ตอนที่ 7 : - ๐.*.๐ - Cinderella 3225 - ๐.*.๐ - วันที่ 05 แตกร้าว
Author กัลฐิดา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ
อาทิตย์นี้ฝนตกทุกวัน กัลก็นอนหลับสบายทุกวันเหมือนกัน ฮ่าา
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่กัลควรเร่งรีบแล้ว แต่ว่า ก็ยังทำตัวเอื่อยเฉื่อยต่อมาอีกหน่อย
อาจเป็นเพราะมีหลายอย่างให้ต้องทำ แต่ขี้เกียจเลยพาลไม่ทำเสียทุกอย่าง
ทุกคนเคยเป็นเหมือนกันใช่ไหมคะ ^^
แต่ช่วงเวลาแห่งการขี้เกียจกำลังจะหมดไปเพราะเดตไลน์เข้าใกล้มาแล้ว
มีน้องๆ ถามในเฟสบุคมาหลายคนว่า นิยายเรื่องนี้จะออกทันเดือนตุลาไหม
ขอตอบว่า ไม่ทันนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่า กัลมีงานทำหลายอย่าง
การเขียนนิยายสองเรื่องพร้อมกัน ย่อมต้องมีเรื่องหนึ่งที่พิมพ์ได้ช้ากว่า
เนื่องจากคาเลนดาร์เป็นนิยายชุดที่กัลวางแผนให้ออกให้ทันทุกงานหนังสือ
ดังนั้น กัลจึงต้องให้จัดลำดับให้กับคาเลนดาร์ก่อน
สำหรับเรื่องนี้ ก็พิมพ์เรื่อยๆ ตามเวลาที่มีค่ะ ^^
แล้ววันนี้ก็มีข่าวร้ายมาแจ้งด้วย +_+
กัลบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วเนอะว่าจะพยายามโพสให้อ่านทุกอาทิตย์
แต่การโพสครั้งหน้าคงต้องยืดเกินกว่าหนึ่งอาทิตย์
เนื่องจากกัลต้องเดินทางไปต่างจังหวัดค่ะ แล้วก็ไม่สามารถเอาคอมพ์ไปด้วยได้
ดังนั้น ตอนที่หกจะมาโพสให้ทุกคนอ่านได้คือ คืนวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม
รอกันได้เนาะ ถัดไปอีกสองสามวัน ^^
เจอกันวันที่ 5 สิงหาคมค่ะ ^^
กัลฐิดา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 05 แตกร้าว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ซินเดลอยากให้ทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน และอยากให้มีใครสักคนมาปลุกเธอให้ตื่นจากฝันนั้นเสียที นาฬิกาสักเรือนควรสั่นสัญญาณดังขึ้นได้แล้ว หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนขอบอ่างอาบน้ำรุ่นใหม่ล่าสุดในห้องส่วนตัวของผู้ชายที่กำลังทำให้เธอสติแตก ซินเดลกอดผ้าขนหนูที่หยิบจากช่องซักรีดอัตโนมัติซึ่งออกแบบมาเพื่อมาตรฐานบริการของโรงแรมระดับสิบดาวเท่านั้นอย่างไม่รู้สึกตื่นเต้น ถ้าเป็นเวลาปกติเธอคงตื่นตาตื่นใจไปกับห้องน้ำสุดหรูนี้ แต่ตอนนี้กลับไม่รู้สึกอะไรกับมันเลย เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะผู้ชายที่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นด้านนอกน่ะสิ
ผู้ชายที่เธออยากฆ่าให้ตายคามือเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คืออาณาจักรของเขา และเธอกำลังอยู่ในห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนของท่านประธานแม็คโดเวลล์ คอร์ปอเรชัน
‘ถ้าคุณยังไม่อยากขับรถแข่งกับนักข่าวในคืนนี้ คุณต้องขึ้นมากับผม’ นั่นคือข้ออ้างของเขา แต่ซินเดลคิดว่าเป็นคำสั่งมากกว่า ผู้ชายคนนี้ไม่มีวันยอมปล่อยให้เธอทำในสิ่งที่จะฉีกหน้าเขาได้แน่
“เราต้องอาบน้ำซะก่อน”
ซินเดลพึมพำขณะปลดนาฬิกาโทรศัพท์ออก พลางคิดถึงเพื่อนสาวตอนนี้คงหลับฝันดีในห้องพักที่ดีที่สุดของเรือสำราญที่มุ่งตรงสู่เกาะซึ่งได้รับการปรับสภาพให้เหมือนกับเกาะในเขตร้อนของอดีต
‘ดีจริงๆ ที่ซานไม่ชอบพกโทรศัพท์ติดตัว ไม่อย่างนั้นโทรศัพท์เธอคงได้ดังตั้งแต่ขึ้นมาถึงห้องนี้’
ซินเดลคิดขณะปล่อยให้สายน้ำไหลรดผ่านตัว ความตึงเครียดที่มีมาตลอดเย็นทำให้เปลี่ยนใจปิดน้ำจากฝักบัว แล้วเดินตรงไปยังอ่างอาบน้ำเลือกคำสั่งใช้น้ำอุ่น และดูเหมือนมาตรฐานห้องน้ำที่ดีที่สุดของแม็คโดเวลล์ บิลดิงจะทำงานได้ดีเกินคาด ทันทีที่กดคำสั่งใช้น้ำอุ่น ระบบอ่างน้ำวนก็ทำงานทันที เสียงเพลงบรรเลงแนวคลาสสิกที่เธอชอบดังขึ้นเบาๆ ไปพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ก็พ่นออกมาจากเครื่องผลิตไอน้ำตรงข้างผนัง
อืม...อย่างน้อยสามีตามกฎหมายของเธอก็มีรสนิยมเรื่องการตกแต่งห้องน้ำล่ะนะ ซินเดลนึกชมคนที่นั่งอยู่ด้านนอก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขากับเธอเหมือนกัน หรือแม้แต่รสนิยมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวเพลง หนังสือ การพักผ่อน เพียงยี่สิบสี่ชั่วโมงแรกที่ได้รู้จักเขา ก็เหมือนกับได้เห็นตัวเองอีกคนในรูปลักษณ์ของผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็เท่านั้น ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาคือ แม็คโดเวลล์
นานเท่าไรแล้วที่ซินเดลนอนแช่ในอ่างน้ำปล่อยให้บรรยากาศน่ารื่นรมย์ในห้องน้ำนำพาเธอหลุดจากโลกความเป็นจริง ดูเหมือนเธอจะหลับไประหว่างเดินทางกลับไปยังที่ใดที่หนึ่งในความทรงจำเก่าๆ ต่อเมื่อรู้สึกตัวลืมตาขึ้นอีกทีก็เห็นเพดานสูงที่ไม่ใช่เพดานห้องน้ำ
ความนุ่มของที่นอนทำให้หญิงสาวรับรู้ได้ว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงกว้าง ร่างกายถูกห่อหุ่มด้วยเสื้อคลุม แน่นอนว่ามีแค่เสื้อคลุมจริงๆ ที่ห่อหุ่มตัวเธอ ความตระหนกเริ่มแผ่ซ่านตั้งแต่ปลายเส้นผมจนไปถึงปลายเท้า แต่สติของเธอก็กลับมาขจัดความตื่นตระหนกนั้นออกไปอย่างทันท่วงที เมื่อเสียงหายใจแผ่วๆ ของใครบางคนเรียกให้เธอหันไปมองต้นเสียงนั้น และเธอก็พบเจ้าของเตียงที่แท้จริง
ใบหน้ายามหลับใหลของเจ้าของเตียง ทำให้ซินเดลได้สติในที่สุด เธอคงผล็อยหลับไปในห้องน้ำ แล้วเขาคงไปพาเธอออกมา เขามักทำอย่างนั้นเสมอเมื่อตอนที่เราอยู่ด้วยกัน หัวใจของหญิงสาวพองฟูขึ้นด้วยความคิดนั้น เขายังไม่ลืมนิสัยเสียของเธอ เขาจำมันได้ หากเธอไม่ใช่ไอซ์แสค และเขาไม่ใช่แม็คโดเวลล์จะดีแค่ไหนนะ นั่นเป็นคำถามที่ซินเดลหาคำตอบไม่ได้ และคงเสียเวลาเปล่าที่จะหาคำตอบนั้น เพราะมันไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
‘ตีห้า’ ซินเดลมองนาฬิกาที่ข้างหัวเตียงจากแสงสลัวของไฟข้างผนังที่หรี่ไว้ ขณะผุดลุกจากเตียงเดินออกไปยังห้องนั่งเล่น เธอจำได้ว่าอิชเลย์สั่งให้เลขานุการของเขาเอากระเป๋าเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาข้างบน
“อยู่นี่เอง”
ซินเดลพึมพำ ขณะจับกระเป๋าเดินทางที่วางไว้ตรงเก้าอี้รับแขกกลางห้องนั่งเล่นให้นอนราบลง ก่อนจะป้อนรหัสเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ เมื่อกลับออกมาห้องนั่งเล่นก็สว่างไสว โดยมีเจ้าของห้องที่คิดว่าเขายังหลับอยู่บนเตียงนั่งเด่นเป็นศูนย์กลางอยู่แล้ว
“กาแฟหน่อยไหม” อิชเลย์ยกถ้วยกาแฟขึ้นพร้อมกับเอ่ยเป็นเชิงถาม
“ก็ดีค่ะ”
ซินเดลตอบรับ ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์ ในขณะที่ซินเดลทรุดตัวลงนั่งพร้อมกับเปิดโทรทัศน์
“...เป็นเรื่องฮือฮาของทายาทคนสำคัญของแม็คโดเวลล์ เมื่อกลางดึกวันนี้ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงสถานภาพสมรสซึ่งเป็นความลับมายาวนานถึงห้าปี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของแม็คโดเวลล์ได้ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่คุณอิชเลย์ แม็คโดเวลล์ ต้องปิดบังสถานภาพสมรสจนถึงขณะนี้ว่า ฝ่ายหญิงต้องการความเป็นส่วนตัว...”
เนื้อข่าวยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยด้วยการตอบโต้กันไปมาอย่างออกรสชาติระหว่างสองนักอ่านข่าวหน้าตาดี ซึ่งเล่นมุกกันในทำนองที่ว่าซินเดลเป็นผู้หญิงที่ประหลาดที่สุด ที่ไม่ต้องการประกาศให้โลกรู้ว่าเธอโชคดีแค่ไหนที่ได้ผู้ชายอย่าง นายอิชเลย์ แม็คโดเวลล์ มาครอบครอง
“คุณทำให้ฉันดูเหมือนคนโง่” ซินเดลเอ่ย เมื่อชายหนุ่มวางถ้วยกาแฟตรงหน้า
“คุณเองก็ทำให้ผมดูเหมือนเป็นผู้ชายที่ชอบทำหลบๆ ซ่อนๆ” อิชเลย์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ
“ฉันไม่คิดว่าในเวลานี้พวกเราควรมานั่งพูดเล่นกันหรอกค่ะ” ซินเดลโต้กลับเสียงเครียดขณะยกกาแฟขึ้นจิบ และพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงท่าทางพอใจกับรสชาติกาแฟในถ้วยของเธอ
‘เขาเองก็ไม่ลืมเหมือนกันว่าเราชอบกาแฟรสชาติแบบไหน’
“ผมขอเวลาแค่สามเดือน คุณให้ผมไม่ได้เชียวเหรอ” อิชเลย์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง นั่นทำให้ซินเดลชะงักก่อนจะพูดว่า
“ดูเหมือนพวกคุณอับจนหนทางกับปัญหาของพวกคุณจริงๆ”
“คุณรู้ปัญหาของพวกเราดี”
อิชเลย์ตอบกลับเสียงขรึม แต่ซินเดลกลับส่ายหน้า
“ฉันไม่รู้”
“ซิน...”
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
ซินเดลย้ำคำเดิมอย่างหนักแน่น อิชเลย์ถอนหายใจ คงยากที่เขาและเธอจะเริ่มความสัมพันธ์อันดีได้เหมือนเมื่อก่อน
“อาจจะใช่ที่คุณไม่รู้ ก็เหมือนกับที่ครอบครัวของผมไม่ได้นึกเอะใจเลยว่า คุณคือไอซ์แสค”
เพียงแค่คำว่า ‘ไอซ์แสค’ หลุดจากปากผู้ชายตรงหน้า แผ่นหลังของซินเดลก็เหยียดขึ้นตั้งตรงทันที ราวกับพลทหารที่ถูกเรียกขานชื่อ ซินเดลรู้ว่าเวลาแห่งการเจรจาที่แท้จริงมาถึงแล้ว เธอ...ไม่อาจหนีปัญหานี้ได้อีกต่อไป ต่อให้อยากหายตัวไปจากตรงนี้ ผู้ชายตรงหน้าก็คงตามติดเธอไปจนสุดหล้าอยู่ดี
“ทำไมคะ ถ้าพวกคุณรู้ว่าฉันคือใคร พวกคุณจะปฏิบัติต่อฉันดีกว่านี้งั้นสิ” หญิงสาวตีรวน
“ผมไม่ต้องการพูดเรื่องนั้นตอนนี้ เรามีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำก่อนเรื่องนั้น” ชายหนุ่มแย้งเสียงขรึม
ดวงตาของซินเดลวาวขึ้น แต่หญิงสาวกลับซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ลึกๆ ไม่ว่าเมื่อห้าปีที่แล้วหรือตอนนี้ ผู้ชายตรงหน้าก็มักต้องจัดเรียงลำดับความสำคัญของทุกเรื่องราวก่อนเสมอ และ ‘เธอ’ ก็ถูกจัดให้อยู่ในลำดับความสำคัญที่น้อยกว่าหน้าที่ของเขาตลอดมา
‘ทำไมกันนะ ทอม...ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้’
“ผมให้ในสิ่งที่คุณขอแล้ว ซิน ถึงคราวที่คุณต้องทำตามสัญญาของคุณบ้าง”
“ฉันไม่เคยสัญญาอะไรกับคุณทั้งนั้น” ซินเดลตอบกลับเสียงเรียบ
“ซินเดล ไอซ์แสค” อิชเลย์เรียกชื่อหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเข้มดุ แม้ไม่ใช่เสียงตะคอก แต่นั่นเป็นคำเตือนที่คนฟังถึงกับสะดุ้ง
ตลอดสามปีที่ทำงานในชั้นหนึ่งร้อยเก้า เธอได้ยินกิตติศัพท์ความเข้มงวดของเขามามากมาย ข่าวลือที่ดูจะไม่พ้องกับความเป็นจริงที่เธอเคยจำได้ เธอพบเขาในฐานะนักศึกษาปริญญาเอกที่ชื่อ โทมัส อิช ชายหนุ่มผู้รักการสำรวจในคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยเซ็คคันเอิร์ทเช่นเดียวกับเธอ ตอนนั้นซินเดลยังเป็นนักศึกษาปริญญาโท เธอไม่เคยคิดว่ารุ่นพี่ที่ร่วมงานวิจัยด้วยกันคนนั้นจะมีใบหน้าอย่างไร ยามเมื่อเขาออกคำสั่งกับลูกน้องของเขา เขาอาจน่าเคารพและช่างควบคุม แต่ไม่เคยสักครั้งที่เธอจะคิดว่าเขาน่ากลัว แต่ตอนนี้ซินเดลอาจต้องเปลี่ยนความคิดนั้น
ผู้ชายตรงหน้าไม่ใช่ โทมัส อิช สามีของเธอ แต่เขาคือ อิชเลย์ แม็คโดเวลล์ ผู้ชายร้ายกาจที่ฆ่าสามีเธอให้ตายด้วยความเย็นชาของเขา เขาคือคนแปลกหน้าที่เธอไม่ควรกริ่งเกรงใดๆ อีก เธอต้องไม่ตกอยู่ภายใต้ภาพลวงตาของเขา เธอต้องไม่แสดงความอ่อนแอต่อหน้าคนของแม็คโดเวลล์อีก
‘มันต้องไม่เกิดขึ้นอีก’ ซินเดลย้ำกับตัวเอง ขณะกำมืออันสั่นเทาไว้แน่นจนปลายเล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือ และย้ำเตือนตัวเองว่า ห้ามหลบตาเขา
“ค่ะ ฉันเอง คุณกลัวฉันจำชื่อตัวเองไม่ได้เหรอคะ”
“ครับ บางทีผมก็เผลอคิดอย่างนั้นเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบขณะมองใบหน้าเย็นชาของซินเดลอย่างตำหนิ
“ทำไมคะ เดี๋ยวนี้คนเราเปลี่ยนชื่อกันไปมาบ่อยจะตาย นับประสาอะไรกับคนธรรมดาอย่างฉัน”
อิชเลย์หลับตาลงราวกับไม่ต้องการดำเนินการสนทนาเชิงเสียดสีนี้อีกต่อไป ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตานิ่งสงบของเขาทำให้ซินเดลหนาวยะเยือก
“เราจะเล่นบททะเลาะของสามีภรรยาที่กำลังจะหย่านี้ไปอีกนานแค่ไหน”
ซินเดลยักไหล่ “เราไม่ได้เล่นละครสักหน่อย พวกเราคือคู่แต่งงานที่กำลังจะหย่ากันอยู่แล้ว อ้อ ไม่สิ พวกเราหย่ากันแล้ว แค่เกิดความผิดพลาดนิดหน่อย เลยยังติดอยู่ในความสัมพันธ์บ้าๆ นี่”
“ช่วยผม แล้วคุณก็เอาใบหย่าของคุณไป” ชายหนุ่มพูดเหมือนขอร้อง แต่ฟังราวกับออกคำสั่งเสียมากกว่า
“ฉันไม่ช่วย” ซินเดลโต้กลับไม่ลดละ
อิชเลย์หรี่ตามองอย่างพิจารณา “คุณยังรักผมมากจนไม่อยากเป็นอิสระขนาดนั้นเลยหรือไง”
ซินเดลถึงผงะกับการหาเรื่องแบบไม่มีมูลของชายหนุ่ม “คะ..ใครว่า ฉันอยากหย่ากับคุณจะตายไป”
“ก็นั่นสินะ แล้วทำไมคุณไม่รับข้อเสนอของผมล่ะ แค่ทำมัน แล้วเราสองคนก็ไปที่ซีจี[1]กัน”
“การหย่ามันมีหลายวิธีกว่านั้นไม่ใช่เหรอคะ คุณแม็คโดเวลล์” ซินเดลตอกกลับ
“คุณแค่อยากยื้อความสัมพันธ์ของเรามากกว่า”
อิชเลย์พูดในทำนองรำคาญใจ ซินเดลจึงเถียงขึ้นว่า
“คุณสำคัญตัวเองมากไปแล้ว”
“คุณเองก็สำคัญตัวผิดเหมือนกัน คุณไอซ์แสค” ชายหนุ่มย้อนด้วยเสียงเย็นชา
ซินเดลตัวแข็งทื่อไปกับการตอบโต้นั้น ดวงตาเธอเบิกกว้างในขณะที่ได้ยินผู้ชายไร้หัวใจตรงหน้าพูดใส่หน้าเธอต่อว่า
“คุณคิดหรือว่าผมอยากยื้อความสัมพันธ์แบบนี้เอาไว้ ถ้าไม่เพียงเพราะสถานที่ที่พวกเราต้องไปแก้ปัญหานั้น อนุญาตให้แค่คนของแม็คโดเวลล์เข้าไปได้เท่านั้น แล้วถ้าผมหย่ากับคุณตอนนี้ คุณที่เป็นคนเพียงคนเดียวที่จัดการปัญหานี้ได้เท่านั้น จะเข้าไปได้ยังไง”
“คะ...คุณ คุณว่าอะไรนะ” ซินเดลถามด้วยใบหน้าซีดเผือด
อิชเลย์เลือกที่จะทำเหมือนจ้องตาหญิงสาวที่ครอบครองสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา แต่ความจริงเขาเพียงแค่มองผ่านไหล่เธอไปเท่านั้น เขาไม่ต้องการเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของเธอ ความเจ็บปวดที่เขารู้ดีว่า...เป็นเขาเองนี่แหละที่กำลังกรีดมีดลงบนหัวใจของเธอ
“แค่สามเดือน ซินเดล เราสองคนมีเวลาแค่นั้น ไปที่นั่นกับผม เมื่อทุกอย่างจบลง เราจะได้จบความสัมพันธ์ของเราเสียที”
ซินเดลเม้มปากแน่นพยายามที่จะรักษาสติตัวเองให้ถึงที่สุดอย่างสุดความสามารถ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบห้าวว่า
“คุณยื้อความสัมพันธ์นี้มา แค่เพราะเหตุผลนี้งั้นเหรอ”
อิชเลย์แกล้งทำสีหน้างุงงงกับคำถามนั้น “แล้วคุณคิดว่ามีเหตุผลอื่นอีกเหรอ”
ซินเดลรู้สึกดวงตาพร่าเลือนด้วยม่านน้ำ เธอพยายามอย่างที่สุดที่จะบังคับให้มันเป็นเพียงม่านน้ำ ที่จะไม่กลายเป็นน้ำตกไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
“แค่จัดการกับปัญหาของคุณ...เท่านั้น ใช่ไหม” ซินเดลเปล่งเสียงแผ่วหวิวออกมาอย่างยากลำบาก
อิชเลย์ยังคงใช้ดวงตาเย็นชามองใบหน้าหญิงสาวนิ่ง ซึ่งเธอคงไม่รู้ตัวว่าหยดน้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้อย่างยิ่งนั้น มันได้หลั่งรินออกมาแล้วโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ชายหนุ่มกำมือจับหูถ้วยกาแฟแน่นจนนึกสงสัยว่า หากถ้วยที่ถืออยู่ไม่ได้ทำจากวัสดุพิเศษ มันก็คงแตกคามือเขาไปแล้ว
“สามเดือน หรือเร็วกว่านั้น ถ้าเราจัดการปัญหาทุกอย่างเสร็จ พวกเราก็ไปจบความสัมพันธ์นี้กันที่ซีจี”
“สถานที่ล่ะ”
“ที่ที่นักโบราณคดีทุกคนอยากไป...ชุมชนนางฟ้า เราจะเดินทางทันทีที่คุณพร้อม”
อิชเลย์ตอบพลางบังคับตัวเองให้วางถ้วยกาแฟลง ซึ่งเป็นทางเดียวที่เขาจะละสายตาจากใบหน้าอันแสนเจ็บปวดของคนที่เขารักได้
ซินเดลกะพริบตาถี่ๆ เป็นเหตุให้หยดน้ำตาที่เอ่ออยู่เต็มขอบตาร่วงลงกระทบคาง หญิงสาวจึงเพิ่งรู้ตัวว่าเธอกำลังร้องไห้ เธอรีบผุดลุกขึ้นหันหลังเดินไปห้องน้ำทันทีพร้อมกับตอบว่า
“ฉันรับข้อเสนอของคุณ”
ปึง! เสียงประตูห้องน้ำปิดลงพร้อมกับบรรยากาศอันเย็นยะเยือกในห้องนั่งเล่น
อิชเลย์นั่งนิ่งราวกับรูปปั้นที่ไม่ต้องหายใจ ความเงียบอันน่าอึดอัดที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้ยินเสียงเปิดน้ำก๊อกที่แรงจนสุด แต่แม้เสียงน้ำกระทบอ่างล้างหน้าจะดังมากแค่ไหน แต่หูของเขาก็ยังได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของคนที่เพิ่งเดินหายเข้าไปได้อย่างชัดเจน
ชายหนุ่มกำมือทั้งสองข้างแน่นจนรู้สึกถึงความเจ็บที่เล็บจิกเข้าเนื้อ ชายหนุ่มก้มมองดูรอยแดงบนฝ่ามือที่คลายออก
‘นี่คือ...มือของปีศาจร้าย...’
เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์ดังขึ้นดึงชายหนุ่มให้หลุดจากห้วงภวังค์ แล้วพลิกข้อมือมากดรับโทรศัพท์ที่หน้าปัดนาฬิกาเขา หน้าจอสามมิติที่เกิดจากแสงเลเซอร์ปรากฏใบหน้าของนิโคลัส
“ว่าไง” อิชเลย์ถามเสียงเรียบ
“ทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมแล้วครับ” นิโคลัสตอบ
“ขอบใจ จัดการกับนักข่าวด้วย ฉันไม่ต้องการเห็นข่าวเสียหายของภรรยาฉัน”
“ครับ”
สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไปพร้อมกับเสียงถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มหลับตาลงชั่วขณะ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องทำงาน พลางทรุดตัวลงนั่งจ้องมองหญิงสาวในรูปถ่ายที่กำลังส่งยิ้มมาให้ เขาอยากได้ครอบครองรอยยิ้มนี้ตลอดไป แต่น่าเสียดาย สิ่งเดียวที่เขาทำมาตลอดคือการทำลายรอยยิ้มอันสดใสนี้ เมื่อไรกันนะที่ความเจ็บปวดนี้จะสิ้นสุดลง
นิ้วเรียวไล้ไปตามใบหน้าซินเดลในรูปภาพด้วยแววตาอ่อนโยน
“ซิน...อาจเป็นผมเองที่สำคัญตัวเองผิดไป ไม่ใช่คุณ...”
ซินเดลปิดก๊อกน้ำอ่างล้างหน้าพร้อมกับเอื้อมหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับความเปียกชื้นทั้งหมด เธอเคยคิดว่าตัดใจจากอิชเลย์ได้แล้ว แต่ความจริงไม่ใช่ เธอไม่เคยตัดใจได้เลย ในส่วนลึกของจิตใจเธอยังเรียกหาเขาตลอดเวลา ซ้ำยังคาดหวังว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมา สักวันเขาจะกลับมาเป็นโทมัสของเธอ ไม่ใช่อิชเลย์ แม็คโดเวลล์
“เธอมันบ้า ซินเดล บ้าจนถึงขีดสุด” ซินเดลด่าตัวเองในกระจก แล้วถอนหายใจแรงๆ เพื่อขับไล่ความทุกข์ใจทั้งหมดออกไป ก่อนจะยกสองมือตบแก้มเบาๆ
“ตั้งสติสิ ซินเดล แค่ไปที่นั่น จบทุกอย่างซะ แล้วคว้าอิสรภาพของเธอกลับมา...เธอทำได้”
ซินเดลพึมพำคำพูดเดิมซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง เพื่อรวบรวมกำลังใจทั้งหมดให้กลับออกไปเผชิญหน้ากับผู้ชายร้ายกาจคนนั้นอีกครั้ง และเมื่อเธอเดินออกมา เขาก็ไม่อยู่ตรงที่เดิมแล้ว หญิงสาวมองแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาทางผนังกระจก ทำให้อารมณ์โปร่งสบายขึ้น
“เขาน่าจะอยู่ในห้องทำงาน”
หญิงสาวพึมพำพร้อมกับเดินสำรวจห้องชุดที่แพงที่สุดในเซ็นทรัลเอิร์ทไปเรื่อยๆ จนมาถึงประตูห้องหนึ่งซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นห้องทำงาน ประตูไม่ได้ล็อก ซินเดลเลยถือวิสาสะเปิดแง้มดู ภาพที่เห็นก็คือ ชายหนุ่มซึ่งกำลังอ่านและเซ็นเอกสารบางอย่างบนโต๊ะทำงานของเขา
‘ความรักของเราได้จบลงแล้วจริงๆ ใช่ไหม’
ซินเดลคิด มีคนเคยพูดว่าเราจะแน่ใจที่สุดว่าได้หมดรักกับคนรักเก่าแล้วก็คือ เวลาที่คุณตกหลุมรักใหม่อีกครั้ง อาจเป็นได้ว่าห้าปีที่ผ่านมา โทมัสของเธอได้กลายเป็นโทมัสของคนอื่นไปแล้วก็ได้ แต่ไม่ว่าตอนนี้เขาจะเป็นของใคร ซินเดลกลับรู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อได้ชี้ชัดและบ่งบอกสถานะระหว่างเราทั้งคู่อย่างชัดเจนแล้วจากการทะเลาะกันเมื่อกี้
มันอาจยากที่เราจะเลิกรักใครสักคน แต่เราจะตัดใจได้ง่ายขึ้นถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักเราแล้ว ที่เหลือก็แค่ต้องจัดการกับตัวเอง ซินเดลชินกับการควบคุมตัวเองมาตลอดชีวิต ดังนั้นการจัดการกับความรู้สึกของตัวเองจึงเป็นงานถนัดของเธอ ณ ตอนนี้เธอก็แค่ตื่นจากฝันของซินเดอเรลลา มาเป็นซินเดล ผู้หญิงปกติธรรมดาคนหนึ่งก็เท่านั้น
“ฉันเข้าไปได้ไหม”
อิชเลย์เงยหน้าจากเอกสารที่อ่านอยู่แล้วพยักหน้า ซินเดลเดินเข้ามาพลางมองดูรอบๆ ห้องอย่างสนใจ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่ชุดโซฟาด้านหน้าจอเอ็มพีซีขนาดใหญ่ พลางหันไปมองเสี้ยวหน้าชายหนุ่มที่เพิ่งทำเรื่องร้ายกาจกับเธอ
โทษเขาคนเดียวไม่ได้หรอก เธอเองก็ดูเหมือนจะรักเขาน้อยลงกว่าเดิมหรือเปล่า ไม่อย่างนั้น เธอคงเข้ามานั่งมองเขาทำงานหลังจากที่เถียงกันแทบเป็นแทบตายเมื่อครู่ไม่ได้ บางทีเธออาจไม่รักเขาแล้วก็ได้ การที่เสียอกเสียใจอย่างนั้น อาจเป็นเพราะอับอายที่เธอดูเหมือนเป็นผู้หญิงไม่มีค่าเท่านั้น ซินเดลคิด
“ทุกอย่างพร้อมแล้ว ถ้าคุณอยากออกเดินทางเมื่อไรก็ได้ทันที” อิชเลย์เอ่ยโดยไม่เงยหน้า
“ฉันต้องการเข้าระบบฐานข้อมูลของแผนกของฉันก่อน มีข้อมูลหลายอย่างที่ฉันต้องเอาไปด้วย”
อิชเลย์เงยหน้าขึ้นสบตาซินเดล “ผมจะให้นิคปลดการล็อกระบบให้”
“ขอบคุณ ดูคุณมั่นใจเหลือเกินว่าฉันจะช่วยคุณได้ คุณแม็คโดเวลล์”
“ถ้าไม่อยากให้ระหว่างเราเป็นที่ผิดสังเกต อย่างน้อยคุณควรเรียกผมว่า อิชเลย์ เพราะคงดูแปลกที่ภรรยาเรียกสามีด้วยนามสกุล”
อิชเลย์เตือนเสียงเรียบ ก่อนจะปิดแฟ้มที่เขาอ่านอยู่ แล้วพูดต่อว่า
“ผมมั่นใจว่าคุณช่วยเราได้ ผลงานวิจัยหลายชิ้นของคุณสามารถไขปริศนาบางอย่างให้เราได้ และคิดว่าข้อมูลจริงๆ ที่คุณมีในมือตอนนี้คงมากกว่าที่ได้รายงานไปให้เบื้องบน ดังนั้น ขณะนี้คุณคือคนที่เข้าใกล้คำตอบในสิ่งที่พวกเราตามหามากที่สุดครับ”
“ที่จริงถ้าเพียงแต่คุณเจาะเข้าไปเอาข้อมูลในเอ็มพีซีสำนักงานของฉัน...”
“เราทำแล้ว...และคุณก็ฉลาดมาก ซิน คุณเก็บข้อมูลโดยการใส่รหัส จึงมีเพียงคุณที่อ่านมันออก...ภาษาโบราณหลากหลายภาษาที่แม้แต่เครื่องแปลภาษาก็ยังแปลไม่ได้ แต่คุณแปลมันได้ นั่นคือความสามารถที่คุณไม่ได้รายงานไว้ในประวัติความสามารถพิเศษ ไม่ใช่เหรอ”
ซินเดลยักไหล่ เธอมีความสามารถในการเรียนรู้และเข้าใจภาษาได้ดีมาโดยสายเลือดเหมือนกับทุกคนในตระกูลไอซ์แสค และโลกในยุคสามพันสองร้อยยี่สิบห้าก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเพียงภาษาเดียว แต่ภาษาของคนในยุคนี้เป็นภาษาที่เกิดจากการพัฒนาของหลากหลายภาษารวมกันขึ้นมา เนื่องด้วยการเกิดวิกฤตการณ์คูลชาร์ป ทำให้วัฒนธรรมเกือบทั้งหมดสูญหายไป แน่นอน นั่นรวมไปถึงสิ่งที่เป็นเหมือนกระบอกเสียงของประวัติศาสตร์อย่างภาษาด้วย แต่คนของตระกูลไอซ์แสคอยู่เหนือกฎเกณฑ์นั้น
พวกเราไอซ์แสคคือนักโบราณคดี พวกเราคือสายเลือดที่ได้รับเลือกให้คุ้มครองกระบอกเสียงของประวัติศาสตร์ ดังนั้น ภาษาจึงไม่เคยเป็นอุปสรรคของซินเดล และเพราะเธอรักในความสามารถนี้มาก เกมสนุกๆ อย่างการประดิษฐ์รหัสภาษาศาสตร์จึงเกิดขึ้น และเพราะเกมสนุกๆ นี้เอง ซินเดลจึงสามารถเก็บทุกอย่างที่เธออยากเก็บเป็นความลับได้ตลอดมา
“พวกญาติๆ ของคุณ...พวกเขายอมรับแผนการนี้ของคุณหรือยังคะ” ซินเดลเปลี่ยนเรื่อง
“เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของพวกเขาหรอก” อิชเลย์ตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ขณะหยิบเอกสารอีกแฟ้มขึ้นมาอ่านอย่างไม่ใส่ใจกับปัญหาที่หญิงสาวกังวลนัก
“ฉันคุกเข่าขอร้องพวกเขา” หญิงสาวเอ่ยเสียงเย็นยะเยียบขึ้นลอยๆ
อิชเลย์ชะงักมือที่กำลังพลิกหน้ากระดาษเงยหน้าขึ้นสบตาซินเดล
ซินเดลนึกฉงนกับท่าทางของเขา ไม่รู้แปลว่าอะไร มันแสดงว่าเขาแปลกใจขณะเดียวกันก็ดูเหมือนเขารู้เรื่องนี้แล้ว แต่ใครจะสนเรื่องนั้นล่ะ ณ ตอนนี้สิ่งที่ซินเดลทำได้ก็เพียงแค่ยิ้มเยาะกับอดีตที่น่าอดสูของตัวเองเท่านั้น
“ฉันคุกเข่าต่อหน้าพวกเขา เพื่อขอร้องเรื่องของเรา...”
ซินเดลหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจพูดต่อด้วยดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้าว่า
“...แต่ทุกอย่างก็จบลงไม่ค่อยดีนักเมื่อห้าปีก่อน ดังนั้นฝากบอกพวกเขาด้วย ถ้าในเวลาอันใกล้นี้ฉันจำเป็นต้องเจอกับพวกเขา อย่าคาดหวังว่าฉันจะเป็นเหมือนเมื่อก่อน ขอตัวก่อนนะคะ ฉันอยากนอนต่ออีกสักหน่อย ทำไงได้ล่ะ ก็มันเป็นวันหยุดพักผ่อนของฉันนี่นา จริงไหม”
อิชเลย์มองตามหลังซินเดลที่เดินไปจนถึงประตู แล้วซินเดลก็หันกลับมาเหมือนนึกอะไรได้
“รู้อะไรไหมคะ ทอม สิ่งเดียวที่ไอซ์แสคอย่างฉันชื่นชมตระกูลแม็คโดเวลล์ของคุณก็คือ พวกคุณยอมทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งขายวิญญาณให้แก่ปีศาจร้าย เพื่อคงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ของพวกคุณเอง...”
รอยยิ้มเยาะหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากซินเดล ในขณะที่พิจารณาใบหน้าเคร่งเครียดของอิชเลย์
“...ที่น่าตลกก็คือ เพราะความยิ่งใหญ่ที่ว่า ผู้คนบนโลกใหม่นี้จึงยกย่องให้พวกคุณคือราชา ส่วนพวกเราไอซ์แสคเป็นได้อย่างมากก็แค่ ฐานรองบัลลังก์ให้แก่พวกคุณเท่านั้น”
“ซิน...”
ยังไม่ทันที่อิชเลย์จะพูดอะไรต่อ ซินเดลก็โบกมือแล้วตัดบทว่า
“ราตรีสวัสดิ์ในยามเช้าอันแสนสดใส คุณสามีที่รัก เจอกันตอนฉันตื่นนะคะ”
[1] CG ย่อมาจาก Central Government Building ที่ว่าการของเกาะเซ็นทรัลเอิร์ท เป็นสถานที่ซึ่งรวมหน่วยงานราชการของทั้งเกาะเอาไว้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นไงคะ อ่านตอนนี้ พระเอกของเรา ได้ร้ายกาจสมฉายาเลยไหม
ตอนนี้ก็เป็นอีกตอนที่เขียนยากสำหรับกัล
เพราะปกติ กัลมักจะไม่ค่อยชอบฉากการทำร้ายทางจิตใจเท่าไร
แต่เรื่องนี้ธรีมมันให้ เลยเขียนเสีย ดราม่าเลย หวังว่าคงยังพอรับไหวนะคะ
สปอยค่ะ
“คุณไม่เคยบอกว่ามีครอบครัว”
“ใครบ้างไม่มีครอบครัวคะ ฉันไมได้เกิดจากกระบอกไม้ใผ่นะ” ซินเดลเล่นลิ้นขณะเปลี่ยนเล่มหนังสือ
“อะไรคือการทำผิดกฏ”
มือที่กำลังพลิกหน้าปกหนังสือเล่มใหม่ออกชะงักเพียงเล็กน้อยก็เปิดต่อเหมือนกับเธอไม่คิดจะใส่ใจกับคำถามนั้น
“ตอบผมซิน”
“ทุกครอบครัวก็ต้องมีกฏอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ หรือแม็คโดเวลล์ไม่มี”
“ใช่เรามี แล้วกฏของไอซ์แสคคืออะไรล่ะ” ชายหนุ่มยังไม่ยอมหลุดประเด็นเป็นเหตุให้ซินเดลเลิกสนใจหนังสือที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกี่ยวกับอะไรเพราะสมองเอาแต่คิดว่าอธิบายให้เขาฟังอย่างไร
“มันสำคัญเหรอคะ ที่คุณจำเป็นต้องรู้กฏครอบครัวของฉัน” ซินเดลเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่น่าจะหันมามองเธอได้สักพักแล้ว
“ถ้าครอบครัวที่ว่าเป็นครอบครัวของภรรยาเพียงคนเดียวของผม คุณคิดว่า มันจำเป็นไหมล่ะ”
แต่เท่าที่หนูอ่านเซวีน่ากับเดรกเกอร์
มีฉากที่ทำให้หนูร้องไห้อ่ะ >^<
น่าสงสารและน่าเห็นใจทั้งคู่จริงๆ
สู้ต่อไปค่ะพี่กัล เพิ่งมาอ่าน ช้าไปไหมเนี่ย
นับถืออิสเรย์จริงๆ ความร้ายกาจที่แลกมาด้วยหัวใจที่ถูกทำลาย
ทอมงี้ไมอ่ะ... ซินเสียใจนะ...
ส่วนพระเอกนี่จะเจ้าเล่ห์ไปถึงไหนก็ไม่รู้ T^T
_________________________________________________________________________
PS. พี่กัลเขียนได้ดีจริงๆ ^^
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 2 พฤษภาคม 2556 / 23:00
แต่มันน่าหมั่นไส้นะ -*- (เค้าพูดเล่นนะพี่กัล . . )
เราเป็นคนที่ ชอบให้ผู้หญิงมีอำนาจเหนือผู้ชาย แต่ก็ต้องมีเหตุผลด้วย
หลายๆเรื่องที่เคลอ่าน คนอ่านคนอื่นภาวนาให้คืนดีกันแต่เราภาวนาให้นางเอกงอนต่อไป(?)
เรื่องนี้แบบ ชอบมากค่ะพี่กัล! อ่านแล้วชอบ
เศร้าจัง แต่ถ้าเปนอย่างนั้นคงมีน้อยคนนักที่จะอดทนเพื่อจะได้ครองคู่กันต่อไปเรื่อยๆ
ถือว่า ท่านชายทอม เก่งมากจริงๆ
พี่กัลมันจะเล่มเดียวจบได้มั๊ยนี่ 55555
เราสองคนยังคงรักกันมาก มากมายเสียด้วย
แต่ความคิดที่ถูกทำให้ผิดเพี้ยนไปนั่น เพราะใคร และเพราะอะไร ไม่รู้
การเสียใจเลยต้องเกิดขึ้นระหว่างคนสองคน แต่ราชาอย่างทอม จะยอมเสียซินเดอเรลล่าในมืออีกครั้ง คงเป็นไปไม่ได้
โจทย์ข้อนี้จึงแลดูยากและยากมากๆ จึงเรียนให้ไร้ท์เตอร์รู้ว่า เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะตามอ่านให้ถึงที่สุด ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
เรื่องอะไรจะให้คนที่รักกัน พรากจากกันได้ ชิมิ ไร้ท์เตอร์ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
เนื้อหาน่าติดตามมาก