The Last Wish..
เรื่องสั้นปริศนา
ผู้เข้าชมรวม
155
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กึ..กรึก.....
ฉันริซาโกะ ซุกายะ และ มิยาบื นัทซึยากิ
เราทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเด็กๆแล้ว อันที่จริงจะว่าไปเราทั้งคู่อาจจะรู้จักกันก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ เพราะว่าแม่ของนั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่งงานพร้อมกัน แล้วทั้งคู่ก็คลอดเราในวันเดียวกันด้วยอาจจะฟังดูเหลือเชื่อไปบ้างแต่มันก็คือเรื่องจริง เราทั้งคู่นั้นอาจจะรู้กันตั้งแต่ตอนอยู่ในท้องแม่แล้วก็ได้ ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มจำความได้เอาเป็นว่าฉันกับมิยะนั้นไม่เคยจะแยกออกจากันเลยแม้แต่ครั้งเดียว!
เราเรียนอนุบาลที่เดียวกันและแน่นอนอยู่ห้องเดียวกันด้วย ทั้งอาจารย์และเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันต่างรู้จักเราในชื่อคู่แฝด 'นัทซุ' คือการนำชื่อนามสกุลตัวหน้าของเรามาเรียกรวมกัน
เราทั้งคู่อาจจะมีอะไรหลายๆอย่างไม่เหมือนกันฉันมีผมน้ำตาลเข้มหยักศกส่วนมิยะก็มีผมสีดำที่ยาวตรงสลวย ฉันเป็นคนเงียบๆส่วนมิยะเป็นคนร่าเริง
ใช่มะ ? ฟังดูไม่น่าเข้ากันเล้ยยยย....แต่ความสัมพันธ์ของเราทั้ง 2 คนนั้นคงจะไม่มีอะไรที่จะมาตัดให้ขาดออกจากกันได้ จนกระทั่งปัจจุบันพวกเราขึ้นชั้นมัธยมต้นแล้วเราก็ยังอยู่ห้องเดียวกัน
มิยะและฉันชอบที่จะนั่งเล่นตรงริมฝั่งแม่น้ำของเมืองตั้งแต่ยังเด็กแล้ว ซึ่งแม่ๆของพวกเราก็มักจะชอบห้ามว่าอย่าไปเล่นตรงนั้นนะเพราะว่ามันอันตราย ก็ตรงนั้นน่ะน้ำเชี่ยวออกจะตายนี่นา....
.....แต่พวกเราก็ชอบที่จะแอบแม่มาเล่นกันตรงนั้นอยู่เป็นประจำอยู่ดีแหละ ฮิฮิ
ฉันจำได้ว่ามีครั้งนึงตอนเราอยู่อนุบาล วันนั้นท้องฟ้าแจ่มใสสลับกับมีเมฆมาก ขณะที่กำลังเล่นกองทรายกันอยู่ มิยะก็ถามฉันแปลกๆเรื่องนึงที่ฉันยังจำได้ดีจนตัวเองก็อดแปลกใจไม่ได้
นี่ริจังรู้มั้ยว่าคำอธิษฐานของคนเราจะแรงกล้าที่สุดตอนไหน ?
...ไม่รู้อ่ะตอนไหนเหรอ
ก็ตอนใกล้ตายยังไงล่ะ.....
พอมานึกๆดูแล้วทำไมตอนนั้นฉันไม่กลัวมิยะเลยนะ หน้ามิยะหน้ากลัวมากตอนนั้นพวกคุณนึกไม่ออกหรอกเหมือนปีศาจตัวน้อยๆเลยล่ะ แต่พอมาคิดตอนนี้แล้วนะแค่คิดก็ขนลุกซู่แล้ว แต่ไม่ว่ายังไงสำหรับฉันน่ะขอแค่มีมิยะก็พอแล้วล่ะ....
นี่ยังจำได้ไหมว่าฉันเคยบอกให้พวกคุณฟังว่ายังไงฉันกับมิยะน่ะตัวติดกันตลอดเวลาไม่ว่าเวลาไหนใช่มั้ย ?
แต่......มีอยู่ครั้งนึงที่เราต้องแยกจากกัน แล้วก็เป็นการแยกจากกันตลอดกาลแบบไม่มีวันที่จะสามารถเรียกย้อนกลับมาได้ซะด้วยสิ
อะไรนะพวกคุณอยากจะรู้ยังนั้นหรือ ?
........................
ให้ตายสิพวกคุณนี้เซ้าซี้จังเลยนะ งั้นจะเล่าให้ฟังก็ได้
คือมันเป็นเรื่องเมื่อ 6 เดือนก่อน ฉันแอบชอบเด็กผู้ชายอยู่คนนึงเค้าเรียนห้องเดียวกับฉันนี่แหละ เค้านะทั้งเรียนเก่ง นิสัยก็ดี แถมกีฬาบาสที่เค้าเล่นก็เก่งมากซะด้วยสิ เค้านะ pop ในหมู่สาวๆที่โรงเรียนมากเลยล่ะ ฉันน่ะชอบเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้วล่ะ เรียนกว่า 'ตกหลุมรัก' ซะล่ะมั้ง อายจังฉันพูดอะไรไปเนี่ย....
ฉันน่ะชอบเค้ามากเลยล่ะ แต่ก็ไม่กล้าบอกหรอกก็กลัวเค้าปฎิเสธน่ะสิ ก็เค้า pop ออกจะขนาดนั้นตลอดเวลาฉันก็ได้แต่คอยมองเค้าอยู่ห่างๆไม่ได้ทำอะไรให้ใครผิดสังเกตุหรือให้ใครรู้ได้ว่าฉันชอบเค้า แต่แล้ววันนึงมิยะก็กลับกล้าทำในสิ่งที่ฉันไม่กล้าทำ ใช่!!!!
วันนั้นฉันเดินทอดน่องกำลังจะไปดื่มน้ำที่ด้านหลังโรงเรียน ฉันก็บังเอิญเห็นเข้าพอดี มิยะสารภาพรักกับเค้าคนนั้น.......แล้วเค้าก็ตอบตกลงด้วย
ฉันทั้งเสียใจทั้งรู้สึกช๊อกมากๆที่โดนมิยะเพื่อนสนิทหักหลังเข้า.....
ตอนเย็นฉันเดินกลับกับมิยะเส้นทางเดิมที่ๆเราชอบไปนั่งเล่นกัน ฉันรวบรวมความกล้าถามมิยะไปว่าเธอคบกับเค้าคนนั้นตริงรึเปล่า
ไม่มีคำตอบแต่มิยะหน้าแดง.............
ฉันโมโหมากที่มิยะมีความกล้าที่ฉันไม่มี โมโหทึ่มิยะบังอาจมาชอบคนๆเดียวกับที่ฉันชอบ ฉันกับมิยะมีปากเสียงกัน เถียงไปจนถ้อยคำหยาบคำสบถต่างๆเริ่มมากตามขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหวฉันตบหน้ามิยะ มิยะก็ตบหน้าฉันกลับฉันเอื้อมมือไปคว้าผมดำที่พริ้วสบัดของมิยะแล้วกระชากเต็มแรง มิยะก็ตอบโต้ด้วยการจิกเล็บลงที่ใบหน้าของฉัน
เรา 2 คนยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมาจนกระทั่งพลัดตกลงไปในแม่น้ำ เราสองคนว่ายน้ำไม่เป็นต่างคนต่างตะเกียดตะกายหวังจะเอาชีวิตรอด ฉันเอามือตะกรุยน้ำด้วยกำลังทั้งหมดเพื่อจะให้ไปถึงฝั่ง แต่ก็ไม่สามารถเพราะน้ำในแม่น้ำเชี่ยวมากจนสู้แรงไม่ไหว ปากก็สำลักน้ำที่ทะยอยโถมเข้ามาเรื่อย หางตาฉันเองก็เหลือบไปเห็นมิยะที่ก็พยายามจะเอาชีวิตรอดไม่ได้ต่างจากฉันเลย
สติของฉันเริ่มจะเลือนลางลงทุกทีตัวค่อยๆจมลงสู่ก้นแม่น้ำ แต่ในระหว่างที่ฉันกำลังจะใจจู่ๆฉันก็พลันนึกเรื่องของมิยะที่เล่าให้ฟังในวัยเด็กได้
นี่ริจังรู้มั้ยว่าคำอธิษฐานของคนเราจะแรงกล้าที่สุดตอนไหน ?
...ไม่รู้อ่ะตอนไหนเหรอ
ก็ตอนใกล้ตายยังไงล่ะ.....
ฉันนึกขึ้นได้ก็เริ่มลองอธิษฐานดูก็ไหนๆก็จะตายอยู่แล้วนี่ก็ลองดูซักหน่อยถึงมันจะไม่ใช่เรื่องจริงอะไรก็เถอะ ฉันเริ่มตั้งใจอธิษฐานด้วยสติสัมปชัญญะที่จวนเจียนจะขาดเต็มที
ฉันอธิษฐานขอให้มิยะหายไปจากโลกใบนี้ซะ.....
แล้วฉันก็ปล่อยล่างให้จมดิ่งลงสู่ก้นของแม่น้ำ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในห้องสีขาวสะอาดสะอ้านยังนึกตลกอยู่เลยว่า 'ตายแล้วจะมาอยู่ในห้องแบบนี้เองหรอเนี่ย' จากนั้นก็มีผู้หญิงในชุดขาวเดินเข้ามาในห้องก็เลยนึกขึ้นได้ว่า อ๋อ โรงพยาบาลนั่นเอง
ฉันรอดจากการจมน้ำ โดยพยาบาลเล่าให้ฟังว่ามีคนเห็นฉันเดินๆอยู่ก็พลัดตกลงไปในน้ำเลยช่วยไว้ได้ทัน
เอ๋....? ฉันรอดแล้วมิยะล่ะ
ฉันลองถามพยาบาลดู คุณพยาบาลก็ทำหน้า งงๆ ฉันก็เลยบอกไปว่าก็คนที่ตกลงไปในน้ำพร้อมกับฉันยังไงล่ะ พยาบาลก็ยังทำหน้างงอยู่ แล้วก็บอกกับมาว่าจากรายงานนั้นมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้
ฉันเริ่มสับสนนี่ฉันรอดคนเดียวเพราะว่าคนช่วยไม่เห็นมิยะ ? หรือว่าคำอธิษฐานของฉํนเป็นจริงกันแน่
ไม่เอาน่ะเรื่องหลอกเด็กยังนั้นจะเป็นจริงไปได้ยังไงกัน....
ฉันนอนโรงพยาบาลอยู่ 1 วันเพื่อดูอาการพอได้ออกปุ๊บฉันก็ตรงดิ่งไปบ้านมิยะที่อยู่ข้างๆทันที แต่ปรากฎว่าบ้านมิยะกลายเป็นบ้านร้างเป็นบ้านเก่าๆที่ขึ้นรกไปด้วยเถาวัลย์ต่างๆพันไปมาอยู่หน้าประตูและกำแพง
มิยะหายไป........
คำอธิษฐานของฉันกลายเป็นจริง ถามพ่อกับแม่ก็ไม่มีใครรู้
นี่มันเรื่องจริงใช่มั้ย .........?
ฉันทำให้มิยะอันตธารหายไปจากโลกนี้ได้แล้วสินะ......
งั้นทีนี้เค้าคนนั้นก็จะต้องเป็นของฉันตลอดไป.....ฉันชนะ.....
.....................
..................
..............
..........
........
....
กึ....กรึก.....
"เป็นยังไงครับ ?" ชายในชุดกาวด์เลื่อนมือจากเครื่องเล่นเทปมาประสานไว้ตรงหน้าตัวเอง "นี่คือเทปที่เราทำการอัดตอนที่ ซุกายะ ริซาโกะ หรือบุตรสาวของคุณนั้นพูดระหว่างการตรวจสอบสภาพจิตใจช่วงเดือนที่ผ่านมา....."
หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝ่ายตรงข้ามกับผู้ชายใส่เสื้อกาวด์ทำท่ากอดแขนผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆจนแน่น
"ผลสรุปมีดังนี้นะครับ เรายังไม่สามารถปล่อยให้เธอออกไปใช้ชีวิตปกติที่ข้างนอกกับพวกคุณได้ จากที่ได้ฟังพวกคุณก็คงจะรู้กันแล้วนะครับคือเธอยังเอาความฝันหรือจินตนาการรวมเข้ากับความเป็นจริงอยู่เราจึงไม่สามารถที่จะอนุมัติให้ออกไปได้ แล้วก็ขอบคุณมากนะครับที่อุตส่าสละเวลามา"
โฮ.........
เสียงร้องไห้ของหญิงวัยกลางคนที่ปล่อยออกมาดังลั่นอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่มีหน้าต่างบานเล็กเปิดสู่ภายนอกรับลมของฤดูร้อนที่โชยเข้ามา
ฉันชนะ........
End.......
ผลงานอื่นๆ ของ Z.A.Brellelabalz ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Z.A.Brellelabalz
ความคิดเห็น