ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไพรรีมรณะ

    ลำดับตอนที่ #2 : ไพรีมรณะ บทที่ 2 "ป่าอสรสัตว์"

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 49


    “ป่าอสรสัตว์!?” กลุ่มค้นหา ร้อยเอกพันภพเอ่ยขึ้นพร้อมกัน พวกเขารู้ว่า แค่ได้ยินถึงชื่อของเขตป่าดิบนี้ก็รู้แล้วว่า มันน่าสะพรึงกลัวมากขนาดไหน
    “ใช่แล้ว ป่าอสรสัตว์ อยู่ในเขตดงพญาไฟ จุดที่สอง ซึ่งอยู่ข้างหน้านี้นี่เอง มันเป็นทางผ่านไปยังเขตชายแดนพม่าในป่า และยังเป็นเส้นทางสู้เมืองแห่งงูของพญาอัคคีด้วย ป่าอสรสัตว์ เต็มไปด้วยสัตว์มีพิษมากมายที่รวมตัวกันอยู่ในนั้น เท่าที่รู้ ยังไม่เคยมีพรานคนไหนที่เข้าไปแล้ว แล้วรอดชีวิตกลับมาอีกเลย” ไพรกล่าว สร้างความกลัวแก่กลุ่มค้นหาร้อยเอกพันภพเป็นอย่างมาก
    “อ้อมไปอีกทางไม่ได้เหรอคะ?” ลิซ่าถาม
    “ไม่ว่าจะไปทางไหน เราก็ต้องเจอป่าอสรสัตว์ เพราะมันปิดพื้นที่ทุกทางไว้ และขอให้ทุกคนรู้ตัวไว้ด้วยว่า ถ้าพวกเราเจอสัตว์มีพิษถี่ขึ้น แสดงว่า พวกเราอยู่ในเขตแดนของป่าอสรสัตว์แล้ว”” วันกล่าวอย่างน่ากลัว และก็ไม่มีทางเลือก กลุ่มค้นหาตัวร้อยเอกพันภพ จึงต้องเดินทางผ่านป่าอสรสัตว์ ซึ่งอยู่ข้างหน้าพวกเขาไม่กี่กิโลเมตรนี้เอง

    ไพร พากลุ่มค้นหาตัวร้อยเอกพันภพเดินลึกเข้าไปในป่า ในป่าแห่งนี้ ไม่มีแม้แต่เสียงนก มีแต่เสียงของสัตว์ไม่ทราบสัญชาติ ร้องอยู่เต็มไปหมด และ เบื้องหน้าของไพร ก็มีบ่อน้ำแห่งหนึ่ง ขวางกั้นอยู่
    “บ่อน้ำนี่”
    “ดีจัง ได้ดื่มน้ำแล้ว” ลิซ่ากล่าวอย่างสดใส และเดินเข้าไปหมายจะดื่มน้ำแก้กระหาย แต่แล้ว ไพรก็รีบดึงลิซ่ากลับมา ก่อนที่จะสัมผัสผิวน้ำนั่น
    งูพิษฝูงหนึ่ง ผุดขึ้นมาจากบ่อน้ำ เลื้อยไปมาในน้ำยั้วเยี้ยเต็มไปหมด สร้างความขนลุกแก่พวกลิซ่าเป็นอย่างมาก
    “พวกเรา เดินอ้อมไปหน่อยเถอะ” ยุทธนาเอ่ยขึ้น พวกไพรเดินนำอ้อมบ่อน้ำไป แต่ก็พบกับกิ่งไม้ปกปิดทางอยู่ ไพรและวัน จึงใช้มีดพร้าฟันฉับกิ่งไม้เหล่านั้นเพื่อเปิดทางไปข้างหน้าต่อ แต่แล้ว พวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อสิ่งที่อยู่บนต้นไม้ กำลังค่อยๆไต่ลงมาอย่างน่ากลัว
    “ฝูงแมงมุมพิษยักษ์” แมงมุมมีพิษขนาดใหญ่จำนวนหลายสิบตัว ไต่ลงมาจากต้นไม้โดยหมายจะกินพวกไพรเป็นอาหาร ไพร ยุทธนา ไม่รอช้า ใช้ปืนของตัวเองสาดกระสุนใส่เหล่าแมงมุมยักษ์เหล่านั้นให้สิ้นให้หมด

    “วัน นำทางพวกคุณลิซ่าไปข้างหน้าเรื่องๆนะ จนกว่าจะออกจากเขตป่าอสรสัตว์นี้ได้” ไพรรีบออกคำสั่ง
    “แล้วเอ็งล่ะไพร?”
    “ไม่ต้องห่วง ข้ากับคุณยุทธนาจะตามออกไปทีหลัง เอ็งรีบพาพวกคุณลิซ่า ออกไปก่อนเลย เร็ว!!”

    วันรีบวิ่งนำกลุ่มนักสำรวจ ออกจากบริเวณนั้นโดยเร็ว เหลือแต่ไพร กับ ยุทธนาที่ยังคงใช้ปืน เป่าสมองของแมงมุมยักษ์อยู่เพื่อถ่วงเวลาให้พวกวันหนีไปให้ไกลที่สุด
    “พวกมันมาไม่หมดซะทีนะครับ!!” ยุทธนากล่าว
    “ไม่ไหวละ ยิงไปก็เปลืองกระสุนเปล่า อย่างพวกมันต้องเจอแบบนี้”

    ไพรดึงเอากระสุนปืน .475 ดับเบิลไรเฟิลของเขา ออกมาจากกระเป๋าสะพาย และเขวี้ยงไปยังกลุ่มแมงมุมยักษ์ที่ยังดาหน้าเข้ามาไม่หยุด ไพรจุดไฟที่ไม้ขีดแล้วเขวี้ยงไปยังกระสุนปืนที่เขาเขวี้ยงออกไปก่อนหน้านี้
    “เร็ว คุณยุทธนา!!” ไพรคว้าข้อมือของยุทธนาแล้ว วิ่งออกไปจากบริเวณนั้น ฝูงแมงมุมยักษ์วิ่งตาม แต่ไม่ทันแล้ว ไม่ขีดไฟซึ่งติดไฟแล้ว เกิดการปะทุเมื่อโดนกระสุนปืนที่ไพรเขวี้ยงออกไป เกิดการระเบิดขึ้น ณ จุดที่เหล่าแมงมุมยักษ์ เดินเข้ามา เศษชิ้นส่วนของแมงมุมยักษ์กระจายไปทั่ว แผนของไพรเป็นผลสำเร็จ
    “ค่อยยังชั่ว” ไพรกล่าวอย่างโล่งอก
    “ชู่ว...ฟังสิคุณไพร” ไพรกับยุทธนาเงี่ยหูฟัง เสียงของพวกวัน ที่ล่วงหน้าไปก่อน กรีดร้องสุดๆ เพราะได้พบกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัวสุดๆ

    วันใช้กระสุนยิงใส่มันจนหมด ฝูงกิ้งก่ามีพิษ ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าใกล้พวกของวัน ขจร ก็ได้ช่วยยิงปืนใส่พวกมัน แต่ก็ไม่สำเร็จ พวกมันอยู่กันเป็นฝูงใหญ่ เหลือแต่เพียงพวกไพรที่วิ่งเข้ามาช่วยได้โดยทันเวลาพอดี โดยการเขวี้ยงกระสุนปืนใส่ฝูงกิ้งก่า และจุดไฟจนเกิดการระเบิด
    “พวกเรา...หนีเร็ว!!”
    “ไพร!!”
    ไพร วิ่งนำหน้ากลุ่มไปเรื่อย และใช้มีด ฟันกิ่งไม้ที่ขวางหน้าจนขาดสะบั้นทั้งหมดเพื่อเปิดทางไปเรื่อยๆ กระแสลมวูบเข้ามา มันเป็นลมกรรโชกที่รุนแรงมาก และวันก็เกิดความคิดดีๆขึ้นมา วันจุดไฟขึ้น และจุดเข้าที่ กองใบไม้แห้งที่กองอยู่ใกล้ๆกับต้นไม้ ในไม่ช้า เปลวเพลิงก็ลุกท่วมขึ้น ค่อยๆลาม ขึ้นต้นไม้ และต่อกันไปทอดๆ จากต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง เพื่อปิดตำนานอันน่ากลัวของป่าอสรสัตว์โดยถาวร วันจึงจัดการเผาป่าอสรสัตว์ให้วอดวายไปในทันที เหล่าอสรสัตว์ที่อยู่ในเขตป่าอสรสัตว์ ถูกย่างสดทั้งเป็น
    “จบสิ้นกันซักที ตำนานป่าอสรสัตว์”

    กลุ่มสำรวจ เดินมุ่งหน้าขึ้นต่อไปโดยทิ้งซากป่าอสรสัตว์ที่ถูกเผาไว้เบื้องหลัง พวกเขามุ่งหน้าต่อไปโดยเดินทางเลียบไปตามแม่น้ำ และยังต้องคอยระวังจระเข้ที่อาจจะโผล่ขึ้นมา และขึ้นมาบนบกอีก
    “ไพร เรามาไกลแล้วล่ะ พักกันก่อนเถอะข้าว่า” วันเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเหนื่อยล้า
    “ไปอีกนิดดีกว่า ข้างหน้าเรา น่าจะมีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์กว่านี้นะ” ไพรเดินนำกลุ่มต่อไปจนกระทั่งมาหยุดตรง บึงใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งคั่นระยะทางไว้ บึงน้ำแห่งนี้ เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำสีเขียวจนมองไม่เห็นใต้น้ำเลย และยังสงบนิ่ง
    “เอาไงดีไพร ข้าว่าบึงนี่น่าสงสัยนะ” วันกล่าว
    ไพร เดินหันหลังและหยิบก้อนหินขนาดกำมือหนึ่งขึ้นมา และเขวี้ยงลงไปในน้ำ ฝูงจระเข้ตัวมหึมา ลอยผุดขึ้นมา ส่งเสียงคำรามในลำคอดังฟู่ๆ ถ้าไพรพาลุยลงไปในน้ำ ก็จะเสร็จพวกมันแน่ๆ
    “ที่ไหนมีน้ำในป่า ย่อมมีพวกมัน”
    ไพรตัดสิน นำทางกลุ่มนักสำรวจให้ออกห่างจากบริเวณริมน้ำให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ตั้งแคมป์ยังจุดที่น่าจะปลอดภัยที่สุด ไพรได้เข้าไปหาของป่ามาให้ และให้วันทำหน้าที่ยามเฝ้าแคมป์ ลิซ่า ให้นมลูกเสือโคร่งอย่างเอ็นดู และท่าทาง ลูกเสือดคร่งตัวนี้ ก็เริ่มคุ้นกับลิซ่า จึงทำให้มันเกิดรู้สึกเชื่องขึ้นกับลิซ่า
    “ดีละ....เรียกมันว่าเจ้าลายมาตลอด ตั้งชื่อให้มันดีกว่า....เอ....งั้น ชื่อว่าวายุดีกว่า ชื่อดูปราดเปรียวดี” ลิซ่าตั้งชื่อให้เจ้าลายตัวน้อยนี้ ไพรเข้าไปหาของป่า และเขา ก็ได้พบกับรอยถางป่าขนาดใหญ่ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
    “โอ.....โขลงนางแปรก มาถึงที่นี่เชียวเหรอเนี่ย!?”

    ไพรหาของป่าได้มากพอสมควร จึงได้กลับมายังที่แคมป์ ลูกไม้ป่าที่ไพรตรวจดูแล้วว่า ไม่มีพิษ สามารถกินได้ พวกลิซ่า ได้กินอย่างเอร็ดอร่อย แต่ไพร ก็ยังอดกังวลใจไม่ได้ว่า อาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นในคืนนี้
    “พวกเรา....ตอนนี้ผมคิดว่า เราอยู่ในช่วงที่เป้นทางผ่านของโขลงนางแปรกมันเข้านะ”
    “โขลงนางแปรก?”
    “ใช่ครับ....โขลงนางแปรก.....เป็นโขลงช้างป่าที่ดุร้าย มักจะออกไปทำลายไร่ของชาวบ้านตามที่ต่างๆมามากแล้ว” ไพรพูดถึงโขลงช้างป่าที่ชอบลงไปอาละวาดทำลายไร่สวนของชาวป่า เป็นประจำ ซึ่งมีชื่อว่า โขลงนางแปรก
    “จากที่ผมดูเส้นทาง โขลงนางแปรกน่ะ พึ่งจะผ่านทางนี้ไปได้ไม่นาน และอีกไม่นาน ก็จะค่ำแล้ว โขลงนางแปรกจะต้อง กลับมายังทางนี้แน่ ขอให้พวกเรา ระวังตัวด้วย เพราะเป็นไปได้สูงว่า เราจะต้องปะทะกับโขลงนางแปรกนั่นเข้า”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×