ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jealous มึงน่ะ..ของกู ◦ JunDong{iKon}

    ลำดับตอนที่ #6 : SF iKON : "ขาด" [BJIN]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      4
      16 ก.พ. 60


     

     

    iKON Shot Fiction

    ขาด



    - ฮันบิน x จินฮวาน -
     -ดราม่า -
    - เนื้อหาในตอนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องมึงน่ะ..ของกู -







     

                ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อน

               .
               .
               .
               .
               .

                เดี๋ยวๆ ล้อเล่นเว้ย นานไป หนึ่งเดือนพอ


                หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้

                สวัสดีครับผมฮันบินคนรักแฟน รักมากดั๊ว ไม่นอกใจดั๊ว! ผมกับแฟนคบกันมาได้เกือบ4ปีแล้ว นานมากใช่มั้ย เพราะฉะนั้นผมถึงได้รักเค้ามาก มากกว่าสิ่งใดๆบนโลกนี้ แต่...เพราะความรัก ถึงทำให้เราสองคนทะเลาะกันบ้าง มีปากเสียงนิดหน่อย

     

     

    และครั้งนี้แรงที่สุด

     

     

                “พี่จินฮวานใช่แล้ว จินฮวานคือชื่อแฟนของผมเองครับ

                ผมเดินตามหาพี่จินฮวานทั่วห้องแต่ไม่เจออะไรเลย เล่นซ่อนแอบอยู่หรือเปล่านะ จริงๆแล้วเรื่องราวครั้งนี้ของเราสองคนดราม่ามากนะครับ ผมไม่ตลกเลย เตือนไว้ก่อน ใครขำเรื่องที่ผมกำลังจะเล่า ผมงอนนะ

                หายไปไหนของเค้านะผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะยกโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่เค้าเรียกกันว่าIphone6plus...ใหญ่เท่าหน้าพี่จินฮวานเลย

                ตู๊ดดดดด ตู้ดดดดดดด

                [ฮัลโหล]

                “พี่จินฮวานอยู่ไหนครับ ตอนนี้ผมอยู่คอนโดพี่แล้วนะ

                [เมื่อวานฉันคงลืมบอกนายเองแหละ ตอนนี้ฉันอยู่บ้านเพื่อน ฉันมานอนค้างที่นี่เมื่อวาน คงจะกลับเย็นๆ ไม่ต้องรอนะ]

                “….” พี่จินฮวานพูดจบก็ตัดสายไปทันที

                นี่แหละครับจุดเริ่มต้นของความรุนแรง เค้าเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มห่างและเริ่มทำเหมือนผมไม่มีตัวตน

     



     

                มหาลัยXX


                “ฮันบิน มึงเป็นไรวะ เมนส์ไม่มาไง

                “พ่องงงง ผมนั่งเขี่ยอาหารในจานเล่นมาเป็นเวลานานโดยไม่ตักแดกเลย ตอนนี้คงกินไม่ได้แล้วล่ะครับ เละ -_-

                เพื่อนผมคนนี้ชื่อกูจุนฮเว แม่มกวนส้นตีนตั้งแต่หน้าโรงเรียนยันกลับบ้าน สงบปากสงบคำไม่เป็นหรอก แขวะคนอื่นไปเรื่อย

                “แล้วมึงล่ะไอ้เฮียบ๊อบ เป็นอะไรไปอีกคน เมียมีชู้แงะ?

                กูแค่รู้สึกว่าช่วงนี้สมองกูเชื่องช้าอย่างกับเต่าเลยว่ะ เวลากูไปแร็ปนะคนแม่มโห่กูเต็มเลยเพราะกูแร็ปคร่อมจังหวะ เมื่อคืนก็โดนผู้จัดการด่า เฮ้อ ชีวิตแชมป์มันเหนื่อยจริงๆไอคนที่พร่ำพูดอยู่ตอนนี้คือเฮียบ๊อบบี้ที่ซ้ำชั้นมาเรียนปีเดียวกับพวกเรา ทำงานอยู่คลับ แร็ปให้เค้าฟัง คืนหนึ่งได้เงินหลายหมื่นวอนเลยครับ แต่ผมไม่เคยไปดูมันแร็ปเลยสักครั้ง เป็นเพื่อนที่ดีมั้ยครับ

                มึงควรเอาสมองมึงไปติดเทอร์โบซะนะ จะได้เร็วขึ้น จุนฮเวพูดต่อ

                สมองติดเทอร์โบ มุขแม่มทุเรศชิบหาย ขำตายแหละ!

                “ฮันบิน ดูนู่นดิจุนฮเวทักผมขึ้นก่อนที่ผมจะหันไปมองตามสายตาของมัน

              พี่จินฮวาน...

                ทำไมวะ ผมหันกลับมาถามจุนฮเวอย่างสงสัย สงสัยเหมือนกันใช่มั้ย ให้หันไปดูทำไม เมียกูสวยล่ะสิ

                “เหี้ย! มึงมองไม่ออกจริงๆเหรอวะ ก้มหน้าก้มตาพิมพ์โทรศัพท์ไม่เงยหน้าขึ้นมาพูดกับเพื่อนแบบนั้น มันน่าสงสัยนะเว้ย แถมพิมพ์ไปด้วยยิ้มไปด้วย ชัวร์!”

                “คุยกับชู้…” ไอ้เฮียบ๊อบบี้ต่อบทจุนฮเวอย่างกับกล้วยหอมจอมซนบี1บี2

                ไร้สาระ พี่จินไม่มีคนอื่นแน่ กูมั่นใจ

                “เออ แต่ก็น่าจะระวังไว้หน่อย เดี๋ยวนี้มึงก็บ่นๆอยู่ไม่ใช่เหรอว่าพี่จินไม่ค่อยสนใจมึงเลย

                ผมก้มหน้าลงเขี่ยข้าวต่อ แต่ไม่วายคิดเรื่องพี่จินฮวานที่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ถึงจุนฮเวไม่บอกผมก็สังเกตแฟนตัวเองเหมือนกันนะว่าเค้าเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว ผมพยายามคิดในแง่ดีว่าเค้าอาจกำลังเห่อIphone6Plusเครื่องใหม่อยู่ก็เป็นได้

               

               และขอให้เป็นแบบนั้นจริงๆ

     


     

                เลิกเรียนผมจะไปส่งพี่เค้าที่คอนโดและอยู่เล่นสักพักจนค่ำถึงกลับบ้านตัวเอง วันนี้ก็เป็นอีกวัน ขณะที่เราเดินเข้ามาในซอยคอนโดต่างคนก็เงียบกันมาตลอดทางโดยไม่มีใครเปิดปากพูดอะไรออกมาสักคำ

    ผมที่เดินข้างเค้าแต่เหมือนไม่มีตัวตน...

                “พี่จิน

                “ว่า...

                “พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมช่วงนี้ดูไม่ค่อยสดใสเลย ไม่สบายเหรอ?ผมเอื้อมมือไปแนบที่หน้าผากเล็กของพี่จินฮวาน แต่..

                เพี๊ยะ!

                เค้าปัดมือผมออกอย่างแรงจนผมอึ้งไปเลย เค้าไม่เคยทำแบบนี้กับผม ไม่เคยแม้แต่จะรุนแรงกับผมสักครั้ง

                ฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละพี่จินฮวานรีบสาวเท้าเดินไปอย่าไวเหมือนพยายามหลีกเลี่ยงบทสนทนา

                สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ทำเอาผมไปต่อไม่ถูก ทำได้เพียงยืนนิ่งมองคนตัวเล็กที่เคยข้างกายเดินหนีไป หรือที่จุนฮเวพูดคือเรื่องจริง...

               



                คอนโดX

                พี่จิน...

                “….” พี่จินฮวานนอนบนเตียงเล่นโทรศัพท์ไม่วางมือ แถมยิ้มเล็กยิ้มน้อยจนดูแปลก

                พี่คุยกับใคร ผมที่นั่งมองเค้าอยู่โซฟามาเป็นเวลานานเอ่ยขึ้น

                “....เค้านิ่งไปเมื่อถูกถาม แต่ไม่นานเค้าก็ทำเหมือนเดิม ราวกับคำพูดของผมถูกลมพัดหายไปในพริบตา

                อ่ะฮันบิน

                “พี่เป็นอะไรกันแน่ผมพุ่งตัวขึ้นคร่อมพี่จินฮวานโดยไม่ให้เค้าได้ตั้งตัวติด เค้าสะดุ้งเฮือกก่อนจะเบี่ยงหน้าหนี

                ฉันไม่ได้เป็นอะไร

               เค้าหลบตาผม

                โกหก พี่มีคนอื่นใช่มั้ย!” ผมเริ่มขึ้นเสียง

                ฉันเปล่า ออกไปนะ!!” พี่จินฮวานใช้มือเล็กดันอกผมออกแต่แรงนั้นกำจัดผมไม่ได้หรอก

                “ไม่ออกจนกว่าพี่จะบอกว่าพี่เป็นอะไร ทำไมอยู่ๆถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ ผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจก็บอกมาสิ!”

                ฉันบอกว่าเปล่าไง! อื้ม!” ผมกลืนคำพูดของพี่จินฮวานด้วยริมฝีปากของผมอย่างแรงก่อนจะเริ่มกลายเป็นความอ่อนโยน

                จูบที่ไม่ได้สัมผัสมานานมันยังหวานไม่เปลี่ยนเลย พี่จินฮวานยังคงตอบรับจูบของผม แต่เมื่อผมพยายามสอดลิ้นเข้าไป เค้ากลับต่อต้านและดันผมออก

                ฮ...ฮันบิน...

                “พี่ร้องไห้ทำไมน้ำตาหนึ่งหยดใสๆไหลออกจากหางตาของคนตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา

                ฉันขอโทษ...

                “…”

                ฉัน...ไม่ได้รักนายแล้ว...

                “…!!”

                นายไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าฉันเถอะ ฉันว่าเราไปกันไม่รอดแล้วล่ะ

                “จะให้ผมไปหาใคร ผมรักพี่คนเดียว!!”

                “ฮึก!”

                “พี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย! เราคบกันมากี่ปี อยู่ๆทำไมถึงเป็นแบบนี้!!”

                “…” พี่จินฮวานเริ่มร้องไห้หนักและไม่พูดอะไร ปล่อยให้ผมบ้าอยู่คนเดียว

                ใช่! ตอนนี้ผมกำลังเป็นบ้า

                พี่มองผมสิ มองผมแล้วบอก...ว่าเมื่อกี้พี่พูดด้วยอารมณ์ ไม่ใช่ความรู้สึก...พี่...

                ฉันขอโทษ... เค้าเอ่ยเสียงเบา

                “…”

                มันไม่จริงใช่มั้ยครับ บอกผมทีว่าผมไม่ได้ฝัน บอกผมทีว่านี่คือเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวผม คบกันมาสี่ปี ผมไม่เคยกลัวเรื่องนี้เลย พี่จินฮวานดีเสมอต้นเสมอปลาย แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ...ทำไมอยู่ๆพี่ถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้...

                พี่มีคนอื่นเหรอ

                “....

                “ตอบผมสิ!!” ผมกระชากไหล่พี่จินฮวานอย่างแรงด้วยความโมโห

                เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับนายเลย ฉันจะมีหรือไม่มี ตอนนี้ฉันก็หมดรักนายแล้ว ไปหาคนใหม่เถอะ ไปจากฉัน

                “ทำไมถึงอยากให้ผมมีคนใหม่ ทำไมต้องไล่ผมไปหาคนอื่นอยู่เรื่อย พี่อยากให้ผมมีคนอื่นนักหรือไง!”

                “ใช่! ฉันอยากให้นายไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าฉัน ปล่อยฉันไปเถอะ…”

                “…”

                ...

                “ได้ ผมจะไปให้ แล้วอย่ามาเสียใจที่หลังล่ะ เพราะพี่เป็นคนไล่ผมเอง

                “…”

                ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตานั้น กำลังบีบคั้นหัวใจผม...

                ปัง!!

                ผมเดินออกมาแล้ว ในที่สุดเค้าก็พูดออกมาจนได้ ไม่ทันได้ก้าวเท้าถึงลิฟน้ำตาผมก็ดันไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผมไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อน




                เจ็บ...จนแทบจะขาดใจ

     






     

                เห้ยๆๆ!! มึงหยุดก่อน วาง

                อย่ามาห้ามกูได้ป่ะวะผมพึมพำตอบพลางดึงแก้วกลับจากมือจุนฮเวและดื่มต่อไม่สนใจ

                “มึงเมามากแล้วนะเว้ยฮันบิน จะแดกให้ตายไปข้างนึงเลยหรือไงวะ

                กูไม่แบกมึงกลับนะบอกก่อน

                “ไอ้เหี้ยนี่ก็กวนตีนไม่รู้เวลา

                “ก็กูพูดจริงนิหว่าเฮีย

                ฮันบิน ถ้าเค้าไม่รักก็ควรปล่อยไป จะทรมานตัวเองทำไม เค้าไม่รับรู้หรอกเฮีบบ๊อบตบไหล่ผมแรงๆ

                พี่จินคือสิ่งสุดท้ายที่กูเหลืออยู่ สิ่งสำคัญที่กูขาดไม่ได้ เค้าคือทุกสิ่งของชีวิตกู มึงเข้าใจมั้ย ฮึก!น้ำตาถูกความรู้สึกข้างในขับออกมา ตอนนี้ผมไม่สามารถบังคับมันได้อีกต่อไป...

                แล้วทำไมมึงถึงปล่อยเค้าไปง่ายๆแบบนี้ล่ะ มึงเอาเวลาที่นั่งแดกเหล้าไปเคลียร์กับเค้าไม่ดีกว่าเหรอ

                “เฮียให้กูเคลียร์อะไร เค้าไล่ให้กูไปมีคนอื่นขนาดนั้น...

                “แล้วมึงก็ยอม?คำถามของเฮียบ๊อบทำให้ผมชะงักไป มึงไม่คิดเหรอว่าที่เค้าพูดแบบนี้ อาจมีบางอย่างที่ทำให้เค้าต้องเป็นแบบนี้ก็ได้ พี่จินอาจจะมีเรื่องไม่สบายใจบางอย่าง…”

                “…”

                “กูว่ามึงควรกลับไป

                “…”

                “ถ้ามึงรักเค้ามากล่ะก็...กลับไปเถอะ กลับไปเคลียร์กับเค้าให้เข้าใจ ใช้เหตุผลอย่าใช้อารมณ์

                “กูว่าพี่จินก็รักมึงมากพอๆกับที่มึงรักเค้านั่นแหละจุนฮเวที่เป็นใบ้อยู่นานเอ่ยขึ้น

                “…”

               

     
     

                สายฝนโหมกระหน่ำลงมาในขณะที่ผมกำลังยืนอยู่หน้าคอนโดพี่จินฮวานโดยไร้สิ่งป้องกันใดๆ...การมองเห็นของผมแย่ลงจนแทบมองไม่เห็นห้องของเค้า ร่างกายผมเปียกโชกแต่ผมไม่คิดจะสนใจหรือหลบมันแต่อย่างใด ยังคงยืนนิ่งมองระเบียงห้องของคนที่ผมรักที่สุด...

     

                มันยืนทำอะไรว่ะ พวกเราให้มันขึ้นไปเคลียร์กับเมีย เสือ-กมายืนตากฝนทำเอมวี จุนฮเวพึมพำกับอีกคนที่นั่งข้างๆ

                มึงว่าไอฮันบินมันจะตายป่ะวะเพื่อนรักทั้งสองนั่งมองฮันบินอย่างห่วงๆผ่านกระจกประตูรถเบ้น

                “ถ้ามันไม่เข้าไปหลบฝน มันได้ตายแน่

                “แล้วเราจะเอาไงดี บ๊อบบี้ถามอีกคนโดยสายตายังไม่ละจากเพื่อนที่ยืนตากฝนตรงหน้า

                “กูว่าให้มันตัดสินใจเองดีกว่า ถ้ามันเลือกที่จะเรียกร้องความสนใจเค้าแบบนี้...

                “แต่ถึงมันจะยืนตากฝนแบบนี้ พี่จินก็ไม่รับรู้อยู่ดี ฝนตกหนักขนาดนี้ พี่เค้าคงออกมารับอากาศบริสุทธิ์ตรงระเบียงหรอก

                “โทรบอกสิ เฮียมีเบอร์พี่จินไม่ใช่เหรอ

                “เออว่ะจริงด้วย

                “…” จุนฮเวนั่งมองบ๊อบบี้ที่เอาโทรศัพท์แนบหูนิ่ง

                “ไม่รับว่ะ ส่งข้อความไปแทนล่ะกัน

     

                ฮันบินอยู่ข้างล่าง พี่จินลงมาดูมันที

              


     

    #SFขาด






     

                “ทำไมพี่จินไม่ลงมาว่ะบ๊อบบี้เงยหน้าขึ้นมองจินฮวานที่แอบยืนมองคนข้างล่างจากทางระเบียงห้องโดยไม่คิดจะลงมา

    นี่ก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว

                กูว่าพี่จินคงจะมีใหม่แล้วจริงๆแหละว่ะ อย่างว่านะ คบกันมาสี่ปีคงจะเบื่อ ไม่มีใครรักเราไปได้ตลอดหรอก

                “....

                “นั่นใครน่ะเฮีย

     

                “คุณ! ผมว่าคุณเข้าไปหลบฝนก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย!” เสียงของใครบางคนดังขึ้นปะทะกับเสียงฝน ผมเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า เค้าถือร่มวิ่งเข้ามาทางนี้ด้วยใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย

                ...

                “เข้าไปข้างในเถอะครับ

                ตุ๊บ!

                “คุณ!!”

                “เชี่ยเน่ ฮันบินสลบไปแล้ว ไปช่วยกันเร็ว!” บ๊อบบบี้โวยขึ้นก่อนจะดันประตูรถวิ่งลงมาและตรงดิ่งไปหาฮันบินพร้อมกับจุนฮเวที่วิ่งตามหลังไปติดๆ

     
     

     

    %




     

                อื้ม!”

                “ฮันบิน โอเคมั้ยมึงผมรู้สึกถึงมือใหญ่ที่มาสัมผัสหลังเพื่อช่วยพยุงให้ลุกจากเตียงก่อนที่สายตาผมจะค่อยๆปรับแสงและใบหน้าของเฮียบ๊อบก็เริ่มชัดขึ้นตามด้วยจุนฮเวที่ยืนกอดอกอยู่ด้านหลัง

                ปวดหัวว่ะผมสบถออกมาพลางเอามือกุมหน้าผากไว้

                แน่ล่ะ คนเมาหนักแล้วไปตากฝนเล่นเกือบชั่วโมง ไม่ตายก็ดีแค่ไหนแล้ว เฮียตอบผม

                “แล้วนี่ผมอยู่ที่ไหนพี่จิน!” ผมตาสว่างเมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินเข้ามา


                อ้าว ตื่นแล้วเหรอครับ เป็นไงบ้า...ผู้ชายคนนั้นเดินตามเข้ามาทีหลังและเหมือนจะเข้ามาดูอาการของผม แต่...พี่จินดึงเค้าไว้ให้หยุด

     
              
    ...เค้า...เป็นใครเหรอพี่จิน?

                “…” พี่จินฮวานจ้องตาผมนิ่งด้วยแววตาคู่สวยที่เย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็ง...

                “…”


                เค้าเป็นแฟนฉัน


                “…!!”

                พี่จิน...ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของพี่จินฮวานพยายามจะเอ่ยบางอย่างแต่พี่จินฮวานขัดขึ้นก่อน

                “ไปเถอะยุนฮยอง...บ๊อบบี้ ถ้าเพื่อนนายหายดีแล้วช่วยพากลับบ้านด้วยนะ

     

                ฮะ...ฮันบิน...

                “ฮึก! ฮือออผมปล่อยโฮออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงประตูปิดลง ผมยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองก่อนที่เฮียบ๊อบจะจับข้อมือผมไว้แน่น กูผิดอะไรว่ะ ฮืออออ

                “...

     



              

                กลับมาปัจจุบันกันเถอะครับ

                .
                .

                ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่ผมเลิกกับพี่จินฮวานและไม่ใช่ว่าผมจะอยู่ตัวคนเดียวนะครับ ผมกำลังคุยอยู่กับคนๆหนึ่ง เค้าเป็นรุ่นพี่ปี2 ปีเดียวกับพี่จินฮวานเลยแต่คนละคณะ


     

              ผมคุยกับเค้ามาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว...

     
     

                วันนี้มึงจะไปรับพี่จินวูเปล่า

                “ไม่อ่ะ ขี้เกียจ จะรีบกลับไปเล่นเกมที่บ้าน

                ถามจริง...

                “กูไม่ตอบจุนฮเวจะถามบางอย่างกับผมและผมคิดว่าไม่น่าจะพ้นเรื่องพี่จินวูเลยดักมันไปซะ

                “สัส ฟังกูก่อนไม่ได้แงะ?ผมเงียบ มันเลยเริ่มพูดต่อ มึงรู้สึกชอบพี่จินวูจริงหรือเปล่า กูดูไม่ออกจริงๆว่ะ

                “คุยกันได้แค่อาทิตย์เดียวเอง กูไม่ใช่คนชอบใครง่ายๆนะ

                “มึงยังลืมพี่จินฮวานไม่ได้มากกว่าเฮียบ๊อบเอ่ยแทรกขึ้นมา

                ...

                “มึงไม่คิดว่ามึงทำแบบนี้จะไม่ทำร้ายพี่จินวูเหรอว่ะ

                “ไม่ใช่ว่ามึงทำร้ายพี่จินวูคนเดียวนะ มึงกำลังทำร้ายตัวเองด้วยจุนฮเวสวนขึ้น

                ตอนนี้กูโอเคแล้ว ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร…”

     
               ใช่ ผมไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว ใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์รวมกับความรู้สึกที่ด้านชาซึ่งมันแตกต่างจากที่ผมเคยเป็น ไม่แปลกถ้าเพื่อนของผมจะทายถูกว่าผมคงเจ็บมาก ภาพของคนตัวเล็กยังตามหลอกหลอนผมไม่เลิก เพราะอย่างนั้นผมจึงจัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับเค้าออกไปทั้งในห้องนอนและในสมองผมเอง...


                วันนั้นที่ผมได้พบกับแฟนใหม่ของเค้า ผมก็ไม่เห็นเค้าอีกเลย แปลก ปกติผมจะต้องเห็นเค้าเดินผ่านไปผ่านมาระหว่างที่นั่งทานข้าวในโรงอาหาร




                เค้าหายไปไหนนะ...




                มึง พี่จินวูโดนจีบอีกแล้วว่ะผมละสายตาจากจานข้าวขึ้นไปมองเจ้าของเสียงก่อนจะย้ายไปมองตามสายตาของจุนฮเว


                พี่จินวูโดนผู้ชายร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อไม่แพ้ผมยืนตื้อจนพี่จินวูชักสีหน้าใส่อย่างลำคาญ


                ...เฮียบ๊อบตวัดสายตากลับมามองปฎิกิริยาของผม

                “ช่างเค้าเถอะ ผมก้มหน้าเขี่ยข้าวต่อ

                มึงเปลี่ยนไปมากจริงๆ

                “…”

                “พี่จินวูมองมาทางนี้ว่ะจุนฮเวพูดเบาๆกับผม แต่ผมไม่ใส่ใจหว่า เดินไปแล้ว นึกว่าจะแวะมาหาฮันบินซะอีก

                เค้าไม่เดินมาทางนี้ก็ดีแล้ว ไม่งั้นอึดอัดตายห่า มึงดูเพื่อนเราสิ สนใจเค้าที่ไหน

                “...

     



     

                เย็นวันนั้น...



                เชี่ย! ทำไมไม่หยุดตกสักทีว่ะ!” แก้วกาแฟถูกวางลงก่อนมือใหญ่จะกระชับเสื้อโค้ชของตัวเองเพื่อเพิ่มความอุ่นให้กับร่างกาย

                เดินทางดีๆนะครับพนักงานในร้านพูดด้วยรอยยิ้มให้บ๊อบบี้ที่ก้าวเท้าออกจากร้าน


                เดินทางดีๆ(?) ฝนตกขนาดนี้คงดีได้หรอก!


                บ๊อบบี้หยุดทำใจอยู่หน้าร้าน ตาเรียวตวัดมองไปบนฟ้าสีครึ้มที่เต็มไปด้วยสายฝนโหมกระหน่ำลงมาไม่หยุดมาเป็นเวลานานแล้ว...


                ท่ามกลางความเงียบ มีเพียงสายฝนที่ล้อมรอบ ไม่นานนักเสียงเท้าวิ่งฝ่าฝนดังขึ้นและมาหยุดข้างๆบ๊อบบี้ เค้าหันไปมองเล็กน้อย แต่ก็รีบหันกลับทันควันเพราะกลัวว่าคนข้างๆจะรู้ตัว


                คุณ...บ๊อบบี้หันกลับไปอีกครั้งเมื่อเสียงพูดดังขึ้นข้างๆหู


                หน้าคุ้นๆ...

     
              
    ชื่อบ๊อบบี้ใช่มั้ยครับ?

                “ครับ

                “จำผมได้มั้ย เมื่อเดือนก่อน...

                “อ่อ แฟนพี่จิน!”

                “ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ใช่แฟนพี่จิน

                “…” บ๊อบบี้ทำตาปิปๆอย่างงงๆ

                ผมว่าคุณไปหลบฝนบ้านผมก่อนมั้ยครับ บ้านผมอยู่ซอยข้างหน้านี่เอง

                “มะ...ไม่เป็นไรครับ

                “เอาน่า ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณด้วย

                “…”


               เรื่องพี่จินฮวาน...


     

    %


     

                “นี่ครับน้ำ

                “ขอบคุณครับ

                คุณไม่เปียกตรงไหนใช่มั้ยครับ?

                “เปียกแค่เท้าน่ะครับ ต้องขอบคุณร่มของคุณจริงๆ เอ่อ..ขอโทษนะครับคุณชื่อ...

                “ยุนฮยองครับ J

                “…” บ๊อบบี้ไม่พูดอะไรต่อ ทำเพียงพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะยกน้ำในแก้วดื่ม

                คุณเป็นเพื่อนกับฮันบินมานานแล้วสินะครับ

                “ครับ เราสนิทกันเหมือนพี่น้อง

                “แล้วตอนนี้ฮันบินมีใครหรือยัง เค้ายังติดต่อกับพี่จินฮวานอยู่มั้ย

                เรื่องที่ฮันบินมีใครใหม่หรือยัง ยังหรอกครับ แต่มีคุยๆกันอยู่ ส่วนเรื่องที่ฮันบินติดต่อกับพี่จินฮวานอยู่มั้ย ผมคิดว่าไม่

                “แล้วรู้มั้ยว่าพี่จินเค้าลาออกจากมหาลัยแล้ว

                “ว่าไงนะครับ ลาออก? ลาออกทำไม??บ๊อบบี้พูดขึ้นพร้อมสีหน้าตื่นตกใจ

                เค้าจะกลับเจจู และไปอยู่ที่นู่นถาวรเลยครับ

                “เดี๋ยวนะครับ ผมเริ่มงงไปหมดแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกับพี่จินกันแน่ เค้ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า ถ้าบอกว่าอยากกลับไปอยู่กับครอบครัวก็ไม่ใช่ คุณรู้ใช่มั้ยครับ?

                “ผม...ไม่รู้อะไรจริงๆหรอกนะครับ พี่จินบอกผมมาแค่นี้...

                “ตอนนี้ฮันบินมันไม่ต่างจากร่างไร้วิณญาณเลย มันรักพี่จินมาก...

                “ผมรู้ พี่จินก็รักฮันบินมากเหมือนกัน แต่พี่จินเค้าเลือกแบบนี้แล้ว ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไง

                คุณช่วยเราได้ แต่คุณไม่ทำ...ผมรู้

                “ผม...

                “ขอร้องเถอะครับ ผมไม่อยากเห็นเพื่อนผมตกอยู่ในสภาพแบบนี้โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยบ๊อบบี้ยื่นมือไปสัมผัสอีกคนเบาๆ

                “…”

     
     

    #SFขาด



     

                พี่จินวู

                “อ้าวจุนฮเว มีอะไรกับพี่เหรอ? จินวูหันไปมองหน้าจุนฮเวทันทีที่ถูกเรียก

                “พี่กำลังจะไปไหน

                “ไปหาฮันบินน่ะ เราสองคนนัดกันไว้

                พี่รู้ใช่มั้ยว่าฮันบินยังลืมพี่จินฮวานไม่ได้

                “...

                “ขอโทษนะ...แต่ผมมีบางอย่างอยากจะขอพี่

                “ฉันพอรู้แล้วล่ะจินวูระบายยิ้มออกมาบางๆ ทว่ามันช่างฝืนเหลือเกิน

                ครับ ที่ผมอยากจะขอพี่คือถอยออกมาเถอะครับ ฮันบินไม่มีทางลืมพี่จินฮวานได้หรอก

                “ฮันบินให้นายมาบอกสินะ

                “เปล่านะครับ ฮันบินไม่รู้เรื่องนี้

                “...

                “จริงๆนะครับ ผมไม่อยากให้พี่เจ็บไปมากกว่านี้…”

                “เข้าใจแล้วล่ะจุนฮเวที่ลุ้นมองคนตัวเล็กอยู่นาน ในที่สุดจินวูก็พูดออกมาพร้อมรอยยิ้มฝืดเฝื่อนนั้น

     
     

               ฮันบิน!”

                “มีอะไรว่ะเฮีย พูดเบาๆไม่ได้ไง

                “มึงต้องไปกับกู

                “ไม่ได้ วันนี้ผมนัดกับพี่จินวูไว้แล้ว

                “กูไปถามพี่จินวูมาแล้ว เค้าบอกวันนี้ไม่ว่าง มึงต้องไปกับกูเดี๋ยวนี้!”

                “แต่...

               




                คอนโดX

                “พามาที่นี่ทำไม!”

                “พามาหาคนที่มึงรักที่สุดไง

                “กูไม่ไป ปล่อยกู!” มือใหญ่ของเฮียที่จับผมไว้ถูกสลัดออกไปทันที

                “มึงอยากรู้ความจริงมั้ยฮันบินว่าทำไมพี่จินถึงเปลี่ยนไป

                “ก็เค้ามีคนอื่นไง!”

                “คิดว่ากูโง่เหรอที่มองไม่ออกว่ามึงไม่ได้คิดแบบนั้น มึงน่ะรู้ว่าพี่จินต้องมีเหตุผลในการเลิกกับมึงมากกว่านั้น แต่มึงทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ในใจมึงก็อยากรู้เรื่องจริง

                “…”

                “ขึ้นไปกับกู แล้วมึงจะได้รู้ทุกอย่าง

     

     

                ห้องล็อค มือใหญ่ของผมที่กำลูกบิดประตูอยู่ถูกปล่อยมาแนบไว้ข้างกายเช่นเดิม

                “เป็นไปได้ไง เฮียบ๊อบพึมพำออกมาเสียงเบา

                “เลิกเล่นสักทีเฮีย

                “แล้วมึงจะไปไหน

                “ไม่เห็นเหรอว่าไม่มีคนอยู่ กลับดิ!” จบคำนั้นฮันบินก็ก้าวเดินออกไปและพบว่ายุนฮยองกำลังเดินมาทางนี้

                ยุนฮยอง แล้วพี่จินล่ะ” เฮียบ๊อบถาม

                “เค้าไปแล้ว...

                “ไปไหน!” ผมโวยขึ้น

                “ไปเจจู ตอนแรกเค้าบอกผมว่าไปอาทิตย์หน้า แต่...เค้าไปก่อนกำหนดโดยไม่ได้บอกผมด้วยเหมือนกัน

                “นายมันแย่ เป็นแฟนเค้าแท้ๆ ทำไมปล่อยเค้าไปง่ายๆแบบนี้!!” ผมกระโดดเข้าไปกระชากคอเสื้อยุนฮยองทันที

                “ฮันบินใจเย็นๆก่อน ยุนฮยองไม่ได้เป็นแฟนพี่จิน พี่จินโกหกมึง!” เฮียบ๊อบเข้ามาห้ามผมไว้

                ว่าไงนะ

                “ยุนฮยองเล่าให้กูฟังหมดแล้ว

                “นี่สองคน...

                “กูไปเจอเค้าเมื่อวาน เลยให้เค้าเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง

                “ครับ ผมเป็นแค่รุ่นน้องสมัยมัธยมของพี่จิน ผมไม่รู้หรอกนะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพี่เค้า แต่เมื่อคืนผมโทรหาเค้าไม่ติด ผมเป็นห่วงเค้ามาก เมื่อเช้าเลยมาหาที่คอนโด และก็รู้ว่าพี่จินกลับเจจูไปแล้วและทิ้งจดหมายฉบับนี้ไว้ในห้อง ผมไม่รู้หรอกว่าเค้าต้องการจะให้ใคร แต่ผมคิดว่าคุณควรเปิดอ่านมันยุนฮยองยื่นจดหมายฉบับเล็กมาให้ผม

                ทันทีที่ผมรับมันมาก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเราทั้งสามคนทันที

                ฉันจะไม่เปิดอ่านจนกว่าจะเจอตัวพี่จิน

                “ไอฮันบิน!” เสียงเรียกไล่ตามหลังผมมาเมื่อผมออกตัววิ่ง

     
     

                ในเมื่อเค้าไม่ได้มีใคร แล้วผมจะปล่อยเค้าไปได้ยังไงล่ะ...

     





     

                เกาะเจจู 16:33 น.

                ผมใช้เวลาเดินทางเกือบครึ่งวันด้วยรถตู้โดยสาร ก่อนจะนั่งเรือต่อเพื่อมาเกาะที่ครอบครัวพี่จินฮวานอาศัยอยู่ ตอนนี้ผมเหมือนคนที่มีชนักปักหลังตลอด ถ้าไม่เจอพี่จินวันนี้ผมคงเป็นบ้าตายแน่

                ผมเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งเพื่อมาพบกับพ่อแม่ของพี่จินฮวาน พวกเค้าน่ารักมาก ยอมรับเราสองคนได้ แถมดูแลผมดีมาก ถ้าเค้ารู้ว่าผมปล่อยลูกเค้าไปแล้ว เค้าจะโกรธผมหรือเปล่า...

                “พ่อครับ!”

                เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ผมตะโกนเรียกพ่อเค้าก่อนเป็นอันดับแรก แต่ทุกอย่างกลับเงียบ...

                แม่ครับ ผมฮันบินนะ!”

                “ไอ้หนู บ้านนี้ไม่มีใครอยู่หรอกลูก เค้าไปโรงพยาบาลกันเมื่อตอนเที่ยงนี้เอง

                “?คำพูดของยายข้างบ้านทำให้ผมแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

                โรงพยาบาลเหรอ ใครเป็นอะไร?

               

                โรงพยาบาลเป็นอะไรที่ผมเกลียด เกลียดกลิ่นของมันที่สุด ถ้าไม่จำเป็นผมไม่มาเหยียบสถานที่แบบนี้แน่ๆ ไม่สบายเป็นไข้ก็หายากินเอา ง่ายดี

                ผมมองหาใบหน้าคุ้นเคยของพ่อแม่หรือพี่จินฮวานรอบห้องโถงแต่กลับไม่เจอ มีเพียงคนวัยชราที่นั่งรอรับยาเต็มไปหมด แล้วผมจะพบพวกเค้าได้ที่ไหนล่ะเนี่ย...

    ชนักที่ปักหลังผมอยู่ทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งรู้ว่าพวกเค้าอยู่ที่นี่ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่น ถ้าคนที่ป่วยไม่ใช่พ่อกับแม่


    คนๆนั้นก็ไม่พ้นพี่จินฮวาน...


                ผมหยิบจดหมายจากกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนจะเพ่งสายตาไปที่มัน นิ้วโป้งผมลูบไปตามทางเปิดของซองอยู่นานจนกระทั่งบางอย่างดลใจให้ผมเปิดมันออก

    หรือจะรอให้พี่จินฮวานเป็นคนเปิดมันให้ผมเองดีล่ะ...

    จินฮวาน โธ่ลูก ฮืออ

                ผมเงยหน้าขึ้นอย่างเร็วเมื่อได้ยินชื่อของคนที่ผมตามหาอยู่ แม่ของพี่จินฮวานกำลังเดินมาทางนี้โดยมีพ่อช่วยพยุงร่างไว้

                พ่อครับ แม่ครับ…”

                “ฮันบิน…” ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาเงยขึ้นมามองผมจนดวงตาผมเบิกกว้างด้วยความตกใจ

                “เป็นอะไรไปครับ

                ฮันบินไม่รู้เหรอเสียงสั่นคลอถามผม

                รู้...รู้อะไรครับ


                “จิน...จินฮวานเป็นมะเร็งตับอ่อน

                “…”

                “ฮือออ จินเค้าจากเราไปแล้วลูก

                “…”

    นัยน์ตาเศร้าของผู้เป็นพ่อแม่สะท้อนความรู้สึกออกมาจนผมเห็นได้อย่างชัดเจนจนผมไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาต่อ

    หรือเป็นเพราะว่า...ทุกอย่างมันชาไปหมดรวมถึงก้อนเนื้อข้างซ้ายที่เรียกว่าหัวใจ



                ประโยคที่หลุดออกมาจากปากของคนที่เรียกว่าแม่ไม่สามารถเป็นเรื่องตลกได้เลย และคำพูดนั้นมันเล่นงานผมจนหัวใจของผมหยุดเต้นไปกะทันหัน...


                ทำไมเค้าไม่บอกผมล่ะ...เสียงบางเบาที่หลุดออกมาจากปากผมมันกระตุ้นต่อมน้ำตาของตัวเอง

               

               

                ไม่สิ มันต้องไม่เป็นแบบนี้...



                ผมอยากเจอเค้า...

     


     

                พี่จิน...

     

                “พี่ทำแบบนี้ทำไมครับ?

     

                “พี่บอกเลิกผมทำไม?

     

                “เหอะ! สบายใจเลยสิ ปล่อยให้ผมคิดมากอยู่คนเดียว

     

                “...

     

                “จำวันแรกที่เราเจอกันได้มั้ย ที่ผมแซวพี่แล้วพี่โยนรองเท้าใส่หน้าผมน่ะ

     

                “พอนึกแล้วตลกเป็นบ้าเลย ผมคงแซวพี่แรงไป พี่เลยทำแบบนั้นใช่มั้ย

               

                “…”

     

                “พี่จิน...

                จำวันที่เราไปเที่ยววันวาเลนไทน์เมื่อปีที่แล้วได้มั้ย...

                “พี่จำได้หรือเปล่าที่พี่สัญญากับผมว่าพี่จะไม่ทิ้งผมไปไหนเด็ดขาด

     

                “แล้วทำไม...หึ!”

     

                “ถึงพี่จะบอกเลิกผม ผมก็ไม่มีทางเลิกรักพี่หรอก พี่ก็รู้...

     

                “ฮึก! พี่จิน...

     

                มือเล็กที่ถูกผมกุมไว้เย็นเฉียบ ใบหน้าใสๆซื่อๆไร้รอยยิ้มที่เคยทำให้ผมตกหลุมรักซีดเซียว ผู้ชายที่ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะจากไปไกลแสนไกลจนผมตามเค้าไปไม่ได้ขนาดนี้

    ทุกอย่างกำลังฆ่าผมทั้งเป็น


                พี่ก็รู้ ว่าพี่เกิดมามีชีวิตเพื่อผม แล้วพี่ยังจะทิ้งผมไปทำไม

               

                “ฮึก! ทำไมพี่ไม่บอกอะไรผมเลย ผมจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงล่ะพี่จิน ฮืออออ

                ไม่มีพี่แล้วผมจะอยู่ยังไง...

     

    ผมรักพี่...ผมก้มลงจูบเบาๆที่ปากนุ่มของร่างอันไร้วิญญาณด้วยความรัก...

                ความรักที่ไม่มีอะไรพรากเราสองคนจากกันได้...

     
     



    _______________________________

     

                ฉันจินฮวานเอง...

                ฮันบิน...นายรู้ใช่มั้ยว่าฉันรักนายมากแค่ไหน...

                และนายก็คงแปลกใจมากสินะที่ฉันขอเลิกกับนาย ขอโทษที่ทำแบบนี้ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ใช่ ถ้านายมีคนอื่น อาจจะเจ็บน้อยลงเมื่อวันนี้มาถึง

                ฉันรักนายนะฮันบินและเพราะฉันรักนายมาก ฉันเลยกลัว...กลัวว่าฉันจะทนเห็นนายเจ็บไม่ได้ กลัวว่านายจะทำใจไม่ได้กับการจากไปของฉันโดยที่นายทำอะไรไม่ได้เลย ฉันรู้ว่านายต้องโทษตัวเองแน่ๆ ฉันทำถูกแล้วใช่มั้ย...

    ฉันประหม่าเกินไป ปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับโรคมะเร็งนานหลายปี มารู้ตัวอีกทีมันก็แก้อะไรไม่ได้แล้ว

                อย่าขอโทษและอย่าโทษตัวเอง สุดท้ายนี้ เรามายิ้มให้กันและกันกันเถอะ J

                ฉันดีใจมากนะที่คนแรกและคนสุดท้ายที่ฉันรักคือผู้ชายที่ชื่อคิม ฮันบิน ^_^

    - คิม จินฮวาน



     

                ผมเดินไปตามท้องถนนพร้อมจดหมายฉบับเล็กๆในมือ เงาที่ตกทอดลงถนนในเวลากลางคืนยังคงมีอีกคนเดินเคียงข้างผมอย่างใกล้ชิด...



                และนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่บอกว่าผมกับเค้า...

     


     

    เรายังอยู่ด้วยกันเสมอ...

                

     




     

    ทำไมมันออกมาเป็นแบบนี้ล่ะ!! รีดอย่าฆ่าไรท์นะ T^T ถ้าฮันบินเปิดจดหมายตั้งแต่ตอนอยู่ที่คอนโด อาจได้เจอพี่จินเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ :(






    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×