ลำดับตอนที่ #16
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : วางยา
“อะ...อือ...อืม”เสียงพึมพำออกมาจากเรียวปากบาง ดวงตาเรียวเล็กเริ่มเปิดเปลือกตาขึ้น แล้วก็เหมือนความทรงจำกลับคืน ดวงตาเรียวกลับเบิกโพล่งขึ้นอย่างน่ากลัว
“ยูชอน!”จุนซูเรียกชื่อคนรักแล้วลุกพรวดขึ้นมาอย่างตกใจ
“จุนซูฟื้นแล้วเหรอ?”โฮนาที่นั่งอยู่ข้างเตียงถามขึ้นอย่างดีใจ
“ยูชอนล่ะ”
“นอนอยู่ข้างๆนายนั่นไง”โฮนาตอบพลางพยักหน้าให้คนถามหันไปมองข้างๆ
จุนซูมองตามก็พบร่างของคนรักที่ยังคงนอนสงบนิ่งอยู่
“ฮันกยองบอกว่าไม่เป็นไรมากเดี๋ยวสักพักก็ฟื้น แต่ชางมินบอกว่าให้กลับไปให้หมอดูอีกทีดีกว่า พรุ่งนี้เราเลยจะเดินทางกลับกัน”หญิงสาวพูด จุนซูพยักหน้ารับทั้งๆ ที่ยังคงมองใบหน้าคนรักตาไม่กระพริบ
“แล้วพวกแจจุงไปไหนล่ะ?”
“ไปตามหาชางมินกับซีวอนน่ะ ไม่รู้หายไปไหนกัน”โฮนาพูดพลางถอนหายใจ “งั้นนายดูยูชอนไปก่อนนะ ชั้นจะออกไปดูพวกนั้นสักหน่อย”
จุนซูพยักหน้ารับมองร่างของหญิงสาวที่วิ่งพรวดพราดออกจากประตูไป
“ยูชอน...เห็นมั้ย? ตอนนี้เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่แล้ว นายจะมัวขี้เกียจมานอนเป็นเจ้าชายนิทราอย่างนี้ไม่ได้หรอกนะ”จุนซูพูดพลางลูกแก้มอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
“ไหนบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ทำไมไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาสักที หรือต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าหญิงก่อน เจ้าชายขี้เซาคนนี้ถึงจะยอมตื่น”ร่างเล็กพูดเสียงเบา น้ำตาเริ่มเอ่อคลอนัยน์ตาสวย
ใบหน้าเล็กก้มลงไปหาใบหน้าคมที่ยังคงหลับใหล ริมฝีปากบางแนบชิดกันประทับจุมพิตลงบนกลีบปากหนาของเจ้าชายนิทรา แต่แล้วดวงตาเรียวเล็กก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อสัมผัสที่คิดว่าเป็นเพียงการแตะบางเบา กลับถูกลิ้นหนาของอีกฝ่ายลุกล้ำเข้ามาควานหาความหวานภายในโพลงปากอย่างโหยหา แถมมือหนาของคนที่คิดว่าหลับกลับยกขึ้นมากดท้ายทอยเจ้าหญิงตัวน้อยซะแน่น ให้ร่างเล็กได้รับรสสัมผัสจากตนแนบชิดและลึกล้ำมากขึ้น
หลังจากผ่านการจูบอันยาวนาน จุนซูก็ทุกอกอีกฝ่ายแรงๆ เมื่อเริ่มรับรู้ว่าอากาศในปอดเริ่มมีน้อยเต็มที จึงทำให้ยูชอนยอมปล่อยออกอย่างเสียดาย
ไว้ต่อคราวหน้าแล้วกัน....
“นาย....”พูดได้แค่นั้น ใบหน้าเล็กแดงเรื่อขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหนื่อยหรืออายกันแน่
ยูชอนมองคนรักยิ้มๆ
“ตื่นมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย?”ถามออกมาทั้งๆที่ยังหอบอยู่
“ก็ตั้งแต่ตอนที่โฮนาออกไป กำลังจะลุกเลย แต่พอได้ยินว่าจะมีเจ้าหญิงแสนสวยเสนอจะจุมพิตให้เจ้าชายตื่น ก็เลยนอนต่ออีกหน่อย”ร่างสูงพูดยิ้มๆ
“นี่นาย...”จุนซูพูดชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างเจ็บใจที่ถูกหลอก หยิบหมอนขึ้นมาตีหน้าร่างสูงอย่างเจ็บใจปนอาย
“โอ๊ย....ผมกลัวแล้วครับ อย่าทำผมเลย คุณจุนซู ฮะ..ฮ่า”ยูชอนว่าพลางหลบหมอนที่กระหน่ำลงมา
“ตื่นมาก็สวีทหวานกันเลยนะ”ชางมินเดินเข้ามา มองทั้งสองคนอย่างหงุดหงิด แล้วเดินไปนั่งริมหน้าต่าง ตามมาด้วยร่างของยุนโฮและแจจุง
“อ้าว...ฟื้นแล้วเหรอทั้งสองคน”แจจุงถามอย่างดีใจ เมื่อเห็นคนที่นั่งบนเตียง
“อื้อ แล้วเจ้านั่นล่ะเป็นไร?”ยูชอนพยักหน้ารับ ถามกลับพลางบุ้ยหน้าไปทางชางมินที่ยังนั่งหน้าหงิกอยู่
“สงสัยหงุดหงิดที่เข้าไปขัดจังหวะ”แจจุงว่ายิ้มๆ มองชางมินที่นั่งส่งตาเขียวอยู่ แต่ใบหน้ากลับแดงซ่าน
“ซีวอนชั้นกลัวจังเลย”แจจุงบีบเสียงเล็กๆ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาไว้ที่หน้าอก พลางส่ายหน้าไปมาประกอบคำพูด แล้วโผเข้าหายุนโฮ ซึ่งก็พร้อมที่จะรับมุกเต็มที่
โอบกอดคนรักตอบทันที
โอบกอดคนรักตอบทันที
“ไม่ต้องกลัวนะชางมิน ผมอยู่นี่แล้ว คุณจะปลอดภัย”ยุนโฮเก๊กเสียงหล่อตอบกลับมา
“ซีวอน”แจจุงเงยหน้ามองร่างสูงด้วยรอยยิ้ม
“ชางมิน”ยุนโฮมองสบตากลับมา
“ชั้นรักนาย”เสียงหวานเป็นที่สุด
“ผมก็รักคุณ”เก๊กหล่อกลับมาสุดฤทธิ์
“หยุด!หยุดได้แล้ว มันเป็นอย่างนั้นซะที่ไหนเล่า”ชางมินขัดขึ้นอย่างทนไม่ได้ กับท่าทางของทั้งสอง เดินไปแยกทั้งคู่ออกจากกันอย่างรำคาญ แล้วเดินออกจากห้องไป โดยที่ใบหน้ายังแดงไม่หยุด ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่เหลือในห้อง
“นี่พวกนายจะบอกว่า ซีวอนกับชางมินมีซัมติงกันน่ะเหรอ?”จุนซูถามทั้งที่ยังหัวเราะไม่หยุด
“ไม่อยากจะเชื่อ”ยูชอนว่ายิ้มๆ
“แล้วพวกนายล่ะ เป็นไงบ้าง?”ยุนโฮหันมาถามอาการคนบนเตียงอย่างห่วงใย
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ แต่ยังเจ็บแผลนิดหน่อย”ยูชอนตอบ แต่แล้วก็แปลกใจกับคำถามของเพื่อน
“พวกนาย? หมายความว่าไง?”ร่างสูงถามอย่างสงสัย แล้วหันไปมองจุนซูที่ตอนนี้นั่งยิ้มแห้งๆ อยู่
“คือว่า....”จุนซูพูดแค่นั้นก็จับผ้าห่มที่ห่มไว้ออกจากขา ให้ร่างสูงได้เห็นเท้าที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลทั้งสองข้าง
“เกิดอะไรขึ้นกับนายน่ะ?”ยูชอนถามอย่างตกใจ
“ก็แค่ จะวิ่งไปหานายที่สลบอยู่ เลยเผลอเหยียบเศษแก้วเข้า แค่นั้นเอง ไม่เป็นอะไรมากหรอก”จุนซูตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา
“ทีหลังอย่าทำอย่างนั้นอีกนะ ดูแลตัวเองบ้าง”ยูชอนมองอย่างตำหนิ แต่น้ำเสียงท้ายประโยคกลับอ่อนโยนจนคนฟังอดหน้าแดงไม่ได้
“อื้อ”
“เอาล่ะๆ หยุดสร้างโลกส่วนตัวกันได้แล้ว หายดีแล้วก็พากันกลับห้องด้วยล่ะ เจ้าของห้องจะได้กลับมานอนที่ห้องสักที”ยุนโฮว่าทั้งสองคน
ก็นี่มันห้องของฮันกยองเขานะ.....(เกือบลืมแหนะ)
“เราก็กลับห้องเราเถอะ แจจุง”หันมาพูดกับร่างบางข้างๆ ตาเป็นประกาย แต่แจจุงกลับไม่ได้รับรู้ถึงปฏิกิริยานั้นเลย แค่พยักหน้ารับเรียบๆ แล้วเดินออกจากห้องไป ยุนโฮเดินตามอย่างกระหยิ่มใจ
“หู หาง ออกแล้วนั่น”ยูชอนว่าอย่างหมั่นไส้ แล้วหันมาสนใจคนตัวเล็กข้างๆ
“เดินไหวมั้ย?”ถามอย่างอ่อนโยน จุนซูพยักหน้ารัก แล้วทั้งสองก็พยุงกันเดินกลับห้องตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ขณะที่ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปเก็บของในห้องตัวเอง แต่กลับมีคนๆหนึ่ง เดินกลับมาที่ห้องอาหารอีกครั้งหลังจากที่ทุกคนสั่งอาหารทิ้งไว้แล้วออกไป
ชายหนุ่มเดินไปที่โต๊ะอาหารที่จัดไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นโต๊ะที่จัดไว้สำหรับกรรมการห้องเอ ในมือหนานั้น มีซองบางอย่างที่ถูกคลี่ออกแล้วเทผงสีขาวภายในลงไปในสปาเก็ตตี้สีสันน่าทางที่วางเรียงรายอยู่
อยู่ที่นี่ยาพวกนี้หายากสักหน่อย แม้ยานี่จะไม่ทำให้พวกแกตายในทันที แต่ถ้ามันออกฤทธิ์ตอนนั้นล่ะก็ มันอาจจะส่งผลได้ดีเกินคาดก็ได้ หึ....หึ
ชายหนุ่มคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง เทผงสีขางนั้นลงไปทุกจานบนโต๊ะ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่า การกระทำทุกอย่างนั้น อยู่ในสายตาของชายหนุ่มอีกคนที่ยืนแอบอยู่ริมประตูอยู่ตลอดเวลา
ทำไม? ทำไมนายต้องทำอย่างนี้ ทำไมนายไม่เชื่อชั้นบ้าง
ร่างสูงคิดอย่างเจ็บปวด
ชางมินที่เพิ่งเก็บของเสร็จเดินลากกระเป๋าลงมาข้างล่างอย่างลำบาก แต่ขณะนั้นเองดวงตาเรียวก็เหลือบไปเห็นร่างสูงที่คุ้นตา กำลังยืนทำอะไรบางอย่างกับสำรับอาหารที่ถูกจัดไว้สำหรับพวกตนอยู่
“นั่นนายทำอะไรน่ะ?”ชางมินทักอย่างสงสัย อีกฝ่ายถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทักนั้น
“เอ่อ...”ซีวอนหันมามองคนทักที่ยืนจ้องมองเขานิ่ง ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยการจับผิด
“ก็...เปล่า...แค่มาดูว่า...อาหารพวกนายได้ครบกันรึยัง?”ร่างสูงพูดติดๆขัดๆ
“แล้วนั่นอะไร?”ชางมินถามสายตายังคงจับผิดท่าทางอีกฝ่าย ชี้ไปที่มือของร่างสูงที่ถือสปาเก็ตตี้อยู่ในมือ
“อ๋อ...นี่มันของโต๊ะชั้น เห็นว่ามันไม่มีเลยมาดู....ที่ไหนได้เขายกมาไว้ที่โต๊ะนี่เอง”ซีวอนว่าพลางหลบตา
“ห้องนายสั่งสปาเก็ตตี้ด้วยเหรอ? เมื่อกี้ไม่เห็นมีเลย”
“ก็...ชั้นนี่ไงสั่งเพิ่มเอง นายจะไปรู้อะไร”พูดจบก็รีบพาตัวเองออกไปที่โต๊ะตัวเองทันที พลางถอนหายใจ
ชางมินมองตามร่างสูงไม่วางตา จนได้ยินเสียงเอะอะของเพื่อนๆที่เริ่มเข้ามาในห้องอาหาร
“มองอะไรน่ะ?”ยุนโฮถามขึ้นพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ยักคิ้วหลิ่วตาให้
“ถ้าอยากคุยกับเขาก็เข้าไปคุยเลย มัวมามองอย่างนี้เมื่อไหร่จะสมหวังล่ะ”ยูชอนเข้ามาสมทบ
“มันใช่อย่างนั้นซะที่ไหนเล่า”ชางมินว่าพลางขมวดคิ้ว สายตายังคงจับจ้องซีวอนอย่างครุ่นคิด แล้วเดินออกไปที่ห้องครัว ทั้งสี่คนมองหน้ากันอย่างแปลกใจ
ไปไหนของเค้า?
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ทั้งสี่ก็ได้คำตอบ เมื่อชางมินเดินกลับมาพร้อมกับขนมปังในอ้อมแขนเพียบ
“เอ้า...กินกันซะ”พูดพลางวางขนมปังหลายสิบห่อลงบนโต๊ะ แล้วหยิบจานสปาเก็ตตี้ตรงหน้าทุกคนมาไว้ที่หน้าตนเองแทน
“ทำอะไรน่ะ?”ยุนโฮถามอย่างสงสัย ในขณะที่เพื่อนคนอื่นงงเป็นไก่ตาแตกกันไปหมดแล้ว
“ชั้นจะกินพวกนี้เอง ส่วนพวกนายก็กินนั่นไป”ชางมินพูดพลางชี้ไปที่ขนมปังกองโต
“ทำไมง่ะ?”จุนซูถาม สายตายังคงจับจ้องสปาเก็ตตี้ตรงหน้าชางมินอย่างเศร้าสร้อย
“นั่นสิ”แจจุงเห็นด้วยกับคำถามของจุนซู
ชั้นอยากรู้เหตุผล ทำไมชั้นต้องมากินขนมปังนี่แทนสปาเก็ตตี้น่ากินนั่นด้วย
คำพูดดังก้องอยู่ในหัว แสดงออกมาทางสีหน้า แต่มิได้หลุดลอดออกมาปากบางแม้แต่น้อย ทั้งคู่ได้แต่เก็บคำพูดเหล่านั้นไว้ในใจ เพราะว่า.....
“บอกให้กินก็กินไปเหอะ อย่าเรื่องมาก” คำพูดตัดเยื่อใยออกมาจากปากชางมินอย่างรำคาญ พร้อมกับส่งสายตาดุจเสือมองทุกคน ประมาณว่า
อยากทำมีปัญหาอะไรมั้ย?
แล้วก้มลงกินสปาเก็ตตี้ตรงหน้าทีละจาน
อยากทำมีปัญหาอะไรมั้ย?
แล้วก้มลงกินสปาเก็ตตี้ตรงหน้าทีละจาน
“ล้อแค่นี้ ไม่เห็นต้องแย่งกินเลย”แจจุงว่าเสียงอ่อย กัดขนมปังเข้าปากมองหน้าชางมินหงอยๆ
“ช่างเขาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ อย่างนี้แหละ คนไม่สมหวังในรัก ก็หันมาประชดชีวิต กินมันเข้าไป”ยูชอนว่าเรียบๆ แต่คำพูดกลับเจ็บแสบนัก แล้วแกะห่อขนมปังส่งให้จุนซูที่รับไปกินแต่ยังคงมองจานสปาเก็ตตี้อยู่
ก็คนมันอยากกินนี่...
“เรื่องอะไรจะยอมล่ะ นี่ชั้นสั่งไว้นะ”ยุนโฮที่นั่งอยู่ข้างๆชางมินพูดขึ้น แล้วหยิบจานสปาเก็ตตี้มาหนึ่งจาน
“ชั้นไม่ให้กิน”ชางมินพูดทั้งๆที่ เส้นสปาเก็ตตี้ยังอยู่เต็มปาก ดึงจานจากมืออีกฝ่าย
“ก็ชั้นจะกิน”ยุนโฮดึงกลับมาแล้วรีบตักสปาเก็ตตี้เข้าปากคำใหญ่ แล้วหันมายิ้มเยาะเย้ย ชางมินมองอย่างโมโห
“น่า...น่า ชางมินให้ยุนโฮจานนึงนะ นายมีตั้งสี่จานแล้ว ของพวกเราให้นายคนเดียวเลยก็น่าจะพอนะ อย่าโมโหเลย”แจจุงใช้น้ำเย็นเข้าลูบ
“พวกนายไม่เข้าใจ แต่ช่างเหอะ”ชางมินพูดแค่นั้น ก็ก้มหน้าก้มตากินต่อไป
ไม่รู้ว่าเจ้านั่นจะทำอะไรกับอาหารพวกนี้ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็น่าจะเป็นเรามากกว่ายุนโฮน่ะนะ
“กินหมดนั่นได้มีอ้วกกันบ้างล่ะ”ยูชอนว่า
ตอนสาย ทุกคนก็เริ่มออกเดินทางกลับ ซึ่งก็เป็นทางเดิมที่เคยมา ทั้งสี่คนมองชางมินที่กินสปาเก็ตตี้ทั้งสี่จานหมดเกลี้ยงแล้วยังเดินได้สบาย ก็ตกใจ
ท้องทำด้วยอะไรนั่น?
พอยกขบวนมาถึงธารน้ำตกที่ยังคงไหลเชี่ยวกรากเหมือนเมื่อตอนขามา และยังดูเหมือนว่าจะแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ
กรรมการกลุ่มบีเดินข้ามผ่านไปอย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับโฮนาและชางมิน อาจเป็นเพราะเคยทำได้มาแล้วครั้งนึง เลยทำให้มีความมั่นใจข้ามไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ตอนนี้เหลือเพียง ยูชอน จุนซู แจจุงและยุนโฮ (พระนางของเรานั่นเอง)
ยูชอนจัดการให้จุนซูขี่หลังเพราะร่างเล็กเท้าเจ็บไม่มีทางที่จะเดินข้ามไปได้แน่ คราวที่แล้วแจจุงกับยุนโฮยังข้ามสองคนได้ ครั้งนี้ไม้ก็คงจะรับน้ำหนักพวกเขาไหวเช่นกัน คิดได้ดังนั้นร่างสูงจึงเริ่มเดินไปทันที โดยที่จุนซูเกาะคอร่างสูงไว้แน่น ยูชอนก้าวไปช้าๆ แต่ทว่ามั่นคง จนพาทั้งคู่ไปจนถึงอีกฝั่งได้อย่างงดงาม
“แจจุงนายข้ามได้มั้ย?”ร่างบางพยักหน้ารับ
“ชั้นจะต้องกลัวอะไรล่ะ ในเมื่อมีนายอยู่ทั้งคน”แจจุงพูดพลางยิ้มหวาน แล้วเดินหน้าไปเรื่อยๆ มองหน้าเพื่อนรักทั้งสองที่มองมาอย่างเป็นห่วง สุดท้ายก็ไปจนถึงอีกฝั่ง
“ชั้นทำได้ ทำได้แล้ว”ร่างบางกอดชางมินหัวเราะอย่างดีใจ แล้วหันไปมองอีกฝั่งด้วยรอยยิ้ม กะจะอวดคนรักที่ตนก็สามารทำได้ คิดว่าจะได้เห็นรอยยิ้มจากอีกฝ่าย
แต่กลับพบว่า ยุนโฮกลับยืนเอามือกุมขมับไว้ ร่างสูงโอนเอนไปมาอย่างผิดปกติ ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าหวานมลายหายไปทันที
“ยุนโฮนายเป็นอะไรน่ะ?”ร่างบางตะโกนถามอย่างตกใจ
ยุนโฮที่รู้สึกวูบๆ มึนๆ อยู่ พอได้ยินเสียงของแจจุงก็เหมือนได้สติ เงยหน้าขึ้นมองคนรักที่ยืนอยู่อีกฝั่งใบหน้านั้นตื่นตระหนก ร่างสูงจึงโบกมือให้พลางยิ้ม
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง”ตะโกนออกไปให้อีกฝ่ายหายห่วง แล้วกลับยืนนิ่ง รู้สึกว่าภาพตรงหน้าเริ่มพล่าเลือนขึ้น ชายหนุ่มสะบัดหน้าแรงๆ สองสามทีไล่ความมึนงงนั้นออกจากหัว แล้วกระพริบตาถี่ๆ จนเริ่มเห็นภาพชัดขึ้นแล้วเริ่มเดินไปที่ท่อนไม้
ยาออกฤทธิ์ได้เวลาดีจริง...แม้จะผิดแผนไปหน่อย แต่ก็ได้ผลดีเกินคาด
ชายหนุ่มที่ยืนมองอาการของยุนโฮคิด ใบหน้านั้นยกยิ้มอย่างน่ากลัว
ชายหนุ่มที่ยืนมองอาการของยุนโฮคิด ใบหน้านั้นยกยิ้มอย่างน่ากลัว
ชางมินเห็นอาการผิดปกตินั้น ก็หันไปมองซีวอนอย่างตกใจ
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้? ทำไมถึงเป็นยุนโฮ?
ยุนโฮเดินไปได้เพียงครึ่งทาง แม้จะพยายามตั้งสติเท่าใด ก้าวไปช้าๆ เพียงไหน แต่ภาพที่เห็นกลับยิ่งมัวจัดจนเหมือนกระจกที่ถูกไอน้ำปกคลุม มองไม่เห็นท่อนไม้อีกต่อไป เห็นแต่สายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากอยู่เบื้องล่าง ร่างสูงหยุดเดิน มองไปที่ร่างบางที่ยืนเอื้อมมืออยู่อีกฝั่ง
ใบหน้าที่อยากเห็นชัดๆอีกครั้ง ใบหน้าที่เฝ้าคิดถึงอยู่ตลอดเวลา แม้ตอนนี้จะเห็นใบหน้านั้นไม่ชัด แต่กลับรับรู้ได้ว่า ใบหน้านั้นคงจะตื่นตกใจเพียงใด ดวงตากลมโตที่เคยสดใส คงจะเบิกโพล่งจ้องมาที่เขาเป็นแน่ ดีไม่ดีอาจจะร้องไห้อยู่ด้วยซ้ำ
ชั้นขอโทษแจจุง....ขอโทษที่ทำไห้นายร้องไห้.....
ขอโทษที่ทำให้นายต้องหลั่งน้ำตา.......
ชั้นคงอยู่กับนาย....ปกป้องนายได้แค่นี้......
ขอโทษที่ผิดสัญญา.....ชั้นขอโทษ....
......แจจุง........
คิดได้เพียงแค่นั้น สติที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ดับวูบ ดวงตาคมปิดลงอย่างทนไม่ไหว ร่างสูงที่เคยยืนอย่างมั่นคงกลับเอนไปมาอย่างน่ากลัว และล่วงลงสารน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากเบื้องล่างเหมือนไร้เรี่ยวแรง ต่อหน้าต่อตาทุกคน
ตู้ม...!
“ยุนโฮ!”แจจุงตะโกนเรียกดังก้องป่า ดวงตากลมโตเบิกกว้างทั้งน้ำตา ไม่ทันที่ใครจะคิดอะไร ร่างบางก็กระโดดลงสายน้ำเบื้องหน้าทันที
ตู้ม...!
“แจจุง!”
ไม่กี่วินาที สองร่างที่ลงไปในน้ำนั้นก็หายลับไปจากสายตา เหลือแต่เพียงสายน้ำที่ยังคงไหลไม่หยุด ราวกับว่าทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในสายธารแห่งนั้น
ชั้นเคยบอกแล้วไง ว่าเราจะอยู่ด้วยกัน ชั้นจะไม่ยอมให้นายทิ้งชั้นไว้ เราจะไม่มีวันแยกจากกัน
“แจจุง....”จุนซูตะโกนเรียกทั้งน้ำตา ร่างเล็กคงจะกระโดดตามเพื่อนรักไปด้วย ถ้าไม่ติดที่มีแขนของยูชอนและชางมินรั้งตัวเขาไว้ ทั้งที่ทั้งสองยังคงมองสายน้ำนั้นทั้งน้ำตาเช่นกัน
-----------------------------------------------------------------------
มาอัฟแล้วนะ ขอโทษที่อัฟช้าไปนิด (รึเปล่า?)
ไปๆมาๆ ก็ใกล้จะถึงตอนจบเข้าทุกที ทั้งๆที่ยังคิดตอนจบไม่ออกเลย แหะ..แหะ
-----------------------------------------------------------------------
มาอัฟแล้วนะ ขอโทษที่อัฟช้าไปนิด (รึเปล่า?)
ไปๆมาๆ ก็ใกล้จะถึงตอนจบเข้าทุกที ทั้งๆที่ยังคิดตอนจบไม่ออกเลย แหะ..แหะ
ตอนหน้ายุนแจแล้วนะ จัดให้ตามคำขอ.....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น