คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จะโอบกอดเธอไว้ด้วย ..คำว่ารัก . ตอนที่ 1 - 3
1.
" วันนี้ เป็นวันที่เท่าไหร่แล้วก็จำไม่ได้ .. นับจากวันที่ "เขา"เดินออกจากชีวิตต้นข้าวไป..
ไม่มีแม้แต่คำร่ำลา. มีเพียงความเงียบงันระหว่างกันเท่านั้น ทีเป็นสัญญานและเป็นตัวตัดสิน.
ท้องฟ้ายังคงเป็นสีเดิม. แม้ว่าบางครั้งอาจจะยังมืดมัว แต่ไม่นาน มันก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม.. หรือบางครั้งอาจจะสดใสกว่าเดิมด้วยซ้ำไป "
. . . . .
" เฮ้อ ... "นิตาปิดหนังสือตรงหน้าลงอย่างช้าๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่.
เมื่อไหร่หนอที่เธอจะมีโอกาสเป็นนักเขียนกับเขาสักที หลังจากที่เธอสถาปนาตนเป็นนักคิดมานาน..
"โป๊ก.. "
" นั่งเพ้ออะไรอยู่ได้ หาไอ้ตา.."
เสียงยัยกะปิดังตามเสียงสันนิตยสารต่างประเทศเล่มใหญ่ ที่ตกกระทบกับหัวนิตาพอดี ทำเอาคนถูกถามถึงกับคลำหัวป้อยๆ
" เป็นบ้าอะไร กะปิ .. ไอ้ทุเรศ หัวสวยๆบุบหมด "
" ก็แกน่ะสิ เป็นบ้าอะไร นั่งอ่านหนังสือดีๆ ก็ถอนหายใจ เฮื่อกๆๆ "
ยัยกะปิ หรือ กรปิต์ยา เพื่อนรักที่สุดของนิตา บ่นพลางกระแทกตัวลงนั่งตรงหน้าหญิงสาว..
ก็ทำไมกรปิต์ยาจะไม่รู้เล่า ว่าสาเหตุที่ทำให้นิตาเพื่อนรักของเธอต้องมานั่งถอดถอนใจอย่างนี้ มาจากเรื่องอะไร.
" นี่ตา .. โธ่เอ้ย แกจะมามัวซีเรียสทำไม กะอีแค่นิยายที่แกส่งไปประกวดมันตกรอบแรก"
" ตกรอบสองย่ะ.. " เสียงฉุนๆ ดังขึ้นทันควัน
ก็ใช่สิ.. ยัยกะปิน่ะ ไม่เคยเห็นคุณค่าของวรรณกรรมหรอก ไม่ว่าจะประเภทไหน หรือเรื่องอะไรทั้งนั้น มันก็เลยเป็นการยากที่จะให้ยัยกะปิ ( ที่ผิวกะปิสมชื่อ ) มาให้กำลังใจเธอ
" นี่. ถ้ามันยากลำบากนัก ก็เลิกเถอะแก. เอาเวลาไปช่วยฉันสืบเรื่องพีอิงค์ดีกว่า " ยัยกะปิบอกพลางทำตาละห้อย
ใช่สิ.. สำหรับกรปิต์ยาแล้ว ใครก็ไม่มีความสำคัญเท่า "นายอิงค์นที " ของหล่อนไปได้หรอก
แต่สำหรับนิตาแล้ว พี่อิงค์ อะไรนั่น ก็แค่รุ่นพี่ที่น่านับถือคนหนึ่งน่ะเอง.. หล่อหรือ? ก็งั้นๆ แหละ อาศัยแต่ว่าพี่อิงค์อะไรนั่นน่ะ.. พูดเพราะ เรียนดี และบ้านรวยเท่านั้นเอง
( ยังดีนะที่กีฬาน่ะ ยังเป็นข้อด้อย ไม่งั้นนะ อีพี่อิงค์อะไรเนี่ยต้องเข้าสูตร..พระเอกนิยายวัยรุ่นแน่ๆเลย ).
แหม.. ก็แค่ลูกชายคนเดียวของเจ้าของห้างสรรพสินค้าสุดหรูใจกลางเมือง. สู้นิตาหน่อยก็ไม่ได้พูดจาก็งั้นๆ เรียนก็ครึ่งๆ คาบๆเส้น บ้านนะยิ่งไม่ต้องพูดถึง..จน น่ะสิ.
(แต่แหม๋ - อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น ก็แค่ชาวบ้านฐานะปานกลาง ค่อนไปทางน้อยหน่อยเท่านั้นเอง )คิดแล้วก็หมั่นไส้คนเฟอร์เฟคเป็นกำลัง.
" ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะกะปิ. ชั้นไม่เคยเห็นว่าเค้าจะสนใจแกเลย. แล้วเขารู้หรือเปล่าหรอกว่า โลกนี้ยังมีแกน่ะ. "
" ชิชะ. นางสาวนิตา หล่อนจะดูถูกคุณกรปิต์ยาไปนี๊ดส๊นะยะ.. แกรู้ไหมวันก่อนน่ะนะ พี่อิงค์ เขาเดินมาชนฉัน พอวันนี้เดินสวนกัน พี่อิงค์ยังหันมายิ้มให้ฉันอยู่เลย. " กรปิต์ยา เล่าพลางทำตาเคลิ้มเต็มที่
" น้อยๆ หน่อย ทำไมแกไม่คิดบ้างว่ะว่า ที่พี่อิงค์อะไรนั่น เขายิ้มให้แก เพราะเขาคิดว่า " ใครหว่ามายิ้มให้เขาอยู่ได้" "
" เผี๊ยะ.." เสียงผ่ามือกระทบต้นแขน ทำเอานิตาถึงกับสะดุ้งเฮือก
" ไอ้กะปิ ไอ้บ้า.. ไอ้พวกรับความจริงไม่ได้. พูดเรื่องจริงเข้าหน่อยก็ลงไม้ลงมือ " ว่าแล้วหญิงสาวก็ลูบแขนป้อยๆ
" ดูสิ ขึ้นเป็นรอยช้างเหยียบเลย " หญิงสาวว่าเข้าไปนั่น
" เดี๋ยวจะโดนอีกรอย. หิวยังไปหาไรกินหน้า 'หาลัยเถอะ "
กรปิย์ตาเปลี่ยนเรื่อง คงเพราะบ่ายโมงกว่าแล้ว เลยทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าจะหิวผิดปกติ
" เออ... นี่ตา..กินข้าวเสร็จแล้วตัวมีธุระอะไรที่ไหนต่อหรือเปล่า "
กรปิย์ตาถามพลางหลังจากเข้ามานั่งอยู่ภายในร้านขายอาหารแถวๆ หน้ามหาลัยแล้ว.
อากาศเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ภายในร้าน ยังไม่ทำให้ผู้ที่มาใหม่รู้สึกเย็นสบายนัก เลยต้องหยิบเอาใบรายการอาหารมาโบกลมเย็นๆ เข้าหาตัวไปมา. ขณะที่มือก็แก้วน้ำหวานสีสวยขึ้นมาจิบไปพลางๆ ทำให้นิตาอดที่จะซัดซักเพี๊ยะไม่ได้ ทำเอาคนถูกตีถูกหน้างอขึ้นมาทันที.
" เปล่า - วันนี้ว่าง. ทำไม?"
" เดี๋ยวเราจะชวนตัวไปซื้อของให้พี่ก้อยหน่อย วันนี้วันเกิดพี่ก้อยน่ะ "
" ก็เอาสิ. เดี๋ยวไปกันเลยก็ได้ "
พี่ก้อย หรือ พี่กรกช คนสวยของกรปิย์ตานั่นเอง วันนี้วันเกิดพี่ก้อยหรือ? นิตาก็เพิ่งนึกได้.
พี่ก้อยของยัยกะปิเป็นคนที่ไม่ถึงกับสวยมากมายนักถ้าเทียบกับกรปิต์ยาแล้วที่มองมุมไหนก็สวย ( แต่เสียอย่างเดียวที่ ยัยคนนี้ค่อนข้างจะเพี้ยน ( ก็เลยไม่แปลกที่เจ้าตัวจะยังหาแฟนไม่ได้สักที ) ).
แต่สำหรับพี่ก้อยแล้ว เธอเป็นคนน่ารัก แล้วก็เป็นคนเรียบร้อยมาก เรียบร้อยมากซะจนหญิงสาวไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ก้อยจะเป็นพี่สาวของยัยกะปิเพื่อนรัก.
ก็พี่ก้อยน่ะ น่ารักขนาดที่นิตาเองยังอดรักไม่ได้ นี่..ถ้านิตามีพี่ชายสักคนนะ หญิงสาวจะยุให้พี่ชายของเธอจีบพี่ก้อยซะเลย แต่เสียดายที่นิตามีแต่น้องสาวอีกคนเท่านั้น.
เฮ้อ..นึกถึงแล้วก็อดถอนใจไม่ได้ นิตาอยากเป็นอย่างพี่ก้อยจริงๆ หรือได้อย่างพี่ก้อยสักเสี้ยวก็คงจะดี.
" คนอะไรก็ไม่รู้ เพอร์เฟคสุดๆ " กรปิต์ยาเคยบอกอย่างนั้น เมื่อนั่งคุยกันถึงพี่สาวตัวเอง.
" นี่ตา. แกรู้หรือยัง ว่าพี่ก้อยมีแฟนแล้ว " กรปิต์ยาถามขึ้นพลางตักข้าวผัดทะเลควันฉุยเข้าปากคำโต ก่อนจะตามด้วยแกงจืดเต้าหู้หมูสับอีกคำ
" แฟนพี่ก้อยน่ะนะ เห็นว่าเป็นนักเรียนฮาย..โซด้วยนะ เพิ่งกลับมาจากนอกอีกต่างหาก พี่ก้อยจะพามาเปิดตัววันนี้แหละ. ที่สำคัญนะ หล่อด้วย นิสัยก็ดี "
กรปิต์ยาแกล้งทำเสียงไฮโซให้ไม่ชัด พร้อมกับให้ข้อมูลที่ตัวเองมีกับเพื่อนสาวเต็มที่
" นี่ปิต์ยา.. ถามจริงเถอะ ในสายตาเหล่ๆของแกน่ะ มีคนหล่อที่ไหน นิสัยไม่ดีบ้างไหม? " คงเป็นเพราะกรปิย์ตาเล่าซะจนเห็นภาพชัดเจนซะขนาดนั้น เลยทำให้นิตาอดที่จะขัดคอไม่ได้
" ฉันเห็นทั้งพี่อิงค์อะไรนั่น ทั้งแฟนพี่ก้อย ดูจะหล่อจะนิสียดีไปซะหมดเลยนะ แล้วที่ว่าหล่อน่ะ .. เคยเห็นแล้วหรือ? "
" เออ.. จริง ฉันยังไม่เคยเห็นเลยนะแฟนพี่ก้อยน่ะ แล้วก็คนหล่อ แต่นิสัยไม่ดีน่ะ " กรปิต์ยาพยักหน้าหงึกหงักรับคำตาใส ทำเอาหญิงสาวอีกคนอดหมั่นไส้ คันไม้คันมือไม่ได้
" แต่เอาเถอะ .. คนเราน่ะนะ หน้าตาดี ฐานะดี ตระกูลดี แล้วทำไมนิสัยจะดีด้วยไม่ได้ล่ะ. ไม่ใช่ละครน้ำเน่าสักหน่อยที่ชาติตระกูลดีแต่เป็นตัวโกงน่ะ " กรปิต์ยาเถียงไปข้างๆ คูๆ อย่างงั้นเอง พร้อมกับรวบช้อน ส้อมเป็นสัญญาณบอกว่า มื้อเที่ยงของเธอผ่านไปแล้ว
" วันนี้แกก็ไปบ้านฉันสิ พี่ก้อยให้มาชวน. แล้วแกก็จะได้รู้ว่าแฟนพี่ก้อยน่ะ หน้าตาดีจริงไหมแล้วนิสัยดีด้วยหรือเปล่า. "
" จ้า.. แม่คุณ. ฉันจะตามไปดู ถ้าหล่อแล้วนิสัยไม่ดีฉันจะได้หัวเราะเยาะ. แต่ถ้าไม่หล่อด้วย นิสัยไม่ดีด้วย ฉันจะหัวเราะให้ฟันหักไปเลย " นิตารับคำอย่างหมั่นไส้เต็มแก่.
นี่ขนาดว่าเขาเพิ่งจะเป็นแฟนกับพี่สาวตัวเอง.. กรปิต์ยายังเห็นดีเห็นงามด้วยขนาดนี้ แล้วนับประสาอะไรถ้าเขาได้มาเป็นพี่เขยเธอเข้าจริงๆ ยัยกะปิจะไม่เห็นช้างเป็นหมูหรอกเหรอเนี่ย. - - นิตาได้แต่คิด( อย่างเพลียฮาร์ทเป็นที่สุด )
2.
เกือบ 5 โมงเย็น...
กว่าสองสาวจะหอบสังขาร ฝ่าการจราจรอันสาหัสสากรรฉ์ของเมืองหลวง จนมาถึงบ้านของกรปิต์ยาแถบชานเมืองได้.
หลังจากที่เดินเลือกของกันพักใหญ่ และเถียงกันอีกหลายตลบ จนสุดท้ายต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปหาซื้อของขวัญของใครของคนนั้น.
นิตาได้ไดอารี่เล่มสวยมา 2 เล่ม. ( เล่มหนึ่งหญิงสาวตั้งใจว่าจะให้พี่ก้อยและอีกเล่มหนึ่ง เธอเก็บไว้เอง.) นิตารู้ว่าพี่ก้อยชอบจดบันทึกและตัวเธอเองก็ชอบจดบันทึกด้วยเช่นกันจึงเลือกของขวัญชิ้นนี้มา. หน้าปกของไดอารี่เป็นรูปท้องฟ้ายามค่ำคืน มีดาวพราวแสงเป็นจุดขาวพร่างพราวไปทั่วท้องฟ้า. ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งนั่งหันหลังคุกเข่า อธิฐานขอพรจากดาวตกดวงน้อย.
ส่วนกรปิต์ยาก็..เลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังให้กับพี่สาวด้วยความภูมิใจ (หรือเสียใจ ที่เงินในบัญชีแห้งไปในพริบตาก็ไม่อาจจะเดาได้ )
ยังไม่ทันที่สองสาวจะหายเหนื่อยดี หน้าหวานๆของพี่ก้อยก็ลอยมาจากในครัวพร้อมกับน้ำส้มคั้นที่มีไอเย็นเกาะเป็นละอองฝ้าอยู่เต็มแก้ว และของกินเล่นอีก 2 - 3 อย่าง. ทำเอาคนเหนื่อยหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ก่อนที่ทั้งสองจะรีบกระโจนออกไปแย่งรับกันของกินมาจากมือของกรกชอย่างเกรงใจเต็มที.
" โอ้โห.. พี่ก้อย ไม่ต้องยกมาก็ได้ค่ะ. เดี๋ยวนิตากับกะปิเดินเข้าไปนั่งกินในครัวก็ได้ หรือถ้าขี้เกียจมากๆ ก็ใช้ให้กะปิมันไปยกมาให้เลย ลำบากพี่ก้อยแย่ "
พูดไม่ทันขาดคำ ยัยกะปิก็เหน็บเข้าที่ต้นแขนเพื่อน(ที่คิดว่าน่าจะเลิกรัก)ซักหนึ่งที.
" อู๊ย.. เจ็บนะแก."
" เอาน่าๆ.. สาวๆ อย่าทะเลาะกันสิ ไหนไปเที่ยวที่ไหนกันมาหอบของมาพะรุงพะรังเลย " กรกชถามขึ้นเหมือนเป็นการสงบศึกไปในที.
ก่อนที่กรปิต์ยาจะรีบผลุบหายไป รื้อๆ ค้นๆ ถุงของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แล้วหยิบเอากล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้ามามอบให้พี่สาว.
" สุขสันต์วันเกิดนะ.. พี่สาวจ๋า "
ว่าแล้วกรปิต์ยาก็รีบยื่นกล่องสีเหลี่ยมผืนผ้าที่ถูกห่อด้วยกระดาษเนื้ออย่างดีสีฟ้าน้ำทะเลที่ผูกไว้ด้วยโบว์เล็กๆ น่ารักให้พี่สาว พร้อมทั้งบรรจงหอมแก้มกรกชอีกฟอดใหญ่ ทำเอาผู้เป็นพี่หัวเราะชอบใจ ก่อนที่จะตีแขนน้องสาวซะหนึ่งที
" ปิย์ ขอให้พี่ก้อยมีความสุขมากๆนะ.. เป็นพี่สาวที่ใจดีแจกตังน้องมากๆด้วย "
" เซี้ยวใหญ่แล้วนะ .. เราน่ะ " กรกชดุไม่จริงจังนัก
" นี่ของนิตาค่ะพี่ก้อย.." ว่าแล้วหญิงสาวก็ยื่นของขวัญให้กับพี่สาวของเพื่อน
" ขอบใจจ้า .. "
" อะไรอยู่ข้างในเหรอจ๊ะ.. "
กรกชกล่าวพลางพลิกของขวัญไปมา ดูว่าเผื่อจะมีช่องเล็กๆ ให้ได้เห็นว่าของข้างในภายใต้กระดาษสีชมพูหวานๆ นั้นเป็นอะไร
" สร้อยเพชร.. ของเก่าแก่ของตระกูลของนิตาเองอ้ะค่ะ พี่ก้อย "
" อะไนนะ!! นิตา .." คำตอบของหญิงสาวทำเอากรกชถึงกับตกใจ
" โอ๊ย!! พี่ก้อยตาโตเท่าไข่ช้างแล้ว " กรปิต์ยาแกล้งโวยวายขึ้น เมื่อเห็นว่าพี่สาวของตัวเอง ทำท่าจะตกใจมากจริงๆ ทำให้คนให้ถึงกับหัวเราะคิกคัก
" ยัยนิ!! เธอแกล้งพี่เหรอ " เออ..แน่ะ พี่ก้อยก็โมโหเป็นด้วย - - นิตาคิด
" ก็แหม๋.. พี่ก้อยน่ะ น่าแกล้งน้อยไปซะเมื่อไหร่ล่ะ. หลอกอะไรนิดอะไรหน่อยก็เชื่อแล้ว " ว่าแล้วนิตาก็เช็ดน้ำตาที่เล็ดออกมาทางหางตาซักทีหนึ่ง
" เดี๋ยวเถอะนะ.. "
พี่ก้อยพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วหันไปสนใจของขวัญที่สองสาวมอบให้แทน เพราะเธอปวดหัวเหลือเกินแล้วกับศึกสองด้านนี้ .. แค่น้องสาวคนเดียวหญิงสาวก็แทบจะลมจับกับการเหย้าแหย่ นี่เธอยังเจอลูกคู่ของน้องสาวเข้าไปอีก .. สงสัยวันนี้คงต้องกินยาพารา. ก่อนนอนแน่ๆ
( แหม..ก็ใช่น่ะสิ พี่ก้อยไม่รู้หรอกว่า ที่มหาวิทยาลัยน่ะ เขาตั้งให้สองสาวเป็นดาวของรุ่นทีเดียว .. โดยเฉพาะกรปิต์ยา ที่ได้ตำแหน่งดาวยั่วเข้าไปอีก .. เพียงแต่เป็นดาวยั่วโมโห เท่านั้นเอง )
" พี่ก้อย.. พ่อกับแม่ล่ะ "
เสียงกรปิต์ยาดัง ขัดความเงียบของเครื่องปรับอากาศ( ต้องชั้นดีด้วยนะ ) ขึ้นมา ขณะที่พี่สาวก็กำลังตั้งอกตั้งใจแกะห่อของขวัญอย่างบรรจงเต็มที่.
" สงสัยคงจะอาบน้ำอยู่ข้างบนน่ะ. เพราะท่านกลับเข้ามาก่อนหน้าปิต์กับนิตาแป๊บเดียวเอง " ว่าแล้วหญิงสาวก็มุ่งความสนใจไปที่ห่อของขวัญกล่องน้อยต่อ
" โอ๊ย. ทำไมมันแกะยากอย่างงี้ล่ะ .. ยัยน้องสาว สงสัยเอากระดาษหนังสือพิมพ์มาพับๆๆ แล้วห่อกระดาษให้พี่แน่ๆเลย "
" โธ่..พี่ก้อยก็ อยากรู้ก็ใจเย็นๆ สิ เดี๋ยวเค้างอนด้วย.." กรปิต์ยาแกล้งทำเสียงสะบัด ก่อนที่จะหันไปจัดการของกินข้างหน้าต่อ.
" "
เสียงโทรศัพท์ของกรกชดังขึ้น ทำเอากรปิต์ยาหูผึ่งแอบหันมากระซิบกระซาบอะไรกับเพื่อนรัก 2 -3 คำ ก่อนจะเดินแบเข้าไปใกล้ๆ พี่สาว
" จ้า แล้วเดี๋ยวก้อยจะออกไปรับนะจ๊ะ .. สวัสดีจ้ะ "
" นั่นแน่ .. ใครโทรฯมาจ๊ะ .. พี่สาว " กรปิต์ยายิ้มมีเลสนัยมาก
" ออกไปข้างนอกกัน.. ไปซื้อของมาเพิ่ม แล้วเดี๋ยวพี่จะแวะรับเพื่อนเข้ามาด้วย " กรกชไม่ตอบแต่กลับชวนสองสาวดื้อๆ
" แล้ว..เพื่อนพี่ก้อยจะมากันหลายคนเหรอจ๊ะ .. " ดูเอาเถอะ ยัยกะปิเวลาอยู่กับพี่สาวแล้ว แม่คนนี้พูดจาหวานๆกับเขาก็เป็น
" ก็สัก 4- 5 น่ะจ้ะ.. มีแต่พวกพี่หญิง กับพี่นกน่ะ "
" อ้าว.. แล้วพี่หญิงกับพี่นก เขาลืมทางเข้าบ้านเราแล้วเหรอ?? พี่ก้อยถึงต้องออกไปรับน่ะ "
น้ำเสียงนั้นค่อนข้างจะซื่อขัดกับลูกกะตาระยิบนั่นเหลือเกิน ทำเอาคนถูกย้อนต้องเหน็บให้อีกสักที
" . . . . . . "
" แน่ะ..ถามแล้ว ไม่ตอบ .."
" ท่าทางจะต้องมีอะไรแน่ๆ " ดูเอาเถอะ ยัยกะปิก็ยังไม่เลิกราง่ายๆ ทั้งๆที่มือยังลูบแขนป้อยๆ.. แต่พี่สาวของเธอก็ยังไม่สนอยู่ดี
หญิงสาวเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถ ก่อนที่จะเดินนำออกนอกประตูไป เป็นผลให้กรปิต์ยาต้องหันมากระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับนิตาแทน
" นี่ พี่ก้อย .. แล้วแฟนพี่ก้อยล่ะ .. จะมาหรือเปล่า ?? "
" เดี๋ยวก็รู้จ้า .. ว่าแต่เราจะถามหรือจะไปล่ะจ๊ะ คนกวนโอ๊ย.. " กรกช รู้สึกหมั่นไส้น้องสาวตะหงิดๆ
" พี่ก้อยจ๋า .. มาเล่นยี่สิบคำถามกันนะ .." เอาแล้ว น้ำเสียงอ้อนๆ นั่น ท่าทางกรกชจะขัดไม่ได้ซะด้วย ..
20 คำถาม .. ดูท่าทางแล้วกรกชคงเลี่ยงไม่ได้ซะด้วย.. เอาก็เอา .. ยัยตัวดีจะได้ไม่ต้องมาตะแง๊วๆ ถามเอาอีกทีหลัง
" โอเค .. แต่พี่ให้สิบคำถาม "
" สิบห้า .." กรปิต์ยาต่อรอง
" เคยเจอห้าคำถามไหมจ๊ะทูนหัว " พอสิ้นเสียงต่อรองเท่านั้นแหละ .. คนตั้งโจทย์ถึงกับหน้าหงิก
" เอาเร็วๆ .. คำถามที่หนึ่ง" กรกชเริ่มซะเอง
" แฟนพี่ก้อยชื่ออะไร แล้วรู้จักกันได้ยังไงอ่ะ " น้ำเสียงของกรปิต์ยาบอกความกระตือรือร้นซะเหลือเกิน
" ชื่อพี่อาร์ม .. "
" ปิต์.. จำพี่กี๋ ได้ไหมล่ะ .. นั่นแหละ พี่อาร์มเขาเป็นเพื่อนพี่กี๋มาอีกที .. หมดไป 2 แล้วนะ เอาคำถามต่อไป "
" โห ... พี่ก้อยน่ะ .. แล้วพี่ฝนเป็นคนแนะนำเหรอจ๊ะ" ( แหม .. เสียงจ๊ะๆ จ๋าๆ ของยัยกะปิ ทำไมมันถึงฟังขัดหูพิกลก็ไม่รู้ )
" ก็พี่อาร์มเนี่ย .. เมื่อก่อนเขาเรียนคณะเดียวกับพี่กี๋ไง .. "
" แล้วทำยังไง พี่อาร์ม อะไรนั่นถึงมาชอบพี่ก้อยได้ล่ะจ๊ะ " ( เยี่ยม.. ยัยกะปินี่ยิงคำถามได้ตรงใจนิตาถูกข้อเลย ไม่เสียแรงที่เป็นเพื่อนรักกันมานาน )
" เอาไว้ ถามพี่อาร์มเอาเอง ดีกว่านะจ๊ะ.. " กรกชพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าสู่ลานจอดรถของ super market ชื่อดัง ( ที่เดี๋ยวนี้ ไม่รู้ทำไม ถึงนิยมมาเปิด ตามชุมชนใหญ่ๆ กันจัง )
ที่ด้านหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ของหมู่บ้าน..
" ปิต์.. พานิตาเข้าไปข้างในก่อนนะ เดี๋ยวพี่เดินไปหาเพื่อนตรงนู้นก่อน แล้วเดี๋ยวพี่ตามเข้าไป .."
พูดจบ กรกชก็เดินหายไปอีกทาง ทำเอาคนถูกสั่งยืนเกาหัวแกรก
" ไปกันเหอะแก.. เดี๋ยวเขาคงตามมาเอง "
ว่าแล้วสองสาวก็เดินจูงมือกันเข้าไปข้างใน โดยทีทั้งสองไม่รู้หรอกว่ามีสายตาของใครมองตามร่างโปร่งของเธอทั้งสองไปด้วย..
" เฮ้ย.. ตา แกเข็นรถตามมาเร็วๆ ซิ เดี๋ยวฉันจะเดินไปดูน้ำผลไม้ทางด้านนู้น สักหน่อย " เสียงของคุณนายกรปิต์ยา ดังจนเกือบจะได้ยินกันทั้งแผนก ทำเอาคนรับคำสั่งถึงกับส่ายหัว
กว่าที่กรกชจะตามเข้ามา บรรดาอาหารการกินทั้งหลายแหล่ ก็พร้อมใจกันลงมานอนรอกันบนรถเข็นไปกว่าครึ่งคันซะแล้ว ไล่ไปเลยตั้งแต่ขนมปังแผ่น กับแยมอีก23 ชนิด, แฮมแผ่น, เบค่อน, ชีส, นมพลาสเจอร์ไรซ์ กับโยเกิร์ตรสต่างๆ ..
นี่ยังไม่รวมกับบรรดาผลไม้อีก 2 3 อย่างที่นอนแอ้งแม้งอยู่ตรงก้นตะกร้าอีก.
( นี่เสียดายนะว่า.. ที่บ้านของกรปิต์ยา มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบทุกชนิดแล้ว ไม่งั้นล่ะก็ ..เจ้าหล่อนคงจะขนโฮมเธียร์เตอร์ กลับไปอีกสักชุด 2ชุดก็เป็นได้ )
" เออ.. หยิบๆ ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ก้อยจ่ายเอง " คนหยิบว่าอย่างนั้น
" นี่ยัยปิต์ .. อะไรน่ะเต็มไปหมดเลย " คนจ่ายเงินร้องสียงหลง เมื่อเห็นผลงานการซื้อของ ของน้องรัก ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แต่ยิ้มแหะ .. ขณะที่นิตาหัวเราะคิก ก่อนจะทำปากมุมมิบๆ ที่อ่านได้ว่า ...
"
เออ.. หยิบไปเถอะ "
. . . .
เพราะมัวแต่สนใจ พี่-น้องเขาเถียงกันนั่นแหละ.. นิตาเลยไม่ได้สนใจกับคนรอบตัว จึงได้แต่ยืนยิ้มอย่างนั่น..
นิตาอยากจะมีพี่สาวอย่างนี้บ้าง - - หญิงสาวได้แต่คิด. น้องสาวที่มีก็ไม่ค่อยจะสนิทกันนัก เพราะอายุที่ต่างกันเกินไปละมั้ง .. เลยทำให้หญิงสาวรู้สึกเหงาๆ และอิจฉาพี่น้องคู่นี้เหลือเกิน.
อาจเป็นเพราะนิตารู้สึกเหมือนมีร่างสูงๆ ของใครยืนอยู่เบื้องหลังนั่นแหละ ทำให้หญิงสาวต้องหลบทางให้ก่อนที่จะหันไปมอง.
" สูงมาก .. " - - ความรู้สึกของหญิงสาวบอกอย่างนั้น.. แต่น่าแปลก ทำไมในเมื่อเธอก็ยืนหลีกทางให้เขาแล้วแต่ทำไมเขาถึงไม่เดินผ่านไปสักที
3
" อาร์มจ๊ะ .. นี่ยัยปิต์ น้องสาวก้อยจ้ะ แล้วคนนี้ก็นิตาเพื่อนสนิทยัยปิตื น้องสาวอีกคนของก้อยจ้า "
" ปิต์ นิ.. นี่พี่อาร์ม เพื่อนพี่จ้ะ .. "
กรกช แนะนำชายหนุ่มหน้าตาดีที่ยืนอยู่ข้างตัว ให้สองสาวได้รู้จัก ทำเอาสองสาวยกมือไหว้แทบไม่ทัน.. ทำให้นิตาหมดความสนใจจากผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ไปเกือบจะทันที
" สวัสดีค่ะ "
" สวัสดีครับ "
" เอ่อ .. ปิต์จ๊ะ นิจ๊ะ .. แล้วนั่น พี่ตรีจ้ะ เป็นลูกผู้พี่ของพี่อาร์มเพื่อนพี่จ้ะ .."
" ขอเรียกพี่เหมือนกันนะคะ .. "
ประโยคนั้นเป็นกรกช ที่หันไปขออนุญาตจากคนตัวสูง ที่ยืนมองเหมือนจะสำรวจไปทั่ว super market นั่นเอง
" สวัสดีค่ะ .. "
สองสาวรีบทำความเคารพ แต่ท่าทางเชยๆ นั่น ทำให้นิตารู้สึกเหมือนว่า .. เขาจะไม่แยแสกับการเคารพของพวกเธอสักเท่าไหร่.. ทำเอาหญิงสาวรีบหดมือกลับแทบไม่ทัน
" เอ่อ .. พี่ตรีคะ ถ้าวันนี้พี่ตรีไม่มีธุระที่ไหนต่อ.. ก้อยขอเชิญพี่ตรีไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านของก้อยนะคะ พอดีวันนี้เรามีงานเลี้ยงเล็กๆ กันน่ะค่ะ "
คงเพราะบทสนทนานั่น มีชื่อของเขาแทรกอยู่ด้วยล่ะมั้ง หน้านวลๆ ตาคมๆ นั่นถึงได้หันมาสนใจกับคนที่อยู่ตรงหน้าได้ ..
ไม่รู้เป็นยังไงสิ .. นิตารู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับคนๆ นี้สักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะท่าทางไม่ยินดียินร้ายกับใครจนดู เย็นชา นั่นกระมัง .. ที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกขัดตา
" ช่างเถอะ .. ก็แค่คนที่ต้องรู้จัก " นิตาคิดอย่างนั้น เลยหมดความสนใจจากคนตรงหน้าทันที
. . . .
" พี่อาร์มรู้จักกับพี่ก้อยได้ยังไงอ่ะคะ .." เสียงแจ๋วๆ ของยัยกะปิ เจื้อยแจ้วอยู่ตรงนั้น ทำเอาคนถูกถามถึงกับเก้อไปนิดนึง.. ขณะที่คนถาม รอฟังคำตอบตาแป๋ว
" พอดี .. พี่กี๋ แนะนำให้พี่รู้จัก กับก้อยน่ะจ้ะ.. " น้ำเสียงนั้นบอกชัดเลยว่า ชายหนุ่มก็ตั้งตัวไม่ทันกับคำถามนี้
" อ๋อ.. อ้าว แล้วพี่อาร์มชอบ พี่ก้อยตรงไหนอ้ะคะ? " ลูกนัยต์ตาระยับนั่น ดูเหมือนว่าจะตื่นเต้นเหลือเกิน ..
นิตารู้สึกว่า ยัยกะปินี่.. จะตื่นเต้นเหลือเกินกับชายหนุ่มตรงหน้า .. แต่ก็เอาเถอะ หญิงสาวก็รู้สึกเขินๆ แล้วก็อยากรู้ อยู่เหมือนกันนี่หน่า..
" ปิต์ .. จะซื้ออะไรเพิ่มอีกไหมจ๊ะ.. ถ้ายังไงแล้ว เรากลับกันเลยดีกว่านะเกรงใจ พี่ตรีด้วย "
เสียงของกรกชนั้น เอื้อมายังคนตัวสูงที่เดินตามมาเงียบๆนั่นด้วย .. ทำเอาอีกฝ่าย หันมายิ้มให้ทีหนึ่ง ..
" แปลกๆ " นิตารู้สึกอย่างนั้น
ถุงหูหิ้วประทับตราของ super market ที่ไล่ตั้งแต่ของกินเล่น จนไปถึงของกินจริงๆ หลายถุง วางเรียงรายกันอยู่บนโต๊ะเตรียมอาหารในครัว.. ทำเอาผู้เป็นบิดาของเจ้าของงานถึงกับหัวเราะเสียงดัง..
“พ่อจ๋า ๆ สวัสดีค่ะ .. ” เสียงกรปิต์ดังมาก่อนเจ้าตัวซะด้วยซ้ำ ทำเอาบ้านที่เงียบๆ หมดความสงบลงทันที
“ คุณพ่อ.. สวัสดีค่ะ ” เสียงนิตานั่นเอง
“ สวัสดีค่ะ .. ว่าไง สาวๆ ไปเหมาตลาดที่ไหนมาล่ะลูก เหมามาหมดตลาดหรือยัง ตังค์น่ะพอไหม ”
เสียงของผู้สูงวัย ดังมาจากห้องรับแขก ทำเอากรปิต์ยารีบวิ่งตื๋อไปหาต้นเสียงนั้น
“ คิดถึงพ่อจ๋าๆ จังเลย.. เสียดายพ่อจ๋าๆ ไม่ได้ไปด้วย พี่ก้อยจ่ายคนเดียวหมดเลย ขอหนูเบิกค่าของขวัญพี่ก้อยด้วยนะจ๊ะ ”
“ มะเหงกไหมล่ะลูก ?? .. ”
น้ำเสียงนั้น บอกถึงความใจดี และอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจ ทำเอาบุตรสาวคนเล็กถึงกับหัวเราะคิกคัก
“ เออ.. พ่อ ได้ยินเสียงรถแล่นตามหลังเรามา แล้วรถใครกันน่ะลูก ที่จอดอยู่หน้าบ้านน่ะ ”
ผู้สูงวัยช่างสังเกตเหลือเกิน สมแล้วที่ท่านเป็นถึงรองอธิบดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ..
“ รถว่าที่ลูกเขยพี่จ๋าๆ ไง .. พ่อจ๋าๆ รีบไปกันท่าเร็ว อย่าลืมถือปืน แล้วทำหนวดกระดิกด้วยนะ .. เดี๋ยวว่าที่ลูกเขยพ่อจ๋าๆ จะไม่กลัว ”
ว่าแล้ว ยัยคนเสนอไอเดียก็ยกมือปิดปาก หัวเราะคิกคัก ทำเอาผู้เป็นบิดาหัวเราะร่า ถูกอกถูกใจเป็นที่สุด
“ พ่อจ๋าๆ แล้วแม่จ๋าๆ ล่ะจ๊ะ .. ”
เสียงยัยกะปิช่างฉอเลาะซะเหลือเกิน นี่ถ้านิตาไม่เห็นกับตาตัวเอง เธอคงไม่เชื่อหรอกนะว่า ..อยู่ที่บ้าน ยัยกะปิจะเรียบร้อยได้ขนาดนี้
“ อยู่หลังบ้านแน่ะ เห็นว่าจะให้จัดโต๊ะกินกันในสนามหลังบ้านไปหาแม่เขาสิ เผื่อจะได้ช่วยอะไร แม่เขา ”
“ งั้น .. ปิต์ ไปหาแม่จ๋าๆ ก่อนนะ พ่อจ๋าๆ อย่าร้องไห้นะจ๊ะ ”
ว่าแล้ว ยัยกะปิ ก็จูงมือนิตาวิ่งตื๋อออกจาอครัวไป โดยไม่อยู่รอฟังเสียง .. หัวเราะลั่นที่ดังตามหลังมา
นิตารู้สึกรักครอบครัวนี้เหลือเกิน .. เมื่อได้พบพ่อกับแม่ ของเพื่อนแล้ว หญิงสาวก็คิดถึงพ่อกับแม่ของตัวเองเหมือนกัน
พ่อกับแม่ของหญิงสาวทำฟาร์มเกษตร อยู่แถวภาคเหนือ - - แม้ครอบครัวของเธอจะไม่ร่ำรวยมากนัก แต่ก็สามารถส่งเสียให้เธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยดีๆ มีเพื่อน และมีสังคมดีๆ อย่างนี้ได้
เธอนึกขอบคุณพ่อกับแม่ของเธอจริงๆ ที่ให้แต่สิ่งดีๆ กับเธอ..
. . . . .
เสียงคุณหญิงอรณีย์ กำลังสาละวนอยู่กับการสั่งงานให้สาวๆ ภายในบ้านเร่งมือจัดโต๊ะ ทำให้สองสาวรู้ทันทีว่าผู้สูงวัย..สั่งการอยู่บริเวณสนามหญ้าข้างตัวบ้าน
“ แม่จ๋าๆ คิดถึงจังเลย .. จุ๊บๆ .. ”
คุณหญิงอรณีย์ แทบจะหันกลับมาทันทีที่ได้ยินเสียงแจ้วๆ นั้นดังมาจากข้างหลัง .. ก่อนที่แขนนวลนั้น จะเอื้อมมาโอบร่างบางของผู้เป็นมารดา ..พร้อมกับซบหน้าลงกับต้นแขนนั้น
“ คิดถึงจัง .. ”
“ เซี้ยวใหญ่แล้วนะเรา .. โตจนจะเป็น นางงามจักรยานแล้ว ยังเล่นเป็นเด็กๆ ไปได้ ”
น้ำเสียงสรรพหยอกนั้น ทำเอาบุตรสาวถึงกับหน้าหงิก
“ แม่ สวัสดีค่ะ ..”
อาจเป็นเพราะ นิตาเคยมาที่บ้านนี้หลาบครั้งแล้ว หญิงสาวเลยแทนตัวคุณหญิงว่าแม่ เช่นเดียวกับกรปิต์ยา แดท่าทางคุณหญิงจะชอบใจที่หญิงสาวฝากตัวเป็นลูกสาวบ้านนี้อีกคน
" ดีแล้ว .. แม่จะได้มีลูกสาว 3 ใบเถา .. "
คุณหญิงเคยพูดไว้อย่างงั้นแม่ นิตาเรียกท่านว่า .. แม่
“ ไหว้พระเถอะลูก .. ” คุณหญิงอรณีย์รีบรับไหว้พร้อมกับยิ้มอ่อนๆ
“ ไปเถอะแก .. ไปหาพระไหว้กัน ”
“ เพี๊ยะ ..” เสียงดังนั้น ทำให้มารดาต้องหวดให้สักเพี๊ยะ
“ เดี๋ยวเถอะนะ.. ยัยปิต์ ” เป็น เพราะคุณหญิงจับผิดยัยตัวดีอยู่น่ะสิ เลยทำให้ คนถูกจับผิด หัวเราะคิก ..
“ โอ๋ๆ .. คุณหญิงขา .. อย่าดุนะคะ เดี๋ยวไม่สวยนะค๊า .. เดี๋ยวหน้าย่นไป ลูกสาวจะส่งประกวดนางงามลูกสองไม่ได้ นะค๊า .. ”
ก็ยัยตัวดีอีกนั่นแหละ แต่คราวนี้คุณหญิงถึงกับหัวเราะคำพูดล้อเลียนนั่น ก่อนจะเลิกสนใจคนกวนใจ ที่ยืนซบอยู่อย่างนั้น
" คุณหญิงแม่จ๋าๆ เมื่อกี๊นี้นะจ๊ะ .. พี่ก้อยพาลูกจ๋า ไปรับว่าที่พี่เขยมาด้วยล่ะจ้ะ "
อาการจีบปากจีบคอฟ้องนั่น ไม่ต่างอะไรกับเด็กเล็กๆ ที่จะต้องมีเรื่องมารายงานแม่ .. ทุกครั้งที่กลับมาจากไปเที่ยวเลย“
"เซี้ยวใหญ่แล้วเรานี่.."
" แล้วนี่..ไปยังไง มายังไงกันล่ะ .. นิ - ลูก .. เราน่ะไม่ต้องพูด”
ประโยคหลังนั้นคุณหญิงหันไปบอกกับบุตรสาว ที่ผงกศีรษะขึ้นมามอง นิดหนึ่ง ทำให้หญิงสาวต้องเก็บปากไว้
“ พอดี ยัยปิต์ .. ชวนมา งานวันเกิดของพี่ก้อยน่ะค่ะแม่ .. ” ตราวนี้ นิตาก็ได้ตอบคำถามของผู้สูงวัยสักที
“ แม่คะ.. มีอะไร ให้นิกับปิต์ ช่วยไหมคะ .. ”
“ อุ๊ย .. ไม่เป็นไรจ้า .. ” คุณหญิงอรณีย์ รีบโบกมือเป็นพัลวัน
“ ยัยปิต์ เขาชวนนิมากินนะลูก.. เราก็เตรียมท้องไว้ก็พอแล้ว.. เดี๋ยวงานพวกนี้ให้ยัยปิต์ เขาทำแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็เสร็จ..”
ประโยคนั้น ทำเอาคนซุกๆ อยู่แถวบ่า ถึงกับหน้าเหว๋อ
“ อ้าว!! แม่จ๋าๆ น่ะ.. ปิต์อุตส่าห์ ไปหลอกยัยนิมาช่วยแม่จ๋าๆ นะ ”
น้ำเสียงนั้นกระเหง้ากระหงอดเหมือนกับหน้าคนพูดเลย ทำเอา .. ผู้สูงวัย กับคนที่ถูกหลอกมาช่วยหลุดหัวเราะออกมาเกือบจะพร้อมกัน ..
“ เอ้า..เอ้า !! งอนจนเกือบจะสวยแล้ว.. ปิต์ พานิตาไปอาบน้ำ อาบท่าซะไป เหม็นเหงื่อจะแย่ ไปตะลอนๆ กันมาทั้งวันแล้ว ”
คุณหญิงอรณีย์ เปลี่ยนเรื่องซะ ก่อนที่คน(เกือบจะ)สวยของท่านจะหน้างอไปมากกว่านี้
“ เดี๋ยวปิต์ .. อยู่ก่อนนะลูก ”
“ อย่าเพิ่งรีบกลับ หรือจะนอนค้างที่นี่ก็ได้นะ เดี๋ยวแม่โทรฯไปบอกคุณแม่ของนิตาให้นะลูก ”
เพราะ ความอาทรนี้แหละ ทำเอาหญิงสาวยิ้มอ่อนๆ
“ อ๋อ.. ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แม่จ๋าๆ .. พอดี ยัยนิน่ะ เขาอยู่หอในมหา’ลัยน่ะจ้ะ เดี๋ยวปิต์ โทรฯไปบอก รูมเมท ของยัยนิให้ก็ได้จ้ะ ”
เอาล่ะ .. ยืนเงียบมาตั้งนานแล้ว .. กรปิต์ยาก็ได้โอกาสพูดสักที
“ งั้น.. นิตาก็ ค้างที่นี่เลยนะจ๊ะ .. และแล้ว ปิต์ ก็โทรฯ ไปบอกที่หอให้นิตาด้วยนะลูกนะ ..”
คุณหญิงหันมากำชับบุตรสาวก่อนจะไล่กันไปอาบน้ำทั้งคู่
“ เอ้า .. ไปไป๊ .. จะไปทำอะไรก็ไปกันเถอะ .. เดี๋ยวแม่สั่งงานเสร็จแล้ว เดี๋ยวแม่ก็จะตามเข้าไปข้างในเหมือนกัน ”
เฮ้อ.. นิตา อยากจะมีครอบครัวอย่างงี้บ้างจัง - - ถ้าเป็นไปได้นะ บุพการีของเพื่อนหล่อนก็น่ารักซะจนแทบจะเป็นเพื่อนกับลูกได้ แล้วยังคงเอื้อเฟื้อ อาทรมาถึงหญิงสาวซะอีก.
เสียงสนทนาและเสียงหัวเราะ ดังมาจากห้องโถงรับแขกขนาดใหญ่ ของตัวบ้าน .. น้ำเสียงนั้น ไม่บอกก็รู้ว่า.. ท่านรองฯอภิชาติ กำลังถูกออกถูกใจเป็นที่สุด.. แต่นิตาเดาไม่ออกแหะ .. ว่าคู่สนทนาอีกฝ่ายของท่านรองเป็นใคร ??
“ อู๊วว์ .. เสียงพ่อจ๋าๆ ดังมั่กๆ เลยอ้ะ.. คนสวยนะเดินเข้าประตูมาก็ได้ยินแต่เสียงพ่อคนเดียวเลย ” ประโยคนั้น ทำเอาท่านรองฯ ถึงกับตบเข่าฉาด
“ บ๊ะ!! .. ไอ้ลูกคนนี้นี่ .. มาๆ มารู้จักกันไว้ก่อน ยัยนิด้วยลูก ”
“ นี่ ยัยปิต์ ยัยนิ .. เราสองคนรู้จักพี่ตรีหรือยัง?? ” เสียงของผู้สูงวัยบอกความรื่นรมย์นัก
“ ครายอ้ะจ๊ะ .. พ่อจ๋า ๆ พี่ตรีอ้ะ .. ” ยัยคน( ที่คิดว่าตัวเอง)สวย เริ่มญวนอีกแล้ว
“ ก็พี่ตรีพล .. ลูกของป้าอัญชาที่อยู่ถัดจากบ้านเราไป อีก 2 ซอยไงลูก ..”
“ ให้อ้ะจ๊ะ .. ม่ายเห็นครายเลย..อ้ะจ้ะ - - เห็นแต่ พี่ตรีคนนี้คนเดียว ที่มากับว่าที่ลูกเขยพ่อน่ะ .. ” เพราะน้ำเสียงยียวนนั่นแหละมั้ง ทำให้นิตารู้สึกว่า เธอจะเห็นคนตัวสูงนั่นยิ้มๆ สักหน่อยหนึ่ง .. หน่อยเดียวเท่านั้นจริงๆ
ว่าแต่ว่า.. นอกจากคนตัวสูงที่นั่งอยู่ตรงข้างๆ ท่านรองฯแล้ว หญิงสาวก็ไม่เป็นว่าจะมีใครคนไหนอยู่ในห้องนั้นอีก ..
“ เอ้า.. ก็นี่ไง.. คนนี้แหละพี่ตรีพล ลูกชายป้าอัญชา ซี้กับคุณหญิงอรณีย์ของเราไง .. ” ท่านรองฯอธิบายเสร็จสรรพ ..
อ้อ.. ที่แท้คนที่ท่านรองฯ หมายถึงก็คือ.. คนตัวสูงนี่เอง - - โลกนี้ดูท่าว่า มันจะกลมเกินไปหน่อยซะแล้ว
“ อ้าว !! พ่อจ๋าๆ.. ก็รู้จักพี่ตรีหรอกเหรอจ๊ะ .. งั้น พ่อก็รู้จักพี่อาร์ม แฟนพี่ก้อยด้วยสิจ๊ะ ” นิตารู้สึกว่า.. น้ำเสียงของ คนพูดจะกระตือรือล้น ขึ้นมาทันที
“ เอ้า.. มาๆ สองสาวมารู้จักกันไว้ลูก ยัยนิมาเร็ว ..” ประโยคนั้น ท่านรองฯ หันมาเรียกหญิงสาวด้วย .. ทำเอานิตาจะหลบก็หลบไปไม่ได้ ..
“ รู้จักกันแล้วค่ะ คุณพ่อ .. พอดีเมื่อกี๊ พี่ก้อย .. แนะนำให้รู้จักแล้วน่ะค่ะ ” นิตาตอบเรียบๆ ก่อนจะยกมือไหว้ คนตัวสูง.. คนนั้นอีกครั้ง
หญิงสาวไม่ชอบสายตา ของเขาเลย.. ตาสวยๆ ออกจะหวานด้วยซ้ำ เสียแต่ว่า .. ตาสวยคู่นั้น ดูว่างเปล่า จนเกินไป.. เกินไป จนถึงขนาดที่ทำให้ ตาคู่สวยนั้น ดูลึกล้ำเหลือเกิน
- - ผู้ชายคนนี้อ่านยาก - - นิตารู้สึก อย่างนั้น.. ยิ่งถ้าเธอคิดว่าจะอ่านเขา.. จากดวงตาคู่สวยนั่น ดูจะยิ่งไม่มีทาง ที่จะเป็นไปได้เลย..!!
“ พ่อจ๋าๆ .. ปิต์ กับนิ ขอไปป๋อมแป๋มก่อนได้ไหม๊ อ้ะจ๊ะ .. เดี๋ยวแม่จ๋าๆ จะมาตีหนูแน่ๆ เลย ถ้ายังมานั่งอยู่อย่างนี้อ้ะจ้ะ .. ”
เฮ้อ .. นี่ถ้าหญิงสาวไม่รู้จักกับยัยกะปิ มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมนะ .. เธอคงรับไม่ได้แน่ ว่าดาวยั่ว( โมโห )อย่างยัยกะปิ .. เวลาอยู่ต่อหน้าบุพการีแล้ว... เธอ จะเปลี่ยนไปได้จนถึงขนาดนี้
“ พ่อตรี.. คงเห็นแล้ว ดูสิเนี่ย .. ปีหน้าก็จะจบมหาวิทยาลัยแล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กๆ อยู่เลย .. ไม่โตสักที ” ท่านรองฯ หันไปปรารภกับคนตรงหน้า..
“ แหม.. พ่อจ๋าๆ น่ะ .. ถ้า ปิต์ไม่อ้อนพ่อจ๋าๆ แล้ว .. จะให้ปิต์ไปอ้อน หนุ่มๆ ที่ไหนล่ะค๊า..”
“ ตะพดสิคุณลูก .. บ๊ะ .. ไปอ้อนหนุ่มๆ ”
“ เอ้า.. จะไปไหนก็ ไปไป๊ - มิน่า พ่อถึงว่ากลิ่นอะไรแปลกๆ.. ” ท่านรองฯ ทิ้งท้ายไว้เท่านั้น.. ขณะที่คนถูกไล่ก้มลงหอมแก้มอูมนั้น .. สักทีก่อนจะหันหลังเดินออกมา
ความคิดเห็น