ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : My name is U know (100%)
ตอนที่2
My name is U know
My name is U know
แจจุงขับรถกลับบ้าน แต่คราวนี้ไม่ได้กลับเพียงลำพัง กลับมีร่างสูงที่ยังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามติดรถกลับมาด้วยอีกคน
“ทำไมไม่อยู่ที่คลินิกก่อน หายดีแล้วค่อยไปที่บ้านชั้น”แจจุงถามขณะขับรถกลับบ้าน
“ผมไม่ชอบนอนในห้องนั้นนี่ มันอึดอัด ตอนนี้ผมก็หายดีแล้ว”ร่างสูงพูดพลางทำหน้าเบะปากเหมือนเด็ก แจจุงส่ายหน้าระอากับท่าทางนั้น
เด็กเล็กๆทำมันก็น่ารักอยู่หรอก แต่นี่ตัวอย่างกับหมีทำมันดูได้ซะที่ไหน?
“เอ้อ ชั้นจะเรียกนายว่าอะไรดี นายจำชื่อตัวเองไม่ได้เลยเหรอ?”ร่างสูงส่ายหน้าแทนคำตอบ
“งั้นชั้นเรียกนายว่ายูโนวแล้วกัน แหม...ถ้าจริงๆ ชั้นมียูโนวมาอยู่ใกล้ๆ อย่างนี้คงเหมือนได้ขึ้นสวรรค์”ร่างบางพูดดวงตากลมโตมองขึ้นไปบนฟ้าอย่างเคริ้มฝัน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับตัวเอง
“ชื่อใครเหรอครับ?”ร่างสูงถามอย่างแปลกใจ
“ยูโนวน่ะเหรอ?”แจจุงหันมาถามดวงตาเป็นประกายวิบวับ เรียวปากบางยังคงยิ้มไม่หยุด
“เค้าก็เป็นนักร้องวงTVXQ ไง ดังมากเลยนะ คนอะไร หน้าตาก็ดี เต้นก็เก่ง ร้องเพลงก็เพราะ แถงยังมีความเป็นผู้นำอีก มีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ โอ้ย...ไม่อยากจะเซด คนอย่างนายน่ะสู้เค้าไม่ได้เลยล่ะ”แจจุงพูดพลางสะบัดหน้าไปมาประกอบคำพูด มองคนถามอย่างเหยียดหยาม
“คร้าบ.....ครับ ผมทราบแล้ว ว่าผมสู้เค้าไม่ได้ แต่ยังไงตอนนี้ผมก็มีชื่อเหมือนเค้าแล้วล่ะ ต่อไปไม่แน่ผมอาจจะหล่อ เลิศ เพอร์เฟ็ค ไม่น้อยกว่านายนั่นก็ได้”ร่างสูงพูดพลางหัวเราะ
แจจุงได้ยินอย่างนั้นก็หันมาทำหน้ายู่ใส่ “อย่างนายน่ะ ต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่ ก็สู้เค้าไม่ได้หรอก” พูดเสียงดังแล้วหันไปขับรถอย่างหงุดหงิด
พอมาถึงบ้านของแจจุง ซึ่งเป็นห้องแถวสองชั้น ไม่ได้ใหญ่โตหรูหราอะไรนัก แต่ก็ใหญ่พอที่จะเปิดร้านอาหารเล็กๆ ได้ การตกแต่งที่ได้รับเพียงน้อยนิด แต่ก็ดูสะอาดตาพอสมควร
แจจุงพายูโนว (ต่อไปนี้จะเรียกยุนโฮว่ายูโนวนะ)ไปที่ห้องนอนของตน
“นายนอนห้องชั้นไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวชั้นจะไปนอนกับชางมินเอง”เจ้าของห้องคนสวยพูดเนือยๆ
“ทำไมคุณต้องไปนอนห้องนั้นด้วยล่ะ นอนห้องเดียวกันก็ได้”ยูโนวพูดยิ้มๆ
“ทะลึ่ง”แจจุงว่าเสียงเขียวไม่แพ้ดวงตาที่มองมา
“ทะลึ่งอะไร? นี่คุณคิดไปถึงไหนเนี่ย? ผมแค่เห็นว่าคุณก็ผู้ชาย ผมก็ผู้ชายนอนห้องเดียวกันไม่เห็นจะเสียหายอะไรตรงไหน”ร่างสูงเถียงกลับอย่างกวนๆ ปากหนายกยิ้มอย่างสนุกที่ได้แหย่คนสวยตรงหน้า
“เออ ลืมไป”แจจุงพูดเสียงเบาใบหน้าหวานแดงเรื่อขึ้นที่หลงคิดมากไปเอง
ลืมอะไรฮับเจ๊ ลืมว่าตัวเองเป็นผู้ชายเหรอ?
เสเดินหยิบเสื้อผ้าปึงปังเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำราวกับไม่อยากจะสาวความยาวต่อ
ยูโนวยืนมองร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไปยิ้มๆ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ยูโนวก็ออกมาพบว่าร่างบางที่อยู่ในชุดนอนน่ารักนั่งบนเตียงเรียบร้อย ในมือมีหมอนและผ้าห่ม พอเห็นหน้าร่างสูงมือเรียวก็โยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี
“นายนอนข้างล่างนั่นไปล่ะกัน อยากพูดมากดีนัก”พูดจบไม่รอฟังคำพูดของอีกฝ่ายล้มตัวลงนอนหันหลังให้ทันที
“ก็ได้”พูดแค่นั้นแล้วจัดการปูที่นอนของตัวเอง มองร่างบางที่นอนบนเตียงอีกครั้ง ก่อนที่จะเอื้อมมือไปปิดไฟแล้วทั้งตัวลงนอนไปอีกคน รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าไม่จาง
ไม่รู้หรอกว่าก่อนหน้านี้ เค้าเคยเป็นใคร? มากจากไหน? รวยหรือจน แต่ตอนนี้....แค่ได้อยู่ตรงนี้ ได้รู้จัก ได้เห็นคนๆ นี้ ก็พอใจแล้ว ไม่อยากไปไหนอีกแล้ว
วินาทีที่ตื่นขึ้นมาเห็นใบหน้าหวานนี้ แทบสะกดให้เค้าต้องอยู่ดูแลคนตรงหน้าไปชั่วชีวิต ราวกับคำสัญญา.....ที่เค้าได้ให้กับตัวเอง กับผู้มีพระคุณ ที่กุมหัวใจดวงนี้ไว้
ณ คฤหาสตระกูลชอง
“อะไรนะ? นายจะบอกว่ายุนโฮหายไป!”ยูชอนถามอย่างตกใจเมื่อลูกน้องมารายงานง่าตามหาหัวหน้าไม่พบ
“ครับ คนของเราที่ติดตามหัวหน้าไปก็ตายหมด แต่ไม่พบตัวหัวหน้า สงสัยท่านอาจจะหนีไปรักษาตัวที่ไหน?”ลูกน้องคนหนึ่งรายงาน
“งั้นลองไปหาตามโรงพยาบาล และพื้นที่ละแวกนั้นให้ทั่ว ยังไงก็ต้องตามหายุนโฮให้ทั่ว แต่ต้องทำให้เงียบ ไม่อย่างนั้นถ้าศัตรูรู้เข้า ยุนโฮอาจตกอยู่ในอันตราย”ยูชอนสั่งเสียงเครียด เช่นเดียวกับใบหน้า ลูกน้องคนเดิมรีบก้มหน้ารับคำสั่งแล้วเดินออกไปทันที
ร่างสูงเอนตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง
ขออย่าให้ลางสังหรณ์ของเค้าเป็นจริงเลย
ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกอีกครั้ง ตามมาด้วยร่างเล็กที่คุ้นตา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? ชั้นกลับมาเห็นข้างนอกดูวุ่นวายกันใหญ่”จุนซูเดินเข้ามาถาม มองร่างสูงที่นั่งเหมือนหมดแรงอยู่อย่างห่วงใย
ยูชอนเงยหน้าขึ้นมามองคนถามอย่างเจ็บปวด แล้วเอ่ยปากเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างละเอียด ดวงตาเรียวเล็กของคนฟังเริ่มมีน้ำตารื้นขื้นมาทุกที เมื่อได้รับฟังเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดมา
“นายจะบอกว่า ตอนนี้พี่ยุนโฮเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้งั้นเหรอ?”พูดเบาราวกับเสียงกระซิบ น้ำตาหยาดไหลออกมาเป็นทาง
ชีวิตของค้ามีกันแค่สองคนพี่น้อง แล้วเค้าจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีพี่ยุนโฮ
“ชั้นขอโทษ”ยูชอนพูดออกมาได้แค่นั้น มือหนาอยากจะยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า แต่สิ่งที่ทำได้เพียงกำมือตัวเองไว้แน่นอย่างเจ็บปวด
ตัวเองอยู่ในฐานะอะไรถึงจะทำอย่างนั้น
“ช่างเถอะ มันไม่ใช่ความผิดของนายสักหน่อย นายเองก็คงจะเสียใจไม่แพ้กัน ชั้นกลับห้องก่อนแล้วกัน ถ้ามีข่าวพี่ยุนโฮเมื่อไหร่ไปบอกชั้นทันที ไม่ต้องรอเวลา”ร่างเล็กพูดพลางเช็ดน้ำตา ก้าวเดินจากห้องไปอย่างอ่อนแรง
ถึงจะหวาดกลัว แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาอ่อนแอ
พอลับร่างเล็กนั้น ร่างสูงของชายอีกคนก็เข้ามาทันทีราวกับรอเวลาอยู่แล้ว
“จริงเหรอครับ ที่ว่าคุณยุนโฮหายตัวไป”คิบอม บอร์ดี้การ์ดของจุนซูถามทันทีเมื่อเห็นร่างสูง ด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ
ยูชอนพยักหน้ารับเรียบๆ แทนคำตอบ
“ฝีมือใครกัน?”คิบอมถามอย่างหนักใจ
“ตอนนี้เรายังจับมือใครดมไม่ได้ แต่ชั้นสงสัยว่าต้องเป็นซีวอนแน่ นายเองก็ต้องระวังตัวด้วย ดูแลคุณจุนซูให้ดี ชั้นฝากนายด้วยนะ”ยูชอนพูดนิ่งๆ
“ครับ”คิบอมรับคำหนักแน่น มองร่างสูงของคนตรงหน้าที่เค้าเคารพนักถือ
ครับ ผมจะดูแลหัวใจของคุณให้ดีที่สุด แม้ต้องแลกด้วยชีวิตนี้ก็ตาม.....คุณยูชอน
ณ คฤหาสหลังใหญ่อีกทางด้านหนึ่งของกรุงโซล
พลัก!
“แกทำพลาดงั้นเหรอ?”ร่างสูงถามอย่างโมโห หลังจากที่ซ้อมคนที่ทำงานพลาดจนเละลงไปนอนกับพื้นเรียบร้อยแล้ว
“ผมขอโทษครับ โปรดอภัยให้ผมด้วย แต่มันคงหนีไปไม่ไกลเพราะตัวมันเองก็บาดเจ็บหนักอยู่ ผมขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้งครับ คุณซีวอน”พูดออกมาทั้งๆที่เลือดยังเต็มปาก แต่ต้องพูดก่อนที่ฝ่าเท้าหนานั้นจะลงมาประทับที่ใบหน้าอีก
“หนวกหู! ชั้นไม่อยากฟังคำแก้ตัวของพวกแก เอาพวกมันออกไปแล้วอย่ามาให้ชั้นเห็นหน้าอีก”ตะโกนเสียงดัง เท้ายังยังไม่วายกระทืบลงไปบนร่างที่นอนอยู่อีกครั้งอย่างโมโห
ลูกน้องที่เหลือรีบพาร่างคนเจ็บออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้สั่งซ้ำ อีกอย่างจะได้พาตัวเองออกจากพายุโมโหของหัวหน้าได้อีกด้วย ตอนนี้ภายในห้องจึงเหลือเพียงชายหนุ่มสองคนเท่านั้น
ชอย ซีวอน หัวหน้าแก๊ง SUJU ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้แก๊ง TVXQ เลยทีเดียว ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งอย่างโมโหไม่หาย ทั้งๆ ที่วางแผนไว้อย่างดีหวังจะปลิดชีวิตคนที่ฆ่าพ่อของเค้าให้สาสมกับความแค้น แต่สุดท้าย เหยื่อก็หลุดลอดไปได้เพียงเพราะลุกน้องที่ไม่ได้เรื่อง
แม้อารมร์ของคนตรงหน้าจะลุกเป็นไฟเพียงใด แต่คนที่ยืนอยู่เคียงข้างและรู้ใจเสมอมาอย่าง คยูฮยอน ก็ไม่เคยคิดจะเกรงกลัวเหมือนคนอื่นๆ ยังคงยืนมองอย่างสงบนิ่ง รอรับคำสั่งที่คนตรงหน้าจะเอ่ยออกมาในไม่ช้า
“คยูฮยอน นายออกไปตามหามันให้พบ ถ้าเจอมันเมื่อไหร่มารายงานชั้นทันที”สั่งเสียงเรียบ คยูฮยอนพยักหน้ารับแล้วเดินออกจากห้องไปทันที
“ยุนโฮ ชั้นไม่มีวันปล่อยแกไปแน่”ซีวอนพูดอย่างเคียดแค้น มือหนากำแน่นจนแทบห้อเลือด
เช้าวันรุ่งขึ้น
ณ ร้านอาหารเล็กๆ ที่มีเจ้าของร้านแสนสวย
ในห้องนอนของเจ้าของร้านนั่นเอง ยังคงมีร่างสูงนอนเป็นหมีอืดค้างคืนมานานวัน โดยมีเจ้าของห้องยืนกอดเอวมองอย่างหมั่นไส้
“ตื่น ตื่นได้แล้ว คิดว่าชั้นให้นายมาอยู่เป็นเจ้าที่รึไง ออกมาทำงานได้แล้ว”พูดอย่างหงุดหงิดพลางใช้เท้าเขี่ยตัวคนที่นอนอยู่ แต่ร่างสูงก็ยังคงหลับอย่างไม่รู้สึกตัวแต่อย่างใด
“อืม ขออีกนาทีน่า”บ่นงึมงำทั้งที่ตายังปิดอยู่ พลางพลิกตัวหลบแรงสะกิดจากเท้าของอีกฝ่าย
“ไม่ตื่นใช่มั้ย? ด้าย...”พูดกัดฟันเสียงสูง จบคำเท้าเรียวงามของคนสวยก็กระทืบลงไปกลางเป้า เหยียบของรักของคนที่มันแต่นอนอุตุอยู่อย่างแรง
“อ้าก................................................(O[[]]O).....!”กรีดร้องอย่างโหยหวน ดังก้องไปทั่วห้อง ใบหน้าที่เคยขาว ตอนนี้กลับเปลี่ยนสีเป็นแดงสลับเขียว มือหนาจับขาของผู้ทำร้ายไว้แน่น หวังจะยกออกจากของรักที่นอนอยู่เบื้องล่าง
“ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตาซะ แล้วลงไปช่วยกันตั้งร้าน”พูดเสียงเรียบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พลางยกขาออก แล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูคนที่ยังนั่งหน้าสลับสีอยู่
“จำไว้ ถ้าตื่นสายอีก พ่อจะเหยียบให้เละคาที่เลย”ว่าแล้วก็เดินหัวเราะออกไปอย่างสะใจ ทั้งให้คนเจ็บกอบกุมน้องชายเดินขาถ่างเข้าห้องน้ำ ทั้งๆ ที่ปากหนายังบ่นว่าสาปแช่งคนสวยไม่หยุด
“อย่าให้ถึงทีเรามั่ง จะเอาให้ร้องครวญครางจนไม่กล้าทำร้ายน้องเค้าอีกเลย คอยดู!”
-----------------------------------------------------------
พอล้างหน้าล้างตาเสร็จ ยูโนวก็เดินลงมาชั้นล่างที่เป็นส่วนของร้านอาหาร ก็พบว่าคนสวยกำลังนั่งจัดของอยู่ที่เคาเตอร์ และยังมีชายหนุ่มอีก 3 คน ช่วยกันจัดโต๊ะสำหรับบริการลูกค้าอยู่ 1 ใน 3 หันมามองชายหนุ่มแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“พี่ยูโนวสินะ ผมชางมินครับ เป็นน้องชายพี่แจจุง นอนอยู่ห้องข้างๆ ยินดีที่ได้รู้จัก อาการบาดเจ็บเป็นยังไงบ้างครับ”หนุ่มน้อยเดินเข้ามาทักพร้อมกับยื่นมือให้ด้วยรอยยิ้ม ยูโนวมองแล้วจับมืออีกฝ่ายตอบรับไมตรี
“ไม่เป็นไรมากแล้วครับ ขอบคุณ”ตอบอย่างสุภาพยิ้มๆ แล้วหันไปมองชายหนุ่มอีกสองคนที่ยืนมองตนอย่างสนใจ ชางมินเห็นอย่างนั้นก็รีบแนะนำทั้งสองคนทันที
“คนที่สูงๆ ขาวๆ ตาตี่ๆ นั่นพี่เยซอง ส่วนอีกคนที่ดูตัวเล็กๆ หน่อยนั่นก็รยอวุคครับ พวกเค้าเป็นคนที่มาช่วยทำงานที่ร้าน”ชางมินพูด
เยซองและรยอวุคหันมาโค้งให้ยูโนวพลางยิ้ม
“อะแฮ่ม”เสียงกระแอมดังขึ้น ทำให้ยูโนวหันไปมองเจ้าของเสียงที่อยู่หน้าเคาเตอร์
“ปล่อยมือ”พูดสั้นๆ แต่เย็นเยียบที่มาพร้อมกับแววตาเชือดเฉือน ทำให้ร่างสูงสะดุ้งโหยงรีบปล่อยมือที่เกาะกุมอยู่ทันที ชางมินได้แต่มองคนทั้งคู่ยิ้มๆ
“ปล่อยมือ”พูดสั้นๆ แต่เย็นเยียบที่มาพร้อมกับแววตาเชือดเฉือน ทำให้ร่างสูงสะดุ้งโหยงรีบปล่อยมือที่เกาะกุมอยู่ทันที ชางมินได้แต่มองคนทั้งคู่ยิ้มๆ
ช่างเป็นพี่น้องที่ต่างอะไรกันอย่างนี้ คนพี่ก็แสนดุ คนน้องก็แสนเรียบร้อย
“ชางมินไปโรงเรียนกันเหอะ”เสียงของหนุ่มน้อยคนนึงที่ยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าใสน่ารักโผล่เข้ามามองคนในร้านอย่างร่าเริง
ชางมินหันไปพยักหน้ารับแล้วหันมาลาทุกคนก่อนที่จะเดินไปหาคนเรียก
“คร้าบ...ผมจะดูแลเจ้าชายชางมินให้ดีที่สุดพี่แจจุง ไม่ต้องเป็นห่วง”ซองมินหันมาพูดพลางยิ้มล้อเลียนอย่างทะเล้น แล้วสองหนุ่มก็พากันเดินจากไป
“งั้นเดี๋ยวชั้นจะออกไปซื้อของ พวกนายจัดโต๊ะกันไปล่ะกัน”แจจุงว่าพลางลุกขึ้น
“ผมไปช่วยคุณถือของนะ”ยูโนวรีบเดินมาอาสาทันที ร่างบางหันไปมองเยซองและรยอวุค ทั้งสองพยักหน้ารับทำนองว่าเราทำกันเองได้ ร่างบางจึงพยักหน้าให้คนเสนอตัวเป็นเชิงอนุญาต
ร่างสูงยิ้มอย่างดีใจเดินไปเปิดประตูให้เจ้านายคนสวยทันที
“เชิญครับ เจ้านาย”พูดพลางผายมือโค้งให้อย่างสง่างาม แล้วคว้ากุญแจรถจากมือบางมาถือไว้เอง
แจจุงมองหน้าร่างสูงอย่างไม่ไว้ใจ แต่ก็ยอมขึ้นรถไปแต่โดยดี ยูโนวรีบปิดประตูแล้ววิ่งไปนั่งที่คนขับ โดยมีคนสวยคอยบอกทาง
รยอวุคมองคนทั้งสองอย่างมีความสุข ถึงแม้ทั้งคู่ทำตัวเหมือนไม่มีอะไร แต่บรรยากาศรอบข้างกลับดูมีอะไรบางอย่างที่รู้สึกแปลกประหลาด เหมาะสมอะไรกันอย่างนี้ คิดได้แค่นั้นก็ยิ้มให้กับตนเอง โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาของร่างสูงอีกคนจับตาดูอยู่
เมื่อมาถึงตลาด
แจจุงก็จัดการสั่งร่างสูงให้เข้าไปซื้อของในร้านขายผักที่มีคนแย่งกันซื้ออยู่แน่นขนัด ส่วนตนจะไปซื้อเนื้ออีกทาง
“เอ้า นายซื้อของตามนี้ แล้วอย่าลืมซื้อหอมด้วยนะ ชั้นไม่ได้จดไว้ อย่าลืมล่ะ”ร่างบางสั่งกำชับเสียงดุ ก่อนที่จะแยกเดินไปอีกทาง ยูโนวมองร้านตรงหน้าอย่างหนักใจ
“ทำไมคนถึงเยอะอย่างนี้นะ”บ่นพลางถอนใจ
ผ่านไปได้สัก 20 นาที
ร่างสูงก็กลับมาที่รถอีกครั้งพร้อมกับของที่ถูกสั่งซื้อในมือ ที่รถร่างบางของเจ้านายคนสวยยืนรออยู่แล้ว ยูโนวจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างเหนื่อยหอบ
“กว่าจะรอดจากร้านนั้นมาได้”บ่นก่อนที่จะส่งของให้ แจจุงรับของไปดูไม่ได้สนใจคำบ่นของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าหวานยังคงบึ้งตึงที่อีกคนออกมาช้าเหลือเกิน แค่ให้ไปซื้อของแค่นี้
แต่แล้วใบหน้าหวานก็ยิ่งงอง้ำ เมื่อมือเรียวหยิบหอมหัวใหญ่ถุงนึงออกมา
“ชั้นให้นายซื้อหอม...หอมแดงน่ะ เข้าใจมั้ย? ไม่ใช่หอมใหญ่ ช้าแล้วยังซื้อผิดอีก”ต่อว่าเสียงดังอย่างหงุดหงิด ยูโนวได้แต่ทำหน้าหงอเมื่อถูกดุ แต่คนดุก็หาได้สนใจ เดินนำกลับไปที่ร้านขายผักนั้นอีกครั้ง
พริบตาเดียวร่างบางก็เดินฝ่ากลุ่มหญิงสาวหน้าร้านไปถึงตัวแม่ค้าได้ราวกับมีวิชาตัวเบา
“เจ๊ ผมขอเปลี่ยนได้มั้ย? เมื่อกี้ซื้อผิดจะซื้อหอมแดงดันได้หอมใหญ่”แจจุงพูด
“ไม่ได้หรอก ซื้อแล้วจะเอามาเปลี่ยนได้ไง”หญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านปฏิเสธทันที
“แหม่ เจ๊น่ะ หยวนๆ ลูกน้องผมมันไม่รู้เรื่อง ยังไงเราก็ซื้อกันประจำ ยกให้สักครั้งไม่
ได้เหรอ?”แจจุงยังไม่ละความพยายามเอ่ยเสียงหวาน ชี้ไปทางยูโนวที่เป็นตัวต้นเหตุ
ได้เหรอ?”แจจุงยังไม่ละความพยายามเอ่ยเสียงหวาน ชี้ไปทางยูโนวที่เป็นตัวต้นเหตุ
“คนนั้นลูกน้องแจเหรอ หน้าตาน่ารักดีนะ ไปหามาจากไหนเนี่ย?”เจ็แกเปลี่ยนเรื่องทันทีที่เห็นหน้ายูโนว ซึ่งคนที่ถูกพาดพิงก็ได้แต่ยืนทำหน้างงไม่เข้าใจเรื่องที่ทั้งสองคนพูดกันอยู่ไม่ไกลนัก
“ถ้าเจ๊สนใจ ผมยอมให้หอมแก้มเจ้านั่นฟรีเลยเอ้า แต่ต้องยอมให้ผมเปลี่ยนของ แล้วก็ขอหอมแดงเพิ่มขึ้นนิดหน่อย”แจจุงขยับเข้าไปกระซิบ
“ได้ งั้นเจ๊ยอมให้หมดนี่เลย”ตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด หญิงเจ้าของร้านยกหอมใหญ่และหอมแดงทั้งถุงส่งให้ร่างบางทันที
แจจุงยิ้มหวาน หันไปเรียกยูโนวที่ยืนทำหน้าเหรอหราอยู่ ร่างสูงวิ่งเข้ามาหาทันทีตามคำสั่ง แจจุงจับมือของร่างสูงไว้แล้วส่งให้เจ๊เจ้าของร้าน ซึ่งก็รีบรับมาอย่างว่องไง ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาวที่กำลังเลือกซื้อสินค้าอยู่
“เบาๆ หน่อยนะครับ เดี๋ยวของผมช้ำ”แจจุงว่า รอยยิ้มหวานยังประดับอยู่บนใบหน้า จนคนรอบข้างแทบจะละลายไปกับรอยยิ้มนั้น พูดจบเจ้าตัวก็เดินหยิบถุงหอมแดงและหอมใหญ่ออกไปทันที
ยูโนวมองตามอย่างงงๆ แต่พอจะตามคนสวยไปกลับถูกรั้งด้วยแรงของเจ๊เจ้าของร้านที่ยังกอบกุมมือหนาอยู่ สายตางุนงงหันกลับมามองเจ้าของมือที่จับไว้ ไม่ทันได้ตั้งตัวเจ๊แกก็ดึงร่างสูงเจ้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ทั้งซ้ายและขวา ท่ามกลางความอิจฉาของหญิงสาวแถวนั้น พอหลุดจากอ้อมแขนชะนีใหญ่มาได้ ชายหนุ่มก็รีบวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต
เมื่อกลับมาที่รถก็พบว่าเจ้านายคนสวยยืนหัวเราะจนน้ำตาเล็ดรออยู่แล้ว
“ไม่น่าเชื่อนะ....ฮะ ฮ่า ว่านายจะมีประโยชน์อย่างนี้ ฮะ..ฮ่า”พูดไปหัวเราะไปไม่หยุด
“นี่คุณ เอาผมไปขายยัยป้านั่นเหรอ?”ยูโนวมองคนตรงหน้าอย่างโมโห
“สมน้ำหน้า อยากซื้อผิดเอง จำไว้อย่าซื้อผิดอีก”ร่างบางว่าหลังจากเริ่มควบคุมตัวเองให้หยุดหัวเราะได้
ยูโนวมองคนตรงหน้าอย่างเข่นเขี้ยว ไม่รอให้อีกฝ่ายตั้งตัว จับใบหน้าหวานที่พยายามกลั้นหัวเราะนั้น ดึงเข้ามาหอมแก้มขาวนั้นทั้งซ้ายขวา เช่นเดียวกับที่ตนเพิ่งถูกกระทำ
“ผมไม่ยอมถูกทำคนเดียวหรอกนะ”พูดจบก็รีบวิ่งขึ้นรถทันที ก่อนที่อีกคนจะมาทำร้ายอะไรเค้าอีก
แจจุที่มัวแต่ยืนอึ้งอยู่พอได้สติ แก้มนวลก็ขึ้นสีเรื่อน่ามอง ก่อนที่จะขึ้นรถค้อนคนขับสักสองทีพร้อมกับหมัดหนักๆ อีกหนึ่งที จนร่างสูงแทบจุก
แล้วรถกระบะคันเล็กเคลื่อนตัวออกจากที่ แล่นกลับสู่ร้านที่จากมาสักที
----------------------------------------------------------------
ครบ 100% แล้วนะ ตอนนี้อาจจะดูไร้สาระสักหน่อย คิดซะว่าเป็นตอนกุ๊กกิ๊กแล้วกัน เขียนได้เท่านี้จริงๆ ตัวละครเริ่มออกมากันเยอะแล้ว ใครคู่ใครพอจะเดากันได้รึเปล่าเอ่ย? ต่อจากนี้ก็จะมีออกมาอีกเป็นระยะๆ อยากเห็นคู่ไหนเป็นยังไง บอกมาได้นะค่ะ ถ้าไม่ไกลจากเนื้อเรื่องที่คิดไว้ จะพยายามทำให้ตามที่ต้องการค่ะ
ถ้าคุณเข้ามาแล้ว พอใจไม่พอใจยังไง เม้นท์ให้ด้วยนะค่ะ รออ่านความเห็นของพวกคุณเสมอ.....
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ ^-^
แล้วก็...................
ขอบคุณสำหรับคุณผักบุ้งมากค่ะ ที่แนะนำเรามา เราได้แก้ตามที่คุณบอกแล้ว ด้วยความรู้อันน้อยนิดแต่ก็ยังอยากเขียนต้องขออภัย ถ้าข้อมูลที่เขียนไปผิดพลาดนะค่ะ หวังว่าคงไม่ถือสานะค่ะ
ขอบคุณสำหรับคุณผักบุ้งมากค่ะ ที่แนะนำเรามา เราได้แก้ตามที่คุณบอกแล้ว ด้วยความรู้อันน้อยนิดแต่ก็ยังอยากเขียนต้องขออภัย ถ้าข้อมูลที่เขียนไปผิดพลาดนะค่ะ หวังว่าคงไม่ถือสานะค่ะ
ขอบคุณจริงๆค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดอีกโปรดแนะเรามาได้เลยนะค่ะ เราพร้อมจะแก้ไขเสมอ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านอีกครั้งค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น