ได้รักหม่อมฉัน....แต่หม่อมฉัน จะรักเสด็จพี่ไปตลอดกาล”

    แต่แล้ว เมื่อไพร จะจุมพิตวิกานมุณีอีกครั้ง เหล่าทหารองครักษ์ 2- 3 คนก็พุ่งพรวดขเมา พร้อมด้วยหอกอันคมกริบ หันปลายแหลมไปทางไพรอย่างโกรธแค้น
    “ไอ้มนุษย์ชั้นต่ำ.....มึงบังอาจจะทำมิดีมิร้ายพระชายารึ?”
    “อะไรกัน ....เข้ามาทำไม ไม่รู้รึว่า ชายผู้นี้คือใคร เขาคือเหนือหัวของพวกเจ้า....เพียงแต่เหนือหัวของพวกเจ้า ได้กลับมาเกิดใหม่ หลังจากที่ได้ต่อสู้กับพญาอัคคีและสิ้นไป มาในภพใหม่ของเหนือหัว ซึ่งก็คือ ท่านไพร ไงล่ะ!!” นางนาคีสาวกล่าว
    “ข้าไม่เชื่อหรอกขอรับ....พระชายา...มากับกระผมเถิด.....ท่านจะไปสมสู่หรือรับกับไอ้มนุษย์ชั้นต่ำอย่างนี้ไม่ได้นะขอรับ”
    “ไม่!!........ถ้าข้าไป....พวกเจ้าจะต้องฆ่าท่านไพรแน่...ข้าไม่ยอม”
    “แต่ว่า...พระชายา.......ข้าน่ะ...ข้าหลงใหลในตัวพระชายามานานแล้ว ข้ารักท่านนะ!!”
    ว่าแล้ว นาคองครักษ์ผู้นั้น ก็ปราดเข้าไป แล้วผลักวิกานมุณีออกไป เขาเงื้อมหอกขึ้นสู่ฟ้า และหมายที่จะทิ่มแทงลงบนเนื้อ บนร่างกายของไพร ณ จุดใดจุดหนึ่งที่แทงให้ตายได้
    “ตาย!!”

    แต่แล้ว ไพร ก็ได้ยกกริชขึ้น แสงจากกริชสะกดอสรพิษ ได้ส่องแสงออกมา ไพรปาดกริชลงทันที เมื่อนาคองครักษ์นั้นเข้ามาเกือบจะถึงตัวเพียงเสี้ยววินาที ผลก็คือ......
    “อ๊ากกกก” ร่างของนาคองครักษ์นั่น แยกออกเป็น 2 ซีก ตายคาที่ทันที เลือดไหลนองไปทั่วทั้งพื้นห้องนั้น นาคองครักษ์อีกตนหนึ่ง เมื่อเห็น ถึงกลับหน้าซีด และทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้นทันที ไพรเดินถือกริชสะกดอสรพิษ เข้าไปหานาคองครักษ์นั้น

    “องค์...องค์เหนือหัวจริงๆ....องค์เหนือหัวจริงด้วย!?” เบื้องหลังของแสงที่อยู่ด้านหลังของไพร นาคองครักษืนั้น มองเห็นเป็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง ซึ่งสวมมงกุฎ และคาดสัญลักษณ์รูป นาคราช 7 เศียรไว้ ซึ่งก็คือ จิตที่ยังคงอยู่ของ “อัศนะนาคราช” ราชันย์นาคราช ซึ่งยังคงสถิตอยู่ในร่างของไพรนั่นเอง
    “ว่าไง.....อยากจะได้ตัวพระชายาวิกานมุณีอีกไหม?.....ถ้าอยากได้ เอ็งได้ขาดเป็นสองซีกแบบไอ้เจ้านั่นแน่!!” ไพรพูดขู่พร้อมเงื้อมกริช ไปที่คอของนาคองครักษ์นั้น


    “ขอบคุณมากนะเพคะเสด็จพี่” วิกานมุณี ไหว้ไพรอย่างซึ้งในน้ำใจของไพร
    “ไม่เป็นไรแล้วนะครับ....ศาสตราวุทธเล่มนี้ ช่างทรงอิทธิฤทธิ์จริงๆ”
    “ไปเถิดเพคะ......ไปช่วยรักที่เสด็จพี่ มีต่อลิซ่าเถิดเพคะ.....หม่อมฉัน จะคอยพาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปกป้องเสด็จพี่ให้ปลอดภัย และทำหน้าที่นี้ได้สำเร็จ”
    “ขอบคุณมากครับ.......วิกานมุณี”

    ไพรกอดวิกานมุณีไว้ และจุมพิตที่แก้มของวิกานมุณี เมื่อเขาคลายการกอดรัดออก แสงสีทอง ก็ได้บังเกิดขึ้นและได้อาบท่วมร่างของไพรไว้ ไพร ยิ้มให้กับวิกานมุณีเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นการบอกลาเธอ นางพญานาคีผู้งดงามที่สุด ในโลกใต้บาดาลแห่งนี้
    “ลาก่อน.......”
    แสงนั้น ได้พุ่งขึ้นจากผิวน้ำ ในทะเลสาบภายในป่าดงดิบ และได้ไปสิ้นสุดที่ริมตลิ่ง พร้อมด้วยร่างของไพร ที่สะพายปืน .475 ดับเบิลไรเฟิล นาม “อัศนีเทพ” และในมือของเขา ก็ยังกำ “กริชสะกดอสรพิษ” ไว้อย่างแน่นด้วย ไพรลืมตาขึ้น และนึกถึง วิกานมุณี นางนาคีผู้เลอโฉมแห่งโลกใต้บาดาล ผู้ที่มอบ ศาตราวุทธอันทรงพลังนี้มา
    “ผมจะไปแล้วนะ....วิกานมุณี” ไพรมุ่งหน้าต่อ เข้าไปในป่าดิบต่อไป เพื่อตามหาพรรคพวกที่กระจัดกระจายไปเพราะน้ำป่าเมื่อคราวก่อน เขาเดินทางต่อไปเรื่อยๆ ตะวันยังไม่ลับสายตา แต่แล้ว สิ่งที่ปรากฏออกมาเบื้องหน้าของเขาก็คือ
    “กรร....” เสือขาวขนาดใหญ่ เท่าม้าแกลบ ปรากฏออกมาขวางทางเขาไว้ ตามร่างกายของมัน มีแสงลุกออกมาตลอดเวลา และไพรก็รู้ในทันทีว่า เสือโคร่งเผือกที่อยู่เบื้องหน้าของเขาก็คือ

    “เสือสมิงเผือก.......” สมิงร้าย ถลาเข้าหาไพร หมายฉีกกินเป็นอาหาร แต่แล้ว ไพร ก็วาดกริชสะกดอสรพิษ ขึ้นสู่ฟ้าในเสี้ยววินาทีก่อนที่สมิงเผือกจะถึงตัวเขา
    “ฉวัะ!!”
    ร่างของเสือสมิงเผือก ขาดออกเป็น 2 ท่อนในทันที ไพรไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกจาก ตามหาพรรคพวกที่เหลือ และตามไปช่วยลิซ่า ยังเมืองแห่งงูของ พญาอัคคี ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางป่าใหญ่ เขาเดินผ่านซากเสือสมิงที่ขาดออกเป็น 2 ท่อนไป

    ทางด้านของลิซ่า ได้ฟื้นขึ้นจากการหลับใหลไป เธอฟื้นขึ้นมา ก็พบว่า ตัวเธอ นอนอยู่บนแท่นหินแห่งหนึ่ง ซึ่งรอบๆตัวเธอนั้น เหมือนเธอนอนอยู่ในสถานที่โบราณแห่งหนึ่ง และชายคนหนึ่ง ก็เดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ
    “คุณเป็นใคร......ที่นี่ที่ไหนคะ?”
    “ฟื้นแล้วรึ......แม่นางผู้เลอโฉม?”
    ลิซ่ามองหน้าชายผู้นั้นอย่างงุนงง ชายผู้ที่มีหน้าตา ดี ผมออกยาวหน่อยๆ และร่างกายที่มีกล้มเนื้อบึกบึนแข็งแรงน่าเกรงขาม ชายผู้นั้นเริ่มพูดกับลิซ่าต่อ
    “นี่เจ้าจำไม่ได้เลยรึ......ว่าเจ้าน่ะ ถูกใครพามาที่นี่?”
    “ว่าไงนะ......หรือว่าท่าน?” ลิซ่านึกถึง ตอนที่เธอ ถูกงูหลามไฟ “พญาอัคคี” โอบรัดเธอ และพาเธอไปยังที่ๆแห่งหนึ่งและเธอก็สลบไป และตื่นขึ้นมาในตอนนี้นี่เอง
    “ท่านคือ.....งูหลามไฟตัวนั้น.....”
    “ถูกต้องแล้ว.....ข้าคือ พญาอัคคี....ราชันย์แห่งอสรพิษ ผู้ที่ปกครองดินแดนป่าดงดิบแห่งนี้ และที่นี่ก็คือ นครแห่งงู ของข้า” พญาอัคคีกล่าว 

                                                จบ...............
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×