คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [II]-Roommate -
-Roommate II-
ใจของผม มันกำลังต่อสู้ และดิ้นรน
หนังสือที่อ่านๆไปนี่เข้าหัวบ้างมั้ยถามจริง นอนกลิ้งอยู่บนเตียงมาตั้งแต่เย็นจนฟ้ามืดล่ะ เอาเข้าจริงก็กางหนังสือทำเป็นอ่านไปงั้น สมองนี่มันเอาแต่คิดถึงคำพูดของใครบางคนที่ตอบกลับมา ก็เล่นปากเปาะไปถามอะไรอีกฝ่ายออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ นี่นึกแล้วก็อยากจะตีปากให้แตกเสียจริง
“เฮ้อ.................” ขอถอนหายใจทิ้งยาวๆ อยากรู้หรอว่าหลังจากที่ผมถามแบบนั้นออกไป แล้วรูมเมทจะตอบกลับมาอย่างไง
“ถ้าเกิดนายชอบฉันขึ้นมา....นายคงไม่ทำอะไรกับตัวฉันใช่มั้ย?” ผม
“ยองแจวางใจได้เลยนะ” เขา
แบบนั้นแหละ ตอบกลับมาสั้นๆง่ายๆ พร้อมรอยยิ้ม แล้วก็เดินถือหนังสือของผมออกจากห้องไปเลย แล้วดูสภาพผมหลังจากที่ได้รับคำตอบดิ นี่จะให้วางใจอะไรหรอ? มึนงง สับสน แต่ก็คงพอๆกับคำถามของผมที่ถามเขาออกไปนั่นแหละ เจ้าตัวยังยิ้มให้ก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว ปากนี่ก็ไวจัง ชอบพูดไปก่อนที่จะคิด เอาล่ะๆเลิกคิดถึงเรื่องนั้น อ่านหนังสือแบบจริงจังดีกว่า จะได้นอนไม่ดึก....ส่วนหมอนั่นน่ะ ยังไม่กลับห้องมาหรอกนะ ใครเค้าจะสน
ผมนอนอ่านหนังสือแบบจริงจังอีกสักพัก ก็ลุกไปอาบน้ำ และเตรียมตัวเข้านอน ช่วงนี้เป็นปลายฤดูร้อน แต่อากาศมันยังคงร้อนอยู่นั่นแหละ บางวันอากาศครึมๆเหมือนฝนจะตก แต่พอตกลงมา อากาศหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นอบอ้าวเสียอย่างนั้น ช่วงนี้ผมเลยไม่ค่อยได้ออกไปเล่นกีฬาสุดโปรดอย่างฟุตบอลเลย เลยได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่ในหอพักนี่แหละ นี่ผมก็นอนอ่านหนังสือจนหนาวเลย แอร์ห้องใหม่นี่เย็นดีนะ แทบไม่อยากจะอาบน้ำ....ล้อเล่นน่ะ ผมไปอาบน้ำก่อน
และทันทีที่ผมแต่งตัวออกมาจากห้องน้ำ รูมเมทสุดลึกลับของผมก็นั่งอยู่ที่เตียงของเจ้าตัวแล้ว ผมเหลือบมองเขาแว่บเดียว ย้ำว่าแว่บเดียวจริงๆ ก่อนที่ผมจะก้มหน้าและเดินมึนๆ ไปมาอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้าของผม บอกตรงๆ ผมไม่อยากจะมองหน้าหมอนี่เท่าไหร่ ให้ตายเถอะ นี่ผมเป็นอะไรว่ะเนี่ย ตอบ!!!
“นี่ยองแจ....”
ยอมรับเลยว่าสะดุ้ง T^T
“ขอโทษด้วยนะ มันอาจจะกะทันหันไปหน่อย คือฉันจะขอยืมห้องตอนนี้ได้มั้ย?”
“ยืมห้อง?” ผมหันตัวกลับมาเพื่อสนทนากับเขา ความจริงหัวสมองของผมกำลังคิดตามประโยคคำพูดของอีกฝ่ายมากกว่า และเมื่อคิดไปมาเพียงเสี้ยววินาที ผมก็เริ่มเข้าใจในความหมายของคำว่า ยืมห้อง ของเขา เขากำลังจะทำมัน งานของเขานั่นน่ะ
“อืม...ได้สิ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผมบอกเขาขณะที่เร่งรีบเดินไปยังประตูห้อง ยงกุกเองก็เดินตามผมมาด้วย
“ขอโทษด้วยนะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยบอกกับผม สีหน้าของเขาเป็นอย่างไร ผมไม่เห็นหรอก เพราะผมไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาในตอนนี้
“ช่างเถอะ...3 ชั่วโมงใช่มั้ย? แล้วฉันจะกลับมาหลังจาก 3 ชั่วโมงแล้ว” เมื่อเขาไม่ตอบอะไรกลับมาอีก ผมก็รีบเดินออกมาห้อง ที่มียงกุกยืนจับบานประตูส่งผมอยู่ ผมพอจะจำในสิ่งที่เขาบอกได้นะ เขาบอกว่าขอเวลาทำงานแค่ 3 ชั่วโมง
ผมมองตรงไปยังเบื้องหน้าก็สบสายตาเข้าใครคนหนึ่งเข้าพอดี และผมก็จำเขาคนนั้นได้ในทันทีที่เห็นหน้า ใครคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาผม แต่ไม่ใช่เพื่อสนทนากับผมหรอกนะ เขาก็แค่เดินผ่านผมไป และไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมมองตามร่างของใครคนนั้น ผมหันกลับไปมอง และมันก็เป็นอย่างที่ผมคาดคิด ใครคนนั้นกำลังอยู่ในอ้อมกอดของรูมเมทของผม
ผมมองเขาทั้งคู่ที่กำลังยืนกอดกันอยู่ที่หน้าประตูห้องที่เปิดออกกว้าง ยงกุกเองก็มองตรงมายังผม สายตาของเราทั้งคู่สบกัน ผมเห็นว่าเขากำลังยิ้ม....ยิ้มให้กับผม ผมพยายามหลบสายตาของเขา และรีบหันกายกลับมา เร่งรีบฝีเท้าให้ก้าวเดินออกไปจากจุดๆนี้ซะ
นั่นเป็นสิ่งย้ำเตือน ว่าเขาได้ทำมันจริงๆ บังยงกุกขายร่างกายของตัวเอง
ผมทิ้งตัวลงนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟาในห้องโถงของหอพัก มันเงียบมาก ที่นี่ไม่มีใครเลยนอกจากผม แน่ล่ะ นักเรียนทุกคนก็ต้องอยู่ในห้องตัวเองกันหมดแล้ว อีก 1 ชั่วโมงก็จะถึงกำหนดห้ามออกจากหอแล้ว ตอนนี้ทุกคนคงกำลังพักผ่อน ยกเว้นผมนี่แหละ ไม่รู้ทำไมผมถึงหยุดคิดเรื่องของยงกุกไม่ได้เลย....ตอนนี้น่ะพวกเขากำลังทำมันนะ....ที่ห้องของผม
“หนูแจมาอยู่นี่เอง!!!.....แสดงว่าหมอนั่นงานเข้าสินะ”
ผมสะดุ้งสุดตัว เมื่ออยู่ๆเสียงของอดีตรูมเมทได้ดังขึ้นอยู่ข้างหลัง เท่านั้นไม่พอ มือของเจ้านั่นยังยื่นมาหยิกแก้มของผมจนแทบติดมืออีกฝ่ายไปด้วย....มันเจ็บนะจองแดฮยอน!!!
“ฉันเจ็บนะแดฮยอน!!!” ผมแว๊ดเสียงใส่เพื่อนสนิทเบาๆ ไม่กล้าเสียงดังเดี๋ยวจะโดนผู้คุมกฎหอทำโทษเอาได้ T^T
“หึหึ....นั่งเหม่อแบบนี้ หนูแจของแดฮยอนกำลังจิ้นอะไรอยู่อ่ะเปล่าเนี่ย...หืม?” ยังอีก ยังไม่หยุด นอกจากประโยคคำพูดแสนยียวน ใบหน้าของไอ้หมอนี่ก็น่าเอาฝ่าเท้ายันให้หน้าหงายเป็นที่สุด!
“เงียบไปเลยนะแดฮยอน....ใครมันจะไปคิดอะไรทุเรศๆแบบแก” อันที่จริงผมยอมรับก็ได้ว่าแอบคิดนิดนึง นิดเดียวจริงๆนะ....เชื่อยูยองแจสิ
“ไหนหนูแจบอกจองแดฮยอนคนนี้มาสิ ว่าหมอนั่นน่ะรุกหรือรับ” หลังจากเจ้าตัวทรุดกายลงนั่งข้างๆผม ก็เนียนโอบไหล่ผม แล้วนี่ยังมาป้องปากกระซิบอยู่ใกล้ๆหูผมอีก
แต่คำพูดของแดฮยอน ก็ทำให้ผมคิดตามไปอีกจนได้ ภาพใบหน้าของใครคนนั้นปรากฏออกมาอยู่ในห้วงความคิดของผมทันที ภาพที่เขาทั้งคู่ยืนโอบกอดกัน ผมยอมรับว่าเขาทั้งคู่นั้นสมบูรณ์แบบ ทั้งหน้าตา และรูปร่าง โดยเฉพาะกับใครคนนั้นที่เดินผ่านผมไป นั่นมันมากกว่าความสมบูรณ์แบบแล้วนะ ผมเองก็อดคิดไม่ได้ ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงเลือกที่จะซื้อความสัมพันธ์แบบนี้กับรูมเมทของผม....ยามที่เข้าทั้งคู่สานสัมพันธ์ ใครคือผู้โอบกอด และใครเป็นผู้ถูกโอบกอดกันนะ.....
ผมหันไปมองแดฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน แดฮยอนมองผมอยู่ก่อนแล้ว เขาไม่พูดอะไร แต่กลับยกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น เหมือนต้องการคำตอบจากผม ผมไม่ได้ตอบแดฮยอนออกไปเป็นคำพูด ผมแค่ส่ายศีรษะไปมา ใช่แล้วล่ะ...ก็ผมไม่รู้จริงๆนา....ว่ารูมเมทของผมเขาเป็นแบบไหน
“แล้วจะรออีกนานมั้ยว่ากลับห้องได้”
“อีก 2 ชั่วโมง....ถามทำไม จะอยู่เป็นเพื่อนฉันหรอ?”
แดฮยอนไม่ตอบคำถามผม แต่เขากลับหยิบ PSP ยื่นให้ผมแทนคำตอบ ผมหลุดยิ้ม พร้อมรับเครื่อง PSP มาจากเขา แดฮยอนยิ้มขำ ไม่วายต้องเอามือของเขายี่ผมของผมจนมันยุ่งเหยิงไปหมด ผมมองค้อนเพื่อนรักอย่างนึกหงุดหงิดที่บังอาจมาทำผมของผมเสียงทรง พอจะเบ้ปากใส่ ไอ้เพื่อนบ้าก็เอานิ้วเค็มๆมาป้ายปากอีก......
มีมีดมั้ย? ของแทงมันให้ตายซะตรงนี้แหละ รำไปอี้กกกกกกกกกกกกกกก
ง่วงมากๆเลยนะ ที่จะต้องมานั่งรออะไรแบบนี้ แม้เกมส์ในมือจะสนุก และจองแดฮยอนจะแหย่ผมตลอด 2 ชั่วโมงกว่า ที่ผ่านมา แต่ผมก็ง่วงอยู่ดี ผมเคยบอกไหมว่าผมเป็นคนไม่นอนดึก แล้วจะให้มานั่งอดหลับอดนอนแบบนี้.....ยูยองแจจะไม่ทน แต่ก็ต้องทน ผมเหลือบนาฬิกาที่ผนังห้องโถง มันเลยมาหลายนาทีแล้ว หากนับจากที่ผมออกมานั่งรออยู่ที่นี่ 3 ชั่วโมงกว่าแล้ว มันถึงเวลาอันสมควรที่ผมจะกลับเข้าห้อง และล้มตัวลงนอน
ผมกับแดฮยอนแยกย้ายกันกลับห้องของตัวเองหลังจากนั้น ทางเดินจากที่ไฟเคยสว่าง ตอนนี้เป็นเพียงแสงไฟสลัวๆเท่านั้น ผมหยุดยืนอยู่หน้าห้องของตัวเอง ยื่นมือไปหมุนลูกบิดให้เปิดออก มันไม่ได้ล็อคอย่างที่ผมคาดไว้
“ฉันกลับมาแล้ว” ผมพูดเสียงไม่ดังนัก พลางมองไปรอบๆห้อง ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไป ผมเห็นยงกุกนอนพิงหัวเตียงอยู่ เขาผุดลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเดินเข้ามา
“ขอโทษด้วยนะยองแจ...” เขาเอ่ยขอโทษผมด้วยรอยยิ้มของเขา
“มันก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่” ผมตอบเขากลับไป พลางเสมองไปทางหน้าต่างห้องที่เปิดอยู่ และเหมือนเขาจะรู้ว่าผมกำลังสิ่งนั้นอยู่เหมือนกัน เขาลุกจากเตียงและเดินไปยังหน้าต่าง
“ดูเหมือนว่ากลิ่นจะไม่มีแล้ว ฉันจะปิดมันล่ะนะ” เขาพูดโดยไม่รั้งรอคำตอบจากผม ฝ่ามือของเขาก็เอื้อมไปปิดหน้าต่างลงเสียแล้ว....แต่ก็ถูกของเขา ในห้องไม่ได้มีกลิ่นแปลกปลอมอะไรเลย....เขาทำตามที่เขาสัญญากับผมทุกอย่าง.....ยงกุกเดินกลับมาที่โต๊ะเครื่องเขียนของเขา ก่อนจะหยิบเงินออกมาจากลิ้นชัก และเดินมายื่นเงินจำนวนหนึ่งให้กับผม
“นี่เงินส่วนของนาย” ยงกุกยื่นเงินจำนวนนั้นให้ผม แต่สาตาของผมกลับไม่ได้มองเงินจำนวนนั้นในฝ่ามือของเขาเลย.....ผมเห็นแต่รอยจูบที่โผล่พ้นคอเสื้อยืดสีดำของเขา
“ฉันไม่เอาหรอก...นั่นมันเงินของนาย” ผมหลุบสายตาลงต่ำ ขณะบอกปฏิเสธเงินของเขา ผมเดินเลี่ยงเขาออกมา และนั่งลงบนเตียงของผมแทน
“นี่มันคือค่าเช่าห้องนะ ที่ฉันเคยสัญญาไว้...และนี่เป็นส่วนแบ่งของนาย” ยงกุกหัวเราะ พร้อมกับเอ่ยประโยคทั้งหมดออกมา เขาเดินมายืนอยู่เบื้องหน้าผมแล้ว...ทำให้ผมต้องเงยหน้าเพื่อมองใบหน้าของเขา....ไม่ใช่เงินที่เขากำลังยื่นให้
“ถ้างั้น.....ฉันรับมันไว้ก็ได้” ผมบอกกับเขาพร้อมมองใบหน้าของเขา สบตากับเขา มือของผมยื่นออกไปเพื่อรับเงินจำนวนนั้นเอาไว้.....บังยงกุกยิ้ม....และเราต่างก็แยกย้ายอยู่ในมุมของตัวเอง
คงมีคนชอบนายมากมาย.....เพียงแค่ซื้อความรักจากนายด้วยเงิน.....มันช่างน่าเศร้ายิ่งนัก
TBC…
Masoo Talk: คิดไว้ว่าจะไม่อัพต่อแล้วค่ะ คิดว่าจะเลิกแต่งเลยด้วย คิดว่าจะปล่อยมันทิ้งไว้อย่างนี้ แต่สุดท้ายก็กลับมาแต่งต่อจนได้ คือคิดอะไรไว้หลายๆอย่างเกี่ยวกับฟิคเรื่องนี้ และรู้สึกผิดที่อาจจะดองมันไว้อยู่อย่างนี้ แล้วยังจะรอไหมคะ? ถ้าไม่มาอัพบ่อย ยังจะอยากอ่านกันอยู่ไหม? ช่วงนี้อะไรก็แย่ไปหมดเลย อยากแต่งต่อให้จบมากๆ แต่ยังอีกยาวไกลมากเช่นกันค่ะ ก็จะไม่อัพบ่อย อัพถี่นะคะ มีนิสัยอัพฟิคไม่เหมือนคนอื่น ขึ้นอยู่กับความติสส่วนตัว
ต้องขอบคุณทุกคนมากๆที่ให้ความสนใจในตัวรูมเมทค่ะ เพราะถือเป็นการท้าทายมาซูในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเคยคิดว่าจะไม่มีทางแต่งฟิคยาวอีกเด็ดขาด เพราะรู้ตัวดีว่าไม่สามารถอัพบ่อยได้เท่าที่คนอ่านต้องการ แต่สุดท้ายก็ทำลายกฎของตัวเองจนได้ รูมเมทอาจยาวนานไปจนสองปีเลยกว่าจะจบนะ ทนกันได้มั้ยคะ? 55555555555555555555 นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ เพราะเคยสร้างปรากฏการณ์ยาวนานสามปีกว่ามาแล้วในฟิคเรื่องที่ผ่านมา
แต่มันจะเป็นการรอคอยที่เห็นผลนะคะ เพราะทุกตอนล้วนมาจากจิตวิญญาณของมาซูเลยค่ะ เพราะจะพิมพ์ก็ต่อเมื่อฟิลมันใช่ มันมา เคยฝืนมาแล้วค่ะ สุดท้ายก็ล่มไม่เป็นท่า เพราะฉะนั้นเลยต้องบอกก่อนว่ารอเท่านั้นค่ะ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังนะคะ เรื่องคู่ชิปเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆด้วยค่ะ แต่งบังแจเพราะรักมากค่ะ ใครไม่ชิปมาซูชิปนะ 555555
ท็อคยาวมาก แต่อยากให้อ่านค่ะ แล้วพบกันตอนสามนะคะ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นค่ะ เพราะช่วงปลายปีจะยุ่งกับงานมากๆ ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ รับรู้หมดค่ะ รัก....
มาทายกันว่าลูกค้าของกุกคือใคร ติดแท็กกันนะ #รูมเมทบังแจ
Follow me >>> @MASOOBAPFiction
ความคิดเห็น