ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะดุดรักนายมาเฟีย [Fic TVXQ+SUJU]

    ลำดับตอนที่ #6 : ยังไม่ถึงเวลาได้พบกัน

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 52


    ตอนที่ 6 
    ยังไม่ถึงเวลาได้พบกัน

    "นี่นายโกรธชั้นงั้นเหรอ?"ดงแฮถามคิบอมเมื่อกลับเข้ามานั่งในรถ ร่างสูงยังคงตีหน้านิ่งไม่พูดไม่จา

    "โกรธที่ฮยอกแจพูดเหรอ? ชั้นอธิบายให้เค้าเข้าใจแล้วนะ อย่าโกรธเลย"พูดอย่างออดอ้อน เอื้อมเจ้าไปกอดเบาะนั่งของอีกฝ่ายไว้ พลางยื่นหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ

    "ผมเปล่าโกรธครับ"ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่สีหน้าและน้ำเสียงช่างต่างกับคำพูดลิบลับ

    "อย่างนี้น่ะโกรธแหงๆ"พูดพลางทำแก้มป่องน้อยใจได้อย่างน่ารัก มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่รู้จะทำอะไร

    ไม่รู้จะง้อยังไงแล้วนะ นี่ก็ง้อมาตลอดทางแล้วยังไม่หายสักที จะโกรธอะไรนักหนา.....

    ดงแฮคิดอย่างน้อยใจ ดวงตาเรียวสะดุดตากับร้านอาหารเล็กๆ ที่จัดไว้อย่างน่ารักข้างทาง ร่างบางก็รีบบอกให้คนขับหยุดทันที แม้จะงงอยู่บ้างแต่คิบอมก็ยอมหยุดให้ตามความต้องการ

    ดงแฮเดินเข้าไปนั่งในร้านที่ไม่ค่อยมีคนนักโดยมีคิบอมยืนอยู่ข้างโต๊ะ

    "นั่งลงสิ เมื่อกี้นายยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ? งั้นเรามากินที่นี่ต่อดีกว่า"ดงแฮพูดพลางยิ้ม แต่ร่างสูงก็ยังเฉย จนเด็บหนุ่มร่างสูงที่ยืนรอรับเมนูมองทั้งคู่ไปมาอย่างแปลกใจ

    "ไม่ล่ะครับ ผมจะกลับไปกินที่บ้าน เชิญคุณตามสบาย"เสียงทุ้มเอ่ยเรียบๆ ดงแฮถอนใจยืดยาวอย่างเบื่อหน่าย มองเด็กหนุ่มที่ยืนมองพวกเค้าตาใสแป๋ว ก็หันไปสั่งอาหารหลายอย่างพลางยิ้ม

    "รอสักครู่นะครับ"เด็กหนุ่มร่างสูงพูดแล้วเดินหายเข้าไปในครัว

    ขณะนั้นเองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อีกคนก็เดินเข้าร้านมามองทั้งสองอย่างตกใจ พอเห็นหน้าคิบอมก็เดินเข้ามาหาทันที

    "คุณคิบอมใช่มั้ยครับ แล้วนี่คงเป็นคุณจุนซู สวัสดีครับ"ชายผู้มาใหม่ทักพลางทำความเคารพทั้งสองคนอย่างนอบน้อม ดงแฮรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที

    "ชั้นไม่ใช่จุนซูหรอก ชั้นเป็นเพื่อนจุนซูเค้าน่ะ ชื่อดงแฮ"ร่างบางแนะนำตัวยิ้มๆ

    "นาย.....?"คิบอมถามเรียบๆ แต่สายตายังไม่ละไปจากใบหน้าผู้มาใหม่

    "อ้อ...ผมคังอินครับ เป็นลูกน้องของแก๊งTVXQ แต่อยู่ชั้นปลายแถว คุณคงไม่รู้จัก พอดีผมมักจะมาที่นี่บ่อยๆ ไม่ค่อยได้เห็นคนที่แก๊งมาก็เลยแปลกใจ ยิ่งเป็นคนระดับคุณคิบอมด้วย"คังอินแนะนำตัวอย่างลุกลี้ลุกลน!"เด็กหนุ่มที่ชื่อ 'ชางมิน' เรียกพลางกระทุ้งแขนใส่คนพูด แต่ก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สนใจ ยังคงมองดงแฮอย่างอยากรู้อยากเห็นTVXQมากันอย่างนี้ แจจุงคงปลอดภัย ร่างสูงถึงขอตัวกลับไปหาคนสวยที่ร้านดอกไม้ดีกว่า

    "ได้ข่าวว่า หัวหน้าหายตัวไป ผมอยากจะช่วยตามหานะครับ แต่ผมไม่รู้จักหน้าค่าตาท่านเลย"ประโยคต่อมา คังอินหันไปกระซิบกับคิบอม

    "ขอบใจนะ แล้วคราวหลังถ้าชั้นผ่านมาแถวนี้จะเอารูปมาให้ดู"คิบอมหันไปบอกยิ้มๆ

    ดงแฮที่มองทั้งสองคุยกัน ก็เรียกคิบอมอย่างเรียกความสนใจ

    "นี่...นายไปรับจุนซูมาหาชั้นทีสิ ชั้นจะรออยู่ที่นี่"ดงแฮขัดขึ้น คิบอมทำท่าเหมือนจะขัด แต่ก็ถูกดักคอไว้อีก "ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวชั้นจะโทรไปบอกเค้าอีกที เค้ายอมมาแน่"

    "จะให้ผมทิ้งคุณไว้ที่นี่เหรอครับ?"คิบอมยังอ้าง ไม่ยอมไป

    "ที่นี่คงไม่มีใครมาทำอะไรชั้นหรอก ใช่มั้ย?ทั้งสองคน"พูดพลางหันไปถามเด็กหนุ่มร่างสูงที่เพิ่งรับออเดอร์ไปกับเด็กหนุ่มตัวเล็กอีกคนที่นั่งมองอยู่ ทั้งคู่พยักหน้ายิ้มๆ

    "ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะอยู่ดูแลคุณคนนี้เองจนกว่าคุณจะมา"คังอินเสนอตัวขึ้นมา

    "เห็นมะ ไม่มีอะไรน่าห่วง นายไปรับจุนซูได้แล้ว"พูดตัดบท คิบอมถอนใจกับความเอาแต่ใจนั้นของอีกฝ่าย แต่สุดท้ายก็ยอมไปทั้งที่ไม่เต็มใจ

    "งั้น ชั้นฝากด้วยนะ"ร่างสูงหันไปพูดกับคังอินก่อนที่จะเดินออกไป

    "ชางมิน เอาอาหารไปเสิร์ฟที"เสียงเรียกดังมาจากในครัว ทำให้เด็กหนุ่มร่างสูงรีบเข้าไปหาคนเรียกทันที แล้วออกมาอีกครั้งพร้อมกับอาหารหน้าตาน่าทานมาวางตรงหน้าดงแฮ

    "คุณคนเมื่อกี้แฟนคุณเหรอ? เหมาะกันจัง"เด็กหนุ่มตัวเล็กอีกคนพูดพลางยิ้มอย่างน่ารัก

    "ซองมิน

    ดงแฮมองทั้งสองคนพลางยิ้ม

    "ตอนนี้ไม่ใช่หรอก แต่ต่อไปก็ไม่แน่นะ"พูดแล้วยิ้มหวานให้ทั้งสองคน

    จุนซูที่แม้จะยังงงอยู่บ้างที่อยู่ดีๆ เพื่อนรักก็โทรมาบอกให้ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วจะให้คิบอมมารับ แต่เค้าก็ชินแล้วกับอาการคิดไวทำไวเอาแต่ใจของเพื่อนรัก พอเห็นหน้าบอร์ดี้การ์ดคนสนิทที่มองมาอย่างเหนื่อยใจก็ยิ้มให้

    "เหนื่อยหน่อยนะ"พูดพลางมองอีกฝ่ายอย่างเห็นใจ

    "ไม่เป็นไรครับ"พูดจบแล้วเดินนำเจ้านายไปที่รถ ขับพาไปที่ร้านอาหารที่มีคนเอาแต่ใจนั่งรออยู่

    พอทั้งคู่ไปถึง ดงแฮก็รีบออกมารับทั้งสองถึงหน้าร้าน พาไปนั่งโต๊ะที่มีอาหารวางเรียงรายเต็มไปหมด จุนซูได้แต่มองเพื่อนตนงงๆ

    "มานี่สิ...อาหารที่นี่อร่อยมากเลยนะ อร่อยกว่าภัตตาคารในโรงแรมซะอีก แถมคนทำก็สวยอย่างกับนางงาม"พูดพลางตักอาหารใส่จานตรงหน้าเพื่อนอย่างอารมณ์โ แล้วกระเถิบเข้าไปกระซิบอีกว่า "เรียกให้คุณบอร์ดี้การ์ดนั่งด้วยสิ เค้าโกรธชั้นไม่ยอมกินอะไรมาตลอดทางเลย ถ้าเป็นนายเค้าคงยอมทำตามน่ะ"

    จุนซูได้ยินดังนั้นก็เกือบหลุดขำ

    "อย่าบอกนะว่า ที่นายเรียกชั้นมาก็เพราะเรื่องนี้" หันไปถามเพื่อนรักยิ้มๆ

    ดงแฮพยักหน้ารับสีหน้าจริงจัง จนจุนซูอดที่จะขำไม่ได้

    "คิบอมนายมากินด้วยกันสิ ดงแฮสั่งมาเยอะอย่างนี้ ชั้นสองคนกินกันไม่หมดหรอก"จุนซูหันไปบอกคนสนิทเรียบๆ ทั้งที่ในใจนั้นอยากจะหัวเราะแทบตาย ไม่อยากจะเชื่อว่าคนเอาแต่ใจอย่างดงแฮจะต้องมานั่งง้อคนสนิทของเค้า

    "อย่าดีกว่าครับ เชิญคุณสองคน...."ร่างสูงพูดปฏิเสธไม่ทันจบ ดงแฮก็ขัดขึ้นทันที

    "นายกล้าขัดคำสั่งจุนซูรึไง?"ได้ยินอย่างนั้นคิบอมถึงกับสะอึก เดินเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะอย่างไม่เต็มใจ

    ดงแฮได้ทีรีบตักอาหารใส่จานร่างสูงจนเต็ม

    "กินให้หมดนี่นะ ไม่งั้นถือว่านายขัดคำสั่งจุนซู"พูดพลางเอาศอกกระทุ้งแขนเพื่อน จุนซูจึงหันไปพยักหน้ากับคิบอม ร่างสูงจึงจำใจตักอาหารเข้าปาก

    "เอ้อ....ชั้นลืมแนะนำเลย คนสวยๆ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะ ชื่อแจจุงเจ้าของร้านและพ่อครัวของที่นี่ ส่วนนั่นชางมินกับซองมิน คุณคนนั้นชื่อคังอิน เป็นลูกน้องของนาย แล้วสองคนนี่ก็คือจุนซูกับคิบอม"ดงแฮแนะนำทุกคนให้รู้จักกันราวกับว่าตัวเองรู้จักพวกเค้ามานานนับปี ทั้งๆ ที่เพิ่งจะรู้จักเมื่อกี้นี้เอง

    แจจุง ชางมินและซองมินก้มหน้าทักทั้งคู่ยิ้มๆ ส่วนคังอินคำนับจุนซูอย่างนอบน้อม

    "ยินดีที่ได้รู้จักครับ อาหารอร่อยมาก"จุนซูพูดยิ้มๆ

    "งั้นเหรอครับ ขอบคุณที่ชม แต่ผมว่าคุณคนนั้นคงไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เห็นกินอาหารผมเข้าไปทำหน้าพะอืดพะอมอยู่นานแล้ว"แจจุงพูดพลางชี้ไปทางคิบอม ซึ่งเจ้าตัวก็รีบส่ายหน้าทันที

    "ล้อเล่นน่ะครับ"แจจุงพูดพลางหัวเราะ

    คิบอมได้แต่มองคนสวยหน้าเหวอ นี่เค้าโดนแกล้งอีกแล้วเหรอเนี่ย?

    พูดจบแจจุงก็เดินหายเข้าไปในครัว แล้วเดินออกมาอีกครั้งพร้อมกับใบชาถุงใหญ่

    "ดูจากฐานะพวกคุณแล้วคงจะไม่เคยกิน ใบชานี่หน่ะแม้จะสู้ของแพงๆ พวกนั้นไม่ได้ แต่ก็หอมชื่นใจนะ ผมให้เป็นของฝาก ที่รู้สึกถูกชะตากับพวกคุณ และอีกอย่างผมได้ยินมาว่าคุณมีเรื่องทุกข์ใจ ทั้งเรื่องพี่ชายและคนรัก"แจจุงพูดพลางยื่นถุงชาให้จุนซู ที่หันไปมองดงแฮอย่างคาดโทษ แล้วหันมารับของจากคนสวยเจ้าของร้าน

    "เรื่องพี่คุณผมคงช่วยอะไรไม่ได้ หวังว่าพวกคุณคงจะได้พบกันเร็วๆ นี้ แต่เรื่องของคนรักของคุณนี่ ผมว่าถ้าเค้าทำตัวน่าเบื่ออย่างนั้น คุณก็อย่านิ่งสิ ยิ่งคุณนิ่งเค้าก็จะยิ่งทำตัวงี่เง่าอย่างนี้เข้าไปอีก คุณต้องรุกแสดงให้เค้าเห็นว่าเรื่องฐานะมันไม่สำคัญ ถ้าเค้ามีใจให้คุณยังไงก็อดใจไม่ไหวหรอก เชื่อชั้นสิ"แจจุงแนะนำอย่างผู้รู้

    "คุณควรดีใจนะครับ นอกจากเรื่องช่วยพี่ยูโนวแล้ว ใบชาถุงนี้นี่แหละที่ผมได้เห็นพี่แจจุงมีน้ำใจกับคนอื่น ตั้งแต่เกิดมา"ซองมินแทรกเข้ามาพูดกับจุนซู และแน่นอนว่าพอพูดจบปุ๊บ ก็โดนมือเรียวตบหัวปั๊บ จนเรียกเสียงหัวเราะจากคนที่พบเห็นได้

    "พูดมากนัก เอ้อ....พูดถึงเจ้าหมีนั่นก็หายไปเลย ใช้ให้ไปส่งอาหารแค่เนี้ยหายไปเป็นชั่วโมง ริอาจอู้กลับมาพ่อจะจัดการให้เละเลยคอยดู"พูดอย่างเคี้ยวฟัน จนคนฟังอดที่เสียวสันหลังแทนผู้ที่ถูกพูดถึงไม่ได้

    คังอินที่เห็นว่าบรรยากาศในร้านดูสงบดีจึงขอตัวจากไป เพราะที่แวะมาก็เพราะเจ้าของร้านดอกไม้คนสวยคะยั้นคะยอให้เค้ามาดู กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ อย่างเมื่อวานอีก ในเมื่อตอนนี้คนของแก๊ง

    พวกของจุนซูอยู่คุยกันจนเริ่มบ่ายคล้อย ก็ขอตัวกลับเพราะมารบกวนนานแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าการได้พบปะคัยกันสั้นๆ จะทำให้ทั้งสามคนรู้สึกถูกชะตาและสนิทสนมอย่างน่าประหลาด และเป็นจุดเริ่มต้นของความผูกพันที่เหนียวแน่นของทั้งสาม ความเกี่ยวเนื่องอันน่าประหลาดที่คอยชักใยพวกเค้าอยู่เบื้องหลัง พวกเค้าไม่รู้เลยว่าต่อจากนี้จะต้องเจอมรสุมแห่งชีวิตร่วมกันอีกมากมายนับไม่ถ้วน

    เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ เมื่อจุนซูและดงแฮก้าวเท้าขึ้นรถ มอไซด์คันเล็กที่มีคนร่างสูงขับเข้ามา คิบอมมองเงาเล็กๆ ที่วิ่งมานั้นในกระจกส่องหลังแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไ สตาร์ทรถออกไปทันที ที่รถสี่ล้อสีดำลับตาไป รถสองล้อก็ขับเข้ามาจอดแทนที่ ยูโนวมองรถสีดำที่เพิ่งขับออกไปอย่างแปลกใจ ความรู้สึกแปลกประหลาดเกิดขึ้นในใจทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?

    ยังไม่ทันที่เสียงเครื่องยนต์จะดับดี มือเรียวของเจ้าของร้านก็หมับเข้าที่หูคนขับทันที จนเจ้าของได้แต่ร้องโอดโอยเสียงดัง
    ให้ไปส่งของแค่นี้ หายไปเป็นชั่วโมงเลยนะ ริอาจอู้งานเหรอ ตัดค่าแรง 5%พูดกัดฟันพลางดึงหูของร่างสูงขึ้นลง หันซ้ายหันขวาจนใบหน้าคมต้องหันตามด้วยกลัวว่าหูจะหลุดคามืออีกฝ่าย
    ห๊า...ปกติค่าแรงผมก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว ยังตัดออกอีกเหรอ?พอพูดได้เป็นอิสระ ร่างสูงก็ถามเสียงดังพลางจับหูที่แดงก่ำถูไปมาให้หายเจ็บ
    ยังจะมาเถียงอีกแจจุงดุเสียงเขียวไม่แพ้ดวงตา มองอีกฝ่ายราวกับอาจารย์ฝ่ายปกครองที่จับเด็กทำผิดกฎก็ไม่ปาน
    พี่สองคนนี่ทำตัวกันอย่างกับผัวเมียที่แต่งกันมานานแล้วงั้นแหละ เหมือนใครน้า....ซองมินพูดพลางทำท่าคิด แล้วนิ้วเรียวก็ดีดเปาะเมื่อคิดออก อ้อ...เหมือนตาตุ๊กับป้าเยาในบางรักซอยเก้าเลยเนอะว่าแล้วก็หันไปถามชางมินยิ้มๆ ซึ่งเพื่อนรักก็ได้แต่พยักหน้ายิ้มตอบ
    พูดบ้าอะไรกัน....มันจะไปเหมือนได้ยังไง?พูดเสียงดุพลางถลึงตาใส่หนุ่มน้อยทั้งสอง ขัดกับใบหน้าขาวที่แดงเรื่ออย่างเห็นได้ชัด เดินกระทืบเท้าหนีเข้าครัวไปอย่างไม่อยากจะอยู่คุยกับพวกนี้แล้ว ทิ้งให้ทั้งสามคนมองตามพลางหัวเราะ
    พูดได้ดีนี่น้องรัก ^-^”ยูโนวว่าแล้วเดินเข้าไปกอดคอเด็กหนุ่มทั้งสองไว้
    แล้วพี่หายไปไหนมาล่ะชางมินถาม คนถูกถามมองหน้าทั้งสองคนใบหน้าคมกลับดูนิ่งลงทันที
    พอดีเจอรยอวุคน่ะ  เขามีเรื่องกลุ้มใจ พี่เลยอยู่ปลอบใจนิดหน่อยแค่นั้นเอง
    อ้อ...สงสัยเรื่องพี่เยซองชางมินพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย พอเห็นสายตาสงสัยของยูโนวที่มองมา ก็รีบบอกให้หายสงสัยทันที เค้ารู้เรื่องนี้กันหมดแหละ คงมีแต่ตัวพี่เยซองนั่นล่ะที่ไม่รู้อะไรเลยชางมินพูดโดยมีซองมินพยักหน้าเห็นด้วย
    ไม่รู้ว่าพี่รยอวุคต้องทนเจ็บอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกไปกว่าดูอยู่ห่างๆซองมินพูดเสริม ใบหน้าของเด็กหนุ่มทั้งสองเริ่มเศร้าลงเมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่รยอวุคได้รับ
    พวกนายอย่าคิดมากเลย ไม่นานเค้าสองคนจะต้องเข้าใจกันเองยูโนวพูดพลางลูบหัวทั้งสองคน  ซึ่งก็ได้แต่พยักหน้ายื้มๆ
    หวังว่าวันนั้นจะมาถึงไวๆ
    นี่ก็เย็นมากแล้ว ชั้นกลับบ้านก่อนดีกว่า ผมกลับก่อนนะครับ...พี่ยูโนวซองมินพูดขึ้นพลางมองนาฬิกา แล้วหันไปลาชางมินกับยูโนวก่อนที่จะวิ่งออกไป
    ซองมินเดินมาได้ไม่กี่ซอย ดวงตาเรียวก็เหลือบเห็นร่างสูงที่คุ้นตายืนมองหาอะไรอยู่ไม่ไกลนัก ขาเรียวรีบก้าวเข้าไปหาทันทีโดยไม่ต้องรอให้สมองต้องสั่งการ
    สวัสดีครับ คุณคยูฮยอนเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มเมื่อเดินไปถึงอีกฝ่าย
    คยูฮยอนมองคนตรงหน้าทั้งแปลกใจและสงสัย ใคร? คิ้วหนาขมวดกันจนเป็นปม ซองมินเห็นท่าทางนั้นจึงรีบแนะนำตัวทันที
    ผมชื่อซองมินครับ ที่คุณช่วยไม่ให้ถูกรถชนเมื่อวันก่อนไง จำได้มั้ยครับ?คำแนะนำนั้นทำให้ร่างสูงดึงกับบางอ้อ มองหน้าอีกฝ่ายอย่างเป็นมิตรมากขึ้น แล้วพยักหน้ารับ
    วันนั้นขอบคุณ คุณมากนะครับ ถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่ร่างเล็กยังคงพูดต่อไปด้วยรอยยิ้ม
    ไม่เป็นไรตอบกลับไปเรียบๆ แล้วหันไปมองทางอื่น ไม่สนใจคนตรงหน้าอีก ความเงียบเริ่มเข้าครอบคลุมคนทั้งสอง เมื่อไม่มีใครพูดอะไรอีก
    พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีอะไร คยูฮยอนจึงเมินร่างเล็กแล้วเดินจากมาเพื่อทำหน้าที่ของตนต่อ ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยๆ จนเริ่มหมดความอดทนเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่เดินตามตนไม่หยุด
    นายจะเดินตามชั้นอีกนานมั้ย! มีอะไรก็ไปทำไป!”ร่างสูงตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิด
    คุณไม่ใช่คนที่นี่ใช่ไหม? ผมไม่คุ้นหน้าคุณเลยซองมินถามออกมาราวกับไม่ได้ยินคำไล่เมื่อกี้
    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย?
    ก็คุณคงมาที่นี่เพื่อหาอะไรสักอย่าง ผมเห็นคุณทำท่าเหมือนหาอะไรอยู่ ให้ผมช่วยมั้ย? ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ผมอาจจะช่วยคุณได้นะซองมินรีบเสนอตัวทันที โดยไม่สนใจอาการหงุดหงิดของร่างสูง
    นายช่วยไม่ได้หรอก อย่ามายุ่งกับชั้นจะดีกว่า (รำคาญ)รีบปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด แต่คำสุดท้ายไม่ได้พูดออกไป ยังไงเค้าก็ยังมีมารยาทอยู่บ้าง
    แต่ผมอยากช่วยนี่  ไม่ลองไม่รู้นาพูดพลางเหลือบตามองคนที่สูงกว่ายิ้มๆ
    คยูฮยอนมองใบหน้าขาวที่ยืนยิ้มอยู่นั้นแล้วถอนหายใจ
    ชั้นตามหาคนอยู่ นายพอจะเคยเห็นคนในรูปนี้บ้างไหม?ร่างสูงพูดพลางหยิบรูปที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาให้ดู
    ซองมินยังไม่กลับบ้านอีกรึไง เมื่อกี้ชั้นเห็นแม่นายตามหานายอยู่แหนะฮันกยองที่ขี่จักรยานอยู่ตะโกนมา
    ซองมินที่ได้ยินอย่างนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าต้องรีบกลับ
    งั้นไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมจะช่วยคุณหาคนเองร่างเล็กพูดทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้ดูรูปในมือของอีกฝ่าย แล้วทำท่าโบกมือบ๊ายบาย ก่อนที่จะวิ่งจากไปทันที
    คยูฮยอนมองตามไปอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
    คนอะไรร่าเริงได้ขนาดนั้น......
     
    ตกค่ำ
    แจจุงที่พลักตัวนอนกลับไปกลับมาหลายหน ไม่ว่าจะพยายามให้หลับลงอย่างไร ก็ไม่ยอมหลับสักที ดวงตากลมโตเหลือบมองร่างสูงอีกคนที่นอนอยู่บนพื้น ไม่ไกลจากเตียงที่ตนนอนอยู่นัก ท่ามกลางความมืดแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเห็นอีกฝ่ายนอนหลับสบายอย่างชัดเจน
    ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ นี่มันหมายความว่าไงกันนะ   ทำไมพออยู่ใกล้นายถึงต้องตื่นเต้นด้วย เมื่อไหร่กันนะที่ชั้นรู้สึกอุ่นใจเมื่อรู้ว่ามีนายมาอยู่ข้างๆ แล้วรู้สึกเหงาๆ เมื่อนายไม่อยู่   นี่ชั้นเป็นบ้าอะไรเนี่ย.....สงสัยเป็นเพราะคำพูดของซองมิน ถึงได้รู้สึกแปลกๆ อย่างนี้
     
    แจจุงนี่นายอย่าบอกนะ ว่านายไปหลงรักคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า แถมอาจจะเป็นโจรที่ไหนก็ไม่รู้งั้นเหรอ? เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นในใจ
    แต่ความรักน่ะ ไม่ได้วัดกันตรงนั้นนี่ มันอยู่ที่ความรู้สึกของเรามากกว่า ว่าเรารู้สึกกับคนๆ นั้นยังไง อีกเสียงหนึ่งขัดขึ้นอย่างอ่อนโยน
     
    โอ๊ย.....ร้องออกมาอย่างหงุดหงิด แขนเรียวปัดไปมาราวกับจะปัดเสียงความคิดที่เถียงกันไปมาจนน่ารำคาญ แล้วหันไปมองตัวต้นเหตุที่ทำให้ใจเค้าว้าวุ่นอย่างโมโห
    มือเรียวคว้าหมอนโยนใส่คนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องแต่ทำให้เค้าวุ่นวายใจอย่างหงุดหงิด    แต่หมีขาวของเราก็หลับลึกเกินกว่าจะรู้สึกตัว ยังคงหลับสนิทนอนนิ่งไม่รู้ตัวแต่อย่างใด สุดท้ายร่างบางก็เดินไปหยับหมอนกลับมาล้มตัวนอนอีกครั้ง แล้วหันหลังให้กับร่างสูงที่นอนออยู่ พยายามข่มตาหลับจนสุดท้ายความเพลียก็เข้าครอบงำจนหลับสนิทไปอีกคน



    ----------------------------------------------------------------------
    มาอัฟแล้วเน้อ..................ถ้าต้องการให้คู่ไหนออกก็บอกมา  เรายินดีแซงคิวให้ตามที่ต้องการน้า.................แต่ต้องเม้นท์ก่อน...................5555+


    พลีส...........................

    ขอโทษด้วยที่มาอัฟช้า  เพราะทั้งติดสอบ  ซ้อมเชียร์ และอีกมากมายที่ทำให้ไม่มีโอกาสได้มาอัฟ  หวังว่าคงไม่โกรธ  แล้วจะมาอัฟให้อีก
    ครั้งนี้อาจมาอัฟให้น้อยหน่อย  เพราะสมองยังเบลอแต่งอะไรไม่ค่อยออก
    เจอข้อสอบมหาโหดเล่นเอาเอ๋อเลย  555+ ^-^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×