ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะดุดรักนายมาเฟีย [Fic TVXQ+SUJU]

    ลำดับตอนที่ #14 : ไม่เหลืออยู่เลย...ในความทรงจำ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 52


    ตอนที่ 13

    ไม่เหลืออยู่เลย...ในความทรงจำ



    แจจุงและคังอินวิ่งมาจนถึงห้องที่ยุนโฮพักอยู่ แต่หน้าห้องนั้นยังคงมีเหล่าบอร์ดี้การ์ด และลูกน้องของแก๊งยืนอยู่เต็มไปหมด เหมือนก่อนหน้านี้ แจจุงหยุดมองอย่างตกใจ



    ห้องนั้นแหละ ยูโนวอยู่ในนั้นคังอินพูดพลางชี้ไปที่ประตูเบื้องหลังกลุ่มชายชุดดำ ราวกับจะตอกย้ำสิ่งที่ร่างบางคิด




    แจจุงรู้สึกราวกับว่ามีกำแพงชั้นแล้วชั้นเล่า คอยกั้นอยู่ระหว่างเค้ากับยูโนว ราวกับว่ายูโนวได้อยู่ไกลออกไปแล้วในตอนนี้ แต่ไม่ว่ายังไงเค้าก็ต้องพบคนรักของเค้าให้ได้!
    คิดได้อย่างนั้น ร่างบางก็วิ่งเข้าไปทันที ไม่สนใจคำคัดค้านของคังอิน แม้ว่าจะถูกชายชุดดำ และคนในแก๊งพยายามตัวคนสวยไว้อย่างตกใจ พวกนั้นจับตัวแจจุงล็อกไว้ได้อย่างง่ายดาย




    ชั้นจะไปหายูโนว ปล่อยชั้นนะแจจุงตะโกนก้อง พลางดิ้นไม่หยุด





    เวลานี้แก๊งเกิ๊งเค้าไม่สน ยังใงความสุขของน้องก็ต้องมาก่อน...



    ไปเลยแจจุง ตรงนี้พี่จัดการเองคังอินตะโกนบอก มือหนายังคงชกคนที่กำลังพุ่งเข้ามา รุมมะตุ้มกันจนเกิดเป็นจลาจลย่อยๆ กลางโรงพยาบาล



    แจจุงหันมายิ้มขอบคุณให้กับร่างสูง ก่อนที่จะหันกลับวิ่งไปที่ห้องที่ยุนโฮนอนอยู่ แต่วิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็ถูกพวกของชินดงที่ออกมาดูคว้าตัวไว้จนได้ 



    คังอินที่เห็นอย่างนั้นก็รีบเข้ามาช่วยทันที พอเห็นว่าคนพวกนั้นเป็นพวกชินดงก็ตะโกนออกไป



    ขอโทษนะเว้ย....คนนี้น้องข้าใครอย่าแตะคังอินตะโกน พร้อมกับจัดการทุกคนจนระเนระนาด และหันไปจัดการพวกชายชุดดำต่อ จนบางคนถึงกับสลบไม่รู้เรื่องรู้ราว
    แต่แล้วคังอินก็รู้สึกถึงแรงสะกิดที่ไหล่ ร่างสูงหันมาง้างหมัดหมายจะชกใส่คนข้างหลัง แต่ก็ต้องง้างค้างไว้อย่างนั้น เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายชัด



    คุณยูชอนคังดินอุทานอย่างตกใจ มอที่ง้างค้างไว้ตกลงข้างตัวทันที



    นายคือคนในแก๊งที่มาเมื่อกี้นี้นี่ แล้วมาก่อเรื่องเอะอะอะไรในนี้?ยูชอนถามเสียงเรียบ ดวงตาคมกวาดมองคังอิน แจจุง และลูกน้องที่นอนอยู่เบื้องหลังขรึมๆ



    อะ....เอ่อ.....คือผม….”คังอินถึงกับพูดไม่ออก เมื่อมาเจอกับคนระดับหัวหน้าและบารมีของคนตรงหน้า แล้วยิ่งเป็นคนที่เค้าเคารพ เล่นเอาร่างสูงทำอะไรไม่ถูก



    ชั้นมาหายูโนวแจจุงตะโกนข้ามหลังคังอินมา ในหน้าหวานดูโมโหอย่างเห็นได้ชัด แต่เจ้าพวกนี้ไม่ยอมให้เข้าไปร่างบางว่าพลางเตะคนที่นอนอยู่ใกล้ที่สุด   จนคนถูกเตะร้องออกมาอย่างเจ็บปวด




    คนอะไรหน้าก็สวย....แต่ดูดุชะมัด ยูชอนคิดพลางส่ายหน้า  แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป



    ยูโนว?กลับเอ่ยถามขึ้นมาแทนอย่างงงๆ



    แจจุงเค้าหมายถึงหัวหน้ายุนโฮน่ะครับ ช่วยที่หัวหน้าหายตัวไป ท่านไปอยู่กับแจจุง และใช้ชื่อว่า....ยูโนวคังอินพูดอย่างนอบน้อม แต่คำพูดของเค้าทำเอาแจจุงตาค้างไปแล้ว ร่างบางหันไปมองพวกที่นอนอยู่เกลื่อนกลาดอย่างอึ้งๆ




    ยูโนว....นายเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียหรือนี่? ถึงได้มีเจ้าพวกนี้มาอยู่หน้าห้องแบบนี้



    แต่ยูชอนเพียงแค่พยักหน้ารับรู้เรียบๆ เข้าใจได้ในทันที   จึงหันมามองแจจุงอย่างเป็นมิตรมากขึ้น งั้นเชิญคุณเข้าไปหายุนโฮเถอะร่างสูงว่าพลางผายมือให้แจจุงได้เดินเข้าไป ซึ่งร่างบางก็เดินอย่างเรียบร้อยมากขึ้น เมื่อเริ่มรู้ว่าใครเป็นใคร



    เมื่อเข้าไปในห้องสีขาวสะอาด แจจุงก็เห็นร่างสูงที่คุ้นเคยนอนหลับสนิทบนเตียงที่ขาวสะอาดไม่แพ้สีห้อง ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยน้ำตา ที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าดีใจเหลือเกิน....ที่ได้พบ นึกว่าชาตินี้จะไม่มีโอกาสได้เจอร่างสูงอีกแล้ว
    มือเรียวลูบไล้ใบหน้าคมที่คิดถึงอย่างสุดหัวใจไปมาแผ่วเบา 



     แค่นายหายไปไม่กี่วัน....แต่ชั้นรู้สึกเหมือนมันนานนับปี



    ยูโนว....นายรู้มั้ย? ชั้นเจ็บแค่ไหน เมื่อนายหายไป    เป็นห่วงนายจะแทบบ้า   แล้วนายมานอนสบายอย่างนี้นี่นะร่างบางว่าพลางสะอื้น   น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุด จนหยดลงใบหน้าคมที่นอนนิ่งอยู่เบื้องล่าง



    คนที่หลับมานานหลายวันเริ่มรู้สึกตัว เมื่อหยดน้ำตาถูกดวงตาที่ปิดสนิท ใบหน้าคมส่ายไปมาเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาคมจะลืมขึ้นอย่างยากลำบาก พอลืมได้เต็มตา ยุนโฮก็มองรอบข้างอย่างงุนงง ดวงตาคมฉายแววสับสนอย่างเห็นได้ชัด มองคนข้างตัวอย่างว่างเปล่า แล้วพอมองไปเห็นยูชอนที่เดินเข้ามาพร้อมกับคังอิน ร่างสูงก็มองเลยคนหน้าหวานหันไปยิ้มให้กับยูชอนทันที ซึ่งยูชอนก็ยิ้มรับอย่างดีใจที่เพื่อนรักฟื้นขึ้นมาสักที





    ยูชอน....นี่ชั้นมาอยู่โรงพยาบาลได้ยังไง แล้วนี่......คนบนเตียงถามพลางยิ้มให้ยูชอน แล้วชี้ไปที่ร่างบางที่ยืนอยู่ข้างเตียง



    ใคร?
    คำถามที่แทบจะกระชากใจของคนฟังให้ออกจากอก ยูชอนและคังอินหันไปมองคนถามและร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆอื้ง 



    ดวงตากลมโตเบิกมองคนถามอย่างตกใจ ร่างบางทำท่าจะทรุดลงไปนอนกับพื้น ถ้าไม่มีอ้อมแขนแกร่งของคังอินเข้ามาคว้าไว้ได้ทันอย่างตกใจไม่แพ้กัน น้ำตาไหลออกมาอีกระรอกราวกับไม่มีวันหมด ดวงตากลมโตฉายแววปวดร้าว   มองคนบนเตียงอย่างตัดพ้อ แต่ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากที่เม้มแน่น มีเพียงแรงสะอื้นที่เจ้าตัวพยายามกลั้นเอาไว้ มือเรียวยกขึ้นกำสร้อยที่คอแน่น





    นายถูกรถชนน่ะ และคุณคนนี้ เคยช่วยชีวิตนายไว้   ตอนที่ถูกพวกของซีวอนลอบทำร้ายครั้งก่อน   นายจำได้มั้ย?ยูชอนพูดตามที่คังอินเหล่าให้ฟังเมื่อกี้ แล้วเดินมายืนข้างเตียงอีกฝั่งของคนที่ยืนร้องไห้อยู่ ดูจากท่าทาก็พอเดาได้ว่า   คนๆ นี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับยุนโฮในช่วงที่เพื่อนเค้าหายตัวไป




    ยุนโฮส่ายหน้าช้าๆ จำอะไรไม่ได้เลยแล้วหันไปพูดกับอีกสองคนยิ้มๆ ขอบคุณมากนะ ที่ช่วยชั้นไว้สายตาที่มองมาช่างว่างเปล่า รวมทั้งคำพูดที่เปลี่ยนไปดูถือตัว 





    ไม่มีเยื่อใยอะไรหลงเหลืออยู่เลยในน้ำเสียง ราวกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งได้พบกัน



    ยุนโฮมองท่าทางของคนหน้าหวานงงๆ เธอเป็นอะไรรึเปล่า?ร่างสูงถามอย่างแปลกใจ แต่นั่นยิ่งทำให้แจจุงเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองร่างสูงนิ่งอย่างเจ็บปวด ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ




    ยูชอน นายช่วยตอบแทนพวกเค้าทั้งสองคนด้วยยุนโฮที่เข้าใจไปอีกทาง หันไปสั่งเพื่อนที่พยักหน้ารับทันที



    ไม่ต้อง....ชั้นไม่ต้องการในที่สุดแจจุงก็เค้นเสียงพูดออกมาจนได้ แม้เสียงนั้นจะยัวสั่นอยู่ก็ตาม





    พี่คังอิน....ช่วยพาผมไปจากที่นี่ที ผม......ร่างบางพูดกับคนที่ประคองตัวเองไว้ เสียงหายไปพูดอะไรไม่ออก มีเพียงแรงสะอื้นเท่านั้นที่คนฟังยังรู้สึกได้




    คังอินพยักหน้ารับทันที   เค้าเองก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน   แล้วรีบพาร่างบางที่แทบไม่มีแรงเดินออกไป



    ยุนโฮได้แต่มองตามอย่างงุนงง    ผิดกับอีกคนที่รู้สึกสงสารคนหน้าหวานนั้นอย่างสุดซึ้ง



    อะไรจะเจ็บไปกว่า....


    คนที่เรารัก...



    จำเราไม่ได้....





    คังอินประคองแจจุงมายังหน้าโรงพยาบาล ร่างบางที่เริ่มยืนเองได้และขอเดินเอง แม้จะยังโซเซอยู่บ้างก็ตาม คังอินได้แต่มองตามอย่างห่วงใย






    แจจุงเดินไปได้ไม่กี่ก้าว   ก็พิงเข้ากับกำแพงปล่อยโฮออกมาอีกครั้งอย่างไม่อายใคร ภาพที่บีบรัดหัวใจคนมองยิ่งนัก




    โฮ.....ยูโนว   ทำไม......ฮือ.....ฮึก.....แจจุงดึงสร้อยที่คอออกมาอย่างแรงจนขาดติดมือมา มองสร้อยในมือผ่านม่านน้ำตาที่ไม่รู้ว่าจะไหลไปถึงเมื่อไหร่




     
    ยูโนว....ยูโนว    แจจุงเจ็บ.....


    เจ็บจนแทบหายใจไม่ออก    


    ทำไมยูโนวถึงมองแจจุงอย่างนั้น.....



    มองราวกับแจจุงเป็นคนแปลกหน้า    


    ในเศษเสี้ยวความทรงจำของนาย.....


    ไม่มีชั้นแล้วใช่มั้ย?  


     
    ยูโนว.....ฮือ....ยู...
     
    ต่อจากนี้....แจจุงจะไม่มียูโนวเคียงข้างอีกแล้ว    


    แล้วแจจุงจะอยู่ได้ยังไง?    


    ไหนนายสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆ ตลอดไป 



    ไหนนายบอกว่านายจะไม่ให้ชั้นร้องไห้อีก 


    แล้วนี่มันอะไรกัน? 


    นายบอกว่าหินนี่จะทำให้เราได้อยู่ด้วยกันตลอดไป 


    แล้วตอนนี้ทำไมนาย...ถึงทิ้งชั้นไป....



    โกหก...มันโกหกทั้งเพ ..


    ชีวิตที่ไม่มีนายมันช่างโหดร้าย   


    ทำไม?.....


    ทำไมฟ้าต้องแกล้งลูกอย่างนี้....ลูกทำอะไรผิด   



    ทำไม่ต้องพรากเค้าไปจากลูกด้วย.......


     
    แจจุงโยนสร้อยในมือไปสุดแรง แล้วเริ่มเดินออกไปอีกครั้งราวกับคนไร้วิญญาณ ร่างบางเดินไปทั้งน้ำตาที่ไหลลงมาเต็มสองแก้ม ท่ามกลางสายตาของคนรอบข้างที่มองมา สายฝนเริ่มพรำลงมาราวกับว่าฟ้าก็ร้องไห้ไม่แพ้กัน แต่ร่างบางก็ไม่สนใจจะหลบสายน้ำจากฟากฟ้า ยังคงเดินต่อไปอย่างเลื่อนลอย จนร่างกายเปียกปอนและเริ่มซีดขาวจนเห็นได้ชัดจากความเย็นของอากาศ




    ภาพใบหน้าของยูโนวที่มองมาที่เค้าอย่างว่างเปล่า ไร้ความผูกพันใดๆ ยังคงติดตาไม่จาง


    ไม่มีอีกแล้ว....ชีวิตชั้นจะไม่มีนายอีกแล้ว ใ


    นใจนาย.....มันไม่มีชั้นหลงเหลืออยู่ 

    แม้เพียงความทรงจำ


    หมดแล้วความสุขที่เคยได้รับ.....

    ต่อจากนี้...จะไม่มีมันอีกต่อไป

    จะต้องอยู่อย่างเดียวดาย.....แต่ทุกอย่างเกี่ยวกับนาย

    จะอยู่ในหัวใจชั้นตลอดไป.....

    เก็บอยู่ในหัวใจของชั้น......


    เก็บคืนวันงดงาม....ที่มี

    จดจำทุกชั่วโมง....ที่ดี

    นาทีที่เราสองคน....ได้สบตากัน

    เก็บอยู่ในหัวใจ...ดวงนี้

    เก็บภาพเธอคนดี....ตราบนานจนแสนนาน

    ไว้อยู่เคียงข้างใจ....ในค่ำคืนและวัน....ที่ชั้นขาดเธอ

    ไว้อยู่เคียงข้างใจ....ไว้เตือนคืนและวัน.... ว่าชั้นเคยมีเธอ



     
    จุนซูที่กำลังนั่งรถเพื่อไปเยี่ยมยุนโฮที่โรงพยาบาล เหลือบเห็นแจจุงที่เดินราวกับคนไม่มีแรง ท่ามกลางสายฝน ก็รีบสั่งให้คิบอมหยุดรถ แล้วลงไปดูด้วยความเป็นห่วง ยังไม่ทันที่จุนซูจะเดินไปถึง แจจุงก็ทรุดลงไปนอนกับพื้นต่อหน้าต่อตา จนจุนซูต้องรีบเข้าไปประคองอย่างตกใจ แล้วเรียกให้คิบอมอุ้มกลับไปที่รถ


    เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแจจุงถึงได้มาเดินตามฝนอย่างนี้จุนซูพูดอย่างเป็นห่วง พลางเอาผ้ามาเช็ดหน้าคนสวยที่เปียกปอนและซีดจนไร้สีเลือด แล้วจับให้อีกฝ่ายนอนหนุนตักตัวเองไว้ พร้อมกับสั่งให้คิบอมขับรถกลับไปที่คฤหาสอีกครั้ง



     
    คังอินที่เห็นแจจุงโยนสร้อยทิ้งไปในสวน ร่างสูงก็รีบเดินเข้าไปหาทันที เพราะนั่นอาจเป็นสิ่งที่ผูกพันคนทั้งสองไว้ และอาจทำให้ยูโนวนึกอะไรออกบ้าง



    ร่างสูงเดินหาอย่างไม่ลดละ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม ในที่สุดความพยายามของชายหนุ่มก็เป็นผล เมื่อสายตาคมพบสร้อยที่เห็นแจจุงใส่เป็นประจำในระยะหลังมานี่ คังอินหยิบขึ้นมาพลางยิ้มอย่างดีใจ แล้วเดินกลับไปที่ห้องพักของยุนโฮอีกครั้ง ก็พบว่ายูชอนยังอยู่



    ผมต้องขอโทษ เรื่องเมื่อตอนกลางวันด้วยครับ....ที่ก่อเรื่องคังอินพูดพลางคำนับ


    ไม่เป็นไรหรอก ชั้นเอง...จะได้รู้ว่าในแก๊งของเรามีคนเก่งถึงขนาดจัดการคนนับสิบได้ด้วยมือเปล่า แต่ชั้นยังไม่เห็นค่า และก็ยังรู้อีกว่า การคุ้มกันของชั้นมันช่างเปราะบางนัก...ขอบใจนะยูชอนตอบยิ้มๆ แต่คังอินรู้สึกเหมือนโดนด่ากลายๆ ยังไงก็ไม่รู้
    คังอินหันไปยิ้มรับอายๆ แล้วพอหันไปมองยุนโฮที่นั่งมองอยู่ ใบหน้าคมก็ดูเคร่งเครียดขึ้นทันที



    ที่จริง...ผมต้องจัดการคุณไปแล้ว คนที่ทำให้น้องผมเจ็บ ผมต้องจัดการให้คนนั้นเจ็บกว่าหลายเท่า แต่ในเมื่อคนๆ นั้นคือคุณ ผมจะยอมยกโทษให้สักครั้ง แต่ถ้ามีผมเห็นคุณทำแจจุงร้องไห้อีกครั้ง ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ แล้วนี่......คังอินพูดเสียงเข้มเหมือนพี่ชายที่ออกมาปกป้องน้องสาวที่รัก แล้วยื่นสร้อยให้ยุนโฮที่รับไปดูอย่างงงๆ



    สร้อยนี่ ถึงแม้ว่าแจจุงจะโยนมันทิ้งไปแล้ว   แต่ผมคิดว่าคุณควรจะเก็บไว้ ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่คุณได้ให้เค้าไว้ มันคงมีความสำคัญ แม้ตอนนี้คุณจะยังไม่เห็นค่าของมันก็ตามคังอินพูด มองดูยุนโฮที่ไม่มีทีท่าจะนึกอะไรออกอย่างผิดหวัง



    แจจุง? คนที่หน้าหวานๆ นั่นใช่มั้ย?คนบนเตียงถาม คังอินยังนิ่งซึ่งก็แทนคำตอบรับ
    ขนาดเค้าที่เป็นแค่คนรู้จัก ยังรู้สึกเจ็บขนาดนี้เมื่อได้ยินคำถามพวกนี้ แล้วแจจุงเล่าจะเจ็บขนาดไหน?  คังอินคิด ใบหน้าคมตึงขึ้นทันที



    นายช่วยเล่าเรื่อง ตอนที่ชั้นไปอยู่กับพวกนายให้ฟังหน่อยสิ ชั้นอยากรู้ว่า ชั้นกับ คนๆ นั้น มีความสัมพันธ์กันยังไง?ยุนโฮถาม พอเห็นน้ำตาของคนหน้าหวานนั่นแล้ว มันรู้สึกแปลกๆ ค้างคาใจยังไงไม่รู้




    ผมเล่าไปให้มันได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อความรู้สึกของคุณมันได้หายไปแล้ว ถึงคุณรู้ว่าคุณกับแจจุงผูกพันกันยังไง ก็ใช่ว่าความรู้สึกของคุณมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม คุณจะรู้ให้รู้สึกแย่ไปทำไมกัน?คังอินพูด พยายามข่มใจ ไม่ให้โมโหคนตรงหน้า เพราะรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของยุนโฮเลย แต่ความเจ็บใจแทนแจจุงทำให้อยากจะชกหน้าหล่อๆ นั่นให้หายแค้นสักที พูดจบคังอินก็เดินออกไปทันที




    ยุนโอมองสร้อยในมือนิ่ง ความรู้สึกบางอย่างเหมือนจะตีขึ้นมาในอก แต่ก็นึกไม่ออก ยูชอนมองเพื่อนสนิทอย่างไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ถอนใจอย่างหนักอก นึกสงสารคนเหล่านั้นอย่างใจจริง




    คล้อยหลังคังอินไป นางพยาบาลคนนึงก็เดินเข้ามาพร้อมถาดยา หญิงสาวยื่นถาดยาให้คนบนเตียง แล้วทำท่าว่านึกอะไรขึ้นมาได้ ก็หันไปมาคนเจ็บพลางหยิบของในกระเป๋า





    เอ้อ....ตอนที่คุณเข้ามารักษาตัว คุณกำแหวนวงนี้ไว้แน่น ชั้นคิดว่าน่าจะเป็นของสำคัญ เลยเก็บไว้ให้ แต่ดันลืมเอามาคืนซะได้ จนเลยมายันวันนี้ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะนางพยาบาลสาวพูดพลางยิ้ม แล้วส่งแหวนในมือให้ยุนโฮ




    ยุนโฮรับไปอย่างงงๆ มองของในมือ ที่ตอนนี้มีทั้งสร้อยและแหวน ภาพบางอย่างก็เหมือนจะตีขึ้นมาในหัว สร้างความปวดร้าวจนแทบจะอาเจียน ดวงตาคมเหลือกขึ้นด้วยความเจ็บปวด มือหนายกขึ้นกุมศีรษะที่เต้นตุ๊บๆ ไม่หยุด



    ยูชอนและนางพยาบาลมองท่าทางนั้นอย่างตกใจ ก่อนที่จะรีบกดเรียกหมอ



    อ๊า.................ยุนโฮร้องเสียงดังลั่น ดิ้นไปมาบนเตียงขาว บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ พร้อมกับภาพที่เริ่มไหลเข้ามาในหัว



    ภาพตอนที่เค้าตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคนสวยในคลินิก


    ภาพตอนที่เค้าหอมแก้มใสของอีกฝ่าย จนใบหน้าหวานนั้นแดงเรื่อ


    ภาพตอนที่เค้าโอบกอดและปลอบร่างบางที่ร้องไห้อย่างอ่อนล้า


    อ๊าก..............ปวด...........ปวดหัวเหลือเกิน......ร่างสูงร้อง 



    ยูชอนและพยาบาลช่วยกันจับร่างสูงที่ดิ้นพล่านเอาไว้อย่างตกใจ


    ภาพตอนที่เค้านั่งดูดาวด้วยกัน

    ภาพตอนที่เค้าช่วยร่างบางเอาไว้จากกลุ่มอันธพาล


    ภาพตอนที่เค้าบอกรักคนสวยในสวนสาธารณะ


    อ๊า......อาการปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวจะบีบหัวให้แตก จนยุนโฮกรีดร้องไม่หยุด
     พร้อมกับภาพที่ฉายชัดราวกับหนังที่ถูกฉายซ้ำไปซ้ำมา


    ภาพตอนที่เค้าจูบร่างบางท่ามกลางสายน้ำ


    ภาพตอนที่เค้ามอบสร้อยเส้นนี้ให้


    ภาพตอนที่เค้าเดินท่ามกลางสายฝนด้วยกัน


    และภาพน้ำตานองหน้าของคนสวยที่มองเค้าอย่างเจ็บปวด


    อ๊า............แจ.........แจจุง!”ยุนโฮร้องตะโกนเรียกเสียงดังก่อนที่จะสลบลงไป ดวงตาคมปิดลง พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาช้าๆ



    หลังจากเกิดอาการคลุ้มคลั่งของยุนโฮ คุณหมอก็เข้ามาดูอาการพร้อมกับฉีดยาระงับประสาทให้



    คนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากเกินไปจนเกิดอาการอย่างนี้ แต่อาการไม่น่าเป็นห่วง นอนพักสักระยะคนไข้ก็จะฟื้นขึ้นมาเป็นปกติคุณหมอพูด
    ยูชอนพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเดินไปส่งคุณหมอ แล้วหันกลับมามองคนบนเตียงอย่างหนักใจ



     
    ณ ร้านอาหารของแจจุง

    พี่ไม่น่าปล่อยพี่แจจุงออกไปแบบนั้น พี่นี่แย่จริงๆเยซองพูดอย่างสำนึกผิด เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วเจ้าของร้านยังไม่กลับ


    ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวพี่แจจุงก็กลับมาเองแหละ พี่เค้าโตแล้ว พี่เยซองกลับไปก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมอยู่รอพี่แจจุงเองชางมินพูดยิ้มๆ


    พี่จะทิ้งนายให้อยู่คนเดียวได้ยังไงเยซองว่าอย่างหนักใจ ใจนึงก็นึกห่วงรยอวุคที่อยู่คนเดียว แต่คนตรงหน้าก็น่าห่วงไม่แพ้กัน


    ไปเถอะครับ พี่รยอวุคขาเจ็บอยู่ทำอะไรคงไม่สะดวก เดี๋ยวผมก็ปิดร้านแล้วรอพี่แจจุงในบ้าน คงไม่มีอะไรหรอกครับชางมินพูดอย่างเข้าใจร่างสูงดี



    งั้นพี่ไปก่อนนะเยซองพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินออกจากร้านไป


    เด็กหนุ่มมองร่างสูงยิ้มๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องเยซองเปลี่ยนไปมาก ไม่เห็นควงสาวไหนอีกเลย พี่รยอวุคคงจะมีความสุขสักที



    เฮ้อ.....แล้วเมื่อไหร่พี่แจจุงจะมีความสุขบ้างนะ   พี่แจจุงพี่หายไปไหนของพี่นะ   พี่ยูโนว....ตอนนนี้พี่อยู่ไหน? รู้มั้ย....ตอนนี้พี่แจจุงเค้าเสียใจมากนะ อย่าทรมานพี่ผมอีกเลยชางมินว่าพลางถอนใจ แล้วเดินไปที่ประตู มองท้องฟ้าที่มืดมิดอย่างเศร้าสร้อย 



    โดยที่เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่า ภายนอกที่มืดมิดนั้น มีคนกลุ่มนึงกำลังจับตามองเค้าอยู่



    ขณะที่ชางมินกำลังจะปิดประตู กลุ่มคนดังกล่าวก็เดินเข้ามายืนล้อมร่างบางไว้จนมิด ชางมินหันไปมองแขกแปลกหน้าอย่างสงสัย



    ขอโทษนะครับ ตอนนี้ร้านเราปิดแล้วบอกออกไปซื่อๆ ไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานอยู่


    กลุ่มชายชุดดำไม่พูดพล่ามทำเพลง จัดการเอาผ้าเช็ดหน้าชุบยาสลบ ปิดจมูกและปากของเด็กหนุ่มตรงหน้าทันที ดวงตาเรียวสวยเบิกโพล่งอย่างตกใจ ก่อนที่จะตั้งสติและออกแรงดิ้นสุดกำลัง



    แม้จะพยายามขัดขืนอย่างไร แต่ดูเหมือนเรี่ยวแรงกลับหดหายไปสิ้น สุดท้ายมือบางก็ทิ้งลงข้างตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับที่ดวงตาเรียวปิดลง ร่างทั้งร่างตกอยู่ในอ้อมแขนของชายชุดดำแปลกหน้า ซึ่งคนเหล่านั้นก็รีบพาร่างที่ไร้สติขึ้นรถหายไปทันที โดยส่วนที่เหลือเข้าไปปิดร้านให้อย่างรวดเร็ว ราวกับว่าที่ตรงนี้ไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

     
    ---------------------------------------------------------------------

    มาอัฟให้แล้วน้า.........อาจจะหายหน้าหายตานานไปนิด

    พอดีติดสอบ.............ข้อสอบยากมาก.....................(ขอบ่นหน่อย)

    อยากจะร้องไห้............ไม่อยากดูเกรดเลย

    ตอนนี้อาจจะเศร้าไปสักนิดนะ...........ตอนเขียนเองยังเกือบร้องแหนะ (เว่อร์ไปมั๊ย?)

    ต้องขอโทษด้วยที่ต้องให้ยุนลืมแจ.....พอดีมันเขียนไปแล้ว.....ขอโทษจริงๆๆๆๆๆ

    แต่ไม่นานหรอก.......เราจะไม่ปล่อยให้แจเศร้านาน

    สัญญา........................................

    ขอบคุณที่เม้นท์ให้กำลังใจกันมาน้าจ้า................แต่ถ้าส่งมาอีกจะดีมากเลย
    แล้วเจอกันตอนหน้าน้า..................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×