ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมแฟนฟิคสั้นจากการ์ตูนหลายเรื่อง [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : [Hetalia] S or M? [USxUK]

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 57


    [APH] S or M? [US X UK]

    Fan Fiction: Axis Powers Hetalia

    Pairing: อเมริกา x อังกฤษ

    Note: Axis Powers Hetalia เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น โดยตัวละครอิงมาจากประเทศต่างๆในโลก ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่อ่อนไหวด้านชาตินิยม

     

     

                    “นี่ๆ จริงหรือเปล่าที่เขาบอกว่า ถ้าหากอยากรู้ว่าคนไหนเป็นคนทะลึ่งก็ให้ถามคนนั้นว่าเป็นSหรือเป็นM” หนุ่มปาริเชียงโพล่งขึ้นมาขณะยืนดื่มไวน์ภายในงานเลี้ยงหลังการประชุมนานาประเทศจบลง ดวงตาสีน้ำทะเลหันไปมองญี่ปุ่นที่ยืนจิบชาอยู่ข้างๆเชิงถาม “เห็นแบบทดสอบนี้มาจากบ้านนายนิ ญี่ปุ่น”

    “อ๋อ ครับ” หนุ่มเอเชียยิ้มน้อยๆก่อนจะพูด “เขาว่ากันว่า คนที่ตอบว่าตัวเองเป็นMจะเป็นคนทะลึ่งล่ะครับ”

     “งั้นเหรอ”

    ฝรั่งเศสพยักหน้าเบาๆ พลางหันไปมองอเมริกาที่ยืนกินแฮมเบอร์เกอร์อยู่ข้างๆ ดวงตาสีฟ้าของประเทศมหาอำนาจมองตรงไปยังหนุ่มผมสั้นสีทองที่กำลังยืนทำท่าทางประหลาดกับโรมาเนียอยู่อีกฟากของห้องโถง ปลายนิ้วที่กำแฮมเบอร์เกอร์แน่นทำให้ฝรั่งเศสหลุดยิ้มออกมา

    ถ้าจะหวงอังกฤษขนาดนั้นทำไมไม่ไปลากมาไว้ข้างตัวเลยล่ะ ชายหนุ่มคิดอย่างขำๆก่อนนัยน์ตาสีน้ำทะเลจะวาววับขึ้นเมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้

     “อเมริกา...นายเป็นSหรือMล่ะ?” ฝรั่งเศสเปรยขึ้น ทำให้ญี่ปุ่นหันมามองอย่างสนอกสนใจ ถือโอกาสเก็บข้อมูลสำหรับทำโด แค่กๆ เก็บข้อมูลของประเทศมหาอำนาจที่อาจหาญสู้กับรัสเซียที่ขึ้นชื่อเรื่องความเอสในสงครามเย็น

    “หือ?” อเมริกาหันมามองฝรั่งเศสงงๆ “เมื่อกี๊เธอถามว่าอะไรนะ”

    “คุณพี่ถามว่า นายเป็นSหรือเป็นM

    “อ๋อ” อเมริกาลากเสียงยาวทั้งยังยัดแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปเต็มปากก่อนจะคว้าน้ำอัดลมขึ้นมาดูดอย่างสบายอารมณ์ ทำเอาทั้งฝรั่งเศสและญี่ปุ่นมองอย่างลุ้นระทึกในคำตอบ และเมื่ออเมริกาดูดน้ำจนหมดแก้วก็ตอบคำถามที่ทำให้ญี่ปุ่นอยากปาสมุดที่กำลังเตรียมจดข้อมูลในมือใส่หัวประเทศที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุด

     “ฉันเป็นฮีโร่ต่างหาก ไม่ได้เป็นS หรือMซะหน่อย ฝรั่งเศสเธอเข้าใจผิดแล้วนะ ฮ่าฮ่าฮ่า” 

    คิ้วฝรั่งเศสกระตุกหน่อยๆ ก่อนจะฉีกยิ้ม “งั้นเปลี่ยนคำถามใหม่ นายชอบให้อังกฤษโกรธนายรึเปล่า แบบดุนายอะไรอย่างงี้”

    “ชอบให้ดุไหมน่ะเหรอ...” นัยน์ตาสีท้องฟ้าหันกลับไปมองอังกฤษที่ยังคงชี้ไม้ชี้มืออยู่กับโรมาเนีย อเมริกายิ้มนิดๆเมื่อเห็นมือเรียวทำท่าทางลูบอะไรบางอย่างในอากาศพลางนึกย้อนไปในอดีตสมัยที่เขายังเป็นเด็ก

    ตอนที่เขายังอยู่กับอังกฤษในบ้านหลังใหญ่...ในฐานะพี่ชายกับน้องชาย

    . . .

    .

    “อเมริกา!! ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าออกมาเล่นข้างนอกโดยไม่มีฉัน!!

    เสียงตะโกนร้องดังขึ้นทำให้เด็กชายตัวน้อยที่อยู่บนต้นแอปเปิลสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจก่อนจะพลัดตกลงมาพร้อมกับที่อังกฤษวิ่งมาถึงต้นแอปเปิลพอดี แขนของผู้เป็นพี่ชายยื่นมือรับร่างเล็กที่หล่นลงมาก่อนจะคว้าเอามากอดแนบอก

    หลังจากที่วางอเมริกาตัวน้อยไว้บนพื้นแล้ว อังกฤษก็รีบสำรวจร่างกายคนตรงหน้าทันที พลิกซ้ายพลิกขวายกแขนขึ้นลงอย่างร้อนใจในขณะที่น้องชายหัวเราะเสียงใสด้วยความจั๊กจี้

    “เฮ้อ...ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไร” คนโตกว่าถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นน้องชายคนสำคัญไม่บาดเจ็บตรงไหน ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดแน่นเข้าหากันซึ่งเป็นท่าประจำเวลาที่จะดุอเมริกา ทำให้อเมริกาตัวน้อยหยุดหัวเราะพร้อมกับทำสีหน้าสำนึกผิดทันที

    “ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าออกไปไหนคนเดียว ถ้าหากเกิดอันตรายขึ้นมาจะทำยังไง ทีหลังอย่าทำอะไรตามอำเภอใจแบบนี้อีกนะ เข้าใจไหม”  

    ร่างเล็กก้มหน้านิ่ง มือทั้งสองข้างถูกันไปมา ที่เขาออกมาเก็บแอปเปิลคนเดียวก็เพราะอังกฤษไม่ยอมลุกจากโต๊ะทำงานสักทีต่างหาก ทั้งๆที่เขาชวนอังกฤษออกมาเก็บแอปเปิลด้วยกันตั้งแต่หลายวันก่อน แต่อังกฤษก็เอาแต่บอกว่า เดี๋ยวก่อนๆเดี๋ยวค่อยไป รอแล้วรอเล่าเขาก็ยังไม่เห็นอังกฤษหยุดทำงานซะที

    ไม่ใช่ความผิดของเขาซะหน่อย

    “อเมริกา” อังกฤษเรียกเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นน้องชายนิ่งเงียบ ก่อนจะย่อตัวลงมาลูบหัวร่างเล็กเบาๆ “ฉันรู้ว่านายดูแลตัวเองได้ แต่ยังไงฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี ขอโทษที่ดุนายนะ”

    “ผมขอโทษฮะ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้อังกฤษเป็นห่วง” อเมริกาโผเข้ากอดอังกฤษแน่นจนทำให้คนโตกว่าล้มลงนอนกับพื้นหญ้าสีเขียว ร่างเล็กที่ใช้แรงมากเกินไปพูดขอโทษคนโตกว่าอีกครั้งเมื่ออังกฤษบ่นอุบอิบว่าเจ็บ

    “เอาล่ะๆไม่ต้องขอโทษแล้ว” อังกฤษพูดพลางอุ้มอเมริกาก่อนจะลุกขึ้นยืน “ไหนๆฉันก็มาแล้ว เรามาช่วยกันเก็บแอปเปิลดีกว่านะ”

    รอมยิ้มกว้างปรากฏบนในหน้าเล็กทันที ทำเอาพี่ชายอดยิ้มตามน้องตัวน้อยไม่ได้ ทั้งสองคนต่างช่วยกันเก็บแอปเปิลจนกระทั่งเย็น และในเช้าวันต่อมาแอปเปิลที่ถูกเก็บต่างถูกเนรมิตเป็นอาหารนานาชนิดโดยฝีมือคุณพี่ชาย

    .

    . . .

    “อุ๊บ! ฮ่าฮ่าฮ่า” อเมริกาหัวเราะดังลั่นเมื่อนึกถึงอาหารวันนั้น แอปเปิลที่เก็บมาเยอะแยะถูกนำมาแปรรูปเป็นอาหารที่อันตรายชนิดน่าจะถูกนำไปเป็นอาวุธมากกว่ามาให้คนกิน แต่เมื่อเห็นคนทำอาหารตั้งใจพรีเซนต์สุดขีด เด็กชายตัวน้อยในวันนั้นก็ได้แต่กินไปชมพี่ชายไป

    “อยู่ๆหัวเราะทำบ้าอะไรเนี้ย” ฝรั่งเศสสะดุ้งโหยงพร้อมกับขยับตัวออกห่าง

    “เปล่าๆ ฮ่าฮ่าฮ่า” อเมริกาพูดไปหัวเราะไป “ฉันแค่นึกอะไรขึ้นมาได้น่ะ”

    “อ๋อ ครับ” ญี่ปุ่นพยักหน้างึกๆเหมือนจะเข้าใจทั้งๆที่ไม่เข้าใจ มือเรียวจับปากกาขึ้นมาเตรียมจด “ตกลงว่าคุณอเมริกาชอบให้คุณอังกฤษดุรึเปล่าครับ”

    “ชอบสิ!” อเมริกาตอบเสียงใส

    ก็ตอนเขาเด็กๆถ้าอังกฤษดุเขาจบทีไรก็มักจะอยู่เล่นกับเขาตลอดเลยนี่นา จะไม่ให้ชอบได้ไงล่ะ ประเทศมหาอำนาจคิดอย่างอารมณ์ดี ถึงเดี๋ยวนี้อังกฤษจะจู้จี้ไปบ้าง แต่มันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่

    “ชอบให้ดุ...สินะครับ” ญี่ปุ่นจดข้อมูลใส่สมุดยิก ขณะที่ฝรั่งเศสทำตาปริบๆอย่างไม่ค่อยจะเชื่อ คนที่ทำสงครามเย็นกับรัสเซียเนี้ยนะ จะเป็นพวกมาโซ...

    “อ..อเมริกา แล้วนายชอบให้อังกฤษ ตวาดใส่หรือว่าส่งเสียงดังๆรึเปล่า”

    “เห? ส่งเสียงดังงั้นเหรอ” อเมริกานึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาอยู่กับอังกฤษที่ห้องพักรับรอง “ฉันขอนึกก่อนนะ”

    . . .

    .

    “อ๊ะ อะ..อเมริกา หยุดก่อน” อังกฤษร้องห้ามเสียงสั่น มือเรียวพยายามผลักแผ่นอกเปลือยเปล่าของอเมริกาออกแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อคนตรงหน้ายังคงนิ่งไม่ขยับแม้แต่มิลเดียว ร่างทั้งร่างของเขาถูกทาบทับด้วยร่างสูงบนเตียงขนาดคิงไซส์

    “มากกว่านี้ไม่ได้นะ อ๊ะ! อือ” เสียงร้องห้ามเปลี่ยนเป็นเสียงครางหวานทันทีเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวเลื่อนมาดูดเม้มยอดอกสีหวาน ลิ้นร้อนไล่เลียพร้อมกับขบเม้นจนเกิดรอยสีกุหลาบทุกๆที่ที่เคลื่อนผ่าน

    “ยะ..อย่า อึก”

    อังกฤษเม้มปากกลั้นเสียงครางเอาไว้ มือทั้งสองข้างยกขึ้นปิดปากแน่น ทำให้อเมริกาละจากท้องเนียนขึ้นมามองใบหน้าหวาน ดวงตาสีเขียวคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใสชวนให้ร่างสูงเข้าไปจุมพิตแผ่วเบาที่ขมับ

    “กลั้นเสียงทำไมอังกฤษ”

    “จ..เจ้าบ้า นี่มันไม่ใช่บ้านฉันรึบ้านนายนะ” อังกฤษตวาดเบาๆ “ถ้าหากมีใครมาได้ยินเข้าจะทำยังไง พวกเยอรมันก็พักอยู่ห้องข้างๆด้วย”

    “ไม่เห็นเป็นไรเลย” อเมริกายิ้มกว้างอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่มีใครว่าฮีโร่หรอก”

    พูดจบก็ลงมือถอดกางเกงอังกฤษ ก่อนจะยกขาเรียวขึ้นมาเกาะเกี่ยวที่เอวหนาของตน  มือข้างหนึ่งเข้ายึดตรึงแขนอังกฤษไว้เหนือหัวหลังจากที่เห็นเจ้าตัวเอาไปปิดปาก ส่วนอีกข้างลูบไล้ต้นขาขาวปลุกเร้าร่างบาง ริมฝีปากร้อนจัดไล่ซุกไซ้ทั่วผิวกายนุ่มลื่นละเอียดชวนหลงใหลอีกครั้ง

    “อ..อา อ๊า อึก!” เสียงครางหวานหลุดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “อะ..อเมริกา”

    “เรียกชื่อฉันอังกฤษ ฉันอยากได้ยินเสียงเธอ” อเมริกาเลื่อนตัวไปกระซิบข้างหูร่างบาง ใบหน้าที่หวานแดงซ่านพยักหน้าเบาๆ

     “อ..อืม...อ๊ะ!

    อังกฤษกระตุกวูบเมื่อนิ้วเรียวสอดแทรกเข้าไปในช่องทางเบื้องล่าง อเมริกาขยับนิ้วเข้าออกช้าๆเพื่อให้คนตรงหน้าคุ้นชิน ก่อนจะค่อยๆเพิ่มเป็นสองนิ้ว...สามนิ้ว ปลายนิ้วที่แปะป่ายไปทั่วผนังอ่อนนุ่มสร้างความเสียวซ่านไปทั่วร่างอังกฤษ ยิ่งเมื่อร่างสูงเร่งเร้าจังหวะขึ้นยิ่งทำให้สะโพกมนยกสูงเหยียดเกร็ง

    “อา..อื้อ อเมริกา อ๊ะ...มากกว่านี้” ดวงตาสีเขียวปรือขึ้นมองร่างสูงอย่างเว้าวอน “ฉันต้องการนาย อเมริกา อ๊า!

      อเมริกาดึงนิ้วออกจากช่องทางคับแน่น ก่อนจะแทรกกายเข้าสู่ร่างบางระหงที่บิดเร้าสั่นสะท้านในอารมณ์ มือสองข้างที่ถูกปลดปล่อยผวาโอบกอดรอบคอคนอยู่บน ขาเรียวที่เกาะบนเอวร่างสูงสั่นระริกพร้อมกับเสียงครางหวานที่หลุดออกมาไม่ขาดสาย

    ร่างสูงขยับตัวเข้าออกช้าๆ ริมฝีปากพรมจูบทั่วใบหน้าอังกฤษ ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้น สองร่างที่กอดก่ายให้ความรักแก่กันและกันสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว เสียงหวานครางดังลั่นไปทั่วห้อง

    “อังกฤษ เรียกชื่อฉัน...” อเมริกากระซิบเสียงแหบพร่า “เรียกชื่อของฉันดังๆ”

    ยิ่งเธอส่งเสียงร้องดังมากเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก...  

    .

    . . .

    “อังกฤษที่ส่งเสียงดังแบบนั้น” อเมริกายิ้มร่า ดวงตาสีท้องฟ้าพราวระริก “ฉันยิ่งชอบเลยล่ะ!

     “หวาๆ พึ่งรู้นะครับเนี้ยว่าคุณอเมริกาเป็นสายM” ญี่ปุ่นจดข้อมูลยิกด้วยท่าทางตื่นเต้น ภายในหัวร่างเค้าโครงโดจินเรื่องใหม่คู่อเมริกาxอังกฤษอย่างเร่งด่วน

    คุณอเมริกาที่เป็นมาโซ ส่วนคุณอังกฤษเป็นสายเอส ถึงจะขัดกับโดจินเรื่องก่อนๆ แต่แนวนี้ก็ท่าทางขายได้!

    “ผมขอตัวกลับห้องพักก่อนนะครับ! จะไปร่างโดจิน หมายถึงจะไปร่างนโยบายใหม่ของประเทศน่ะครับ”

    “ญี่ปุ่นดูรีบเร่งจัง” อเมริกาพูดพลางมองหนุ่มชาวเอเชียที่รีบกลับห้องพัก นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมามองฝรั่งเศสที่ยืนยิ้มค้างอยู่ข้างๆ “เฮ้! ฝรั่งเศสๆ เธอเป็นอะไรน่ะ”

    ฝรั่งเศสสะดุ้งกับมือที่ตบลงบนไหล่ ก่อนจะพูดเสียงแห้ง “คุณพี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แต่คุณพี่ว่าคุณพี่ไปพักหน่อยดีกว่า”

    อเมริกามองหนุ่มปารีเชียงที่เดินพึมพำอะไรบางอย่างออกจากห้องโถงอย่างงงๆ ก่อนจะสลัดออกจากหัวเมื่อเห็นหนุ่มเมืองผู้ดีเดินตรงเข้ามาหา

    “โย่ว!อังกฤษ” อเมริกายิ้มกว้างอวดฟันขาว “เธอมาก็ดีแล้ว กลับห้องเรากันเถอะ ฉันมีอะไรให้เธอช่วยหน่อย”

    ดวงตาสีเขียวฉายแววงุนงง อยู่ๆอเมริกาที่มั่นใจตัวเองสุดขีดมีเรื่องมาขอให้เขาช่วย มันดู...ไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้

    แต่เดี๋ยวนะ...

    “นั่นมันห้องของฉันไม่ใช่ของเราซะหน่อย! นายกลับไปนอนห้องของนายได้แล้ว! เจ้าบ้า”

    “เอาน่าๆอังกฤษ ฉันไม่ถือที่เธอนอนกรนเสียงดังหรอก กลับห้องกันเถอะ” อเมริกาหัวเราะคิกคัก ก่อนจะจัดการอุ้มคนขี้โวยวายในท่าอุ้มเจ้าสาวแล้วพากลับห้อง ใบหน้าหวานแดงระเรื่อทันที ในหัวขาวโพลน ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ชินเวลาถูกอเมริกาอุ้มแบบนี้

    “ป..ปล่อยฉันลงนะ!

    “ฮ่าฮ่าฮ่า ช้าไปแล้วล่ะ!

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ภายในห้องพักรับรองของอังกฤษ บนเตียงกว้างสีขาวเจ้าของห้องนอนนิ่งอยู่บนเตียง ข้อมือขาวถูกเนคไทมัดรวบตรึงเข้ากับหัวเตียง บนใบหน้าหวานมีผ้าสีดำคาดตาอยู่

    “อ..อเมริกา” อังกฤษส่งเสียงร้องเรียกแผ่วเบา ผ้าที่ผูกแน่นทำให้เขาเห็นเพียงความมืดมิด อีกทั้งข้อมือที่ถูกพันธนาการยังทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ร่างบางขยับตัวเล็กน้อย รู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมา ความร้อนแรงสอดแทรกด้วยความปรารถนาอันเร้าร้อน ทำให้คนถูกจ้องมองราวกับเนื้อตัวเปลือยเปล่าทั้งๆที่สวมใส่เสื้อผ้าหนาชั้นดี

    “อเมริกา! นายเล่นบ้าอะไรของนายเนี้ย!” เสียงหวาดตวาดออกมาเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ น้ำหนักเตียงที่ยุบลงทำให้เขารู้ว่าอเมริกาคงจะขึ้นมาบนเตียงแล้ว ลมหายใจร้อนระอุเป่ารดลงใบหูของหนุ่มเมืองผู้ดีทำให้อังกฤษตัวสั่นเบาๆ ประสาทการมองเห็นที่ถูกปิดทำให้เขารู้สึกว่าประสาทสัมผัสด้านอื่นๆดูตอบสนองและตื่นตัวไวขึ้น

    “เอาน่า อังกฤษ” อเมริกากระซิบเสียงแหบพร่า พลางขบเม้มเบาๆที่ใบหูแดงเรื่ออย่างหยอกล้อ “ค่ำคืนนี้จะเป็นค่ำคืนที่เธอลืมไม่ลงเลยเชียวล่ะ”

    อเมริกายิ้ม ก่อนจะค่อยๆไล่ชิมร่างบางของอังกฤษที่ตกอยู่ในสถานะเป็นรอง ร่างกายที่สั่นระริกอย่างเขินอายทุกๆครั้งที่ปลายลิ้นลากผ่านเนื้อเนียนละเอียดยิ่งทำให้ปลุกอารมณ์เขาให้ร้อนแรงขึ้น จากนั้นไม่นานเสียงครางหวานแผ่วเบาก็หลุดออกมาจากปากอังกฤษ ก่อนที่จะทวีความดังขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งก้องไปทั่วทั้งห้อง

    ...สงสัยเขาจะเป็นสายM เหมือนที่ญี่ปุ่นบอกจริงๆนั่นล่ะ

    อเมริกายิ้มกว้างก่อนจะแทรกกายเข้าหาร่างที่สั่นเทาเป็นลูกนกแรกเกิดของอังกฤษ

     

     

     

     

     

    อ่านจบแล้วตกลงว่าอเมริกาอยู่สายไหนกันนะขอรับ? 555+

    คู่นี้ก็เป็นอีกคู่ที่ชอบในเรื่องเฮตาเลีย อันที่จริงในเรื่องนี้มีหลายคู่เลยล่ะ!

    จากนี้ก็จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น! หวังว่าการแต่งฟิคของข้าพเจ้าคงไม่ห่วยจนเกินไป แฮะๆ

    ยังไงก็ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะขอรับ ^ ^

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×