ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความจริงที่ถูกเปิดเผย
“มาเร็วดีนี่...ดูท่าทางนายจะสนใจรูปนั้นมากนะ”โฮนาพูดแล้วเดินนำไปที่ตึกวิทที่อยู่ด้านหลังของโรงเรียน
“ตึกนี้น่ะเก่ามากแล้ว และไม่ได้เปิดใช้สอนอีก แต่ชั้นขอไว้เป็นห้องชมรมถ่ายภาพของชั้นเอง และชั้นก็เอาไว้เก็บของด้วย แต่อีกไม่นานก็โดนทุบทิ้งแล้วล่ะ”โฮนาอธิบายพลางเปิดประตูเข้าไปภายในห้องที่เต็มไปด้วยรูปที่เพิ่งล้างเสร็จและฟิล์มกองอยู่ระเกะระกะ
“รกหน่อยนะ ชมรมนี้มีชั้นอยู่คนเดียว เลยไม่ค่อยเก็บ อย่างที่เห็นงานชั้นค่อนข้างเยอะ”โฮนายังคงพูดต่อไป แล้วเดินไปที่ด้านหลังห้อง
ภาพหนึ่งที่มีขนาดเกือบครึ่งตัวคน แต่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าขาวที่ดูเก่าคร่ำคร่า บ่งบอกว่าถูกทิ้งไว้นานเพียงใด วางไว้อย่างไม่ได้รับการดูแล
“นี่แหละ รูปที่นายอยากเห็น”หญิงสาวพูดพลางดึงผ้าออก ยุนโฮยืนลุ้นด้วยใจที่ระทึก
ในที่สุดเขาก็จะได้เห็นภาพนี้ด้วยตาตัวเองสักที มันจะสวยสักแค่ไหนกันนะ
เมื่อผ้าขาวถูกดึงออก ฝุ่นก็ฟุ้งกระจายจนทั้งสองคนต้องปิดจมูก หลับตา สำลักฝุ่นไปตามๆกัน แล้วพอร่างสูงมองผ่านหมอกฝุ่นเห็นภาพนั้นชัดเต็มสองตา ก็ได้แต่ตกตะลึกจนตาโตเท่าไข่ห่าน
“นี่มันอะไรกัน? ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”ยุนโฮถามอย่างตกใจ โดยที่ตายังคงมองภาพนั้นไม่ไปไหน เอื้อมมือไปแตะภาพนั้นอย่างเลื่อนลอย
ภาพที่ควรจะสวยงามอย่างที่เคยเป็น กลับถูกกรีดทิ้งจนเละ ใบหน้าของเด็กผู้ชายในภาพแม้จะยังคงสดใส แต่ก็ถูกกรีดตั้งแต่ตาซ้ายจนถึงหูขวา ทั่วทั้งใบหน้ามีแต่รอยกรีดขาดจนดูน่ากลัว แทบจะไม่เป็นรูปเดิมอีกแล้ว
“ไม่เหลือเค้าที่เคยได้รางวัลเลยใช่มั๊ยล่ะ?”โฮนาพูดพลางมองอีกฝ่ายที่ยังดูตกใจไม่หาย “รูปนี้เคยสวยมากเลย แจจุงเค้ามีพรสวรรค์มาก”
“แจจุง!ใช่ ทำไมเค้าถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”ยุนโฮถามอย่างนึกขึ้นได้ว่าคนวาดก็เปลี่ยนไปเหมือนภาพนี้เช่นกัน
“ชั้นไม่รู้รายละเอียดมากหรอกนะ เท่าที่รู้ก็คือ เมื่อก่อนแจจุงน่ะหล่อมาก อย่างที่นายเห็นในภาพนั้นน่ะแหละ เขาป๊อบแล้วก็เก่งมากด้วย เขากับพวกชางมิน ไอ้ป๊อกกี้ และยูชอนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก แน่นอนว่าเจ้าพวกนั้นเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ จนแจจุงวาดภาพนี้ขึ้นมา ในชมรมวาดภาพมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อยองอา”โฮนาพูดได้แค่นั้น ยุนโฮก็สังเกตเห็นว่ารอยกรีดบนภาพนั้นเป็นอักษรว่า ยองอา
“นั่นแหละ ชั้นถึงคิดว่าเธอเป็นต้นเหตุ ตอนนั้นยองอาน่ะชอบแจจุง ที่ชั้นรู้ก็เพราะว่าเธออยู่ห้องของเรา และมักมาขอรูปแจจุงจากชั้นเสมอ เธอเป็นคนเรียบร้อย อ่อนโยน น่ารักมากเลยล่ะ”โฮนาพูดพลางเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
“อยู่มาวันหนึ่ง”น้ำเสียงของหญิงสาวเศร้าอย่างเห็นได้ชัด “เธอก็กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ที่โรงเรียนนี่แหละ ไม่มีจดหมายลาตายอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเธอทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร”
“หลังจากนั้นภาพนั้นก็ถูกกรีดขาดอย่างที่เห็น มีคนรู้เรื่องภาพนี่ไม่กี่คนหรอก แจจุงขอให้ปิดเป็นความลับ แล้วให้เอามาไว้ที่นี่”
“แล้วเจ้าพวกนั้นสี่คนก็เริ่มหยุดเรียนบ่อยขึ้น เหมือนจะทะเลาะอะไรกันชั้นก็ไม่รู้ เจ้าพวกนั้นไม่ยอมพูดอะไรกันเลย จนเป็นอย่างที่เห็น แจจุงก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยูชอนก็ไม่ยอมมาเรียน ชางมินก็เอาแต่บ้างานจนไม่มีใครเห็นเจ้านั่นยิ้มอีกเลย เมื่อก่อนเขาร่าเริงกว่านี้นะ เจ้าป๊อกกี้ก็ดูเก็บตัวมากขึ้น เหมือนมีเรื่องอะไรในใจ”หญิงสาวเล่า
“แต่ที่ดูจะไม่เปลี่ยนไปเลย ก็เธอนี่แหละที่ยังสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านอยู่เรื่อย”เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้ทั้งสองคนสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหันไปหาต้นเสียง
ก็พบว่าเป็นจุนซูนั่นเอง
“เจ้านี่ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้เรื่องภาพนี่ ถ้านายอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ถามเจ้านี่ดูล่ะกัน ดูท่าน่าจะรู้อะไรมากกว่าชั้น”โฮนาพูดพลางยักไหล่แล้วเดินจากไป ก่อนจะเชิดหน้าใส่จุนซูเล็กน้อย
“นายนี่สงสัยจะอยู่กับยัยนี่มากไป ถึงได้สนใจเรื่องของชาวบ้านนัก”
จุนซูนี่เห็นดูนิ่มๆ แต่ปากร้ายชะมัดเลยแหะ
“ชั้นก็แค่อยากรู้ว่า ทำไมแจจุงถึงได้เปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“มันไม่ใช่เรื่องของนาย อย่ามายุ่งจะดีกว่า”จุนซูพูดเสียงแข็งก่อนจะหันหลังเดินกลับไป
“นายเป็นเพื่อนกันประสาอะไร เห็นเพื่อนเป็นอย่างนี้ยังไม่คิดจะช่วย”ยุนโฮพูดอย่างเหลืออด
ได้ผล
เมื่อจุนซูหยุดเดินแล้วหันกลับมา
เมื่อจุนซูหยุดเดินแล้วหันกลับมา
“นายจะไปเข้าใจอะไร นายไม่รู้อะไรอย่ามาพูดเลยดีกว่า”ร่างเล็กตะคอกกลับอย่างเหลืออด ด้วยแววตาที่ดุดัน
“ชั้นเป็นห่วงเขา ชั้นอยากจะให้เขาพ้นจากไอ้สภาพบ้าๆ นี่เสียที”ยุนโฮก็ตะโกนกลับไปไม่แพ้กัน แม้เห็นว่าดวงตาของอีกฝ่ายเริ่มเอ่อคลอ
แต่เขาต้องการจะรู้จริงๆ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ พวกนายกลัวอะไรกันอยู่
“แล้วนายคิดว่าชั้นไม่อยากเหรอ ทำไมชั้นจะไม่อยากให้แจจุงเหมือนเดิม พวกเรากลับมาคบกันเหมือนเดิม ชั้นพยายามแล้ว แต่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ชั้นทำอะไรไม่ได้เลย ชั้นไม่รู้จะช่วยยังไง ยิ่งวันนั้น ชั้นเห็นแจจุงนั่งมองนายที่สวนนั่น ชั้นสงสารเขาจับใจ แต่คนอย่างชั้นจะทำอะไรได้ ฮือ... ฮือ..”ร่างเล็กพูดออกมาทั้งน้ำตา แล้วลงไปนั่งกับพื้นสะอื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
ร่างสูงเดินไปแตะบ่าอีกฝ่ายพลางบีบเบาๆ
“สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวนะ ชั้นจะช่วยอีกคน เรามาลองพยายามด้วยกันมั้ยล่ะ? ชั้นเองก็อยากเห็นพวกนายดีกันเหมือนเดิมอีกครั้ง”
จุนซูเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงทั้งน้ำตา ยุนโฮยิ้มน้อยๆ จุนซูได้แต่พยักหน้า
“ก็ได้ นายจะช่วยได้ก็ได้ เท่าที่ดูนายก็น่าจะไว้ใจได้ แล้วอีกอย่าง....”
“อะไร?”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”จุนซูพูดพลางเอามือเช็ดน้ำตา แล้วเดินนำยุนโฮออกมา
ทั้งสองเดินขึ้นมาจนถึงดาดฟ้า
“นี่เราต้องแอบขึ้นมายันบนนี้เลยเหรอ”ยุนโฮพูดพลางมองจุนซูที่กำลังล็อคประตูดาดฟ้าอยู่
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวยังโฮนารู้เข้าจะแย่ใหญ่”จุนซูพูดแล้วเดินนำมาที่ริมรั้ง
ร่างเล็กมองออกไปข้างหน้า สูดหายใจเข้าไปเหมือนจะระบายสิ่งที่รบกวนจิตใจออกไปให้หมด ใบหน้าขาวยังคงมีรอยน้ำตาอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ดูเศร้าโศกเหมือนตอนแรก แล้วหันกลับมาหาร่างสูงที่ยืนมองอยู่นิ่งๆ อีกครั้ง
“เรื่องก็เหมือนที่โฮนาเล่าให้ฟังนั่นแหละ”
ป๋อย.....ป๋อย.....*-* แล้วนายจะทำตัวลับๆ ล่อๆ ทำหยัง?
“อย่าทำหน้าเซ็งอย่างนั้นสิ ยังพูดไม่จบเลย ฮิ...ฮิ.”จุนซูพูดยิ้มๆ แล้วหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
มันคือ......
ป๊อกกี้รสชอคโกแลต ที่เขามักพกมันติดตัวนั่นเอง
“กินมะ? ^-^”
ยังมีหน้ามาถามอีกไอ้นี่?
ร่างสูงส่ายหน้าแรงๆ
จุนซูเอียงคออย่างไม่สนใจเอาป๊อกกี้เข้าปากแล้วเล่าต่อ
ไอ้คนที่นั่งร้องไห้เมื่อกี้ไปไหน ไปเอามันกลับมาซิ
“หลังจากยองอาตาย ก็เกิดเรื่องแปลกๆ กับพวกเราสี่คน”จุนซูเริ่มเล่า ทำให้ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้อย่างสนใจ ใบหน้าของร่างเล็กเริ่มขรึมขึ้น
มันต้องอย่างนี้สิ ถึงจะถูก ไม่ใช่ไอ้คนเมื่อกี้
“เริ่มจากชางมินถูกผลักตกบันได สลบไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ตามมาด้วยยูชอนที่ถูกตัดสายเบรกมอร์ไซด์จนรถคว่ำทำให้ต้องนอนโรงบาลเป็นเดือน ช่วงนั้นเองที่รูปถูกกรีดขาด มีแค่ชั้น แจจุงและโฮนาที่เห็นแล้วก็พวกอาจารย์ แจจุงก็ขอให้เก็บรูปนั้นไว้”
“วันนั้นเองตอนกลับบ้านชั้นเห็นแจจุงอ่านจดหมายในล็อกเกอร์ ในนั้นเขียนว่า ถ้าไม่อยากให้พวกมันเป็นอะไรไปมากกว่านี้ ก็อย่าเข้าใกล้พวกมันซะ คนอย่างแกไม่สมควรมีคนรัก แต่จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ถ้าใครอยู่ใกล้แกคนนั้นมันต้องตาย! หลังจากนั้นแจจุงก็เริ่มตีตัวออกห่างพวกเราทุกที”
“แจจุงไม่ให้ชั้นบอกเรื่องนี้กับใคร เขาว่า เจ้านั่น อยู่ในที่มืดย่อมเล่นงานเราที่อยู่ในที่แจ้งได้ง่ายกว่า ทางที่ดีควรทำตามที่ เจ้านั่น พูด”จุนซูพูดแล้วถอนหายใจ แล้วเอาป๊อกกี้อีกอันเข้าปาก
“นั่นแหละ แจจุงจึงไม่ไปเยี่ยมยูชอนที่โรงบาลเลย ส่วนชางมินหลังจากกลับมาเรียนเห็นแจจุงเปลี่ยนไปก็พยายามจะถามให้รู้เรื่อง แต่ไม่กี่วันก็ถูกมือดีดักตีหัวอีก ดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่นั้นแหละชั้นถึงได้เชื่อแจจุงว่า เจ้านั่น มันเอาจริง พอชางมินหายดีก็ไปพูดกับแจจุง ชั้นยังจำคำพูดของเจ้านั่นได้ดี”จุนซูพูดพลางมองท้องฟ้า
“‘ชั้นเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เรื่อง ไม่สามารถช่วยอะไรนายได้ หรือนายอาจไม่เห็นชั้นเป็นเพื่อน ถึงคิดจะบอกกับชั้น ชั้นเจ็บมาก ไม่ได้เจ็บที่เจอเรื่องร้ายๆพวกนี้ แต่เจ็บที่นายไม่บอกชั้น’ ชางมินพูดแค่นั้น แล้วก็ไม่ยุ่งกับแจจุงอีก รวมถึงพวกชั้นด้วย กลายเป็นคนบ้างานอย่างที่เห็น ชั้นอยากไปบอกเขานะ แต่ชั้นจะให้เขาเป็นอะไรไม่ได้ ชั้นมันแย่จริงๆ เลยใช่มั๊ย? ชั้นไม่รู้จะทำยังไง? ชั้นควรทำยังไงดี??”ร่างเล็กพูดเสียงสั่นเครือน้ำตาเริ่มเอ่อคลออีกครั้ง
“เฮ้อ...”หายใจเข้าลึกๆ เหมือนจะพยายามสะกดกลั้นอารมณ์
“ยูชอนพอหายดีกลับมาเห็นอาการของพวกเราที่เมินเฉยต่อกัน ก็พยายามจะถามเหมือนชางมิน แต่ก็เหมือนเดิม เจ้านั่นอาจจะโกรธเหมือนชางมิน หรือระอาที่พวกเราเป็นแบบนี้ จนหนีปัญหาโดยไม่สนใจพวกเราอีก จนเป็นอย่างที่เห็น ดีแล้วล่ะ นายคงเข้าใจนะ เจ้านั่นคนเดียวเท่านั้น ที่ชั้นจะยอมให้เป็นอะไรไปไม่ได้ แค่ตอนที่รู้ว่าเขารถคว่ำชั้นก็แทบหัวใจสลาย ชั้นจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม ถึงเจ้านั่นก็เกลียดหรือโกรธยังไง ชั้นก็ยอม ขอแค่ได้เห็นหน้า อย่างนี้ทุกวันก็พอแล้ว”
“เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้แหละ แจจุงก็เก็บตัวเองไม่เข้าใกล้ใครอีก แฟนคลับของเขาก็โดนต่อว่าจนล้มเลิกไป จนเป็นอย่างทุกวันนี้ ส่วนชั้นคงทำได้แค่อยู่อย่างนี้เป็นเพื่อนเขา เขาไม่มีเพื่อนชั้นก็จะไม่มี ชั้นจะอยู่อย่างนี้เป็นเพื่อนเขาเอง ชางมินและยูชอนก็คงคิดเหมือนกัน ทุกคนถึงได้ทำตัวอย่างนี้ ในเมื่อช่วยอะไรไม่ได้ก็ขออยู่ร่วมทุกข์เหมือนกันก็ยังดี”
“นายคิดว่าจะช่วยอะไรได้มั๊ย?”จุนซูหันมาถามพลางเช็ดน้ำตา ที่ไหลออกมา
ยุนโฮได้แต่ยืนฟังอย่างอึ้งๆ นี่เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเขาจะช่วยอะไรได้มั๊ยเนี่ย
“แล้วทำไมไม่ลองสืบหาตัวคนทำเรื่องพวกนั้นดูล่ะ”ร่างสูงถามอย่างนึกได้
“ทำไมจะไม่สืบล่ะ ชั้นลองสืบดูแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท หรือครอบครัวของยองอา ก็ไม่เห็นจะมีทีท่าเจ็บแค้นอะไรแจจุง อีกอย่างตอนยองอาตายครอบครัวของเขาก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นทันที แล้วที่สำคัญตอนเกิดเรื่องชั้นลองจับตาดูแล้วก็ไม่เห็นมีใครน่าสงสัย ชั้นจนปัญญาจริงๆ”
“เรื่องหนักเลยนะเนี่ย”ร่างสูงพูดอย่างปวดหัว
“ใช่สิ.......สงสัยวิธีของแจจุงจะดีที่สุด ทนอีกปีเดียวเท่านั้น เราสัญญากันไว้ว่า เราจะจบด้วยกันพร้อมกันสี่คน แจจุงกับชั้นถึงได้ทนมาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อที่เราจะได้จบด้วยกัน หลังจากนั้นชั้นจะบอกเรื่องทั้งหมดให้ชางมิน กับยูชอนฟัง มันจะต้องให้อภัยเราแน่ๆ”
“จะรอกันขนาดนั้นเลยเหรอ”ร่างสูงถามอย่างแปลกใจ
“แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เมื่อพระเอกคนนี้มาแล้ว เรื่องทั้งหมดจะต้องคลี่คลายก่อนที่พวกนายจะเรียนจบอย่างแน่นอน ยังไงชั้นก็จะต้องปกป้องนางฟ้าของชั้นเอาไว้ให้ได้”ยุนโฮพูดอย่างมุ่งมั่น
“เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ นางฟ้าอะไร?”จุนซูหันมาถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอก นายหูฟาดไปรึเปล่า ชั้นยังไม่พูดคำว่านางฟ้าสักคำ ชั้นแค่ว่าชั้นจะช่วยพวกนายเอง”
จุนซูพยักหน้าแล้วหันกลับไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง
เกือบแล้วมั๊ยล่ะ?
“ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ ก็คงจะดี”
------------------------------------------------------------------------------------------------------
อัฟแล้วนะ ติดสอบอาจจะช้าหน่อย แต่จะมาอัฟให้เรื่อยๆ นะ ฝากติดตามกันด้วย ^-^
แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกข้อความนะค่ะ........ถึงเคยส่งแล้ว ก็ส่งอีกได้นะ ชอบอ่านง่ะ......ฮิ..ฮิ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
อัฟแล้วนะ ติดสอบอาจจะช้าหน่อย แต่จะมาอัฟให้เรื่อยๆ นะ ฝากติดตามกันด้วย ^-^
แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกข้อความนะค่ะ........ถึงเคยส่งแล้ว ก็ส่งอีกได้นะ ชอบอ่านง่ะ......ฮิ..ฮิ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น